คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : เกลียดชั้น...งั้นหรอ?
ร่างเล็กถึงกับเข่าอ่อนเมื่อได้ยินเสียงของคนที่รักเอ่ยไปเมื่อครู่ มือเรียวเล็กกำแน่นเพื่อระบายความรู้สึกที่เจ็บปวดในใจออกมา ร่างกายโอนเอนไร้เรี่ยวแรงเสียจนต้องอาศัยผนังอันแข็งแรงเพื่อยืนพิงประคองร่างของตนเอาไว้ ชิเนน ยูริต้องหลั่งน้ำตาเพราะยามาดะ เรียวสุเกะเป็นครั้งที่สอง สองครั้งแล้ว..ที่เขาต้องพ่ายแพ้ให้กับคนๆ นี้
ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนวางแผนการทุกอย่างไว้อย่างดีเพื่อเอาคืนแล้วแท้ๆ แต่ว่าดันมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสียได้ เขาไม่นึกเลยว่าพวกยูโตะจะไปเดินแถวนั้น เลยทำให้ยามาดะกวาดคะแนนสงสารไปเสียเต็มที่แถมริวทาโร่ยังมาขอยามาดะคบโดยไม่สนใจว่ามีเขายืนอยู่หน้าประตูห้องเลยถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะรู้ดีว่าคำพูดของตนสามารถดังเล็ดลอดออกไปภายนอกก็ตาม ไม่ใช่เขาคนเดียวที่ได้ยิน มียูโตะ ไดกิ อิโนะ ยาบุ ยูยะ เคย์โตะที่ยืนอยู่ด้วยกันต่างก็ได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่ว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมาทั้งสิ้น
ชิเนนรู้สึกเจ็บปวดจนไม่รู้จะบรรยายออกมาอย่างไรแล้ว ดวงตาเรียวเต็มไปด้วยน้ำตาและแววตาแห่งความปวดร้าว มือเล็กสั่นเสียจนสังเกตเห็นได้ เสียงสะอื้นค่อยๆ ดังขึ้นมาทีละน้อย ทำไมเขาถึงเป็นฝ่ายเดียวที่ต้องเจ็บปวดด้วย? เขามันไม่ดีตรงไหน...คนที่เขารักถึงไม่เคยแม้แต่จะหันมองมาทางเขา? ทำไม? ทำไม? ทำไม?
“ชิเนน...ชิเนน....” ยูยะ อิโนะ ยาบุ ยูโตะรีบเข้าไปประคองร่างของคนตัวเล็กที่ทรุดลงไปกองกับพื้น กำปั้นเล็กๆ ทุบลงพื้นเต็มแรงอย่างไม่สนใจใคร ความรัก...ความแค้น...ความเจ็บปวดที่ยูริใส่มันไว้ในกำปั้นนั้น ต่อให้ทุบจนมือหักไปข้างก็ไม่มีวันจางหายไปได้เลย
“ทำไมนายถึงไม่เคยมองชั้นเลย?” ว่าแล้วก็เหวี่ยงกำปั้นเข้ากับพื้นกระเบื้องเข้าเต็มแรงจนอิโนะรู้สึกเสียวกลัวว่ามือน้อยๆ นั่นจะอาบไปด้วยเลือดซะก่อน
“เปิดใจแล้วหันมามองชั้นบ้างไม่ได้หรือไงกัน!!” มือเล็กอีกข้างตรงเข้าไปกระแทกกับพื้นจนเกิดเสียงดังลั่น แต่ว่าเจ้าตัวกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น
“นายไม่รู้หรอไงว่าชั้นจริงจังกับนายมากแค่ไหน!!!” ยูริกระแทกสองมือลงพื้นไปพร้อมกันพลางร้องไห้ฟูมฟาย โชคดีที่ตอนนั้นคนในโรงพยาบาลแทบจะไม่มีเลย ไม่งั้นคงได้ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งโรงพยาบาลแน่ๆ
“ทำไม!!!!!!!!!” ชิเนนกรีดร้องออกมาพลางสะอึกสะอื้น น้ำตาหยดลงบนพื้นหลายหยดจนเจิ่งนอง ยูยะกับยาบุพยายามห้ามมือเล็กๆ นั่นไม่ให้ทุบพื้นอีก เจ้าของมือเลยหันไปทุบยูโตะแทน
“ยูโตะ...พูดอะไรสักอย่างสิ!! อย่าเงียบแบบนี้!!!” ยูริอ้อนวอนพลางรัวกำปั้นทุบอีกฝ่ายไม่ยั้ง คนหล่อได้แต่มองสภาพเพื่อนของตนอย่างเฉยชาก่อนจะเอามือรับกำปั้นนั้นไว้เพื่อช่วยให้คนตรงหน้าสงบสติอารมณ์มากขึ้น คนตัวเล็กที่หมดแรงได้แต่หอบแฮ่กๆ ทั้งน้ำตาเมื่อเห็นว่านากาจิม่าไม่ปริปากใดๆ เลย สายตาเรียวมองยูโตะอย่างตัดพ้อ
“พอเถอะชิเนน...ทุกอย่างมันจบละ”
..................................
“ไหวแน่หรอยามะจัง? นอนอีกคืนก็ได้นี่นา” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของไดกิเอ่ยถามผมที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดคนป่วยมาเป็นชุดลำลอง ตอนนี้ผมกำลังจะขออนุญาตคุณหมอออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนดเพราะว่าผมต้องรับผิดชอบในหน้าที่การงานของผมโดยที่ผมต้องไปซ้อมโซโล่กับยูโตะในเย็นวันนี้ให้ได้
“ชั้นโอเคน่า...ก็สบายดีทุกอย่างเลยเนี่ย ดูสิ” ผมหมุนตัวรอบนึงด้วยท่าทีเริงเร่าเพื่อให้ไดกิรู้ว่าผมสบายดีพอที่จะไปซ้อมต่อได้
“แต่ก่อนที่นายจะตื่นมาเมื่อกี้หน้าก็ยังซีดเซียว หายใจไม่สะดวกอยู่เลยนี่” ริวทาโร่แย้งพลางยื้อกระเป๋าเสื้อผ้าของผมที่เจ้าริวอุตส่าห์ไปเอามาจากที่บ้านผมมาไว้ในมือ
“แต่คอนเสิร์ตของจั๊มพ์มันก็อาทิตย์หน้าแล้วนะ...ชั้นอยากให้ทุกอย่างมันออกมาพร้อมและชั้นก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคนหรอกนะ” ผมทำเสียงออดอ้อนพลางส่งสายตาวิ้งวับให้ได้กิและริวทาโร่
“เออๆ ชั้นจะโทรไปบอกผู้จัดการกับพ่อแม่นายให้ ถ้างั้นขอชั้นไปคุยกับหมอก่อนละกันนะว่าเขาจะว่ายังไง” อาริโอกะพูดตัดบทเพราะรู้ว่าให้ตายยังไงก็ไม่สามารถห้ามผมได้ เจ้าตัวเดินออกไปนอกห้องทิ้งผมกับริวทาโร่ให้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
“ยามาดะ...” จู่ๆ เจ้าหนูริวก็เปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงและท่าทีจริงจัง ผมที่กำลังนั่งสวมสร้อยข้อมืออยู่บนเตียงคนไข้เงยหน้ามามองมันอย่างแปลกใจในท่าทีของคนตรงหน้า
“หืม?” เพียงแค่ผมเงยหน้าขึ้นมา ริวทาโร่ก็ยืนใบหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากอุ่นๆ ลงบนริมฝีปากอันเย็นเชียบของผม ลมหายใจอันเร่าร้อนเป่าลงบนแก้มเนียนของผมอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงตากลมเบิกกว้างเพราะความตกใจก่อนจะพยายามดันร่างของอีกฝ่ายออกแต่ทว่ามืออุ่นๆ ที่ประสานเข้ามากุมมือทั้งสองข้างนั้นทำให้ความคิดต่อต้านเป็นอันต้องชะงักไป ผมเผลอเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบนั่นหลังจากหลับตาลงช้าๆ
“คำตอบล่ะ?” ริวทาโร่เอ่ยถามหลังจากผละริมฝีปากออกมาโดยไม่ปล่อยให้ผมได้พักหายใจ แววตาที่จริงจังคู่นั้นทำให้ผมต้องหลบสายตาลงต่ำ ไม่อาจสู้ความหวังแต่แฝงอยู่ในดวงตาของเจ้าหนูริวมันได้ ผมยังคงรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่ไม่น้อย
สิ่งที่ริวทาโร่พูดไว้เมื่อคืน ผมยังจดจำมันได้ดีรวมทั้งเสียงร้องไห้ที่แสนเจ็บปวดของชิเนนนั่นด้วย ผมรู้มาตลอดเวลาริวทาโร่ชอบผม แต่เพราะคิดเสมอว่ามันคงจะเป็นแค่ความรักของเด็กๆ ที่หุนหันพลันแล่นเลยไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้าตัวจะพูดประโยคนั้นออกมาทั้งๆ ที่แต่ก่อนไม่เคยพูดออกมาเลยว่าชอบแต่การกระทำของเจ้าตัวนั่นแหละที่ทำให้ผมรู้
“แต่ชิเนนชอบนาย....นายก็รู้นี่” ผมแย้งเพราะใจก็แอบกลัวว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้จะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ สมาชิกจั๊มพ์คนอื่นๆ ต่างก็อึดอัดกับความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างสองคนนี้ ไดกิเคยบ่นให้ผมฟังเสมอว่าสองคนนี้ไม่แม้แต่จะคุยกันเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จนรุ่นพี่เบสท์คิดไม่ตกไปตามๆ กัน
“แต่ชั้นรักนาย!! ตอนนี้ชั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ชั้นไม่อยากให้ยูโตะเข้าใกล้นายไปมากกว่านี้ ชั้นกลัว...ว่ายูโตะจะแย่งนายไป........” คนพูดกำมือแน่น น้ำเสียงกึ่งตะคอกกึ่งตัดพ้อทำให้ผมเหวอไปชั่วขณะ อย่าบอกนะว่าที่ช่วงนี้มองผมกับยูโตะแปลกๆ แถมยังขรึมๆ นี่เป็นเพราะหึงผมกับยูโตะงั้นหรอ?
“ชั้นจริงจังกับนายนะ..ยามาดะ” ริวทาโร่กล่าวอีกครั้งก่อนจะเงียบไปราวกับกำลังรอคำตอบจากผม ในสมองตอนนี้วุ่นวายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกแคร์ริวทาโร่ เรื่องของชิเนน ยูโตะและหัวใจของผมเอง ถึงผมจะไม่สามารถลืมยูโตะได้..แต่บางทีการรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต อาจจะทำให้ผมพ้นจากความทรมานที่เป็นอยู่ก็ได้
......................................
เสียงเพลงดังสนั่นภายในห้องเก็บเสียงอันกว้างใหญ่ที่ประดับด้วยกระจกเงาทั้งสี่ด้าน ร่างของคนสองคนกำลังเคลื่อนไหวไปตามเสียงเพลงนั้นโดยผลัดกันเต้นตามคิวเพลงของตนโดยมีเด็กหนุ่มแบ็กอัพจำนวนมากคอยเต้นซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลัง
ร่างสูงโปร่งที่เสร็จจากการเต้นแท็ปค่อยๆ มูนวอลก์มายังกลางห้องพร้อมๆ กับอีกคนที่เดินมาที่กลางห้องด้วยลีลาอันพลิ้วไหว ก่อนที่ทั้งสองคนจะร่วมเต้นโซโล่คู่กันด้วยท่าทางที่เซ็กซี่ตามที่คนสอนเต้นคิดท่ามาให้ จบท้ายด้วยการหันหน้าเข้าหากัน ร่างสูงยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยเสียจนสันจมูกของคนทั้งคู่คลอเคลียกันในระยะประชิด สายตาของทั้งสองประสานกันด้วยแววตายั่วยวนท้าทาย
“โอเค!! เยี่ยมมาก ยูคุง ยามะจัง พักได้ๆ” คุณครูสอนเต้นตะโกนก่อนจะปิดเพลงลง ผมทรุดลงกับพื้นทันทีที่จบประโยคทำเอาคนข้างๆ กับเด็กแบ็คอัพแถวๆ นั้นต้องเข้ามาประคอง
“โอเคมั้ย เรียวสุเกะ” ยูโตะเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงร้อนรนแ ต่สีหน้ามันค่อนข้างจะเรียบเฉย ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบเพราะตอนนี้รู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวก คงเป็นเพราะยังไม่หายเป็นปกติพอมาออกกำลังหนักๆ แบบนี้ก็ทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน
“มานั่งตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวชั้นเอาผ้าเย็นมาให้” ยูโตะค่อยๆ ประคองผมที่มุมห้องก่อนจะวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูที่มันชอบเอาไปยัดไว้ในตู้เย็นเล็กที่ตั้งอยู่ในห้องซ้อมมาให้ผม
“ยามาดะ...” ริวทาโร่เปิดประตูพรวดเข้ามาโดยไม่มีใครคาดคิด ทันทีที่มันเห็นผมนั่งหอบแฮ่กหน้าแดงกล่ำ มันก็รีบวิ่งเข้ามาเอาผ้าขนหนูของมันเช็ดใบหน้าและลำคอให้ผมอย่างเบามือตัดหน้ายูโตะไปเพียงไม่กี่วินาที
“ชั้นบอกแล้วไงว่าน่าจะนอนที่โรงพยาบาลอีกสักคืนน่ะ ค่อยๆ หายใจนะ” ริวทาโร่บ่นพลางจับมือให้กำลังผมอย่างแน่นราวกับเห็นผมเป็นเด็กประถม
“ชั้นโอเคน่า แล้วนี่จั๊มพ์ซ้อมเสร็จแล้วหรอไง? ถึงได้ดอดมาหาชั้นได้น่ะ” ผมบ่นกลับเพราะอยากรู้ว่าจั๊มพ์ที่ซ้อมกันอยู่ที่ห้องซ้อมเต้นข้างๆ กันนั้นซ้อมไปถึงไหนแล้ว
“ผู้จัดการบอกให้จั๊มพ์ย้ายมาซ้อมห้องนี้น่ะ เพราะอีกห้องพวกพี่ๆ คัตตุนจะมาใช้ซ้อมขึ้นโชเนนวันพรุ่งนี้ พวกเราเองก็เลยกำลังขนกระเป๋าย้ายมาซ้อมห้องนี้ตามที่ผู้จัดการสั่งแหละ แต่เห็นว่าพี่ยาบุอยากให้ประชุมวงสักหน่อยก่อนซ้อมน่ะ” ริวอธิบายแต่ก็ไม่ทันกับกลุ่มคนที่เปิดประตูเข้ามาใหม่ ยาบุ ฮิคารุ อิโนะและคนอื่นๆ กำลังหอบหิ้วสัมภาระของตนเองเข้ามาวางเรียงกันภายในห้อง
“เอาละๆ ทุกคนรวมตัวทางนี้ด้วยเน้อ!!” ยาบุตะโกนเรียก เหล่าจั๊มพ์ที่กำลังค้นหาข้าวของของตัวเองกระเป๋าจึงพากันวิ่งมาที่กลางห้องเพื่อนั่งล้อมกันเป็นวงกลมใหญ่ๆ ก่อนที่จะเริ่มประชุม ผมรีบเดินไปนั่งหลบอยู่ที่มุมห้องก่อนจะผลักริวทาโร่ให้ไปร่วมประชุมวงก่อนที่ยาบุจะมีน้ำโห
“ยามะจัง ยูมะคุง พวกนายก็มาด้วยสิ” ฮิคารุโบกมือเรียกผมไหวๆ ผมกับยูมะที่อยู่คนละมุมห้องหันมาสบตากันก่อนจะพร้อมใจวิ่งเข้าไปสมทบในวงประชุมของจั๊มพ์โดยที่ผมเลือกที่จะนั่งระหว่างไดกิกับริวทาโร่ ส่วนยูมะนั้นไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ข้างๆ ชิเนนกับยูโตะ
“ช่วงนี้พวกเราต้องซ้อมหนักกันหน่อยจนกว่าจะถึงวันจริง ก็อยากให้พวกเราพักผ่อนกันเยอะๆ หน่อย อย่าหักโหมมากจนเกินไป โดยเฉพาะนาย...ยามะจัง อาการยังไม่ดีขึ้นเลย จะรีบมาซ้อมทำไม?” โคตะเปรยก่อนจะเล็งเป้ามาทางผม ผมอึ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไป
“ผมอยากจะมาขอบคุณยูมะ เคย์โตะ ริวทาโร่กับยูโตะเรื่องเมื่อคืนนี้ และตัวผมเองก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้งานของจั๊มพ์เสียหายด้วย” ทันทีที่พูดจบ ผมสังเกตเห็นชิเนนทำหน้าเหยเกราวกับไม่เชื่อในคำพูดผม ยูโตะเองก็เหลือบมองผมด้วยหางตาอย่างแคลงใจ
“อยากมาขอบคุณหรืออยากมาออเซาะใครบางคนกันแน่!!” ชิเนนเปรยขึ้น ผมแสร้งหันไปมองชิเนนด้วยท่าทีแปลกใจทั้งที่ในใจแอบกระหยิ่มยิ้มเยาะเมื่อเห็นผ้าพันแผลบนมือของชิเนนที่พันอยู่แทบจะทั้งมือ
“หุบปากน่ะเป็นมั้ย?” หนุ่มน้อยโมริโมโตะขึ้นเสียง ทำเอาชิเนนที่กำลังซ่าต้องสงบปากสงบคำเพราะไม่อยากต่อกรกับคนที่เขาแอบรัก
“พวกนายเนี่ยเมื่อไรจะคุยกันดีๆ สักทีนะ” ยูยะบ่น ทั้งคู่จึงตัดสินใจสงบปากสงบคำของตัวเองลง
“เอาเถอะ ยังไงก็แล้วแต่นายก็ควรจะมีคนดูแลนะ ยามะ ช่วงนี้เหมือนว่าจะมีคนจ้องนายอยู่ไม่น้อยนะ นายก็ด้วยยูโตะ...คดีเมื่อคืนนายก็มีส่วนพัวพันด้วยนิ” ฮิคารุเสริมต่อ
“ผมๆๆๆๆๆ ผมดูแลยามะจังเอง!!” ริวทาโร่อาสาพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นก่อนจะส่งสายตาอ้อนวอนยาโอโตเมะและโคตะจนทุกคนในเหตุการณ์มองริวทาโร่อย่างแปลกใจ
“นายน่ะรับผิดชอบตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ โมริว” เคย์โตะแหย่เพราะรู้เหตุผลดีว่าที่ริวทาโร่ทำแบบนั้นก็เพราะอยากใกล้ชิดยามาดะ ไดกิก็หัวเราะร่าก่อนจะรับขวดน้ำจากเคย์โตะมาดื่มหลังจากหัวเราะจนคอแหบแห้ง
“คนมันอยากจะดูแฟนตัวเองเนี่ย มันผิดตรงไหนกันเล่า!! ริวทาโร่โวยใส่เคย์โตะที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำเอาไดกิพ่นน้ำออกมาใส่อิโนะที่นั่งอยู่ตรงข้าม ผมที่โดนพาดพิงสะดุ้งโหยงที่เห็นคนนั่งข้างๆ พ่นน้ำออกมาเป็นน้ำพุ ทำเอาวงล้อมของจั๊มพ์แตกกระจายเพราะไดกิเนี่ยละ
“ไดจัง....อะไรของนายเนี่ย!!!!” อิโนะโวยวายก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบเสื้อมาเปลี่ยน ในขณะที่อาริโอกะได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันไปส่งสายตาจิกกัดใส่ริวทาโร่
“นายไปเป็นแฟนยามะจังของชั้นตั้งแต่เมื่อไร?” ไดกิกัดฟันถาม ผมได้แต่ตบไหล่ไดกิเบาๆ เป็นเชิงปรามเพราะไดกิเองก็จะช็อกเล็กน้อยที่ผมตกลงปลงใจคบกับริวทาโร่ คนอื่นๆ ก็คงจะตกใจเช่นกันโดยเฉพาะชิเนน
“ก็เมื่อ....” “ริวทาโร่!!” ผมรีบปรามอีกคนที่กำลังจะพูดมันออกมา ริวทาโร่ได้แต่ทำหน้าจ๋อยหลังจากเจอเสียงดุๆ ของผมเข้าไป ทุกคนเองก็นั่งทำตาปริบๆ อย่างเงียบๆ
“เอาเถอะๆ ยังไงก็แล้วแต่นายนะริวทาโร่ ช่วงนี้นายสองคนก็ยังต้องไปสถานีตำรวจเป็นระยะๆ เวลาไปก็ระวังพวกสโตรกเกอร์กับนักข่าวบ้างละกัน และที่สำคัญให้ปิดเรื่องเมื่อคืนนี้เป็นความลับ อย่าแพร่งพรายมันออกไปเด็ดขาด ไม่งั้นผู้จัดการเฉือนเราตายยกวงแน่” ยาบุพูดพลางมองมาที่ผมกับยูโตะ ก่อนจะทิ้งคำขู่ที่แสนน่ากลัวเอาไว้ให้
“โอเคๆ ทุกคนไปซ้อมกันได้แล้ว” ยาบุสั่ง ทุกคนจึงลุกแยกย้ายกันเตรียมตัวซ้อม เหลือเพียงผมที่ลุกขึ้นยืนนิ่งเพราะมีสายตาสองคู่ที่จ้องมองผมอย่างมีความนัย ร่างของคนตัวเล็กเดินมากอดผมแน่นเสียจนอึดอัด แต่ผมก็ไม่กล้าขัดขืนใดๆ เพราะเกรงใจสายตารุ่นพี่คนอื่นๆ ที่มองมา
“ยามะจัง.....ทำไมทำกับชั้นแบบนี้ล่ะ?” จู่ๆ ชิเนนก็น้ำตาซึมพลางผละแขนออกแล้วมองหน้าผมเหมือนผมทำอะไรผิดมาสักอย่าง
“นายก็รู้ว่าชั้นชอบริวทาโร่...แต่ทำไมนายถึงได้ทำแบบนี้กับชั้นล่ะ?” ผมเริ่มถึงบางอ้อกับท่าทีที่แปลกไปของชิเนน ก็เพราะมียูโตะและทุกคนยืนอยู่ตรงนี้ ยูริถึงได้ทำทีเป็นน่าสงสารบีบน้ำตาเรียกร้องความสนใจนี่เอง
“ถ้านายว่างมากก็เอาเวลาไปซ้อมเถอะไป...” ผมเดินชนไหล่ออกมาอย่างหัวเสียกับจริตจะก้านของอีกฝ่ายที่มาก่อกวนผมต่อหน้าคนอื่นแบบนี้
หมับบบ......
ยูโตะจับแขนผมแน่นก่อนจะลากผมออกไปนอกห้อง ผมพยายามแกะมือเหนียวๆ นั่นออกไปจากแขนผมแต่ก็ไม่สำเร็จ ใบหน้าหล่อนั่นดูจะแฝงความโกรธอยู่นิดๆ แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันจะโกรธอะไรผม เอ๊ะ หรือว่าจะโกรธผมแทนชิเนนก็เป็นได้
“ทำอะไรของนาย!!” ผมโวยวายหลังจากสะบัดแขนออกมา มันจับแขนผมเสียจนเป็นรอยแดงๆ รูปนิ้วยาวๆ ของมัน
“แย่งคนรักของเพื่อนแบบนี้..ใช้ได้ที่ไหนกัน?” น้ำเสียงเย็นชาของยูโตะทำให้ผมขนลุกกราว ดูเหมือนว่ามันกำลังอยู่ในโหมดเย็นชาเข้าเสียแล้ว ก็คงไม่แปลกหรอกที่จะเป็นแบบนี้ ก็คนสำคัญของมันโดนผมชนซะเกือบกระเด็นเลยนี่
“แล้วนายจะยุ่งอะไรด้วย...ไหนบอกว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันไง?” ผมกระแทกเสียงกลับเพื่อสยบความเย็นชาของมัน แต่ก็เหมือนจะได้ผล แววตาของมันชะงักไปวูบหนึ่ง
“ชั้นไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนที่แย่งของๆ คนอื่นมาได้หน้าตาเฉยแบบนายหรอกนะ” ผมยิ้มเยาะใส่คนตรงหน้าทันทีที่ฟังจบ
“ถ้างั้นนายก็เลิกคบชิเนนซะสิ....หมอนั่นก็แย่งนายไปจากชั้นไม่ใช่หรอไง?” ผมท้าก่อนจะเดินกลับไปที่ประตูห้องเพื่อที่จะเปิดเข้าไปแต่ก็ต้องชะงักเพราะคำพูดหนึ่งที่ลอยแว่วมาเข้าหู
“ที่ชั้นเลิกกับนายน่ะ...ก็เพราะชั้นเกลียดนายต่างหากล่ะ”
.........................
ครบร้อยเปอร์แล้ว ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้ก็ดำเนินเรื่องไปอย่างช้าๆ ยืดๆ เช่นเดิม เฮ้อออออออ
ตอนนี้โตะเปรยเหตุผลของตัวเองออกมาแล้ว โอ้ว โนวววววววว
โตะใจร้ายยยยยยยย แถมยามะก็ตกลงคบกะริวๆ แล้ว อ้ากกกกก
สาวกนากายามะไม่ต้องตกใจไป ยังไงซะคอนเซปต์ก็คือนากายามะแน่นอน
เพื่อนมันบอกว่าฟิคเรื่องนี้เหมือนซีรี่ย์มาก ริว ยามะ โตะ ชี่ ต่างคนต่างก็เจ็บปวด
(ของโตะไม่บอกก็คงรู้มั้งว่าเจ็บปวดตรงไหน? คนอ่านอาจไม่รู้แต่คนแต่งรู้เค่อะ)
เอาละ เข้าเรื่องๆ
คือว่าอยากแลกลิ้งก์แลกแบนเนอร์กับทุกคนที่แต่งฟิคจั๊มพ์ในเด็กดีหรือที่ไหนก็ได้
เผื่อว่ามีคนอยากอ่านฟิคจั๊มพ์พอมาเจอลิ้งก์กะแบนเนอร์พวกนี้ก็จะได้อ่านต่อกันไปเป็นทอดๆ
สร้างเครือข่ายจั๊มพ์เลยทีเดียว อิอิ
ขอบคุณสำหรับทุกเม้นเน้อ
ปล.ชอบคห.217มากเลย คุณ ยามะจัง ฉันรักเธอ อ่ะ
ตัวจริงรายงานตัวหน่อยค่ะ จะพาไปเลี้ยงฮะจิบัง
เนื่องจากเม้นได้ถูกใจคนแต่งค่ะ หุหุ
(ปรากฎว่าวันรุ่งทุกคนพร้อมใจกันเม้นให้โดนใจเพื่อฮะจิบังกันหมดเลย) ฮ่าๆๆ
... N eL’ L
ความคิดเห็น