ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #65 : Da Capo 23 : Injured

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 304
      1
      30 ต.ค. 56

    Da Capo 23 : Injured

     

     

                พวกเรามารวมตัวกันอีกทีก่อนการประกาศผลการประกวดวงดนตรี ผมเจอทีมของพวกไอ้เพียวแล้ว ท่าทางแม่งดูมั่นใจเหลือหลายจนน่าถีบ ท่าทางออกแนวประมาณว่าถึงจะไม่ชนะแต่มันก็มั่นใจว่ามันต้องได้อันดับสูงกว่าพวกผม

                แม่งน่าหมั่นไส้พี่เป้ที่เข้ามาร่วมแค้นด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ออกความเห็นเบาๆ ถึงพี่จะไม่ได้อยู่ตอนที่ไอ้กานต์มันเล่าให้ฟังว่าพวกเราเข้าไปตะลุมบอนกันก็เหอะ...แต่เจอมันเล่นไมค์แบบเมื่อเช้าแล้วแค้นว่ะ

                เด็กแบบนี้มันต้องตื้บซ้ำแล้วฝังลงดิน ฮ่าๆๆพี่พีทหัวเราะร่วน สีหน้าบึ้งๆของพี่เป้เลยกลายเป็นฮาในที่สุด

                ผมฟังแล้วก็ฮาตาม พี่พีทเป็นนักคลายเครียดขั้นเทพ เฮียแกไม่เคยซีเรียสกับอะไรได้นานกว่าห้านาทีเลย จะเฮฮาไปไหนก็ไม่รู้...

                เอาล่ะค่ะ ต่อไปก็มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยรุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นพิธีกรบนเวทีพูดออกไมค์ พวกเราเลยต้องหันไปฟังพร้อมกัน จำนวนทีมที่เข้าประกวดในครั้งนี้มีมากถึงยี่สิบเอ็ดทีมจากหลายๆโรงเรียนมารวมกัน ซึ่งไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่า...

                ปล่อยเจ๊แกโม้ไปเหอะ ขี้เกียจฟัง...ผมลองวิเคราะห์กับพวกเพื่อนๆดูแล้ว ยี่สิบเอ็ดโรงเรียนเปอร์เซ็นต์ที่เราจะติดหนึ่งในสามนั้นแทบไม่มีเพราะเรามันไม่ใช่มืออาชีพทางนี้ คนที่เล่นเก่งจริงๆก็มีแค่พี่กานต์ ตะวัน แล้วก็ไอ้เนม ส่วนนอกนั้นนิวแม่งก็ฝีมือลุ่มๆดอนๆ ส่วนไฟว์ถึงเล่นเบสได้ก็ไม่ดีเท่าให้มันเป่าฮอร์น พวกพี่พีทกับผมความจริงก็ไม่ได้เล่นแย่มากมายนะ(ออกตัวก่อน) แต่ก็อย่างว่า...วงสตริงคอมโบแบบนี้พวกเรามันก็แค่ออฟชั่นเสริมที่ยกๆมาไม่ให้เวทีมันโล่งเกินไป(หัวเราะ)

                นักร้องของเรา พี่เป้กับไอ้ซีอ่ะผมมั่นใจว่าสองคนนี้เสียงดีไม่แพ้ใครแน่ แต่ถ้ามองภาพรวมแล้วพวกเราที่ซวยไมค์เจ๊ง(แบบมีคนจงใจ)ก็ไม่น่าจะได้คะแนนดีกว่าวงอื่นๆเขาหรอก

                แต่ถ้าจะให้ดี ถ้าได้ตำแหน่งสูงกว่าพวกไอ้เพียวจริงๆผมจะดีใจ(+สะใจ)มาก ฮ่าๆๆ

                วงที่ได้ลำดับหนึ่งสองสามประกาศไปกันหมดแล้ว ที่สี่ที่ห้าก็ยังไม่ใช่พวกผม

                ลำดับที่ 6 ได้แก่...Spice See ค่ะ!!!”

                เฮ้ยยยยยยยยยยยย

                อย่า...อย่าถามว่าชื่อวงนั่นมันอะไร...ไว้ก่อนๆ เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง

                Spice See นั่นมันวงของพวกผมนี่หว่า...ได้ที่หกโว้ยยยย!!!!!    

                พิธีกรยังคงขานลำดับต่อไป สรุปว่าวงของพวกไอ้เพียวได้ที่แปด ไม่ห่างจากเรามากก็จริงแต่...สะใจว้ออยยยยยยยย ลำดับที่ประกาศออกไมค์จะมีแค่สิบอันดับแรก ส่วนนอกนั้นก็จะได้แค่เกียรติบัตรกับของเล็กๆน้อยๆกลับไปแทน วงที่ติดสามอันดับแรกจะได้เงินรางวัลลดหลั่นกันลงมา ส่วนพวกลำดับกลางๆอย่างพวกผมก็จะได้รางวัลเป็นสิ่งของตามแต่ที่เขาวางเอาไว้

                พูดถึงชื่อวงกันซักเล็กน้อยดีกว่าเนอะ...Spice See...ฟังดูเหมือนชื่อไอ้ซีชอบกล(แต่ชื่อมันจริงๆแล้วเขียนด้วยตัว C ตัวเดียว ไอ้นี่มักง่ายครับ) พวกเพื่อนมันยังแซวๆกันเลยว่าตกลงหัวหน้าวงคือไอ้ซีรึเปล่า(และไอ้คนนั้นก็ถูกพวกผมรุมตบหัวเนื่องจากหมั่นไส้แต่ไม่อาจทำอะไรตัวไอ้ซีมันได้) อันที่จริงชื่อนี้พวกพี่เป้เป็นคนคิดครับ เขาอยากได้คำว่า Spicy กัน แต่เขียนแบบธรรมดามันดูเบๆเกินไปเลยกระแดะเขียนแบบนี้ มันเลยกลายเป็นวงของไอ้ซีไปโดยไม่ตั้งใจ...ฮา

                พี่เป้กับซีเป็นคนขึ้นไปรับรางวัลท่ามกลางเสียงกรี๊ดเพราะหน้าตาทั้งสองคนและความเป็นนักร้องนำทั้งคู่ ถึงจะไม่ใช่ที่หนึ่งแต่เรื่องหน้าผมว่าไอ้ซีกินขาดว่ะ...ไม่ได้เข้าข้างเพื่อนตัวเองด้วยนะนั่น พี่เป้เองก็ไม่ได้หน้าตาแย่อะไร พี่พีทเองยังบอกเลยว่าพี่เป้น่ะสาวติดเยอะ แต่เสียอย่างเดียวตรงที่ปากหมาจนไม่มีใครทนอยู่ด้วยได้นานเกินเดือน

    งานจบลงไปโดยสงบเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น จนกระทั่งจะถึงเวลากลับบ้านแล้วเราจะแยกกันที่หน้าโรงเรียนนั่นแหละ...

                เฮ้ย...ไม่สบอารมณ์ว่ะหนึ่งในกลุ่มของไอ้เพียวที่จำไม่ได้เหมือนกันว่าชื่ออะไรพูดขึ้นมาห้วนๆ พวกมันยกกันมาตั้งเกือบสิบคนในขณะที่ตอนนี้คนที่รอกลับทางเดียวกันมีแค่ผม ซี นิว แล้วก็ไฟว์(แต่ไฟว์มันแค่เดินวกมาส่งพวกเราขึ้นรถก่อน บ้านมันอยู่ข้างๆโรงเรียนนี่เอง เดินไปยังได้)

                ดูจากสภาพแล้วตอนนี้กลุ่มพวกมันคงไม่ได้มาดี แต่ที่สำคัญคือไม่มีพวกรุ่นพี่อยู่แถมพวกผมก็มีน้อยกว่ามันเสียด้วยสิ...เริ่มหลอนหน่อยๆแฮะ

                มีธุระอะไรล่ะ?ไอ้นิวส่งเสียงโต้กลับไปคนแรก ท่าทีเขม่นๆแบบนี้ดูก็รู้แล้วว่าคงไม่ยอมจบกันง่ายๆชัวร์ เรื่องประกวดพวกเราก็ชนะแล้ว...อยากจะเอานอกสนามด้วยรึไง?

                เฮ้ยผมพยายามปรามนิวให้มันเย็นลงหน่อย ไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอกแต่แค่ไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิด ยอมรับตรงๆเลยว่าหมั่นไส้ อยากชกหน้าพวกมันสุดทน แต่นี่มันหน้าโรงเรียน ออกแนวจะทำอะไรก็ต้องเลือกโลเกชั่นกันหน่อย

    มึงอย่าเพิ่งนิว ดูๆกันไปก่อนผมรีบกระซิบบอกไอ้ตัวเลือดร้อนประจำกลุ่ม ดีนะที่เนมมันไม่อยู่ด้วยไม่งั้นแม่งคงตีกันตายห่า เนมมันเลือดร้อนยิ่งกว่าไอ้นิวอีก แถมเท่าที่ฟังมาจากนิวรู้สึกว่าเนมมันจะเป็นนักเลงเก่าด้วย เกิดโดนยั่วมากๆเดี๋ยวแม่งไปกระทืบเขาตายแล้วจะไม่คุ้มกัน

    เรื่องบนเวทีก็ส่วนเวที นอกเวทีก็อีกเรื่องสิวะไอ้ห่าเพียวยืนหัวเราะใส่หน้าพวกเราแต่ขอโทษเหอะขอโทษ...ที่มันยืนอยู่นั่นมันข้างหลังไอ้เจมส์ชัดๆ

    อย่ามาดีแต่ปาก กล้าพอก็ออกมายืนข้างหน้าเลยสิ!”และแล้วความคิดในหัวผมก็ถูกสื่อออกไปเป็นคำพูดด้วยเสียงของนิว มันก้าวพรวดไปยืนหน้าสุดให้เห็นว่ามันไม่ได้หลบอยู่ข้างหลังใครๆเหมือนไอ้เพียว แต่พอเห็นแบบนั้นไฟว์มันเลยรีบกระชากแขนไอ้นิวกลับมา สีหน้าแม่งโคตรดุตอนที่จ้องหน้านิว

    อย่าห้ามสั้นๆคำเดียว ไฟว์เองก็คงไม่อยากมีเรื่องตรงนี้เหมือนผมนั่นแหละ

    ตอนนี้คนที่เดือดปุดๆคือนิวส่วนผมแค่กรุ่นๆ ไฟว์เท่าที่ดูมันยังอารมณ์เย็นแต่สายตาที่มองไปทางนั้นโคตรจะไม่เป็นมิตร ไอ้ซีก็ยืนนิ่งๆไม่พูดอะไรแต่แววตาน่ะส่อแววเย็นยะเยือกติดลบแล้ว

                สี่ต่อเกือบสิบ เกิดซัดกันขึ้นมาจริงๆพวกผมคงรอดยากแหง

                ไปหาที่เงียบๆกันหน่อยดีมั้ยประโยคท้าทายที่ไม่คิดว่าคนพูดจะเป็นไอ้ซี พวกเราหันไปมองคุณชายอารมณ์เย็นที่สุดในกลุ่มแบบไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่ซีกลับไม่ได้มองสบตาเราเลย

                นำไปสิไอ้เจมส์ที่เหมือนจะเป็นหัวโจกของพวกนั้นบอก ท่าทางนึกสนุกต่างจากเราลิบลับ

                ฝ่ายโรงเรียนผมเป็นคนเดินนำ ไอ้ไฟว์ที่ชำนาญพื้นที่แถวนี้สุดนำไปที่ลานว่างๆแห่งหนึ่งที่จะก่อสร้างเป็นอพาร์ทเม้นท์แต่โครงการยังไม่มีงบดำเนินการ ถึงที่นี่จะอยู่ใกล้โรงเรียนก็จริงแต่ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็คงปลอดภัยกว่าให้ตีกันหน้าประตูโรงเรียนแน่ๆ

                มีอะไรเคลียร์ก็ว่ามาคราวนี้ไฟว์เป็นคนพูดแล้ว มันเหลือบมองพวกเราแวบหนึ่งคล้ายจะขอโทษ ก็เข้าใจว่าไอ้พวกนี้มันเป็นเพื่อนเก่าไฟว์ มันคงโทษว่าตัวเองเป็นคนพาเรื่องเข้ามา

                เอาตรงๆนะ...พวกกูไม่สบอารมณ์เรื่องผลประกวดว่ะไอ้เจมส์ว่า

                ขี้แพ้ไอ้นิวสวนอย่างรวดเร็ว ท่าทางไอ้นี่แหละที่จะทำให้เรื่องมันบานปลายเร็วขึ้น แขนมันข้างหนึ่งผมจับเอาไว้ส่วนอีกข้างเป็นไอ้ไฟว์ กันแม่งกระโดดเข้าไปชกฝ่ายโน้นก่อน

                ไอ้พวกชอบของเหลือ!!”คราวนี้เป็นคำพูดจากไอ้เพียว ไอ้ห่าเจมส์นั่นก็จับแขนไอ้เพียวไว้เหมือนไม่อยากให้เข้ามามีเรื่องเหมือนกัน แต่คำพูดมันทำเอาไอ้นิวเย็นไม่ไหว ระเบิดลงโครมคราม

                อย่ามาพูดจาหมาๆแบบนั้นนะเว้ย!! คิดว่ามึงเป็นใครกันหา!! ไอ้กะหรี่!!!”

                สิ้นคำนั้นไอ้เพียวก็สะบัดหลุดจากมือที่รักมัน กระโจนพรวดเข้ามาหาไอ้นิวที่ยืนอยู่เยื้องๆด้านหน้าสุด หน้าไอ้นิวหันตามแรงตบแต่เพียงชั่วพริบตามันก็คำรามแล้วเสยหมัดโต้ไปเต็มๆคางไอ้เพียวจนมันกระเด็น เท่านั้นแหละทั้งกลุ่มมันก็กรูกันเข้ามาทำให้ผมต้องรีบเข้าไปช่วยไอ้นิวอีกแรง มือตีนใครบ้างไม่รู้ลอยผ่านไปผ่านมามั่วซั่วไปหมด ไอ้ไฟว์เข้าไปกันนิวให้ออกมาห่างๆส่วนไอ้เจมส์ก็ประจันหน้าอยู่กับมันเหมือนจะมีเรื่อง เห็นมันแลกกันอยู่หลายหมัด ด้านหลังผมมีไอ้พวกกลุ่มไอ้ห่าเพียวเข้ามาเหมือนจะจับล็อคผมเลยเตะสวนกลับไปทีหนึ่ง ไอ้ยักษ์นั่นเลยโกรธจัด ทำท่าจะต่อยผมกลับแต่ดันโดนไอ้ซีถีบออกก่อนแล้วมันก็กระโดดเข้าไปคลุกวงในกับไอ้ยักษ์นั่นเสียเอง

                สภาพการณ์ตอนนี้วุ่นวายมากถึงมากที่สุด ซัดกันมั่วจนไม่รู้ใครเป็นใคร ผมโดนไอ้คนตัวเล็กๆผอมๆคนหนึ่งจิกแขนกระชากเข้าไปหา ผมเลยเหวี่ยงหมัดใส่มันคืนแล้วก็โดนซัดกลับเข้าเต็มท้อง จุกไปแวบหนึ่งแต่ก็อึดพอที่จะเหวี่ยงขาถีบชายโครงให้มันปลิวได้ เราตะลุมบอนกันอยู่ไม่นานพวกไอ้เพียวคนหนึ่งก็ตะโกนออกมา

                เฮ้ยยยยยย อาจารย์มาเว้ยยย!!!”

                อาจารย์ของมันน่าจะหมายถึงมิสหรือมาสเซอร์โรงเรียนผม บอกแล้วว่าที่นี่มันไม่ไกลจากโรงเรียนนัก นักเรียนบางคนที่เดินผ่านก็มีและมันก็คงจะไปเรียกพวกมาสเซอร์มาแหง

    ไม่ต้องคิดอะไรนานพวกเราก็พร้อมใจกันพาคนของตัวเองโกยแน่บไปโดยไม่รอช้า แหวกผ่านชาวบ้านที่ยืนดูกันอยู่เหมือนไม่เคยเห็นที่ปากทางเข้าลานออกไป ผมไม่ได้สนใจว่าพวกไอ้เพียวมันจะหนีไปทางไหนหรือหนีรอดหรือเปล่าเพราะที่สำคัญคือ ขืนโดนจับด้วยเรื่องวิวาทคงได้โดนพักการเรียนชัวร์

    วิ่งหน่อยสิโว้ยยย!! เฮ้ยยยย!!”ไอ้นิวเห็นไอ้ไฟว์ชักช้าไม่ทันใจมันเลยกระชากแขนไอ้ไฟว์ช่วยพยุงวิ่งแทน ผมนึกขำที่เห็นไฟว์นิ่วหน้าเหมือนเจ็บแผลแต่มันก็ยอมวิ่งตาม ผมหันไปดูท่าทีของซีแล้วก็พบว่ามันอึดเหลือเชื่อ แผลมันไม่ได้น้อยกว่าไฟว์เลยแต่ก็ยังวิ่งได้สบายๆราวกับไม่เจ็บอะไร

    เสียงโหวกเหวกที่ดังไล่หลังของพวกชาวบ้านเป็นเชิงบอกว่าทางนี้แหละ ทางนี้แหละ พวกเราเลยยิ่งต้องโกยกันแบบเต็มสปีด ใครอยู่ก็โง่เต็มทนแล้ว!!

    ลงท้ายเราก็เผ่นกันมาที่บ้านไฟว์ที่อยู่ในซอยใกล้ๆนี้ ปิดประตูลงกลอนล็อครั้วอย่างดีแล้วก็พากันมานั่งหอบแฮ่กๆในบ้านเหมือนหมาบ้า

    ...ห่าเอ๊ย...เกือบไปแล้วไง...ขืนมาสเซอร์จับได้แม่งโดนพักการเรียนแน่...ผมพึมพำ ปาดเหงื่อที่ไหลโชกหน้าออก โอ๊ยแม่งเจ็บกรามว่ะ ใครเสยคางกูมาวะเนี่ยแสรดดดดด!

                ไม่มีใครพูดอะไร ผมมองไปรอบๆ ท่าทางผมจะแผลน้อยสุดเพราะนอกจากโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ฮุคท้องอีกสองสามหมัด เสยกรามอีกหมัด แล้วก็รอยฟกช้ำธรรมดา ผมก็ไม่มีแผลอื่นอีก ในขณะที่ไอ้ซีมุมปากเริ่มออกสีม่วงๆแถมมีเลือดไหลซึม รอยช้ำตามหน้ามีมากกว่าผมแบบเทียบไม่ติด ยิ่งรอยตามตัวยิ่งไม่ต้องพูดถึง เสื้อนักเรียนมันมีรอยตีนใครก็ไม่รู้แปะประทับแบบเฉียดๆหลัง แต่ก็ดีกว่านิวหน่อยเพราะเสื้อนิวมันมีรอยกลางหลังเป๊ะเลย

                ไอ้สัดนั่นแม่งถีบกูหน้าคว่ำนิวบ่นฮึดฮัด ก่อนจะครางอูย มือลูบแก้ม เชอะ...กะหรี่ชิบ...ตบมาได้

                ผมล่ะคอมเม้นท์ไม่ออก ไอ้นิวแรว๊งงงงง ผมเห็นกะตาเลยว่าฝั่งนั้นตบมันมาแต่มันดันตอบแทนเขาโดยการต่อยเสยปลายคางกลับ - - แหม่ เพื่อนผมนี่แมนเต็มร้อยสุดๆ อันที่จริงผมก็สะใจล่ะนะ ยิ่งเห็นหน้าไอ้เพียวตอนที่มันโดนนิวเสยแล้วยิ่งฮา หน้ามันโคตรอึ้งเหมือนไม่อยากเชื่อว่ามันจะถูกซัดเอาง่ายๆแบบนี้

                มึงก็แรงเกิน พวกมันแค่ยั่วนิดยั่วหน่อย เสือกกระโดดเข้าไปฟัดได้ผมบ่นแบบไม่จริงจังนัก แต่ทำเอาไอ้นิวตวัดหางตามองผมแบบที่น้อยนักจะทำ(ปกติมีแต่หวานเลี่ยนใส่)

                ไอ้ห่าพวกนั้นมาด่าเพื่อนมึง เป็นมึงมึงจะเฉยเรอะ?

                เอ่อ...ก็คงไม่ว่ะ...

                งั้นก็อย่ามาว่ากู...วุ้ย เจ็บชิบ เฮ้ยไฟว์ ซี พวกมึงตายยังเนี่ย?ประโยคท้ายมันหันไปถามสองผู้ร่วมชะตากรรมที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่เข้ามาหลบในบ้านไฟว์ เพราะเรารีบเข้ามาแล้วก็มัวแต่นั่งพักเหนื่อยเลยยังไม่ได้เปิดไฟ ในฐานะที่เจ็บตัวน้อยสุดผมจึงลุกขึ้นคลำหาสวิทช์เปิดไฟให้

                แต่พอไฟมาเท่านั้นแหละ ไอ้นิวก็แหกปากทันที

                เฮ้ย!! ไฟว์!!”ผมหันขวับไปมอง และก็อ้าปากค้างพอกัน

                ผมเพิ่งจะมองหน้าไอ้ไฟว์ชัดๆเมื่อกี้เลยเพิ่งเห็นว่ามันคิ้วแตกเป็นแผลยาว ที่หน้ามันมีเลือดไหลลงมาเป็นทางและหยดตามคางจนดูแล้วชวนให้สยดสยองพิลึก ไอ้นิวถลาเข้าไปหาไฟว์อย่างร้อนรน มือเขย่าแขนไฟว์แรงๆ

                มึง ไฟว์ ได้ยินกูรึเปล่า!?เออเว้ย มันคงกลัวไอ้ไฟว์หมดสติ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ก็ดูจะร่อแร่เต็มที่ ซีกับผมกับนิวยังหนักสุดแค่รอยฟกช้ำ แต่ไม่รู้ว่าไฟว์มันไปฟัดกับไอ้เจมส์อีท่าไหนถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ เฮ้ย มึงอย่าเพิ่งหลับนะ ตอบกูมาก่อน!”

                ...เออ...ไฟว์ตอบเสียงต่ำ ท่าทางมึนสุดขีด ...เจ็บว่ะ...ปวดหัวด้วย...

                มึงไปทำห่าอะไรมาเนี่ย!?ไอ้นิวแหกปากด้วยประโยคเดียวกับที่ผมกำลังนึกสงสัยอยู่ในใจเด๊ะ แหม เพิ่งจะรู้ว่าใจเราตรงกัน(ซียกตีนถีบ) ไอ้นิวกระโดดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วเริ่มวิ่งไปวิ่งมา ท่าทางร้อนรนเป็นห่วงไอ้ห่าไฟว์ซะเกินเหตุทั้งที่ตัวมันเองก็ใช่จะไม่มีแผล

                ผมมองมันวิ่งกลับไปกลับมา ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูดแล้วก็ได้แต่นึกเซ็ง นิว มึงจะทำอะไรก็ทำเข้าสิ อย่าวิ่ง กูเห็นแล้วเหนื่อยแทน

                กูก็เหนื่อยมันก็ยังอุตส่าห์หันมาตอบและชะงักการมาราธอนรอบบ้านไอ้ไฟว์ชั่วคราว แต่...ง่า...ทำไงดีอ่ะ...มันเลือดไหลโชกเลย!”

                ผมหรี่ตามอง...เป็นห่วงกันออกนอกหน้าจริงนะมึง...ผมยังไม่ลืมนะว่าตัวเองยังตงิดๆเรื่องที่พวกมันเหมือนจะกิ๊กกันอยู่

                ...มึงก็ไปโทรเรียกแท็กซี่สิวะเสียงเรียบๆของซีที่กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงผนังบ้านนิ่งๆมานานดังขึ้น และไอ้นิวก็กระเด้งไปทางโทรศัพท์ทันทีเหมือนเพิ่งเห็นทางสว่าง

                แจ่ม ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมึงฉลาดเท่านี้มาก่อน!”

                คุณชายซีหรี่ตา ท่าทางจะไม่สบอารมณ์ที่โดนไอ้นิวด่า มึงอยากได้ที่ปากอีกสักรอยมะ?

                นิวไม่ตอบเพราะมันกำลังง่วนกับการโทรศัพท์อยู่ ผมเลยได้แต่ส่ายหน้าแล้วหันไปหาซีบ้าง ท่าทางซีมันยังชิวๆอยู่ก็จริงแต่แผลที่ปากมันก็ใช่จะเล็กแถมหางตามันก็เริ่มออกสีม่วงๆแล้ว ผมคลานเข้าไปใกล้ๆซี ยื่นมือไปวางบนหน้าขามัน

                ตัวไอ้ซีกระตุกวูบ ผมเลยตกใจจนชักมือออก ขอโทษ! เจ็บเหรอ...ท้ายประโยคเสียงอ่อยขึ้นมาเอาดื้อๆ ใครมันจะรู้ล่ะว่าซีมันเจ็บตรงไหนบ้าง นอกผ้าก็เห็นแค่นี้นี่หว่า

                มันเหลือบหางตามอง แล้วก็พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจนัก ไม่รู้ใครแม่งยันมา แต่เดี๋ยวก็หาย

                กระดูกจะมีปัญหารึเปล่า เจ็บมากมั้ยผมถามด้วยความเป็นห่วง นักกีฬาแบบมันขาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบเนมไปอีกคนนะ แค่คิดก็แทบลมใส่แล้ว...

                ท่าทางซีมันจะจับความกังวลและความคิดผมได้ มันเลยยกยิ้มบางๆ(แล้วก็สะดุ้งขึ้นมาอีกเพราะเจ็บปาก เห็นแล้วก็ฮาดีเหมือนกัน) ก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวผม

                แค่ฟกช้ำธรรมดา ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงหรอกผมอ้าปากจะเถียง ซีมันปากแข็งจะตาย ถึงเจ็บมันก็ไม่ยอมร้อง ถ้าไม่ไหวจริงๆ เจ็บมากๆขึ้นมากูจะไปหาหมอ โอเคมะ?

                ผมพยักหน้าเบาๆ เห็นมันเละขนาดนี้แล้วก็รู้สึกแย่ เพราะสาเหตุหนึ่งที่ซีมันสะบักสะบอมขนาดนี้ก็เพราะมันมัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลัง หันมามองผมจนโดนชกไปซะหลายที แถมบางทีมันก็เข้ามากันเข้ามารับแทนให้ ผมล่ะเครียดที่มันทำแบบนี้ ตัวผมเองก็ผู้ชาย แม้จะดีใจที่มันห่วงผม แต่ผมก็ไม่รู้สึกอยากให้มันเอาตัวเข้าปกป้องจนเจ็บขนาดนี้เลย

                ซี...กูขออย่างผมบอกมันเสียงแผ่ว ถ้าวันหลังมีเรื่องแบบนี้อีก มึงห้ามทำแบบนี้นะ ไม่ต้องมาห่วงกู กูเอาตัวรอดได้ อย่า...เข้ามารับแทนกู

                ผมเงยหน้าสบตากับมันตรงๆให้มันรู้ว่าผมเองก็ห่วงมันไม่แพ้กัน ผมรู้ว่ามันรักผม แต่ผมก็รักมันเช่นกัน ความรู้สึกที่ไม่อยากให้คนที่รักเป็นอะไรไปผมเองก็เข้าใจมันดี

                ถ้ามึงต้องเจ็บเพราะกู...บอกตรงๆกูทนไม่ได้

                ซีเงียบไป ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ จนสุดท้ายมันก็ตอบรับสั้นๆในลำคอก่อนบอก

                ...เข้าใจแล้ว...

                ผมค่อยยิ้มออกนิดนึง พอดีกับที่หน้าบ้านมีเสียงรถ นิวมันเลยตะโกนบอกให้ผมไปดูที ถ้าใช่แท็กซี่ที่โทรเรียกมันจะได้พาไฟว์ออกไป ผมเดินออกไปด้านนอก ปรากฏว่าใช่จริงๆ หลังตะโกนเข้าไปในบ้านสักพักนิวเลยพยุงไฟว์ออกมาโดยมีซีเดินตามหลัง

                พวกเรายัดกันเข้าไปในแท็กซี่โดยที่ซีนั่งหน้าข้างคนขับ ที่เหลือคือผม ไฟว์ แล้วก็นิวจึงขึ้นเบาะหลัง เราบอกให้ลุงคนขับไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งพอลุงเขาหันมาเห็นสภาพไอ้ไฟว์ก็ไม่ได้ว่าอะไร

                ไปทำอะไรกันมาล่ะ เจ็บกันทุกคนเลยลุงแกก็ชวนคุยไปเรื่อยตามประสาแท็กซี่ ผมยิ้มแหย ก่อนจะสะดุ้งเพราะแผลกระตุก

                โดนอริรุมอ่ะลุงผมเป็นคนตอบเพราะท่าทางซีมันจะไม่อยากพูด ไอ้ไฟว์ก็เดี้ยง นิวแม่งก็กำลังเอ๋อๆงงๆทำอะไรไม่ค่อยจะถูก สี่ต่อเกือบสิบ เกือบตาย

                จากกระจกมองหลัง ผมเห็นลุงแกส่ายหน้าช้าๆ สมัยนี้ขนาดโรงเรียนก็ยังอันตรายเลยนะ

                ผมกลอกตามองเพดาน ไม่อยากจะบอกลุงแกนักว่าไม่ได้ตีกันในโรงเรียนแต่นัดมันออกไปฉะกันข้างนอกเลยต่างหาก...ขืนตีกันในโรงเรียนป่านนี้ก็โดนรวบหางไปนานแล้วสิ...

                ไม่นานแท็กซี่ก็มาถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซีเป็นคนเคลียร์ค่ารถให้ในขณะที่ผมกับนิวช่วยกันพยุงไฟว์ บุรุษพยาบาลสองสามคนเข้ามาหาพวกเราทันทีที่เห็นสภาพมัน คนหนึ่งพามันแยกไปทางห้องทำแผลฉุกเฉิน และอีกคนก็พาผมกับนิวเข้าไปด้านใน

                ซีที่เพิ่งเดินตามมาเปิดประตูเข้ามา ผมถีบส่งนิวไปทำแผลก่อนเพราะท่าทางมันจะเป็นกังวลมาก ทำแผลเสร็จมันจะได้ไปดูใจฝาละมีมันได้เลย(ประชด) ซีนั่งลงข้างๆผมแล้วถาม

                ไฟว์ล่ะ

                ผมพยักพเยิดเข้าไปในห้องฉุกเฉินข้างๆกัน คงโดนเย็บว่ะ

                ไอ้ซีส่งเสียงอืมในลำคอสั้นๆแล้วก็เงียบไป มีพยาบาลอีกคนที่เสร็จงานแล้วเข้ามาช่วยทำแผลให้เรา ซีมันทำหน้าเป็นเชิงบอกให้ผมทำก่อน ทีแรกผมก็อิดออด แต่พอคิดได้ว่ามันมีแต่จะทำให้เสียเวลาผมเลยยอมตาม นางพยาบาลคนสวยเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดไปตามหน้าผม เจ็บโคตรรรรรรรร โดยเฉพาะตอนที่ไปถูกแถวๆกรามที่โดนเสยนะ...อื้อหือ...เช็ดแผลไปได้สักพักเธอก็เอายาแก้ฟกช้ำหรืออะไรสักอย่างมาทาให้ คราวนี้เบามือต่างจากตอนเช็ดแอลกอฮอล์หลายล้านปีแสง เสร็จแล้วก็เอาพลาสเตอร์ปิดตรงแก้มที่ถูกถากเป็นแผลถลอกให้ผมอีกแผ่น

                พี่ติดเอาไว้กันยาหลุดเฉยๆ เย็นนี้อย่าเพิ่งล้างหน้านะ เดี๋ยวค่อยล้างตอนอาบน้ำนอนทีเดียวแล้วทายา จากนั้นก็ไม่ต้องปิดแล้วพี่สาวนางพยาบาลยิ้มให้ผมอย่างใจดี ผมจึงกล่าวขอบคุณเธอแล้วบุ้ยปากจิกไอ้ซีให้ไปทำต่อจากผม ระหว่างนี้ไอ้นิวหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ผมคิดว่าหลังทำแผลของตัวเองเสร็จมันก็คงจะแล่นไปที่ห้องเย็บดูใจไอ้ไฟว์มันแหง ฮ่าๆ

                ผมนั่งรอซีทำแผล มีบุญตาได้เห็นไอ้คุณชายมาดมากทำหน้าเหมือนโดนสิบล้อทุ่มก็คราวนี้ล่ะ เจ๊พยาบาลคนสวยเช็ดแอลกอฮอล์แบบไม่ปรานีปราศรัย เหอๆ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าถ้าเช็ดเบาๆเชื้อโรคมันก็ไม่ออก(แต่เช็ดแบบนี้เกรงว่าจะมีเนื้อหลุดติดไปด้วยไม่มากก็น้อย บรึ๋ยยย) ผมเพิ่งจะเห็นว่าซีมันไม่ได้มีแต่แผลบนหน้า ตรงเข่ามันก็มีรอยถลอกอีกดวงเบ้อเริ่ม และเจ๊พยาบาลก็กำลังพยายามขูดเนื้อมันออกอยู่ อร๊ากกกกกกซ์!!

                เช็ดน่ากลัวโฮก!! นายทิวาขอการันตี!! ขอบคุณสวรรค์ที่ผมไม่ได้มีแผลถลอกใหญ่ๆ...

                ไอ้ซีขบกรามแน่น ท่าทางมันจะเจ็บเอาเรื่อง ผมเห็นแล้วยังซี้ดแทนด้วยความหวาดเสียว พอเช็ดเสร็จเจ๊แกก็ทำคล้ายๆของผม เอายาครีมๆอะไรสักอย่างป้ายทาข้างๆแผล ใส่ยา(เบตาดีนนั่นแหละครับ ยาวิเศษโอสถทิพย์ทั่วราชอาณาจักร) เสร็จแล้วก็แปะผ้ากอซแผ่นเบ้อเริ่ม จากนั้นก็กลับไปวุ่นวายกับแผลที่ปากมัน เช็ดๆทาๆยา สั่งเหมือนที่สั่งผมแล้วก็แปะพลาสเตอร์ให้มันอีกสองสามแผ่น สภาพมันคล้ายผมแต่มองดูแล้วเยินกว่าเพียบ

                ...เชี่ย...เจ็บสัด...นี่คือคอมเม้นท์แรกจากปากคุณชายหลังคุณพี่พยาบาลเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีออกไป สีหน้ามันดูไม่ค่อยออกอาการเจ็บก็จริง แต่แค่น้ำเสียงต่ำๆกับตาวาวๆเป็นประกายอย่างหงุดหงิดของมันก็ทำให้ผมเดาได้แล้ววววว

                เอ่อ...ฮ่าๆ ไปหาไฟว์กันเหอะผมเปลี่ยนเรื่อง เดินนำไปตรงห้องเย็บแผล ซีมันก็เดินตามไม่ว่าไง

                ตอนเราเข้าไปดูเหมือนไอ้ไฟว์จะเพิ่งเย็บเสร็จพอดี พี่หมอผู้ชายที่เย็บแผลให้มันยังวางเข็มทิ้งไว้บนถาดอยู่เลย แถมแต่ละอันนี่...อื้อหือ...เลือดทั้งน้าน...ผมมองสีหน้าซีดๆของไอ้ไฟว์แล้วก็นึกขำปนสงสาร นิวยืนดูอยู่ห่างๆตรงกำแพง สีหน้าไม่ได้ดูดีไปกว่ากันทั้งที่มันไม่ใช่คนถูกเย็บแท้ๆ

                เป็นไงไฟว์ เจ็บปะ?ผมถาม ยิ้มกวนๆให้มัน

                ไอ้ไฟว์ที่ตอนนี้แว่นกระเด็นหายไปไหนแล้วไม่รู้เหลือบตามอง โอ้โห...ผมเพิ่งจะเคยเห็นมันเวลาไม่มีแว่นแบบชัดๆก็คราวนี้แหละ ตาแม่งโคตรคมเลยอ่ะ แต่เป็นคมแบบดูดี ไม่ได้คมดุเหมือนไอ้คนข้างๆผมนะ

                มึงก็ลอง...อูย...เอาเข็มสอดเนื้อมึงขึ้นๆลงๆดูเดะ จะได้รู้กูเจ็บรึเปล่ามันชี้ไปที่คิ้วมันซึ่งมีผ้ากอซแปะอยู่ แปดเข็มเลยนะมึง แ-ป-ด!”

                เอ่อ...อย่าเลย กูเกรงใจ๊

                ระหว่างฟังพวกเราคุยพี่หมอที่เย็บแผลให้มันก็หัวเราะขำ(เรียกพี่หมอแหละ ท่าทางจะโตกว่าพวกเราแค่ไม่กี่ปี)มีพยาบาลคนสองคนเข้ามาช่วยเก็บอุปกรณ์ ส่วนพี่หมอก็ยังนั่งเขียนอะไรสักอย่างในใบอยู่

                เดี๋ยวเอายาแก้อักเสบกับแก้ไข้ไปแล้วกินหลังอาหารเย็นนี้เลยนะ ถึงไข้จะยังไม่ขึ้นก็ต้องกิน อย่ารอจนขึ้นก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวเป็นมากพี่หมอแกสั่งไฟว์ด้วยใบหน้าเจือยิ้มนิดๆที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกว่าแกเป็นคนใจดี น้องสามคนมียาทากับแก้ปวดแก้อักเสบอีกคนละชุด มีน้องที่เย็บคนเดียวที่มียาล้างแผลกับฆ่าเชื้อด้วย แผลต้องเปลี่ยนผ้ากอซทุกเช้าเย็น ห้ามชื้นห้ามมีหนอง แล้วสัปดาห์หน้ามาหาหมอใหม่ ถ้าหายจะตัดไหมให้

                พวกเรารับคำกันเบาๆ พี่หมอแกเขียนเสร็จก็ส่งใบให้พยาบาลรับไป แล้วเขาก็หันมาหาพวกเรา วันหลังถ้าจะมีเรื่องกันก็ระวังๆหน่อย อย่ามีแผลให้มาก ตอนรักษามันเจ็บนะ

                เอ่อ...ผมฟังพี่แกพูดแล้วชักงง เวลามีเรื่องกันมันจะมีเวลามานั่งระวังไม่ให้เป็นแผลด้วยเหรอวะ? พูดซะตลก...

                เอาล่ะ ออกไปรอเอายาที่เคาท์เตอร์ด้านนอกได้แล้วพอพี่หมอเขาไล่พวกเราก็เลยทยอยกันออกไปทีละคน ผมกับซีเดินนำออกไปก่อน ปลายหางตาเห็นนิวกับไฟว์เริ่มขยับ แต่แล้วอยู่ๆพี่หมอก็เรียกเอาไว้ เฮ้ย เดี๋ยวน้อง...น้องคนที่เย็บอ่ะ

                ผมหันกลับไปมองด้วยความอยากรู้(ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ถูกเรียก) พี่หมอขมวดคิ้วนิดๆแล้วเดินเข้าไปใกล้ๆไฟว์ มันเองก็มองหน้าพี่เขา แล้วอยู่ๆพี่หมอก็ยื่นมือไปจับตรงแถวๆสีข้างมัน

                โอ๊ย!!”ไอ้ไฟว์แหกปาก ผมตกใจ หน้ามันไปแล้วอ่ะ สีหน้างี้ออกชัดเลยว่าเจ็บโคตร

                พี่หมอส่ายหน้า ว่าแล้ว...ก็คิดอยู่ว่าทำไมท่าเดินดูแปลกๆ...ทำไมไม่บอกแต่แรกว่าเจ็บ?

                ไอ้ไฟว์เงียบ ผมกับซีเดินกลับมา พี่หมอไปกดกริ่งเรียกพยาบาลให้เข้ามาแล้วสั่งอะไรก็ไม่รู้เป็นศัพท์เฉพาะของเขา แต่เท่าที่เข้าใจ เขาน่าจะให้พาไอ้ไฟว์ไปเอ็กซเรย์แล้วก็เตรียมห้อง เตรียมอะไรอีกก็ไม่รู้เยอะแยะ

                ซี่โครงเราหัก น่าจะซักสองซี่ หมอจะขอเอ็กซเรย์แล้วก็ตรวจภายในหน่อยนะ คืนนี้แอดมิทที่นี่ละกันพี่หมอหันมาสรุปให้พวกเราฟังสั้นๆแต่ผมฟังแล้วโคตรอึ้ง ซี่โครงหัก? แล้วมันวิ่งหนีมากับพวกเรา นั่งรถมากับพวกเรา เดินมากับพวกเราตลอดทางได้ไงวะเนี่ย? ไอ้ไฟว์แม่งยอดมนุษย์ชัดๆ!!

                อ้าว...หักเลยเหรอ กูนึกว่าที่เจ็บๆนี่มันเป็นเพราะช้ำในซะอีกไฟว์ยิ้มแหยๆให้เรา ก่อนจะขึ้นไปนอนบนเตียงให้พยาบาลเข็นออกไป ผมยังคงอึ้งอยู่ ไอ้ห่าไฟว์แม่งบ้า กระดูกหักยังจะมีหน้ามาบอกว่านึกว่าช้ำ เชื่อมันเลยเว้ย!!

                ผมมองหน้าซี แล้วก็เลยไปมองนิว ไอ้ซีเงียบน่ะผมไม่แปลกใจหรอก มันคงเจ็บปากตรงที่แตกเลยไม่อยากพูด(และปกติมันก็ไม่พูดมากอยู่แล้ว) แต่ไอ้นิวที่โคตรพูดมากนี่สิ...ทำไมเงียบจัง

                เดี๋ยวหมอจะไปเอ็กซเรย์เพื่อนน้อง จะมาด้วยกันมั้ย?พี่หมอหันมาถามเรา ถลกแขนเสื้อที่ทีแรกพับขึ้นตอนเย็บแผลลงให้เรียบร้อย

                ผมมองพวกมันซ้ำ แล้วก็รีบพยักหน้าแทนไอ้เพื่อนสองตัวที่ใบ้กินไปแล้ว ไปครับ!”

     

     

     

                สรุปแล้วไอ้ไฟว์ก็ซี่โครงหักจริงๆอย่างที่พี่หมอแกว่า สองซี่เป๊ะตามคำพยากรณ์ ผมล่ะโล่งอก ถ้าพี่หมอคนนั้นไม่ใช่คนช่างสังเกตแล้วปล่อยให้ไอ้ไฟว์กลับบ้านไป ผมล่ะนึกภาพไม่ออกเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่รู้มันจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้หรือเปล่า แต่นี่ขนาดพี่หมอแกสังเกตเห็นแล้วนะ พอลองตรวจภายในจริงๆก็ปรากฏว่ายังมีเลือดออกในท้องอีก มันเลยถูกเจาะเอาเลือดออกและให้น้ำเกลือไปด้วยจนหน้าซีดเผือดไปหมด

                ว่าแต่ ทำไมอยู่ดีๆถึงซี่โครงหักได้วะ มึงโดนพวกมันรุมกระทืบคนเดียวรึก็เปล่าผมนั่งเท้าคางกับขอบเตียงคุยกับมัน ไฟว์ถูกแอดมิทเข้ามาแล้ว และหลังจากที่ซีมันไปเดินเรื่องให้จนมันได้ห้องเดี่ยว พวกผมก็เข้ามานั่งเฝ้ามันแบบนี้

                ไอ้ยักษ์ไฟว์ที่บัดนี้ดูแปลกตาไปนิดๆเพราะไม่ได้ใส่แว่นหัวเราะ ก่อนจะชะงักเหมือนมันเจ็บ(สมน้ำหน้า หัวเราะจนซี่โครงกระเพื่อม!) ก็...จำได้ว่าไอ้เจมส์มันเอาไม้ที่ตกอยู่แถวๆนั้นมาหวดเข้าสีข้างกู กูทั้งจุกทั้งเจ็บก็จริงแต่นึกว่ามันแค่ช้ำ ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะถึงขั้นหักแถมเลือดตกใน

                มึงนี่ก็บ้าผมส่ายหัว นึกอ่อนใจไอ้เพื่อนคนนี้จริงๆ เจ็บก็ไม่ยอมบอก เกิดมึงกลับบ้านไปทั้งๆที่ซี่โครงห้อยร่องแร่งแบบนี้แล้วมันไปเสียบอะไรข้างในมึงทะลุขึ้นมาจะว่าไง ไอ้ห่านี่!”

                ไฟว์ยิ้มแหยๆ ผมเองก็โกรธมันนะ แต่ก็รู้ว่าที่มันทำแบบนี้เพราะไม่อยากให้เราเป็นห่วง ตัวมันเองก็ไม่รู้ว่าจะหนักหนาถึงขั้นกระดูกหัก นึกแล้วก็โมโหพวกไอ้ห่าเพียวนั่น ถ้ามันไม่มายุ่งกับเราแต่แรก เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิด...

                พวกมึงกลับบ้านกันเหอะ มืดแล้วนะไอ้ไฟว์พูดขึ้นมาหลังจากที่ห้องเงียบอยู่นาน เดี๋ยวกูโทรบอกให้พี่ชายกูมาเฝ้าก็ได้ ไม่เป็นไร

                เดี๋ยวกูอยู่เฝ้ามึงคืนนี้เองผมรีบเสนอ ไอ้ซีขยับตัวเหมือนจะค้าน ผมเลยสำทับ ยังไงในนี้กูก็แผลน้อยสุด ซี นิว พวกมึงกลับบ้านไปเหอะ

                เฮ้ย...

                โดยเฉพาะมึง ซีผมรีบขัดเมื่อซีมันทำท่าจะพูดอะไร มึงแผลเยอะที่สุดในพวกเราสามคนเลย กลับบ้านไป นี่โรงพยาบาลนะ มีแต่เชื้อโรค เดี๋ยวแผลมึงติดเชื้อ

                ไอ้ซีขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยชอบใจ กูไม่อยากให้มึงอยู่นี่คนเดียว

                งั้นนิว มึงกลับบ้านแล้วบอกให้ไอ้เนมมาแทน เดี๋ยวกูเฝ้าไฟว์กับเนมเองผมตัดบท โยนงานให้ไอ้เนมที่ไม่รู้ป่านนี้ไปอยู่ไหน มันคงยังไม่รู้ข่าวเรื่องที่พวกเราโดนรุมกระทืบ แต่ก็ดีแล้ว...ผมนึกดีใจที่วันนี้มันพาวีกลับไปก่อน เพราะถ้ามันกับวีกลับบ้านกับพวกเราเหมือนทุกที วีคงพลอยโดนลูกหลงไปด้วย และสภาพขาไอ้เนมก็คงไม่สามารถปกป้องวีได้มากนัก...

                นิวดูเหม่อๆเหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูด ผมเลยต้องเรียกมันซ้ำ นิว? เป็นอะไรรึเปล่าวะ?

                หา...เอ้อ...ไม่อ่ะ...มันสะดุ้งแล้วหันมาส่ายหน้า โทษนะ เมื่อกี้วาพูดอะไรเหรอ

                ผมหรี่ตามองมันนิดหน่อย มึงกับซีกลับบ้านไปก่อนแล้วเอาไอ้เนมมาเฝ้าไฟว์กับกู โอเคปะ?

                วาเองก็น่าจะกลับไปพัก...ผมขึงตาใส่มัน นิวเลยหน้าเจื่อนไปนิด ...ก็ได้ๆ

                ผมไล่ให้พวกมันรีบๆไปก่อนที่จะดึกเกิน นิวเดินออกไปก่อนเพราะมันบอกจะไปโทรหาเนม ผมจึงเดินไปส่งซีที่หน้าประตูคนเดียว

                ห้องพิเศษของไฟว์เป็นห้องแบบมีสัดส่วนครับ ส่วนที่เป็นห้องพักจะอยู่ด้านในสุดและก็มีห้องสำหรับญาตินอนเฝ้า ห้องรับรองด้านนอก ห้องน้ำอีกหนึ่ง ผมเดินมาส่งซีหน้าประตู ซึ่งมันก็ยังคงทำหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์

                ซี กูรู้ว่ามึงไม่อยากให้กูอยู่คนเดียว แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเนมก็มาผมเปิดประเด็นก่อน ไม่อยากให้บรรยากาศมันอึนๆแบบนี้อ่ะ ไม่ชอบ

                กูไม่ใช่ไม่ไว้ใจไฟว์ มันก็เพื่อนกู แต่มึงเองก็เจ็บอยู่ซีแทรกขึ้นราวกับรู้ว่าผมคิดอะไร ผมเลยชะงัก...กูก็นึกว่าที่มันหงุดหงิดเป็นเพราะผมบอกจะอยู่เฝ้าไฟว์ซะอีก ถ้าเลือกได้ กูอยากจะอยู่กับมันเองด้วยซ้ำ...

                ไม่ต้องเลย มึงแผลเยอะกว่ากูอีก เดี๋ยวแผลเน่าขึ้นมากูจะฮาซ้ำให้ดู

                ไอ้ซีปรายหางตามองผมเป็นเชิงบอกว่ามันไม่ขำ ผมเลยยกมือสองข้างขึ้นแล้วยักไหล่เซ็งๆ...ไม่เล่นก็ได้วะ

                ไม่เป็นไรน่า พรุ่งนี้ยังไงก็ยังเป็นงานวิชาการอยู่ ขาดไปสามสี่คนคงไม่มีใครสังเกตหรอกผมบอกมัน แอบเซ็งหน่อยๆเหมือนกันที่ไม่ได้เดินงาน เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงค่อยมาอยู่เฝ้ากับกูก็ได้...นะ?

                ผมจับแขนมันแล้วพยายามยิ้มเอาใจ...เหอๆ มาอ่อยมันอ้อนมันแบบนี้นี่ไม่ใช่ตัวผมเลยซักนิด ขนลุกตัวเองชะมัดยาด แต่ไม่เป็นไร เพื่อมัน อายก็ยอม!

                ไอ้ซีน่ะดื้อ โดยเฉพาะว่าเป็นเรื่องผมทีไรไอ้ห่านี่ก็ชอบห่วงเว่อร์ รู้หรอกน่าว่าห่วงเพราะรัก แต่ผมก็รักมันเหมือนกันนั่นแหละ ดังนั้นผมก็มีสิทธิ์ห่วงมันเท่าๆกับที่มันห่วงผม จริงมะ?

                ซีถอนหายใจ แล้วมันก็ก้มหน้าลงมาอย่างรวดเร็ว แตะริมฝีปากผมเบาๆก่อนจะผละออก

                ดูแลตัวเองด้วยมันสำทับสั้นๆก่อนทำท่าจะออกไปเพราะไอ้นิวคงรอนานแล้ว

                เดี๋ยวผมคว้าแขนมันเอาไว้ มองซ้ายมองขวา โน้มแก้มมันลงมาจูบแบบลืมอายแล้วก็แทบจะผลักออกในทันที ...มึงก็ด้วยล่ะ...

                ไอ้ซียิ้มตอบ...รอยยิ้มแรกในรอบสองสามชั่วโมงที่ผ่านมานี้...ซีออกไปแล้ว ผมได้แต่ถอนหายใจยาว เพื่อนทั้งคนเจ็บเป็นใครใครก็เครียด ถึงจะเห็นมันเป็นแบบนี้แต่ซีก็เป็นคนใจดี ไม่งั้นมันคงไม่ไปโทรหาเฮียเอของมัน ถามนู่นถามนี่หาวิธีเอาห้องพิเศษมาให้ไอ้ไฟว์หรอก เงินค่าห้องค่ายาพวกเรามันก็เป็นคนออกให้ก่อนด้วยซ้ำ ทีแรกนิวมันก็ทำท่าจะไม่ยอม แต่ซีมันบอกไว้ค่อยคืนทีหลัง รอให้เรื่องมันหายวุ่นก่อน นิวเลยจำต้องยอมรับ

                ผมเดินกลับเข้าไปในห้อง ไฟว์หลับไปแล้ว คงเพราะฤทธิ์ยา ผมเลยนั่งเล่นเกมในมือถือฆ่าเวลารอให้ไอ้เนมมาถึง ผมเชื่อว่ามันต้องมาทันทีที่รู้ข่าว ถึงจะเห็นไอ้เนมเป็นแบบนั้น แต่ไฟว์ก็เป็นเพื่อนสนิทมัน(เท่าที่ฟังจากนิว ไฟว์แทบจะเป็นคนเดียวที่รับสันดานมันได้ตั้งแต่เมื่อก่อนยันตอนนี้)

    ...ก็ได้แต่หวังว่าอะไรๆมันคงไม่แย่ไปมากกว่านี้

                ผมเหลือบมองไฟว์ที่กำลังหลับนิดนึง ระหว่างมันกับเพียวยังมีอะไรอีกหรือเปล่านะ ทำไมไอ้เจมส์นั่นถึงได้จงเกลียดจงชังมันขนาดนี้ ที่ไอ้ไฟว์เจ็บนี่สามารถเอามาฟ้องร้องกันได้เลยนะ พวกเราเพิ่งจะอายุกันเท่านี้ เสือกเล่นอะไรรุนแรงเป็นเด็กอาชีวะตีกันไปได้...

                แม้จะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางระหว่างพวกมันแต่ไฟว์ก็เป็นเพื่อนผม เรื่องนี้เท่านั้นที่ยอมไม่ได้

                รออยู่ประมาณเกือบชั่วโมงผมก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา เป็นไอ้เนมอย่างที่คาด หน้ามันดูหงุดหงิดเกินพิกัด ผมกำลังจะอ้าปากทักทาย แต่มันดันโวยขึ้นมาผิดวิสัยคนไม่ช่างพูด

                ทำไมไม่บอกกูว่ามีเรื่อง?

                ผมหรี่ตามอง นึกว่าเนมมันหงุดหงิดที่โดนถีบส่งมาเฝ้าซะอีก บอกไปให้มึงเอาวีมาช่วยตีกับพวกมันด้วยรึไง ห่า พูดไม่คิด

                ผมสวนเข้าให้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้ลืมนะว่าถ้ามันมาวีก็ต้องมาด้วย ไอ้เนมทำหน้าเหมือนมันหงุดหงิดที่เถียงไม่ออก ก่อนจะตัดบทโดยการเดินไปโยนกระเป๋าอีกใบลงที่โซฟายาว

                เสื้อผ้ามึงอยู่ในนั้น วีบอกให้กูเอามาให้มึงผมเพิ่งสังเกตว่าเนมมันเอากระเป๋ามาสองใบ คงของผมกับของมันอย่างละหนึ่ง ผมมองแล้วก็ซึ้งทั้งน้องซึ้งทั้งมัน

                ขอบใจนะเว้ยถึงจะชิ้งๆกับมันเรื่องวีบ่อยๆแต่ถ้ามองแบบไม่มีอคติ ผมก็ต้องยอมรับว่าเนมเองก็เป็นคนดีคนหนึ่ง(แต่เสียที่มันอคติมากไปนิด ปกติเลยไม่พูดคำนี้ เหอๆ)

                เนมพยักหน้าสั้นๆแล้วมันก็นั่งเงียบ ซึ่งก็เป็นนิสัยมันอยู่แล้วที่ไม่ช่างพูด ผมจึงเป็นฝ่ายชวนคุยแทน

                ไอ้นิวมันเป็นไงบ้างล่ะ

                นอนตายอยู่ในบ้านมั้งเนมตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก สายตาจับจ้องอยู่แต่ที่ไอโฟนของมัน

                ผมหัวเราะเหอะๆในลำคอ ใช่จะไม่รู้ว่ามันเป็นคนแบบนี้ แต่ว่ามันก็...อ่ะนะ...

                ทีแรกผมก็กะจะโทรหานิว เป็นห่วงมัน เห็นท่าทีมันแปลกไปแบบนั้นแล้วก็ไม่สบายใจ แต่เพราะเห็นว่ามันดึกแล้วสุดท้ายผมเลยตัดสินใจไม่โทร หลังจากนั่งเฝ้าเฉยๆจนสี่ห้าทุ่ม ผมกับเนมจึงแยกกันไปอาบน้ำแล้วมานอนที่ห้องพักไอ้ไฟว์ตามเดิม

                ซึ่งมาคิดดูอีกที ถ้าหากตอนนั้นผมสามารถเดาอนาคตได้ ผมก็คงจะโทรหามันโดยไม่ลังเลไปแล้ว

               

     

     ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    โอเคค่ะ สโนว์รู้ตัวว่าเกรียนสุดๆ ไหงมันหายบ่อยเงี้ย!!? แหม ก็ มาอัพให้เป็นการชดเชยค่ะ ช่วงนี้ยังพอมีเวลา แต่เวลาไหนที่โนว์กระดิกตัวไม่ได้เลยก็คือหายเหมือนตายค่ะ555+ ขอบคุณทุกคนจริงๆนะคะที่ยังมีคนรอยัยหิมะเหลว(ไหล)คนนี้อยู่ เอ่อ ถึงจะดองไปบ้าง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ค้างนะ โนว์คิดพล็อตจนจบแล้วน่า วางใจได้ค่ะ!
    แต่...อัพจบเมื่อไหร่นี่....ไม่กล้ารับปากแฮะ = =
    //วิ่งหนีด่วนๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×