ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : ตั้งใจ

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 66


     

    “ไปขอโทษเธอเสีย เหมือนฝันไม่ใช่ศัตรูของแก” อู่อี้เทียนแนะนำลูกผู้น้อง โดยไม่ทันที่เขาจะเอ่ยจบเขาก็ได้จับสายตาคมกริบของจ้าวเวยหลงเป็นของตอบแทน ร่างสูงที่ยังอยู่ในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลถอนหายใจ แล้วเบือนหน้าไปมองดวงจันทร์ที่ลอยเด่นสง่าอยู่นอกหน้าต่าง คิดว่าเขาช่วยจ้าวเวยหลงสุดความสามารถแล้วก่อนปล่อยให้ความคิดของตัวเองหลุดลอยไปยังคนที่มีชื่อความหมายเดียวกับดวงจันทร์

    ในใจก็คิดว่า หากจ้าวเวยหลงยังโง่ที่จะดื้อรั้งเพื่อชัยชนะจอมปลอมนั้นต่อไป เขาก็ทำอะไรไม่ได้

    “ขอโทษ ขอโทษเรื่องอะไร” จ้าวเวยหลงไม่รู้จริงว่าเขาทำผิดอะไรกับยายผู้หญิงประหลาดคนนั้น ตั้งแต่พบหน้าเธอเขายังไม่ได้ทำอะไรให้เธอเลย มีแต่หล่อนนั่นแหละเอาแต่ทำร้ายเขา ก่อนหนีกลับบ้านเจ้าหล่อนยังไม่วายทิ้งลาย หลอกล่อให้หัวหน้าบอดี้การ์ดของเขาช่วยเหลือให้พวกเธอสองพี่น้อง จนสามารถหนีกลับไทยจนได้!

    “มาสฟ้าไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล” อู่อี้เทียนพูดจากมุมมองคนที่อยู่กับหญิงสาวมาตลอดหลายวัน สำหรับเขาที่มีอคติกับมาสฟ้ายังรับรู้ได้ว่าเนื้อแท้แล้วหญิงสาวนั้นไม่ใช่คนเลวร้าย หรือทำอะไรลงไปโดยไม่มีเหตุผล “ฉันรู้ว่าแกไม่ได้ทำอะไรเขา แต่น้องสาวของเขาล่ะ...แกลืมแล้วหรือไงว่าแกทำอะไรไว้ ตอนนี้จะมานึกโทษเขาฝ่ายเดียวได้เหรอ”

    “ผมก็อยากจะขอโทษ!” จ้าวเวยหลงเถียง “แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเขาหนีไปแล้ว อีกอย่างนะ...อย่ามาเข้าข้างแฟนพี่หน่อยเลย ถ้าไม่มีพี่สาวเขาช่วยมีเหรอที่เหมือนฝันจะกล้าหนีไป”

    “นั่นมันเพราะแกคิดจะเครมมาสฟ้าไม่ใช่หรือไง” อู่อี้เทียนย้อนถาม ก่อนจะตวัดสายตาคมกริบกลับมาองหน้าคนอายุน้อยกว่าแม้ว่าเขาจะนอนโคม่าไปหลายวันแต่เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว สิ่งแรกที่หลุดออกมาจากปากของอู่อี้เทียนก็คือชื่อของมาสฟ้า หญิงสาวที่ติดค้างเาคำอธิบายกับเขาอยู่

    “ไปขอโทษเขาเถอะ มาสฟ้าไม่ใช่คนไร้เหตุผล” อู่อี้เทียนพูดคำเดิม ยังมั่นใจในตัวของมาสฟ้าแม้ว่าเขารู้จักเธอเพียงผิวเผินก็ตาม และถูกเธอปฏิเสธอย่างไม่ใยดีก็ตาม “รับผิดแล้วรีบจบเรื่องให้เร็ว แกทำน้องเขาเจ็บ จะถูกเขาเอาคืนนิดๆ หน่อยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

    “นี่พี่คิดจริงๆ เหรอว่าเรื่องมันจะง่ายแบบนั้น”

    “อย่าโง่ไปหหน่อยเลยน่าเวยหลง ทั้งฉันทั้งแกรู้ดีว่าถ้ามาสฟ้าเขาต้องการจะเล่นงานพวกเรา เขาทำได้ยิ่งกว่านี้...นี่เขาแค่สั่งสอนแกหรอก ไม่แน่ว่าถ้าแกยอมทิ้งศักดิ์ศรีโง่ๆ ที่ได้มาพร้อมตำแหน่งผู้นำตระกูลของแก มาสฟ้าอาจจะยอมช่วยแกง้อน้องสาวของเขาก็ได้” อู่อี้เทียนแนะจ้าวเวยหลงด้วยความใจเย็น เข้าใจว่าตอนนี้เจ้าเวยหลงกำลังโกรธจึงอาจจะวู่วามอยู่บ้าง“แล้วถ้าไปหาเขาก็อย่าพูดเรื่องของฉัน เรื่องของฉันกับมาสฟ้า ฉันจะเป้นคจัดการเอง”

    “พี่จะทำอะไร?” จ้าวเวยหลงหันขวับ มองอู่อี้เทียนด้วยสายตาหวาดระแวง แม้ว่าเขานั้นจะยังเคืองมาสฟ้าอยู่ แต่หากวันหนึ่งเขาคืนดีกับเหมือนฝันได้ อย่างไรเสียมาสฟ้าก็ยังเป็นว่าที่พี่ภรรยาของเขาอยู่วันยังค่ำ

    “บอกแล้วไงว่ามันเรื่องของฉัน แกไม่ต้องยุ่ง”
     


     


     


     


     


     


     

     

             ‘ชื่อของคุณหมายความว่าอะไรหรือมาสฟ้า’


     

    เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ ร่างระหงของเธอสวมด้วยชุดจากช่างตัดเสื้อชื่อดัง หากแต่ความงามของเสื้อผ้าบนกายกลับไม่สามารถบดบังความงามของซีกหน้าที่ชำเลืองมองเขาได้


     

                      ก้อนเนื้อใจอกของเขาเต้นแรง...เลิกตั้งคำถามกับความรู้สึกของตนไปแล้วตั้งแต่เจอหน้าหญิงสาวครั้งแรก มาสฟ้าเป็นข้อยกเว้นทุกอย่างสำหรับเขา เธองามจัด...สวยไม่ว่าจะมองมุมไหน หรือทำอะไร


     

                      ‘มาส...หมายถึงพระจันทร์ค่ะ’เจ้าของชื่อบอกพลางแหงนหน้าขึ้นมองพระจันทร์ดวงโตที่ลอยเด่นอยู่บนศีรษะของพวกเขา จันทร์ในคืนวันเพ็ญนั้นดวงโต และสวยจัดคล้ายกำลังท้ายทายคนเบื้องล่างให้ตัดสิน...ว่าจันทร์อันไหนสวยกว่า‘มาสฟ้า...คงจะหมายถึงพระจันทร์ที่อยู่บนฟ้า’


     

                      ‘อย่างนั้น...ยามที่ผมคิดถึงคุณ ผมก็แค่ต้องมองดวงจันทร์’


     

                      ‘คุณจะทรมานทุกครั้งเวลาที่มองดวงจันทร์’ร่างบางหันกลับมามองหน้าคมเต็มตัว ดวงตากลมนั้นเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา หลังเอ่ยคล้ายเตือนชายหนุ่ม ‘เพราะฉะนั้นอย่าคิดถึงฉันเลยค่ะลูเซียส...’


     

                      ‘สายไปแล้ว...ผมรักดวงจันทร์ไปหมดใจแล้ว...’


     

                      

                      ร่างสูงที่หายใจรวยรินอยู่บนพื้นปูนเย็นจัดหายใจรวยริน มองดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญผ่านซี่ลูกกรงของช่องลมในคุกใต้ดิน รำลึกถึงคำพูดของคนที่มีชื่อเดียวกับดวงจันทร์แล้วหยาดน้ำตาก็ไหลริน 


     

                      ทรมานเหลือเกิน...เจ็บปวดเหลือเกิน....อยากตายเหลือเกิน...


     

                      ‘คุณจะทรมานทุกครั้งเวลาที่มองดวงจันทร์’


     

                      “มาสฟ้า...” ร่างสูงสามารถเปล่งเสียงแหบแห้งของตัวเองมาได้เพียงเท่านั้น เพียงชื่อของผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายของเขาจะขาดห้วง ไปพร้อมกับทรมาน และดวงจันทร์ที่กำลังถูกบดบังโดยเมฆก้อนใหญ่ คล้ายกับมันจะอับอายที่ต้องปล่อยให้เขาตายอย่างทรมานและเดียวดาย


     

                      และกลางดึกคืนนั้น...หยาดฝนก็เทกระหน่ำลงมา...พร้อมกับคนที่ชื่อมีความหมายเดียวกับพระจันทร์ ร้องไห้ปิ่มจะขาดใจอย่างน่าเวทนาไม่แพ้กัน

     

     


     

    “มาขึ้นเตียงได้แล้วแม่มด ถึงเวลาที่คุณจะจ่ายค่าคุ้มครองผมแล้ว!”เสียงประกาศกร้าวจากร่างสูงที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงทำให้อากาศในปอดของมาสฟ้าหายไป สายตาแข็งกร้าวของเขาทำให้ร่างกายของเธอแข็งทื่อไม่ต่างจากโดนแช่แข็ง พอเขาผลักความทรงจำอันแสนทรมานออกไปได้ ชายหนุ่มก็เรียกร้องขอค่าจ้างของเขาทันที


     

                      “ตะ...แต่ว่าคุณเลือดออก” มาสฟ้าหอบหายใจเข้าปอด หยิกมือของตัวเองแน่นเมื่อเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเขาได้ถนัดตา ก่อนจะกลั้นใจถืออ่างน้ำไปวางที่โต๊ะข้างหัวเตียง


     

                      “อย่าลีลาน่า...ต่อให้ผมยับเยินกว่านี้ผมก็รักคุณได้สบาย มาขึ้นเตียงเสียที!” เขาบอก ใกล้จะหมดความอดทนเต็มที ยิ่งเห็นเนื้อหวานๆของเธอที่โผล่พ้นออกมาจากเสื้อยืดตัวหลวมนั้น มันก็ทำให้เขาพลันลืมความเจ็บปวดจากบาดแผลบนตัวไปเสียสนิท จะเป็นปวดอยู่ที่เดียวก็คือไอ้ลูกชายตรงหว่างขานี่แหละ!


     

                      “ทำแผลก่อนเถอะค่ะ” มาสฟ้าต่อรอง จ้องหน้าเจ้าหนี้ที่เรียกร้องให้เธอจ่ายค่าคุ้มครองนิ่ง ต่างฝ่ายก็ต่างดูเชิงกันจนสุดท้ายแล้วก็เป็นคนเจ็บที่ยอมแพ้ กระแทกลมหายใจออกทางปากแรงๆอย่างหงุดหงิดเกินที่จะเก็บอาการ


     

                      “อยากทำก็ตามใจ แต่ยังไงเสียคืนนี้คุณก็ต้องนอนกับผม” เขาว่าอย่างเหนือกว่า มุมปากหนายกขึ้นเป็นรอยยิ้มสมใจ เห็นแล้วมาสฟ้าก็ได้แต่เม้มปาก ไม่มีอะไรจะเถียงเขา


     

                      ร่างบอบบางค่อยๆขยับขึ้นไปนั่งเคียงร่างสูงบนเตียงกว้างของเธอเอง แล้วมือเล็กก็ค่อยๆบิดผ้าในอ่างน้ำอุ่นมาเช็ดแผลที่สีข้างของเขาอย่างระมัดระวัง เสียงหอบหายใจและอาการเกร็งตัวของชายหนุ่มทำให้มาสฟ้าชะงัก รีบหยุดมือเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเธอก็เห็นว่าเขาจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว


     

                      “ขอโทษค่ะ มาสพยายามเบาแล้วแต่เลือดมันแห้งติด...”


     

                      “ทำต่อไปเถอะ มือคุณเบากว่าผู้คุมในคุกเยอะ” เขาเอ่ยเสียงหยัน และมีความจริงใจอยู่ในน้ำเสียงทุ้มกระด่างนั้นอย่างเต็มเปี่ยม ไม่มีทางที่พวกเศษสวะพวกนั้นจะปรนนิบัติเขาได้เท่าเศษเสี้ยวของคนตัวเล็กข้างๆนี่เลย


     

                      “คุณต้องเย็บแผลแล้วล่ะคะลูเซียส” มาสฟ้ากระซิบบอก ดวงตากลมนั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นความลึกของบาดแผล“มาสจะให้คนไปเอารถออก...”


     

                      “คุณเย็บเองเลย” เขารั้งมือเล็กก่อนเธอจะได้ผละห่าง เขาพูดคล้ายกับว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับหญิงสาว


     

                      “แต่ว่า...”


     

                      “คุณเย็บ...งั้นผมก็จะฆ่าทุกคนที่แตะตัวผม เลือกเอา” มาสฟ้าเม้มปาก จ้องหน้าคนที่ข่มขู่เธอทั้งๆ ที่เธอเอ่ยปากเพราะความเป็นห่วงสวัสดิภาพของร่างกายเขาเองแท้ๆ แล้วมาสฟ้าก็สะดุ้งโหย่งเมื่อจู่ๆมือหาก็แตะลงมาที่แก้มเธอโดยไม่บอกกล่าว“เย็บเถอะมาส...คุณก็รู้ว่าผมทิ้งให้คุณคลาดสายตาไม่ได้”


     

                      มาสฟ้าน้ำตาคลอกับเหตุผลง่ายๆของเขา ต้องจำใจจับผ้าขนหนูผืนเล็กในอ่างกลับขึ้นมาอีกครั้ง เธอค่อยๆเช็ดเกล็ดเลือดที่แห้งกรังออกจากปากแผล พยายามเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้


     

                      โดยตลอดเวลานั้นก็มีสายตาคมของลูเซียสจ้องตามไม่หยุด เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยอะไร...ถึงกับระบายลมหายใจออกมาเบาๆอย่างพอใจด้วยซ้ำ มาสฟ้าจึงอดใจไม่ไหว โพล่งถามออกไปด้วยความหงุดหงิด


     

                      “เจ็บขนาดนี้ยังสบายใจได้อีกนะคะคุณน่ะ”


     

                      “คนเดนตายอย่างผม...คุณคาดหวังอะไรครับ”ลูเซียสพูดนิ่งๆ น้ำเสียงของเขาเย็นชาพอๆในสีหน้าและแววตา มันเป็นใบหน้าที่มาสฟ้าเห็นจนชินชาสลับกับใบหน้าเย้ยหยั่นสะใจ ยามที่เขาใช้มองผู้ที่ปักมีดบนลงตัวเขาเหมือนเช่นเวลาที่เขาบดขยี้พวกมันด้วยความโหดแบบที่ลูเซียสเท่านั้นที่ทำได้


     

                      “ถ้ามันไม่จบล่ะคะลูเซียส” มาสฟ้ากระซิบถาม มือเล็กที่กดผ้าขนหนูบนปากแผลเริ่มสั่นเทา ทำให้ลูเซียสนั้นตวัดหางตาหงุดหงิดขึ้นมองหน้างาม“ถ้าพวกเขาจะต้องฆ่าฉันให้ได้ล่ะ”


     

                      “ก็ให้พวกมันมา...” ลูเซียสประกาศกร้าวอย่างท้าทายและถือดี“คุณเป็นของผม...ผมเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์สั่งให้คุณอยู่หรือตาย พวกมันไม่มีสิทธิ์!”

     

                      


     

     

            


     


     


     

     

     

     


     

         อุ้ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดดดด หนูมาสมีหมีโหเป็นของตัวเองแบบนี้ คุณพ่อกฤษจะรับมือกับว่าที่ลูกเขยอย่างไรน้าาาาาาาาา แล้วแม่เชอลีนเห็นว่าที่ลูกเขยหรือยังค่ะคนดี ศรีเป็นห่วง


     

         อะคึๆๆๆๆ อีหมีโหดจิต้องเจ็บหนัก อีหมีโหดจิเป็นคนพ่ายแพ้ นุ้งมาสๆสู้ๆ


     

        ป.ล เริ่มลงหลังจากเหมือนฝันค่าาาาา ตอนนี้แค่เอามายั่ว ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×