คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Rhythm 19 : Give me a chance
(Special Part : กานต์...(อารมณ์เซ็ง))
วันนี้ชีวิตผมเป็นอะไรที่วุ่นวายไม่อยู่สุขเหลือเกิน ใกล้งานคอนเสิร์ตประจำปีแล้วพวกม.ปลายจึงต้องทำงานหนักหน่อย อั๋นเรียกม.4 พวกเราม.5และขอให้รุ่นพี่ม.6 มาร่วมประชุมด้วยแทบทุกเย็นเพื่อเตรียมวางแผนเข้าค่ายก่อนงานคอนฯ
แต่จะพูดอีกแง่แล้วก็ต้องบอกว่า...ผมพยายามทำให้ตัวเองยุ่งเองต่างหาก
เมื่อวานนี้...น้องวาไปค้างบ้านผมครับ ผมล่ะโคตรจะดีใจ แม้ว่าวาจะมาเพราะเข้าบ้านตัวเองไม่ได้ก็เหอะ
จะว่าเมื่อวานเป็นวันที่ดีก็ดี แต่มันก็คงเป็นอีกวันที่ผมจะจำไม่รู้ลืม
ก็เมื่อวานนี้อ่ะ...ผมโดนน้องวาหักอกเข้าอย่างจังเลยนี่นา ^^
อันที่จริงผมก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าวามีคนที่คอย(พยายามจะ)ดูแลอยู่ รู้ตั้งแต่วันที่ผมไปเห็นพวกเขาที่สนามบาสตอนเข้าค่ายครั้งที่แล้วแล้ว(นึกไม่ออกไปเปิดตอนสามนะครับ) แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามจะบอกตัวเองว่าผมยังมีโอกาส ตราบใดที่ยังไม่ยอมแพ้
แต่เมื่อวานนี้วาก็ดันปิดประตูผมโดยสิ้นเชิงเลย จะว่าช็อคก็ช็อค แต่จะทำไงได้ล่ะ ก็ผมน่ะรักและเอ็นดูน้องเขามาก...มากเสียจนไม่อยากให้รู้ว่าผมเสียใจเลยล่ะ
แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องดีๆก็มีนะครับ...
หลังจากที่วาเข้านอนไปแล้ว(ผมบังคับ) ผมก็ออกมาจะหาน้ำกินก่อนนอนบ้าง แล้วมือถือผมก็ดัง ทายซิว่าใครโทรมา? ฮั่นแน่...เดากันไม่ถูกหรอก เพราะผมเองก็ยังไม่คิดเลยว่าชื่อเมมนี้จะมาโชว์อยู่บนมือถือผม
[ ตัวเล็ก ]
ผมเคยขอเบอร์น้องตัวเล็กเอาไว้นานแล้วแต่เราไม่เคยคุยกันเลยสักครั้ง แปลกดีเหมือนกัน ทุกทีที่เราเจอกันก็มักจะเป็นอีกฝ่ายที่มีเรื่องชกต่อยกับคนในชั้น(แต่โดนฝ่ายนั้นไล่กวดเอาๆประจำ) เรื่องที่จะให้คุยกันแบบปกติน่ะน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย แต่ถึงอย่างนั้น ผมกลับรู้สึกสนิทใจกับน้องคนนี้
สนิทใจเสียจนเผลอทำตัวสนิทสนมเกินควร...จนโดนตวาดใส่หน้าว่าเป็นคนหลายใจอะไรทำนองนั้น(หัวเราะประชดชีวิต)
แต่ที่เขาพูดมามันก็ถูกอ่ะนะ เพราะมานึกๆดูแล้วผมก็ทำอย่างนั้นจริงๆนั่นแหละ(แต่ก็ไม่ได้รู้สึกผิดหรอกนะ)
ผมไม่ค่อยแคร์หรอกว่าตัวเองจะโดนต่อว่าว่าอะไร แต่ผมแค่ไม่เข้าใจว่าทั้งที่เจ้านั่นเป็นคนว่าผมแท้ๆแต่กลับทำหน้าเหมือนเป็นคนโดนต่อว่าเสียเอง เด็กอะไรเข้าใจยากชะมัด...
หลังจากโดนว่า วันนั้นผมก็อยู่ทำแผลต่อให้ตัวเล็กจนเสร็จแล้วก็พาไปส่งบ้าน โดดซ้อมวงแบบเต็มๆทั้งที่ก็รู้ดีว่าวันรุ่งขึ้นต้องโดนสั่งวิ่งรอบสนามบอลแน่ ซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้น แต่ก็แปลกดีที่ผมกลับไม่รู้สึกเสียใจหรือว่านึกโทษเขาเลย
ก็น้องเขาไม่ได้ขอให้ผมอยู่เสียหน่อย เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นผมเสียอีกที่ทำตัวให้เขาว่าเอาได้
และเรื่องนอกเหนือความคาดหมายก็คือโทรศัพท์ตอนกลางคืนเนี่ยแหละ
[ เอ่อ...หวัดดีครับ...นี่ตะวันนะ... ] ผมนึกขำ เสียงตัวเล็กประหม่าสุดๆ สงสัยอยู่เหมือนกันแหละว่ามีเรื่องอะไรถึงได้โทรมา แต่ฟังแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบเหมือนกัน
“รู้แล้ว ชื่อเมมมันก็ขึ้นอยู่ว่า ‘ตัวเล็ก’ ”ผมลองแหย่กลับไป และก็ได้ผลตามคาด ฝ่ายนั้นเงียบกริบทันที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผมต้องกำลังโดนเขาด่าในใจแหง(หัวเราะ)
[ ผมชื่อตะวัน - -^ ] ฝั่งนั้นตอบห้วนๆ นั่นไง...กำลังโมโหจริงๆ นึกหน้าตัวเล็กออกเลย ฮ่าๆ
ผมเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังครัว จะสี่ทุ่มแล้ว ป่านนี้วาคงจะหลับไปแล้ว(มั้ง) ผมกะว่าจะอยู่แบบนี้ไปอีกสักพักแล้วค่อยกลับไปนอนเพราะยังไงก็ยังไม่อยากเผชิญหน้ากับอะไรทั้งสิ้น(วานอนห้องผมเพราะเตียงมันกว้าง เหตุผลมีแค่นี้ สาบานว่าไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ)
แต่พอคิดถึงวา...ผมก็เริ่มนึกขึ้นได้ว่าจากนี้...ผมคงเป็นได้แค่พี่ชายของเด็กคนนั้น...
[ ทำอะไรอยู่เหรอ? ] ตอนที่กำลังเหม่อๆเสียงจากปลายสายก็ถามขึ้นมา ผมเองก็ไม่รู้นึกไง รู้แต่ว่าอยากจะกวนประสาทให้ตัวเล็กโมโหเล่นอีกนิด
“นั่ง~”
ฮ่าๆ ฝั่งนั้นเงียบไปอีกแล้วครับ ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสบถด่ากับตัวเองเบาๆ ก่อนที่ตัวเล็กจะตอบกลับมาแบบห้วนหนักกว่าเก่า
[ แค่นี้นะ - -^ ]
โอ๊ะ ผมคงเล่นมากไปแล้วล่ะ
“เดี๋ยวดิครับ พี่ล้อเล่น โอเค พี่ไม่แกล้งแล้ว”ผมพยายามกลั้นหัวเราะ คนอะไรแหย่ง่ายชะมัด “พี่กำลังจะนอนแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ออกมาหาน้ำกินที่ห้องครัว”
[ ไม่กวนใช่ปะ? ] เสียงตัวเล็กดูกังวลหน่อยๆ ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าน้องเขาโทรมาเพราะต้องมีอะไรสักอย่าง
“อ้อ กวนสิ”แต่มันก็อดไม่ได้อ่ะครับ น้องตัวเล็กผิดเองนะที่ยุขึ้นขนาดนี้...ฮ่าๆ
[ ลาขาดกันดีกว่านะครับ พี่กานต์ - -^ ] คำตอบของอีกฝ่ายฟังดูหมดอารมณ์คุยอย่างที่สุด ผมเลยจำต้องเลิก(จริงๆ) เพราะถ้าขืนเล่นไม่หยุดเราคงคุยกันไม่รู้เรื่องแหง
ผมหยุดขำ ถามกลับด้วยเสียงจริงจังหน่อยๆ(พยายามแล้วนะที่จะไม่หัวเราะ...พยายามแล้วจริงๆ) “แล้ว...มีอะไรงั้นหรือ”
ปลายสายเงียบไปนิดหนึ่ง
[ ก็แค่...อยากขอโทษ ]
หือ?
เจ้าเด็กหัวดื้อ ยุง่าย ทำไมถึงกลายเป็นเด็กว่าง่ายขึ้นมาได้ล่ะเนี่ย? งงแฮะ
[ เมื่อวาน...ผมพูดกับพี่ไม่ดีเลย...ทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์จะพูดแบบนั้นซะหน่อย ] ตัวเล็กพูดต่อ เสียงยิ่งเบาลงเรื่อยๆ [ ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆนะที่พี่คอยช่วยเหลือผม และผมก็ไม่ควรจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่...แค่นี้แหละครับที่อยากขอโทษ ]
คำพูดของตัวเล็ก ทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้ครับ
นึกถึงความรู้สึกของตัวเอง
“ตัวเล็ก...”ผมเรียกเขาเบาๆ “พูดตามตรงนะ...ตั้งแต่ตอนที่เราทักพี่เรื่องนี้ พี่ก็เริ่มไม่แน่ใจตัวเองขึ้นมาแล้วล่ะ”
ผมพูดจริงๆครับ ตัวเล็กทำให้ผมเขว ทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่รู้สึกกับวาใช่ความรักแน่หรือ
ผมไม่เคยหึงที่เขาอยู่กับคนอื่น ไม่เคยรู้สึกหวง เพียงแต่รู้สึกว่าอยากให้วาได้เจอแต่สิ่งที่ดี อยากให้เขามีความสุข อยากให้ยิ้ม...
มันใช่ความรักเหมือนที่ผมเข้าใจหรือเปล่านะ?
[ หมายความว่าไงอ่ะ? ] ท่าทางตัวเล็กคงจะงง ไม่ต้องงงหรอกน้อง พี่พูดเองพี่ยังงงเองเลย(หัวเราะ)
“เอ่อ...พูดไงดีล่ะเนี่ย”ผมหัวเราะเจื่อนๆ แต่ก็ยอมเล่าตามตรง “คือ...พี่เพิ่งจะโดนหักอกมาน่ะ”
[ หา!!! ]
โอย...เจ้าเด็กนี่ ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้นก็ได้...แก้วหูแทบสะเทือน
“อืม...”ผมพึมพำตอบรับเบาๆ “พี่ก็เสียใจอยู่หรอกนะ...แต่มันช่วยไม่ได้นี่”
ผมเสียใจจริงๆนะ...เพราะแต่นี้ต่อไปผมคงจะอ้างฐานะอย่างอื่นนอกจากพี่ชายของวาเขาไม่ได้แล้วล่ะ...
[ คนเขาไม่ใช่ของเรา ยื้อไว้ก็มีแต่เจ็บนะครับ ] ตัวเล็กตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ดันแทงใจดำเสียจนผมสะอึกเอื๊อก...เด็กอะไรปากคมชิบ...
“...ตัวเล็ก แน่ใจนะว่านั่นคำปลอบ?”หลังเอ๋อไปห้าวิฯผมก็ได้สติ เลยถามไปด้วยอารมณ์เซ็งหน่อยๆ และฝ่ายนั้นก็รีบตอบแบบเลิ่กลั่กทันที
[ ง่า...ผมปลอบคนไม่เป็นอ่ะ ]
ผมหลุดขำออกมานิดหนึ่ง “ช่างเถอะ...แปลกดี คุยกับเราแล้วสบายใจขึ้นเยอะเลย”
เอ้า อันนี้พูดจริงนะ ผมรู้สึกผ่อนคลายที่สุดในรอบสองชั่วโมงที่ผ่านมาเลย เป็นครั้งแรกในรอบสองชั่วโมงตั้งแต่ที่รู้ว่าอกหักชัวร์ที่ผมรู้สึกรื่นเริงขนาดนี้ แต่ตัวเล็กกลับโต้เสียงแผ่ว
[ ...อย่าพูดอะไร...แบบนั้นน่า...อย่าปากดีไปหน่อยเลยพี่ เพิ่งอกหักมาหมาดๆไม่ใช่รึไง ]
โห...ถ้าจะทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้นะน้อง - -
ตัวเล็กนี่บทจะยุขึ้นก็ยุขึ้น แต่บทจะร้ายก็ทำเอาผมเจ็บไปถึงขั้วเลยแฮะ ให้ตายสิ...เป็นเด็กหลากหลายแบบแปลกๆดี...
“ก็นะ...”ไม่รู้เหมือนกันว่าผมคิดอะไรอยู่จึงได้พูดประโยคนี้ออกมา “แต่มันผิดเรอะที่อยากมองหาโอกาสรีสตาร์ทเนี่ย”
รีสตาร์ท...คำที่ไม่เคยนึกว่าจะพูดหลังอกหักมาไม่ถึงสองชั่วโมง(ผมนี่มันเจ็บไม่จำจริงๆ)
[ หือ? ] มีเพียงเสียงงึมงำถามจากฝ่ายนั้นเป็นคำตอบรับ ผมจึงขยับยิ้มกับตัวเองนิดๆเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองจะพูดออกไป
“Restart...ก็เริ่มต้นใหม่ไง”
มันอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้...ที่ผมควรจะเริ่มต้นใหม่...ตั้งต้นใหม่กับใครอีกคน<<แม้จะเร็วไปซักนิดก็เถอะ(หัวเราะ)
ผมไม่ใช่คนรักง่ายลืมง่ายนะครับ ผมไม่ได้ลืม...เพียงแต่อยากให้โอกาสกับตัวเองบ้าง
ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องปิดกั้นตัวเองอยู่กับความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริงนี่ครับ
ตัวเล็กที่บังเอิญโทรมาถูกจังหวะเลยกลายเป็นผู้โชคดีคนนั้นไปโดยปริยาย~!
เอ่อ...ไม่ใช่ครับ ผมไม่ใช่พวกขอคนคบไม่เลือกนะ เรื่องที่ตัวเล็กโทรมาถูกจังหวะนั่นก็ใช่ แต่อันที่จริง...เพราะผมรู้สึกว่าถ้าเป็นเด็กคนนี้...บางทีมันก็อาจจะไม่เลวนักต่างหาก...
“โอกาสรีสตาร์ทของพี่...อยากจะรับไว้หรือเปล่าครับ? ตัวเล็ก”
เงียบเลย...เงียบจริงๆ...เงียบแบบไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจอีกต่างหาก
สงสัยจะช็อค...ผมทำความเข้าใจกับตัวเองเงียบๆ อืม...ตัวเล็กคงจะเป็นคนไม่ค่อยมีภูมิต้านทานเรื่องตื่นเต้นสินะ แต่ไม่เป็นไร ผมเข้าใจแล้วก็รอได้ เพราะบางทีเรื่องแบบนี้อยู่ๆจะให้ตอบเลยก็คงจะกระไรจริงๆนั่นแหละ อีกอย่างเราก็แทบจะไม่เคยคุยกันแบบปกติเลย เจอหน้าก็เคยเจอแค่สองสามครั้ง อยู่ๆจะให้ตอบตกลง...คบเป็นแฟน(ในความหมายของผมคือแบบนี้แหละ)...ก็คงจะยากเย็นพอสมควรอยู่เหมือนกัน
“เอ่อ...”และแล้วก็มีเสียงแผ่วๆตอบกลับมาจากฝั่งนั้น แผ่วแบบแผ่วโคตรๆจนผมแทบจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำ โชคดีนะเนี่ยที่หูดี “...เอ่อ...”
ผมหลุดเสียงหัวเราะออกมานิดหนึ่ง ตัวเล็กเอาแต่เอ่อแล้วก็เอ่อ สงสัยจะช็อคจริงๆด้วยนั่น ผมนั่งเอนพิงพนักเก้าอี้แบบผ่อนคลายสุดๆ แล้วตั้งต้นอธิบาย “อืม...เรื่องที่พูดนั่น...ขอให้เข้าใจตรงกันนะครับว่าพี่หมายถึง...ให้เราคบกันแบบแฟนน่ะ”
เอาล่ะ ชักจะลุ้นแล้วสิว่าตัวเล็กจะตอบกลับมาว่าอะไร
“...พ...”หลุดออกมาเบาๆคำหนึ่ง ก่อนที่เสียงฝ่ายนั้นจะดังขึ้นแบบผิดหูจนผมเองยังงง “พูดอะไรออกมาน่ะรู้ตัวหรือเปล่า!! ผมกับพี่เคยคุยกันอยู่ไม่กี่หนเองนะ!! อยู่ๆ...จะให้มาเป็นแฟนกัน...มัน...”
ผมพยายามปรับอารมณ์ให้จริงจังขึ้น เพื่อให้ตัวเล็กรู้ว่าผมไม่ได้ล้อเล่น
“พี่พูดจริงนะ”
“....”
“จริงจังด้วย”
“...พี่ชอบพี่วาไม่ใช่รึไง?”มาอีกแล้วครับ คำถามเก่าๆเดิมๆที่เป็นชนวนเหตุของกรณีพิพาทครั้งที่แล้ว ผมกลอกตาไปมา รู้สึกลำบากใจนิดๆ
“ถ้าตอบว่าไม่ก็คงจะเป็นการโกหก”
“...”
“พี่ชอบวาจริง...แต่ในตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว...แล้วมันผิดมากนักหรือที่พี่อยากลองให้โอกาสตัวเองและคนที่อยู่รอบๆตัวบ้าง?”
“...ไม่มีถามสักนิด...ว่าต้องการหรือเปล่า”ตัวเล็กพึมพำเบาๆ “พูดออกมาได้...จะขอ...คบ...ทั้งที่พี่ชอบคนอื่นอยู่เนี่ยนะ?...ผมเองก็เป็นคน...มีความรู้สึก...มีความคิดเหมือนกันนะ...”
ผมเงียบ พูดอะไรไม่ออก และตัวเล็กก็เอ่ยออกมาอีกคำ
“ถ้าจะเห็นแก่ตัว...ก็ช่วยมีขอบเขตบ้างเหอะ...”
หน้าชา...หน้าชาอย่างแรงเลยครับ
ตัวเล็กชอบพูดอะไรแทงใจดำผมอยู่เรื่อย แม้จะไม่ได้รังเกียจคนแบบนี้แต่ผมก็เจ็บจริงๆนะ
ก็แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะ?
“พี่อาจจะตัดใจไม่ได้ภายในวันสองวันก็จริง แต่พี่จะพยายาม”ผมกล่าวจากใจจริง เป็นวิธีเดียวที่นึกออกในสถานการณ์เช่นนี้ “ที่พูดน่ะ...ไม่ใช่ว่าเป็นใครก็ได้ที่โทรเข้ามานะ แต่เพราะเป็นตัวเล็ก...เพราะเป็นตัวเล็ก พี่ถึงได้พูด”
เงียบกริบ...ไม่มีคำตอบใดๆ
“จะว่าพี่เห็นแก่ตัวก็ได้ จะว่าพี่เป็นคนพูดอะไรง่ายๆก็ได้ แต่พี่ไม่เคยพูดอะไรที่ไม่ได้ออกมาจากใจจริง”
“...”
“แล้วก็ไม่ได้พูดกับคนทุกคน...แต่ที่พูดเพราะเป็นเรา...เข้าใจหรือเปล่า?”
เรื่องที่ต้องพูดผมก็พูดหมดแล้ว จึงเหลือแค่รอฟังปฏิกิริยาจากฝ่ายโน้น ตัวเล็กนี่เงียบได้เงียบดีจริงๆทั้งที่ปกติก็ออกจะพูดมากแท้ๆ(คิดว่านะ) ผมรออยู่นาน...นานมากในความรู้สึก กว่าจะมีเสียงตอบกลับมาเบาๆ
“...ตามใจสิ...ถ้าอยากจะลองดู...น่ะนะ...”
วันนี้จึงเป็นวันแรกของการเริ่มต้นครับ ผมกะจะแวบไปหาตัวเล็กที่ตึกม.ต้นตั้งแต่ตอนพักเบรคเช้าแล้ว แต่ทุกอย่างกลับไม่เข้าข้าง ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมดเพราะพรุ่งนี้ที่วงจะเริ่มเข้าค่ายกันแล้ว
“ไอ้กานต์! ไปส่งเอกสารที่ฝ่ายวิชาการทีเด๊ะ”
“เฮ้ย กานต์ โปรแกรมซ้อมของพาร์ทวู้ดวินด์อ่ะ...”
“กานต์ วงเงินที่ใช้ในค่าย...”
“อาหารของพวกน้องๆอ่ะกานต์...”
ความอดทนผมก็มีจำกัดนะเว้ย - -
ไม่เข้าใจ...วันนี้เป็นวันกานต์ฟีเวอร์รึไงวะ มีแต่คนเรียก(จิกหัวใช้งาน) แถมจำเพาะว่าต้องเป็นวันนี้ที่ผมอยากจะโดดไปหาใครบางคนด้วยนะ
ผมล่ะเซ็งจิต ตอนพักเที่ยงผมก็โดนจิกไม่เลิก กว่าจะว่างก็ตอนเลิกเรียนนู่น คราวนี้ใครจะเรียกยังไงผมก็ไม่สนแล้ว ผมรีบบึ่งไปดักที่หน้าตึกประถมเพราะรู้มาว่าตัวเล็กต้องมารับน้องสาวที่นี่(แอบสืบมาครับ ของแค่นี้กล้วยๆ)
แล้วผมก็เจอจริงๆ
“ตัวเล็ก”ผมเรียก ฝ่ายนั้นหันกลับมา ก่อนจะชะงักเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจะหันทำไม นั่นไม่ใช่ชื่อเราสักหน่อย(เห็นแล้วแอบขำนิดๆ) “ขอโทษนะ วันนี้พี่ยุ่งทั้งวันเลย จะกลับบ้านแล้วหรือ?”
“ก็...ครับ”ตัวเล็กตอบ ท่าทีก็ดูปกติธรรมดาดี แต่ทำไมผมถึงรู้สึกขัดใจจังนะ “อีกสักพักนั่นแหละรถถึงจะมา”
“ตั้งแต่พรุ่งนี้ที่วงจะเข้าค่ายอยู่โรงเรียนตอนเย็น...”ผมชะงักไปนิด เรียบเรียงคำพูดในหัวให้มันออกมาไม่ทุเรศนัก “คือ...พี่คงไม่ค่อยว่าง...แต่เราก็ไปหาพี่ที่ห้องซ้อมได้นะ”
ผมว่าตัวเองทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ให้ตายเถอะ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังกลัวเขาโกรธ และก็ยอมรับว่าแอบโล่งใจมากที่เห็นตัวเล็กยิ้มให้
“ผมรู้...ไม่เป็นไรหรอก”
ระหว่างนี้ยัยหนูตัวเปี๊ยกที่ตัวเล็กไม่แพ้พี่ชายก็เอาแต่มองพี่ตัวเองสลับกับผมไปมา ก่อนจะกระตุกมือพี่ชายยิกๆ “พี่ตะวันขา...พี่ชายคนนี้ใครเหรอ?”
แฟนพี่ค่ะ น้ำฝน
ผมตอบกับตัวเองในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไปหรอกนะ ขืนพูดตัวเล็กคงกระโดดถีบผมหน้าตึกแน่ ฮ่าๆ
“เอ่อ...”ตัวเล็กหยุดหาคำอธิบาย ผมพยายามกลั้นยิ้ม แต่ก็เข้าใจอยู่ว่าขืนตอบไปตรงๆมันก็คงจะกระไร “...รุ่นพี่ของพี่เอง...ชื่อพี่กานต์”
“พี่กานต์...”ยัยหนูเปี๊ยก(เรียกแบบนี้ละกัน ขืนเรียกยัยตัวเล็กก็ซ้ำกันพอดี)เรียกชื่อผมเบาๆเหมือนทวนกับตัวเอง แล้วยิ้มให้อย่างน่ารักไร้เดียงสา “พี่กานต์สูงจัง สูงกว่าพี่ตะวันเยอะเลย”
ผมหลุดเสียงหัวเราะออกมาแบบกลั้นไม่อยู่ ในขณะที่ตัวเล็กทำหน้าเหมือนกินยาขมเข้าไปทั้งหม้อ แล้วเอ่ยเสียงลอดไรฟัน
“กลับบ้านกันได้แล้ว...น้ำฝน”ตัวเล็กจูงมือน้องกึ่งลากให้ออกห่างจากผมโดยเร็ว ยัยเปี๊ยกทำหน้างงเหมือนไม่เข้าใจอารมณ์พี่ชายตัวเอง แต่ก็ยังหันมาโบกมือลาแล้วยิ้มหวานให้
“บ๊ายบายค่าพี่กานต์~”
โอย...เด็กอะไรน่ารักชะมัด...ทั้งที่มีพี่ชอบตีหน้าตายแบบนั้นด้วยนะ
ถ้าตัวเล็กยิ้มหวานๆ จะออกมาน่ารักเหมือนน้ำฝนหรือเปล่าน้อ...
“เดี๋ยว”ผมก้าวยาวๆตามไปแล้วรั้งแขนตัวเล็กไว้ ทำให้อีกฝ่ายชะงักไปนิด
“...มีอะไรครับ?”
ผมส่งยิ้มให้ ‘แฟน’ ของผม
“กลับบ้านดีๆนะครับ...พี่เป็นห่วง...เจอกันพรุ่งนี้นะ”
ตัวเล็กก้มหน้าก้มตาพยักหน้า แต่ผมก็เห็นอยู่ดีว่าหูเขาแดงนิดๆ และโดยไม่ตั้งใจ คำบางคำก็แวบเข้ามาในหัว
เด็กคนนี้...น่ารักแฮะ...
“เอาไว้...จะไปดูซ้อม...”ตัวเล็กทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วก็จูงมือน้องสาวเดินหนีไปทางประตูโรงเรียน ผมเองก็ไม่ได้รั้งอะไรไว้ ได้แต่ยืนมองส่งจนร่างเล็กๆสองร่างลับสายตาไป
บางที...
บางทีผมอาจจะรักตัวเล็กให้มากขึ้นกว่านี้ได้ก็ได้นะครับ ^^
ชื่อตอน : ขอโอกาสให้พี่สักครั้ง(นะจ๊ะ) อ้วกกกกกกกก 555+
ปล่อยพ่อคนดีเขาไปเถอะ เหอๆ ตอนนี้ตกลงพี่กานต์ยังเป็นคนดีอยู่หรือเปล่านะ น้องหนูตัวเล็กเล่นสับซะไม่เหลือดี(แต่ก็ตกลง!! O[]O ) ไม่เข้าใจกรี๊ซซซซซซซ
อ่าแบบว่า ตอนนี้มันจะพ่วงกับตอนที่แล้วนะคะ แต่เป็นฝั่งพี่กานต์ที่ไปกวนเขาบ้าง -.,- เอ่อ โนว์ว่าโนว์ลงช้าแฮะ ช่วงนี้พี่ใช้คอมทำงานตลอด งานเร่งด่วนเลยไม่อยากกวนมัน เห็นใจเด็กหมา เอ๊ย มหาลัย 5555+
เอาเป็นว่าตอนนี้คอมว่างชั่วคราว โนว์จะค่อยๆทยอยอัพตอบเม้นท์ลงให้นะคะ อย่าใจร้อนๆ
คุณ เจ้าหญิงแห่งนางฟ้า - เชียร์กันอย่างออกนอกหน้า เหอๆ สมใจแล้วค่ะ หนูตะวันรับจริงๆ แต่รับมาแบบมึนๆงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจในชีวิต(และทรัพย์สิน เจ้ย!! ไม่เกี่ยว)
คุณ frem - ใจเย็นครับพี่ 555+ อย่าเพิ่งสติแตก ไอ้สองคนนี้มันออกจะมึนๆกับชีวิต พี่กานต์แกก็เร็วซะจนน้องหนูตามไม่ทัน เผลอตกลง(ปลงใจ?)ไปซะงั้น รู้สึกเหมือนโนว์ปะ พี่กานต์ออกจะเป็นคนตรงๆแบบแอบเลี่ยนแฮะ(รึไม่แอบ?) แล้วก็ชอบเลี้ยงต้อย ตั้งแต่เรื่องวาละ เหอๆๆ แหม ลุ้นคู่นี้มากกว่าคู่หลักอีกเหรอค้า สมน้ำหน้าตาซี กร๊ากกก ดันเล่นตัวเองช่วยไม่ได้(แล้วใครฟะที่ทำให้มันเล่นอ่ะ - -?) รอไปก่อนๆ เดี๋ยวพ่อคุณก็ต้องเลิกซักวันล่ะน่า
ปล. งงไมอ่ะคะ ไม่เชื่อโนว์เหยอ? เป็นแฟนพันธุ์แท้คนแรกจริงๆ เปิดดูจิๆ แต่เลขมันจะรันให้ดันถอยหลังน่ะค่ะ ต้องเป็นหน้าที่เก่าที่สุด
คุณ //-_-//Love ทุกสิ่งที่หล่อลาก - รู้ว่ามีคนเชียร์ขนาดนี้ตาพี่กานต์คงลอยยยย หมอนี่แอบเจ้าเล่ห์นิดๆแต่มาดดีคนเลยให้อภัย(เกี่ยว??) อ่านตอนนี้ก็คงสมใจอยากแล้วล่ะค่า หนูตะวันรับโล้ดดดดดด 555+
คุณ yunjae-kyumin - รับให้แล้วๆ รับแบบมึนๆงงๆซะด้วย คู่นี้ทำท่าว่าจะไปได้สวย ไม่ทรมานจิตทรมานใจเท่าไรนัก(ว่าแต่ ที่ว่าทรมานนั่น นิยายหรือคนจริงๆคะ...ฮี่ ^O^) คู่วานั่นต้องเบรกก่อน บรรยากาศยอดแย่ตอนนี้ แต่งแล้วเดี๋ยวเศร้าจัด เอ๊ย ไม่ช่ายยย ต้องเว้นช่วงให้หนูวาได้คิดทบทวนกันหน่อยสิจ๊ะ เอิ๊กๆ
คุณ ZAFFIROBLU - โดนไปตามๆกันด้วยประโยคนี้ พี่กานต์นี่มาแรงเนาะ -.,- เบียดตาซีกลิ้งตกแท่น อยากเล่นตัวดีนัก ฮาๆ อยากให้รับเหรอคะ จัดห้ายยยยยย สมความปรารถนาเจ้าค่ะ กร๊ากกรั่กๆๆ
ึคุณ { 규 혁 }