คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Lovely Beast 23 : Chapter 21 ชอบ จีบ แฟน
Chapter 21
ชอบ จีบ แฟน
[Bang Hyojin
: Talk]
หงุดหงิด
อารมณ์แบบนี้ฉันมักจะเป็นบ่อยๆ เวลาประจำเดือนมาไม่ปกติ
และเดือนนี้เลตไปเป็นอาทิตย์ละเพื่อนรักที่ชอบสีแดงเป็นชีวิตจิตใจของฉันก็ยังไม่มา...มันทำให้ฉันโคตรจะหงุดหงิดเลยบอกตรง! แต่อะไรก็ไม่สะกิดต่อมได้เท่ากับใครบางคนที่แม่งบอกว่าชอบอาหารที่ฉันทำ
แต่แม่งก็บ่นมันทุกมื้อ!
‘เค็มว่ะเธอ’
‘เปรี้ยวเกิน ทำมะนาวหกหรอวะ’
‘นี่ไข่น้ำหรือไข่ลาวาว่ะ น้ำมันลอยเต็มเลย’
ไม่พอๆ
‘ยัยบ้า นี้ทำอาหารให้คนกินปะเนี่ย’
โอ้ย!!!! ทำให้กินแล้วยังจะบ่นอีก! แล้วไอ้ที่พูดๆ มานะ
ฉันชิมแล้วชิมอีกก็ไม่เห็นจะมีรสที่หมอนั้นว่าเลยสักนิด
คุณหญิงยุนกินก็ไม่เห็นจะบ่นสักคำ แถมเบิ้ลด้วยเอ้า!
นี่สิทธิพิเศษสูงสุดแบบโคตรๆ แล้วนะแกรรร!!
ฉันรักพี่บี้แค่ไหนยังไม่เคยมาทำให้กินทุกวันแบบนี้เลย
!
ส่วนไอ้บ้าที่ทำให้ฉันหงุดหงิดกับอาหารมื้อเช้านั้นก็นั่งฮัมเพลงกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ
อย่างอารมณ์ดีโดยไม่สนใจเลยสักนิดเดียวว่าฉันแม่งนั่งหัวโด่อยู่ตรงเนี่ย เออ
ฉันยังไม่ได้บอกช้ะ ช่วงนี้ฉันเจอแบคฮยอนบ่อยมาก
เนื่องจากดูจุนสั่งให้พาแฟนมาเปิดตัว
และทำความรู้จักกับคุณนายยุนที่อุปถัมภ์เลี้ยงดูเด็กน้อยนั้นมาตั้งแต่ยังเล็กๆ
แต่เข้าใจปะ...คือพอมีแบคฮยอนหมอนั้นก็ไม่สนใจฉันเลย
“กลับแล้วนะ”
ฉันเอ่ยบอกเสียงเรียบ แต่หมอนั้นก็ไม่ได้หันมาสนใจเท่าไหร่ ฉันเลยหยิบกระเป๋าแล้วตรงกลับบ้านของตัวเองทันที
ขนาดฉันบอกลากลับบ้านไปแล้ว
ไอ้ดำยังไม่รู้ตัวเลยค่ะ!!
พอถึงบ้านฉันก็ตรงมาที่ห้องนอนของตัวเอง
โดยมีสนใจคำทักทายของชอนดุงเลย หมอนั้นมาเยี่ยมเป็นประจำอยู่แล้วน่ะ
วันนี้คงจะแวะมาหาชอลยังน้องชายของฉัน ฉันทิ้งโทรศัพท์ในมือวางไว้ข้างๆ
ตัวอย่างหงุดหงิด ให้ตายเถอะ...คือเอาจริงๆ
ฉันก็เริ่มรู้สึกตัวนะว่าฉันเริ่มจะให้ความสำคัญกับยุนดูจุนมากไป
มากไปจนไม่รู้จะทำไงแล้ว ฉันไม่เคยมองคนอื่นสำคัญเลย นอกจากชอลยง
น้องชายของฉันและพวกกลุ่มแวมไพร์ ... แต่ฉันเริ่มน้อยใจดูจุนมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ทุกวันนี้ ฉันเริ่มจะไม่เป็นตัวเอง...
...หงุดหงิดง่าย...
..ไม่ค่อยพูดอะไร...
...หมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่ออกไปไหนเลย
จนชอลยงเองยังแปลกใจกับอาการของฉัน
น้องชายฉันเองก็เตรียมตัวจะย้ายไปเรียนที่อังกฤษอีกไม่กี่อาทิตย์ เลยยุ่งๆ
อยู่กับการเตรียมของและอะไรหลายอย่าง...แอบเหงาเหมือนกันนะ
ปกติแล้วฉันมีแค่น้องชายกับชอนดุง ที่แทบจะไม่ห่างกันเลย จู่ๆ
มาแยกกันแบบนี้...บอกตรงๆ เลย ไม่โอเคเลยวะ...
ฉันทิ้งตัวลงกับเตียง
ตามองตรงจ้องเพดานราวกับว่าจะมีอะไรร่วงลงมา
แต่ฉันกับเห็นแต่ภาพของดูจุนเต็มไปหมดจนหน้าหงุดหงิด หลับตาก็แล้ว นับแกะก็แล้ว ฉันก็ยังไม่เลิกฟุ้งซ่านสักที
โว้ยยยย! ออกไปจากหัวฉันสักทีเถอะ!!!
ก๊อกๆ
หือ?
นี่มันก็ดึกแล้วนะ...ชอลยงไปนอนกับดงอุนคืนนี้นี่นา จะมีใครมาหาฉันที่บ้านละ?
คิดได้ดังนั้นฉันก็เดินไปเปิดประตูห้องนอน
ปัง!
ฉันปิดประตูแทบจะทันที
เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือ...
แอ๊ด..
ฉันเปิดประตูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตาไม่ได้ฝาดไป
แต่แล้วฉันก็ปิดประตูเข้ามาอีกครั้งเมื่อเห็นกับสายตาคมที่จ้องมองมาที่ฉัน
ตายยากจริงๆ ว่าลิง ลิงก็โผล่มาให้เห็นเลย...
หมับ!
“จะปิดประตูทำบ้าอะไรยัยบัง!!!!”
ค่ะ
คนที่ฉันอยากจะให้สนใจที่สุด มาหาฉันถึงที่ด้วยใบหน้าบึ้งตึง
แสดงถึงอารมณ์ออกมาจากใบหน้าเข้มเต็มที่ อะไร มาโกรธอะไรฉันอ่ะ?
ฉันมองหน้าอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเนือยๆ
“อะไร
มีอะไรก็พูดมาสิ” ฉันเอ่ยบอกโดยที่ไม่ได้เชิญเขาเข้ามาในห้องแต่อย่างใด
ฉันพิงขอบประตูพลางเสมองไปทางอื่นอย่างไม่ต้องการจะเห็นหน้า ไม่สิอยากเห็น
แต่ฉันไม่พร้อมจะสบตาเขาต่างหาก
สายตาที่จ้องมาที่ฉันไม่กระพริบตอนนี้มันทำให้ฉันประหม่าจริงๆ
อย่างที่ตัวฉันเองไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ...
“กลับมาทำไมไม่บอก”
“...”
อึก ...
แอบสะอึกเล็กน้อยแฮะ... ฉันบอกแล้วป่ะวะ
“บอกแล้ว
แต่ไม่สนใจเองป่ะ แล้วจะให้ฉันทำยังไง?” ฉันเอ่ยบอกเสียงสั่นโดยไม่ตั้งใจ
“...ทำไม?”
ดูจุนมองมาที่ฉันอย่างตกใจที่จู่ๆ ฉันก็น้ำตาไหลออกมาตรงนั้นเลย
หมอนั้นแสดงท่าทีเลิกลั่กอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่จะดันฉันที่ไร้เรี่ยวแรงใดๆ
เข้าไปในห้องนอน แล้วเดินตามเข้ามาและปิดประตูล็อคซะเอง ฉันเดินหันหลังมานั่งที่ปลายเตียง
นั่งนิ่งๆ อยู่แบบนั้นก้มหน้าปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่คิดจะเปิดปากพูดอะไรออกมา
ดูจุนเองก็มองฉันด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก
พลางนั่งลงข้างๆ ฉัน
“...”
แม่งโคตรน้อยใจ พูดเลย
“ถ้าจะไม่สนใจขนาดไม่รู้ว่าฉันมีตัวตนอยู่
ก็ทิ้งฉันไปเลยดิ๊ ไม่ต้องติดต่อไม่ต้องอะไรแล้วเว้ย” ฉันเอ่ยบอกอย่างตัดพ้อ
ฉันแม่งไม่เคยเป็นแบบนี้เลยบอกตามตรง
ฉันไม่เคยมีแฟน และ ไม่เคยรักใคร ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย แม้แต่กับริคกี้ หมอนั้น
ตัวติดกันขนาดนั้นฉันยังไม่เคยหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อยเดียว
แต่ไอ้ดำตรงหน้าฉันนี้เล่นของป่ะวะ...
“...”
“จะรักก็ไม่รักจะทิ้งก็ไม่ทิ้ง
สรุปแล้วฉันเป็นอะไรของนายวะ”
ค่ะ...ฉันยอมรับ
ฉันรู้สึกมาสักพักแล้วละ ว่าตัวเองคิดอะไรกับดูจุน
ฉันสับสนมาหลายครั้งและทุกครั้งฉันปรึกษาดาร่า ยัยนั้นไม่พูดอะไร
เพียงแค่ยิ้มให้ฉันและบอกว่า ‘ชอบมากเลยใช่มั้ย ดูจุนน่ะ^^’ รอยยิ้มอ่อนโยนของฉันทำเอาฉันสะอึกเลยทีเดียว
ดูจุนเคยเป็นแฟนเก่าของดาร่า แต่ทั้งคู่ได้เลิกรากันไปแล้ว
แต่ถึงแบบนั้น...ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี นั้นแฟนเก่าเพื่อนสนิทฉันเลยนะเว้ย
แต่ฉันก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้...ฉันนี่มันแย่ว่ะ
“เธอ...ชอบฉันหรอ”
ดูจุนเอ่ยถามด้วยใบหน้างงงวยสุดแรงเกิด
อือหือ...ถามด้วยคำถามนี้ตบหน้าเลยเหอะ
! นี้ไม่รู้เลยรึไง
โอเค ฉันยอมรับ ฉันไม่พูด
แต่แสดงออกน้อยใจขนาดนี้ก็น่าจะรู้แล้วมั้ยยยยย !! โอย ฉันจิบ้า T_T
“...โง่”
“ห้ะ”
“โง่จริงๆ
เลย”
“เอ๊ะ ยัยนี้
ฉันถามก็ตอบดิ๊”
“ไม่รู้ไม่สนไม่บอกเว้ย!” ฉันหันหลังทันทีด้วยความหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม นี้มันกรรมอะไรของฉันเนี่ย
ไม่รู้จริงดิ!? แต่ฉันหงุดหงิดได้ไม่เท่าไหร่
มือใหญ่ก็รวบเอวฉันเข้าไปใกล้แล้วกอดเอาคางเกยไหล่ฉันไว้จากด้านหลัง
ตึก ตึก ตึก
ไอ้หัวใจไม่รักดี TOT เดี๋ยวไอ้ดำก็ได้ยินหรอก!
“แล้วทำไมไม่จีบอ่ะ
ชอบไม่ใช่หรอ”
“....” จีบ?
ฉันหันกลับไปมองหน้าไอ้ดำที่อยู่ใกล้กันแค่คืบ ไม่สิแทบจะไม่ถึงคืบเลยด้วยซ้ำ
“ชอบก็จีบดิ
นี่อ่อยสุดๆ แล้วนะ”
“หยุดเลย
ฉันเป็นผู้หญิงนะยะ”
“แล้วไง
ผู้หญิงจีบผู้ชายก่อนสมัยนี้มีเยอะแยะ”
“แล้วทำไมนายไม่จีบฉันล่ะ!?”
“ก็เธอชอบฉัน
เธอก็ต้องจีบฉันดิ”
โอ้ย! ฉันเพลีย อะไรของเขา งงนะเว้ย!!!!
[Special Talk
End]
[Gikwang x
Thunder Part]
...ความจริงแล้ว...
พวกเขาก็ยังไม่ได้เริ่มคบกันเป็นจริงเป็นจังนะ
ตอนนี้ดงอุนกับมีร์ ซึงโฮกับฮยอนซึง
แล้วก็จีโอกับจุนฮยองก็เหมือนจะคบกันแบบจริงจัง แบบเรียกกันว่า ‘แฟน’ แต่เขาเองก็ไม่เคยเรียกเจ้าซาซึมน้อยของเขาด้วยคำนั้นเลย
และเขาเองก็ไม่เคยขอคบเลยด้วย แต่ถ้าขอคบมันดูแบบว่า...ดูจะเขินอายไปมั้ยอ่ะ
ถึงกีกวังจะไม่ได้เร่งเขา
และไม่ได้พูดถึงเรื่องคบกันเลย แต่ช่วงนี้
ซาซึมน้อยของเขาก็เริ่มจะเสน่ห์แรงจนฉุดไม่อยู่แล้วล่ะ เริ่มมีคนแวะเวียนมาหา
ดูอย่างตอนนี้สิ ด้วยความที่เรียนคณะเดียวกันพวกเขาก็เลยอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา
เจ้ากวางน้อยก็พูดเจื้อยแจ้ว เล่าไปยิ้มไป ว่าเจออะไรมาบ้าง
โดยไม่รู้เลยว่าท่าทีร่าเริงเป็นธรรมชาติแบบนั้น
ยิ่งทำให้คนหลายคนเผลอมองตามด้วยความเคลิบเคลิ้ม...รวมเขาด้วย...
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเคลิบเคลิ้ม
ไม่พอใจอย่างแรง
=_=;
“โอ้ย มันฮาอะ
เนี่ยคือเล่นเอาฮาจริงๆ แบบไม่ห่วงสวยเลย ฮ่าๆ” เจ้าตัวก็ยังเล่าต่อไปเรื่อยๆ
โดยไม่ได้สังเกตอะไรรอบตัวเลยสักนิดเดียว
=_= เขาควรพากีกวังออกจากที่นี้
“กีกวัง...”
“หือ?” เจ้าตัวหันมามองหน้าเขางงๆ
“ไปนั่งคุยกันที่บ้านกัน”
“เอ๋...”
งงได้แค่นั้นแหละ! เพราะเขารีบลากเจ้าซาซึมน้อยของเขาไปขึ้นรถแล้วตรงไปที่บ้านทันที
แต่เป็นบ้านของมีร์นะ เพราะว่าเขาต้องการจะไปเยี่ยมเจ้าตัวนิดหน่อย
อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าที่มหาวิทยาลัยเป็นไหนๆ เลยล่ะ พอถึงบ้านเขาก็พากีกวังเข้าไปนั่งที่โซฟากลางบ้าน
เพื่อรอมีร์ลงมาจากชั้นสองของบ้าน
“...”
แต่ปัญหามันอยู่ที่จู่ๆ วิญญาณนกแก้วนกขุนทองก็ออกจากร่างซาซึมน้อยของเขาซะแล้ว
เหลือเพียงกวางน้อยที่นั่งหน้าบึ้งๆ เหมือนกับอารมณ์ไม่ดี
“เป็นอะไรไป...”
ชอนดุงเอ่ยถามเสียงเบา
โดยที่กีกวังก็เหลือบมองใบหน้าของเขาด้วยสายตาที่ออกแนวจะตัดพ้อนิดหน่อย เดี๋ยวๆ
ตัดพ้อแบบนั้นหมายความว่าไง...
“...”
“ตอบสิ
ซาซึมน้อยของฉัน ถ้านายไม่บอกไม่รู้นะว่าเป็นอะไร”
“...ก็...”
“....”
“นายยังชอบมีร์น้อยอยู่ใช่มั้ย”
คนตัวขาวคิ้วขมวดพลางแสมองไปทางอื่นด้วยนัยน์ตาลื่นๆ เหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“เดี๋ยวๆ
ไม่ใช่ละ คิดอะไรอยู่เนี่ย”
“ก็นายน่ะ...ตอนฉันเล่าอะไรให้ฟัง
ก็เหมือนไม่ฟัง...เหมือนกำลังคิดอะไรไม่รู้ พอปริปากพูด นายก็ชวนมาบ้านมีร์เนี่ยนะ
ให้คิดยังไง...”
“ หา!? อะไรนะ? เดี๋ยวๆ ใจเย็น..”
ไม่ได้ไม่ฟังเว้ยยยย! แต่กำลังคิดหาทางเอานายออกจากมหาวิทยาลัยต่างหาก
แถวนั้นมีแต่คนมองจ้องจนเห็นแล้วหงุดหงิด กีกวังเป็นของเขานะเว้ยยยย!!!
“นายน่ะ...มีฉันทำไมหรอ...
ไม่สิ...มันไม่มีสิทธิ์อะไรอยู่แล้ว ฉันไม่ควรคิดแบบนี้ ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่”
คำพูดตัดพ้อเสียงอ่อนของกีกวังทำเอาเขาชะงักไปในทันที
ไม่คิดเลยว่าคนตัวขาวตรงหน้าจะคิดมากแบบนี้...ก็เจ้าตัวไม่เคยแสดงท่าทีว่าอยากเลื่อนความสัมพันธ์เท่าไหร่
เขาเลยไม่ได้คิดอะไร เพราะเรื่อยๆ ไปแบบนี้ กีกวังคงจะคิดว่าโอเคกว่า
เพราะเขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน
แต่ก็แอบดีใจเหมือนกันนะ
…
ปกติเขาเป็นคนเริ่มพูดตลอด
กีกวังไม่ค่อยพูดอะไรมาก เพราะเจ้าตัวค่อนข้างจะเงียบ ขี้อาย อึนๆ เอ๋อๆ
ตามคนไม่ค่อยทันเท่าไหร่ เขาเลยไม่คิดว่าคนคนนี้จะมีมุมคิดมากบ้างเหมือนกัน
“งั้นเป็นแฟนเลยมั้ยละ”
“เห้ย!!!”ดวงตาใสเบิกโพลงขึ้นมาด้วยความตกใจ ก่อนจะเอามือตบหน้าตัวเองเบาๆ
แบบไม่อยากจะเชื่อ
“เป็นมั้ย
ตอบมาสิ อย่าให้เก้อ”
“เห้ยๆ
ฉันไม่ได้บังคับนะ ถ้านายฝืนก็ไม่ต้องก็ได้”
ประโยคหลังพูดเสียงเบาลงแทบจะหายลงไปในลำคออยู่แล้ว
“ฝืนบ้าฝืนบออะไร
เป็นแฟนก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งหึง นั่งหวงนายเงียบๆ
จะแสดงอาการได้เต็มที่กันไปเลย”
“....เอ๋?
นายเคยหึงฉันด้วยหรอ?”
กีกวังมองกลับมาด้วยแววตาสงสัยจริงจังจนเขาแทบจะตบหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่
นี่ไม่รู้ตัวจริงๆ สินะว่าตัวมีเสน่ห์มากแค่ไหนน่ะ!!!
“ไม่ตอบก็ไม่ต้องตอบ
เอาเป็นว่า นายเป็นแฟนฉันแล้ว ห้ามไปมอง ห้ามไปยิ้ม ห้ามไปหัวเราะ
ห้ามอ้อนใครนอกจากฉันเด็ดขาดนะ!!!”
“...”
“หวง
เข้าใจตรงกันด้วยนะ ยุนกีกวัง!”
-//////////////////////////////-
ชะ ชอนดุงบ้า...
[Part End]
นักอ่านคนไหนเห็นว่าอีไรเตอร์คนนี้หายไปนาน ตามได้ค่ะ
ในทวิต (ไรเตอร์สิงบ่อย -..-) หรือจะในฟิคก็ได้ค่ะ 5555
ทวิตของไรเตอร์ @Qmimiz_ ค่ะ
อย่าลืมนะค่ะ ทุกหนึ่งเม้นต์เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ได้ค่ะ!
รักคนอ่านทุกคนนะค่ะ ขอให้สนุกกับเนื้อเรื่องด้วยนะค่ะ
ความคิดเห็น