ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #66 : Da Capo 24 : Friendship

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 327
      1
      3 พ.ย. 56

    Da Capo 24 : Friendship

     

                ตอนเช้าหลังจากที่พยาบาลเข้ามาเปลี่ยนขวดน้ำเกลือให้ไอ้ไฟว์ เช็ดตัว ทำอะไรเรียบร้อยแล้วและผมกับเนมก็นั่งเถียงกันเรื่องเกมอยู่ ไอ้ซีก็เปิดประตูเข้ามา หน้ามันก็ยังเยินเหมือนเดิมแต่ไม่ได้แปะพลาสเตอร์แล้ว มันเอาถุงของกินมาวางตรงโต๊ะใกล้ๆเตียงไฟว์ ก่อนจะทักทายไอ้คนป่วย

                นอนนิ่งเลยสิมึง

                ไฟว์ยิ้มหึๆ(มันคงไม่กล้าหัวเราะมาก เดี๋ยวซี่โครงจะเสียบพุงเอา) อิจฉากูมั้ยล่ะ นอนเฉยๆอยู่ดีๆก็มีคนเอาของกินมาประเคน

                ซีส่ายหน้าเหมือนจะระอาไอ้คนเจ็บไม่เจียม มีหน้ามากวนตีน แต่มันก็หันไปหยิบน้ำหยิบขนมมาส่งให้

                กูถามพยาบาลมาแล้ว เขาบอกมึงกินได้ไฟว์ทำตาโต มันยังคงไม่ได้ใส่แว่น กูรู้ อาหารโรงบาลรสชาติไม่น่าแดก กินๆเข้าไปเหอะ พวกนี้กูเอามาจากบ้าน ไม่ได้ซื้อหรอก

                แสรด บ้านมึงมีของกินเยอะขนาดนี้เลยเรอะ ได้ข่าวทำอสังหาฯ ไม่ใช่ตลาดนี่หว่า!”

                ไอ้ซีปรายหางตามอง ท่าทางเริ่มรำคาญที่ไฟว์แม่งกวนตีนไม่เลิกรา สุดท้ายมันเลยหัวเราะ กล่าวขอบคุณแล้วหยิบขนมไปกินเงียบๆโดยไม่แกว่งปากหาตีนคุณชายซีอีก ผมเดินเข้าไปหาไฟว์บ้าง และทันทีที่เห็นหน้า ซีก็ยิ้มมุมปาก

                หาของกินอยู่ล่ะสิผมถลึงตาใส่ไอ้คนรู้ทัน และมันก็หยิบแก้วชานมในถุงส่งให้ นี่ของมึง

                ผมทำตาวาว ไอ้ซีนี่รู้ใจ โอ๊ยยยยย อยากกอดมันแรงๆสักที! “แต๊งค์หลาย!”

                ผมเอาชาไปสูบทันทีด้วยความกระหาย ส่วนซีก็หยิบกาแฟกระป๋องเขวี้ยงข้ามห้องไปให้เนมที่ทำเพียงยกมือขึ้นรับ มันบอกขอบคุณสั้นๆ แล้วก็ก้มหน้าง่วนอยู่กับไอโฟนของมันต่อ

                นิวล่ะ?ผมถามถึงไอ้คนที่เงียบหายไปตั้งแต่เมื่อวาน

                ซีเลิกคิ้ว ถามเหมือนบ้านกูกับบ้านมันอยู่ตรงข้ามกัน

                กวนตีน...ผมพึมพำด่ามัน แต่นั่นก็แทนคำตอบได้ดีว่าซีเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้นิวอยู่ไหน ผมจึงเปลี่ยนเป้าไปทางคนที่น่าจะมีข้อมูลมากกว่าแทน เนม นิวมันว่าไงบ้างอ่ะ?

                กูคุยกับมันครั้งล่าสุดก็ที่บ้านเย็นวาน

                ผมเบะปาก เนมมันช่างใส่ใจพี่ชายตัวเองจริงๆ ผมมองนาฬิกา นี่เพิ่งจะแปดโมงกว่าๆ บางทีนิวอาจจะแวะไปที่โรงเรียนก่อน โรงเรียนเองก็อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนี้ หรือไม่มันก็อาจจะยังไม่ออกจากบ้าน

                โทรถามวีหน่อยดิว่ามันเจอนิวรึเปล่าผมบอกเนม สังหรณ์พิกลๆ ไม่รู้สิครับ รู้สึกเป็นห่วงมันบอกไม่ถูก อาจเพราะเมื่อวานเห็นมันเงียบจนผิดวิสัยด้วยล่ะมั้ง ซึ่งพอบอกเนมแล้วตัวผมก็เดินออกไปนอกระเบียง และหลังจากคิดอยู่นานว่าควรโทรหาใครที่ไว้ใจได้ ผมก็เลือกนัท

                [ ว่าไงไอ้ตัวเล็ก? ] ผมขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์ทันทีที่ได้ยินคำทักทายมัน

                “เดี๋ยวมึงจะตายไม่รู้ตัวขู่มันแค่พอหอมปากหอมคอจนได้ยินเสียงมันหัวเราะกวนประสาท ผมก็เข้าเรื่อง นัท มึงเห็นนิวที่โรงเรียนมั้ยอ่ะ?

                [ หืม? ] นัทเงียบไป แล้วผมก็ได้ยินเหมือนมันตะโกนถามคนอื่นๆรอบๆ ก่อนที่มันจะกลับมาตอบ [ ไม่ว่ะ...มันยังไม่มามั้ง ]

                ผมขมวดคิ้ว นิวก็สนิทกับนัทพอสมควร แม้จะไม่มากมายเหมือนพวกผมที่อยู่ห้องเดียวกับมันแต่นิสัยมันกับนัทก็เข้ากันได้ นอกจากพวกผมแล้วนึกว่านัทมันจะรู้...

                [ เออวา กูมีเรื่องถามมึง ] อยู่ๆเสียงไอ้นัทก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด [ แต่ถามตรงนี้ไม่ได้ ขอกูเดินหาที่เหมาะๆแป๊บนะ ]

                ผมถือสายรอ เสียงโน้ตตีกันมั่วแบบนี้ทำให้ผมรู้ว่ามันคงอยู่บนห้องโยธวาทิต วันแรกเราไม่มีงานกันแต่วันที่สองพวกผมต้องขึ้นไปเล่นบนเวทีตอนสาย คิดไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังไม่ได้โทรบอกพี่กานต์เลยว่าจะขอโดด แต่ผมว่าพี่เขาก็คงจะเข้าใจเพราะพี่กานต์ก็อยู่กับพวกเราในวันแรกที่เจอพวกไอ้เพียวเหมือนกัน

                [ เค แถวนี้ล่ะเหมาะ ] เสียงไอ้นัทกลับมาแล้ว ตอนนี้สายฝั่งโน้นเงียบเชียบไม่เหมือนตอนแรกเลยสักนิด [ ถามจริงๆนะ ตอบกูมาตามตรง...เมื่อวานหลังเลิกงานพวกมึงอยู่ไหน? ]

                ผมสะดุ้ง เอาแล้วไง ถึงพวกไอ้เพียวจะเยอะกว่าพวกเราแถมเป็นเครื่องแบบต่างโรงเรียน แต่กางเกงน้ำเงินโรงเรียนผมน่ะสีโคตรเด่น ถึงพวกเราจะวิ่งหนีกันทันแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเห็นหน้าเราซะหน่อย

                ผมควรตอบมันแบบไหนดี ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจนัทนะ มันเป็นเพื่อนซี้ผมมาตั้งแต่ประถม เคยอยู่ห้องเดียวกันก็บ่อย แค่ขึ้นม.ปลายแล้วอยู่คนละสายแถมมันก็มีแฟนเราเลยดูห่างๆกันไปบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วมันก็ยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่ผมไว้ใจมากคนหนึ่ง

                ผมเพียงแค่...ไม่อยากลากไอ้นัทเข้ามาพัวพันด้วย นัทมันเป็นคนรักเพื่อน ถ้ามันรู้เรื่องนี้มีหวังร้อยทั้งร้อยยังไงมันก็คงไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่...

                [ วา ตอบกูมา ถ้ายังเห็นกูเป็นเพื่อนมึงอยู่ ] เสียงไอ้นัทเคร่งขึ้น ไม่มีวี่แววแห่งการล้อเล่นอีกต่อไป [ เรื่องนี้มันค่อนข้างร้ายแรงนะมึง พวกมาสเซอร์น่าจะยังไม่รู้แต่ในชั้นเราข่าวมันก็เริ่มออกแล้ว กูอยากฟังความจริงจากปากเพื่อนกู ไม่ใช่จากลมปากใครๆ ]

                มือที่ถือโทรศัพท์สั่นขึ้นมานิดๆอย่างช่วยไม่ได้ ถึงไอ้นัทจะไม่พูดออกมาตรงๆแต่ผมก็พอจะเดาได้แล้วว่ามันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร

                ...เมื่อวานนี้มีคนเห็นพวกผมจริงๆด้วย

                นัท...ฟังกูดีๆนะผมกลั้นหายใจเฮือกหนึ่งก่อนพูด เรื่องนี้...มันค่อนข้างจะซับซ้อนนิดหน่อย ก่อนที่กูจะเล่า มึงช่วยอะไรกูก่อน แล้วเดี๋ยวกูจะบอกมึงทุกอย่างเลย...

                ผมฝากให้มันไปบอกพี่กานต์กับพี่ปลายหัวหน้าเฟรนช์ฮอร์นของไอ้ไฟว์ว่าผมกับไฟว์มีธุระ วันนี้จะไม่เข้าไปที่โรงเรียน สำหรับไฟว์ผมให้นัทบอกพี่สายมันว่าไฟว์ต้องไปต่างจังหวัดกะทันหัน ส่วนของผมผมให้นัทบอกพี่กานต์ไปเลยว่าอยู่โรงพยาบาล เรื่องที่เหลือไว้จบแล้วจะไปเล่าให้ฟังเอง ตอนนี้ขอเคลียร์ก่อน

                นัทมันก็ข้องใจไม่น้อยที่ผมให้มันไปบอกพี่ๆหัวหน้าเครื่องแบบนั้น โดยเฉพาะเรื่องที่ผมให้มันไปบอกพี่กานต์ มันเลยถามกลับเสียงเครียด

                [ วา ถามจริง ตอนนี้มึงอยู่ไหน? ] เสียงมันชักเครียดหนักเข้าไปทุกที มันเองก็คงรู้แล้วว่านี่เรื่องใหญ่

                ผมผ่อนลมหายใจยาว รวมรวมสติ ...โรงพยาบาลว่ะ...ที่ xxx”ผมบอกชื่อ ซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนนัก ออกสายหลักมาแค่สองเส้น นัทมันเลยอุทาน

                [ ไอ้ชิบหายเอ๊ย! กูว่าแล้ว! ] ผมสะดุ้ง มันด่าใครวะเนี่ย [ งั้นที่เขาลือกันก็จริงน่ะสิ ไอ้เวร ไอ้พวกเวร พวกมึงนี่มัน... ]

                นัทมันบ่นหัวเสียอีกสักพักมันก็คำรามเบาๆคล้ายจะสงบสติอารมณ์ ก่อนบอก [ กูขอผ่านงานตอนเช้าก่อน แล้วเดี๋ยวออกงานเสร็จกูจะแวบออกตอนเที่ยงไปหามึง เตรียมนิทานไว้เล่าได้เลย ขอแบบดิสนี่ย์ฉบับเต็มไม่ต้องย่อเหมือนอีสปนะเว้ย ]

                ผมยิ้มอ่อนๆ...ดิสนี่ย์เลยเหรอมึง...ฮ่าๆ ไอ้นัทมันก็เป็นคนแบบนี้ ถึงจะเป็นเรื่องซีเรียสแต่มันก็ยังสามารถช่วยผ่อนคลายผมได้

                [ เรื่องนี้กูบอกพวกในกลุ่มได้ปะ ] นัทถามต่อ [ แล้วแต่มึงนะ กูไม่บังคับ ถ้าบอกได้กูก็จะบอก เพื่อนกันกูไม่อยากปิด แต่ถ้ามึงว่าไม่รับรองกูจะรูดซิปให้สนิท แม้แต่เพชรกูก็จะไม่พูด ]

                ผมถอนหายใจ รู้สึกลำบากใจหน่อยๆเหมือนกัน ผมเห็นด้วยกับมันที่ว่าเพื่อนกันไม่อยากปิด แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ค่อยจะดีสำหรับไอ้ไฟว์น่ะสิ...

                ถ้าบอกเพชรคนเดียวกูก็โอเค แต่กับคนอื่นๆตอนนี้อย่าพึ่งเลย มึงมาคนเดียวก่อนเหอะ แล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกันที่นี่ว่าจะเอาไงต่อผมตัดสินใจที่จะปิด แต่ที่อนุโลมให้เพชรเพราะเห็นว่ามันเป็นแฟนนัท ผมเข้าใจความรู้สึกมัน นัทมันคงไม่อยากปิดบังอะไรเพชร ซึ่งพอได้ยินแบบนี้มันก็ตอบรับทันที อย่างว่าแหละครับ มันเคารพการตัดสินใจของผมเสมอ

                [ โอเค งั้นกูจะพยายามฟังๆข่าวมาแล้วช่วยบิดเบือนให้เท่าที่จะทำได้นะ ]

                ผมกล่าวขอบคุณมัน คุยกันอีกนิดแล้ววางสายไป นัทมันก็เป็นคนกว้างขวางทั้งในหมู่รุ่นพี่รุ่นน้อง เรื่องบิดเบือนข่าวมันก็คงจะช่วยพวกเราได้ในระดับหนึ่ง คิดถูกจริงๆที่ตัดสินใจบอกมัน

                เสียงประตูเลื่อนเปิดด้านหลังทำให้ผมหันกลับไปมอง แล้วก็ตามคาด...เป็นซีจริงๆ

                เห็นคุยนานมันยักไหล่ ฟังดูก็เป็นประโยคบอกเล่าทั่วไป แต่ผมรู้ว่าที่มันออกมาดูก็เพราะเป็นห่วง ผมจึงระบายรอยยิ้มอ่อนๆก่อนตอบ

                นัทน่ะ...เดี๋ยวเที่ยงๆมันจะมานี่

                ซีมองตอบเฉยๆไม่ว่าไง สมองระดับเทพแบบไอ้คุณชายประมวลผลแป๊บเดียวก็คงรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเอนตัวพิงระเบียง มองออกไปข้างนอก

                กูไม่รู้ว่าตัวเองทำถูกรึเปล่า...แต่ถึงจะทำได้แค่นี้ คิดได้แค่นี้ กูก็อยากจะช่วยไฟว์มันผมรำพึง มันแย่ทั้งเรื่องที่เพื่อนบาดเจ็บแล้วก็เรื่องความบาดหมางของพวกมัน กลัวไอ้ไฟว์จะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ กลัวครั้งหน้าจะไม่ได้จบแค่ฟกช้ำ กลัวว่าเรื่องจะถึงฝ่ายปกครอง กลัวไปหมด...

                ไอ้ซีถอนหายใจ แล้วมันก็วางมือลงมาบนหัว ขยี้ไปมาเบาๆ มึงไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย อย่ากังวลไปเลย

                ผมเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มตอบมัน...ก็จริง...ยังไงซะผมก็ยังมีพวกเพื่อนๆทุกคนอยู่

                ถ้ามันร้ายแรงมาก เดี๋ยวทุกคนก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้เองนั่นแหละมันกล่าวเรียบๆแต่เป็นจริงอย่างที่สุด มึงไม่ต้องซีเรียส คิดเป็นจริงเป็นจังอยู่คนเดียวหรอก ยังไงซะนี่ก็เรื่องส่วนรวม

                ผมหัวเราะเบาๆ ไอ้ซีนี่พูดเหมือนเรื่องนี้เป็นสมบัติสาธารณะ ต้องแบ่งกันใช้แบ่งกันชมแบ่งกันเครียด แต่ก็จริงน่ะนะ...คิดคนเดียวไม่ออกก็ช่วยกันคิดหลายๆคน ยังไงหลายหัวก็ต้องดีกว่าหัวเดียวอยู่แล้ว

                ความเป็นเพื่อนกัน ยังไงมันก็ตัดกันไม่ตายขายกันไม่ขาด มีอะไรเราก็ต้องช่วยเหลือกัน

                เรากลับเข้าไปในห้อง แต่พอเดินเข้าไป แทนที่ไอ้ไฟว์จะกินขนมเฮฮาบ้าเลือดไม่เจียมว่าตัวเองป่วย ไม่ก็เถียงบ้าบออะไรสักอย่างกับไอ้เนมเหมือนเดิม ห้องกลับเงียบจนน่าใจหาย...

                วา...ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้นิวอยู่ไหนไฟว์หันมาหาผม เสียงมันยังเรียบแต่ก็ฟังออกว่ามันใจหายแค่ไหนตอนพูดคำนี้ ไอ้เนมถามน้องวีแล้ว น้องมึงบอกว่าตอนที่ไปหาที่บ้านตอนเช้าก็ไม่อยู่ วีเลยนึกว่ามันมาโรงบาลเลยไม่ได้ใส่ใจ น้องเขาจะมาหากูตอนเย็น คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะเจอกัน...

                ผมรู้สึกมือไม้เย็นเฉียบไปหมด ต่อจากเรื่องข่าวลือที่นัทมันพูดก็กลายเป็นเรื่องนิว นี่มันวันโลกาวินาศรึไงวะ?

                เฮ้ย มันอาจจะไปโรงเรียนแล้วก็ได้ ไม่แน่หรอก...ผมพยายามปลอบทั้งตัวเองและมัน ทั้งที่ผมก็รู้จากไอ้นัทแล้วว่าไม่มีใครเห็นมันที่โรงเรียนเลย แบบ...ที่ซุ้มห้องไง...ไม่ก็ชมรม

                กูโทรถามมิกซ์แล้ว มันไม่อยู่ซุ้มห้อง ไอ้เอิร์ธก็บอกว่ามันไม่ได้เข้าไปที่ชมรมเลยไฟว์ขัด สีหน้ามันดูแย่เกินทน ทำไงดีวะ ไอ้ห่านั่นคิดจะทำอะไรของมัน ตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่มีใครรู้!”

                ผมไม่สนใจจะมานั่งขุดคุ้ยแล้วว่าระหว่างมันกับนิวมีอะไร ตอนนี้ที่สำคัญกว่าคือไอ้นิวเป็นตายร้ายดียังไงไม่มีใครรู้เลย เนมนั่งขมวดคิ้วจิ้มเบอร์โทรหาคนโน้นคนนี้เท่าที่มันจะนึกออก มันคุยคนละแทบไม่ถึงนาทีเสร็จก็วาง เป็นแบบนี้อยู่นานสองนาน แล้วมันก็หันมาส่ายหน้า

                ไม่มีว่ะ...กูโทรจนแทบจะหมดทุกชื่อในเมมแล้ว ไม่มีใครเจอมันเลยไอ้เนมว่า สีหน้าดูหงุดหงิดแต่ผมก็รู้ว่ามันคงเป็นห่วงไอ้นิวไม่แพ้พวกผม...เผลอๆจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะนั่นก็พี่มัน ฝาแฝดมันทั้งคน ถึงจะตีกันบ่อย ด่าไอ้นิวมากกว่าพูดดีๆ แต่นั่นก็เป็นวิธีแสดงออกของไอ้เนม

                แต่ผมว่าในจำนวนนี้ คนที่เจ็บที่สุดคงเป็นไฟว์เพราะมันคิดว่ามันเป็นคนพาเรื่องเข้ามา ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น...

                เพราะกูแท้ๆ...แม่งเอ๊ย!”ไอ้ไฟว์ขยับตัว หน้ามันออกเต็มที่ว่าเจ็บแต่ก็ยังพยายามจะลุก ผมตกใจรีบวิ่งเข้าไปข้างเตียงแล้วพยายามดันไหล่มันลง

                ไอ้ห่า! ทำบ้าอะไร! นอนลงไป!”ผมตวาดมัน แต่ไฟว์มันตัวใหญ่แรงเยอะกว่าผม มันคำรามในคอ ตาที่ปราศจากแว่นดูผ่านๆก็คมอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งดูดุมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

                ปล่อยกู!! เพราะกูมันถึงได้เป็นแบบนี้!! กูจะไปตามหามัน!!”

                มึงจะบ้าเรอะ!! กระดูกมึงหักอยู่นะ!! จะไปตายรึไง!!”ผมพยายามแหกปากสู้เสียง ไอ้ไฟว์ยามโกรธดูน่ากลัวที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น แต่ถึงจะหวั่นๆผมก็ไม่ยอมให้ไปหรอก มันบาดเจ็บอยู่แท้ๆ

                หมับ! ไอ้ไฟว์คว้าแขนผมที่จับมันอยู่ ออกแรงกดจนผมหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ ปล่อยกู...ถึงจะเป็นมึง...แต่ถ้าคิดจะขวาง...

                ไฟว์! กูเจ็...!”ผมร้องไม่ทันจบประโยคไอ้ไฟว์ก็หน้าหันเพราะหมัดใครซักคนที่สวนมา ทีแรกผมนึกว่าเป็นซีแต่พอหันไปดูก็ต้องแปลกใจที่เป็นไอ้เนม ซีเองก็อยู่ไม่ห่างนัก มันกำลังยื่นมือมาทำท่าจะดึงไฟว์ออกแต่ก็ช้ากว่าไอ้เนมอยู่ก้าว

                บ้าพอรึยัง?ไอ้เนมถามเสียงห้วน ไอ้ไฟว์มองตอบตาขวาง มุมปากมันมีเลือดซึม ผมแอบหวาดเสียวอยู่ในใจ หมัดไอ้เนมท่าจะไม่ใช่เบาๆเลยว่ะ มึงห่วงมันกูรู้ แต่มึงไม่ใช่คนเดียวที่ห่วงมัน อย่าสำคัญตัวเองผิดไปหน่อยเลย

                ไฟว์ดูฮึดฮัดแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไร มันเอาแต่สบถพึมพำในลำคอ ...บ้าชิบ...บัดซบ...

                เนมจับไหล่ผม บุ้ยใบ้เป็นเชิงบอกว่าให้ปล่อยไฟว์ได้แล้ว ผมทำตามโดยไม่ลังเล โห...แขนที่โดนไอ้ไฟว์บีบแดงเป็นรอยนิ้วมันเลยว่ะ สุดยอดแรงควายจริงเพื่อนตรู...เนมไปยืนข้างเตียงแทนที่ผม กันผมออกไปห่างๆไอ้ไฟว์

                วามันไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วมึงไปทำมันเจ็บทำไม?ไอ้เนมยังไม่เลิกฌาปนกิจไฟว์ ไอ้ยักษ์ประจำกลุ่มทำหน้ารู้สึกผิดสุดตรีน มันจ๋อยจนไม่รู้จะจ๋อยยังไง แล้วก็เหลือบมองผม เอ่ยเสียงค่อย

                กูขอโทษ...กูผิดเองที่ใจร้อน...ไม่เจ็บนะวากะพ่อมึงสิ...ผมตอบในใจแบบโคตรหงุดหงิด แต่ข้างนอกก็ยังยิ้ม

                ไม่อ่ะ ช้ำแค่นี้เดี๋ยวก็หายซักนิดเหอะครับ หมั่นไส้...ผมล่ะขำที่เห็นไอ้ไฟว์หน้าเหวอตอนผมพูดว่าช้ำ ซีจับแขนผมเบาๆแล้วเอาไปดู ก่อนมันจะปรายสายตาดุสุดขีดไปทางไอ้คนป่วยแต่แรงไม่ตก ไฟว์มันเลยยิ่งซีดหนักเข้าไปอีก...ฮ่าๆ แฟนกูดุนะ มึงตายแน่ไฟว์

                ห้องเงียบไปสักพัก ไอ้เนมยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้เหมือนมันไม่ได้ทำอะไรทั้งที่เพิ่งจะก่อหวอดไปแท้ๆ มันเดินกลับไปนั่งที่โซฟาซึ่งมันยึดเป็นทั้งที่นั่งและที่นอนของมันไปแล้ว ไฟว์นอนลงตามเดิมแต่สีหน้าก้ำกึ่งระหว่างหงุดหงิดกับรู้สึกผิด มันยังคงเหลือบมองผมเป็นระยะๆ ผมก็ได้แต่กลอกตาไปมา รู้หรอกครับว่ามันไม่ได้ตั้งใจ ไฟว์มันคงแค่ขาดสตินิดหน่อย(เหรอ?) แต่ซีก็ยังไม่ยอมให้ผมเข้าไปใกล้ๆมัน สังเกตได้เลยว่ามันเอาแต่ยืนคุมอยู่ข้างๆตลอดแม้จะไม่ได้พูดอะไรก็ตาม

                บรรยากาศแห่งความตึงเครียดค่อยๆเคลื่อนผ่านไป จนกระทั่งไอโฟนไอ้เนมแหกปากร้องทำลายความเงียบ ผมเห็นสีหน้ามันเปลี่ยนนิดหน่อยตอนกดรับ ไม่รู้ใครโทรมา แต่มันคุยสั้นมากก่อนจะหันมาบอกพวกเรา

                ...เจอไอ้ห่านั่นแล้ว...ครับ ไอ้ห่านั่นได้ข่าวว่าเป็นพี่ชายมันเอง ผมวิ่งเข้าไปหาเนม มันจึงอธิบายสั้นๆ วีบอกกูว่ามันมาที่โรงเรียน แม่งซ่าไปหาไอ้เวรพวกนั้นถึงถิ่น

                เฮ้ย!!?ผมก็เหวอสิ แค่วันนั้นขนาดเป็นถิ่นเรามันยังยกกันมาได้เป็นสิบ นี่เล่นไปถึงแดนมันถ้าไอ้นิวไม่ตายคาตีนพวกมันสิแปลก มันไปทำห่าอะไรคนเดียววะ! บอกให้วีลากมันกลับมาเร็ว!”

                [ ไม่ทันแล้วเว้ยเฮีย! พี่นิวแม่งไปประจันหน้ากับพวกมันอยู่หลังโรงเรียนแล้ว! ] เสียงไอ้วีแหกปากผ่านไอโฟนออกมาเหมือนได้ยินที่ผมพูด ผมหันไปมองหน้าซี สบสายตามันอย่างวิงวอน และก็เห็นไอ้ซีทำหน้าเซ็งๆตอบ พอดีกับที่ประตูห้องพักเปิดออก

                เป็นไอ้นัทนั่นเอง มันมาแบบชุดไปรเวท คาดว่าคงเอาของใครสักคนเปลี่ยนก่อนโดดมา ไอ้นี่ก็ฉลาดเข้าใจคิด ดีนะไม่มาทั้งชุดนักเรียน...

                เป็นอะไรกันไปหมดวะ ทำหน้าเหมือนกูมาผิดจังหวะ?มันถามห้วนๆ มองหน้าเราทีละคน

                ผมกระโดดไปลากมันเข้าห้อง ปิดประตูอย่างรวดเร็ว โคตรถูกจังหวะต่างหาก!!”

                หา...เออ

                นัทดูงงๆ เนมคุยกับวีต่ออีกนิดแล้วมันก็วางไป ผมมองหน้าเพื่อนๆ ไฟว์เดี้ยงอยู่ถึงไปก็ไม่มีประโยชน์(และถึงจะมีมันก็คงลุกตอนนี้ไม่ไหว) ส่วนเนม...มือมันน่ะได้แต่ตีนมันถ้าต้องวิ่งคงไม่รอด...พอคิดได้แบบนี้ผมเลยหันไปคว้ามือไอ้ซีกับนัทไว้คนละข้าง

                พวกมึงไปกะกู!”ผมบอกเสียงแข็ง นัทส่งเสียงหือยาวๆในลำคอด้วยความงุนงง ส่วนซีทำเพียงกลอกตามองเพดานแล้วถอนหายใจแรงๆ ไอ้เนมท่าทางไม่พอใจ แต่ผมก็หันไปเบรกมันก่อน กูไม่ได้จะไปซัดกับพวกมันแต่จะไปลากไอ้นิวออกมา มึงไปมึงก็วิ่งกับพวกกูไม่ได้ อยู่นี่เหอะเนม

                เหตุผลเป็นจริงแต่ไอ้เนมคงเซ็ง มันเลยทำหน้าบูดๆบึ้งๆแบบที่วีมันชอบเอามาด่าให้ผมฟังตอบ แล้วผมก็รีบลากไอ้สองตัวที่ยังพอมีประโยชน์ให้ลุก และไม่วายหันไปหาไฟว์

                ไฟว์ กูจะพามันกลับมาให้ได้ มึงรออยู่นี่นะถามว่าเคืองที่ถูกมันบีบแขนซะเจ็บไปหมดมั้ย...ก็ยังเคืองนิดๆ แต่ผมรู้ว่ามันทำไปเพราะห่วงไอ้นิว ผมจึงเลือกที่จะยิ้มให้มันแทนบึ้ง มึงก็ภาวนาขอให้กูลากมันออกมาได้โดยปลอดภัยและขอให้มันยังไม่ตายคาตีนไอ้พวกนั้นก่อนกูไปถึงละกัน

                คำพูดผมฟังดูเล่นๆแต่ผมก็คิดแบบนี้จริงๆนะ ทางจากแถวๆโรงเรียนผมไปถึงโรงเรียนวีไม่ไกลกันมากนักก็จริงแต่อย่างต่ำก็ปาเข้าไปสิบห้านาทีแล้ว คงต้องเชิญพระรอดไปประทับทรงมันถึงจะพอทนมือทนตีนไอ้พวกนั้นจนพวกผมไปถึงได้

                เฮ้อ ชีวิตแม่งวุ่นวายชิบเป๋ง ท่าทางผมคงจะต้องหาเวลาว่างๆ ชวนพวกเพื่อนไปทำบุญเก้าวัดล้างซวยกันจริงๆซะแล้ว...

     

     

     

                อยู่ๆก็ลากกูออกมาทั้งที่ไม่รู้ห่าอะไรเลย เกิดกูโดนกระทืบตายขึ้นมางานนี้ใครจะไปบอกพ่อแม่กูวะ?ไอ้นัทขมวดคิ้วใส่ผมหลังจากอธิบายให้มันฟังคร่าวๆแล้วว่าเราจะไปไหน ผมยิ้มแหยๆ ไอ้ซีไม่พูดอะไร พวกเราวิ่งไปพลางคุยไปพลางหลังต่อมอไซค์ออกมาจากในซอยและกำลังจะไปต่อด้านหน้าถนนใหญ่

                ง่า รายละเอียดกูไม่มีเวลาเล่า เอาเป็นว่าเล่าเท่าที่จะเล่าได้ละกันนะผมบอก เกรงใจนัทมันเหมือนกัน จริงอย่างที่มันว่า อยู่ๆก็โดนลากเข้ามาเอี่ยว ถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาพ่อแม่มันได้มาเฉ่งกบาลผมแบะ แม่มันอ่ะดุจะตายห่า...

                งั้นอย่ามาลีลา เล่ามาให้ไว!”

                ผมเล่าตั้งแต่เรื่องที่เจอพวกไอ้เพียวครั้งแรกที่ห้องซ้อมดนตรีของคนรู้จักไฟว์ เรื่องที่เจอพวกมันเดินอยู่ด้วยกันในห้าง จนมาถึงเรื่องที่พวกมันมาหาเรื่องหลังงานประกวดจบ และทันทีที่เล่าจบไอ้นัทก็โวยขึ้นมา

                โอ๊ยยยยย แม่ง!! แบบนี้ต้องฆ่าให้ตาย!!”นั่นไง กูว่าแล้ว...ผมส่ายหัว คิดถูกจริงๆที่ไม่เล่าให้มันฟังตั้งแต่แรก ไอ้ห่านี่ก็ใจร้อนเกิ๊น...

                เราขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนละคันแล้วบึ่งไปทางโรงเรียนไอ้วี อีกไม่ไกลแล้ว ผมมองเวลา เสียเวลารอรถไปนิดนึงเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้มากอะไร บวกลบแล้วคงไม่เกินห้านาที

                ตอนที่ขาเหยียบพื้นหน้าโรงเรียนไอ้วีผมก็ดูเวลาอีกครั้ง...สิบเจ็ดนาที...ผมวิ่งนำไปพลางโทรหาวีแต่ไอ้น้องชายผมไม่ยักรับ ผมเลยได้แต่หัวเสีย

                วีไม่รับสายกู ตามหาเองก็ได้วะ!”เครียดครับ ที่นี่มันไม่ใช่ถิ่นเรา ที่ทางก็ไม่คุ้น มาแทบจะนับครั้งได้ รู้งี้เอาไอ้เนมมาด้วยซะก็ดีหรอก(อ้าว?)

                มันบอกอยู่หลังโรงเรียนนี่ซีแย้งเรียบๆ มันยังดูใจเย็นอยู่ ผมเลยนึกขึ้นได้...เออว่ะ...ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังที่ว่ามันหลังไหน แต่ถ้านี่หน้าโรงเรียน วิ่งตัดไปเดี๋ยวมันก็คงถึงด้านหลังเองแหละ(คิดง่ายๆ)

                มือถือผมสั่นกึกๆ เป็นไอ้วีนั่นเอง ผมรีบกดรับ วี! อยู่ไหนเนี่ย!”

                [ ชู่ว...วีแอบอยู่...อย่าเสียงดังดิ ] ไอ้วีน้องผมตอบกลับแทบเป็นกระซิบ [ พี่นิวอยู่กะวีนะ ]

                แจ่มมากไอ้น้อง! ผมแทบจะร้องไชโยโห่ฮิ้ว น้องผมนี่ก็รู้งานดีเว้ย

                [ วีคงถ่วงได้ไม่นานว่ะเฮีย พวกนี้มันก็รุ่นพี่ในโรงเรียน วีไม่อยากมีปัญหาทีหลัง ] ผมฟังวีพูดอย่างเข้าใจ ยังไงน้องผมมันก็ยังต้องอยู่ที่นั่นไปอีกอย่างน้อยครึ่งปี มันคงทำอะไรมากไม่ได้ [ คุยกับพี่นิวนะ ]

                นิว!”ผมเรียกทันที ก่อนจะได้ยินเสียงตอบกลับมาเบาๆ

                [..วา...]เสียงนิวมันเบาๆเครือๆชอบกล ผมขมวดคิ้ว มันเป็นอะไรวะนั่น? [...กลัวอ่ะ...]

                พรืดดดด ผมแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ...ไอ้บ้าเอ๊ย...เสือกทำซ่าไปหาเรื่องถึงถิ่นเขา แล้วมาบอกกลัวอะไรเอาตอนนี้วะ!”

                [ ก็... ] มันค้างไปอย่างหาคำตอบไม่ได้ ผมเลยส่ายหัว

                ตอนนี้มึงอยู่ไหนเนี่ย พวกกูมาถึงตรงหน้าตึกที่...เอ่อ...ใกล้ๆน้ำพุอ่ะ

                [ กูก็ไม่รู้ว่ากูอยู่ไหน... ]

                โอ๊ย! ไอ้ห่า! ไอ้ไร้ประโยชน์!

                ผมสบถด่ามันในใจ ทำซ่าไม่เข้าเรื่อง วอนโดนกระทืบตายจริงเว้ย ให้กูคุยกับวี

                [ วีเข้ามาแอบในยิมว่ะ ถ้าเฮียอยู่ตรงน้ำพุ ยิมต้องเดินเลยมาอีกสองตึก ] ผมหันไปบอกซีกับนัทว่ายิมอีกสองตึก เราเลยวิ่งไปพลางคุยไปพลาง [ เฮีย พวกมันเองก็กำลังหาพี่นิวอยู่ ระวังตัวหน่อยนะ ]

                เออ...ผมตอบไอ้วีไม่ทันจบประโยคก็ได้ยินเสียงแหกปากมาจากทางด้านหลัง

                เฮ้ยยยยย!! ไอ้พวกเด็ก xxx มันมานี่อีกกลุ่มแล้วเว้ยยยยยยย!!!”

                เช็ด!! บิดามารดามันไม่สั่งสอนรึไง!! เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาป่าวประกาศก๊านนนนนน!!

                ...เชี่ย...ซวยสัด...ไอ้ซีบ่น มันลูบมุมปากที่ยังเป็นสีม่วงอยู่ ท่าทางจะยังขยาดแผลที่ปากจากคราวที่แล้วพอดู

                กูจะหมดหล่อมั้ยเนี่ยไอ้นัทยังมีหน้ามาห่วงหล่อ แล้วพวกเราก็ต้องเปลี่ยนจุดหมายเป็นวิ่งไปอีกฟากแทนเมื่อพวกแก๊งค์โรงเรียนเจ้าถิ่นรีบกรูกันเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนนั้น

                [ เฮีย เฮีย เกิดอะไรขึ้น เฮียโอปะ!? ] ไอ้วีตะโกนถามออกมา ผมเลยตอบกลับสั้นๆ

                ไม่ค่อยว่ะ โดนเจอไอ้วีแหกปากลั่นว่า หา!!!’ ผมจึงต้องรีบตัดบท เอ่อ...เอาเป็นว่าแกกับนิวหาทางออกไปจากโรงเรียนให้ได้นะ เดี๋ยวพวกเฮียจะล่อมันออกไปอีกทางเอง

                ฮีโร่ไปแล้วมึง!!”ไอ้นัทแทรกทันทีที่ได้ยินแผนการอันแสนบรรเจิดของผม เหอๆ มันห่วงหล่อน่ะครับ...

                แล้วมึงจะทำไง? ถ้าไม่อยากเป็นฮีโร่ก็ช่วยกันคิดหน่อยเดะผมหันกลับไปแขวะไอ้นัท แล้วคุยกับวีต่อ เข้าใจมะ? หนีให้รอดก่อน นี่ไม่ใช่ถิ่นเรา เฮียซ่าไม่ออก บอกตรงๆว่าป๊อด

                [ โหหหหหหห!! ] วีโห่ตอบมา แล้วมันก็หันไปพูดอะไรไม่รู้กับคนข้างๆ ก่อนที่เสียงปลายสายจะเปลี่ยนเป็นนิว

                [ โทษนะวา แต่นิวไม่อยากหนีอ่ะ แม่งมาหาเรื่องถึงที่แล้วจะหนี ทุเรศเกิน ] มันพูดสั้นๆ ได้ยินเสียงเอะอะจากฝั่งนั้นเหมือนวีมันจะโวยอะไรสักอย่าง เสียงดังโครมเหมือนโลหะกระแทก แล้วเสียงนิวก็หายไป กลายเป็นเสียงวีคนเดียว

                [ เฮียยยยยย!! ไอ้ห่าพี่นิวมันขังวีไว้ในยิมแล้วออกไปคนเดียวแล้ว!!! ]

                ผมเบะปากทันทีหลังฟังมันจบ วีมันเสียงดังโคตรจนลอดออกมานอกมือถือ ไอ้นัทไอ้ซีเลยหันไปมองหน้ากันและพึมพำคำเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย

                ...สัด...

                กูก็อยากจะพูดคำน้านนนนน!! ไอ้ห่านิวแม่งไร้หัวคิด!! จะช่วยก็ไม่ให้ช่วย ควายเอ๊ยยยย!!

                วี แกอยู่ในนั้นไปล่ะดีแล้ว เดี๋ยวที่เหลือเฮียจัดการเองผมบอกวีเป็นครั้งสุดท้ายแล้วตัดสายปิดเครื่องโดยไม่รอคำตอบ...เป็นอันจบประกาศ...คิดในแง่ดีอย่างน้อยน้องผมก็ไม่ต้องมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะนะ

                ที่เหลือก็...หาไอ้ห่านิวให้เจอ...

                พวกเราหยุดวิ่งเพราะโรงเรียนมันก็กว้างพอควร ไม่รู้จะไปหาที่ซอกไหน พวกที่ไล่หลังมาก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ คาดว่ามันคงจะแห่ไปทางไอ้นิวแทน

                เอาไงต่อดี ไอ้บ้านั่นอยู่ไหนก็ไม่รู้นัทพึมพำ ทั้งผมทั้งซีเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก...นั่นสิ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าควรทำยังไง

                เฮ้ย เห็นว่ามีคนไปดวลกันที่ฮอล์เก่าเหรอวะ แม่งตายแน่ ผมหันขวับไปทันทีที่ได้ยินเด็กที่เดินผ่านสองสามคนคุยกัน นี่คือโชคของความเป็นนักดนตรีครับ เรื่องหูดีนี่ไม่พลาด แต่ไอ้นัทไวกว่า มันกระโดดเข้าไปหาไอ้เด็กพวกนั้นแล้วแหกปากถาม

                ไปทางไหน!!!?พวกมันทำหน้างงปนเหวอ ฮอล์เก่า!! อยู่ไหน!!?

                ไอ้น้องคนหนึ่งชี้ไปทางซ้ายที่พวกผมเพิ่งวิ่งมา หน้าซีดๆมือสั่นๆ หลังตึกเขียวอ่ะพี่...

                “’ใจว่ะ!”นัทบอกสั้นๆแล้ววิ่งนำ พวกผมเลยรีบตาม ให้ตายเถอะ วันนี้มันวันมาราธอนแห่งชาติรึไงวะ เหนื่อยไส้ติ่งแทบแตก!!

                ฮอล์เก่าที่ว่าเป็นโดมชั้นเดียวที่ดูคล้ายโกดังร้าง ข้างในค่อนข้างร้างแต่ก็พอมองเห็นว่าเคยเป็นเวทีแสดงหรืออะไรทำนองนี้มาก่อน ผมมองไปทางด้านในสุด มีไฟเปิดอยู่แค่บนเวทีโดยที่ตรงกลางวงเป็นไอ้ห่านิวที่พวกเราวิ่งหามันซะแทบจะทั้งโรงเรียน

                นิวววววววว!!!!”ผมแหกปาก ไอ้พวกบนเวทีหันมาแบบเป็นเวฟ หยึย...ไอ้นิวอย่างเยิน วันก่อนว่าเยินแล้ววันนี้ยิ่งเยินหนัก บางคนขยับทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องแต่ไอ้เจมส์กลับตะโกนให้หยุดก่อน

                กูกับมึงไม่ได้มีความแค้นอะไรกัน แล้วมึงมีธุระอะไรกับเรา?มันถามเรียบๆ ทำให้ผมรู้เลยว่าไอ้นี่แหละตัวหัวหน้า

                เอ่อ...ก็ไม่มี...แต่ไอ้ที่พวกมึงซ้อมอยู่อ่ะเพื่อนกูผมพยายามยิ้มไม่ให้บรรยากาศมันเครียดเกิน แต่ไอ้ซีเสือกด่าผมว่าปัญญาอ่อนแล้วลากผมลงมาข้างหลังส่วนมันก็ก้าวไปยืนด้านหน้าแทน

                ขอตัวไอ้ห่านั่นคืนแล้วจบกันแค่นี้เหอะ อย่ามายุ่งกับเรามากไปกว่านี้เลย

                ของ่ายให้ยากว่ะ ในเมื่อมันมาหาเรื่องพวกกูถึงนี่เองคราวนี้เป็นเสียงไอ้เพียว นัทหันมามองหน้าผม ผมเลยพึมพำตอบมันไปว่านั่นแหละไอ้เพียว

                นัทเบะปาก ...อย่างที่ไอ้นิวมันด่าเลยว่ะ...แม่งแรด...

                เหอๆ ดีนะที่ไอ้พวกนั้นไม่ได้ยิน ไม่งั้นคงมีวางมวยอีกยก พวกมันมีเกินสิบ ผมมีสาม น้อยกว่าวันนั้นอีก สู้กันจริงๆจะเอาอะไรไปชนะคร้าบบบบบ แค่เอาตัวรอดไม่ให้โดนกระทืบตายก่อนยังยากเลยนะ

                ถามหน่อยดิ ทำไมพวกมึงต้องกัดไอ้ไฟว์ไม่ปล่อยขนาดนั้นด้วย มันถอยออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ?ผมเอ่ยปากถามเรื่องที่สงสัยที่สุด เดินเข้าไปใกล้อีกนิด แต่ไอ้ซีก็รั้งแขนเอาไว้ไม่ให้ใกล้เกิน

                ไอ้เจมส์ยิ้มเยาะ ตอบง่ายแต่น่าเตะมากในความคิดผม ไม่ยาก...ก็กูเกลียดมัน

                เคร เข้าใจง่ายโคตร แต่มันไม่ใช่ประเด็นว้อยย!!

                มึงก็ได้เพียวเป็นแฟนแล้วนี่ ส่วนไอ้ไฟว์ก็ย้ายแล้ว แล้วมึงจะเอาไงกับมันอีก?ผมถามต่อ นึกเซ็งที่เรื่องพวกนี้ไม่ยอมจบจริงๆ ถ้ามึงอยากกระทืบไอ้ไฟว์ให้ตายห่า...มึงก็สมความปรารถนาแล้ว ตอนนี้มันนอนเดี้ยงอยู่ในโรงพยาบาลโน่น ได้แค่นี้ยังไม่สะใจอีกเหรอวะ?

                สีหน้าไอ้เพียวเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินว่าไฟว์เข้าโรงพยาบาล มันหันไปมองเจมส์แฟนมันแบบไม่อยากเชื่อแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ในขณะที่ไอ้ตัวต้นเหตุกลับตอบแค่สั้นๆ

                ...เรอะ...

                มึงทำไอ้ไฟว์เจ็บปางตาย มีหน้ามาพูดแค่นี้เหรอวะ!!”ไอ้นิวแหกปาก ไม่เจียมเลยว่ามันอยู่กลางวงแท้ๆ ใกล้มือใกล้ตีนพวกมันมากกว่าผมตั้งไม่รู้กี่เท่า พวกมึงเคยเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย จะเกลียดจะแค้นอะไรกันนัก!!”

                มึงไม่เข้าใจหรอก!!”ไอ้เจมส์ตวาดกลับ เดินเข้าไปใกล้นิวแล้วบีบคางมันแน่น ไอ้นิวเองก็ทำอะไรไม่ได้เพราะลูกน้องไอ้เจมส์จับมันล็อคอยู่ มันเลยได้แต่สาดสายตาอาฆาตใส่ มึงก็ด้วย...เพราะมึง...ถ้าไม่มีมึงล่ะก็...

                ผมเริ่มงงหนัก นิวมันไปเกี่ยวอะไร? คนที่เป็นกลุ่มเก่ามันก็มีแค่ไอ้ไฟว์ไอ้เนมนี่หว่า...จะว่ามันสับสนหน้าไอ้เนมกับไอ้นิวก็ไม่น่าใช่เพราะสองคนนี้ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะขนาดนั้นแถมมาดก็ต่างกันแบบสุดกู่ นิวเองก็ดูจะไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าผม มันพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ไอ้เจมส์กลับยิ้มเหี้ยม

                กูล่ะเกลียดไอ้ห่าไฟว์ชะมัด...อยากรู้จริงว่าถ้ามันรู้ว่ากูข่มขืนแฟนมันต่อหน้าคนเป็นสิบ...มันจะทำหน้ายังไง

                นิวเบิกตากว้าง ตอบเสียงสั่น กูไม่ใช่แฟนมัน...!”

                โกหก!!!”คราวนี้เป็นเพียวที่แผดเสียงลั่น ตามันเป็นประกายเหมือนจะฉีกไอ้นิวเป็นชิ้นๆ ผมเห็นแบบนี้เลยเริ่มจะเดาอะไรๆได้ และถ้าใช่อย่างที่ผมคิดจริงๆล่ะก็...บางทีเพียวมันก็น่าจะ...

                ไอ้เจมส์ปล่อยนิวแล้วสะบัดมือเหมือนนึกรังเกียจ มันพยักพเยิดเป็นเชิงบอกอะไรสักอย่าง ลูกน้องมันเริ่มกรูกันเข้าไปหาไอ้นิว ไอ้ซีวิ่งพรวดนำไปก่อนเป็นคนแรกทั้งที่มันบ่นแทบตายที่ต้องมาช่วยไอ้ตัวหาเรื่องนี่ ตามด้วยผมและนัท ทางเดินไปเวทีแม่งก็โคตรไกลแถมยังแคบสัด เสียงไอ้นิวแหกปากดังจนกลบเสียงอื่นๆรอบข้าง ผมหูอื้อไปหมด มีพวกมันเข้ามาขวางหกเจ็ดคนแต่พวกเราก็พยายามฝ่าเข้าไปแบบไม่คิดชีวิต

                ด้านหลังไอ้พวกนี้น่ะมันเพื่อนผมนะ ไอ้ที่จะโดนพวกมันข่มขืนต่อหน้าคนเป็นสิบนั่นน่ะเพื่อนผมนะโว้ยยยย!!

                ใครมันจะไปยอมแพ้กันวะ!!

                ไอ้นิว!!! ไอ้นิว!!!”ผมพยายามเรียก ก่อนจะถูกใครก็ไม่รู้ต่อยเข้าที่ปลายคาง โคตรเจ็บ!!! ผมมึนจนแทบเห็นดาว ปลายหางตาเหลือบไปเห็นนัทเริ่มเช็ดมุมปาก เห็นซีหลับตาข้างหนึ่งเพราะหน้าผากมันมีเลือดไหล...สภาพรอบตัววุ่นวายจนทำอะไรไม่ถูก เพื่อนผมเจ็บ คนที่ผมรักเจ็บ ผมเองก็ใช่จะสบายดี...ไม่เข้าใจ...ทำไมทุกอย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้ไปหมด...

                แต่ก่อนที่อะไรๆจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ ผมก็ได้ยินเสียงประตูฮอล์เปิด ตามมาด้วยเสียงที่คุ้นเคยของคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้

                พวกมึงหยุดแค่นั้นเลย...ถ้าอยากจะกระทืบคนนักก็มากระทืบกูนี่ อย่ามายุ่งกับเพื่อนกู!!”

                ผมเบิกตากว้าง ไอ้ห่าไฟว์มาทำอะไรแถวนี้? แต่พอมองไปทางคนที่พยุงมันอยู่ผมก็ถึงบางอ้อ...ไอ้เนม...มันยักคิ้วกวนๆทั้งหน้านิ่ง แต่ผมกลับมองจิกตอบ...แกจะพาไฟว์มันมาตายรึไงวะ!!!?

     

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    แหะๆ ช่วงไหนที่มันบ้าพลังก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ ไม่กล้ารับปากจริงๆ แต่จะพยายามมาต่อให้ได้เรื่อยๆ ดีใจจริงๆนะคะที่ยังมีคนอ่านต่อ T^T
    แต่ส่วนหนึ่งเพราะเนื้อหาช่วงนี้ถ้าไม่มาต่อกันมันจะชวนงงค่ะ555 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจบแล้วโนว์จะหายหัวนะจ๊ะ โนว์ยังไม่ลืมหนูพีท(ที่ยังเซ่อบื้อไม่เลิก)5555
    รีบๆร้อนๆไปหน่อย แต่โนว์ก็เห็นคอมเม้นท์ทุกท่านนะคะ ขอบคุณมากจริงๆสำหรับการติดตาม 

    ปล.ยินดีกับการรับปริญญานะคะพี่น้ำ นี่โนว์เขียนนานขนาดนั้นจริงหรอเนี่ย5555 ตกใจตัวเอง มาย้อนดูปีด้านบนแล้วก็ชักคิดว่า เออออ จริงแฮะ ฮ่าๆๆๆ ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไปเรื่อยๆนะคะ ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×