ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - JESSICA HAREM ( SNSD&ETC. ) -

    ลำดับตอนที่ #6 : 005 - ' DEASIC ' ❤ Coffee Shop - fin. 27/06/2013

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 612
      1
      7 ก.ย. 59







     





    ทุกๆคนย่อมมีสถานที่ที่เป็นความทรงจำของตัวเองกันอยู่แล้ว

    เพียงแต่ว่าความทรงจำนั้นจะเป็นความทรงจำที่ดีหรือไม่เท่านั้นเอง...













    คุณเคยมีความทรงจำกันมั้ย? แล้วมันเป็นความทรงจำที่น่าจดจำรึป่าว? ความจริงแล้วผมก็มีความทรงจำอย่างหนึ่งที่มันอาจจะไม่น่าจดจำแต่เพราะเธอคนนั้นคือคนสำคัญของผมมันเลยทำให้ผมไม่สามารถลืมมันได้สักที ไม่ว่าผมจะทำกี่วิธีก็ไม่สามารถทำให้ความทรงจำอันนั้นเลือนลางไปจากสมองผมได้เลย...

     

    ถามจริงๆเถอะว่ะ..ทำไมแกชอบมานั่งที่ตรงนี้ทุกวันเลยวะ?” ยองแจซึ่งมีฐานะเป็นเพื่อนสนิทของจองแดฮยอนเอ่ยปากถามอย่างสงสัยที่ทุกๆวันแดฮยอนก็จะต้องชวนเขามาดื่มกาแฟที่ร้าน Coffee Shop ทั้งที่ตัวของแดฮยอนเองเป็นคนไม่ค่อยชอบดื่มกาแฟเป็นนิสัยอยู่แล้ว

     

    ก็ป่าว แค่ไม่รู้จะไปที่ไหนดีเท่านั้นเอง...แดฮยอนตอบยองแจกลับพลางยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบเล็กน้อยก่อนจะวางลงดังเดิม

     

    แน่ใจเหรอวะว่าแกไม่มีอะไรจริงๆ?” ยองแจเอ่ยถามแดฮยอนอย่างสงสัยเพราะจากคำตอบบวกกับสีหน้าของแดฮยอนนั้นมันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ซับซ้อนมากกว่านั้น

     

    ก็อย่างที่บอกไม่รู้จะไปที่ไหนดีเลยมาที่นี่มันแปลกมากรึไง?” แดฮยอนยังคงยืนยันคำตอบดังเดิมพลางย้อนถามยองแจกลับ

     

    มันจะไม่แปลกเลยถ้าแกไม่มาร้านกาแฟปกติแกเป็นคนไม่ดื่มกาแฟจึงไม่มีเหตุผลที่แกจะมาที่นี่แกมีอะไรมากกว่าคำตอบที่แกตอบฉันเมื่อกี้รึป่าว?” ยองแจบอกเชิงอธิบายให้แดฮยอนยังและก็ยังคงไม่ละความพยายามที่จะให้แดฮยอนตอบคำถามของเขาให้กระจ่าง

     

    “...เรื่องมันก็ตั้งนานแล้วฉันไม่อยากจะคิดถึงมันว่ะแดฮยอนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเปลี่ยนไปจากเดิม ยองแจสามารถสัมผัสน้ำเสียงนั้นได้ว่าแดฮยอนกำลังรู้สึกเศร้าแค่ไหนจนไม่อยากจะเอ่ยถามต่อแต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากจะรู้เหตุผลที่แท้จริง..ที่ทำให้คนอย่างแดฮยอนเป็นแบบนี้

     

    ฉันก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นเรื่องทุกข์ใจของแกหรอกนะแต่ถ้ามันหนักใจทำไมไม่ลองระบายให้คนสักคนฟังดูล่ะ?” ยองแจบอกเชิงอธิบายให้อีกฝ่ายฟังก่อนจะเสนอความคิดให้อีกฝ่ายได้ลองพิจารณาดู

     

    ไว้วันหลังแล้วกัน..วันนี้ฉันขอตัวก่อนฝากจ่ายค่ากาแฟด้วยนะแดฮยอนบอกปัดๆก่อนจะหยิบกระเป๋าเป้แล้วลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปโดยทิ้งยองแจให้เป็นคนจ่ายค่าเครื่องดื่มของเขา

     

    โฮ่ไอ้เพื่อนบ้า!” ยองแจตะโกนต่อว่าแดฮยอนไล่หลังที่ทิ้งให้เขาต้องจ่ายค่าเครื่องดื่มเพิ่มอีก 1 ทั้งที่เขาควรจะจ่ายแค่ของเขาคนเดียว - -!

     

     

    Daehyun’s part

    หลังจากที่ผมหนีการตอบคำถามของยองแจมาได้ก็เดินเตร็ดเตร่มาเรื่อยๆจนมาหยุดที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่อยูไม่ห่างไปจากบ้านของผม ซึ่งผมก็เลือกที่จะเดินเข้าไปโดยเลือกที่จะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งไม้สีน้ำตาลอ่อน

     

    เฮอะผมไม่น่าพาไอยองแจไปที่ร้านกาแฟนั่นเลยจริงๆ ทำไมน่ะเหรอ? ผมมีความหลังที่เจ็บปวดเกี่ยวกับร้านกาแฟร้านนั้นทั้งที่สมองของผมก็เคยสั่งว่าอย่าไปที่ร้านนั้นอีก แต่หัวใจของผมกลับไม่ยอมให้ความร่วมมือทำให้ทุกๆวันผมต้องที่ร้านนั่นและก็ต้องมานั่งเจ็บใจตัวเองอย่างนี้ทุกที

     

    เฮ้อแกมันโง่จริงๆเลยนะจองแดฮยอน!” ผมต่อว่าตัวเองพลางเอามือเขกหัวตัวเองไปหนักๆหนึ่งทีเพื่อที่จะทำให้ลืมเรื่องเก่าๆที่มันเคยอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจแต่ตอนนี้มันกำลังโผล่ขึ้นมา แต่มันกลับไม่ได้ผลเลยสักนิดกลับทำให้เรื่องราวในอดีตนั้นกำลังลอยขึ้นในสมองคล้ายกับภาพยนตร์ที่เคยหยุดฉายไปแล้วกลับมาฉายอีกครั้งหนึ่ง

     

    วันนี้นึกยังไงถึงนัดฉันมาที่ร้านกาแฟ Coffee Shop ฮะ?" ผมเอ่ยปากถามจองซูยอนหญิงสาวที่มีฐานะเป็นคนรักของผม

     

    คือว่าฉันมีเรื่องอยากจะคุยนิดหน่อยน่ะ..ซูยอนตอบผมพลางส่งยิ้มจางๆมาให้ก่อนที่จะก้มหน้าพลางเปลี่ยนสีหน้าเหมือนกำลังรู้สึกอึดอัด

     

    เป็นอะไรรึป่าว? ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะซูยอน?” ผมเอ่ยปากถามซูยอนโดยที่ในใจของผมก็รู้สึกไม่ค่อยจะดีนักที่เห็นซูยอนทำหน้าแบบนี้

     

    เอ่อ...ตอนนี้เราสองคนคบกันมานานเท่าไหร่แล้วเหรอ?” แทนที่ซูยอนจะตอบคำถามให้ผมสบายใจแต่เธอดันมาถามผมกลับซึ่งคำถามก็สร้างความงุนงงระคนสงสัยให้ผมไม่ใช่น้อย

     

    ทำไมจู่ๆถึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ?” ผมเลือกที่จะยังไม่ตอบจึงเอ่ยปากถามซูยอนกลับ

     

    ตอบมาเถอะ..ซูยอนบอกเชิงคาดคั้นผมเล็กน้อย

     

    ก็ประมาณ 3 ปีกว่าๆแล้วล่ะทำไมเหรอ?” ผมยอมตอบซูยอนไปแต่โดยดีก่อนจะเอ่ยปากถามต่อ

     

    แล้วถ้าเกิดว่าวันหนึ่งนายกับฉันต้องเลิกกันนายจะเสียใจรึป่าว?” ซูยอนถามผมพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมอย่างต้องการคำตอบ

     

    มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะถ้าฉันไม่เสียใจก็หมายความว่าฉันไม่เคยรักเธอเลยน่ะสิผมตอบซูยอนเชิงติดตลกเล็กน้อยเผื่อจะช่วยลดบรรยากาศที่กำลังตึงเครียดอยู่ในขณะนี้

     

    เฮ้องั้นนายทำใจก่อนแล้วกันนะ...ซูยอนถอนหายใจออกมาก่อนจะหันมาบอกผม ซึ่งมันทำให้ผมต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยในคำพูดของเธอ

     

    หมายความว่ายังไง?” ผมไม่รอให้ความสงสัยมันวนอยู่ในหัวจึงเอ่ยปากถามออกไปทันที

     

    คือ...วันพรุ่งนี้ฉันต้องไปเรียนที่อเมริกาและก็ไม่มีกำหนดจะกลับ..ซูยอนที่ในตอนแรกพูดอ้อมค้อมกันอยู่ตั้งนานก็เริ่มพูดเข้าประเด็นทันที แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกตกใจและอึ้งในคำพูดของซูยอน ไปเรียนอเมริกา? ไม่มีกำหนดกลับ? คำพูดพวกนี้ลอยวนกันในหัวของผมเต็มไปหมด

     

    แล้วทำไมเธอถึงไม่เคยบอกฉันล่ะ?” ผมเอ่ยปากถามซูยอนอย่างคาดคั้น

     

    ฉันแค่หาเวลาที่จะบอกนายไม่ได้เท่านั้นเองและเหตุผลที่ฉันนัดนายมาที่นี่...ก็เพื่อจะบอกว่าเราสองคนน่าจะหยุดความสัมพันธ์เอาไว้เท่านี้ดีกว่าเพราะถึงเราสองคนจะสานมันต่อยังไงก็คงไม่มีประโยชน์หรอกซูยอนบอกผมด้วยท่าทีที่เย็นชาเหมือนไม่ใช่ซูยอนที่ผมรู้จัก หลังจากสิ้นคำพูดของซูยอนผมไม่สามารถทำอะไรได้เลยในตอนนี้ผมทำได้แค่อึ้งกับสิ่งที่ซูยอนเอ่ยออกมา

     

    เธอกำลังจะบอกเลิกฉันใช่มั้ยซูยอน?” ผมเอ่ยปากถามซูยอนอีกครั้งเผื่อสิ่งที่ผมคิดอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น

     

    ใช่...เราสองคนควรจะจบกันเท่านี้แล้วไปตามทางของตัวเองเถอะนะซูยอนบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่ดูไร้เยื่อใยกับผมเป็นมากก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่ผมที่พึ่งได้สติจึงรีบไปวิ่งไปกอดเอวของซูยอนเอาไว้อย่างแน่นเหมือนกลัวว่าถ้าผมปล่อยเธอไปอาจจะไม่มีโอกาสมาเจอกันได้อีก

     

    อย่าไปเลยนะซูยอน...อย่าเลิกกับฉันเลยนะ...ถึงเธอจะไปเรียนที่อเมริกาโดยไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหนแต่เราสองคนสามารถติดต่อกันได้นี่...ทำไมเธอถึงใจร้ายแบบนี้นะ...ซูยอนผมเอ่ยปากพร่ำบอกซูยอนคล้ายกับกำลังละเมอโดยขณะนั้นน้ำตาของลูกชายก็ไหลออกมาจากดวงตาของผม ส่วนซูยอนก้ไม่ต่างกันผมได้ยินเสียงร้องไห้ของเธออยู่ข้างๆหูนี่เอง

     

    ปล่อยฉันเถอะนะแดฮยอนอย่ารั้งฉันไว้เลยเพราะฉันไม่ได้รักนายแล้ว!” ซูยอนบอกเชิงขอร้องผมพลางพยายามแกะมือของผมที่กำลังโอบรอบเอวของเธออยู่

     

    โดยเมื่อสิ้นคำพูดของซูยอนผมกลับรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีแรงจะทำอะไรเลยทำให้ซูยอนสามารถแกะมือผมออกจากเอวของเธออย่างง่ายดายก่อนที่เธอเองจะเดินจากไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองผมเลยสักนิด โดยวินาทีที่ซูยอนเดินจากไปน้ำตาของผมก็เริ่มไหลรินมาอย่างหนักก่อนที่ตัวเองจะล้มลงไปนั่งกับเก้าอี้อย่างอ่อนแรง...

     

    แดฮยอนมานั่งทำอะไรตรงนี้วะ!?” เสียงของคิมฮิมชานเพื่อนบ้านของผมดังขึ้นทำให้ผมหลุดออกมาจากความคิดที่เจ็บปวดในอดีตของตัวเอง

     

    ก็แค่มานั่งเล่นเฉยๆแล้วแกมีอะไรถึงได้ส่งเสียงดังขนาดนี้ฮะ?” ผมตอบฮิมชานก่อนจะเอ่ยปากถามต่อ

     

    มาผู้หญิงมาหาแกเขารออยู่หน้าบ้านแกน่ะฮิมชานบอก

     

    ใคร?” ผมเอ่ยปากถามฮิมชานอย่างสงสัย

     

    ฉันก็ไม่รู้จักว่ะแกไปดูเองเหอะฉันไปจะไปซื้อของฮิมชานบอกก่อนที่จะเดินออกไป ส่วนผมก็ลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วเดินกลับบ้านอย่างไม่รีบร้อน ซึ่งพอผมมาเดินมาเกือบจะถึงหน้าบ้านก็พบเข้ากับหญิงสาวตัวเล็กผิวขาวราวปุยเมฆ ผมยาวสลวยสีน้ำตาลซึ่งมันทำให้ผมนึกไปถึงซูยอนผู้หญิงใจร้ายคนหนึ่งที่สร้างความทรงจำที่เลวร้ายให้กับผม

     

    มาหาผมมีอะไรเหรอคัรบ?” ผมเอ่ยปากถามผู้หญิงคนนั้นอย่างสงสัย ซึ่งเมื่อสิ้นคำถามของผมผู้หญิงคนนั้นก็หันมาพร้อมรอยยิ้มที่คุ้นชินสำหรับผมใช่แล้วล่ะผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก...จองซูยอน

     

    พี่แดฮยอนใช่มั้ยคะ? :)” แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจก็คือผู้หญิงตรงหน้ากลับทักชื่อผมที่ดูแปลกไปพลางฉีกยิ้มมาให้อย่างน่ารัก ตกลงซูยอนเธอกำลังทำอะไรกันแน่?

     

    ซูยอนเธอกำลังเล่นอะไรของเธออยู่ฮะ!?” ผมเอ่ยปากถามร่างบางตรงหน้าด้วยความสงสัยระคนหงุดหงิดเล็กน้อยที่ร่างบางตรงหน้าพูดกับผมเหมือนเราสองคนไม่เคยรู้จักกัน

     

    ฉันไม่ได้ชื่อซูยอนหรอกค่ะ..ซูยอนน่ะเป็นพี่สาวฝาแฝดฉันเองฉันชื่อเจสสิก้าจองค่ะ :)” หญิงสาวตรงหน้าบอกให้ผมหายสงสัยก่อนจะส่งยิ้มมาให้ตามเดิม

     

    น้องสาวฝาแฝด? ซูยอนมีน้องสาวฝาแฝดด้วยเหรอ?” ผมทวนคำพูดของร่างบางตรงหน้าก่อนจะเอ่ยปากถามให้หายสงสัย

     

    ใช่ค่ะแต่ไม่แปลกหรอกค่ะที่พี่จะไม่รู้เพราะพอฉันกับพี่ซูยอนขึ้นมัธยมต้นก็แยกกันแล้วล่ะค่ะ...เจสสิก้าที่มีฐานะเป็นน้องสาวฝาแฝดของซูยอนตอบให้ผมหายสงสัย

     

    แล้วเธอมาที่นี่ทำไมเหรอ?” ผมเอ่ยปากถามเข้าประเด็นทันที

     

    คือว่าที่ฉันมาที่นี่เพราะพี่ซูยอนสั่งมาว่าให้เอาจดหมายฉบับนี้มาให้พี่แดฮยอนความจริงแล้วฉันจะเอามาให้พี่ตั้งหลายเดือนแล้วล่ะค่ะแต่ฉันติดเรียนทุกวันเลยไม่มีเวลาเลย..แล้วก็นี่ค่ะจดหมายเจสสิก้าบอกเชิงอธิบายให้ผมฟังพลางยื่นซองจดหมายสีชมพูที่เขียนหน้าซองตรงกึ่งกลางว่าฝากถึงแดฮยอน ผมจึงรับมันมาทันทีแต่ก็ยังไม่คิดที่จะเปิดอ่าน

     

    แล้วทำไมซูยอนถึงไม่เอามาให้เองล่ะ?” ผมถามเจสสิก้าอย่างสงสัย

     

    พี่ซูยอนไม่ได้บอกพี่ก่อนที่จะกลับอเมริกาเหรอคะ?” เจสสิก้าถามผมกลับพลางขมวดคิ้วใส่ เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่?

     

    ซูยอนบอกแค่ว่าจะไปเรียนต่อที่อเมริกาเท่านั้นเองผมตอบให้ร่างบางตรงหน้าหายสงสัย

     

    เฮ้อพี่นะพี่ใจร้ายจริงๆเลยร่างบางตรงหน้าถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดบางอย่างออกมา

     

    แล้วตกลงมันมีอะไรเหรอ?” ผมเอ่ยปากถามเจสสิก้าอย่างสงสัย

     

    คือฉันว่าเราหาที่คุยก่อนดีมั้ยคะ? เรื่องมันยาวแล้วอีกอย่างตอนนี้ฉันก็เริ่มเมื่อยแล้วล่ะค่ะเจสสิก้าบอกพลางส่งยิ้มบางๆมาให้ผม เฮ้อน้องสาวกับพี่สาวแตกต่างกันจริงๆเลยนะ

     

    งั้นเข้ามาก่อนสิผมบอกเจสสิก้าพลางเปิดรั้วบ้านก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้เจสสิก้าเข้ามาก่อนที่จะปิดประตูรั้วแล้วเดินนำไปที่โต๊ะหน้าบ้านตรงลานสนามหญ้า

     

    บ้านพี่ใหญ่ดีนะคะเมื่อเดินมาถึงเจสสิก้าก็รีบวางกระเป๋าเป้ลงบนโต๊ะหินอ่อนแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หินอ่อนเข้าชุดกันก่อนจะเอ่ยชมเล็กน้อย

     

    อืม...ว่าแต่เรื่องที่เธอจะบอกคืออะไรเหรอ?” ผมตอบรับก่อนจะทิ้งตัวลงหน้าบนเก้าอี้ตรงข้ามกับร่างบางก่อนจะเอ่ยปากถามต่อ

     

    คือว่าความจริงแล้วพี่ซูยอนเธอไม่ได้ตั้งใจจะบอกเลิกกับพี่หรอกนะคะ แต่เพราะเธอมีความจำเป็น...เจสสิก้าที่ในตอนแรกเหมือนกำลังอิ่มเอมกับการจัดตกแต่งบ้านที่ผมกับซูยอนช่วยกันจัดสรรก่อนเริ่มเปิดปากเล่าต่อแต่เธอกลับเว้นวรรคเล็กน้อยทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามต่อ

     

    ความจำเป็นอะไรกัน!?”

     

    คือพี่ซูยอนเธอเป็นมะเร็งในลำไส้ซึ่งตัวของพี่ซูยอนเองก็มีเวลาเหลืออีกไม่กี่เดือน แล้วเรื่องนี้พี่ซูยอนก็เคยโทรมาปรึษาฉันว่าควรจะบอกเลิกพี่ไปดีมั้ย..ซึ่งฉันไม่เห็นด้วยเลย แต่พี่ซูยอนเธอกลับไม่ฟังที่ฉันพูดแล้วก็กลับไปที่อเมริกาแล้วประมาณ 1 เดือนเธอก็สิ้นลมค่ะ...เจสสิก้าอธิบายให้ผมฟังอย่างละเอียดจนทำให้ผมอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ซูยอนเสียแล้วงั้นเหรอ? O_O

     

    เธอพูดว่าอะไรนะ!?” ผมเอ่ยปากถามเจสสิก้าอีกครั้งหนึ่งเผื่อเรื่องเมื่อกี้อาจจะเป็นความฝันหรือผมอาจจะหูฝาดไปเองก็ได้

     

    พี่ซูยอนเธอเสียแล้วค่ะ แล้วก็จดหมายนั่นพี่ซูยอนก็เขียนก่อนจะสิ้นลมหายใจได้ 3 วันแล้วเธอก็สั่งเสียกับฉันว่าให้เอาจดหมายนี้มาให้พี่เจสสิก้ายังยืนคำเดิมก่อนที่จะบอกถึงจดหมายที่อยู่ในมือของผม

     

    ยังไงพี่ก็เปิดอ่านมันด้วยนะคะเพราะพี่ซูยอนเธอกำชับฉันว่าพี่ต้องเปิดอ่านให้ได้ วันนี้ฉันก็มีธุระกับพี่เท่านี้แหละค่ะฉันขอตัวก่อนนะคะ :)” เจสสิก้าบอกเชิงกำชับผมเล็กน้อยเรื่องจดหมายก่อนที่เธอเองจะขอลากลับบ้านไปทิ้งให้ผมอยู่เพียงคนเดียวพร้อมกับจดหมายที่ซูยอนฝากเจสสิก้าเอามให้ผม

     

    ผมที่กำลังจะเปิดอ่านจดหมายนั่นแต่ต้องชะงักเมื่อนึกถึงคำพูดของเจสสิก้า ผมไม่อยากจะเชื่อว่าซูยอนเธอจะเสียไปแล้วหรือว่าความจริงเธอยังรักผมอยู่ ผมนี่มันโง่จริงๆเลยนะ โง่ที่เคยต่อว่าซูยอนต่างๆนานาเป็นเวลาเกือบ 1 ปีเต็ม ผมนี่มันเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ...ขอโทษนะซูยอน

     

    หลังจากที่ผมต่อว่าตัวเองเสร็จก่อนเลือกที่จะเปิดอ่านจดหมายนั่นทันทีโดยเนื้อความของจดหมายมีความว่า

     

    ถึง แดฮยอนที่รัก

              ตอนนี้นายเป็นยังไงบ้าง? สบายดีใช่มั้ย? ฉันขอโทษด้วยนะที่ทำร้ายจิตใจของนายด้วยการบอกเลิกทั้งที่นายยังไม่ทันตั้งตัวแต่เพราะว่าฉันอยากให้นายลืมฉันไปโดยเร็วแต่ฉันกลับไม่เคยลืมนายออกไปจากหัวใจได้เลยสักครั้ง...ฉันขอโทษนะที่ไม่ยอมบอกความจริงนายไปว่าฉันสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ไม่กี่เดือนแต่ที่ฉันไม่ยอมบอกนายไปเพราะไม่อยากให้นายต้องมาเป็นห่วง หรือเป็นทุกข์กับฉันอีกฉันอยากให้นายมีชีวิตที่ดีกับผู้หญิงที่พร้อมใช้ชีวิตกับนายไปจนสิ้นลมหายใจ...ยังไงฉันก็หวังว่านายจะไม่โกรธฉันนะและดูแลสุขภาพตัวเองด้วยล่ะ และถ้าเป็นไปได้ก็หาผู้หญิงคนอื่นมาเป็นแฟนได้แล้วนะอย่ารอฉันอีกเลยเพราะมันคงไม่มีวันนั้นอีกตลอดไปแล้วล่ะ....

     

    จาก จองซูยอน

     

    หลังจากที่ผมอ่านเนื้อความจดหมายจบน้ำตาของผมก็ไหลออกมาโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยและมันทำให้ผมคิดได้ว่าผมเป็นผู้ชายที่ไม่ดีเลยทั้งที่ซูยอนเขาหวังดีกับผมแต่ผมกลับไม่เห็นความหวังดีของเธอเลย ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปดูแลเธอให้ดีที่สุดไม่ว่าเธอจะบอกเลิกผมหรือจะทำร้ายผมยังไงก็ตาม

     

    ซูยอนฉันอยากจะขอโทษเธอที่เคยต่อว่าเธอมาตลอด ฉันขอให้เธอไปสู่ชาติภพที่ดีและถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เธอและฉันได้อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า และฉันต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่สามารถทำตามที่เธอขอได้ นั่นคือให้ฉันไปมีผู้หญิงคนใหม่เพราะว่าทั้งหัวใจของฉันได้มอบให้เธอไปหมดแล้วมันไม่เหลือที่ว่างให้ใครอีกแล้วล่ะ...

     

    ไม่ว่าเธอจะได้ยินหรือไม่ได้ยินแต่ฉันจะบอกเธอว่า...ฉันรักเธอ รักไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และจะรักเธอตลอดไปจนกว่าฉันจะสิ้นลมหายใจเหมือนกับเธอ...

















    …The End…














    #จบแล้วค่ะ TT จบได้เศร้าและห่วยมากบอกแล้วว่าหักมุม 55555

    อย่างที่บอกอย่างเอาอะไรกับฟิคเรื่องนี้เลยแค่อยากแต่งดราม่า

    ไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีถูกใจกันมั้ยแต่ก็สุดความสามารถแล้วล่ะค่ะ

    ยังไงก็เจอกันเรื่องหน้านะคะ ขอเม้นเป็นกำลังใจหน่อยเน้อ!






     
    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×