ตอนที่ 11 : ตอนที่ 10 ของกำนัลแด่คนทรยศ
ตอนที่ 10
ของกำนัลแด่คนทรยศ
ร่างสูงที่เดินผ่านมูลี่ลูกปัดดินเผาแบบอาหรับเข้ามาภายในห้องทำทองของอิบรัมห์ ช่างทำทองมือหนึ่งแห่งแคว้นบันเดส เสียงกรุ๋งกริ๋งของลูกปัดที่กระทบกัน ทำให้ช่างทองวัยชราเงยหน้าจากการทำเครื่องประดับตรงหน้าขึ้นมามองผู้ที่ก้าวล่วงเข้ามายังพื้นที่ทำงานอันเป็นส่วนตัว
เมื่อเห็นว่าเป็นใคร อิบรัมห์ก็ลุกขึ้นยืนโค้งต้อนรับ อัสลาม อาลัยกุม ท่านชีค
ชีคหนุ่มค้อมศีรษะรับคำทักทาย วา อาลัยกุม อัสลาม... มิเห็นต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย...ท่านอาวุโสกว่าข้า ควรที่ข้าต้องเอ่ยคำทักทายก่อน ชีคหนุ่มทักท้วงอย่างไม่สบายใจ
ผู้อาวุโสยิ้มให้กับถ้อยคำถ่อมตน แม้เป็นถึงผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในคีกิสต้าห์ แต่ชีคนัจมฺอัลดินก็ให้ความเคารพผู้สูงวัยกว่าเสมอ เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้อิบรัมห์นึกชื่นชม
ช่างทองชราหยิบผ้ามาปัดเก้าอี้ไม้ เชื้อเชิญให้นั่งลง แล้วเดินไปหยิบชุดเครื่องทองที่ชีคนัจมฺอัลดินได้สั่งทำไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนมายื่นให้
กระผมบรรจงทำอัลคาฟ*ชุดนี้สุดฝีมือเชียว ออกแบบลวดลายใหม่...งานละเอียด ประณีต...งดงาม
ชีคหนุ่มรับผลงานชิ้นเอกอุนั้นมาพิจารณาดูด้วยดวงตาว่างเปล่านัก
มันงดงาม สวยสมกับเป็นฝีมือของช่างทองมือหนึ่งแห่งบันเดส เสียดายแต่ว่าเขาคงไม่ได้ใช้มันให้สมกับคุณค่าแห่งความตั้งใจของอิบรัมห์ที่ประจงทำอัลคาฟชุดนี้ขึ้นมา
เป็นไงท่าน ชอบหรือไม่? ช่างชราที่หวังสีหน้าชื่นชมสมใจ กลับได้รับเพียงเสียงถอนใจแผ่ว
งดงาม...งดงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นกำไลอัลคาฟมา หากสีหน้าคนพูดมิได้แช่มชื่นบาน ดั่งเช่นชายหนุ่มที่กำลังจะมอบของหมั้นให้กับหญิงอันเป็นที่รัก
ไฉนเลยผู้จะเป็นเจ้าบ่าวถึงได้ทำหน้าหมดอาลัยเยี่ยงนี้เล่าท่าน ผู้ชราถาม
ดวงหน้าคร้ามเข้มเงยขวับ ดวงตาสีเขียวตระหนก อิบรัมห์ยังไม่เอ่ยเรื่องนี้ให้ใครฟังใช่มั้ย? เขาตกใจด้วยมันเป็นความลับอย่างสุดยอด
ประเพณีเก่าแก่ของคีกิสต้าห์...กำไลอัลคาฟถือว่าเป็นของหมั้นที่ชายหนุ่มจะสั่งทำขึ้นเพื่อไว้สำหรับจับจองเป็นเจ้าของหญิงคนรักเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการหมั้นหมาย และจะมีการมอบเครื่องประดับชุดใหญ่อันได้แก่ สร้อยคอ กำไลข้อแขนทั้งสองข้าง แหวน และต่างหูให้ในวันแต่งงาน และหลังสมรสไปแล้ว เมื่อหญิงสาวจะออกงานสำคัญต้องใส่เครื่องประดับชุดใหญ่นี้ เพื่อบ่งบอกถึงสถานะของตนเอง และถือเป็นการยกย่องสามี เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาช้านานบนผืนทรายแห่งนี้
อิบรัมห์สั่นหน้า ก่อนจะชะงักไปเมื่อนึกได้ เอ่อ...เมื่อหลายวันก่อนท่านหญิงเชียร่ามาสั่งให้กระผมทำเครื่องประดับ เธอเห็นกระผมทำอัลคาฟชุดนี้อยู่แล้วอยากได้จึงสอบถามจะซื้อไป กระผมลืมตัวปฏิเสธไปว่าท่านเป็นสั่งให้ทำขึ้น
ชีคหนุ่มหลับตาลง ถอนหายใจยาวเหยียด คาดว่าข่าวลือเรื่องที่เขาจะหมั้นหมายเจ้าสาว คงได้แพร่สะพัดไปไม่น้อย เมื่อท่านหญิงเชียร่าที่อิบรัมห์กล่าวถึงนั้น คือบุตรสาวของพลเอกซาxรัฐมนตรีกลาโหม และยังเป็นน้องสาวร่วมมารดาเดียวกับพันตรีชามาซสหายคนสนิทของเขา
ทั้งพลเอกซาxและพันตรีชามาซคือกำลังสำคัญที่ช่วยเหลือให้เขาทวงคืนตำแหน่งทายาทผู้นำแห่งคีกิสต้าห์กลับคืนมาจากการรัฐประหารของรัฐมนตรีกลาโหมคนก่อนที่ก่อกบฏยึดอำนาจไปจากบิดาเขา และยังส่งคนไปลอบสังหารเขาที่ประเทศไทยอีกด้วย
เขาทราบดีว่าพลเอกซาxหมายมั่นปั้นมือที่จะให้เขารักใคร่ชอบพอเกี่ยวดองกับเชียร่าบุตรสาวคนงามที่กำเนิดจากชีคคาคนแรก แต่ชีคหนุ่มก็มุ่งมั่นทำแต่งาน และหลีกเลี่ยงคำทาบทามของพลเอกซาxเสมอมา จนเชียร่าถอดใจ และหันไปหมั้นหมายกับโอมาร์ บุตรชายของชีคอูซมาผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน
ป่านนี้เรื่องเล่าลือการหมั้นหมายของเขา คงสะพัดไปทั้งสกุลอัลบูดีลแล้ว
กระผมขอโทษด้วยจริงๆท่านชีค อิบรัมห์ค้อมศีรษะเป็นการขออภัย
ชีคนัจมฺอัลดินยกมือขึ้นปราม ไม่เป็นไรหรอกท่าน วันหนึ่งพวกเขาก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดี...เพียงแต่ว่า...
ดวงตาคมเฉี่ยวดั่งเหยี่ยวทะเลทรายหรี่ลงอย่างครุ่นคิดสิ่งใหม่...เมื่อการหมั้นหมายได้เปลี่ยนเป็นการแก้แค้น...มันก็จะเป็นเพียงแค่ข่าวลือ...และเขาต้องทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญของความตั้งใจครั้งนี้ลงเสีย เมื่อสิ่งที่เคยคิดไว้กลับกลายตาลปัตรไปจากเดิม
อิบรัมห์ช่วยทำเครื่องประดับให้ฉันใหม่ได้มั้ย?
สีหน้าของอิบรัมห์ฉงนฉงาย ท่านจะให้กระผมทำอะไรหรือ?
สลักข้อเท้า
คำตอบทำให้อิบรัมห์ถึงกับงงงัน เพราะสลักข้อเท้า หรือกำไลข้อเท้าที่สลักชื่อผู้เป็นนายไว้ ถือเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นทาส เพื่อให้รู้ว่าเป็นบ่าวของใคร...และคีกิสต้าห์ก็ได้ยกเลิกระบบวรรณะทาสมาเนิ่นนาน ตั้งแต่สมัยชีคชาซ อัลฟาร์ฮา ผู้เป็นบิดาของชีคนัจมฺอัลดินนั่นแล้ว
ท่านจะให้กระผมทำสลักข้อเท้าขึ้นมาอย่างนั้นหรือ? อิบรัมห์ถามย้ำผู้นำหัวสมัยใหม่ ที่คงไม่คิดพาประเทศกลับไปสู่ความด้อยอารยะด้วยการกดขี่มนุษย์ด้วยกัน เพราะนั่นคือนโยบายจุดแข็งที่ทำให้สกุลอัลฟาร์ฮากุมหัวใจจากประชาชน เมื่อทำให้พวกเขามีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมเสมอกัน
ใช่...นำอัลคาฟชุดนี้หลอมขึ้นมาใหม่เป็นสลักข้อเท้าให้ฉัน เสียงแข็งเฉียบขาดกล่าวขึ้นมาเมื่อนึกถึงหน้าเธอ
หากว่าอัลคาฟชุดนี้ไม่สามารถเป็นเครื่องหมายแทนพันธนาการความรัก...เขาก็จะแปรเปลี่ยนมันเป็นสลักข้อเท้าเพื่อจะพันธนาการเธอไว้ด้วยความแค้น...ให้เธอรับรู้รสชาติของคนที่ตกเป็นทาส...เช่นเดียวกับที่หัวใจเขาได้ตกเป็นทาสที่สัตย์ซื่อต่อเธอมาหลายปี
อิบรัมห์มองดวงหน้าขึงขังเครียดขึ้งนั่นอย่างไม่เข้าใจ
สลักข้อเท้า ถือเป็นเครื่องหมายของวรรณะทาสชั้นต่ำ และโดยมากแล้วจะทำมาจากโลหะราคาถูก
แต่ชีคนัจมฺอัลดินกลับให้เขาหลอมทองที่อุตส่าห์บรรจงตั้งใจทำเป็นกำไลอัลคาฟงดงาม เพื่อจะไปเป็นสลักข้อเท้าของทาสแทน...และที่สำคัญคือมันทำจากทองคำ...แล้วสลักข้อเท้านี้จะเป็นของผู้ใดกัน
น่าเสียดายนะท่าน...นี่เป็นทองบริสุทธิ์เนื้อดี แต่ท่านจะให้นำไปทำเป็นเครื่องหมายของทาส
ฝ่ามือยกสูง ห้ามปรามคำคัดค้าน ฉันสั่ง..ก็ให้ทำเถอะ แล้วสลักชื่อฉันลงไปบนกำไลข้อเท้านั่นด้วย เสียงสั่งเด็ดขาดโดยไม่ต้องคิดทบทวนซ้ำสอง
อิบรัมห์หมดเหตุผลจะมาเกลี่ยกล่อมให้ชีคหนุ่มผู้เด็ดขาดเปลี่ยนใจ ได้แต่สงสัยว่า ชีคหนุ่มจะสวมสลักข้อเท้านี้ให้แก่ผู้ใด...แล้วทำไมถึงต้องใช้ทองคำเนื้อดีมีราคาแพงทำขึ้นมาด้วย
ร่างของคนป่วยบนเตียงสีขาวในห้องพักผู้ป่วยพิเศษขยับตัว เคียงดาวและลดาที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่างขยับตัวเข้าไปใกล้คนป่วย
ดวงตาฝ้าฟางด้วยวัยชราของนายเดชาเปิดปรือริบหรี่ มองภาพเบลอมัวของคนที่กำลังเฝ้าเขาอยู่ข้างเตียงด้วยความรู้สึกสะท้อนหัวอกหัวใจ
ร่างกายหนักอึ้งปวดแปลบเจ็บร้าวไปทั้งทรวงอก สายระโยงระยางที่แขนทั้งขวดเลือดและขวดน้ำเกลือ ที่จมูกก็ยังครอบด้วยเครื่องช่วยหายใจ
พ่อจ๋า...พ่อฟื้นแล้ว น้ำเสียงกระตือรือร้นยินดีบาดลึกในหัวใจ
ลูกที่เขาไม่เคยไยดี บัดนี้กลับเป็นคนที่คอยเฝ้าอยู่ข้างเตียง อาการทรุดหนักปางตายของเขา บอกได้คำเดียวว่าสมควรตายมากกว่าอยู่ เมื่อสภาวะทางการเงินในตอนนี้ขัดสนข้นแค้น และยังมาถูกเมียรักหักหลังกันอีก
สภาพจิตใจที่ย่ำแย่ บั่นทอนร่างกายที่เต็มไปด้วยโรคภัยให้ยิ่งทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว...ลดาน้องเมียกลับมาช่วยดูแล พาเขาไปอยู่ในบ้านเช่าโทรมๆท้ายซอยซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตในครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถูกเกสรไล่อย่างกับหมูหมา แล้วพาผัวใหม่เข้าไปอยู่แทน หลังหลอกล่อให้เขาเซ็นต์ยกอาคารพานิชย์ให้เช่าเป็นชื่อของหล่อนเป็นเจ้าของทั้งหมด
จนเมื่อหลายวันก่อนเกสรพาไอ้ชัยบุกมาที่บ้านตอนเขาอยู่คนเดียว บังคับขู่เข็ญให้เซ็นต์โอนบ้านหลังใหญ่ที่พวกมันอยู่กันเสวยสุขให้ เขาไม่ยินยอม จึงถูกไอ้ชัยและพรรคพวกซ้อม ก่อนที่พวกมันจะจับนิ้วหัวแม่มือเขาปั๊มหมึกและประทับลงไปบนใบมอบอำนาจ...หมดสิ้น...เขาหมดสิ้นทุกสิ่งแล้ว
ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุดในชีวิต ทำให้หัวใจกระตุกแรง ปวดร้าวไปทั้งทรวงอก คิดว่าเขาคงสิ้นลมหายใจเสียแล้ว แต่เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องสีขาวสะอาดตา กลิ่นยาฉุนจมูก มีลดาและเคียงดาวอยู่ข้างเตียง นายเดชารู้ตัวว่าเขารอดตายด้วยความช่วยเหลือของใคร
ความรู้สึกผิดมหันต์ที่ได้ทำกับลูกกับน้องเมีย รานร้าวยิ่งกว่าบาดแผลมีดกรีดทรวงอกยามนี้
น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อล้นท้นเบ้าตา
พ่อจ๋า...เจ็บตรงไหน? เคียงดาวจับมือซีดเซียวเหี่ยวย่นของบิดาบีบเบาๆให้กำลังใจถามไถ่
น้าดาคะ เรียกหมอเร็ว...พ่อเป็นอะไร..ทำไมถึงร้องไห้...โธ่...พ่อคงจะเจ็บมาก...อดทนไว้นะคะพ่อ เรียวแขนเล็กโอบรัดร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงคนป่วย กอดเขาไว้ยิ่งก่อให้เกิดความรู้สึกสะเทือนใจ
ลดาลนลานกดปุ่มเรียกพยาบาลเข้ามา
สายท่อที่อยู่ในปาก ทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่สะดวก ยากเย็นเหลือเกินที่จะเปล่งเสียงออกมา
แต่ในหัวใจกล่าวออกมาได้เพียงคำเดียวว่า พ่อขอโทษ
แขกยามบ่ายยืนสง่าเต็มความสูงของร่างผึ่งผายผ่าเผยองอาจดั่งชายชาตินักรบ กอดอกทอดสายตาเหม่อมองไปยังสวนสวยของคฤหาสน์สกุลอัลบูดีลอย่างใช้ความคิด
พันตรีชามาซเดินย่องฝีเท้าแผ่วเบาเข้ามาด้านหลัง แอบยิ้มกริ่มที่อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัว ยกมือสูงหวังตะปบบ่าหนาให้อีกฝ่ายตกใจเล่น
แต่เมื่อฝ่าเท้าแตะย่างเข้าศาลากลางสวน ใบหน้าคร้ามเข้มของชีคนัจมฺอัลดินก็หันขวับมาทันที จนคนตั้งใจหยอกล้อทำหน้าเซ็งไป
ดวงตาสีเขียววาบวาวฉายแววรู้ทันขึ้นมา อายุเท่าไหร่แล้วชามาซ ยังมาเล่นเป็นเด็กๆไปได้ เสียงขรึมของคนวัยเท่ากันถาม
เสียงหัวเราะหึอย่างฝืดๆในลำคอ โธ่ท่าน...มิใช่เวลางานเสียหน่อย ทำเป็นดุดันจริงจังไปได้...แล้วนี่อะไรจะมาก็ไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้าเลย...ผมยังนึกว่าท่านอยู่ประเทศไทยเสียอีก...กำลังสงสัยว่าไปทำไม? แล้วเหตุไฉนคนเป็นเจ้าบ่าวถึงได้ดูหน้าเครียดนัก ไม่หาอารมณ์ขันเติมชีวิตเสียหน่อย ระวังเจ้าสาวจะผวานะท่าน
ชีคนัจมฺอัลดินกระดกคิ้ว ยกมุมปาก...ว่าแล้วไง...ข่าวนี้มาไวถึงหูสหายสนิทเขาจนได้
ร่างสูงใหญ่เดินไปนั่งลงบนชุดเก้าอี้เหล็กดัดรับแขกกลางศาลา...พันตรีชามาซตามไปนั่งด้วย
แล้วนี่ไม่คิดแย้มพรายให้สหายร่วมดีใจหน่อยหรือท่าน ว่าเจ้าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร?
ดวงตาเรียบเฉยตวัดมองอีกฝ่าย นายจะรู้ไปทำไมฮึ..ผู้พัน
พันตรีหนุ่มหน้าเข้มยิ้ม ผมอยากเห็นว่าผู้หญิงอย่างไหนถึงมัดใจท่านไว้ได้...ใครกันหนอที่สวยขนาดเรียกร้องความสนใจท่านจากแฟ้มงานกองหนาๆที่ตั้งเต็มโต๊ะให้หันไปมอง
เสียงหัวเราะในลำคอของชีคหนุ่ม เหมือนเยาะหยันตัวเอง เห็นแล้วนายอาจจะผิดหวังก็ได้
ทำไม?...หรือสวยน้อยกว่าเชียร่าน้องสาวของผม
ชีคหนุ่มแอบทอดถอนลมหายใจแผ่วเบา ไม่อยากให้อีกฝ่ายจับสังเกตได้ เมื่อพลเอกซาxแทบจะเอาบุตรสาวสุดที่รักใส่พานยกให้ แถมสกุลอัลบูดีลก็ยังมีบุญคุณกับเขาเป็นล้นพ้น เชียร่าเองก็เป็นสาวสวยนับว่าหาตัวจับได้ยากทีเดียว หญิงสาวยอมข่มความอายทอดสะพานเสริมใยเหล็กมาให้
แต่ไฉนเลยเขาถึงเมินเฉยต่อเธอ...ต่อผู้หญิงทุกคนในโลกนี้เลยก็ว่าได้...เพียงเพราะคำมั่นสัญญาที่ให้กับผู้หญิงคนนั้น...เพราะปักใจใหลหลงอยู่กับผู้หญิงเพียงคนเดียว...สุดท้ายทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่หวัง เขารู้สึกเหมือนหมดสิ้นทุกๆอย่างจริงๆ...
ในเจ็ดปีที่ผ่านมา...นอกจากปณิธานของบิดา ความตั้งใจที่จะกอบกู้คีกิสต้าห์เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชน...ก็มีเธอคนนั้นอีกคนเท่านั้น ที่เป็นแรงบันดาลใจ...เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้เขาเข้มแข็ง...ลุกขึ้นสู้
เขาทำได้สำเร็จ เพราะตั้งใจและให้สัญญาไว้กับเธอ...แล้วนี่หรือสิ่งที่เขาได้รับตอบแทนการรอคอยนั่น
เธอเปลื้องผ้าเปิดเผยกายให้ผู้ชายมากหน้าหลายตาเชยชม...แล้วเธอจะมีค่าอะไรเหลือเล่า
ในเมื่อผู้หญิงคีกิสต้าห์ได้รับคำสั่งสอนอบรมให้รักนวลสงวนตัว และถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่เคร่งครัด แม้แต่หญิงสาวที่ถูกส่งเข้ามาบรรณาการให้แก่เขา ก็ยังล้วนเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์ ที่พร้อมจะปรนนิบัติพัดวี มอบความสุข และมีใจภักดิ์ต่อเขาเพียงคนเดียว...แต่เขาปฏิเสธพวกเธอทุกคน...เพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว
ผู้หญิงไร้ค่าคนนั้น...
แม้ยามนี้หัวใจของเขาก็ยังเจ็บจดจำจนเป็นความแค้นที่ไม่อาจจะปล่อยเธอไปได้...กับเจ็ดปี...อย่างน้อยเธอก็ต้องชดใช้ด้วยความทรมานใจ...หกเดือนที่คีกิสต้าห์ เธอจะได้รับบทเรียนของความอดทนนั้นอย่างสาสมที่สุดเขารับรองได้
ว่าไงล่ะท่าน? พันตรีชามาซถามเมื่อเห็นชีคนัจมฺอัลดินนิ่งไปนาน
ไม่มีหรอก กล่าวอย่างตัดใจ
อ้าว...แล้วงั้นที่ท่านไปสั่งให้อิบรัมห์ทำอัลคาฟไว้ให้นั่นเล่า...หมายความว่ากระไรล่ะท่าน
ดูสิ...ความลับที่อีกฝ่ายเลียบๆเคียงๆถาม กลับเปิดเผยมาเสียหมดแล้วเพราะความอยากรู้อยากเห็น
ชีคนัจมฺอัลดินหัวเราะดัง พร้อมส่ายหน้าเบาๆ อายุอานามเราก็ไม่ใช่น้อย...เกิดไปต้องตาหญิงใดในยามนี้ก็ไม่อยากรอนานนะสหาย...จะแปลกกระไรถ้าเราจะสั่งให้อิบรัมห์ทำอัลคาฟไว้รอท่าเจ้าสาว
พันตรีชามาซทำหน้าผิดหวัง โธ่...เป็นอย่างนั้นเองหรอกหรือท่าน แล้วปล่อยให้ผมนอนไม่หลับเสียตั้งหลายคืนเพราะค้างคาใจ
ชีคนัจมฺอัลดินหัวเราะเสียงดัง นี่นายอยากรู้อยากเห็นขนาดนั้นเชียวหรือผู้พัน
ที่สุดเลยท่าน...มิใช่แต่กระผมหรอก ตอนนี้คนทั้งประเทศก็คงอยากรู้ไม่ต่างกัน
เวลาแค่ชั่วสัปดาห์ ข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วอย่างนี้เชียวหรือ?
ใครก็อยากรู้ว่าผู้หญิงที่กุมหัวใจพญาอินทรีย์แห่งผืนทรายคีกิสต้าห์ไว้เป็นใครกัน...นี่ตั้งแต่มาถึง ท่านคงยังไม่ได้อ่านข่าวซุบซิบที่เป็นTalk of the town เลยสิ...ถึงไม่รู้ว่าตัวเองได้ขึ้นพาดหัวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับมาทั้งสัปดาห์
คำบอกเล่าอันน่าตกใจทำให้ชีคนัจมฺอัลดินเข้มขรึมลงไปในทันที จากที่มองเห็นเป็นเรื่องตลก แต่ยามนี้เขาตลกไม่ออก...ความเคลื่อนไหวของผู้นำ ไม่ว่าด้านไหน ล้วนส่งผลต่อคนภายใต้อาณัติทั้งสิ้น
อะไรกัน แค่เรื่องไม่เป็นเรื่องถึงกับพูดไปใหญ่โตเชียวหรือ?
ใครว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องล่ะ...นี่ล่ะเรื่องที่คนอยากรู้เป็นที่สุดในเวลานี้ ยิ่งกว่าว่าจีดีพีของคีกิสต้าห์ปีนี้อยู่ที่เท่าไหร่...หรือเราค้นพบบ่อน้ำมันแหล่งใหม่ได้ตรงพื้นที่ไหนอีก
ชีคหนุ่มปิดดวงตาสีเขียวจากสรรพสิ่งรอบกาย ถอนหายใจยาวเหยียด...
เห็นทีท่านต้องเร่งหาเจ้าสาวเสียแล้วล่ะ อย่าปล่อยให้คนอยากรู้รอนาน เสียงของพันตรีชามาซกลั้วหัวเราะ
เขาจะทำอย่างไรเพื่อสยบข่าวลือนี้ลงเสียได้...การที่เขาไม่เคยย่างกรายเข้าไปเยี่ยมเยือนบรรณาการสวยๆก็เป็นที่ซุบซิบสงสัยคลางแคลงใจอยู่แล้ว...แล้วเรื่องเจ้าสาวมาเป็นข่าวเท็จอย่างนี้อีกเล่า
เสียงกรุ้งกริ้งของโลหะกระทบกัน ทำให้ชีคหนุ่มลืมตาขึ้นมองไปยังที่มาของเสียง ก็เห็นหญิงสาวในชุดกานดูราสีม่วงขรึม เดินนำหน้าสาวใช้มายังศาลา ดวงตาจับจ้องมองที่เธอไม่วางตา
เจ้าหล่อนเดินเข้ามาในศาลากลางสวน ยอบตัวลงอ้อนช้อยงดงาม อัสลาม อาลัยกุมค่ะ ท่านชีค
ชีคนัจมฺอัลดิน พิศมองดวงหน้าที่ไม่คุ้นตานั่นอยู่ จึงตอบกลับไปเชื่องช้าซักหน่อย
วา อาลัยกุม อัสลาม"
พันตรีชามาซเห็นผู้นำแห่งคีกิสต้าห์มองน้องสาวต่างมารดาด้วยความสนเท่ห์ใจจึงแนะนำ
นี่จัสมินาน้องสาวต่างมารดาของกระผมเอง
หญิงสาวค้อมศีรษะให้เขาเมื่อได้รับคำแนะนำ ชีคหนุ่มพยักหน้ารับพร้อมยิ้มบางๆ
ไม่เคยเห็นน้องสาวของนายคนนี้มาก่อน
พอเชียร่าจะออกเรือนไปเป็นคนสกุลอื่น จัสมินาจึงได้รับหน้าที่ให้คอยดูแลต้อนรับแขกเหรื่อแทน
ชีคนัจมฺอัลดินพยักหน้าเบาๆ พินิจพิเคราะห์หญิงสาวหน้าตาสะสวยแบบเรียบๆ ดูอ่อนโยนอ่อนหวาน ผิดกับเชียร่าที่ดูจะคล่องแคล่ว ปรู๊ดปร๊าดกว่า นั่นอาจจะเพราะหล่อนเป็นลูกของภรรยารอง ซึ่งมักจะถูกกดให้เจียมเนื้อเจียมตัวไปโดยปริยาย
จัสมินาชงชาเก่งมาก...ลองชิมสิท่าน พูดจบพันตรีชามาซก็หันไปพยักหน้าให้น้องสาว ที่รีบยกกาเซรามิกวาดลวดลายประดิษฐ์งดงามขึ้นเทชาใส่ถ้วย แล้วยื่นให้ชีคหนุ่ม
กริยานุ่มนวลอ่อนหวานของเธอทำให้เขาสะกิดใจ
ลองชิมสิท่าน...ว่ารสชาติหอมละมุนกลมกล่อมดั่งคำโฆษณาหรือไม่
ชีคหนุ่มยื่นฝ่ามือไปตรงหน้าปรามสหายช่างพล่าม นายเลิกพูดก่อนได้มั้ยชามาซ ฉันอยากฟังเสียงน้องสาวนายบ้าง
แล้วหันไปถามหญิงสาว นี่ชาอะไรหรือจัสมินา...เจ้าชงเองหรือ...แล้วมันมีคุณสมบัติอย่างไร?
หญิงสาวแย้มยิ้มเยือกเย็น ค้อมศีรษะให้เขาเป็นเชิงเอ่ยขออนุญาต ก่อนแนะนำ นี่คือชาที่ทำจากเมล็ดเซเลอรี่ค่ะ คุณสมบัติช่วยทำให้ผ่อนคลายและนอนหลับสบาย...ท่านชีคลองชิมดูสิคะ
ชีคนัจมฺอัลดินทำตามคำแนะนำของหญิงสาว จิบชารสละมุนแล้วพยักหน้า
อื้ม! อย่างนั้นหรือ...ดีจริง กล่าวแล้วลองจิบอีกจนหมดถ้วยแล้วยื่นให้หญิงสาวเติมให้
เป็นไงท่าน เลิศรสสมคำโฆษณารึเปล่า...ถ้าได้ผลเหมือนจัสมินาว่าท่านจะขอชานี่ไปไว้ดื่มชงแก้เครียดก็ได้นะ ผมไม่หวง
ชีคหนุ่มยิ้มดวงตาเป็นประกาย แล้วถ้าฉันจะขอคนชงชาไปด้วยล่ะ...นายจะว่ากระไร?
จัสมินาที่กำลังจะรินชาใส่ถ้วยให้ชะงัก เผยอปากค้าง ดวงตาตระหนกขึ้นมา มือสั่นจนเทชาพลาดถ้วย
ขออภัยค่ะ เจ้าหล่อนรีบปลดผืนผ้าแพรที่คล้องคอออกเช็ดชาที่เลอะเทอะไปยังโต๊ปสีขาวของชีคหนุ่ม
ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษท่านชีคให้ด้วย กริยากุลีกุจอหน้าแดงระเรื่อของเธอ ทำให้ชีคนัจมฺอัลดินยิ้มอย่างเอ็นดู รวบมือที่กำผ้าเช็ดแขนเสื้อให้เขาไว้ในอุ้งมือใหญ่
ดวงหน้าระเรื่อแดงของหญิงสาว เพิ่มเฉดเป็นสีสุกก่ำบนพื้นผิวสีน้ำผึ้ง ทำให้เขาแทบหลุดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะยอมปล่อยมือบางนุ่มนิ่มนั่น
ไม่เป็นไรหรอก...จัสมินา อย่าเอาผ้าสวยๆของเจ้ามาเช็ดเสื้อเราเลย ถึงยังไงมันก็ต้องซักอยู่ดี
มือบางชักกลับไปค้อมศีรษะให้เขา ขอโทษจริงๆนะคะท่านชีค
เราเห็นจะแบกคำขอโทษของเจ้ากลับไปไม่หมดเสียแล้วสิ หัวเราะเบาๆ
เดี๋ยวฉันจะไปชงชามาให้ใหม่นะคะ กล่าวแล้วรีบผลุนผลันเดินลงจากศาลาไป
พันตรีชามาซมองยิ้มแปลกๆของสหาย ดวงตาวับวาวแพรวพราวที่ไม่เคยเห็นมีมาก่อน เกิดจะมานึกสนุกเจ้าชู้ไก่แจ้เอาอะไรในเวลานี้ ยิ่งกับน้องสาวเขา...จัสมินาที่ดูเรียบร้อย ความงามรึก็สู้เชียร่าไม่ได้แม้แต่นิด
น้องสาวนายคนนี้นี่ขี้อายจริงๆนะ มองตามหลังร่างแบบบางไปไม่วางตา เวลาหญิงสาวเขินอาย ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ทำให้บุรุษหัวใจพองโต
จัสมินาไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหนอย่างเชียร่า...เธอค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัวน่ะ แล้วท่านไปพูดแซวเล่นเสียอย่างนั้น จะไม่ให้น้องผมตกใจได้ยังไง? พันตรีชามาซแก้ต่างแทน
ใครว่าฉันพูดเล่นเล่าชามาซ...นายเห็นฉันเป็นคนชอบล้อเล่นไปเสียเมื่อไรกัน?
คำพูดของชีคนัจมฺอัลดิน ทำเอาชีคชามาซอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง
บทกามเทพจะแผลงศร ก็เล่นเอาปัจจุบันทันด่วน มิให้ตั้งตัวอย่างนี้เทียวหรือ?
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อีตาชีคนี่!!
ขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักค่ะ
้้Happy Valentine Day