ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๒ จุดเริ่มต้นของการพบเจอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
”คุณหนูตื่นนอนได้แล้วนะคะ วันนี้ไปมหาวิทยาลัยวันแรก เดี่ยวไปสายนะคะ” เป็นเสียงของพี่ส้มแม่บ้านเข้ามาปลุกฉันที่ยังนอนอยู่ แต่เดี่ยวนะ ไปมหาวิทยาลัยวันแรกเหรอ
”พี่ส้มว่าอะไรนะคะ อิงต้องไปมหาวิทยาลัยวันแรกเหรอคะ” นั้นทำให้ฉันตกใจจนรีบลุกขึ้นมานั่งงัวเงียพร้อมถามพี่ส้มเพื่อความแน่ใจ
”ใช่นะสิคะคุณหนูอิงของพี่ส้ม วันนี้คุณหนูเปิดเทอมวันแรกนะคะ ตอนนี้คุณคินรอคุณหนูที่โต๊ะอาหารแล้วนะคะ” พี่คินก็คือพี่ชายที่แสนดีของฉันเองแหละ พี่คิน หรือ นคินทร์ อนันต์กุล
“อิงขออาบน้ำแต่งตัวสักครู่นะคะ พี่ส้มบอกพี่คินรออิงแป๊บหนึ่งนะคะ” ฉันเอ่ยบอกพี่ส้มให้ลงไปบอกพี่คิน จากนั้นพี่ส้มก็เดินออกจากห้องไป
ฉันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียงมาดูวันเดือนปีทันที นี้ฉันได้โอกาสย้อนเวลากลับมาอีกครั้งหนึ่งเหรอ ได้ย้อนกลับมาในวันแรกของการเปิดเรียนมหาวิทยาลัยของฉัน คำอธิษฐานของฉันเป็นจริง ฉันได้โอกาสย้อนคืนรักกลับมาอีกครั้ง ฉันจะต้องไม่ตายเพราะความรัก ถึงแม้ว่าฉันอาจจะต้องลงเอยกับผู้ชายคนเดิม แต่ฉันจะไม่ยอมตกอยู่ในสถานการณ์เดิมอีกแน่นอน ครั้งนี้ฉันจะใช้โอากสนี้ย้อนคืนรักให้ตัวเองอย่างดีที่สุด
”สวัสดีตอนเช้าคะคุณพ่อ คุณแม่ พี่คิน อิงตื่นสายขอโทษนะคะ” ฉันเอ่ยทักทายยามเช้ากับคนในครอบครัว ฉันดีใจที่ฉันได้โอกาสชีวิตกลับมาอีกครั้งถ้าฉันไม่มีโอกาสย้อนกลับมา ฉันก็คงไม่ได้เจอหน้าพวกเขาอีก
“ไม่เป็นไรคะนางฟ้าน้อยของพี่ ยังมีเวลาอีกเยอะทานอาหารเช้าก่อนนะ” พี่คินหันมายิ้มให้ฉันพร้อมทั้งเอ่ยบอกให้ฉันทานอาหารเช้าก่อน
”แล้ววันนี้คินรอรับน้องกลับบ้านพร้อมกัน หรือจะให้คนขับรถไปรับน้องหล่ะลูก” เป็นเสียงคุณแม่ที่เอ่ยถามพี่คิน จริงๆที่ผ่านมา ก่อนย้อนอดีตกลับมา ช่วงปีหนึ่งพี่คินจะค่อยรับส่งฉันตลอดเลย เพราะพี่คินเรียนอยู่ปีสี่ พอพี่คินเรียนจบไปแล้วบางครั้งก็พี่คินไปรับไปส่ง บางครั้งก็คุณพ่อคุณแม่ บางครั้งก็คนขับรถที่บ้าน และในบางครั้งก็เป็นพี่วินบ้างพี่คีย์บ้าง แทบจะไม่มีใครปล่อยให้ฉันขับรถไปเรียนเองเลย แต่ย้อนกลับมารอบนี้ฉันตั้งใจไว้ว่าจะขับรถไปเรียนเอง แต่คงรอให้อะไรๆเข้าที่เข้าทางก่อนนะ ช่วงนี้ก็ไปกับพี่ชายที่แสนดีก่อนหล่ะกัน
”ผมรอรับน้องกลับมาเองครับคุณแม่” พี่คินเอ่ยตอบคุณแม่ ไม่นานเราก็ทานอาหารเช้ากันเสร็จ คุณพ่อก็ออกเดินทางไปบริษัท ส่วนฉันกับพี่คินก็ออกเดินทางไปมหาวิทยาลัยกัน
มหาวิทยาลัย BIU
“ถึงหน้าคณะแล้วคะ พี่ไม่รู้ว่าคณะของหนูอิงจะมีกิจกรรมรับน้องเลยหรือเปล่า ถ้ายังไงเลิกเรียนแล้วทักหาพี่นะคะ” พี่คินเอ่ยขึ้นหลังจากขับรถมาจอดที่หน้าตึกคณะของฉัน
“คะพี่คิน เดี่ยวหนูอิงทักหาหลังเลิกเรียนนะคะ หนูอิงไปเรียนแล้วนะคะ” ฉันเอ่ยตอบพี่คินก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ เพื่อเดินเข้าตึกคณะเพื่อขึ้นเรียน
”ยัยคุณหนูอิงฟ้าทางนี้จ้า” ระหว่างเดินเข้าตึกคณะ ก็มีเสียงเรียกฉันที่โต๊ะใต้ตึก เป็นเสียงของเดซี่เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมตอนต้นของฉัน เมื่อก่อนก็ชื่อเดย์ แต่พอเริ่มเปิดตัวตนของตัวเองก็เปลี่ยนเป็นเดซี่ทันที
”พี่คินสุดหล่อของฉันมาส่งใช่ไหมเนี่ย” เป็นเสียงของหลินเพื่อนสนิทอีกคนตั้งแต่มัธยมต้นเช่นเดียวกัน เราสามคนสนิทกันมานานแล้วหล่ะ
“พี่คินพี่ชายสุดหล่อคนเดิมจ้า ขึ้นเรียนกันเลยไหม” ฉันเอ่ยตอบเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะชวนกันขึ้นเรียน
15.00น.
“เลิกเรียนแล้ว เรารีบไปร่วมตัวที่ลานกิจกรรมของคณะเถอะ” เดซี่เอ่ยขึ้นหลังจากเลิกเรียนในช่วงบ่าย วันนี้ไลน์คณะแจ้งนัดพบนักศึกษาปีหนึ่งหลังเลิกเรียนในช่วงบ่ายสาม
“อืมงั้นเรารีบไปกันเถอะ” ฉันเอ่ยตอบรับเดซี่ก่อนจะเก็บของใส่กระเป๋า
”พวกเธอสามคน เรายังไม่มีกลุ่มงานที่อาจารย์สั่งเลยขอเราอยู่กลุ่มพวกเธอด้วยได้ไหม” ในขณะที่พวกเรากำลังเก็บของก็มีเสียงหนึ่งเรียกพวกเราทั้งสามคน และเอ่ยขอเข้ากลุ่มงานที่อาจารย์เพิ่งสั่งงานกลุ่มสี่คนไว้ ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นว่าเป็นคนที่ทำให้ฉันต้องตายในชีวิตก่อน แน่นอนฉันอยากจะเลือกที่จะห่างเธอคนนี้ไว้ แต่ฉันคิดว่าต่อให้ห่างไว้ ถ้าเรื่องมันต้องทำให้เราเกี่ยวพันกันยังไงก็ต้องเกี่ยวพันกันอยู่ดี ยิ่งถ้าฉันทำเหมือนไม่ชอบเธออะไรอาจจะแย่เร็วขึ้นก็ได้ฉันเลยคิดว่าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน เพื่อนอีกสองคนหันมองหน้าฉันเหมือนถามความคิดเห็นฉัน ฉันจึงพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสองคน
”ได้สิ แค่ทำงานกลุ่มเอง อยู่ด้วยกันได้อยู่แล้ว เราชื่ออิงนะ ส่วนนี้เดซี่แล้วก็หลิน” ฉันเอ่ยตอบรับเธอให้ร่วมกลุ่มกับพวกฉันได้ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวเหมือนฉันไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน
”เราพัดนะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลย เรายังไม่มีเพื่อนขอเดินลงไปด้วยนะ” พัดชาเอ่ยแนะนำตัวเองกับพวกฉันก่อนจะขอเดินร่วมกลุ่มกับพวกฉันไปด้วย
”อืมได้สิ งั้นไปกันเถอะ” ฉันบอกเธออีกครั้ง และเอ่ยชวนทุกคนเดินลงไปใต้ตึกตามนัดพบของรุ่นพี่
“เอาหล่ะครับวันนี้พี่ๆก็แค่อยากให้พวกเราแนะนำตัวกัน เพื่อให้ทำความรู้จักกันก่อน ยังไม่มีกิจกรรมรับน้องในวันนี้นะครับ พรุ่งนี้พวกพี่ๆจึงจะเริ่มกิจกรรมนะครับ ยังไงวันนี้ให้น้องๆกลับบ้านได้ แล้วเจอกันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนนะครับ” รุ่นพี่ประธานปีสองเอ่ยขึ้นหลังให้พวกเราแนะนำตัว และทำความรู้จักกันแล้ว
”ยัยคุณหนูอิงวันนี้กลับยังไงหล่ะ พี่คินมารับหรือคนขับรถที่บ้าน” เดซี่หันมาถามฉันในขณะที่เรากำลังหยิบกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวแยกย้ายกลับบ้าน
”อิงกลับกับพี่คินนะ แต่พี่คินยังทำธุระอยู่ที่คณะ เลยให้อิงไปรอที่คณะพี่คินอ่ะ” ฉันเอ่ยตอบเดซี่พร้อมกับพิมพ์ข้อความบอกพี่คินว่ากำลังจะเดินไปที่ตึกคณะบริหาร
“พวกฉันเดินไปรอเป็นเพื่อนไหม” หลินเอ่ยขึ้นพร้อมหน้าตาที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
”รอยยิ้มแกไม่ได้บอกว่าไปรอเป็นเพื่อนอิงเลยจ้า เหมือนอยากไปรอเป็นพี่สะใภ้มากกว่านะ” เดซี่แกล้งเย้ายัยหลิน ฉันกับเดซี่รู้ดีว่ายัยหลินนะ ปลื้มพี่คินมานานแค่ไหนแล้ว
”ไม่เป็นไรหรอก คณะของพี่คินอยู่ไม่ไกลจากคณะเราเท่าไร แค่ตรงนี้เอง เดี่ยวอิงเดินไปรอคนเดียวได้ กลับบ้านกันเถอะไม่ต้องห่วงนะ” ฉันเอ่ยตอบเพื่อนทั้งสองพร้อมทั้งยิ้มยืนยันว่าฉันไปเองคนเดียวได้
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนๆ ฉันก็เดินมาหาพี่คินที่คณะบริหารธุรกิจ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดทักหาพี่คินเพื่อจะบอกว่าฉันอยู่ที่ตึกคณะของพี่คินแล้ว
พลั่ก!
”อุ๊ย! โอ๊ย!” เพราะมัวแต่ก้มอ่านข้อความในโทรศัพท์ จึงทำให้ฉันไม่ได้ดูทาง จึงเผลอเดินชนใครเข้า แต่ความรู้สึกเหมือนฉันเดินชนไม่ใช่คนเดียวเลย เหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นเมื่อชีวิตก่อนเป็นเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการพบเจอ หรือเหตุการณ์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง เหมือนเหตุการณ์ของพัดชาที่เริ่มเข้ามาในกลุ่มฉันด้วยงานกลุ่ม ใช่ทุกเหตุการณ์เหมือนชีวิตก่อนเลย
”เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
”เจ็บหรือเปล่าครับ”
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากชนพวกเขา ฉันเดินชนระหว่างกลางของพวกเขาทั้งคู่ และเป็นพี่วินที่เอ่ยถามคำถามแรก ต่อด้วยพี่คีย์ที่เอ่ยถามในคำถามที่สอง ฉันเดินชนพวกเขาทั้งคู่ทำให้ตอนนี้เหมือนฉันอยู่ในอ้อมกอดของพวกเขาทั้งคู่ เพราะพวกเขาเอื้อมมือมาคว้าเอวฉันไว้คนละข้าง ทุกอย่างเหมือนเดิมจริงๆ
”อ่ะ...เอ่อ ขอโทษคะ อิงเดินไม่ทันระวังไม่ได้มองทาง ขอโทษอีกครั้งนะคะ” ฉันรีบดันตัวออกจากอ้อมกอดของพวกเขา ก่อนจะเอ่ยขอโทษพวกเขาทั้งคู่พร้อมกัน
”ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่น้องคนสวยเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เป็นพี่วินที่เอ่ยถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มและแววตาเจ้าเล่ห์ ทำไมชีวิตก่อนฉันไม่ทันสังเกตนะว่ารอยยิ้มและแววตาพี่วินมันเจ้าเล่ห์ แพรวพราวขนาดนี้
”อิงไม่เป็นอะไรคะ ยังไงก็ขอโทษอีกครั้งนะคะ” ฉันตอบพี่วินพร้อมทั้งก้มศีรษะกล่าวขอโทษพวกเขาอีกครั้ง
”ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่ไหมครับ” และก็เป็นเสียงของพี่คีย์ที่เอ่ยถามฉัน พร้อมแววตาที่ดูกังวลและพยายามสังเกตว่าฉันไม่ได้เจ็บตรงไหนจริงๆ นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันได้รู้ว่าฉันพลาดที่จะสังเกตแววตาของพวกเขาในชีวิตก่อน
“ไม่คะ อิงไม่ได้เจ็บตรงไหนคะ” ฉันเอ่ยตอบพี่คีย์ด้วยรอยยิ้มที่ยืนยันว่าฉันไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนจริงๆ
”ชื่อน้องอิงเหรอครับ เรียนคณะนี้เหรอครับ” พี่วินเอ่ยถามฉันอีกครั้ง
”คะ แต่อิงไม่ได้เรียนคณะนี้หรอกคะ อิงเรียนคณะนิเทศศาสตร์คะ” ฉันพยักหน้าตอบในคำถามแรก ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามต่อไปของพี่วิน
”แล้วน้องอิงมาทำอะไรที่คณะบริหารเหรอครับ” พี่วินยังคงเอ่ยถามคำถามฉัน ในขณะที่ฉันกำลังจะตอบคำถามของพี่วินก็มีเสียงเรียกชื่อฉันขึ้นมาเสียก่อน
”หนูอิง มารอพี่นานหรือยังคะ” ในขณะที่ผมกำลังรอคำตอบของน้องอิง ก็มีเสียงของพี่คินเรียกน้องอิง พร้อมทั้งเดินมาลูบผมน้องอิง อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนพี่คิน ผมยอมรับเลยว่าตอนที่เธอเดินมาชน ทีแรกก็โมโหนะที่ใครไม่รู้เดินมาชน แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ ความโมโหในตอนแรกก็หายไปทันที เธอน่ารักมาก ยิ้มของเธอทำผมละลายไปเลย แต่นี่ผมจะอกหักตั้งแต่ยังไม่จีบเหรอเนี่ย
”หนูอิงเพิ่งมาถึงคะพี่คิน” เธอหันไปยิ้มตอบพี่คิน พร้อมทั้งควงแขนพี่คิน ผมอกหักแล้วหล่ะสนิทกับพี่คินขนาดนี้
“นางฟ้าน้อยของพี่คินเหนื่อยไหมคะเรียนวันแรก” พี่คินผู้ไม่อ่อนโยนกับใคร เรียกน้องอิงแบบนี้คงเป็นแฟนพี่คินแล้วหล่ะ
”ไม่คะ วันนี้อาจารย์ไม่ได้สอนอะไรมากคะ” น้องอิงเอ่ยตอบพี่คินพร้อมรอยยิ้มสดใสที่ยิ้มที่ละลายใจ
“เอ่อ น้องอิงเป็นแฟนพี่คินเหรอครับ” เพื่อความชัวร์ผมต้องถามออกไป
“ยิ่งกว่าแฟนอีกโว๊ย” พี่คินตอบผม มากกว่าแฟน อย่าบอกนะว่าเมีย
”เมียเหรอพี่คิน” อีกครั้งที่ผมถามออกไป ผมไม่อยากค้างคา ผมต้องถาม
”น้องสาวกูโว๊ย ไอบ้านี่” พี่คินหันมาตอบผมด้วยเสียงขุ่น อะไรนะมะกี้ผมได้ยินว่าน้องสาวเหรอ ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่เมีย
”น้องสาวพี่คินเหรอ แบบพี่น้องแท้ๆไรงี้เหรอ” เพื่อความชัวร์ครับว่าพี่น้องจริงๆ ไม่ใช่พี่น้องท้องชนกัน ผมต้องถามอีกครั้ง
”เอ่อ หนูอิงน้องสาวแท้ๆ พ่อแม่เดียวกันกับกูนี่แหละ” พี่คินตอบผมด้วยการย้ำเน้นสถานะน้องอิงอีกครั้ง
”อ่อครับ” ผมยิ้มรับทันทีที่มั่นใจว่าเธอไม่ใช่แฟน ไม่ใช่เมียพี่คิน
”เดี่ยว! มึงถามเน้นย้ำกูขนาดนี้ อย่าคิดมาจีบน้องกูนะโว้ย ไอ้วินมึงเพลย์บอยตัวพ่อขนาดนี้ห้ามเลย ถ้าไอ้คีย์ก็ว่าไปอย่าง” พี่คินหันมาชี้หน้าผม พร้อมสั่งห้ามผมจีบน้องอิง หึ! ผมไม่ฟังหรอก ถ้าผมชอบผมก็จะจีบ ยิ่งมาบอกว่าเป็นไอ้คีย์จะยอมให้จีบอีก ผมไม่ดีตรงไหนครับเนี่ย
”โห้ยพี่ผมแย่ตรงไหน ผมไม่ได้เพลย์บอยขนาดนั้นนะครับพี่คิน” ผมแกล้งทำหน้าเศร้าเอ่ยบอกพี่คิน พร้อมส่งสายตาละห้อยไปหาน้องอิง
”จริงๆกูก็ไม่อยากแนะนำมึงให้รู้จักกับนางฟ้าน้อยของกูเท่าไรหรอกนะแต่ไหนๆก็มาเจอแล้วจะแนะนำให้รู้จักแล้วกัน” พี่คินเอ่ยขึ้น พี่คินใช้คำว่านางฟ้าน้อยเรียกน้องอิง ผมว่าไม่เกินจริงไปหรอกครับ เพราะน้องอิงน่ารักจริงๆ ยิ่งดูยิ่งน่าทะนุถนอม รอยยิ้มของน้องอิงเป็นอะไรที่ทำให้ผมแทบหยุดหายใจเลยจริงๆ ก่อนเธอจะเดินมาชนผมกับไอ้วิน ผมเห็นเธอเดินเข้ามาในอาคารพร้อมทั้งหันมองซ้ายมองขวา เหมือนหาใครสักคนแล้วก้มลงพิมพ์โทรศัพท์ จะบอกว่าผมตั้งใจชนเธอหรือเปล่าก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่ผมไม่อยากให้เธออยู่ในอ้อมกอดไอ้วินคนเดียวผมจึงยอมชนเธออีกคน เพื่อรับเธอไว้ในอ้อมกอดตัวเองด้วย
”พวกมึงรู้จักชื่อน้องกูแล้วนิ งั้น...หนูอิงคะ นี่ไอ้วิน ไอ้คีย์ ไอ้ปลื้ม ไอ้เจ รุ่นน้องของพี่คะ พวกมันอยู่ปีสามคะ ส่วนไอ้คีย์เป็นน้องรหัสของพี่คะ” พี่คินเอ่ยแนะนำพวกผมให้น้องอิงรู้จัก ผมจึงหันไปยิ้มและพยักหน้าให้เธอเพื่อเป็นการทักทายเธอ
”สวัสดีคะพวกพี่ๆ ยินดีที่ได้รู้จักคะ” น้องอิงหันมายิ้มทักทายพวกผมอีกครั้ง
”งั้นเรากลับบ้านกันนะคะ” พี่คินหันไปเอ่ยบอกน้องอิงพร้อมทั้งโอบไหล่น้องอิงเพื่อจะเดินออกไปที่ลานจอดรถ
”คะพี่คิน อิงไปแล้วนะคะพี่ๆ สวัสดีคะ” ก่อนเดินออกไปน้องอิงเอ่ยลาพวกเราอีกครั้ง ผมได้แต่ยืนมองพร้อมรอยยิ้มที่เผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว ผมหันไปมองไอ้วินรอยยิ้มแบบนี้ มันคงถูกใจน้องอิงเหมือนผมนั้นแหละ แต่ผมกับมันต่างกันในเรื่องผู้หญิง ใครๆก็รู้ว่าไอ้วินเพลย์บอยตัวพ่อ เรื่องผู้หญิงไม่ขาด ส่วนผมไม่ค่อยยุ่งกับผู้หญิงหรอกถึงอีกด้านของผมจะต้องคุมพวกผับ บาร์ คาสิโน ในวันนี้ทันทีที่ผมได้สบตากับเธอ ผมบอกตัวเองได้เลยว่า...ผมตกหลุมรักเธอ
”คุณหนูตื่นนอนได้แล้วนะคะ วันนี้ไปมหาวิทยาลัยวันแรก เดี่ยวไปสายนะคะ” เป็นเสียงของพี่ส้มแม่บ้านเข้ามาปลุกฉันที่ยังนอนอยู่ แต่เดี่ยวนะ ไปมหาวิทยาลัยวันแรกเหรอ
”พี่ส้มว่าอะไรนะคะ อิงต้องไปมหาวิทยาลัยวันแรกเหรอคะ” นั้นทำให้ฉันตกใจจนรีบลุกขึ้นมานั่งงัวเงียพร้อมถามพี่ส้มเพื่อความแน่ใจ
”ใช่นะสิคะคุณหนูอิงของพี่ส้ม วันนี้คุณหนูเปิดเทอมวันแรกนะคะ ตอนนี้คุณคินรอคุณหนูที่โต๊ะอาหารแล้วนะคะ” พี่คินก็คือพี่ชายที่แสนดีของฉันเองแหละ พี่คิน หรือ นคินทร์ อนันต์กุล
“อิงขออาบน้ำแต่งตัวสักครู่นะคะ พี่ส้มบอกพี่คินรออิงแป๊บหนึ่งนะคะ” ฉันเอ่ยบอกพี่ส้มให้ลงไปบอกพี่คิน จากนั้นพี่ส้มก็เดินออกจากห้องไป
ฉันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียงมาดูวันเดือนปีทันที นี้ฉันได้โอกาสย้อนเวลากลับมาอีกครั้งหนึ่งเหรอ ได้ย้อนกลับมาในวันแรกของการเปิดเรียนมหาวิทยาลัยของฉัน คำอธิษฐานของฉันเป็นจริง ฉันได้โอกาสย้อนคืนรักกลับมาอีกครั้ง ฉันจะต้องไม่ตายเพราะความรัก ถึงแม้ว่าฉันอาจจะต้องลงเอยกับผู้ชายคนเดิม แต่ฉันจะไม่ยอมตกอยู่ในสถานการณ์เดิมอีกแน่นอน ครั้งนี้ฉันจะใช้โอากสนี้ย้อนคืนรักให้ตัวเองอย่างดีที่สุด
”สวัสดีตอนเช้าคะคุณพ่อ คุณแม่ พี่คิน อิงตื่นสายขอโทษนะคะ” ฉันเอ่ยทักทายยามเช้ากับคนในครอบครัว ฉันดีใจที่ฉันได้โอกาสชีวิตกลับมาอีกครั้งถ้าฉันไม่มีโอกาสย้อนกลับมา ฉันก็คงไม่ได้เจอหน้าพวกเขาอีก
“ไม่เป็นไรคะนางฟ้าน้อยของพี่ ยังมีเวลาอีกเยอะทานอาหารเช้าก่อนนะ” พี่คินหันมายิ้มให้ฉันพร้อมทั้งเอ่ยบอกให้ฉันทานอาหารเช้าก่อน
”แล้ววันนี้คินรอรับน้องกลับบ้านพร้อมกัน หรือจะให้คนขับรถไปรับน้องหล่ะลูก” เป็นเสียงคุณแม่ที่เอ่ยถามพี่คิน จริงๆที่ผ่านมา ก่อนย้อนอดีตกลับมา ช่วงปีหนึ่งพี่คินจะค่อยรับส่งฉันตลอดเลย เพราะพี่คินเรียนอยู่ปีสี่ พอพี่คินเรียนจบไปแล้วบางครั้งก็พี่คินไปรับไปส่ง บางครั้งก็คุณพ่อคุณแม่ บางครั้งก็คนขับรถที่บ้าน และในบางครั้งก็เป็นพี่วินบ้างพี่คีย์บ้าง แทบจะไม่มีใครปล่อยให้ฉันขับรถไปเรียนเองเลย แต่ย้อนกลับมารอบนี้ฉันตั้งใจไว้ว่าจะขับรถไปเรียนเอง แต่คงรอให้อะไรๆเข้าที่เข้าทางก่อนนะ ช่วงนี้ก็ไปกับพี่ชายที่แสนดีก่อนหล่ะกัน
”ผมรอรับน้องกลับมาเองครับคุณแม่” พี่คินเอ่ยตอบคุณแม่ ไม่นานเราก็ทานอาหารเช้ากันเสร็จ คุณพ่อก็ออกเดินทางไปบริษัท ส่วนฉันกับพี่คินก็ออกเดินทางไปมหาวิทยาลัยกัน
มหาวิทยาลัย BIU
“ถึงหน้าคณะแล้วคะ พี่ไม่รู้ว่าคณะของหนูอิงจะมีกิจกรรมรับน้องเลยหรือเปล่า ถ้ายังไงเลิกเรียนแล้วทักหาพี่นะคะ” พี่คินเอ่ยขึ้นหลังจากขับรถมาจอดที่หน้าตึกคณะของฉัน
“คะพี่คิน เดี่ยวหนูอิงทักหาหลังเลิกเรียนนะคะ หนูอิงไปเรียนแล้วนะคะ” ฉันเอ่ยตอบพี่คินก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ เพื่อเดินเข้าตึกคณะเพื่อขึ้นเรียน
”ยัยคุณหนูอิงฟ้าทางนี้จ้า” ระหว่างเดินเข้าตึกคณะ ก็มีเสียงเรียกฉันที่โต๊ะใต้ตึก เป็นเสียงของเดซี่เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมตอนต้นของฉัน เมื่อก่อนก็ชื่อเดย์ แต่พอเริ่มเปิดตัวตนของตัวเองก็เปลี่ยนเป็นเดซี่ทันที
”พี่คินสุดหล่อของฉันมาส่งใช่ไหมเนี่ย” เป็นเสียงของหลินเพื่อนสนิทอีกคนตั้งแต่มัธยมต้นเช่นเดียวกัน เราสามคนสนิทกันมานานแล้วหล่ะ
“พี่คินพี่ชายสุดหล่อคนเดิมจ้า ขึ้นเรียนกันเลยไหม” ฉันเอ่ยตอบเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะชวนกันขึ้นเรียน
15.00น.
“เลิกเรียนแล้ว เรารีบไปร่วมตัวที่ลานกิจกรรมของคณะเถอะ” เดซี่เอ่ยขึ้นหลังจากเลิกเรียนในช่วงบ่าย วันนี้ไลน์คณะแจ้งนัดพบนักศึกษาปีหนึ่งหลังเลิกเรียนในช่วงบ่ายสาม
“อืมงั้นเรารีบไปกันเถอะ” ฉันเอ่ยตอบรับเดซี่ก่อนจะเก็บของใส่กระเป๋า
”พวกเธอสามคน เรายังไม่มีกลุ่มงานที่อาจารย์สั่งเลยขอเราอยู่กลุ่มพวกเธอด้วยได้ไหม” ในขณะที่พวกเรากำลังเก็บของก็มีเสียงหนึ่งเรียกพวกเราทั้งสามคน และเอ่ยขอเข้ากลุ่มงานที่อาจารย์เพิ่งสั่งงานกลุ่มสี่คนไว้ ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นว่าเป็นคนที่ทำให้ฉันต้องตายในชีวิตก่อน แน่นอนฉันอยากจะเลือกที่จะห่างเธอคนนี้ไว้ แต่ฉันคิดว่าต่อให้ห่างไว้ ถ้าเรื่องมันต้องทำให้เราเกี่ยวพันกันยังไงก็ต้องเกี่ยวพันกันอยู่ดี ยิ่งถ้าฉันทำเหมือนไม่ชอบเธออะไรอาจจะแย่เร็วขึ้นก็ได้ฉันเลยคิดว่าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน เพื่อนอีกสองคนหันมองหน้าฉันเหมือนถามความคิดเห็นฉัน ฉันจึงพยักหน้าให้เพื่อนทั้งสองคน
”ได้สิ แค่ทำงานกลุ่มเอง อยู่ด้วยกันได้อยู่แล้ว เราชื่ออิงนะ ส่วนนี้เดซี่แล้วก็หลิน” ฉันเอ่ยตอบรับเธอให้ร่วมกลุ่มกับพวกฉันได้ ก่อนจะเอ่ยแนะนำตัวเหมือนฉันไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน
”เราพัดนะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเลย เรายังไม่มีเพื่อนขอเดินลงไปด้วยนะ” พัดชาเอ่ยแนะนำตัวเองกับพวกฉันก่อนจะขอเดินร่วมกลุ่มกับพวกฉันไปด้วย
”อืมได้สิ งั้นไปกันเถอะ” ฉันบอกเธออีกครั้ง และเอ่ยชวนทุกคนเดินลงไปใต้ตึกตามนัดพบของรุ่นพี่
“เอาหล่ะครับวันนี้พี่ๆก็แค่อยากให้พวกเราแนะนำตัวกัน เพื่อให้ทำความรู้จักกันก่อน ยังไม่มีกิจกรรมรับน้องในวันนี้นะครับ พรุ่งนี้พวกพี่ๆจึงจะเริ่มกิจกรรมนะครับ ยังไงวันนี้ให้น้องๆกลับบ้านได้ แล้วเจอกันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนนะครับ” รุ่นพี่ประธานปีสองเอ่ยขึ้นหลังให้พวกเราแนะนำตัว และทำความรู้จักกันแล้ว
”ยัยคุณหนูอิงวันนี้กลับยังไงหล่ะ พี่คินมารับหรือคนขับรถที่บ้าน” เดซี่หันมาถามฉันในขณะที่เรากำลังหยิบกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวแยกย้ายกลับบ้าน
”อิงกลับกับพี่คินนะ แต่พี่คินยังทำธุระอยู่ที่คณะ เลยให้อิงไปรอที่คณะพี่คินอ่ะ” ฉันเอ่ยตอบเดซี่พร้อมกับพิมพ์ข้อความบอกพี่คินว่ากำลังจะเดินไปที่ตึกคณะบริหาร
“พวกฉันเดินไปรอเป็นเพื่อนไหม” หลินเอ่ยขึ้นพร้อมหน้าตาที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย
”รอยยิ้มแกไม่ได้บอกว่าไปรอเป็นเพื่อนอิงเลยจ้า เหมือนอยากไปรอเป็นพี่สะใภ้มากกว่านะ” เดซี่แกล้งเย้ายัยหลิน ฉันกับเดซี่รู้ดีว่ายัยหลินนะ ปลื้มพี่คินมานานแค่ไหนแล้ว
”ไม่เป็นไรหรอก คณะของพี่คินอยู่ไม่ไกลจากคณะเราเท่าไร แค่ตรงนี้เอง เดี่ยวอิงเดินไปรอคนเดียวได้ กลับบ้านกันเถอะไม่ต้องห่วงนะ” ฉันเอ่ยตอบเพื่อนทั้งสองพร้อมทั้งยิ้มยืนยันว่าฉันไปเองคนเดียวได้
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนๆ ฉันก็เดินมาหาพี่คินที่คณะบริหารธุรกิจ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดทักหาพี่คินเพื่อจะบอกว่าฉันอยู่ที่ตึกคณะของพี่คินแล้ว
พลั่ก!
”อุ๊ย! โอ๊ย!” เพราะมัวแต่ก้มอ่านข้อความในโทรศัพท์ จึงทำให้ฉันไม่ได้ดูทาง จึงเผลอเดินชนใครเข้า แต่ความรู้สึกเหมือนฉันเดินชนไม่ใช่คนเดียวเลย เหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นเมื่อชีวิตก่อนเป็นเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการพบเจอ หรือเหตุการณ์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง เหมือนเหตุการณ์ของพัดชาที่เริ่มเข้ามาในกลุ่มฉันด้วยงานกลุ่ม ใช่ทุกเหตุการณ์เหมือนชีวิตก่อนเลย
”เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
”เจ็บหรือเปล่าครับ”
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นหลังจากชนพวกเขา ฉันเดินชนระหว่างกลางของพวกเขาทั้งคู่ และเป็นพี่วินที่เอ่ยถามคำถามแรก ต่อด้วยพี่คีย์ที่เอ่ยถามในคำถามที่สอง ฉันเดินชนพวกเขาทั้งคู่ทำให้ตอนนี้เหมือนฉันอยู่ในอ้อมกอดของพวกเขาทั้งคู่ เพราะพวกเขาเอื้อมมือมาคว้าเอวฉันไว้คนละข้าง ทุกอย่างเหมือนเดิมจริงๆ
”อ่ะ...เอ่อ ขอโทษคะ อิงเดินไม่ทันระวังไม่ได้มองทาง ขอโทษอีกครั้งนะคะ” ฉันรีบดันตัวออกจากอ้อมกอดของพวกเขา ก่อนจะเอ่ยขอโทษพวกเขาทั้งคู่พร้อมกัน
”ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่น้องคนสวยเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เป็นพี่วินที่เอ่ยถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มและแววตาเจ้าเล่ห์ ทำไมชีวิตก่อนฉันไม่ทันสังเกตนะว่ารอยยิ้มและแววตาพี่วินมันเจ้าเล่ห์ แพรวพราวขนาดนี้
”อิงไม่เป็นอะไรคะ ยังไงก็ขอโทษอีกครั้งนะคะ” ฉันตอบพี่วินพร้อมทั้งก้มศีรษะกล่าวขอโทษพวกเขาอีกครั้ง
”ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่ไหมครับ” และก็เป็นเสียงของพี่คีย์ที่เอ่ยถามฉัน พร้อมแววตาที่ดูกังวลและพยายามสังเกตว่าฉันไม่ได้เจ็บตรงไหนจริงๆ นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันได้รู้ว่าฉันพลาดที่จะสังเกตแววตาของพวกเขาในชีวิตก่อน
“ไม่คะ อิงไม่ได้เจ็บตรงไหนคะ” ฉันเอ่ยตอบพี่คีย์ด้วยรอยยิ้มที่ยืนยันว่าฉันไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนจริงๆ
”ชื่อน้องอิงเหรอครับ เรียนคณะนี้เหรอครับ” พี่วินเอ่ยถามฉันอีกครั้ง
”คะ แต่อิงไม่ได้เรียนคณะนี้หรอกคะ อิงเรียนคณะนิเทศศาสตร์คะ” ฉันพยักหน้าตอบในคำถามแรก ก่อนจะเอ่ยตอบคำถามต่อไปของพี่วิน
”แล้วน้องอิงมาทำอะไรที่คณะบริหารเหรอครับ” พี่วินยังคงเอ่ยถามคำถามฉัน ในขณะที่ฉันกำลังจะตอบคำถามของพี่วินก็มีเสียงเรียกชื่อฉันขึ้นมาเสียก่อน
”หนูอิง มารอพี่นานหรือยังคะ” ในขณะที่ผมกำลังรอคำตอบของน้องอิง ก็มีเสียงของพี่คินเรียกน้องอิง พร้อมทั้งเดินมาลูบผมน้องอิง อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนพี่คิน ผมยอมรับเลยว่าตอนที่เธอเดินมาชน ทีแรกก็โมโหนะที่ใครไม่รู้เดินมาชน แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ ความโมโหในตอนแรกก็หายไปทันที เธอน่ารักมาก ยิ้มของเธอทำผมละลายไปเลย แต่นี่ผมจะอกหักตั้งแต่ยังไม่จีบเหรอเนี่ย
”หนูอิงเพิ่งมาถึงคะพี่คิน” เธอหันไปยิ้มตอบพี่คิน พร้อมทั้งควงแขนพี่คิน ผมอกหักแล้วหล่ะสนิทกับพี่คินขนาดนี้
“นางฟ้าน้อยของพี่คินเหนื่อยไหมคะเรียนวันแรก” พี่คินผู้ไม่อ่อนโยนกับใคร เรียกน้องอิงแบบนี้คงเป็นแฟนพี่คินแล้วหล่ะ
”ไม่คะ วันนี้อาจารย์ไม่ได้สอนอะไรมากคะ” น้องอิงเอ่ยตอบพี่คินพร้อมรอยยิ้มสดใสที่ยิ้มที่ละลายใจ
“เอ่อ น้องอิงเป็นแฟนพี่คินเหรอครับ” เพื่อความชัวร์ผมต้องถามออกไป
“ยิ่งกว่าแฟนอีกโว๊ย” พี่คินตอบผม มากกว่าแฟน อย่าบอกนะว่าเมีย
”เมียเหรอพี่คิน” อีกครั้งที่ผมถามออกไป ผมไม่อยากค้างคา ผมต้องถาม
”น้องสาวกูโว๊ย ไอบ้านี่” พี่คินหันมาตอบผมด้วยเสียงขุ่น อะไรนะมะกี้ผมได้ยินว่าน้องสาวเหรอ ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่เมีย
”น้องสาวพี่คินเหรอ แบบพี่น้องแท้ๆไรงี้เหรอ” เพื่อความชัวร์ครับว่าพี่น้องจริงๆ ไม่ใช่พี่น้องท้องชนกัน ผมต้องถามอีกครั้ง
”เอ่อ หนูอิงน้องสาวแท้ๆ พ่อแม่เดียวกันกับกูนี่แหละ” พี่คินตอบผมด้วยการย้ำเน้นสถานะน้องอิงอีกครั้ง
”อ่อครับ” ผมยิ้มรับทันทีที่มั่นใจว่าเธอไม่ใช่แฟน ไม่ใช่เมียพี่คิน
”เดี่ยว! มึงถามเน้นย้ำกูขนาดนี้ อย่าคิดมาจีบน้องกูนะโว้ย ไอ้วินมึงเพลย์บอยตัวพ่อขนาดนี้ห้ามเลย ถ้าไอ้คีย์ก็ว่าไปอย่าง” พี่คินหันมาชี้หน้าผม พร้อมสั่งห้ามผมจีบน้องอิง หึ! ผมไม่ฟังหรอก ถ้าผมชอบผมก็จะจีบ ยิ่งมาบอกว่าเป็นไอ้คีย์จะยอมให้จีบอีก ผมไม่ดีตรงไหนครับเนี่ย
”โห้ยพี่ผมแย่ตรงไหน ผมไม่ได้เพลย์บอยขนาดนั้นนะครับพี่คิน” ผมแกล้งทำหน้าเศร้าเอ่ยบอกพี่คิน พร้อมส่งสายตาละห้อยไปหาน้องอิง
”จริงๆกูก็ไม่อยากแนะนำมึงให้รู้จักกับนางฟ้าน้อยของกูเท่าไรหรอกนะแต่ไหนๆก็มาเจอแล้วจะแนะนำให้รู้จักแล้วกัน” พี่คินเอ่ยขึ้น พี่คินใช้คำว่านางฟ้าน้อยเรียกน้องอิง ผมว่าไม่เกินจริงไปหรอกครับ เพราะน้องอิงน่ารักจริงๆ ยิ่งดูยิ่งน่าทะนุถนอม รอยยิ้มของน้องอิงเป็นอะไรที่ทำให้ผมแทบหยุดหายใจเลยจริงๆ ก่อนเธอจะเดินมาชนผมกับไอ้วิน ผมเห็นเธอเดินเข้ามาในอาคารพร้อมทั้งหันมองซ้ายมองขวา เหมือนหาใครสักคนแล้วก้มลงพิมพ์โทรศัพท์ จะบอกว่าผมตั้งใจชนเธอหรือเปล่าก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่ผมไม่อยากให้เธออยู่ในอ้อมกอดไอ้วินคนเดียวผมจึงยอมชนเธออีกคน เพื่อรับเธอไว้ในอ้อมกอดตัวเองด้วย
”พวกมึงรู้จักชื่อน้องกูแล้วนิ งั้น...หนูอิงคะ นี่ไอ้วิน ไอ้คีย์ ไอ้ปลื้ม ไอ้เจ รุ่นน้องของพี่คะ พวกมันอยู่ปีสามคะ ส่วนไอ้คีย์เป็นน้องรหัสของพี่คะ” พี่คินเอ่ยแนะนำพวกผมให้น้องอิงรู้จัก ผมจึงหันไปยิ้มและพยักหน้าให้เธอเพื่อเป็นการทักทายเธอ
”สวัสดีคะพวกพี่ๆ ยินดีที่ได้รู้จักคะ” น้องอิงหันมายิ้มทักทายพวกผมอีกครั้ง
”งั้นเรากลับบ้านกันนะคะ” พี่คินหันไปเอ่ยบอกน้องอิงพร้อมทั้งโอบไหล่น้องอิงเพื่อจะเดินออกไปที่ลานจอดรถ
”คะพี่คิน อิงไปแล้วนะคะพี่ๆ สวัสดีคะ” ก่อนเดินออกไปน้องอิงเอ่ยลาพวกเราอีกครั้ง ผมได้แต่ยืนมองพร้อมรอยยิ้มที่เผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว ผมหันไปมองไอ้วินรอยยิ้มแบบนี้ มันคงถูกใจน้องอิงเหมือนผมนั้นแหละ แต่ผมกับมันต่างกันในเรื่องผู้หญิง ใครๆก็รู้ว่าไอ้วินเพลย์บอยตัวพ่อ เรื่องผู้หญิงไม่ขาด ส่วนผมไม่ค่อยยุ่งกับผู้หญิงหรอกถึงอีกด้านของผมจะต้องคุมพวกผับ บาร์ คาสิโน ในวันนี้ทันทีที่ผมได้สบตากับเธอ ผมบอกตัวเองได้เลยว่า...ผมตกหลุมรักเธอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น