ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นักเรียนหมอขอเมาท์

    ลำดับตอนที่ #66 : เมาท์ : ว่าด้วยหมอ...หมอความ .. #2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.57K
      1
      18 ส.ค. 53

    หมอความ #2

              วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องฟ้องๆกันอีกดีกว่าครับหลังจากหายไปนาน “หมอความ” ครังที่แล้วมีหลายคนให้ความเห็นว่าเขียนเข้าข้างหมอมากไป ซึ่งถ้าคิดดูจริงๆก็เป็นไปได้นะครับ (ก็คนมันกำลังจะเป็นหมอนี่นา เลยอินไปหน่อย 55+) วันนี้พี่จึงคิดว่าได้เวลาอันสมควรแล้วที่เราจะมาฟังความด้านคนไข้กันบ้างนะครับ


     


              สำหรับคนไข้หลายๆคนแล้วการฟ้องหมอนั้นไม่ใช่ผลสุดท้ายของการรักษา แต่สำหรับบางคนก็อาจจะใช่ด้วยสาเหตุต่างๆกันไป บ้างก็ว่าหมอทำไม่ดีด้วย ทำไม่ถูกใจ สะเพร่า ไม่มีจริยธรรม สมควรถูกฟ้อง หรือบางคนก็ต้องการตักเตือนให้หมอไม่ประมาทไปพลาดในครั้งถัดไป หรือแม้กระทั่งฟ้องอยากเอาเงินก็มี

              แต่ถึงอย่างไรเมื่อเทียบกันแล้วคนไข้ที่เข้าใจหมอก็มีอีกนับแสนนับล้านคน ดังนั้นถ้าหมอไม่ได้พลาดหรือสะเพร่าจนไม่น่าให้อภัยจริงๆก็คงจะไม่ถูกฟ้องง่ายๆ  เพราะคนไข้ทุกคนเข้าใจ ว่าหมอก็พลาดกันได้ แต่หมอก็ต้องรู้จักการขอโทษ มิใช่เย่อหยิ่งขอโทษใครไม่เป็น ถึงบางครั้งเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่คนไข้ไม่เข้าใจ แค่ขอโทษเขาไปก็คงจะไม่เสียหายอะไร อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้คนไข้ประทับใจและเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหมอ ทำให้ความไม่เข้าใจเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่ดีได้เหมือนกัน
     
              สำหรับคนไข้บางคนถึงหมอจำทำผิดจริงแต่ถ้ารู้จักการขอโทษ คนไข้ก็เข้าใจแล้ว แต่ถ้าผิดจริงแล้วดันทุรังจะถูก ก็จะยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนใข้ก็อยากให้หมอเข้าใจ อยากให้หมอเอาใจใส่คนไข้ให้มากกว่านี้ ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด  การพูดจากับคนไข้นั้นก็สำคัญมาก ไม่มีคนไข้ที่ไหนที่ชอบหมอที่พูดจาไม่สุภาพ ก็รู้ว่าหมอทำงานทั้งวันทั้งคืนก็เหนื่อยเป็นแต่ก็มาควรเอาอารมณ์ส่วนตัวเป็นใหญ่ไปพาลใส่คนไข้ ใครๆก็ไม่ชอบทั้งนั้น

              อีกอย่างคือการดูถูก ทุกคนก็รู้ว่าหมอฉลาด และก็มีฐานะ แต่หมอก็ต้องไม่ลืมว่ายังไงเราก็คนเหมือนกันทั้งนั้น อย่าไปดูถูกคนอื่นว่าจน ว่าโง่ ถึงเราพูดอะไรแล้วคนไข้ไม่เข้าใจ เราก็ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆอธิบาย ไม่ใช่ว่าแต่คนอื่น คนทุกคนมีความรู้สึกเหมือนกันทั้งนั้น ถ้ามีคนไข้ประสบอุบัติเหตุมา ญาติมาโวยวายที่รพ. รู้นะว่าคนเป็นหมอก็ต้องใช้สมาธิ อาจมีหงุดหงิดบ้างอะไรบ้าง แต่เราก็ต้องรู้จักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ลองคิดดูบ้างว่าถ้าเป็นญาติพี่น้องเรา เราจะรู้สึกอย่างไร ญาติทุกคนต่างอยากที่จะให้คนไข้หายเจ็บป่วย อยากให้หมอรักษาดีๆ ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่รักษาคนไข้ หมอต้องดูแลสภาพจิตใจของญาติด้วย เรื่องแบบนี้ถ้าให้พูดกันก็คงยากที่จะพูดให้ได้หมด ต้องเจอเองกับตัวถึงจะเข้าใจ  (ปล.ถ้าน้องๆอยากรู้อย่าลืมสมัครค่าย Open Gown กันนะครับ)


              มีพ่อของเพื่อนพี่คนหนึ่งเป็นหมออยู่ที่ชลบุรี ท่านมีคำพูดที่พี่ประทับใจมากเลยอยากให้น้องๆลองดู ท่านบอกว่า

    ป็นหมอรักษาคนเนี่ย เหมือนการขับรถ ถ้าตั้งใจขับตามกฏจราจร ไม่ประมาท ก็จะไม่โดนใบสั่งหรือเกิดอุบัติเหตุ แต่บางครั้งแม้จะปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังอย่างเต็มที่โดยไม่ประมาทแล้ว ก็ยังอาจมีคนเดินตัดหน้ารถ มีรถคันอื่นวิ่งมาชน หรืออาจโดนก้อนหินดีดใส่กระจกรถได้ แม้ไม่ได้ทำผิด แต่ก็อาจเกิดเรื่องเป็นคดี ถูกจับ ถูกฟ้องขึ้นศาล ติดคุกได้เหมือนกัน ดังนั้นคนจะไปเป็นหมอก็ต้องตั้งใจรักษา อย่าประมาท รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ดูแลรักษาคนไข้และญาติเสมือนเป็นญาติของเรา แล้วก็พูดจากับเขาดีๆ แค่นี้ก็คงไม่ถูกฟ้องง่ายๆแล้ว


              ก็อย่างที่บอกหละครับถ้าเราเป็นหมอที่ดีก็คงไม่ถูกฟ้องง่ายๆขอเป็นกำลังใจให้น้องๆที่อยากเป็นหมอทุกคนนะครับ และก็น้องๆที่ไม่ได้อยากเป็นหมอพี่ๆก็ขอเป็นกำลังใจให้สมหวังเหมือนกันนะครับ ^^



    นศพ.ทิวลี่ประจำคณะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×