คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Rhythm 16 : The first of heart, The last of life
(Special Part : ซี)
คุณเคยดูหนังเกาหลีเรื่องหนึ่งไหม? หนังโรแมนติกเศร้าเคล้าน้ำตาที่ผมคิดว่ามันแสนจะห่างไกลจากความเป็นจริง เพราะสำหรับผมน่ะ...ตั้งแต่เกิดมาบนโลกนี้สิบห้าปี ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าความรักฝังใจแบบนั้นจะมีอยู่จริง
เรื่องนั้นมีชื่อว่า The Classic หรือชื่อไทยว่า ‘คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต’
แต่ที่บอกว่าเป็นคนสุดท้ายของชีวิตก็เพราะนางเอกตายอ่ะนะ - -
เรื่องของผมมันไม่เหมือนในหนังหรอก เพราะหนึ่งล่ะ ไม่มีใครเป็นลูคีเมีย และเรื่องนี้ก็ไม่มีใครตาย แต่จะมีแค่ห่างกันไกลแบบคนละแผ่นดิน
ผมจะค่อยๆเล่าให้คุณฟังนะครับ...เรื่องของผม ศิระ สหวัฒนกิจ หรือที่ใครต่อใครเรียกว่า ‘ซี’ นั่นเอง
ผมเป็นลูกคนสุดท้องของตระกูลสหวัฒนกิจ เป็นลูกที่เรียกได้ว่า ‘ลูกหลง’ เพราะเฮียคนโตของผมอายุมากกว่าถึงยี่สิบปีและพี่สาวคนกลางก็ห่างกันถึงสิบสาม ห่างจนไม่มีใครคิดว่าม้าจะมีผมหลุดมาอีกคน
ผมเติบโตในวงของผู้ใหญ่ เป็นเด็กคนเดียวท่ามกลางคนทำงานหลายสิบคน ในบ้านของผมอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ มีป๊า ม้า เฮีย เจ้ อาอี๊ อาซ้อ อาซิ้ม อากู๋ และอีกสารพัดที่เป็นคนในตระกูลสาขาซึ่งรวมๆแล้วสิบกว่าคน เฉพาะครอบครัวผมเป็นหนึ่งในตระกูลหลักของสกุลหยางที่มีรากฐานเก่าแก่ในจีนฮ่องกง ว่ากันว่าแต่ก่อนเคยทำงานในราชสำนักฮ่องเต้(ไม่รู้ว่าจริงเท็จ เพราะฟังพวกผู้ใหญ่เขาโม้ๆมาอีกต่อ) แต่เดี๋ยวนี้ทำงานเป็นเจ้าของบริษัทจัดซื้อ ออกแบบ จัดการ และตกแต่งอสังหาริมทรัพย์และส่งออกเฟอร์นิเจอร์ เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจขนาดยักษ์เลยทีเดียว
สกุลสหวัฒนกิจมีชื่อเสียงมากในไทย แต่ก็แค่ครอบครัวผมที่เป็นตระกูลหลัก พวกญาติๆนอกจากนี้จะใช้ชื่อแค่ ‘สหวัฒนา’ เป็นหลักฐานว่าเป็นตระกูลสายรอง...เอ่อ...ดูเป็นเรื่องยุ่งยากเหมือนการแบ่งเชื้อสายมาเฟียสินะครับ แต่ครอบครัวผมมันก็มีระบบประมาณนี้แหละ
ตระกูลใหญ่ที่ใช้ชื่อ ‘สหวัฒนกิจ’ มีแค่สองตระกูล หนึ่งคือครอบครัวผมที่มีแค่พ่อกับแม่ พี่ๆและผมรวมห้าคน ส่วนอีกตระกูลเป็นตระกูลของอาแปะในฮ่องกง เป็นเจ้าของหุ้นอีกครึ่งหนึ่งของบริษัทและเป็นสายที่ใหญ่เทียบเคียงกับบ้านผม ผมจึงเป็นเด็กที่โตมาในวงธุรกิจและโลกของพวกผู้ใหญ่ ไม่ค่อยได้มีเวลาเล่นสนุกเหมือนเด็กคนอื่นๆ
สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองสมเป็นเด็ก...ก็คงจะมีแต่กีฬาบาสเท่านั้น
สมัยเด็กๆเฮียคนโตเคยสอนผมเล่นบาส(อันที่จริงมันเริ่มมาจากการโยนบอลเล่นธรรมดา) นานๆทีพวกพี่ๆจะมีเวลามาเล่นกับผม และตอนนั้นเองเฮียก็สอนบาสให้ ผมจึงรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยย้ำเตือนว่าผมเป็นน้องเล็กของบ้าน
เพราะโตมาแบบนี้ เพราะไม่เคยรู้จักความเป็นเด็กอย่างแท้จริง เพราะอยู่ในวงสังคมที่เข้มงวด ผมจึงค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กรุ่นเดียวกัน
พอขึ้นม.ต้นผมก็เข้าชมรมบาสของโรงเรียนตามที่เคยฝันไว้ คิดแค่ว่าโรงเรียนเป็นสถานที่หนึ่งที่ช่วยให้เราได้สั่งสมประสบการณ์ ไม่เคยสนใจจะตั้งใจเรียนหนังสือ จนกระทั่งพอขึ้น ม.2 และได้พบกับเพื่อนคนหนึ่ง
ตอนนั้นมันเป็นตอนที่ผมกำลังเข้าตาจนเพราะสมการกำลังสองครับ ยากโคตร ตัวอะไรก็ไม่รู้ยั้วเยี้ยเต็มหน้ากระดาษไปหมด ทำเอาผมรู้สึกเหมือนเป็นครั้งแรกที่ตัวเองเรียนหนังสือยังไงยังงั้น
วันนั้นมาสเซอร์ที่สอนให้คนในห้องจับคู่กันทำข้อสอบโดยใช้วิธีหน้า-หลัง กันคนเก่งไปอยู่กับคนเก่ง ผมจึงต้องหันไปจับคู่กับคนด้านหลังแบบงั้นๆ เราไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย แต่พอถึงเวลาลองทำข้อสอบ หมอนั่นก็รู้ทันทีเลยว่าผมทำไม่ได้สักนิด
“อะไร? ไม่เข้าใจงั้นหรือ? มา เราช่วยสอนให้นะ”นอกจากชื่อกับหน้าแล้วผมก็ไม่เคยรู้จักคนคนนี้มาก่อนเลย อาจเพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับชมรมผมจึงเป็นคนเรียนอ่อนสุดๆ แถมพวกเพื่อนที่คบกันก็เป็นพวกไม่เรียนผมจึงไม่มีคนให้หันหน้าพึ่ง นี่จึงเป็นครั้งแรกของการคุยกันของเรา
มันเริ่มจากวิชาคณิตที่ผมอ่อนสุดๆครับ หมอนั่นช่วยสอนโน่นสอนนี่ที่ผมไม่เข้าใจให้ เรานั่งห่างกันแค่หน้าหลังแต่กลับไม่ค่อยได้คุยกันเพราะฝ่ายนั้นก็เป็นพวกไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า แถมนี่ก็เป็นห้องคิงที่หลายๆคนรู้จักกันอยู่แล้ว ผมจึงไม่ต่างอะไรจาก ‘สิ่งแปลกปลอม’ ที่หลงเข้ามา
แน่นอน...ข้อสอบในวันนั้นคะแนนออกมาสุดห่วยเพราะมันมัวแต่นั่งสอนผม ไม่ได้ลงมือทำจริงๆจังๆเลย และพอรู้สึกตัวอีกทีเวลาก็หมดเสียแล้ว
แต่หมอนั่นกลับหัวเราะ บอกว่าไม่เป็นไร ของแค่นี้เอง หลังจากนั้นก็คอยอยู่เคียงข้างผมมาตลอด คอยสอนโน่นสอนนี่ให้
หมอนั่นชื่อ ‘ทิวา’ ครับ
ผมสามารถคุยได้กับเพื่อนทุกคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ผมจะยอมให้เข้าใกล้ และทิวาก็เป็นคนแรกและคนเดียวที่เข้าใกล้หัวใจผมแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
“ทำไมมึงถึงชอบทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่เรื่อยเลยวะ?”
นี่ก็เป็นอีกคำถามที่ผมไม่เคยได้ยินใครพูด มันจึงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้ว่ายังมีใครอีกคนคอยเฝ้ามองผมอยู่
ผมไม่กล้าจะคิดเข้าข้างตัวเองนัก แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าผมไม่ได้เป็นแค่ใครก็ไม่รู้ที่อยู่รอบๆทิวา
“นี่...ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว...แกนี่ไม่เคยจะยิ้มแบบจริงใจเลยน้า...”
เป็นแค่คำเปรยผ่านๆเหมือนไม่คิดอะไร แต่ก็บ่งบอกกลายๆว่ามันเองก็เฝ้ามองผมอยู่
ก็แค่รู้สึก...ว่าถ้าใส่ใจแม้แต่เรื่องเล็กขนาดนี้ มันก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่ามันเอาใจใส่ผมมากกว่าคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวมัน
นั่นจึงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจในเพื่อนที่มีชื่อว่าทิวาคนนี้
“ซี! กลับบ้านกัน!”
บ้านผมกับวาอยู่บนถนนสายเดียวกันครับ แต่คนละทาง ดังนั้นตอนเย็นๆเราจึงกลับบ้านด้วยกันเป็นประจำ และสงสัยจะเพราะเราอยู่ด้วยกันตลอดล่ะมั้ง เพื่อนหลายคนจึงชอบล้อว่าผมกับวาเป็นแฟนกัน
แน่นอน วามันอาละวาดโครมครามเลยครับ ในขณะที่ผมรู้สึกเฉยๆ เพราะถ้ายิ่งมีปฏิกิริยาพวกมันก็จะยิ่งล้อ เฉยๆไว้เดี๋ยวมันก็คงจะเลิกกันไปเอง
แต่มันไม่ยักจะเป็นอย่างนั้นแฮะ...ผมกับไอ้วาเลยยังโดนล้ออยู่ทุกวี่ทุกวัน
“ซี กูคิดๆอยู่นานละ นัทมันชวนกูเข้าวงโยฯโรงเรียน มึงเข้ากับกูด้วยปะ?”วาถามผมด้วยสีหน้าร่าเริงสุดขีด “ดีออกน้า ไปเล่นวงด้วยกัน!”
ผมมองสีหน้ายิ้มแย้มของมันนิ่งๆ และก็อดยิ้มตอบนิดๆไม่ได้ หากคำตอบกลับเป็น
“ไม่ล่ะ”
“หา!?”ไอ้วาอ้าปากค้าง “ไมอ่ะ!!?”
“กูไม่สน โทษที กูชอบชมรมที่อยู่ตอนนี้”
ผมพูดจริงนะครับ ผมชอบเล่นบาสเอามากๆ ก็อย่างที่เคยบอกอ่ะแหละ เพราะมันเป็นความทรงจำเดียวในวัยเด็กสำหรับผม
วาทำหน้าไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ จนกระทั่งมันเริ่มเข้าไปซ้อมในวง เราก็เลยห่างๆกันไปนิดหน่อย
ภาษิตโบราณที่บอกว่าเรามักจะมองอะไรใกล้ๆตัวไม่เห็นท่าจะเป็นเรื่องจริงครับ เพราะนับตั้งแต่ที่เราเริ่มห่างกัน ผมก็เริ่มมองหามันโดยไม่รู้ตัว คอยดูเวลาที่พวกโยธวาทิตออกมาเล่นหรือแม้กระทั่งตามไปดูเวลาประกวดตามงานต่างๆ คอยดูแต่มัน ยอมซ้อมบาสอยู่จนเย็นย่ำเพื่อรอเวลาให้พวกวงโยฯเลิกซ้อม ซ้อมหนักเกินความจำเป็นถึงขนาดได้เป็นตัวจริงในทีมทุกงานแบบไม่มีข้อโต้แย้ง<<อันนี้เรียกผลพลอยได้ครับ
ผมรู้...วามันคงไม่ชอบใจนักหรอกที่ผมปฏิเสธ แต่ทำไงได้ ผมเกลียดที่จะต้องฝืนใจตัวเอง ซึ่งมันก็คงรู้ดีเลยไม่ได้เซ้าซี้อะไร(แต่ก็ยังมีมาแหย่เล่นอยู่เนืองๆว่า ‘เข้าวงด้วยกันมะ จะได้มาเป็นรุ่นน้องกู’ แต่แน่นอน...ผมไม่บ้าจี้ตามมันหรอก)
ผมน่ะคิดว่าถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นไร...เพราะถ้าเดินไปด้วยไม่ได้...ผมก็จะคอยเฝ้ามองส่งมันจากที่ตรงนี้เอง
ให้ตายเถอะ...กว่าจะรู้ตัว...ผมก็ถอนสายตาไปจากมันไม่ได้แล้ว
ผมพอจะรู้ตัวเองดี...ผมรักวา...รักมันมากจริงๆ...อาจจะเริ่มมองมันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ นั่นจึงทำให้ผมกล้าพอที่จะขอคบมัน แน่นอนครับ...ไอ้วาเป็นบ้าไปในทันใด มันไม่ได้ตกลงแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ และระหว่างเราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม
วาเป็นคนแบบนี้ มันปฏิเสธใครไม่ได้จริงๆจังๆ ผมคำนวณดูจากท่าทีของวาแล้ว ผมยังพอมีโอกาส แม้จะไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ใช่ว่าผมจะไม่มีน้ำหนักกับมันเลย ผมยอมอดทน อยู่กับมันเหมือนเมื่อก่อนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไอ้เจ้ารุ่นพี่ในวงของมันเริ่มเข้ามาวอแวนั่นแหละ ผมถึงได้เริ่มรู้สึกนั่งไม่ติดที่
วามัน...ซื่อบื้อเรื่องแบบนี้เหลือทน มันไม่เคยจะรู้สึกรู้สาอะไรเลย แถมยังมีหน้ามาเล่าให้ผมฟังหน้ารื่น ชื่ออะไรวะ...อ้อ...พี่กานต์...อะไรของมันนั่นแหละ บางทีมันก็ชอบมาพูดว่าพี่กานต์ดีอย่างงั้น พี่กานต์ดีอย่างงี้ ใจดี เป็นมิตร เก่ง โอย...ผมฟังจนเอียนเลยล่ะ
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอก ผมไม่ได้โวยวายเพราะวาเอาแต่พูดเรื่องคนอื่น ผมเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่งี่เง่ากับเรื่องแค่นั้น แต่ผมก็ไม่คิดจะพยายามเก็บอารมณ์หงุดหงิด เพราะอะไรน่ะหรือ...แหม...ไม่น่าถาม...
เพราะรุ่นพี่คนนั้นเองก็ชอบไอ้วาไงล่ะครับ นี่ล่ะสิ่งที่ผมยอมไม่ได้!
ไม่รู้ว่าไอ้บ้านั่นไปทำอีท่าไหนรุ่นพี่เขาถึงได้ติดอกติดใจมัน แต่ผมไม่คิดจะยกวาให้ใครแน่ ไม่คิดเลยแม้แต่นิดเดียว!
ผมว่าตัวเองได้ประโยชน์และมีภาษีมากกว่ารุ่นพี่คนนั้นเยอะตรงที่ผมกับวาเป็นเพื่อนสนิทกัน วาคุ้นเคยกับทุกคนในครอบครัวผมดีและผมก็สนิทกับคนที่บ้านวา เราอยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เมื่อก่อน แม้จะไม่นานเหมือนไอ้นัท แต่ผมกับมันก็เรียกได้ว่าสนิทกันมาก
มากเสียจน...ไม่อาจทำใจยกให้ใครได้
“ซี...มึงจะเรียนต่อสายไหนอ่ะ”วาถามขึ้นมาในวันหนึ่ง ท่าทีคิดหนัก ทำให้ผมหลุดจากห้วงความคิดของตนแล้วหันมามองหน้ามัน “วิทย์เรอะ?”
“พูดเองเออเองนะมึง”ผมเขกกะโหลกมันแบบขำๆ “ไม่รู้สิ แล้วมึงล่ะ?”
“กูก็ไม่รู้”วามันเกาหัวแกรกๆ ผมนึกขำในใจ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน ทั้งผมทั้งมันยังหาหลุมลงไม่ได้พอกันเลย “แต่ก็ช่างเถอะ! ยังไงก็ยังมีเวลาคิดอีกตั้งนานนี่นะ!”
ผมยิ้มนิดๆ
ใช่...เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน
“ซี เฮียขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”
เฮียเอเฮียคนโตของผมเรียกผมไปหาในวันหนึ่งหลังกลับจากโรงเรียน สีหน้าของเฮียไม่เคยดูเคร่งเครียดเท่านี้มาก่อนเลย เฮียพาผมเข้าไปในออฟฟิศส่วนตัว ทำให้ผมสัมผัสได้ว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่
“ซีก็คงรู้ใช่ไหม...ว่าเรายังมีกิจการอีกครึ่งหนึ่งอยู่ที่ฮ่องกง”เฮียเริ่มเรื่อง แต่การเกริ่นแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
“ครับ”
“เมื่อกี้มีโทรศัพท์ทางไกลมาจากฮ่องกง บอกว่าอาแปะไม่สบาย”เฮียเล่าต่อเรื่อยๆ แต่ผมก็รู้ว่านี่ล่ะจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง “...อาแปะเข้าโรงพยาบาล เป็นโรคหัวใจกับความดันสูง”
โรคคนแก่...ผมนึกในใจ ม้าของผมก็เป็นโรคความดันครับ เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงยากมากๆสำหรับคนมีอายุจริงๆ
“อานึ้งฝั่งโน้นก็เสียไปตั้งนานแล้ว แถมเจ้ยู่อิงก็ร่างกายไม่แข็งแรง เขาเลยกลัวว่ากิจการจะไปไม่รอด”เฮียเอเล่าได้วกวนดีแท้ แต่ผมก็เริ่มนึกเดาอะไรๆได้นิดๆแล้วเมื่อนึกถึงผังความสัมพันธ์ของตระกูลเท่าที่เคยฟังมา
ตระกูลสายหลักอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ที่ฮ่องกงอยู่ในความดูแลของอาแปะครับ และก็อาแปะคนที่ว่านี้แหละที่เป็นโรคหัวใจกับความดัน อาแปะมีลูกคนเดียวเป็นลูกสาวชื่อเจ้ยู่อิง อายุมากกว่าเฮียเอห้าปี(ตอนนี้สี่สิบ) แต่เจ้ยู่อิงร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะมีลูกได้ แถมอากิ๋มภรรยาของอาแปะก็เสียไปตั้งแต่เจ้ยู่อิงยังเด็กๆ อาแปะไม่มีภรรยาคนอื่นจึงไม่มีลูกนอกเหนือจากเจ้ยู่อิง เจ้ยู่อิงมีลูกไม่ได้ก็จริง แต่อานึ้งสามีของเจ้สมบูรณ์ดี เจ้บีเคยเล่าให้ผมฟังว่าเจ้ยู่อิงยอมให้อานึ้งมีภรรยาน้อยได้เพื่อที่ว่าจะได้มีคนสืบตระกูล แต่อานึ้งก็มาด่วนจากไปเพราะอุบัติเหตุเสียก่อน
ตรงนี้นี่เองที่เป็นปัญหา เพราะถึงจะเป็นตระกูลสายหลักแต่ก็เพราะเป็นสายหลักคนจึงมีน้อย ถ้าเทียบกับบ้านผมที่อยู่ในไทยแล้วฝั่งโน้นนับว่าง่อนแง่นอันตรายกว่ากันเยอะ
ไม่ต้องพูดถึงพวกตระกูลสายรอง เพราะในวงการธุรกิจ พวกตระกูลสายรองนี่แหละที่น่ากลัวยิ่งกว่าคู่แข่งทางธุรกิจเยอะ
“แล้ว...เฮียจะบอกอะไรหรือครับ”ผมกลั้นใจถาม ภาวนาอย่าให้สิ่งที่คิดเป็นจริง
เฮียเอมีสีหน้าลำบากใจ
“ซี...ปีหน้าซีก็ขึ้นม.ปลายแล้ว...เริ่มจะโตแล้วนะ”
อย่าให้สิ่งที่ผมคิดเป็นความจริงเลย
อย่า...
“ทางโน้นเขาจะขอรับซีเป็นลูกบุญธรรม ไปเรียนที่ฮ่องกงแล้วจะให้สืบทอดกิจการของตระกูลฝั่งโน้น...ซีคิดว่ายังไงล่ะ?”
สีหน้าของเฮียเอไม่มีเค้าของคำว่าล้อเล่น ผมรู้ดี เฮียเอไม่ได้พูดเล่น เฮียเป็นผู้ใหญ่ มีลูกมีครอบครัวแล้วจึงย่อมคิดอะไรๆในแบบของผู้ใหญ่
ผมเองก็เคยเชื่อมั่น...ว่าตัวเองเป็นคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน...คงจะสามารถรับฟังเรื่องพวกนี้ได้อย่างเยือกเย็น...
...แต่มันกลับไม่ใช่เลย เพราะในวินาทีนั้นในหัวผมมีเพียงคำคำเดียวผุดขึ้นมา และยังไม่ใช่เรื่องของธุรกิจที่บ้านอีกต่างหาก
วา...
ผมไม่อยากไปจากหมอนั่น
ยังไงผมก็ไม่อยากจากหมอนั่นไป
“ซี...ถ้าอาแปะเป็นอะไรไปขึ้นมาตอนนี้ กิจการฝั่งฮ่องกงของเราล่มแน่”เฮียเอเอ่ยเสียงเครียด “ซีโตแล้ว คงจะรู้ดีใช่ไหมว่าถ้าพวกสายตระกูลรองฮุบกิจการไป หุ้นครึ่งหนึ่งของเราจะต้องอยู่ในกำมือของคนพวกนั้น แล้วเราก็คงแย่”
สายตระกูลรองของครอบครัวผมเป็นพวกโลภมากครับ นี่เป็นข้อเสียที่ร้ายแรงที่สุดและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆของบ้านใหญ่ที่มีหลายสกุล เพราะคนพวกนี้จะจ้องแก่งแย่งกันเอง
“เฮียให้เวลาซีไปคิดนะ...ว่าจะไปเรียนต่อที่โน่นตอนม.ปลายหรือเปล่า”
เฮียเอรู้จักผมดี...จึงรู้วิธีพูดเพื่อไม่ให้ผมปฏิเสธได้
ถ้ายกเรื่องธุรกิจของบ้านมาอ้างขนาดนี้ ผมจะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ
จะทำยังไงดี...จะทำยังไงดี...
“ซี”เจ้บีพี่สาวคนรองของผมเรียก ก่อนจะเดินมานั่งลงยังเก้าอี้ข้างๆ “เจ้ฟังที่เฮียเล่ามาแล้ว...เราจะเอายังไงหรือ?”
ผมสะอึกไปนิด “ก็...ยังไม่รู้เลยครับ”
“ซี...เจ้อาจจะคิดอะไรไม่เหมือนคนอื่นๆ แต่เจ้ไม่อยากให้ซีฝืนใจตัวเองหรอกนะ”เจ้บีส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่เห็นด้วย “ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ธุรกิจน่ะเดี๋ยวก็หาทางออกได้เองแหละ”
“แต่เพราะมันไม่มีทางออกไม่ใช่หรือครับ...ทางโน้นเขาถึงได้โทรมา”ผมถอนหายใจ “เฮียต้องรับผิดชอบงานฝั่งนี้ แถมเจ้เองก็ใกล้จะแต่งงานอยู่แล้ว...ที่เหลือก็มีแค่ผม”
“เจ้ไม่ได้อยากให้ซีกดดันตัวเองนะ”เจ้บีขมวดคิ้ว “ทางนี้ก็สำคัญสำหรับซีใช่มั้ยล่ะ? ไหนจะโรงเรียน...”
“โรงเรียนไปต่อม.ปลายที่โน่นเอาก็ได้ครับ ไม่ต่างกันหรอก”ผมตัดบทเรียบๆ ทำให้เจ้บีชะงักไปนิด แต่ก็ยังไม่วายแย้ง
“ชมรมเราอีก...”
“ซีว่าที่โน่นก็คงมีชมรมบาส”
จากใจจริงเลยนะ เพราะปกติมันก็คงจะมีกันทุกโรงเรียนอยู่แล้วล่ะ...
“แล้วพวกเพื่อนๆของซีล่ะ...?”
คำถามสุดท้ายของเจ้บีทำเอาผมหยุดกึก แทบลืมหายใจ
เพื่อนๆ...
วา...
ทิวา...
ไอ้วา...
ให้ตายเถอะ...ผมรักมัน...รักมากเหลือเกิน...
ผมโกหกเจ้ไปซะแล้วล่ะครับ
โรงเรียนที่ฮ่องกงไม่เหมือนที่นี่หรอก ยังไงก็ไม่เหมือน...
ที่โน่นไม่มีไอ้วา
เจ้บีลุกขึ้นยืน สีหน้าดูหนักอกหนักใจ “เจ้พูดจริงๆนะ...ถ้าไม่อยากก็ปฏิเสธซะ...ป๊ากับม้ากับเฮียน่ะไม่เป็นไรหรอก...ทุกอย่างขึ้นอยู่กับซีคนเดียวนั่นแหละ”
เจ้เดินไปแล้ว แต่ผมก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
จะพูดขึ้นมาทำไมเล่า...ว่าขึ้นอยู่กับผมคนเดียว
ไม่เคยรู้สึกเสียใจ รู้สึกผิดหวังเท่านี้มาก่อนเลย
ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้คิดหรอก
ผมน่ะ...
ไม่ได้มีทางเลือกอื่นมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ...
เอ่อ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก แบบว่าไม่มีข้อแก้ตัวจะพูดอ่ะค่ะ = = ถ้าจะโทษต้องโทษคุณพี่ ว่างจัดโหลดไวรัสเข้าคอม ตอนนี้เครื่องรวนมากมาย TT TT
ไม่รู้มีคนเห็นรึเปล่า แต่ตอนนี้โนว์เคยอัพขึ้นเว็บแล้วแล้วมันเสียทั้งตอนเลยต้องลบทิ้งไปก่อน แล้วก็ติดสอบเลยไม่ได้มาลงต่อซะที สรุปคือนานมากกก ดีนะที่ไวรัสไม่แทะนิยายเข้าไปด้วย ไม่งั้นร้องไห้ตายแน่ = =a
ขอโทษทุกคนจริงๆค่ะที่ทำให้รอ จะยังมีใครรออีสโนว์อีกมั้ยเนี่ย TT^TT
มาที่ตอนนี้ แบบว่าเป็นความรู้สึกของซีทั้งตอนเนื้อเรื่องมันเลยยังไม่เดินไปไหน ก็ต้องรอดูต่อไปค่ะว่ามันมีเรื่องแบบนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป จากนี้โนว์จะพยายามมาลงให้สม่ำเสมอนะ ติดสอบอีกแค่วันเดียวก็ปิดแล้ว คงว่างขึ้น ถ้าใครมีอะไรก็ฝากไว้ในหน้านิยายนะคะ โนว์แทบไม่เคยกดเข้าไปเหยียบมายไอดีเลย = =
พูดแล้วเดี๋ยวยาว เอาเป็นว่ามาตอบเม้นท์กันดีกว่าเอิงเอย...
คุณ oong fong ฮาๆ งั้นก็ต้องเรียกว่าน้องฟอง (รู้ตัวดีว่าแก่) เหอๆ เชียร์ให้ทิ้งแล้วไปแช่งเขาทำไมล่ะจ๊ะ = =? กร๊ากกก ตาซีนี่พวกเยอะ พอถึงตอนนี้แล้วโดนสาปแช่งกันทั้งเซ็ทเลย ม้าเขาให้ไปอยู่แล้วจ้ะน้องฟอง คุณหม่าม้านี่แหละตัวดี แต่เรื่องที่ว่าจะทิ้งไม่ทิ้ง จะเอาไงกะชีวิตต่อไปนี่ต้อง...ติดตามกันต่อค่ะ ฮุๆๆ(วิธีหากำไร แล้วก็โดนรีดเดอร์เตะโชะเข้าให้)
คุณ bummi วงเล็บมาแบบน่ากลัวมากมาย ฮาๆ ซีมันก็คงไม่อยากทิ้งหรอกเจ้าค่า ซีไม่หลอกวาแน่ๆ (ยังไม่ทันจะได้ฟัน) เพราะซีเป็นคนดีเกินปายยยยยยย(แน่ใจ?) ตอนนี้ก็ได้แต่รอ(ให้วายอมให้กด)ด้วยความหวัง ว่าสักวันคงจะเข้าใจกันจริงๆ
ปล.เหมือนวงเล็บเราจะน่ากลัวกว่า เอิ๊กๆ
คุณ *~Walk by myself .....~* - เป็นข้อเสนอที่แจ่มมากค่า แต่โนว์ต้องดูสถานการณ์บ้านเมืองไปก่อน(บ้านเมือง - -??) ให้มันจบง่ายๆแล้วชีวิตมันดูไม่มีแก่นสาร(แต่มาแบบนี้ก็มีแก่นเยอะเกินไปจนชวนเครียด เหอๆ) ก็ต้องดูกันต่อไปค่ะว่ะซีจะยอมหรือเปล่า แต่ดูจากตอนนี้แล้ว...มันก็ไม่อยากไปเอามากๆเลยนะเนี่ย
คุณ majoong - โห อ่านเม้นท์นี้แล้วสะดุ้ง งวดนี้หายนานมากเป็นประวัติการณ์ ปกติหายไม่เกินอาทิตย์ นี่ล่อเข้าไปสองอาทิตย์กว่าๆจะสาม = = รู้สึกผิดอย่างแรงกล้า สังเกตดูหลายๆเม้นท์ เอ...ถ้าโนว์จำไม่ผิด วามันยังไม่ถูกกดนะจ๊ะ หึๆ ไม่ยอมให้หรอก ถึงจะเป็นซีก็ตาม คนนี้แม่หวงนักกกก เดี๋ยวต้องส่งน้องวาไปทำให้ซีเปลี่ยนใจค่ะ หึๆๆ
คุณ ว้าว ฮาๆ โนว์ใบ้อะไรให้เห็นกันแบบโจ่งแจ้ง บอกให้รู้กลายๆเลยว่าชีวิตนี้ไม่เคยมีเรื่องง่าย แต่ว่ายังไงก็คงจะไม่เป็นไรหรอก(มั้ง...)อย่างน้อยๆซีก็รักเดียวใจเดียวนะค้า ^^ ปัญหาที่เหลือก็คงเป็นจะทำยังไงให้ตาหัวดื้อนั่นเปลี่ยนใจ
ปล. ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ ตอนนี้หายดีแล้ว แต่คอมดันป่วยแทน Season Change หรือเมนบอร์ด Change ก็ยังงงๆอยู่ = =a
คุณ พี่ชายน้อย มาแบบสั้นๆและได้ใจความ โอ๋ๆ อย่าเพิ่งโกรธอย่าเพิ่งงอนค่ะ ลองอ่านตอนนี้ไปก่อนแล้วจะหายงอนเอง(มั้ง...) โนว์ไม่หักหลังใครนะจ๊ะ (แต่ดัดนี่ไม่แน่...เอ๊ย!)
คุณ Sacho กร๊ากกกก ได้ใจมากมายเจ้าค่ะ ได้แล้วทิ้ง แต่ก็อยากจะแก้จริงๆนั่นแหละว่าย้างงง ยังไม่ได้ได้ในความหมายนั้นเลย(อยากอยู่ แต่ยังไม่ยกให้ แม่หวง) ตาซีนี่ใจร้ายเนอะ บอกว่ารักแล้วก็จะไป งี้ต้องให้หนูวาไปเคลียร์
คุณ EdS0uL โฮ่ๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้า และโลกใบนี้หมุนตามความต้องการของโนว์ค่ะ(ดูชั่วร้ายเหมือนพญามารชอบกล = = ) ยังไงซะทิศทางเรื่องมันก็ไม่คงที่หรอก ต้องตามๆดูต่อไปนะค้า ^O^
คุณ frem ใจเย็นๆนะค้า เดี๋ยวคุณแม่ตกใจ เหอๆ โนว์เป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง ชีวิตหวานเกินไปแล้วรับไม่ได้ ต้องหาทางทำลาย เอ๊ย เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่งั้นมันจะซ้ำซากจำเจ เพราะงั้นคงไม่ใช่ Season Change อย่างเดียวแต่คงเป็น Emotion Change ตามอารมณ์อีสโนว์ เอิ๊กๆ แล้วก็ดันทิ้งไว้แล้วหายนานซะด้วยสิ อย่าโกรธกันนะค้า = = เอิ่ม...เรื่องของซี มันเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาแต่ไม่ยอมบอกอะไรตรงๆ(งงมั้ยเนี่ย?) คือให้พูดก็พูดได้แต่ไม่ยอมพูด มันไม่อยากบอกวาว่าจะไป ไม่งั้นเหมือนวาจะตอบตกลงเพียงเพราะไม่อยากจากกัน ไม่ใช่ความรู้สึกจริงๆ ประมาณนี้มั้งเลยอุบเอาไว้ตั้งนาน
คุณ yunjae-kyumin เหอๆ ระยะทางพิสูจน์คน แต่ระยะทางก็อันตรายจริงๆนั่นแหละค่า อันนี้เห็นด้วย ดังนั้นหนูวาต้องพยายามหาทางอ่อย เอ๊ย หาทางทำให้ซีไม่ไปให้ได้ ไม่งั้นล่ะก็...แบดเอนดิ้งแน่ หึๆ
คุณ ReNaI---aWaRe มีสองเม้นท์ใกล้ๆกัน อันแรกเห็นบอกว่ามีบทหวาน มาดูที่มาของเม้นท์เป็นตอนก่อนหน้า แล้วโนว์ก็ชักคิด....เออว่ะ หรือว่าโนว์จะชอบหว่านให้คนอ่านหลงเชื่อแล้วหักหลังจริงๆ (เริ่มรู้สึกว่าตัวเองนิสัยไม่ดี = = ) พอมาเม้นท์สองให้อารมณ์ใจสลาย เหอๆ ตอนนี้มีสองกรณีที่พบเห็น ไม่ซีใจร้ายก็อีสโนว์เองนี่แหละที่ใจร้ายใจดำ เขียนอะไรให้สะเทือนใจเล่น แต่ก็นะ ฮ่าๆ ชีวิตมันต้องมีหลายๆรสชาติปนกันสิค้า ^O^
คุณ kaotoxs สั้นๆและได้ใจความ ต่อให้แล้วค่า ถึงจะนานเป็นชาติก็เหอะ ไม่ต้องค้างแล้วน้า
คุณ ~ Memory@Cream~ - โดนดักอีกคน เป็นสองเม้นท์ที่อารมณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง เหอๆ ใจเย็นๆเจ้าค่ะใจเย็นๆ โนว์เองก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไร อีกอย่างหนูวาเองก็คงไม่ยอมหรอก งานนี้สู้สุดใจขาดดิ้น
คุณ Fay - พี่เฟย์มาแบบนิ่มๆไร้ซึ่งอาการตกใจ เหอๆ โนว์ทำให้ทุกอย่างมันโจ่งแจ้งขนาดนั้นเลยหรือนี่ เฮ้ๆ ว่าแต่พี่เฟย์คิดอะไรอ่ะคะ แผนการล่อลวงหนูวาให้ยอม?? ง่า...เป็นความคิดที่ดี ไอเดียแจ่มแจ๋วเวรี่กู้ดดดดด(วา คิดจะเอาผมไปขายเรอะ -o- ) 555+ ไปน่ะไปแน่ แต่ไปตอนไหน ไปเมื่อไหร่ หรือยังไงก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป ฮิ้ววววว ประโยคเด็ดไว้หว่านล้อมคนอ่าน - - ระยะทางไกลๆมันน่ากลัว ดังนั้นโนว์คิดว่าหนูวาไม่มีทางยอมหรอก งานนี้มีเฮแน่
ปล.เรียนหนักมากเลยเหรอ สู้ๆนะค้า ไม่มาเม้นท์ก็ไม่เป็นไรหรอก เข้าใจว่ายุ่ง โนว์ไม่โกรธพี่หรอกค่า เพราะตอนนี้โนว์ก็อัพช้ามากมายเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้นะคะ = =
คุณ PaiN ChilDen ~ /Casanovy- รวบสองชื่อเหมือนเดิมเพื่อความสะดวกในการหานะจ๊ะคาช ตอบทีเดียวเลยจะได้ไม่ต้องเลื่อนดูนาน เอาเม้นท์สองก่อนละกัน กลับมาแล้วนะ เอาคอมไปเข้าศูนย์มา คุณพี่ชายนั่งว่างโหลดไวรัสเข้าเครื่อง = = มีอันต้องซ่อมยาว นิยายอยู่ในคอมหมดเลยลงไม่ได้เลย ส่วนเรื่องเม้นท์ยาวโนว์ไม่ว่าหรอกจ้า กล้าเม้นท์ยาวๆโนว์ก็กล้าตอบ เอาดิ หึๆ *o*
มาที่เม้นท์แรกแต่ตอบหลัง(เพื่ออะไรวะเนี่ย?) ความจริงโนว์ก็อยากเขียนตอนพิเศษวาเลนไทน์ให้นะ แต่เนื้อเรื่องตอนนี้มันไม่ค่อยเอื้ออ่ะ เนื้อเรื่องมันดาร์กหน่อยๆแล้ว เขียนอะไรหวานๆแล้วมันจะดูขัดกัน เอาไว้โอกาสหน้าละกันนะจ๊ะ ตอนนี้ปล่อยให้ตาซีใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงไปก่อน คาชพูดถูก!! ซีเป็นคนเจ้าเล่ห์ หึๆ แต่ครอบครัวเขายังไม่รู้เรื่องนี้นะ ถ้ารู้ก็...คงจะมีเฮ ฮา~~ ดีใจนะเนี่ยที่คาชยังจำเรื่องแหวนได้ แต่โนว์ว่าบางทีไม่สลักก็คลาสสิกกว่านะ ประมาณว่ารับรู้กันอยู่แค่สองคน เอิ๊กๆ ตาซีทำท่าจะทิ้งกันเอาง่ายๆเพราะรักครอบครัวจัด ส่วนหนูวาก็กำลังมึนงงกับอาการลมบ้าหมูของซี แต่เดี๋ยวก็คงต้องหาทางทำอะไรสักอย่างนั่นแหละ โฮะๆๆ(หัวเราะมีเลศนัยแล้วเดินจากไป)
ปล.ขอบคุณค่า ขอให้คาชมีแต่คนรักเหมือนกันนะจ๊ะ
ปล2. เมลเดี๋ยวจะแอดไปค่ะ แต่โนว์ไม่เคยจะออนอ่ะ เพื่อนที่โรงเรียนยังด่าเลยว่ามีเมลไว้ทำอะไร = =
คุณ Prince"Z ฮึ้ยยย เอ็นซีอะไรไม่มี้ไม่มี ยังไม่ทันจาได้เอ็นซีเลย กร๊ากกกก จะชวนโนว์เหรอค้า ว้ายเขิน 5555+ ว่าแต่ ยังมีคนแบบซีอยู่ในโลกอีกเหรอเนี่ย นึกว่าคนแบบนี้จะหาได้ยากยิ่งแล้วนะ ฮาๆ ก็ดีนะคะ ขอให้รักกันนานๆ เอิ๊กๆ ว่าแต่ผู้หญิงผู้ชายจ๊ะ...มาที่เนื้อเรื่อง เปิดมาก็สครีมอย่างรุนแรง เอาเป็นว่าโนว์ไม่ใบ้ละ เดี๋ยวไปอ่านในเรื่องเอาเองดีกว่า แต่...ไอ้xxx นั่นแปลว่าอะไรเหรอจ๊ะ - -? มีคนมากมายสนับสนุนให้วาไปด้วย งั้นเดี๋ยวจะส่งตั๋วพิเศษให้เกาะปีกเครื่องบินไป หึๆๆ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าทิ้งวาไว้คนเดียวตาซีจะโดนใคร(เป็นต้นว่าพี่กานต์?)แย่งไปหรือเปล่า กร๊ากกกก
ปล. แหวนเหรอจ๊ะ จะว่าขอแต่งงานก็ได้นะ แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน หรือจะอะไรก็เอา เพราะตาซีมันยัดให้ก็แปลว่าวาต้องเป็นของมัน ฮิ้วววววววว(วา อย่ามาพูดเองเออเองเด้!! ; โนว์ แล้วจะหน้าแดงทำไมยะ - -?)
คุณ kiss&hugs - ชอบประโยคนั้นเหรอคะ 5555+ เป็นประโยคที่ตรงไปตรงมาซะจนน่าอัดซ้ายตรงเข้ากลางเบ้าลูกตา ซีมันชอบพูดอะไรให้วามันเขินนนนนนอยู่เรื่อย ถ้าชอบก็เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันบ้างก็ได้นะคะ ไม่หวงไม่จดลิขสิทธิ์ กร๊ากกกก อ่านๆเม้นท์แล้วก็ตกใจ ไม่อยากเชื่อ มีคนนั่งนับจูบด้วย ขนาดโนว์ยังไม่รู้เลยว่ามันจูบไปกี่ชุด รู้แต่คงปากเจ่อปากบวมเป็นแน่แท้ หึๆ แสดงว่านี่แหละแฟนพันธุ์แท้ตัวจริง เอิ๊กๆ แถมยัง...แน่ะ ไปรู้ทันเขาอีกว่าต้องเข่าอ่อน(เจ้าวาหลบตา ทำหน้าเขินๆ) แต่มันก็โรแมนซ์~~~~ได้ใจใช่ปะคะ ^^ (แจกยิ้มหวานแล้ววิ่งหลบรองเท้า) แต่ก็เอาน่า ยังไงตาซีก็จองตัวยัดแหวนเอาไว้แล้ว คงไม่ปล่อยให้พรากจากกันง่ายๆหรอก(มั้ง) ดังนั้นก็...ต้องติดตามต่อไปนะค้า ^O^
ปล. ขอบคุณสำหรับความห่วงใยค่ะ โนว์หายแล้วแต่คอมป่วยแทน แต่อันนี้จะอวยพรให้หายก็คงไม่ไหว = = คงต้องพึ่งบารมีเงินตรา เอาเข้าศูนย์ลูกเดียว 555+
คุณ ต่อไปนี้จะขอเปงโคนดีค่า โฮ่ โนว์ไม่สามารถสปอยล์ได้ค่ะ แต่ซีเขาก็รักวาน้า ดังนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปไป ใจร่มๆแล้วรอดูต่อไปเรื่อยๆนะคะ
คุณ ryoma_jung_cutie เม้นท์ขัดกันเองชอบกลแต่โนว์ก็ฮา ซีจะไปแต่น่ารัก? 5555+ ไม่ค่อยเข้าใจแต่โนว์ก็ขำแฮะ มีคนบอกบ่อยๆว่าเส้นตื้น ท่าจะจริง
คุณ อ.อลิซ - โอ๋ อย่าเพิ่งโกรธนะจ๊ะอลิซ โนว์ยิ่งง้อคนไม่เป็นอยู่ สกิลต่ำต้อยด้อยค่ามากมาย เหอๆ ยังไงก็รักอลิซนะจ๊ะ อย่าเพิ่งโกรธๆ ยังไงก็มาให้หลอกต่อซะดีๆ เอ๊ยยยยยยย
คุณ black butterfly ไม่ดีไม่อาววววว เป็นเรื่องที่ไม่มีใครเห็นด้วยสักคน ซีจะไปก็ไม่มีใครยอมให้ไป แต่ไม่เป็นไร โนว์เองยังไม่อยากให้ไปเลย(อ้าว?) ดังนั้นต้องคอยดูฝีมือเจ้าวา ว่าจะมีปัญญารั้งไว้ได้มั้ย
คุณ [B]a[K]u..zz หยา สะดุ้ง ถึงขั้นจะขุดหลุมดักดันเลยรึ = = ดีใจอยู่ที่ไม่โดนอะไรขว้างหัว แต่โนว์ก็ไม่อยากกลิ้งลงหลุมนะจ๊ะ(ดักรีดเดอร์ซะเยอะ ไม่กล้าโดนกับตัวเอง) อ่านๆไปสะดุ้งไปเพราะตอนนี้โนว์มาต่อให้ช้ามากมาย ขอโทษจริงๆนะคะ แต่มาต่อให้หายค้างแล้ว แล้วก็ โนว์ไม่ใจร้ายอย่างที่คิดหรอกนะค้า เพราะโนว์ก็รักเจ้าซีกับเจ้าวามากเหมือนกันนนนนน ^O^
คุณ k_he 555+ เป็นคนเดียวเลยจริงๆค่ะที่เรียกซีว่าหนูซี อ่านแล้วขำทุกที แต่ดูท่าทางจะไม่แปลกใจเลยนะเนี่ย แหม โนว์อุตส่าห์ดักซะดิบดีแล้วนะเนี่ย แต่ท่าทางจะไม่ได้ผล กร๊ากกกก
คุณ พอสศรีมณีเด้งดึ๋ง ฮาๆ ต้องทำใจกับอาการ Season&Emotion Change ของอีสโนว์ค่ะ โนว์เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่ไม่ต้องการความสุขถาวร(ไม่ดีนะเนี่ย = =a ) แต่มีร้ายก็ต้องมีดีค่ะ หึๆ ข้อเสนอที่ว่าก็น่าสนใจดีนะ ไม่ต้องทำไง หนีบเจ้าวาไปด้วยกันซะเลย ง่ายดี
ปล. อัพแล้วค่า ขอโทษด้วยที่ช้า ไม่ต้องทนคิดถึงซี-วา และพี่กานต์แล้วนะค้า ^^
คุณ noony ใจร่มๆเจ้าค่ะ มาถึงก็สครีม เอิ๊กๆ อย่างเราๆรั้งไว้คงไม่ได้ แต่หนูวาก็ไม่แน่...ไว้จะลองให้หนูวารั้งตาซีเอาไว้(แต่ได้ไม่ได้นี่อีกเรื่องนึงนะ) วามันไม่ยอมหรอกกกกกก
คุณ mo-ko เม้นท์ไม่ค่อยต่อแต่ก็ไม่เป็นไร โนว์มีสกิลมั่วซั่วในการผูกให้มันต่อกันได้ ดูเม้นท์แล้วคงอ่านรวดเดียวแหง เหอๆ พี่กานต์เดี๋ยวก็คงจะเลือกแล้ว ตอนของพี่กานต์ใกล้ๆแล้วล่ะมั้ง แต่ตอนนี้ซีมันเด่นเอาหน้า เด่นจนบังชาวบ้านเขามิด เอิ๊กอ๊าก~ หลอกให้อยากแล้วจากไปจริงๆ นึกอยากให้ซีหนีบวาไปฮ่องกงด้วยจริงๆซะแล้วสิ
คุณ puppylove สะดุ้งหลายรอบเลยวันนี้ โนว์อัพโคตรช้าขอโทษด้วยจริงๆค่ะ TT TT ตอนนี้ก็มาต่อให้ไม่ต้องทนค้างกันอีกแล้ว ตาซีทำท่าว่าจะไปจริงๆนั่นแหละ แต่ในตอนนี้ยังไม่รับรู้ถึงอารมณ์ของวาเพราะโนว์ยังเขียนไม่ถึง(ฮา...) แต่คิดๆดูถ้าไปจริงวาก็คงเสียใจตาย ประมาณว่าหนอยยย หลอกให้รักแล้วทำกันงี้นะแก เอิ๊กๆ
ปล.รักไม่กลัว กลัวไม่รัก แต่ตอนนี้อัพช้าจริงๆ จะยังรักกันอยู่มั้ยเนี่ย = =
ปล2. ขอบคุณที่อวยพรค่ะ จะพยายามรักษาสุขภาพไม่ให้ป่วยบ่อยๆ จะได้มาอัพต่อได้เรื่อยๆให้ทันใจกัน
คุณ W@Y อ่ะจ้า ตอนใหม่ อัพให้แล้วนะจ๊ะ ถึงจะมาช้าก็ดีกว่าไม่มาน้า(เข้าข้างตัวเองแบบสุดฤทธิ์)
คุณ naminie มาแบบเอ็คโค่อย่างแรง หึๆๆ บอกตามตรงนะ โนว์ยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าซีไปจริงๆแล้วจะทำกันยังไง(อ้าวเฮ้ย) แต่เอ่อ...เอาสากตีหัว...แล้วลากเข้าบ้านเลยเหรอ...สงสารซีแฮะ โนว์แค่อ่านยังกลัวแทนเลย เอิ๊กๆ แต่ต้องลากแล้วถีบเข้าห้องนอนลงกลอนให้อยู่ด้วยกันสักสามสี่วันนะ กร๊ากกกกกก(เริ่มชั่ว)
ปล.แน่ใจนะจ๊ะว่าแอบจิตเล็กๆ? ฮาๆ ขำๆ
ปล2. มาต่อให้ช้ามากกกกกก ยกโทษให้โนว์ได้รึเปล่าเนี่ย = =
ปล3. ว่าจะถามนานแล้ว ชื่อที่ใช้นี่ นามิเน่จากคิงดอมฮาร์ทรึเปล่าอ่ะจ๊ะ ถ้าใช่เดี๋ยวใช้ชื่อนี้เรียกเลยนะ โนว์ชอบเกมนั้นมากมาย เล่นจบไปแล้วสองภาคกำลังจะเล่นภาคเสริม *o*
คุณ PeaChEriNo_ - อ่ะจ้า อัพแล้ว อัพแล้ว อัพแล้ว 5555+
คุณ ไม่ประสงค์ออกนาม - เจ้าค่ะ มาอัพให้แล้ว(ถึงจะช้าเป็นชาติก็ตามที) แบบนี้จะยังรักโนว์อยู่มั้ยอ่ะ(ส่งสายตาวิ้งๆ *o* ) ยังไงก็ตาม ขอให้สนุกนะคะ
คุณ ping_ping นับรวมแล้วได้ 11 เม้นท์ ตามเม้นท์ทุกตอนแบบสะใจมากมายค่า ขอบคุณนะคะ ดีใจที่รู้ว่าตั้งใจอ่านจริงๆ ตอบแบบภาพรวมเลยละกันเพราะคงรู้เนื้อเรื่องถัดไปหมดแล้ว ดูจากที่เม้นท์ๆมา รู้สึกว่าเนื้อหามันจะพัฒนาเดินหน้าไปเรื่อยๆโนะ? จากที่นายเอกเล่นตัวแทบตายจนกลายเป็นว่าชอบเข้าไปตอนไหนก็ไม่รู้ เจ้าวาเองยังงง(กร๊ากกกกกก) เรื่องนี้เท่าที่ดูก็มีตัวละครหลักไม่มาก แต่อยากเพิ่มตัวละครแฮะ ต้องไปคิดดูก่อน โดยส่วนตัวโนว์ชอบหนูตะวันนะคะ มันดูเป็นเด็กแสบๆซนๆดี เหมาะกับคนที่มาดเป็นผู้ใหญ่แบบพี่กานต์ เอ๊ยยยย แต่โนว์ก็ชอบเจ้าซีกับหนูวานะ ฮาๆ คุยซะยาวเลย เอาเป็นว่าก็ขอให้ติดตามต่อไปนะคะ ^^
ปล. เหมือนจะเคยมาเม้นท์ช่วงแรกๆหรือเปล่าคะ? ชื่อนี้คุ้นๆ แต่หายไปนานมากๆเลย
คุณ >>>BulldoG อืม...สองอย่างรวมกัน แต่หนักๆเป็นเพราะโนว์อัพช้าจ้ะ เพราะถ้าดูวันที่แล้วมันจะแบบ...โห หายหัวสุดๆ = = รู้สึกผิดอย่างรุนแรง ฮาๆ ชอบให้ซีประกาศความเป็นอะไรกันกับหนูวาเหรอจ๊ะ โนว์ก็ชอบนะ คิดสภาพแล้วเจ้าวาคงสะอึก 55555+
แต่พอตอบลงเวิร์ด โนว์ก็เพิ่งรู้ว่าตอนนี้ใช้ตั้ง.....หกหน้าเวิร์ด!! ยาวจะเท่านิยายตอนนึงเลยนะนั่น...ฮาๆ
ตอนนี้มาอัพช้า แต่ก็อัพให้เต็มที่เหมือนเคย โนว์ยังเหมือนเดิม ยังรักทุกคนเหมือนเดิมนะค้า ^O^
ความคิดเห็น