ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] .:::THE MELODY OF LOVE:::. BY SOULINA

    ลำดับตอนที่ #67 : [KRISHO] F A R - A W A Y - - - [ 1/2 ]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 243
      0
      24 ก.ย. 58

    ความทรงจำของเรา

    คำพูดทุกคำของคุณ

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้


    ผมไม่เคยลืมมันสักนาที


    กลับมาได้ไหมที่รัก…





    คิมจุนมยอนเกลียดฝน

    เพราะมันหนาวเหน็บ… และไม่น่าจะจำ

    เรื่องราวของเขากับคริสจบกันเมื่อวันฝนตก

    เขาไม่ได้ผิดหรอก…

    แต่เป็นคิมจุนมยอนคนนี้ไม่ชัดเจน




    สายฝนโปรยปรายให้ความชุ่มชื้นแก่พื้นดินไปทั่วพื้นที่… แต่สำหรับการจราจรตอนเย็นหลังเลิกงานมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง… เชื่อเถอะ ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ที่มีการจัดการการจราจรที่ดีขนาดไหน มันก็ต้องมีปัญหากันบ้าง



    ร่างเล็กของนักธุรกิจหนุ่มยืนเหม่อมองสายฝนที่ตกอยู่เบื้องนอกจากหน้าต่างกระจกใสที่มีความสูงทั้งชั้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบงัน…

    ไม่ใช่งานที่มีปัญหา… แต่เป็นเขาต่างหากที่มีปัญหา




    จนสุดท้ายไม่สามารถปล่อยวางเรื่องของใครบางคนได้ ทำให้คนตัวเล็กตัดสินใจ เก็บข้าวของบนโต๊ะให้เรียบร้อยแล้วหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว



    ใจจริงเขาอยากจะลาพักร้อนสักเดือน เพื่อทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างที่เขาทำพลาดในช่วงนี้ ทั้งการงาน และการใช้ชีวิตของเขา ตอนนี้มันเรียกว่าติดลบก็คงไม่ผิดเท่าไร



    งานก็มีปัญหาไม่พอ ยังต้องมาปวดหัวกับแฟนอีก




    คิมจุนมยอนเป็นคนชอบบริหารเสน่ห์ ทั้ง ๆ ที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังคงเที่ยวและไปนอนกับใครไปทั่วเหมือนเดิม มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ แค่เรื่องสนุกในชีวิต แต่แฟนของเขา คริสกลับไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นของเขาแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว



    พวกเขาทะเลาะกันแรงมาก เพราะคริสอยากให้เขาหยุดเสียที

    ทั้ง ๆ ที่คริสก็ไม่ต่าง… เป็นนายแบบชื่อดังที่มีสาวน้อยสาวใหญ่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ตลอด ไม่รวมถึงพวกหนุ่มน้อยหน้ามนคนหน้าตาน่ารักที่ชอบถ่ายรูปคู่ แล้วส่งมาเย้ยเขาที่เป็นตัวจริงบ่อย ๆ



    แน่นอนว่า พอมีปากเสียคิมจุนมยอนก็ระเบิดออกมาทั้งหมด ความไม่พอใจที่โดนหยาม ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะอยู่ในจุดที่คนของคนคนนั้นไม่ควรยุ่งด้วยซ้ำ แต่เปล่าเลย… คริสไม่เคยสนใจมันด้วยซ้ำ



    แบบนี้จะมาหาว่าเขาไม่ชัดเจนก็ไม่ได้

    วันนั้นคิมจุนมยอนจำได้ดี… ภาพของใบหน้าหล่อที่เรียบเฉย กับแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปจากห้อง แต่มีหรือคนที่ถือทิฐิอยู่จะเอ่ยรั้ง

    ไม่เลย… เพราะเขาไม่เคยง้อคนคนนั้นเลยสักครั้ง


    แล้วเป็นไงละ


    รอยยิ้มสมเพชปรากฏขึ้นบนดวงหน้าหวาน พร้อมกับส่ายไปมา มือเล็กยกขึ้นเสยผมอย่างลวก ๆ แล้วพยายามเค้นยิ้มให้กว้างที่สุด… แต่ยังไงมันก็ดูน่าสมเพชอยู่ดี



    คอนโดกว้างที่เคยคับแคบ ยามนี้กลับว่างเปล่า และดูกว้างกว่าเมื่อตอนอยู่คนเดียวเสียอีก… คริสจากไปแล้ว

    เหลือเพียงแต่เขา… ที่ยังคงคิดถึง



    สายฝนนั้นเย็นยะเยียบ… แต่กลับหล่อเลี้ยงเหล่าแมกไม้ให้เติบใหญ่

    ไม่เหมือนคนคนนั้น… ที่แสนเย็นชา และไม่เคยสนใจกัน


    ร่างสูงเหม่อมองสายฝนที่ตกลงสู่ผืนดินอย่างเงียบงัน… พอฝนตกทีไร คริสจะคิดถึงคนคนหนึ่งเสมอ… คนที่เขารักมาก… แต่ไม่เคยใยดีกันเลยสักนิด



    พวกเขาเจอกันในงานเลี้ยงงานหนึ่งที่บริษัทของทางจุนมยอนเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน และคนตัวเล็กคนนั้นก็รับหน้าที่เป็นคนดูและเขาที่เป็นแขกรับเชิญในงาน เพราะความรักสนุกของพวกเขา คืนนั้นจึงจบลงทีห้องสวีทในโรงแรมที่จัดงาน ใครจะเชื่อว่า ความสัมพันธ์ทางกายจะสามารถพัฒนามาเป็นความรักที่ยาวนานถึงสองปี



    แต่มันก็เท่านั้น…

    ในเมื่อเขาทั้งคู่ต่างไม่ยอมทิ้งลาย และยังสนุกกับการใช้ชีวิตไปเรื่อย


    เด็กของคริสตามจิกจุนมยอน มันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ แต่มันก็เกิด… ความสัมพันธ์ที่เริ่มดูแย่อยู่แล้ว แย่ลงไปถนัดตา…

    พวกเขาเลิกกัน



    ทั้ง ๆ ที่คริสรักจุนมยอนมาก… แต่เขาก็เลือกที่จะรักษาความทรงจำที่สวยงาม และความสุขในวันวานนั้นมากกว่า จะทำลายลง



    “มันก็แค่ความเห็นแก่ตัว” รอยยิ้มสมเพชปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา… เห็นแก่ตัวกันทั้งคู่ จะโทษใครได้



    “พี่คริสมาอยู่ตรงนี้นี่เอง” เสียงหวานของหญิงสาวเจ้าของเรือนผมยาวสีบลอนด์ถูกดัดเป็นลอนยาวถึงกลางหลัง ชุดเดรสสีหวานที่เจ้าหล่อนใส่อยู่นั้นทำให้เธอดูสวยมาก แต่คนตัวสูงกลับทำแค่เพียงเหลือบมองเล็กน้อย แล้วหันไปสนใจทัศนียภาพเบื้องหน้า

    หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วส่ายหน้าไปมากับอากัปกริยาของคนตัวสูง “ผู้กำกับบอกว่าอาจยกกองถ้าฝนยังไม่หยุดตก”



    “มันไม่หยุดหรอก…” หญิงสาวมีท่าทีงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แขนเล็กโอบรอบแขนยาวของคนตัวโตแล้วซบหน้าลง ดวงหน้าหวานนั้นหม่นแสงลง ราวกับเศร้าสร้อยเหมือนเขา



    “พี่คริสคิดถึงคุณจุนมยอนเหรอคะ”



    “พี่ไม่เคยเลิกคิดถึงเขา… น้องก็รู้ว่าพี่ทำไม่ได้” หญิงสาวฟังแล้วก็เม้มปากแน่น… เธอไม่ชอบเลยที่พี่ชายคนเดียวของเธอเป็นแบบนี้… หลังจากที่เลิกกับคนคนนั้น อาการของพี่ชายเธอดูเหมือนจะแย่ลง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงรับงาน และทุ่มเทให้กับมันเหมือนเดิม



    ทั้ง ๆ ที่คริสควรจะพักสมองและหัวใจ ไปเที่ยวในที่ไกล ๆ เสียบ้าง

    “เข้าไปก่อนนะ พี่อยากอยู่คนเดียว”


    ร่างสูงยังคงยืนอยู่ที่เดิม หลังจากน้องสาวคนเดียวที่เข้าวงการเช่นเดียวกับเขาเดินจากไปแล้ว สายฝนที่อยู่เบื้องหน้าเขาตอนนี้ จะมาจากเมฆก้อนเดียวกับที่ตกที่บริษัทของจุนมยอนหรือเปล่า



    คนขี้หนาวคนนั้น จะใส่เสื้อที่อุ่นพอไหม

    หรือจะเอาร่มออกมาด้วยหรือเปล่า ไม่หรอก… อย่างคนคนนั้น ไม่จำเป็นต้องมีร่มก็ได้ เพราะยังไง ก็ขับรถกลับคอนโดอยู่แล้วสินะ…


    ถึงคริสจะเป็นเดินหันหลังจากมา… แต่เชื่อเถอะ ว่าทุกวันนี้ไม่มีเลยสักวันที่เขาไม่คิดถึง และเป็นห่วงคนคนนั้น เพราะคริสคนนี้ยังรักจุนมยอนไม่เปลี่ยนแปลง



    “ถ้าความบังเอิญมีจริง… สายฝนคงทำให้เราได้เจอกันอีก”




    “ผมบอกให้เปลี่ยนพรีเซนเตอร์ของสินค้าตัวใหม่ไปแล้วไม่ใช่เหรอ!!” เสียงหวานตวาดลั่นห้องทำงาน เมื่อภาพที่ฝ่ายการตลาดนำมาเสนอ เกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ โปสเตอร์ และ วิธีการโปรโมชั่น บวกกับงานอีเว้นท์เล็ก ๆ ที่จะจัดขึ้นนั้นมีคริสเป็นพรีเซนเตอร์



    ใช่… เขาจำได้ว่า หลังจากที่เลิกกัน ด้วยความโมโห และอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้เขาเลือกที่จะปลดคนคนนี้ออกจากการเป็นพรีเซนเตอร์ของทางบริษัท



    เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดคือ ไม่มีเหตุผลนี่แหละ



    “แต่สัญญาที่ทางคุณคริสเซ็นต์กับทางเราเป็นแบบสิบปีนะครับ ถ้าอยู่ ๆ จะปลดเขา คงต้องมีเรื่องที่ไม่สมควร หรือ…”



    “เพราะสัญญาบ้านั่นใช่ไหม”



    “ไม่ใช่แค่เพราะสัญญาครับ... เพราะสินค้าที่กำลังจะออกวางจำหน่ายนี้ มีกลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น และตอนนี้คุณคริสกำลังเป็นที่นิยม… ก็เลย…”



    “ผมเข้าใจแล้ว… ออกไปได้” ท่านประธานตัวเล้กตัดบทพร้อมกับก้มหน้ามองจอคอมพิวเตอร์ ทำให้พนักงานคนนั้นรีบออกไปอย่างรวดเร็ว

    ถึงคิมจุนมยอนจะตัวเล็ก และดูไร้พิศสง แต่เชื่อเถอะ เขาเป็นคนที่รู้จักใช้อำนาจที่มีอยู่ในมือจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างช่ำชอง และเลือดเย็นที่สุด



    คนตัวเล็กเหลือบมองโปสเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นอย่างไม่ชอบใจสักนิด มันไม่ควรเป็นแบบนี้ เขาและคริส ไม่ควรมีเรื่องที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกันอีก ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แต่หนังสือสัญญาและความจำเป็นต่าง ๆ กลับทำให้เขาต้องไปเจอกับคนคนนั้นอีก



    ไม่ใช่ไม่อยากเจอ

    แต่เพราะยังไม่พร้อม และ ไม่รู้จะต้องทำหน้ายังไง เมื่อเจอกันต่างหาก



    เขาทำไว้เจ็บแสบมากกับคนคนนั้น และคนคนนั้นก็ทำกับเขาได้เลือดเย็นมากเหมือนกัน



    “ครับ” ในขณะที่กำลังใช้ความคิด เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น



    (มีคนมาขอพบค่ะ)



    “ผมไม่มีอารมณ์พบใครตอนนี้ ให้เขา…”



    (ไม่กล้าเหรอไง) เสียงของปลายสายที่เปลี่ยนไปทำให้คนตัวเล็กหน้าเรียบลงถนัดตา ดวงตาคู่สวยนั้น ราบเรียบและน่ากลัวยิ่งกว่าครั้งไหน



    เขาคิมจุนมยอนควรจะรู้สึกอะไรเหรอ

    ดีใจ ? เสียใจ ? หรือเจ็บปวดกันนะ




    “งั้นก็เข้ามา”




    ภายในห้องทำงานนั้นเงียบสงัด เสียยิ่งกว่าครั้งไหน ร่างสูงของคริสนั่งอยู่บนโซฟารับแขกเบื้องหน้าโต๊ะทำงานนั้นนิ่งเงียบ เฝ้ามองเรือนร่างเล็กที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน เพื่อไม่ต้องเห็นหน้าเขา



    “จุนมยอน… ได้พักผ่อนบ้างรึเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น ทำลายความเงียบภายในห้อง เจ้าของห้อง ทำแค่เพียงเหลือบตามองผู้ถามเพียงเล็กน้อย แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ



    อากัปกริยาที่ทำให้คนตัวสูงถอนหายใจยาวเหยียด แล้วเอนตัวพิงโซฟาตัวยาว อย่างเหนื่อยล้า เชื่อว่าจุนมยอนคงรู้เรื่องที่เขาได้เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบริษัทแล้วแน่ ๆ เพราะหนังสือสัญญาและอะไรหลาย ๆ อย่างถึงได้ทำให้คนตัวเล็กหงุดหงิดอย่างที่เห็น



    “ผมไม่มีเวลาพักผ่อนมากเท่าไร ลืมแล้วเหรอครับ ว่าผมเวิร์คฮาร์ดและเพลย์ฮาร์ด” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ยิ่งทำให้คริสรู้สึกไม่ดีเท่าไร…



    “พักผ่อนบ้างนะครับ ผมเป็นห่วง” แต่ก็ยังตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่นุ่มและแฝงไปด้วยความเป็นห่วง พอมาเจอกันอีกครั้ง คนที่ไปไม่เป็น ดูเหมือนจะเป็นคนที่เลือกจะเดินหนีออกไปเสียเอง



    คนตัวเล็กวางปากกาแล้วเดินอ้อมมายืนพิงสะโพกกับโต๊ะทำงานเบื้องหน้าคนตัวสูง ดวงหน้าหวานฝืนยิ้มกว้างตอบกลับ ทั้ง ๆ ที่ดวงตาคู่โตนั้นเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำสีใส



    “ถ้าเป็นห่วง… แล้วไปทำไม”




    คำถามที่ทำให้คนถูกถามปั้นหน้าไม่ถูก และทำได้แค่เงยหน้ามองดวงหน้าหวานที่พยายามยิ้มผ่านม่านน้ำตาเท่านั้น




    ฝนยังตกอยู่

    เช่นเดียวกับหัวใจทั้งสองดวง

    ที่ยังคงเจ็บปวดอยู่




    “ขอโทษ” คริสตอบด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา แล้วเบือนหน้าหนีดวงหน้าหวานที่กำลังจะเปื้อนคราบน้ำตา… เขาเกลียดแสนเกลียดน้ำตาของจุนมยอน เกลียดยิ่งกว่า คือตัวเองเป็นคนทำให้จุนมยอนร้องไห้



    “ถ้าพูดคำนั้นแต่แรก… พวกเราจะเป็นแบบนี้กันไหม…”




    “แล้วถ้าจุนมยอนยอมอ่อนแบบนี้ เราจะเป็นแบบนี้กันไหมละ” เมื่อคนที่ยอมอ่อนลงแล้วเจอแบบนี้ คริสก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพราะการทะเลาะกันครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเขาคนเดียว แต่เป็นเพราะเราทั้งคู่



    “เถียงเหรอคริส!” คนตัวเล็กขึ้นเสียงพร้อมกับมือบางที่ยกปากกาขึ้นหมายจะโยนใส่คนตัวสูง แต่เมื่อสบดวงตาคู่คมที่มองมานั้น มือเล็กก็สั่นเทาขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่



    “จะทำร้ายผมอีกเหรอ… แค่แผลจากขีดข่วนที่หลังผมมันคงไม่พอสินะ” รอยยิ้มร้ายถูกจุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ยิ่งทำให้มือเล็กกำปากกาแน่นกว่าเดิม



    “แล้ว… มีธุระอะไร” เมื่อทำอะไรไม่ได้ การเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ร่างเล็ก เบือนหน้าหนีรอยยิ้มแสนร้ายกาจนั้น แล้วเอ่ยถามออกไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไร



    ถ้าสาวความยาวต่อความยืดเมื่อเดิม มีแต่เขาที่เสียเปรียบเสียด้วย



    “เรื่องสัญญากับทางบริษัทของจุนมยอน…”



    “คุณคิม… ตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ลืมแล้วรึไง ว่าคุณเป็นคนหันหลังให้ผมก่อน” คริสเผลอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย… คิมจุนมยอนก็ยังคงเป็นคิมจุนมยอนที่แสนดื้อด้าน ในเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนเดิม กับเรื่องแค่นี้ ไม่เห็นจำเป็นต้องเอามาใส่ใจ



    แค่สนใจว่ารักกันขนาดไหนมันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือไง

    “จุนมยอน… ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ เราคงได้เลิกกันจริง ๆ แน่” พอคำว่าเลิกกันออกจากปากของคริสเท่านั้นแหละ มือเล็กก็ปล่อยปากกาด้ามนั้นลงพื้นอย่างไม่ใยดี แล้วเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้แล้วหันหลังให้คริส



    “ออกไปเถอะ วันนี้ผมยังไม่พร้อมจะคุยกับคุณ ส่วนเรื่องสัญญา… ผมขอเก็บไปคิดดูอีกที”



    “จุนมยอน!!”



    “เชิญออกไปได้แล้วครับ คุณคริส” น้ำเสียงสั่นเครือของคนตัวเล็กนั้นทำให้ร่างสูงที่ลุกขึ้น ตั้งใจจะเดินเข้าไปนั้นชะงักไปในทันที…



    จุนมยอนกำลังร้องไห้… อีกแล้ว


    “แค่พรุ่งนี้นะ… ผมให้เวลาคุณแค่พรุ่งนี้นะครับที่รัก


    พรุ่งนี้งั้นเหรอ… จะกี่วัน คริสคนนี้ยังไม่มีความมั่นใจสักนิด ว่าคิมจุนมยอนจะยอมคุยด้วยดี ๆ

    เหมือนคนคนนั้นกำลังห่างออกไปทุกที มือเล็กที่เขาปล่อยมือไปนั้น ดูสั่นเทาและแสนน่าสงสาร ทำไมกันนะ…

    ทำไมตอนนั้นคริสถึงใจร้ายกับคนที่แสนบอบบางขนาดนี้ได้ลงคอ






    ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า… เขาที่ได้ยินตารางงานมาจากอลิซก็ดีใจจนทำอะไรไม่รู้ เมื่อรู้ว่าต้องไปถ่ายโฆษณาให้กับบริษัทของจุนมยอน… ตั้งใจว่าจะเข้าไปคุยรายละเอียด พร้อมกับคุยกับเจ้าตัวด้วย



    เพราะคิดว่าคิมจุนมยอนยอมยกโทษให้แล้ว

    แต่เปล่าเลย…




    คริสไปทันตอนที่คนตัวเล็กตวาดพนักงานลั่นเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวพรีเซนเตอร์ และนั่นยิ่งทำให้เขา รู้สึกเจ็บมากกว่าเดิม… ทุกอย่างที่คิดว่าคงจะดีขึ้นแล้วนั้นพังทลายลงไปกับตา… ไม่เลย… มันยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ



    เหมือนเราห่างกันออกไปเรื่อย ๆ และไม่มีวันที่จะมาบรรจบกันอีก



    “ทำไมมันเจ็บแบบนี้วะ…”




    เขาเจ็บมาก… เจ็บกับสภาพที่ยื้อก็เจ็บ ไม่ง้อก็เจ็บ เพราะเขาสองคนรักกัน ในขณะที่ต่างก็ต้องการความเป็นส่วนตัวในไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน แต่ในเมื่อเขาเป็นคนคุมเด็กในคอนโทรลทั้งหลายไม่ได้ เขาจึงเป็นคนผิด พอหงุดหงิดกับเรื่องนี้มาก ๆ ก็เอาไปลงกับจุนมยอน



    เซ็กส์ที่รุนแรงครั้งนั้นเขายังจำมันได้ดี สิ่งที่เหลือไว้นอกจากหัวใจที่แตกสลายนั้นคือรอยเล็บของจุนมยอนที่ฝากไว้ที่กลางหลังนี่ไง… แล้วเช้าวันถัดมา เขาก็เก็บข้าวของย้ายออกจากห้อง



    ไม่มีคำเอ่ยรั้งใด ๆ จากคนตัวเล็กที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง


    แน่สิ… ก็เขาทำลายมันไปหมดแล้วนี่

    และคิมจุนมยอนไม่เคยง้อใครอยู่แล้ว… หลังจากที่เขาเดินออกไป… ไม่เคยมีการติดต่อจากร่างเล็กนี้อีกเลย จนกระทั่งวันนี้ ที่เขาเข้าไปหาจุนมยอนด้วยความดีใจ แต่กลับออกมาด้วยความเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม


    คริสทิ้งตัวนอนลงบนเตียง… การอยู่คนเดียว ทั้ง ๆ ที่เคยมีใครมันว่างเปล่า กว่าคนที่ไม่เคยมีใคร เมื่อหลับตาลง เสียงสะอื้นไห้ปนกับเสียงครางของคนตัวเล็กยังก้องอยู่ในหัว… ยิ่งตอกย้ำความผิดที่เขาทำกับจุนมยอน


    และคืนนี้… ฝนก็ยังไม่หยุดตก


    เมื่อความเครียดมาเยือนมากเกินเหตุ สิ่งที่มนุษย์เราต้องทำก็คือการจัดการกับความเครียดนั้นให้ถูกวิธี




    เรือนร่างขาวขยับตัวสอดรับจังหวะร้อนแรงที่ถูกมอบให้อย่างเต็มใจ แขนเล็กยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง แล้วรั้งใบหน้าหล่อเหลาเข้ามากดจูบที่ข้างแก้มในขณะที่สะโพกเล็กถูกมือหน้าจับล็อกแล้วขยับกายอย่างรุนแรง



    ก็แค่เซ็กส์เพื่อคลายเครียด

    ใคร ๆ ก็ทำกัน



    ปาร์คชานยอลถูกเรียกมาเพื่อการนั้นโดยเฉพาะ และเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกแย่ใด ๆ ในเมื่อมันก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมจะตาย…



    เขาก็ได้กอดคนตัวเล็กที่ถึงแม้จะมีเจ้าของแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมเลิกรากับเขา คิมจุนมยอนน่ะสุดยอดในทุก ๆ ความหมาย ทั้งความสามารถในการบริหารงาน และการบริการคู่ขาบนเตียง



    “อ๊ะ… แรง!!” เสียงหวานครางลั่น ขณะที่เขาสวนกายเข้าไปจนสุด อย่างรุนแรง ก่อนที่ช่องว่างระหว่างสองคนลดลงเรื่อย ๆ  คนตัวสูงกว่าก็พลิกให้ร่างเล็กขึ้นมาเป็นผู้คุมจังหวะเสียเอง



    “เอาที่พี่จุนมยอนชอบสิครับ” คนตัวเล็กโน้มใบหน้าลงมาดูดเนื้อเนียนที่ลำคอแกร่งแล้วเริ่มขยับสะโพกขึ้นลง ด้วยความลึกและแน่นทำให้คนตัวเล็กเผลอกัดปากตัวเอง



    ก่อนที่จังหวะร้อนแรงจะถูกบรรเลงขึ้น โดยมีมือหนาคอยประคองสะโพกสวย จนกระทั่งอารมณ์ของทั้งคู่เดินมาถึงสุดทาง

    เรือนร่างขาวนอนหอบหายใจอยู่บนอกของคนตัวสูง ปาร์คชานยอลโอบกอดร่างเล็กนั้นหลวม ๆ แล้วกดจูบลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อ



    “พอจะทำให้คนสวยของผมหายเครียดได้บ้างไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบข้างหูเรียกรอยยิ้มกว้างของจุนมยอนได้เป็นอย่างดี



    “ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น… ชานยอลก็รู้ว่าพี่รักคริสมากขนาดไหน” คำตอบที่ทำให้เจ้าของอ้อมกอดแกร่งกระชับแน่นกว่าเดิม



    “อยู่กับผม แต่ยังคิดถึงเขา… แบบนี้มันน่าน้อยใจนะครับ” จุนมยอนยื้อตัวออกจากอ้อมแขนของเด็กตัวสูง มือบางยกขึ้นแนบแก้มของชานยอลแล้วยกยิ้มกว้าง หากแต่ดวงตาคู่สวยนั้นกลับนิ่งสนิท ไม่เหมือนกับคนกำลังยิ้มเลยสักนิด  



    “พี่ไม่ชอบเด็กดื้อ… ชานยอลก็รู้”

    มือหนายกขึ้นประสานกับมือเล็กแล้วกดจูบที่หลังมือของจุนมยอนเบา ๆ ก่อนที่ปาร์คชานยอลจะกดไหล่เล็กให้แนบลงกับเตียง แล้วคร่อมร่างเล็กไว้อีกครั้ง



    “รู้สิครับ… รู้ด้วยว่า แค่รอบเดียวไม่ทำให้พี่จุนมยอนพอใจหรอก” แขนเล็กยกขึ้นโอบรอบคอของชานยอลแล้วแย้มยิ้มกว้างอย่างพอใจ



    “งั้นทำให้พี่พอใจสิ”



    สายฝนอาจทำให้อากาศเย็นลง

    แต่ไม่อาจทำให้ใจที่ร้อนรุ่มนั้นเย็นลงได้


    ปาร์คชานยอลกลับไปนานแล้ว… หากแต่ร่างเล็กของจุนมยอนยังคงนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนานิ่ง ไม่ขยับลุกขึ้นไปอาบน้ำ หรือแต่งตัวเสียที… ไม่ใช่ว่าเป็นผลจากกิจกรรมร้อนเมื่อครู่ หากแต่เป็นเพราะหัวใจที่อ่อนล้ามากกว่า การเจอกับคริสเมื่อกลางวัน ทำให้เขาเหนื่อยมากกว่าเดิม



    เขาตั้งใจว่า ถ้าต้องเลิกกันแล้ว ก็ตัดขาดกันไปเลยดีกว่า เพราะฉะนั้นถึงลั่นคำขาดให้แผนกการตลาดปลดคนคนนั้นออกจากการเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ทุกอย่างก็พังลง เมื่อเขาใช้แต่ทิฐิจนลืมมองความเป็นจริงว่า สัญญาที่คริสเซ็นต์นั้นมันมีระยะเวลากี่ปี



    ความจริงที่ยากจะยอมรับคือเขาดีใจที่คริสเดินกลับมา

    แต่เพราะทิฐิอีกนั่นแหละ ที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้


    ถ้าเรายอมคุยกันดี ๆ เสียแต่แรก เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด

    ถ้าเรายอมลงให้กันดี ๆ เสียแต่แรก เราจะเป็นแบบนี้กันไหม


    ถ้าเราต่างยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยกันสักครั้ง… เราจะทะเลาะกันไหมคริส




    คำถามที่คิมจุนมยอนทำได้แค่ปิดเปลือกตาลง แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเหมือนทำนบกันน้ำที่พังทลายลง เจ็บปวดเท่าไร ไม่เคยพูด แคร์มากเท่าไร ไม่เคยจะเอ่ยออกมา คริสไม่รู้หรอกว่า ตั้งแต่วันนั้นที่คริสเดินจากไป เขาต้องใช้เวลาเท่าไร ถึงสามารถลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง…

    และคริสกำลังทำให้มันเสียเปล่า




    “หลังเสร็จแล้วต้องไปอาบน้ำ บอกกี่ครั้งทำไมไม่เคยฟังกันบ้าง”




    เสียงทุ้มของคนที่แสนคิดถึงดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง ดวงหน้าหล่อเหลาฉายชัดถึงความเป็นห่วง คนตัวเล็กเบือนหน้าหนีแล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงแบบเด็ก ๆ เพื่อหนีคนตรงหน้า…



    “ชานยอลไม่ได้ปล่อยในสักหน่อย” ว่าพร้อมกับกำผ้าห่มแน่น… แล้วเขาก็พูดความจริง นอนกับเด็กคนนั้นบ่อยกว่าคริสอีกมั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ชานยอลจะปล่อยใน เพราะเขาไม่ยอมให้ใครมีสิทธิในตัวเขามากกว่าคริส แต่ดูคริสทำสิ ปล่อยให้เด็กในคอนโทรลส่งรูปมาให้เขาบ้าง โทรมาพูดเย้ยหยันบ้าง แบบนี้ใครจะยอม



    “ถึงแบบนั้นก็ไม่ควรนอนอยู่แบบนี้” แรงยื้อผ้าห่ม ทำให้คนตัวเล็กเม้มริมฝีปากแน่น มันดูเสียเปรียบเกินไป ที่จะเผชิญหน้ากับคริสในสภาพแบบนี้… ภาพความโหดร้ายของคนตรงยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ



    “ถ้างั้นจะให้ทำยังไง… หรือคริสจะเป็นคนอาบน้ำให้ละ” คนตัวเล็กตอบกลับ พร้อมกับออกมาเผชิญหน้ากับคนตัวสูง ดวงตาคู่โตมองจ้องเข้าไปให้ดวงตาคู่คมที่เบิกกว้างเล็กน้อยอย่างตกใจ “ลืมไปแล้วรึไง… ว่าทุกครั้งใครเป็นคนทำให้ พอมันไม่มีคนทำให้ ก็นอนอยู่แบบนี้ แล้วผิดด้วยหรือไง!!”



    คริสดูช็อกเล็กน้อยที่เขาตวาดลั่นห้อง… ดวงตาคู่โตเป็นฝ่ายเบือนหนีก่อน คนตัวเล็กคว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ใกล้มือขึ้นมาพันเอว ตั้งใจจะเดินหนี แต่กลับถูกมือหนาดึงเขากอดเสียอย่างนั้น



    จุนมยอนไม่ได้ดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนของคนตัวสูง เขาทำเพียงแค่ยืนนิ่ง ๆ ให้คริสกอดเท่านั้น ไม่มีการกอดตอบ แต่หัวใจดวงน้อยที่มักทรยศเจ้าของ กลับสั่นไหวด้วยความดีใจ



    อ้อมกอดที่แสนคิดถึง

    กลิ่นกายที่แสนคิดถึง

    คริส… ที่จุนมยอนคิดถึงเสมอ




    “รู้ไหม… ว่าคิดถึงแค่ไหน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกดจมูกลงบนข้างแก้ม แขนแกร่งที่โอบกอดคนตัวแน่นกว่าเดิม หากแต่จุนมยอนกลับพยายามยื้อตัวออก พร้อมกับเอ่ยตอบ



    “แล้วรู้ไหม ว่าคนอื่นเขาเจ็บปวดแค่ไหน ปล่อยเถอะคริส… ถ้ายังคิดไม่ได้ว่าเราควรทำยังไง ก็ปล่อย” คริสไม่ปล่อย… เขายืนคำขาดไปแล้ววันนี้ เขาก็ต้องได้คำตอบของจุนมยอนในวันนี้



    คริสเป็นคนเอาแต่ใจ… ใช่เขารู้เรื่องนี้ ไม่ว่าอะไรที่เขาอยากได้มันต้องได้

    แต่มีสิ่งเดียวที่เขาเหมือนจะได้มาแล้ว แต่กลับไม่ได้มันเสียที


    นั่นก็คือหัวใจของจุนมยอน


    “ไม่อยาก… ปล่อยไปอีกแล้ว”


    จุนมยอนเม้มปากแน่น แล้วพยายามรั้งตัวออกจากอ้อมกอดของคริส… เขาคิดถึงอ้อมกอดของคริสขนาดไหน ตัวเขาเองรู้ตัวดีที่สุด ขนาดกำลังอยู่ในอ้อมกอดของชานยอล ยังรู้สึกไม่เพียงพอ และ โหยหาแต่อ้อมกอดของคริสเลย… แล้วนับประสาอะไรกับการที่อ้อมกอดนั้นอยู่ตรงหน้าแล้ว



    ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไร… ถึงจะสามารถผละออกมาได้



    “เราเป็นแบบนี้มานานเกินพอแล้วนะ… เราไม่ควรเป็นแบบนี้ จุนมยอนก็รู้”



    “รู้… แล้วใครที่เดินจากไปก่อน ไม่ใช่คริสเหรอ…”




    จุนมยอนก็แค่น้อยใจที่โดนคนตัวสูงบอกว่าไม่ชัดเจน… ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยจูบกับใครนอกจากคริสด้วยซ้ำ แค่นี้ยังไม่รู้ มันก็ค่อนข้างจะโง่ไปหน่อยรึเปล่า



    “จุนมยอน…”



    “ทั้ง ๆ ที่คริสก็รู้ว่า ผมไม่จูบกับคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ… แต่คุณก็ยังบอกว่าผมไม่ชัดเจน ทีของคุณที่นอนกับใคร ผมยังไม่เคยจะว่าอะไร ทั้ง ๆ ที่…” คริสอาศัยช่วงที่คนตัวเล็กกำลังพูด กดริมฝีปากแนบทับอย่างแผ่วเบา ไม่มีการล่วงล้ำมากไปกว่านั้น แต่มันกลับสามารถดูดกลืนคำพูดของคนตัวเล็กได้ทันที



    ความอบอุ่นถูกส่งผ่านมาอย่างเชื่องช้า

    เหมือนคนที่กำลังบินจากไปนั้นกลับมาอีกครั้ง

    ความสุข และ เสียงหัวเราะ ในวันวานอันแสนสุขได้หวนกลับมาให้คิมจุนมยอนคิดถึงมันอีกครั้งและอีกครั้ง



    “และจูบนี้เพื่อจุนมยอนคนเดียว” คริสผละออกแล้วกระซิบชิดริมฝีปาก ความหวานในน้ำเสียงนั้นเหมือนกับวันแรก ๆ ที่เราคบกันไม่มีผิด

    ถ้านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง… จะเป็นอะไรไหมนะ


    ถ้าเขาจะยอมลงให้กันและกัน แล้วเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง




    “คริสก็บอกกับทุกคนแบบนี้” ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเดิม แต่คริสกลับรู้สึกว่าจุนมยอนกำลังอ่อนลงยิ่งกว่าเดิม คนตัวเล็กยอมซบหน้าลงบนลาดไหล่กว้าง



    “แต่ผมก็มีแฟนแค่คนเดียว”



    “แต่ผมเลิกสนุกไม่ได้หรอกนะ… อย่างน้อย ๆ ก็ภายในปีสองปีนี้…”



    “ไม่เป็นไรครับที่รัก” คริสว่าพร้อมกับกดหัวไหล่ของคนตัวเล็กให้นอนราบกับเตียงนอนกว้าง แล้วกระตุกยิ้มที่มุมปาก มันเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แสนอันตรายที่สุดเท่าที่คิมจุนมยอนคนนี้เคยเห็นมา “เพราะถ้าที่รักอยากเมื่อไร… ผมจะกดจุนมยอนให้แบบนี้ กักขังไว้ในห้องของผมไม่ให้ออกไปหาใครเลย”



    “โรคจิตที่สุด” มือเล็กยกขึ้นกั้นระหว่างเขากับคริส อีกทั้งยังเบี่ยงหน้าหลบจมูกโด่งของคนตัวโตที่หมายจะฟัดแก้มเขาอีกด้วย ได้ทีแล้วเอาใหญ่… ที่เมื่อวานนี่หางลู่เชียว



    “ก็ผมรักจุนมยอนนี่… ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมไม่ได้ฟัดกับใครเลยนะ...  นี่อยากกอดคุณใจจะขาดอยู่แล้ว” คนตัวโตกว่าไม่พอ ยังกดจูบไปที่ลาดไหลอย่างมั่นเขี้ยวอีกต่างหาก



    “แต่ผมเหนื่อยนะคริส… อาบน้ำให้ผมก่อนได้ไหมละ”



    “อาบทำไม… เดี๋ยวคุณก็ต้องอาบใหม่




    “ลุกไปเลยนะ ผมไม่นอนกับคนอย่างคุณหรอก!” มือสองข้างถูกรวบไว้เหนือหัว ในขณะที่มือหนาอีกข้างไล้ไปทั่วร่างของเขา คิมจุนมยอนเกลียดคริสตรงนี้แหละ ถ้าอยากได้เมื่อไรก็ต้องได้



    “ผมเกลียดคุณ…” คำว่าเกลียด ถูกย้ำอีกครั้ง แต่มีหรือที่คนเอาแต่ใจจะสน…



    “แต่ผมรักคุณนะที่รัก” ไม่ว่าเปล่า มือหนาข้างที่ไล้ไปทั่วตัวเขา ยกเรียวขาขาวขึ้นพาดบ่า แล้วขย้ำบั้นท้ายขาวอย่างหมั่นเขี้ยว “ที่รักของผมนี่โคตรเซ็กซี่เลยจริงไหม…”



    “ผมเกลียดคุณตรงนี้แหละคริส ถ้าคุณไม่รีบ ผมจะเกลียดคุณยิ่งกว่านี้”


    คริสยิ้มกว้างให้กับความไม่พอใจบนดวงหน้าหวานที่แดงซ่านด้วยแรงอารมณ์ แล้วก้มลงบดจูบลงบนริมฝีปากแดงระเรื่อครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเริ่มปฏิบัติง้อเมียในที่สุด




    ก็แค่คนสองคนที่มีเวลาอย่างจำกัด

    ที่เสพติดเซ็กส์มากเกินไป


    ค่ำคืนนี้เมฆฝนได้จากไปแล้ว

    ทิ้งไว้แต่เพียงท้องฟ้ากว้างที่ไร้เมฆหมอก

    กับกลุ่มดาวนับล้านที่แข่งกันเปล่งประกาย






    - T B C -

    จบนะคะะ จบจริง ๆ ไม่มีแถม วันนี้อ่ะไม่มี แถมตอนหน้าเนอะ 555555555555
    ห่างหายกับฟิคคริสโฮไปนานมาจริง ๆ ค่ะ เอาจริง ๆ ว่างงตัวเองมาก ที่ใส่ชานโฮเข้ามาสนเข็มกัน 555555555

    ตกลงกลายเป็นว่า มีสองพาร์ทนะคะ เหมือนอารมณ์ยังไม่จบดี แต่ตัดจบ ขอแก้ตัว เเดี๋ยวเขียนอีกพาร์ทให้ 5

    ติดแทก #ฟิคง้อเมีย ในทวิตเตอร์นะคะ 5555555555555555555555
    เม้าท์มอยกับเราได้ที่ @Rerenela เช่นเดิมจ้าา

    แล้วพบกันนะคะ > 3 </
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×