ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาโจร

    ลำดับตอนที่ #20 : บทเรียนที่ 18 ผู้ชนะ - ดีว่า หรือไซโคร แนช ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.36K
      58
      5 เม.ย. 48

                                                     บทเรียนที่ 18     ผู้ชนะ - ดีว่า หรือไซโคร แนช ?







                

                   “ กระบวนท่าที่สิบสาม วายุพิชิตอัสนี  “  

                  คำพูดนี้เมื่อออกมาจากปากของดีว่าแล้ว คล้ายกับมีพลังพิเศษขุมหนึ่งพุ่งออกตามมาด้วย     ขณะนี้โลกคล้ายหยุดนิ่งลงอีกครั้งหนึ่ง        นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากจะคาดเดาได้เลยว่าใครจะเป็นผู้ชนะกันแน่ ?

                  วาได้แต่ยืนนิ่งมองทางไซโคร แนช ทีและดีว่าที    หากมีคนให้เขาพนันข้างใดข้างหนึ่งแล้วละก็เขาขอยอมไม่พนันเลยเสียดีกว่า    เนื่องจากโอกาสที่เขาจะได้นั้นมีเพียงแค่ ห้าสิบต่อห้าสิบเท่านั้น    

                   มีบ้างบางคนบอกว่าการพนันถ้าเราไม่เป็นฝ่านเสียเปรียบบ้างแล้วละก็  การพนันก็จะไร้ซึ่งรสชาติ   บางคนถึงกับไม่เรียกว่าเป็นการพนันเลยก็ว่าได้      มีบ้างบางคนบอกว่าการพนันหากไม่มั่นใจถึงระดับเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ต่อสามสิบเปอร์เซนต์แล้วอย่าได้พนันเลยจะดีกว่า    

                   แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดี  การพนันไม่ใช่สิ่งที่ดี  อย่างคำกล่าวที่บอกว่า  “ การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย “ นั่นเอง          

                   แล้วสำหรับท่านเองละ  ถ้าหากเลือกได้ละก็จะเลือกใครเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้กันแน่ ?

                  

                   เลือก 1   ไซโคร แนชชนะ

                เลือก 2    ดีว่าชนะ



                  (  หมายเหตุ ; การเลือกทั้งสองทางเลือกนี้ไม่ว่าท่านจะเลือกให้ใครชนะก็ตามจะไม่มีผลต่อตัวเนื้อเรื่องแต่อย่างใด  )

                

                  

                   เลือก 1    ไซโคร แนชชนะ

                  

                   ในที่สุดความสงบนิ่งก็ยุติลงแล้ว  เมื่อดีว่าเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตี       ความรวดเร็วในการจู่โจมออกนั้นเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเลยทีเดียว         ส่วนไซโคร แนชเบิกตาพร้อมตั้งท่าเตรียมรับการจู่โจมอยู่แล้ว  

                    ดีว่านั้นเมื่อพุ่งถึงตัวไซโคร แนชได้ก็ใช้ออกด้วย กระบี่ท่าวายุพิชิตอัสนี    กระบวนท่าใช้ออกด้วยความรวดเร็ว  ไร้ทิศทางจับได้ราวกับสายลมสมชื่อกระบวนท่าจริงๆ  

                   หากไซโคร แนชไม่ถึงสมาธิออกมาใช้อย่างเต็มที่แล้วละก็  ยากที่จะปัดป้องการโจมตีของดีว่าได้เลยทีเดียว  

                  “ มีเท่านีแองรึ กระบวนท่าวายุพิชิตอัสนี สายลมหรือจะสามารถพิชิตสายฟ้าได้ ”

                  “ พิชิตได้หรือไม่ได้ไว้ถึงตอนนั้นก็รู้ผลเองละครับ ”

                  ทั้งสองแม้ต่อสู้กันอย่างสุดความสามารถแต่ก็ยังไม่วายแอบพูดคุยกันบ้าง     หากตอนนี้ไม่ว่าไซโคร แนชหรือดีว่าเสียสมาธิแม้แต่นิดเดียว   คนนั้นจะต้องเป็นฝ่ายผ่ายแพ้อย่างแน่นอน

                  กระบี่ท่อนไม้ของดีว่าคล้ายไม่ใช่กับท่อนไม้แล้ว  แต่ถึงกับคล้ายสายลมเลยทีเดียว     กระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีเคล็ดวิชาที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่ที่ความรวดเร็วเพียงอย่างเดียว  แต่กลับอยู่ที่การเคลื่อนไหวที่ไร้ทิศทาง  ซ้ายทีขวาที จู่โจมบน จู่โจมล่างสลับกันไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าที่แน่นอน ไร้ทิศทางจับได้   หรือพูดง่ายๆก็คือ ใช้หลักการไร้ลักษณ์ซึ่งเป็นสุดยอดเคล็ดวิชานั่นเอง  

                  แรกๆ นั้นวาเองก็ดูไม่ออกเหมือนกันว่า กระบวนท่านี้จะช่วยทำให้ดีว่าเอาชัยไซโคร แนชได้อย่างไร    แต่ในตอนนี้วาเริ่มดุออกแล้ว    ความเร็วในการแทงออกของกระบี่ท่อนไม้ของดีว่าเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   คล้ายกับการเกิดของพายุนั้นเอง    แรกเริ่มก่อนที่จะเกิดพายุนั้นก็เกิดจากการหมุนของลมเพียงเล็กน้อย  แต่ภายหลังเมื่อลมหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก็ก่อตัวกลายเป็นพายุในที่สุด

                  ดีว่าเมื่อแทงออกไปหนึ่งกระบี่ก็คล้ายกับมีมืองอกเงยออกมาจ้วงแทงเพิ่มอีกสองกระบี่    หากเป็นผู้อื่นแล้วละก็ไม่มีทางรับมือดีว่าได้ขึ้นขนาดนี้แล้ว   แต่ไซโคร แนชกลับแตกต่าง  แม้เป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แต่ทว่าไซโคร แนชกลับยิ้มแล้ว  

                  “ กระบวนท่าของเจ้าร้ายกาจจริงๆ  แต่คิดว่าจะใช้ไปได้ถึงเมื่อไหร่กันละ ? ”

                  ดีว่าเมื่อได้ยินคำพูดของไซโคร แนชก็ถึงกับอดทึ่งไม่ได้   ไซโคร แนชรู้ได้อย่างไรว่ากระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีมีขีดจำกัด  

                  กระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีแม้กล่าวได้ว่าเกือบถึงขั้นไร้ลักษณ์แล้วก็ตาม แต่ทว่าจุดอ่อนของกระบวนท่านี้ก็มีนั่นก็คือ  แรกเริ่มในการใช้กระบวนท่านั้นช่องโหว่จะมีมากคล้ายกับสายลมที่พัดเบาๆในตอนเริ่มแรกก่อนที่จะเป็นพายุ    ส่วนจุดอ่อนต่อไปก็คือ ผู้ที่ใช้กระบวนท่านี้ต้องรีดเร้นลมปราณจำนวนมากถึงจะใช้กระบวนท่านี้ออกมาได้   โดยต้องโคจรลมปราณไปทั่วร่างกายเพื่อเพิ่มขีดจำกัดในการต่อสู้ให้สูงขึ้น   ทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้ไร้ทิศทางเช่นสายลม   กระบวนท่านี้หากใช้จนถึงขั้นสูงสุดก็แทบเรียกได้ว่าไร้ผู้ต่อต้านเลยทีเดียว เฉกเช่นกับพายุลูกใหญ่ที่ก่อตัวขึ้น ไม่ว่าสิ่งของใดๆ ก็ไม่มีทางต้านทานแรงลมของมันได้    

                และนี่จึงนำมาสู่จุดอ่อนสุดท้ายของกระบวนท่านี้ นั่นก็คือ  กระบวนท่านี้เมื่อใช้ถึงขั้นสูงสุดแล้วจะใช้ออกได้ภายในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น     หากไม่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีอาจใช้ได้เพียงแค่ห้าวินาทีเท่านั้น      ดีว่านั้นแม้จะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี  แต่ก็ยังใช้กระบวนท่านี้ในขั้นสูงสุดได้เพียงแค่ยี่สิบวินาทีเท่านั้น   และหลังจากนั้นพลังลมปราณของผู้ใช้ก็จะลดต่ำลง จนอาจถึงขั้นหมดสิ้นเลยก็ได้   เช่นเดียวกับพายุเมื่อหมดพลังงานก็จะกลับกลายเป็นเพียงแค่สายลมเบาๆ เท่านั้นเอง

                 ไซโคร แนชนั้นเข้าใจถึงหลักการของกระบวนท่านี้  ดังนั้นจึงจงใช้ตั้งรับตั้งแต่แรกแล้ว     ในที่สุดกระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีก็ดำเนินมาถึงจุดสูงสุดของกระบวนท่าแล้ว    

                  “ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้กระบวนท่านี้ได้อีกกี่วินาทีหรอกนะครับ  ผมรู้เพียงแต่ว่าตอนนี้การโคจรลมปราณของกระบวนท่านี้มาถึงจุดสูงสุดแล้วละครับ  และผมก็คงจะต้องเอาชนะรุ่นพี่ภายในเวลาอัดจำกัดนี้ให้ได้ !!! ”

                  ในที่สุดดีว่าก็แสดงแสงยานุภาพสูงสุดของกระบวนท่านี้ออกมาแล้ว   การโจมตีออกของดีว่านั้นถึงขั้นตามองแทบไม่ทันเลยทีเดียว    พริบตานั้นเองสายลมรอบๆ บริเวณนั้นก็ก่อตัวขึ้น   การก่อตัวของสายลมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนคล้ายเป็นพายุหมุนเล็กๆ แล้ว

                    ไซโคร แนชถึงแม้ว่าจะรวดเร็วเพียงใดก็ตาม  แต่ในที่สุดก็เปิดช่องโหว่ให้แก่ดีว่าแล้ว  ทำให้กระบี่ท่อนไม้ของดีว่าฟันเข้าใส่ไซโคร แนชหลายกระบี่    ความรุนแรงของแต่ละกระบี่นั้นเรียกได้ว่า ไม่แตกต่างกัน เพราะต่างก็รุนแรงจนถึงขั้นน่าตื่นตระหนก      

                    การถูกดีว่าฟันใส่หนึ่งกระบี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ายิ้มได้   เนื่องจากผู้ที่โดนนั้นถ้าไม่ล้มลงไปนอนกับพื้นก็แทบจะหมดสติเลยก็ว่าได้   อย่าว่าแต่ถูกฟันใส่หลายกระบี่เลย  แต่ไซโคร แนชกลับยังยิ้มได้อย่างมั่นใจ    หรือว่าไซโคร แนชไม่รู้สึกเจ็บกันแน่ ?

                    สายลมรอบๆ พัดอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  แม้แต่ต้นไม้ใหญ่หน้าหอพักยังต้องพัดไปตามแรงลมของกระบวนท่านี้      

                   ในขณะที่กระบี่ท่อนไม้ของดีว่ากำลังจะฟันใส่ไซโคร แนชอีกหนึ่งกระบี่นั้นเอง  ไซโคร แนชก็หายตัวไปแล้ว           ไม่รอให้ดีว่าโจมตีออก หรือแม้แต่ขยับตัว     ดาบคู่ท่อนไม้ของไซโคร แนชก็จู่โจมออกแล้ว  ไซโคร แนชปรากฎตัวที่ด้านหลังดีว่าพร้อมกับแทงดาบท่อนไม้ใส่ตรงกลางหลังของดีว่าเบาๆ   ถึงแม้จะเบาแต่เปี่ยมไปด้วยความรวดเร็วอย่างยิ่ง              

                   เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในพริบตาเดียวเท่านั้น  แต่ก็หยุดลงภายในพริบตาเดียวเช่นกัน   ดีว่าเมื่อถูกไซโคร แนชแทงใส่กลางหลังเบาๆ หนึ่งดาบก็คล้ายกับหุ่นยนต์   ถึงกับหยุดนิ่งอยู่กับที่  

                   สายลมที่พัดอยู่รอบๆ ตัวของทั้งสองคนก็สงบลงทันที     ดีว่าที่หยุดอยู่กับที่คล้ายกับหมดสติแล้ว    กระบี่ท่อนไม้ในมือของดีว่าล่วงหล่นสู้พื้น   พร้อมกับดีว่าที่ล้มลงเช่นกัน    แต่ดีว่าไม่ได้ล้มลงไปพร้อมกับกระบี่  เนื่องจากมีมือสองข้างโอบรับตัวดีว่าไว้   เป็นมือของไซโคร แนชนั่นเอง  

                  ในที่สุดการตัดสินแพ้ชนะก็ปรากฎออกมาแล้ว   ผู้ชนะก็คือ ไซโคร แนชนั่นเอง !!!

               วาเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่า ไม่มีทางเอาชนะไซโคร แนชได้แล้ว   เขาได้แต่ทิ้งดาบลงกับพื้น  พร้อมกับค่อยๆ เดินเข้าไปหาไซโคร แนชจากนั้นก็ช่วยพยุงดีว่ามานอนพิงกับต้นไม้ใหญ่หน้าหอพัก      

                   “ รุ่นพี่คงจะไม่ร่วมทีมกับพวกผมแล้วใช่ไหมครับ ”

                   ไซโคร แนชไม่ตอบ แต่หันมาพูดกับวา

                   “ ยังเหลือเจ้าอีกคนไม่ใช่หรือ  ทำไมไม่ลองดูละ ”

                   “ มีเรื่องบางเรื่องที่บางครั้งไม่ต้องกระทำเราก็สามารถรู้ได้เองอยู่แล้วละครับ   ตอนนี้ผมไม่มีทางสู้รุ่นพี่ได้หรอกครับ ”

                   “ ถ้าตอนนี้ยังสู้ไม่ได้  งั้นเจ้าหมายถึงอีกหน่อยจะสู้ได้อย่างนั้นรึ ”

                   วาได้แต่เงียบแล้ว  ความจริงเขาไม่คิดที่จะสู้กับไซโคร แนช หรือใครตั้งแต่แรกแล้ว    

                   “ เอาละ  รอเพื่อนของเจ้าฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลังก็แล้วกัน ”

                  

                  

                      ไม่นานนักดีว่าก็ค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมา   สิ่งแรกที่ดีว่าเห็นก็คือ  วาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ  และหลังจากนั้นก็คือไซโคร แนชซึ่งยืนหันหลังอยู่  

                     ดีว่าค่อยๆ พยุงตัวขึ้น  โดยมีวาช่วยอีกเรื่องหนึ่ง

                     “ รุ่นพี่ครับผม......... ”

                     ไม่รอให้ดีว่ากล่าวต่อไซโคร แนชก็หันหน้ามาชิงกล่าวว่า

                     “ ผลการต่อสู้ก็ออกมาแล้วนะ  เจ้าเป็นฝ่ายแพ้ ”

                     “ ข้อนั้นผมเข้าใจครับ  ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องขอโทษที่ล่วงเกินไปนะครับ  เมื่อผมแพ้แล้ว ก็ต้องตามสัญญา ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวเลยก็แล้วกันนะครับ ”

                    “ ช้าก่อน  ข้าไม่ได้บอกว่าถ้าเจ้าแพ้แล้วข้าจะไม่ร่วมทีมกับเจ้านี่    ข้าเพียงแค่บอกว่า  ถ้าเจ้าอยากให้ข้าไปร่วมทีมด้วยต้องเอาชนะข้าให้ได้ ”

                    “ รุ่นพี่หมายความว่ายังไงกันครับเนี่ย ”

                    “ เห็นแก่ความพยายามของเจ้า  ข้าจะยอมร่วมทีมกับเจ้า ”

                    วาได้ยินเช่นนั้นก็ร้อง เย้ ออกมาทันที  ดูเหมือนว่าเขาจะดีใจกว่าดีว่าเสียอีก พร้อมกับกล่าวแทนดีว่า

                   “ ขอบคุณมากครับรุ่นพี่ ”

                    “ ช้าก่อนอย่าเพิ่งดีใจไปนะ ”

                   วาทำหน้างง

                  “ ทำไมหรอครับ ”

                  “ ข้าจะร่วมมือกับพวกเจ้าในฐานะตัวสำรองเท่านั้นเข้าใจไหม ”

                  “ แต่ว่าผมกะจะเป็นตัวสำรองนะครับ   รุ่นพี่เก่งกว่าผมตั้งเยอะทำไมถึงจะเป็นตัวสำรองละครับ ”

                   “ ในสัญญาไม่ได้บอกไว้ไม่ใช่เรอะ  แค่ตกลงกันว่าให้ข้าร่วมทีม   หรือถ้าเราข้องใจละก็ข้าออกจากทีมก็ได้นะ ”

                   “  ไม่ข้องใจหรอกครับ   แต่ว่า.........”

                    ดีว่าจับไหล่วา  คล้ายกับบอกให้รู้ว่าไม่ต้องพูดต่อแล้ว

                    “ ขอบคุณมากครับรุ่นพี่   แค่รุ่นพี่เข้าทีมเดียวกับผมก็ขอบคุณมากแล้วละครับ ”

                    จากนั้นดีว่าก็กล่าวต่อ

                    “ แต่ว่าผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ   รุ่นพี่รู้กระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีได้ยังไงกันครับ ”

                    “ เหอ  เรื่องแค่นี้ถ้าข้าไม่รู้แล้วละก็  ข้าคงไม่สามารถเป็นถึงพาลาดินได้หรอกนะ  อย่าว่าแต่กระบวนท่านี้เลย    อีกหลายกระบวนท่าไม่ว่าจะเป็นวิชากระบี่  ขวาน หรืออาวุธต่างๆ ข้าก็ศึกษามาเกือบหมดแล้ว  ”

                    หากเป็นคนอื่นฟังไซโคร แนชพูดแล้วละก็ต้องหาว่า เขาเป็นพวกชอบโอ้อวดตนเป็นแน่    แต่ความจริงแล้วคำพูดนี้หาได้ผิดแปลกแม้แต่น้อยเลยไม่    

                    “ ถ้าอย่างนั้นตอนที่รุ่นพี่โดนผมฟันใส่ก็หมายความว่า รุ่นพี่จงใจหรอครับ ”

                     “ ถ้าเป็นตอนนั้นไม่ได้จงใจหรอกนะ   แต่มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ”

                     “ ไม่จงใจ  แล้วรุ่นพี่ทนรับกระบี่ของผมได้ยังไงกันครับ ”

                     “ เจ้าเองก็รู้ใช่ไหมว่าจุดอ่อนของกระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีคืออะไร ”

                     “ รู้ครับ ”

                    “ กระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีไม่ใช่แค่มีระยะเวลาจำกัดในการใช้  แต่ยังต้องใช้พลังลมปราณอย่างสูงในการใช้ออกมา   โดยผู้ใช้ต้องเกร็งพลังลมปราณไปตามจุดต่างๆ ทั่วร่างกายเพื่อให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ไร้ทิศทางเช่นสายลม   ดังนั้นหากคิดจะทำลายกระบี่ท่านี้ได้นั้นก็มีเพียงไม่กี่วิธีเท่านั้น  

                  บางคนอาจรอจนกระบวนท่าใช้ถึงขีดสุด หรือพูดง่ายๆ ก็คือให้กระบวนท่านี้หยุดลงเอง  แต่คนที่คิดแบบนั้นส่วนใหญ่มักที่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้  เนื่องจากกระบวนท่านี้หากรอถึงตอนท้ายสุดของกระบี่ท่าจริงๆ แล้วละก็จะเป็นการปลดปล่อยลมปราณที่เกร็งอยู่ทุกจุดของผู้ใช้ใส่ศัตรู   ซึ่งถ้าไม่สามารถหลบได้แล้วละก็มีแต่แพ้กับแพ้แน่นอน   ถึงแม้ว่าข้าเองจะมีรีเจเนอเรเตอร์ก็ตามที ข้าก็ไม่คิดที่จะเสี่ยงรอจนถึงขั้นนั้นหรอกนะ  

                  วิธีที่ข้าใช้ทำลายกระบวนท่าเจ้าก็คงจะรู้ว่ามันก็คือ  การทำลายจุดเกร็งลมปราณ  หากผู้ใช้ทุกทำลายจุดเกร็งลมปราณไม่ว่าจุดใดจุดหนึ่งแล้วละก็กระบวนท่านี้ก็จะหยุดชะงักลงทันที   ลมปราณก็จะแตกซ่าน  นับว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญอย่างยิ่งของกระบวนท่านี้    แต่ว่าการที่จะแทงให้ถูกจุดเกร็งลมปราณนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากมีเพียงไม่กี่จุดเท่านั้น  และถ้าหากแทงพลาดไปเพียงนิดเดียวก็ไม่สามารถทำลายจุดนั้นได้  แถมอาจต้องเป็นฝ่ายผ่ายแพ้เลยก็ว่าได้        ดังนั้นวิธีนี้จึงค่อนข้างเสี่ยง   แต่ผลที่ตามมาก็คุ้มค่าเช่นกัน ”        

                    ไซโคร แนชยิ้มเล็กน้อยจากนั้นก็กล่าวต่อ

                    “ ส่วนที่เจ้าถามว่าข้าทนทานกระบี่ของเจ้าได้ยังไงกันนั่นหรอ  นั่นก็เป็นเพราะว่าตอนนั้นเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจว่าจะทำลายจุดลมปราณที่กลางหลังของเจ้ายังไงกันละ    ข้าจึงโคจรลมปราณสายฟ้าขึ้น  แต่ว่าข้าก็ยังไม่เร็วพอถูกเจ้าฟันใส่หลายกระบี่  

                 แต่ละกระบี่เจ็บเกินต้านทานก็จริงแต่เจ้าอย่าลืมว่าข้ามีวิชารีเจเนอเรเตอร์อยู่    พริบตานั้นข้าจึงจำเป็นต้องใช้รีเจเนอเรเตอร์ออกมาความเจ็บปวดก็หายไปชั่วขณะหนึ่ง   พร้อมกันนั้นก็เกร็งพลังลมปราณสายฟ้าขึ้น  ท่าที่ข้าใช้อ้อมไปข้างหลังเจ้าเรียกว่า  เทเลพอต    เป็นการใช้พลังลมปราณสายฟ้ากระตุ้นให้ร่างกายเกิดปฎิกิรินารีเฟรกขึ้น   ทำให้สามารถเคลื่อนไหวจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งด้วยความเร็วสูงกว่าปกติหลายเท่าตัวได้   ”        

                  วาเมื่อได้ยินคำว่า เทเลพอต ก็อดประหลาดใจไม่ได้

                  “ อย่างกับพวกหนังการ์ตูน หรือพวกเกมเลยนะครับ   ที่เคลื่อนที่จากอีกที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ”

                  “ เหอ  แต่เสียดายที่มันไม่ได้สนุกอย่างที่เจ้าคิดน่ะสิ   จริงอยู่ว่ามันเป็นการเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ด้วยปฎิกิริยารีเฟรก  แต่ก็อันตรายพอสมควรเลยทีเดียว  

                เนื่องจากคนปกติจะไม่มีทางเกิดปฎิกิริยารีเฟรกได้ถ้าหากไม่เจอเรื่องที่จะก่อให้เกิดปฎิกิริยารีเฟรก เช่น  กระตุกมือเมื่อถูกไฟช็อต  หรือเข่ากระตุกเมื่อถูกทุบเข้า    ดังนั้นการใช้ลมปราณสายฟ้าให้เกิดปฎิกิริยารีเฟรกได้นั้นก็จะต้องทำโดยการส่งลมปราณสายฟ้าไปถึงสมอง  ทำให้ร่างกายเกิดปฎิกิริยารีเฟรกขึ้นยังไงละ ”

                “ ฟังแล้วน่ากลัวเหมือนกันนะครับเนี่ย ”

                “ ไม่ใช่แค่น่ากลัวหรอกนะ  ถ้าหากโคจรลมปราณสายฟ้าไปที่สมองผิดพลาด หรือมากเกินไปแล้วละก็ผลที่ต้องตามมา  อย่าให้ต้องคิดเลย ”

               “ มันจะเป็นยังไงหรอครับ ”

               “ ถ้าหากผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว หรือส่งกระแสไฟฟ้าไปที่สมองมากเกินไปแล้วละก็ขั้นต่ำก็หมดสติทันที  หรือถ้าอย่างแย่ก็เป็นอัมพาตไปเลยละ ”

              “ รุ่นพี่รู้แล้ว ทำไมยังกล้าใช้อีกละครับ ”

              ไซโคร แนชมองไปที่ดีว่าพร้อมกับกล่าว

              “ ก็เพราะว่าเจ้านี่ทำให้ข้ารู้สึกไม่อยากที่จะแพ้ขึ้นมาน่ะสิ ”

               ดีว่าเมื่อได้ยินไซโคร แนชพูดเช่นนี้ก็ได้แต่ยิ้มแล้ว  

               คนเราบางคนครั้งหากเจอคู่ต่อสู้ที่ทำให้เกิดอาการไม่อยากแพ้ขึ้นมาละก็จะเปลี่ยนเป็นเข้มแข็งขึ้น   บางคนถึงกับเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเลยก็ว่าได้     เนื่องจากในใจคนเหล่านั้นล้วนไม่อยากแพ้  เมื่อใจสู้แล้วไม่ว่าอะไรสักวันหนึ่งก็จะต้องสามารถฟันฝ่าไปได้  ขอเพียงใจไม่ท้อถอยเท่านั้น









                เลือก 2   ดีว่าชนะ





              ทั้งดีว่า และไซโคร แนชยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื่อนตัวแม้แต่น้อย          กระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีของดีว่าจะสามารถพิชิตไซโคร แนชได้สมดังชื่อหรือไม่ ?

                สายลมรอบๆ ตัวของทั้งสองเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าต้องการจะมาชมการต่อสู้ของทั้งสองคนนี้ด้วย         สายตาของทั้งสองจ้องมองกันอย่างต่อเนื่องเหมือนกับว่ารอโอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามเผลอเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็จะจู่โจมออกไปทนที          แต่ดูท่าว่าทั้งสองคนจะไม่มีท่าทีว่าจะเสียสมาธิ หรือเผลอเลยแม้แต่น้อย    

                 ดีว่าเองรู้ดีว่าความจำกัดของกระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีเป็นอย่างไร    กระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีนั้นไม่เพียงแต่ต้องดึงพลังลมปราณของผู้ใช้ออกมาทั้งร่างกายส่งไปยังจุดต่างๆ   เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการเคลื่อนไหว    แต่ยังมีจุดอ่อนอีกหลายที่  เช่น  เมื่อกระบวนท่านี้สิ้นสุดพลังลมปราณของผู้ใช้จะหายไปกว่าครึ่งหนึ่ง  หรืออาจเรียกได้ว่าถ้าไม่สามารถพิชิตคู่ต่อสู้ลงได้ก่อนที่จะเสร็จสิ้นกระบวนท่าก็จะเป็นฝ่ายผ่ายแพ้ไป   และกระบวนท่านี้ก็มีข้อจำกัดของเวลาด้วยเช่นกัน   สามารถใช้กระบวนท่านี้เมื่อถึงจุดสูงสุดของกระบวนท่าได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น  

                  ดีว่าคล้ายกำลังคิดว่าควรที่จะใช้กระบวนท่านี้ออกไปจริงๆ ดีหรือเปล่า      ขณะที่เขากำลังลังเลอยู่นั้นไซโคร แนชก็พุ่งตรงมาหาเขาแล้ว    ไซโคร แนชคงไม่ต้องการให้ดีว่าใช้กระบวนท่านี้ออกมาดังนั้นจึงรอจังหวะเป็นฝ่ายจู๋โจมเพื่อทำลายไม่ให้กระบวนท่านี้ใช้ออกได้

                  ดาบท่อนไม้ทั้งสองพุ่งปราดไปยังดีว่าด้วยความรวดเร็ว   ในที่สุดกระบวนท่าวายุพิชิตอัสนีก็ถูกทำลายลงแล้ว  ตั้งแต่ที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา    ดีว่าต้องคอยรับการโมตีของไซโคร แนชไปเรื่อยๆ

                  การโจมตียิ่งมายิ่งรวดเร็ว   คราวนี้ฝ่ายที่เสียเปรียบท่าทางจะเป็นดีว่าเสียแล้ว    ดีว่าคิดเสียใจกับตัวเองที่เกิดความลังเลจนทำให้ถูกทำลายการตั้งกระบวนท่าไป    ดังนั้นตอนนี้ดีว่าได้แต่เป็นฝ่ายรับการโจมตีเสียแล้ว   เขาเองก็ยังคิดไม่ออกเช่นกันว่าจะใช้วิธีไหนเพื่อโค่นไซโคร แนช  



              

                “ วูบ !!! ”

                ดีว่าก้มหลบดาบท่อนไม้ของไซโคร แนชได้อย่างหวุดหวิด    หากเมื่อสักครู่นี้เขาช้าไปเพียงนิดเดียวละก็ผลที่ตามมาเป็นที่คาดคิดได้          

                 ทันใดนั้นเองดาบท่อนไม้ของไซโคร แนชวกกลับเข้าหาตัวดีว่าอย่างรวดเร็ว      เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว    

                 แต่สำหรับดีว่าแล้วกลายเป็นภาพที่ค่อยๆ เคลื่อนไหวเท่านั้นเอง    หรือนี่จะเป็นจุดจบของดีว่า ?   หรือว่าเขาจะไม่สามารถหลบดาบท่อนไม้นี้ได้จริงๆ ?

                

                  

                  





                     “ ปัก !!!! ”

                    เด็กชายท่าทางคล้ายดีว่าคนหนึ่งล้มลงกับพื้น   แต่ถึงกระนั้นกระบี่ในมือของเขาก็ยังคงกำแน่นอยู่ในมือ    ราวกับว่าหากกระบี่ในมือของเขาหลุดออกจากมือเมื่อไหร่แล้วละก็    ทุกสิ่งที่พยายามมาจนถึงตอนนี้ก็จะสูญสลายไปในทันที        

                   เด็กชายท่าทางคล้ายดีว่าพยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นมาจากพื้นให้ได้      ดูจากสภาพร่างกายตอนนี้แล้วนับว่าบาดเจ็บมาไม่น้อยเลยทีเดียว    

                    หากเปรียบเป็นเด็กคนอื่นแล้วคาดว่าท่าทางคงจะไม่สามารถลุกขึ้นได้แล้ว        นั่นเพราะไม่เพียงต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น     เขายังต้องต่อสู้กับสายตา

                    สายตาที่เย็นชาจ้องมองร่างของเด็กชายที่กำลังพยายามลุกขึ้นอย่างสมเพชระคนกับความเกลียดชัง     เจ้าของสายตานั้นเค้นหัวเราะอย่างเย็นชา   ราวกับไม่เข้าใจว่าเด็กชายคนนั้นจะลุกขึ้นมาอีกทำไมกัน  

                  

                      

                     เด็กชายท่าทางคล้ายดีว่าเมื่อลุกขึ้นยืนได้แล้ว  ก็ใช้มือทั้งสองข้างเกาะกุมกระบี่ของตน   แต่ถึงแม้จะใช้มือทั้งสองข้างช่วยกันแล้วก็ตาม    ก็ยังคงไม่สามารถถือกระบี่ให้มั่นได้  

                      กระบี่ในมือเด็กชายสั่นเอนไปเอนมาราวกับสามารถตกลงได้ทุกเมื่อ  

                     มีบ้างบางคนถึงแม้เจ็บปวดแสนสาหัสเพียงใด   ก็ตามคนผู้นั้นก็ยังสามารถลุกขึ้นยืนขึ้นได้เสมอ  นั่นเป็นเพราะคนผู้นั้นมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นในใจนั่นก็คือ    “ ความหวัง ”

                     เด็กชายคนนั้นก็เช่นเดียวกัน  

            

                     ชายเจ้าของสายตาเย็นชาคู่นั้นยังคงจับจ้องที่เด็กชายคนนั้นอย่างเกลียดชัง   พร้อมกับกำกระบี่ในมือแน่น        

                     “ แกนี่มันน่าสมเพชดีแท้  !!    คิดหรือว่าพี่ชายของแกจะสามารถช่วยแกได้  ”

                     ชายคนนั้นคล้ายกับพยายามสะกดความโกรธแค้นในจิตใจของตัวเองไม่ให้พลุกพล่านออกมา   แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำได้      ชายคนนั้นเตรียมพร้อมจะลงมืออีกครั้งหนึ่งแล้ว

                    “  ผมจะ........ไม่...ยอม.......ให้คุณ......มา.......ดู......ถูก........พี่ชาย.........ผม ”

                    เด็กชายพูดออกมาอย่างสุดฝืน

                    ชายคนนั้นเมื่อได้ยินก็สะกดอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่แล้ว    ตวัดกระบี่ใส่เด็กชายคนนั้นทันที  

                    สภาพร่างกายของเด็กคนนั้นตอนนี้ หรือยังจะสามารถปัดป้อง  หลบหลีกกระบี่นี้ได้อีก  

                    ย่อมไม่ได้แน่นอน

                    แต่ทว่าเด็กชายคนนั้นแม้แต่อาการพยายามจะหลบหลีกก็ไม่มีแม้แต่น้อย   กลับยังยืนนิ่งเตรียมรับกระบี่นั้นแล้วอย่างไม่เกรงกลัว  

                        



                      

                       “ ชิ้ง !!! ”

                       กระบี่ของชายคนนั้นถูกรับไว้ได้ด้วยกระบี่ของชายอีกคนหนึ่ง     ไม่น่าเชื่อว่าภายในเวลาเสี้ยววินาทีจะมีใครสามารถออกรับกระบี่นี้ได้

                      ชายเจ้าของสายตาเย็นชาตะลึงตะลานแล้ว    คราวนี้ผู้ที่ถูกจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นช้ากลับเป็นเขาเอง       ผู้ที่จ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชาก็คือ ชายผู้ซึ่งออกมารับกระบี่นั้นเอง

                     พริบตานั้นเองร่างกายของชายเจ้าของสายตาเย็นชาคล้ายชาด้าน    ดูเหมือนชายผู้ซึ่งรับกระบี่นั้นสร้างความตื่นกลัวให้เขาอย่างยิ่งยวด

                      กระบี่ของทั้งสองยังคงประสานกันอยู่เช่นนั้น   แต่ชายผู้ซึ่งออกรับกระบี่มองที่ชายผู้นั้นด้วยสายตาเย็นชาสุดจะบรรยายได้   ความโกรธ  ความเดือดดาลที่ก่อตัวขึ้นในสายตานั้นสุดที่จะบรรยายได้          

                      “ แกทำอะไรกับน้องชายของฉัน  !!!! ”

                      ชายผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา  ซึ่งดูเหมือนจะพยายามข่มกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ให้ได้        แน่นอนว่าชายอีกคนนั้นพูดไม่ออกแล้ว      

                      “ เช้ง !!! ”

                       กระบี่ในมือของชายคนแรกถูกสลัดออกไปจากมือแล้ว       กระบี่ลอยอยู่เหนือศีรษะของทั้งสอง    แต่ทันใดนั้นประกายกระบี่ก็วูบขึ้น          

                        กระบี่ที่ถูกตวัดลอยกลางอากาศเมื่อสักครู่ถูกกระบี่อีกเล่มหนึ่งตัดหักเป็นหลายท่อนแล้ว !!!

                        ชายผู้ซึ่งเพิ่งมาถึงก็คงเป็นพี่ชายของเด็กชายคนนั้นนั่นเอง  

                        เด็กชายตาแดงกล่ำค้ลายกับจะร้องไห้  แต่พยายามกลั้นเอาไว้        พี่ชายค่อยๆ ลูบหัวน้องชายตัวเองอย่างทะนุถนอมราวกับที่นั่นไม่มีชายคนเมื่อสักครู่นี้ยืนอยู่เลย      

                       สายตาของพี่ชายเปลี่ยนไปราวกับคนละคน   เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลอ่อนหนาว    ดูก็รู้ว่าเขาเองรักน้องชายตัวเองถึงเพียงไหน

                       “ อย่าร้องไห้นะ  เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งนะเข้าใจไหม ”

                        ได้ยินอย่างนี้ น้องชายกับแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว  

                        “ ดีมากๆ  เข้มแข็งไว้นั่นแหละ   ถึงจะสมเป็นน้องพี่หน่อย ”

                        พี่ชายยังคงปลอบน้องชายต่อไปโดยไม่สนว่าน้องชายเขาจะพูดกับเขาบ้างหรือไม่    และไม่สนสายตาอาฆาตที่จ้องมองมายังเขาเช่นกัน

                       “ รอสักครู่นะ พี่ขอจัดการธุระกับคนที่มารังแกน้องชายของพี่หน่อย ”

                        



                       พี่ชายสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว   กลายเป็นเย็นชาอย่างสุดๆ     แต่ว่าชายที่ถูกทำลายกระบี่ทิ้งก็เปลี่ยนไปเช่นกัน   เปลี่ยนไปเป็นแฝงแววอาฆาตอย่างบอกไม่ถูก     คล้ายลืมความเกรงกลัวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้แล้ว

                       “ แก......... แกบังอาจทำลายกระบี่สุดรักของฉัน ”

                       ชายคนนั้นกล่าวอย่างเคียดแค้นสุดบรรยาย   สายตาจับตจ้องไปยังพี่ชายราวกับอยากจะฆ่าเขา  

                       “ แค่กระบี่สวะอย่างนั้นยังน้อยเกินไป   ที่แกทำร้ายน้องชายฉัน   แกต้องชดใช้ ”

                        “ กระบี่สวะ !!!  ”           ชายคนนั้นเมื่อได้ยินคำนี้ก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว    ถ่าโถ่มออกไปคิดที่จะฆ่าพี่ชายของเด็กคนนั้นในทันที

                     หมัดของชายคนนั้นไม่นับว่าเชื่องช้าแต่อย่างใด    แต่เมื่อต่อยมาใส่พี่ชายก็กลายเป็นเชื่องช้ายิ่งแล้ว    หมัดของชายคนนั้นไม่ถูกตัวของพี่ชายเลยแม้แต่น้อย      ทำให้เขาต้องเสียหลักแทบล้มลงไป

                     “ ปัก !!! ”

                     สันมือของพี่ชายฟาดใส่สันคอของชายคนนั้นเข้าอย่างจัง    อาจจะดูไม่รุนแรงมาก    แต่ความจริงแล้วพี่ชายแทบใส่พลังทั้งหมดลงไปในฝ่ามือเมื่อสักครู่แล้ว     ยังดีที่เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ได้ไม่ใส่พลังลมปราณไปให้หมด  มิเช่นนั้นชายคนนั้นอาจจะต้องหลับไปตลอดกาล.........  

                      ชายคนนั้นล้มลงหมดสติไปในทันที  

                      พี่ชายไม่แยแสแม้แต่น้อย  เดินกลับไปหาน้องชายตัวเองอย่างช้าๆ

                      “ พี่บอกแล้วใช่ไหม  ว่าอย่าไปยุ่งกับพวกมัน    นี่ดีนะที่พี่ตามมาทัน ”

                      “ ผม.....ผมขอโทษครับ  แต่ว่าพวกมันว่าพี่นี่ครับ ”

                      พี่ชายยิ้มอย่างหายสงสาร

                      “  อืม ไม่เป็นไรนะ  งั้นเดี๋ยวพี่จะพาไปส่งที่บ้านนะ ”







          

                        “ เฮ้ย ตื่นๆๆ ”

                      ชายที่ถูกสันมือฝาดใส่ค่อยๆ ได้สติขึ้นมา        ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา   ทั้งๆที่แค่เพียงถูกสันมือไปที่สันคอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

                      “ แกไปโดนอะไรมาวะ ”  

                      ชายอีกคนท่าทางจะเป็นเพื่อนของเขาถาม  

                      “ ข้าพลาดท่าให้กับไอ้เจ้าแดชน่ะสิ ”

                      เพื่อนของเขาส่ายหน้าเมื่อได้ยิน

                      “ แกนี่เสียชื่อโรงเรียนเราหมด ”

                      พูดพร้อมกับหยิบเศษท่อนกระบี่ที่ยังหลงเหลืออยู่ขึ้นมาดู

                     “ แต่ดูท่าเจ้านั่นก็ร้ายกาจสมชื่อจริงๆ   แม้แต่กระบี่วิญญาณของแกมันยังทำลายได้ ”

                     เมื่อนึกขึ้นได้ว่ากระบี่ของตนถูกทำลาย ชายคนนั้นก็โมโหขึ้นในทันที

                      “ คอยดูเถอะ  มันจะต้องชดใช้ในสิ่งที่มันทำลงไป !!! ”

          



                     พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงยามรัตติกาล    ความมืดคล้ายถูกแสงของดวงจันทร์ส่องให้สว่างขึ้น     เด็กชายคนหนึ่งยังคงฝึกกระบี่อยู่บริเวณสวนหลังบ้านของเขาอยู่อย่างนั้น        จนกระทั่งพี่ชายของเขามาเห็นเข้า

                     “ ขยันจริงๆ นะ   อย่างนี้อีกหน่อยท่าทางจะเก่งกว่าพี่แน่เลย ”

                     “ ไม่หรอกครับ  ผมไม่มีทางเอาชนะพี่ได้หรอกครับ ”

                     พี่ชายตบหัวน้องชายเบาๆ ไปหนึ่งที

                     “ อย่าพูดอย่างนี้สิ  พี่ไม่ใช่คนเก่งหรอกนะ  พูดอย่างนี้เดี๋ยวก็เอาชนะพี่ไม่ได้จริงๆ หรอก ”

                     “ แต่ว่าพี่สามารถจัดการกับเจ้านั่นได้นี่ครับ ”

                     “ ก็เพราะว่าพี่มีคนที่จะต้องปกป้องอยู่น่ะสิ  แล้วอีกอย่างเจ้านั่นมันโตกว่าน้องตั้งหลายปีนะ ”

                     น้องชายนิ่งเงียบไปสักพัก  

                     “ ถ้าอยากเก่งเหมือนพี่ละก็   พี่จะสอนเพลงกระบี่ให้หนึ่งเพลงนะเอาไหม  เป็นเพลงกระบี่ที่ใช้ไม่ให้ใครมาข่มเหงเราได้ ”

                       “ จริงหรอครับ  อยากสิครับ  ผมอยากจะเก่ง  ผมอยากปกป้องคนที่ผมรัก  ผมไม่อยากให้ใครมาข่มเหงผม ”

                      พี่ชายยิ้ม  

                       “ แต่ต้องสัญญานะว่าจะทำตามที่พี่พูดทุกอย่าง ”

                       “ ผมสัญญาครับ ”

                       “ เพลงกระบี่ที่พี่จะสอนไม่ใช่เพลงกระบี่ธรรมดานะ  มันเป็นเพลงกระบี่ไม้ตายของพี่เลยทีเดียวละ   และมันก็ไม่ได้ฝึกฝนได้ในเวลาอันสั้นด้วยสิ   อาจบางทีต้องใช้เวลาเป็นปีเลย   แต่ถ้าฝึกแล้วต้องห้ามท้อเด็ดขาดเข้าใจไหม ”

                       “ ครับพี่  ผมจะไม่ท้อแท้   ผมจะฝึกให้ได้ไม่ว่ามันจะนานเท่าไร   และถ้าผมโตขึ้นผมจะเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่   ผมจะเข้าชมรมจ้าวกระบี่เหมือนพี่  แล้วสักวันผมจะเก่งเหมือนพี่ให้ได้ครับ ! ”

                      “ กว่าจะเข้าพี่ก็คงจะจบไปแล้วละนะ   แต่ถ้าถึงเวลานั้นอย่าเก่งเหมือนพี่นะ  ต้องเก่งกว่าพี่ให้ได้รู้ไหม ”

                      พี่ชายมองขึ้นไปยังดวงจันทร์จากนั้นก็กล่าวต่อ

                      “ เพลงกระบี่ที่พี่จะสอนให้มีชื่อว่า   หมื่นกระบี่เหริสุริยัน จันทรา ”

                      น้องชายมีท่าทีดีใจ  แต่เมื่อคิดได้เรื่องหนึ่งก็ต้องทำหน้าเศร้าขึ้นมาในทันที

                      “ แต่ว่าอีกไม่กี่วันพี่จะต้องแข่งประลองอาวุธระหว่างสถาบันแล้วไม่ใช่หรอครับ   ยิ่งพี่จะต้องสู้กับเจ้าพวกนั้นอีกด้วย   แล้วพี่มาสอนผมอย่างนี้.............”

                      “ อีกไม่กี่วันจะแข่งแล้วจะเป็นไร   จะดูถูกแดช – หมื่นกระบี่เหริที่หนึ่งแห่งชมรมจ้าวกระบี่คนนี้ไปแล้วนะ ฮ่าๆๆ  ”

                     แดชหัวเราะอย่างเล่นๆ        







                  







                     “ หมื่นกระบี่สุริยัน จันทราเหริ !!!  ”

                      ดีว่าพลันกลับมามีสติอีกครั้งหนึ่ง    ดาบท่อนไม้เมื่อสักครู่ฟาดถูกเขาอย่างจัง    ทำให้เขาล้มลงหมดสติไปเสี้ยววินาที     แต่มือของเขายังคงกำกระบี่แน่นไม่ยอมปล่อย   ร่างกายของเขาบาดเจ็บไม่น้อย

                    “ ลุกขึ้นมาสิ “   เสียงเพรียกจากส่วนลึกของจิตใจเขาพูดขึ้นมา   ดีว่าค่อยๆ ลุกขึ้นมาแล้ว     ท่าทางที่ลุกขึ้นมานั้นเหมือนกับเด็กชายคนคนนั้นไม่มีผิด      ภาพของเด็กชายคนนั้นคล้ายกับซ้อนขึ้นมาประสานรวมกับร่างของดีว่า  

                    ใช่แล้ว !!!   เด็กชายคนนั้นก็คือ ดีว่า เมื่อในอดีตนั่นเอง   เป็นดีว่าเมื่อตอนเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 2  ก่อนที่จะมาเข้าโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ !!!      

                    ไม่ว่าใครก็สังเกตได้ว่าแววตาของดีว่าเปลี่ยนไป  ไม่ใช่สายตาที่เคียดแค้น  แต่กลับเป็นสายตาที่มีความหวัง  มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ปรากฎขึ้นแล้ว  

                      

                      ไซโคร แนชได้แต่ยิ้มแล้ว  ดูเหมือนเขาจะสังเกตออกเช่นกันว่าดีว่าคงจะเอาจริง จริงๆ แล้ว

                      ดีว่าลุกขึ้นยืนพร้อมกับตั้งท่ากระบี่แล้ว    เขาแย้มยิ้มนิดหน่อย  พร้อมกับก้มหน้าเหมือนพูดอะไรอยู่กับตัวเอง

                      “ พี่ครับ ผมจะแสดงให้ดูว่าผมเข้มแข็งขึ้นแล้วนะครับ ”

                      พริบตานั้นเองร่างของดีว่าคล้ายมีเงาร่างของพี่ชายซ้อนขึ้นมาช่วยตั้งท่ากระบี่ด้วย  

                      “ เจ้านั่นคงจะเอาจริงแล้วสินะ ”

                       ไซโคร แนชคิดกับตัวเองในใจ  พร้อมกับเตรียมพร้อมเข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่งแล้ว  

                       ดีว่าโคจรลมปราณเตรียมพร้อมแล้ว        “ ไปละนะครับพี่......... ”

                       พริบตานั้นเองเงาร่างของดีว่า และไซโคร แนชพุ่งเข้าหากันด้วยความเร็วสูงราวกับนัดกันไว้      ดาบท่อนไม้ทั้งสองของไซโคร แนชฟันใส่ดีว่าอย่างรวดเร็ว   แต่ร่างของดีว่าที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าไซโคร แนชได้หายไปแล้ว            

                       ดีว่าหายไปไหนแล้วละ ?   ข้างหลัง ข้างซ้าย หรือข้างขวาของไซโคร แนชละ ?

                       ไม่ใข่ !!! ดีว่าอยู่ข้างบนต่างหาก!!!

                       ร่างของดีว่าลอยอยู่กลางอากาศ  เหตุการณ์คล้ายเปลี่ยนเป็นภาพช้าอีกครั้งหนึ่ง    แม้แต่ไซโคร แนชยังต้องตกใจกับระดับความเร็วของดีว่า

                       “ เพลงกระบี่.........!!!! ”

                   ดีว่าตะโกนขึ้นพร้อมกับร่างที่เริ่มหมุนตัวกลางอากาศด้วยความเร็วสูง   ราวกับจะหมุนเป็นสว่านเจาะลงใส่ไซโคร แนชยังไงยังงั้น    

                       “ หมื่นสุริยัน จันทราเหริ !!!! ”

                    

                       ภาพทุกอย่างคล้ายหยุดนิ่งไปกับกาลเวลา   “ พี่ครับ ผมเก่งขึ้นหรือยังครับ ”   ดีว่ายิ้มอย่างหมดแรงก่อนจะหมดสติไป  

                       แล้วไซโคร แนชละ ?

                       มีคนเดียวที่รู้เหตุการณ์นั่นก็คือ วา นั่นเอง     วาเองก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน  แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้แล้ว   แม้ไซโคร แนชจะไม่หมดสติไปก็ตาม   แต่สำหรับวาแล้วละก็……..

                       ไซโคร แนชแพ้แล้ว !!!

                        

                       ภาพที่วาเห็นเมื่อสักครู่นี้ก็คือ ดีว่ากระโดดขึ้นหมุนตัวด้วยความเร็วสูง  ปลายกระบี่ท่อนไม้กลายจะพุ่งลงใส่ไซโคร แนชในทันที     แต่ไม่ใช่เพียงท่อนเดียว  กระบี่ท่อนไม้ที่พุ่งลงใส่ไซโคร แนชคล้ายกับมีหมื่นกระบี่ !!!

                       ไซโคร แนชไม่สามารถรับการโจมตีของดีว่าได้เลยจริงๆ   ดาบท่อนไม้ทั้งสองหักออกเป็นหลายส่วน    ตัวไซโคร แนชก็ถึงกับล้มลงแล้ว   เพียงแต่ยังไม่หมดสติเท่านั้น

                        ความเจ็บปวดของไซโคร แนชตอนนี้นับว่าไม่มีคำบรรยายได้จริงๆ   นี่ถ้าเขาไม่สามารถโคจรลมปราณสายฟ้าได้ทันละก็คงต้องหมดสติไปแล้ว     เขานับว่าประมาทดีว่าไปจริงๆ  





                        ไม่นานนักเมื่อดีว่าได้สติขึ้น   ก็พบกับไซโร แนชซึ่งนั่งพิงกับต้นไม้ใหญ่หน้าพอหักกับวาแล้ว  

                       “ ผมเป็นฝ่ายแพ้สินะครับ ”

                        ดีว่าทั้งๆ ที่เพิ่งได้สติกลับถามเรื่องผลการต่อสู้ในทันที  

                       “ ไม่หรอก  คนที่แพ้น่ะข้าต่างหาก ”

                       “ จริงหรอครับเนี่ย  แต่ว่าผมหมดสติไปนะครับ ”

                       “ ไม่หรอก ข้ายอมรับว่าคราวนี้ข้าแพ้จริงๆ ”

                       “ งั้นก็หมายความว่ารุ่นพี่.........”

                       “ ตามสัญญาข้าจะร่วมทีมกับพวกเจ้าเอง ”

                         ไซโคร แนชยิ้มอย่างอบอุ่น ราวกับไม่ใช่ไซโคร แนชจริงๆ   แต่ขณะที่วากำลังจะร้อง เย้  ออกมานั้นเขาก็กล่าวต่อ

                       “ แต่ว่าข้าจะร่วมทีมในฐานะตัวสำรองเท่านั้นนะ ”

                        “ หาาา    ทำไมละครับ ”

                        วารีบถามกลับ

                        “ ก็ตามที่ตกลงกันไว้เจ้าไม่ได้บอกนี่ว่าข้าต้องเป็นตัวจริง  ข้าแค่บอกว่าชนะข้าได้แล้วข้าจะเข้าร่วมทีมด้วยเท่านั้น   หรือถ้าเจ้าข้องใจจะสู้กับข้าใหม่ก็ได้นะ  ถ้าชนะข้าได้จะยอมเป็นตัวจริง ”

                       “ มะ ไม่ละครับ  แค่ดูก็จะแย่แล้วละครับ ”

                       “ ส่วนเจ้าก็คงจะไม่ข้องใจใช่ไหม ”

                       ไซโคร แนชหันหน้าไปถามดีว่า  

                        “ ไม่หรอกครับ  แค่ได้รุ่นพี่มาร่วมทีมด้วยก็ยินดีอย่างยิ่งแล้วละครับ   แล้วอีกอย่างเมื่อกี้ผมก็เป็นฝ่าย.............”

                        “ ฝ่ายชนะ !! ”

                        ไซโคร แนชสวนขึ้นมาก่อนที่ดีว่าจะพูดจบ

                       ”  อย่าพูดว่าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้อีกเข้าใจไหม  ”  

                       “ ถ้าอย่างนั้นถือว่าผมชนะใจรุ่นพี่ก็แล้วกันละครับ ”

                       “ เจ้านี่มันดื้อจริงๆ นะ”

                       ทั้งสามหัวเราะพร้อมๆกัน   ไซโคร แนชรู้สึกว่าเริ่มสนุกกดับรุ่นน้องสองคนนี้บ้างแล้วสิ   เขาคล้ายลืมเรื่องราวในอดีตของตัวเองไปชั่วครู่





                      ดีว่าแทบไม่เชื่อเลยว่าเมื่อครู่ตัวเองสามารถเอาชนะไซโคร แนชได้  ยังไงเขาก็ยังคิดอยู่ดีว่าถ้าไซโคร แนชไม่ประมาทเมื่อสักครู่นี้   เขาอาจจะเป็นฝ่ายแพ้ไปแล้วก็ได้   แต่สิ่งที่ทำให้เขาภูมิใจที่สุดก็คือ   เขาสามารถใช้เพลงกระบี่หมื่นกระบี่สุริยัน จันทราเหริสู้กับไซโคร แนชได้

                     มันทำให้ดีว่านึกว่าพี่ชายของเขาแดช  และก็เหตุการณ์ในอดีต

                     แต่ว่าเมื่อนึกถึงตอนนี้ดีว่าได้แต่ถอนใจแล้ว    เพราะมันทำให้เขานึกถึงวันนั้นด้วย

                     วันประลองอาวุธระหว่างสถาบัน  เมื่อพี่ชายของเขาเข้ารอบชิงสี่คนสุดท้าย    ทั้งๆที่พี่ชายของเขาเป็นที่หนึ่งแห่งชมรมจ้าวกระบี่แท้ๆ    แต่กลับต้องมาผ่ายแพ้ให้แก่ชายผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างหมดท่า     ตอนนั้นเขาแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองเลย  

                      ภาพพี่ชายล้มลงต่อหน้าเขายังคงติดตา    แต่ที่ทำให้เขาแทบไม่เชื่อเลยก็คือ  คนที่สามารถล้มพี่ชายของเขาลงได้เป็นเพียงแค่เด็กมัธยมศึกษาปีที่ 3  เท่านั้นเอง        

                      วันนั้นหลังจากการประลองเสร็จสิ้น    ดีว่าก็เริ่มต้นฝึกฝีมือตนเองอย่างจริงไม่ว่าจะเป็นทั้งการเรียน และเพลงกระบี่     เขาเพียงหวังว่าสักวันจะได้ประลองกับคนที่สามารถโค่นพี่ชายของเขาลงให้ได้      

                      เขายังจำภาพเหตุการณ์หลังประลองเสร็จได้เลย   พี่ชายของเขาบาดเจ็บสาหัสแม้จะใส่ชุดเกราะก็ตาม   ทำให้ต้องพักรักษาตัวอยู่เกือบสามวัน   แสดงว่าเด็กคนนั้นมีพลังลมปราณไม่ธรรมดาทีเดียว   แถมยังเป็นมือกระบี่เช่นเดียวกันกับเขาด้วย  

                      หลังจากการประลองอาวุธได้ไม่นานนัก พี่ชายของเขาก็จบมัธยมศึกษาปีที่ 6     และพี่ชายของเขาถูกส่งให้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่นั้นมาเป็นระยะเวลาสามปีจนถึงวันนี้  เขาเองก็ยังไม่ได้พบกับพี่ชายของเขาเลย        

                      แต่สิ่งหนึ่งที่เขายังคงจำได้แม่นยำก็คือ  สิ่งที่พี่ชายบอกกับเขาไว้ในห้องพักผู้บาดเจ็บนั่นก็คือ  

                     “ พี่ขอโทษด้วยนะ  ที่พี่ไม่สามรถเอาชนะการประลองได้   แต่ขอให้รู้ไว้อย่างว่าถึงแม้เด็กนั่นจะอยู่แค่ม.3 แต่พี่ก็เอาจริงอย่างสุดความสามารถแล้ว    พี่เชื่อว่าสักวันน้องอาจจะมีโอกาสได้สู้กับเขาก็ได้  และเมื่อนั้นช่วยแก้หน้าให้พี่ด้วยนะ ”

                     พี่ของเขาพูดอย่างยิ้มๆ  แต่ดวงตาเริ่มแดงก่ำแล้ว   แสดงว่าก็เจ็บใจเหมือนกับที่ต้องพ่ายแพ้            

                     ดังนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่ดีว่าจำได้แม่นยำก็คือ       ชื่อของเด็กม.3 ที่ล้มพี่ชายของเขาได้   ใช่แล้วละ........        

                     “ เด็กผู้หญิงคนนั้นชื่อ   ซากุระ !!! “





                 ( กลับสู่เนื้อเรื่องหลักดังเดิม )    x การที่ผมได้ให้มีการเลือกเนื้อเรื่องความจริงก็แอบแฝงปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้ด้วยนะครับ   นั่นก็คือ ในชีวิตของคนเรานั้นทุกอย่างไม่ได้มีทางออกเพียงอย่างเดียว   มันสำคัญอยู่ที่การก้าวเดินของเรา   ไม่ว่าเราจะเลือกทางใดทางหนึ่งไปนั้นขอให้ก้าวไปอย่ายอมแพ้  สักวันเราก็จะผ่านไปทางนั้นไปได้สักวัน   ขอให้เป็นเพียงเป็นทางที่ดี   หรือถ้าเดินทางผิดก็สามารถเลือกเดินทางใหม่ได้   อย่างคำพูดที่ว่า   “ ชีวิตลิขิตเอง ”   x

                  และแล้วในที่สุดทีมประลองอาวุธของดีว่าก็สามารถตั้งขึ้นมาจนได้ในที่สุด    และดูเหมือนว่าอุปสรรคที่แท้จริงกำลังจะค่อยๆ เริ่มต้นขึ้นต่อจากนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงที่ชื่อ ซากุระ  หรือคู่ต่อสู้สุดโหดอีกหลายคน

                     ทีมของดีว่าจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนี้ไปได้หรือไม่   ไม่มีผู้ใดรู้     มีเพียงทางเดียวที่สามารถรู้ได้  นั่นก็คือ    เมื่อเวลานั้นมาถึงนั่นเอง !!!

                    

                    

                    

                                                 _________________________________________

                      



                    

                    

                      



                        

                          

                      

                      

                        

                        

                        

                      

          



                  

      



              

              



              

      

                

                



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×