ฮันเกียง-ฮีชอล เจ้านายกับลูกน้องสุดป่วน - ฮันเกียง-ฮีชอล เจ้านายกับลูกน้องสุดป่วน นิยาย ฮันเกียง-ฮีชอล เจ้านายกับลูกน้องสุดป่วน : Dek-D.com - Writer

ฮันเกียง-ฮีชอล เจ้านายกับลูกน้องสุดป่วน

โดย kawaii rain

เมื่อฮันเกียงผู้พูดเกาหลีไม่เป็นถูกนำมาฝากเนื้อฝากตัวให้เป็นลูกน้องกับฮีชอลเจ้านายหนุ่มหน้าสวยเรื่องวุ่นๆจึงเกิดขึ้น

ผู้เข้าชมรวม

807

ผู้เข้าชมเดือนนี้

0

ผู้เข้าชมรวม


807

ความคิดเห็น


0

คนติดตาม


1
เรื่องสั้น
อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 50 / 12:39 น.


ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แรกพบฮีชอล-ฮันเกียง

    ....................................เฮ้ออออ......................................  เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่หลุดออกจากปากสวย     ของชายหนุ่ม     แล้วนายจะไปทางไหนต่อล่ะ   ฮันเกิง    ชายหนุ่มชาวจีนพูดกับตัวเองเป็นภาษาบ้านเกิดที่เขาเพิ่งจากมาได้ไม่นาน   เพราะความโง่ของตัวเขาเองที่หลงเชื่อเพื่อนตัวเอง   เพราะเพื่อนเป็นสิ่งเดียวที่เขาเหลือในชีวิตนี้  แต่ตอนนี้คนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนทำกับเขาได้ขนาดนี้  แสดงว่าคนคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดียรัจฉานที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีหรอก

        ป๊าครับ  ม๊าครับ   ช่วยลูกคนนี้ของป๊ากับม๊าด้วยนะครับ     สองเมื่อของฮันเกิงยกขึ้นผสานกันพลางเอ่ยขอความช่วยเหลือจากพ่อกับแม่ของเขาที่เพิ่งจากเขาไปได้ไม่นาน

    ..................................เฮ้อ...................เฮ้อ......................ออ..........................   ฮันเกิงถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจของคนบางคนที่นั่งข้าง     เขา   (   เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  )  จึงค่อย    หันหน้าไปมอง  ก็พบกับชายร่างสูง   ผอม   หน้าตา  มองไม่เห็นหรอกเพราะมันมืด  ที่พอมองเห็นก็เท่านี้เพราะแสงไฟที่ส่องมันทำให้มองเห็นแค่นี้  แล้วอีกอย่างเขาก็นั่งก้มหน้าด้วย

       นี่คุณ  คุณมานั่งทำอะไรในที่มืด     อย่างนี้  แล้วทำไมไม่เข้าไปในไนคลับพวกนั้นล่ะ    ชายข้างข้าง    เอ่ยถามฮันเกิง

      ผมฟังไม่รู้เรื่อง    ฮันเกิงตอบคนข้าง    เป็นภาษาจีน  คนที่ได้ยินถึงกับสะดุ้งเฮือก  รีบเงยหน้ามามองหน้าฮันเกิงทันที

      นี่คุณ  ไม่ใช่คนเกาหลีหรอ     คนข้าง    พยายามถามฮันเกิง

      ........................    ฮันเกิงไม่ได้ตอบเพียงแต่ส่ายหน้า   ที่ส่ายหน้าเนี้ย  เพราะฟังไม่ออกว่ามันคืออะไร  ไม่ใช่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

       แล้วผมจะคุยกับคุณรู้เรื่องมั้ยเนี้ย    คนข้างเกิดอาการเซงจิตนิดหน่อย  เนื่องจากภาษาไม่อำนวย  (  ไม่รู้จักแล้วไปคุยกับเขาทำไมเนี้ย   :  ผู้แต่ง  ) 

       can   you   speak  English    ฮันเกิงปิ๊งไอเดียได้จึงถามคนข้าง    เป็นภาษาอังกฤษ

      yes        ชายคนข้าง    ตอบ      ค่อยโล่งหน่อยพูดภาษาอังกฤษได้     พร้อมต่อท้ายด้วยภาษาประเทศที่ฮันเกิงเหยียบแผ่นดินอยู่ตอนนี้  ฮันเกิงไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ยิ้ม     ด้วยความน่ารักของผู้ชายคนนี้

      What’ s  your  name    ชายแปลกหน้า  (  รัก  )  เอ่ยถาม

    “ Hangeng ”

      ฮะ .....ฮันคยอง ...หลอ..   ชายแปลกหน้า  ทำหน้างงทวนชื่อที่เขาถามไปว่าถูกรึเปล่า

    ฮันคยองหรอ.......น่ารักดี .  ฮันเกิงพูดเป็นภาษาจีนกับตัวเอง  แล้วก็พยักหน้ารัว    ให้คนข้าง     คนเอาที่ที่เห็นถึงกับฉีกยิ้มเพราะความซื่อของคนคนนี้

      and    your  name ”  คราวนี้เป็นฮันคยองที่ถามบ้าง

    “chim   changmin ”   ชางมินแนะนำชื่อแล้วยิ้มน้อย    พลางยื่นมือให้ฮันคยองเป็นการทำความรู้จัก   ฮันคยองเกาจมูกน้อย    ก่อนจะจับมือชางมินตอบ  บทสนทนาของทั้งสองดำเนินต่อไปเรื่อย     จนกระทั่ง  ชางมินพุดอะไรบางอย่างที่ฮันคยองฟังไม่ออก  และชางมินก็จูงมือฮันคยองไป...........ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน   แล้วเขาจะพาเราไปไหน  แล้วทำไมเราถึงเลือกที่จะเดินตามไปอย่างไม่ขัดขืน   เพิ่งเจอกันครั้งแรกแท้      แล้วอีกอย่างทำไมเราถึงวางใจที่จะคุยกับเขาล่ะ   แม้กระทั่งเพื่อนที่คบกันมาเป็นปี ๆ  ยังทำให้เขาต้องมาเหยียบบนแผ่นดินที่ไม่ใช่แผ่นดินของพ่อแม่เขาอีก   แล้วชายคนนี้เราจะไว้ใจเขาได้มากสักแค่ไหนกันนะ ...........  ฮันคยองคิดพลางเดินตามชางมินที่จูงมือเขาอยู่

    >>>Honey  club<<<

    ชางมินจูงมือฮันคยองเข้าไปในห้องที่ป้ายหน้าห้องติดไว้ว่า   ผู้จัดการ

    พี่ฮีชอลครับผมมีเรื่องให้ช่วย   ชางมินพูดกับชายที่นั่งอยู่หลังเก้าอี้โต๊ะผู้จัดการ   คนที่ถูกเรียกจึงค่อย    หมุนเก้าอี้กลับมา

    คุณชางมินมีอะไรให้พี่ช่วยบอกมาได้เลยครับ  ฮีชอลผู้จัดการหน้าสวย  สวยซะจนบางครั้งแขกในร้านคิดว่าเป็นเสาวเสริฟจนแอบแต๊ะอั๋ง  แต่ก็ถูกผู้จัการคนสวยเล่นงานจนหงายหลังหาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย   หันมาตอบชางมิน

      ผมฝากเพื่อนทำงานหน่อยสิครับ

      เพื่อน    ฮีชอลทวนคำพลางเสหน้าไปมองฮันคยองที่ยืนซ้อนหลังชางมินอยู่

      คนที่อยู่ข้างหลังคุณชางมินน่ะหลอครับ

      ครับ 

      ตำแหน่งไหนดีล่ะครับ     ฮีชอลถามชางมินเพราะชางมินไม่เคยพาเพื่อนมาฝากเขาทำงาน  เพราะเพื่อนชางมินแต่ละคนที่เขารู้จักเป็รเศรษฐีระดับประเทศทั้งนั้น  แต่นี่คัยกันไม่ยักกะเคยเห็นหน้า

    ผู้ช่วยพี่ฮีชอลได้มั้ยครับ  เพราะ  เขาบอกว่าเขาจบบริหารมา   ชางมินดูจะถูกชะตากับชายคนนี้เป็นพิเศษ

      ได้สิครับ  ถ้าคุณชางมินต้องการอย่างนั้น  ฮีชอลตอบแล้วยิ้มให้ชางมินแบบมีเล่ห์ศนัย

      พี่ฮีชอลยิ้มอะไรครับ    ชางมินรีบท้วงทันที

      เปล่าครับ    

      เออ...แต่ว่าพีฮีชอลครับฮันคยองเขาพูดเกาหลีไม่ได้น่ะครับ  เขาเป็นคนจีน  แต่พูดอังกฤษเก่งมากครับ  เดี๋ยวระหว่างเดือนสองเดือนนี้ผมตกลงกับเขาแล้วว่าจะสอนภาษาเกาหลีให้ขาเอง     ชางมินร่ายยาว   ทำเอาฮีชอลยิ้มได้แต่อย่างเดียว

      ครับ   แต่ถ้าจะให้ดีพี่ว่าให้เขาพูดเกาหลีได้เร็ว    หน่อยก็ดีนะครับ  เพราะคุณชางมินก็รุ้ว่าภาษาอังกฤษพี่เป็นยังไง     ฮีชอลพูดพลางเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขินที่พูดภาอังกฤษไม่ได้เรื่องเลย

      ครับ     ก็  พี่ฮีชอลไม่ยอมเรียนเองอ่ะ 

      ก็มันยากหนิครับ    แล้วชางมินกับฮีชอลก็หัวเองร่วน  กับความบ้าบอของตัวเองและฮีชอล  ปล่อยให้ฮันคยองที่ฟังภาษาเกาหลีไม่ออกทำหน้าเหรอ  แล้วก็หัวเราะแห้ง     ตามชางมินและฮีชอล

      เดี๋ยวผมพาฮันคยองไปหาที่พักก่อนนะครับ      ชางมินยิ้มกว้างทิ้งท้าย   ก่อนจะจูงมือฮันคยองออกไป     ..........ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน   ทำไมคุณชางมินถึงดูเอาใจใส่เป็นพิเศษ   แถมยังเป็นชาวต่างชาติด้วย   มันน่าสงสัยน่ะเนี้ย........   ฮีชอลคิดพลางจัดการกับเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงานต่อ   ไม่นานมากนักที่สองคนเดินออกไปประตูห้องของผู้จัดการหน้าสวยก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง   ต่างกันแค่คราวนี้เป็นคนที่ผู้จัดการคนนี้คุ้นเคยที่สุด

      อ้าว...คุณชางมินลืมอะไรรึเปล่าครับ      ฮีชอลพูดพลางจัดการกับเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ

      แหม....คุณผู้จัดการครับขยันจังเลยนะครับ

      ............ยูเมะ........  ฮีชอลเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงก็หลุดชื่อชายที่เป็นที่รักของเขาออกมาโดยปราศจากการประมวลจากสมอง   แล้ววิ่งออกจากกองเอกสารตรงหน้า   เข้าไปกอดชายคนที่เขาเรียกว่ายูเมะ   กอดแน่นเท่ากับความคิดถึงที่เขามีให้ชายคนนี้    ยูเมะก็ไม่ได้คิดถึงฮีชอลน้อยกว่าที่ฮีชอลคิดถึงเขาเลย   ยูเมะก็กอดตอบฮีชอลแน่นมากเช่นกัน  ไม่กอดอย่างเดียวแต่อุ้มฮีชอลให้ลอยเหนือจากพื้นนิดหน่อย  แล้วหมุนช้า  เป็นการบ่งบอกว่ายูเมะก็คิดถึงฮีชอลมาก      เช่นกัน   เวลาผ่านไปโดยที่บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยสีชมพู   แห่งความสุข

      พอแล้วยูเมะ   ชั้นเวียนหัว   ฮีชอลท้วงขึ้นเมื่อรู้สึกว่ายูเมะเหวี่ยงตัวเองนานไปแล้ว    ยูเมะได้ยินดังนั้นก็หยุดการกระทำลง

      ชั้นขอโทษนายเป็นอะไรมากมั้ย   มือของยูเมะป่ายแปะอยู่บนหน้าของฮีชอล   สีหน้าแสดงความเป็นห่วงคนรักสุด    ฮีชอลก็สีหน้าติดที่จะสำออย

    ......................จุ๊บ..................  

    หายแล้ว   ฮีชอลจุ๊บปากนุ่มของคนรักไปครั้งนึง  แล้วทำหน้าทะเล้น

      นายนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ    ยูเมะพูดกับคนรักของตัวเองพลางลูบหัวฮีชอล

      ใช่...ชั้นไม่เปลี่ยน   เคยรักผู้ชายที่ชื่อยูเมะยังไงตอนนี้ชั้นก็ยังรักเค้าอยู่    ฮีชอลดูจริงจังจังทุกคำที่พูด

      ชั้นก็เหมือนกันเคยรักผู้ชายที่ชื่อคิมฮีชอลยังไงชั้นก็ยังรักเค้าอยู่     หน้าของยูเมะตอนนี้ก็ไม่ต่างฮีชอลเลย

    ฮีชอลได้ยินเช่นนี้ก็กอดยูเมะอีกรอบ   แต่กอดครั้งนี้ฮีชอลให้ความรู้สึกที่อ่อนโอนทั้งหมดถ่ายทอดมันลงไป  กอดเบา ๆ   และ  นุ่ม   เป็นกอดที่อยู่ยูเมะเคยได้รับมันก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ

      พอแล้ว....มัวแต่กอดกันอยู่อย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นกันพอดี      ยูเมะเป็นฝ่ายที่ได้สติก่อน  ทั้งสองจึงคายกอดออก  แต่พอคายกอดออกแล้วยูเมะเหลือบเห็นน้ำใส     ไหลเปื้อนแก้มสวย    ของฮีชอลจึงใช้นิ้วค่อย    ปาดมันออกเบามือที่สุด

      ไม่ร้องไห้นะครับเจ้าหญิงของผม     ยูเมะใช้สรรพนามเหมือนทุกครั้งที่เขาเรียกชายคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรัก

      พะค่ะ   เจ้าชาย      ฮีชอลยิ้มรับน้อย    ก่อนจะย่อถอดสายบัวให้ยูเมะ

      พอแล้ว  เราไปหาอะไรทานกันเถอะ    ยูเมะยิ้ม     แล้วชวนฮีชอลไปหาอะไรทานเหมือนทุกครั้งที่เขามาหาฮีชอล

    มันเพิ่ง  5   ทุ่มเองน่ะ   ชั้นนะออกไปได้ก็ต่อเมื่อคลับปิดน่ะ   ฮีชอลอธิบายให้ยูเมะฟัง

    ว้า.....แย่จัง......งี้ก็อดทานของฟรีอ่ะดิ    ยูเมะทำหน้าเสียดาย

      จริงอ่ะยูเมะเลี้ยงหรอ   เป็นวันอื่นได้ม้า......วันนี้ชั้นต้องทำงานอ่ะ    นะนะ   ฮีชอลใช้ลูกอ้อนที่เขาถนัดที่สุด

       ได้สิ....สำหรับนายได้เสมอ     และยูเมะก็ตามใจคนรักของเขาเสมอมาตลอดเช่นกัน

    ยูเมะนั่งรอฮีชอลทำงานจนเผลอหลับไป

      อ้าวหลับแล้วหรอเนี้ย     พูดพลางเหลือไปมองนาฬิกาเรือนสวยที่แขวนอยู่ที่ฝนัง  .........1.30......   ตีหนึ่งกว่าแล้วหรอเนี้ย   อืม...ม...เมื่อยจังเลย     ฮีชอลบิดตัวไปมาคลายความปวดเมื่อยทีจัดการกับเอกสารบนโต๊ะตลอด  2   ชั่วโมง

    ยูเมะ......ยูเมะ......ยูเมะ......กลับเถอะดึกแล้ว   ฮีชอลเขย่าแขนยูเมะเบา 

       อื้อ....อ.....อ    เสร็จแล้วหรอ    ถามทันทีที่ตัวเองลืมตา

    ครับ  ฮีชอลยิ้มให้น้อยก่อนจะพยุงยูเมะลุกขึ้นจากโซฟา    ไม่เป็นไรผมเดินเองได้     ให้ผมไปส่งมั้ยครับ 

    ยูเมะแกะมือของคนรักออกเบาเพราะว่าเขาเดินเองได้ไม่ได้เมาซะหน่อย 

      ไม่เป็นไรผมเอารถมา  ยูเมะกลับเถอะ   ฮีชอลจะเป็นอย่างเฉพาะเวลาอยู่กับยูเมะเท่านั้น  พูดง่าย  จะไม่เซ้าซี้   ทำให้ชายคนนี้ไม่เคยเบื่อเขาเลยตลอดเวลา  2  ปีที่คบกันมา   แล้วทั้งสองก็เดินออกจากห้องทำงานของฮีชอล   ผ่านหน้าไนคลับที่ฮีชอลดูแลอยู่   นักเที่ยวกำลังทยอยกับกลับเพราะอีกไม่นานคลับจะปิดแล้ว   แสงไฟที่เคยสว่างเชิญชวยค่อยดับลงเรื่อย  ทำให้ถนนสายที่เคยสว่างในตอนหัวค่ำตอนนี้เหลือเพียงดวงไฟไม่กี่ดวง

                                                                                          
    Thailand Web Stat

                       ใจกลางกรุงโซล  ผู้คนยังคงพลุกพล่านถึงแม้จะเป็นยามราตรีเช่นนี้ก็ตามเถอะ  ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินผ่านไปมา   ล้วนเป็นผู้คนที่เขาไม่รู้จักทั้งนั้น  แถมภาษาก็ยังไม่คุ้นเลย    และเขาจะเดินไปทางไหนต่อกันล่ะทีนี้   ชายหนุ่มชาวต่างชาติ  เดินมาเรื่อย ๆ  จนพ้นเขตที่ไม่มีผู้คนแล้ว  จึงตัดสินใจวางกระเป๋าสำพาระ  และหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ยาวข้างทางที่วางไว้สำหรับผู้คนที่เดินสัญจรผ่านไปมา 

                                                                      ประธานฮีชอลคลับ

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น

    ×