ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic sj*snsd] OH BOY !! กลุ้มใจนัก..สะดุดรักนายตัวร้าย

    ลำดับตอนที่ #3 : Oh boy !! chapter 1 .. ศึกชิงช้อนส้อม -.-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.87K
      3
      21 เม.ย. 53

    OH BOY !!  กลุ้มใจนัก สะดุดรักนายตัวร้าย 
    ตอน  ศึกชิงช้อนส้อม -.-



                     เปิดเทอมวันแรกที่แสนวุ่นวายของโรงเรียนมัธยมใจกลางกรุงโซล เต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคัก เนื่องจากปิดเทอมใหญ่ไปนาน หลายคนจึงมีเรื่องราวต่างๆช่วงปิดเทอมมาเม้าท์ให้เพื่อนของตนฟัง   แต่แล้วก็มีสียงกรี๊ดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาจากหน้าโรงเรียน
     
    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ~ พี่ยูล พี่ยุนเท่ที่สุดเลยค่า >//<”
     
     
    “เฮ้ยแท ซอ เสียงกรี๊ดอะไรกันวะ”  สาวน้อยหน้าตาน่ารัก ผมสีบลอนด์นามว่า เจสสิก้าเอ่ยถามเพื่อนซี้ของเธอ แทยอนและซอฮยอน
     
    “โถ่ จะใครซะอีกหล่ะ เสียงกรี๊ดเด็กมอต้นแบบนี้ .. ไอ้แฝดมหาภัยมาแล้วอ่ะดิ” แทยอนตอบไปอย่างมั่นใจ และก็เป็นไปตามคาด ร่างสูงเด่นของสองสาวเพื่อนซี้แฝดคนละฝา ยูริและยุนอาเดินกอดคอกันมาแต่ไกล
     
    “อันยองฮาเซโยเพื่อนเลิฟทั้งสาม” เป็นปกติทั้งสองคนจะมาถึงโรงเรียนพร้อมกัน เดินเข้ามาพร้อมกัน แล้วก็จะทักทายเพื่อนพร้อมกันแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
     
    “แหมยูล เปิดเทอมมาก็เรียกเสียงกรี๊ดซะดังสนั่นเลยนะแก” เจสสิก้าแซว ส่วนคนที่ถูกพูดถึงได้แต่ยกรอยยิ้มขึ้นมาอย่างปลงๆ
     
    “เออ  ชินแล้วว่ะ 555 ไปหาไรกินกันมั๊ยเจส หิวแล้วอ่า ”   เจสสิก้าพยักหน้าตอบรับแล้วทั้งสองก็เดินตรงไปที่ร้านข้าวผัดเจ้าประจำทันที
     
    “เออซอ แกมาแต่เช้าใช่ป่ะ” ยุนอาถามเพื่อน
     
    “อืมใช่ มาตั้งแต่หกโมงครึ่งแล้ว พ่อมีประชุมแต่เช้าอ่ะ” ซอฮยอนตอบในขณะที่อีกมือก็โพสรูปถ่ายตนลงเฟสบุ๊ค
     
    “แกไปดูมายังว่าเราอยู่ห้องเดียวกันอีกรึป่าว”
     
    “อ๋อ ยังเลยอ่ะ ก็ตอนแรกกะว่าจะเดินไปดูแล้ว แต่แทโทรมาให้ไปหาหน้าโรงเรียนเลยยังไม่ได้ไปดูเลย”
     
    “ไว้กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปดูก็ได้ยุน วันนี้ก็แค่ไปดูชื่อแล้วรายงานตัวไม่ใช่หรอ ไม่ต้องรีบหรอกน่า” แทยอนพูด แล้วก็ก้มลงไปกินข้าวต่ออย่างเอร็ดอร่อย
     
    “อืมๆ เอางั้นก็ได้”
     
     
    ด้านยูริกับเจสสิก้า
     
    “ป้าขา วันนี้ยูลเอาเหมือนเดิมเลยค่ะ จำได้รึป่าว” ยูริพูดกับป้าร้านข้าวผัดอย่างเป็นกันเอง ก็มีตำแหน่งลูกค้าประจำอยู่แล้วหนินา
     
    “แหม ป้าก็ต้องจำได้อยู่แล้วแหละจ้ะหนูยูริ แล้วของหนูเจสสิก้าเอาเหมือนเดิมรึป่าวจ๊ะ” คุณป้าเอ่ยถามอย่างใจดี เจสสิก้ายิ้มรับแล้วพยักหน้าเบาๆ
     
    “อ่ะนี่จ้ะ .. ข้าวผัดปักกิ่ง กับข้าวผัดแซลม่อน ของหนูยูริกับหนูเจสสิก้า” 
     
    “ขอบคุณค่ะป้า” แล้วทั้งสองก็เดินกลับโต๊ะ โดยที่เจสสิก้าไม่ลืมที่จะเดินไปหยิบช้อนส้อมในขณะที่เพื่อนสาวเดินกลับโต๊ะไปแล้ว
     
    “อ้าวไอนี่ ไม่เอาช้อนส้อมแล้วจะกินยังไงของมัน ฮ่าฮ่า” เจสสิก้ามองเพื่อนขำๆ  แต่เพราะมัวมองเพื่อนเลยไม่ได้มองที่มือตนทำให้เผลอไปโดนมือของคนอื่นเข้า
     
    “ขอโทษค่ะ” เจสสิก้ากล่าวอย่างมีมารยาท
     
    “ไม่เป็นไรครับ” แล้วทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายพร้อมกัน เมื่อสองสายตาประสานทำให้ชะงักไปทั้งคู่ เพราะฝ่ายหญิงเป็นโรค แพ้คนหล่อ ส่วนฝ่ายชายดั๊นดันมาเป็นโรคแพ้คนสวยอีกต่างหาก
     
    “เฮ้ยไอ้วอน หยิบให้กุคู่นึงด้วย ลืม / เจสเว้ยยย หยิบมาเผื่อด้วย” เสียงเรียกจากเพื่อนของทั้งสองฝ่ายทำให้เจสสิก้าหลุดออกจากภวังค์เสียก่อน แต่ฟ้าดันเล่นตลก เหลือช้อนส้อมอยู่คู่เดียว -.- ทั้งเจสสิก้าและซีวอนมองหน้ากันอีกรอบก่อนจะหัวเราะออกมา
     
    “คุณเอาไปก่อนก็ได้” ซีวอนเอ่ย
     
    “ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวชั้นเดินไปหยิบฝั่งนู้นได้” เจสสิก้าเองก็เกรงใจเช่นกัน ซึ่งปกติถ้าคุยกับคนแปลกหน้า เธอมักจะหยิ่งใส่ แต่เพราะชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเค้าดันหล่อเกินห้ามใจน่ะสิ
     
    “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหยิบฝั่งนู้นเอง”
     
    “เอ่อ เชิญคุณก่อนดีกว่านะคะ”   ทั้งสองเกี่ยงกันไปมาอยู่นาน จนคนที่ตะโกนสั่งเพื่อนเมื่อตะกี้ต้องเดินมาดูเพื่อน
     
    “เป็นไรไปวะไอ้วอน / เป็นไรไปอ่ะเจส”  ยูริเดินมา พร้อมกับมองไปที่หนุ่มหล่ออย่างสงสัยเพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าทั้งสองมาก่อนเลย 
     
    “อ่อป่าว / ไม่มีไร” ซีวอนและเจสสิก้าตอบพร้อมกัน 
     
    “เอองั้นกลับโต๊ะดิ เอาช้อนมา” ยูริพูดก่อนจะคว้ามือเพื่อนจะเดินกลับโต๊ะแต่เจสสิก้าดึงรั้งไว้
     
    “อ้าว ไมไม่ไปอ่ะ”
     
    “เดี๋ยวเราเดินไปเอาช้อนส้อมตรงนู้นนะยูริ”  ยูริได้แต่ยืนงงว่าทำไมต้องเดินไปเอาช้อนส้อมอีกฝั่งนึงด้วยในเมื่อมันก็มีเหลืออีกคู่นึงพอดี
     
    “เอ้าไอ้วอน ยืนอยู่ทำซากไรหล่ะ กลับโต๊ะดิ” ฮันกยองเอ่ยขึ้นบ้าง
     
    “มึงกะกุอ่ะเดินไปเอาคู่ใหม่ตรงฝั่งนู้นด้วยกันเลยไอ้ฮัน” 
     
    ทั้งฮันกยองและยูริได้แต่ยืนงง ก่อนจะเดินไปก่อนคว้าช้อนส้อมคู่สุดท้ายพร้อมกันพอดิบพอดี โดยที่ฮันกยองหยิบได้ช้อน ส่วนยูริหยิบได้แต่ส้อม
     
    “อ้าวเฮ้ย แย่งกันงี้ได้ไงอ่ะนาย” ยูริเป็นคนพูดขึ้นมาก่อน
     
    “อะไรครับ ผมหยิบของผมก่อนนะ” ฮันกยองสวน
     
    “นายจะบ้าหรอ ก็เห็นอยู่ว่าชั้นหยิบก่อน”
     
    “ผมหยิบก่อน”
     
    “ก็นี่ไง ส้อม ชั้นได้ส้อมแล้ว ก็ต้องได้ช้อนด้วย” ไม่พูดเปล่า ยูริหยิบส้อมขึ้นมาโชว์ด้วย แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมแพ้
     
    “แต่ผมก็ได้ช้อนนะคร้าบบคุณ” ฮันกยองตอกกลับพลางเอาช้อนของตนไปเคาะที่ส้อมยูริอย่างกวนอารมณ์

    “อย่ากวนตี นดินาย เป็นผู้ชายเสียสละหน่อยไม่ได้ไง”
     
    “เอ้าๆ พูดดีดีนะ พูดไม่ดีจับจูบนะเว้ย ลองดิ 555” พูดจบร่างสูงก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนอย่างเหนือกว่า
     
    “โธ่ คิดว่ากลัวหรอวะ แค่ลูกไม้กระจอกๆของพวกหน้าตัวตึ๊ด”
     
    “ไม่ต้องมีเซนเซอร์หรอก รับได้น่า .. เออ แต่ถ้าแรงไปจนรับไม่ได้อาจจะโดน จุดจุดจุดนะ ^3^”
     
    “เอาหน้านายออกไปไกลๆเลย ขยะแขยงว่ะ ยี๊~”
     
    “สวยตายแหละแม่คู๊ณณณณ”
     
    “นายว่าไงนะ”
     
    “สวยจังเลยคู๊ณณณณณ”
     
    “เออแล้วไป .. ช้อนอ่ะเอามาได้แล้ว”
     
    “แหนะๆ อย่าใช้ทีเผลอดิ ช้อนย่อมมีความสำคัญกว่า ในเมื่อชั้นได้ช้อน ก็ต้องได้ส้อมด้วยดิเธอ ..”
     
    “โหหนิไม่รู้จักกันนายกล้าเรียกชั้นว่าเธอเลยงั้นหรอ คุณอ่ะพูดเป็นมั๊ย ไอ้บ้า”
     
    “แรงมาก็แรงกลับสิครับ ..เธอ!!!   ฮ่าฮ่าฮ่า”
     
    “ทันไม่ไหวแล้วนะเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!”   ตอนนี้ทั้งสองคนกลายเป็นเป้าสายตาของนักเรียนทั่วโรงอาหารที่จ้องมาเป็นทางเดียวกัน เพราะหลายๆคนรู้อยู่ว่ายูรินอกจากจะเด่นเรื่องหน้าตาดี การเต้นการร้องเพลงแล้วนั้น เรื่องฝีปากก็ไม่เป็นสองรองใครเลย ใครที่ทะเลาะกันยูริมักมีจุดจบไม่ค่อยดีเท่าไหร่
     
    “จะทำไรอ่ะ ทำดิ .. แต่ระวังโดนจูบกลับนะ”
     
    “กูไม่กลัวแล้วเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!! ฮึ้ยยยย”   ยูริที่ตอนนี้เดือดจนถึงขีดสุด ดีดขาเรียวยาวไปปะทะกับน้องชายของฮันกยองอย่างแรง จนอีกคนหน้าซีดแล้วทรุดลงทันที
     
    “อุ๊บบบ~”  คนร่างสูงนั่งกุมส่วนลับอย่างเจ็บปวด ส่วนยูริตัวแสบหลังจากที่แย่งช้อนมาได้แล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ตนทำแรงเกินไปจนอีกคนหน้าซีดจนเขียวแล้วตอนนี้
     
    “เฮ้ยไอ้ฮัน” ซีวอนมองอย่างตกใจ ก่อนจะถามอาการเพื่อนอย่างเป็นห่วง ไม่ต่างกับเจสสิก้าที่มองเพื่อนรักตัวเองอย่างอึ้งๆ
     
    “ยูล~ แกโหดร้ายง่ะ T^T   .. นายๆเป็นไรมากมั๊ยอ่า ” เจสสิก้าตำหนิเพื่อนเล็กน้อยก่อนจะลงไปดูอาการฮันกยองอย่างรูสึกผิดแทนเพื่อน
     
    “ ง่ะ  T^T ชั้นขอโทษนะ ~ ” ยูริเอ่ยขึ้นอย่างสำนึกผิด แต่ดูเหมือนผู้โชคร้ายจะไม่ค่อยมีอารมณ์จะคุยด้วยเท่าไหร่
     
     
    “เฮ้ยไอ้ฮันเป็นไรมากป่าววะ” คิบอม ดงเฮและคยูฮยอนต่างรีบวิ่งกรูเข้ามาดูอาการเพื่อนตัวเองอย่างเป็นห่วง
     
    “มากถึง.. มะ มาก อึก ที่ สะ สุดเลยว่ะ” หนุ่มจีนพยายามเค้นเสียงออกมาด้วยแรงที่ลดฮวบลงไปจนเหลือน้อยนิด
     
    “ยูล .. แกโหดร้ายอีกแล้วนะ บอกแล้วว่าทำไรใจเย็นๆ โกรธทีไร แบบนี้ตลอด” ยุนอาวิ่งมาก่อนจะพูดกับแฝดคนละฝาของตนที่ยืนหน้าเศร้าสำนึกผิดอยู่
     
    “ก็ลืมตัวอ่ะยุน T^T ซอ แท เค้าไม่ได้ตั้งใจน้า ฮึก ฮือ TT”   ไม่นานนัก น้ำตาของควอนยูริก็ไหลออกมา เพราะเมื่อเห็นสภาพของฮันกยอง เธอก็รู้ทันทีว่าตนทำรุนแรงเกินไป ทำให้รู้สึกผิดไม่น้อย
     
    “ไม่ต้องร้องไห้สำนึกผิดเลยยัยตัวแสบ แทนที่จะช่วยพาไปห้องพยาบาลนะ” ฮันกยองพูดขึ้น ยูริมองหน้าฮันกยอง
     
    “ยังจะงงอีก หยุดร้องไห้แล้วพยุงชั้นไปห้องพยาบาลดิ” เมื่อฮันกยองพูดจบ ยูริก็รีบยกแขนหนักของร่าสูงมาพาดบ่าก่อนจะค่อยๆพยุงฮันกยองให้ลุกขึ้นช้าๆ
     
    “ยูล แกไหวหรอ .. คุณคะ ช่วยหน่อยได้มั๊ย” เจสสิก้าถามซีวอน แต่ฮันกยองส่ายหน้า
     
    “ใครทำก็ต้องให้เค้ารับผิดชอบ ยัยนี่เตะแรงขนาดนี้ได้  แค่พยุงผมเรื่องจิ๊บๆน่า”
     
    “เออใช่ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ลำบากเท่าไหร่ พวกแกแล้วก็พวกนายไปกินข้าวต่อเหอะ นายนี่เดี๋ยวชั้นพาไปเอง” ยูริพูดจบ ฮันกยองก็ทำท่าจะล้ม ทำให้หญิงสาวต้องเอามือไปโอบเอวคนเจ็บไว้อย่างลืมตัว เล่นเอาอีกคนยิ้มอย่างเข้าทาง จนพวกกลุ่มเพื่อนฮันกยองที่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ผุดขึ้นบนใบหน้าเพื่อนก็ยิ้มออกมาทันทีกับความกะล่อนของหนุ่มจีนคนนี้
     
    “โอ๊ะ โอ๊ย” พอเดินก้าวแรก ฮันกยองก็ต้องส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ยูริทำอะไรไม่ถูกได้แต่ถามซ้ำไปมาว่าเป็นไรมากรึป่าว
     
    “เดินไม่ค่อยไหวว่ะ” ฮันกยองทำท่าเหมือนจะล้มลงไปอีกรอบ ยูริจึงรีบคว้าตัวไว้ทันที
     
    “อย่าว่ากันนะ เดินไม่ไหวจริงๆ” พูดจบหนุ่มกะล่อนก็เอามือข้างนึงโอบเอวบางของยูริไว้ในขณะที่อีกข้างจับมือยูริไว้เพื่อไม่ให้ปล่อยออกจากตน
     
    “เฮ้ย ไอ้บ้านี่” ยูริตกใจในตอนแรก แต่ก็ยอมเพราะกลัวอีกคนเจ็บไปมากกว่าเดิมแล้วตนจะลำบาก ซึ่งพวกนักเรียนในโรงอาหารก็ได้แต่มองตามอย่างอิจฉาเพราะยูริก็สวยน่ารัก ฮันกยองก็หล่อเท่
     
     
     
    ...ห้องพยาบาล..
     
    “ค่อยๆนอนนะ ช้าๆ” ยูริค่อยๆประคองชายหนุ่มลงช้าๆ
     
    “อู๊ยยย  โอ๊ยย” หนุ่มเจ้าเล่ส่งเสียงเจ็บปวดออกมาเป็นระยะๆทำให้หญิงสาวตกใจอีกครั้ง
     
    “ยังไม่หายเจ็บอีกหรอนาย นี่นอนรอไปก่อนนะ เดี๋ยวชั้นไปตามตามพยาบาลมาให้” เนื่องจากโรงเรียนนี้ค่อนข้างเป็นโรงเรียนชั้นแนวหน้าของประเทศ ห้องพยาบาลจึงมีหมอและพยาบาลประจำอยู่ด้วย
     
     
    หลังจากนั้นไม่นานยูริก็กลับจากพร้อมพยาบาลชายคนนึงที่เดินค่อนข้าง ..เอิ่มม ตุ๊ด *0*
     
    “เป็นไรไปค๊า .. อุ๊ยตายหล่อลาก” พยาบาลชายคนนั้นเมื่อเห็นหน้าตาหล่อเหลาก็เผลอหลุดออกมาทันที
     
    “เอ่ออ .. เธอ ชั้นว่าเรากลับไปหาเพื่อนเรากันเหอะ ชั้นได้นอนยืดเมื่อกี้ก็พอไหวแล้วนะ” ฮันกยองเห็นท่าไม่ค่อยดีเลยรีบชิงพูดก่อน แต่หญิงสาวหน้าสวยก็ส่ายหน้าปฏิเสธแม้จะเห็นใจก็ตาม
     
    “แหมๆ ไม่เป็นไรหรอกค่า เดี๋ยวพี่ช่วยเอง หนูยูลกลับไปหาเรียนเถอะค่ะ” พยาบาลหนุ่มบอกอย่างคุ้นเคย เพราะยูริมีเรื่องบ่อย เลยเจ็บตัวต้องเข้าห้องพยาบาลบ่อยเช่นกัน
     
    “เอ่อ ค่ะ .. งั้นชั้นขอตัวก่อนนะนาย” ยูริพูดด้วยสีหน้าเห็นใจแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ฮันกยองจึงทำได้เพื่อส่งแววตาขอร้องซึ่งก็ไม่เป็นผลเพราะยูริเปิดประตูออกไปแล้ว
     
    “โชคดีนะนายตัวแสบ” แล้วยูริก็เดินจากไป
     
    “ยัยตัวแสบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ !!   อย่าเพิ่งไป TT ” ฮันกยองตะโกนเสียงดังก่อนจะหลือบมาเห็นพยาบาลเพศชิ๊งที่มองเป้าเค้าตาวาว
     
    “มามะ เรามาบรรเทาความเจ็บปวดกันดีกว่า หึหึ”


    ---------------------------------------------------------------------------

    หวัดดีค่าา .. กิ๊กมาอัพตอนแรกให้ตามที่สัญญาแล้วนะคะ
    ไม่รู้ว่าจะมีใครเห็นรึป่าว คงออกไปเล่นน้ำกันหมด T^T
    แต่กิ๊กยังไม่ได้เล่นวันนี้ รอเพื่อนกลับมาจาก ตจว กันก่อน
    เลยจะพยายามเอาเวลาช่วงนี้อัพให้อ่านกันเรื่อยๆนะคะ
    ที่สำคัญคือต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆที่ตอบรับมาค่อนข้างดี
    เห็นแบบนี้ก็มีแรงปั่นต่อมายาวเลยหล่ะค่ะ
    หวังว่าจะไม่ทิ้งไรเตอร์ตาดำๆคนนี้นะคะ   … ** อย่าลืมคอมเมนท์ซักนิดนะคะ อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×