ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -My Sweetheart..You're Everything -KiHae HanHyuk SJ-

    ลำดับตอนที่ #38 : :: Chapter 27 : I can't live without you ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.72K
      25
      26 มี.ค. 53

     

     

     

    27

    I can't live without you

     

     

     

    เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มพร้อมแสงสีที่สาดส่องไปทั่วทั้งผับ   บนโต๊ะเล็กๆ มีแก้วน้ำสีอำพันวางไว้เต็มไปหมด   เว้นแต่ของซองมิน   ฮยอกแจแล้วก็ดงเฮที่ถูกสั่งห้ามดื่ม   นอกนั้นสามีไม่มาคุมก็เริงร่ากันยกใหญ่    จุนกิต้องคอยห้ามไม่ให้ทุกคนดื่มเยอะเกินไป    ทั้งที่ตอนแรกเหวอแทบตายที่รู้ว่าเพื่อนๆ ของเขามาทำอะไรกันที่นี่    แต่ก็ทำอะไรไม่ได้   หลวมตัวถูกน้องชายตัวเองลากมาถึงที่แล้วนี่นา

     “แล้ววันนี้นึกอะไรฮะ   ถึงได้ชวนมานี่เนี่ย”   อิทึกถาม   กว่าจะหนีไอ้หมีบ้ามาได้ก็แทบตาย   ต้องยอม...ให้ต้องหลายรอบแน่ะ   คิๆ  พูดแล้วก็เขิน

    “ไม่เห็นต้องนึกอะไร   แค่เบื่อๆ...” 

    “เพราะว่าพี่ซีวอนเค้าไม่มาหาต่างหาก   พี่ฮีซอลก็เลยประชดรัก”    ดงเฮโพล่งขึ้นขัดคนสวย   พูดจบแล้วดีดตัวไปนั่งข้างซองมินทันที   หนีฝ่าเท้าพิชิตปลาได้หวุดหวิด

    “อ๋อ   ที่ซีวอนหายไปอ่าเหรอ”    อิทึกเริ่ม Get    ฮีซอลที่ไม่คิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปิดบังเพื่อนก็เลยตอบไปตามความจริง

    “งั้นแหละ   พูดนิดพูดหน่อยแล้วก็หายหัวไปเลย”  

    “เหอะ    ตอนมาก็ไล่ตอนไปก็เรียกหา   แกจะเอาไงกับมันกันแน่วะเนี่ย”   เจย์แดกดัน

    “ไอ้เวรเจย์   พูดมากว่ะ     แกก็รู้ว่าที่มันหายไปอ่ะมันจงใจแกล้งชั้นชัดๆ!

    “แกคิดไปเอง    ซีวอนมันอาจจะรอให้แกไปหามันอยู่ก็ได้”  

    “เอ๊อ   เป็นพวกกันแล้วก็เข้าข้างกันสินะ   ใช่ซี้   เดี๋ยวนี้มีอะไรอ่ะไม่เคยเรียกกรูไปเลยนะเมิง”   ฮีซอลขุดเอาเรื่องที่พักหลังเวลาเจย์ไปดื่มมักจะไปกับซีวอนและคังอิน    ไม่ยอมชวนพวกเขาไปด้วย

    “แกจะไปได้ไง   มันเรื่องของผู้ชาย”

    “กรูก็ผู้ชาย!   ฮีซอลเถียงสู้ตายละวะ

    “เมิงเป็นเคะ”

    “ไอ้เชี่ย!!!

    ทีนี้ทำอะไรไม่ได้เมื่อโดนจี้จุดอ่อนเข้าอย่างจัง   เตะเก้าอี้ของเจย์แรงๆ ไม่พอใจ

    “เอาน่าๆ   ซอลลี่ใจเย็นๆ สิ    ไปให้ไอ้เจย์มันยั่วจนของขึ้นได้ไง”   อิทึกห้ามมวย   เจย์แค่นยิ้มอย่างสะใจในขณะที่ฮีซอลได้แต่ฟึดฟัด

    “คอยดูนะ    ชั้นจะเล่นไม่เลี้ยงเลย   ทั้งแกทั้งไอ้ซิมบ้า”   คนสวยชี้หน้าอาฆาต   

    “เออเห๊อะ    มีปัญญาก็เอา”   เจย์ดูถูก   จะมีอะไรหรรษาเท่ากับการหยอกล้อกันในกลุ่มเพื่อนอีกมั้ยเนี่ย

    “มินนี่เป็นอะไรรึเปล่า   ทำไมวันนี้นั่งเงียบล่ะ”

    “นั่นดิ   ตั้งแต่มาถึงยังไม่ได้พูดไรเลย”

    ดงเฮถามอาการเพื่อนที่นั่งข้างๆ พร้อมฮยอกแจที่สำทับ

    “เปล่า   เค้าแค่คิดอะไรเพลินๆ”   ซองมินตอบน้ำเสียง(เกือบ)เริงร่า    เพราะวันนี้คยูฮยอนออกไปเที่ยวกลางคืนเขาเลยชิ่งมาที่นี่กับเพื่อนๆ ได้    กระต่ายอวบกำลังคิดหนักว่าคืนนี้เค้าจะทำยังไงดี    ไม่อยากกลับไปให้ไอ้หมาป่านั่นมันปู้ยี่ปู้ยำเลยซักนิด

    “ไอ้กระต่ายแอ๊บ    เป็นไรน่ะ    ทำหน้ายังกับตูด”   ฮีซอลถามบ้าง    ซองมินที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ ถึงคยูฮยอนถึงกับพูดออกมาเบาๆ

    “ทำไมหื่นได้ขนาดนี้นะ”

    “ฮะ   พูดอะไรนะ   ได้ยินไม่ชัด”   ฮีซอลรู้สึกเหมือนได้ยินคำพูดที่แสลงหูตงิดๆ    ซองมินโบกไม้โบกมือตั้งท่าจะปฏิเสธ   แต่สุดท้ายความอยากรู้ก็เอาชนะทุกสิ่ง

    พวกเมะนี่หื่นกันหมดเลยเหรอฮะ

    น้อยไปสิ   ครั้งแรกกันปุ๊บนะ   อย่าหวังเลยว่าจะได้พักน่ะ   ทั้งอาทิตย์มันก็ไหว!”

    คนมีประสบการณ์ตอบทันควัน 

    ขนาดนั้นเลยเหรอ...”  

    คนไร้ประสบการณ์อย่างซองมินพึมพำออกมาเบาๆ    ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของหมาป่าหน้าหื่นผุดขึ้นมาวนเวียนทั่วไปหมด

    น่ากลัวชะมัด

    เออ   พวกชั้นเจอมาแล้ว   เนอะ   ว่าแล้วก็หาพวก   อิทึกยิ้มรับผิดกับฮยอกแจที่เบือนหน้าหนีอายๆ

    ดงเฮได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะคิกคักกับท่าทางของพี่ชายตัวเอง    เจอพี่ซีวอนปราบพยศซะหนักเลยสิดูทำหน้าเข้า

    ไม่ต้องมายิ้มดีไปไอ้น้องบ้า   เท่าที่ชั้นดู   ไอ้คิบอมก็เอาเรื่องนะ    คนสวยหัวเราะหึๆ

    “บ..บ้า    พี่ฮีซอลอ่ะ   ใครจะไปทำแบบนั้นกับคิบอมกัน”    น้องชายหน้าหวานหน้าแดงแปร๊ด  

    “โถ่ๆ   อินโนเซนส์เกินไปแล้วน้องเอ๊ย   ขนาดชั้นไอ้ซีวอนมันยังเอาไปกินได้   แล้วแกจะเหลือเรอะ”  

    นั่นสิ   จะเหลือเร้อ...

    แล้วถามทำไมซองมิน    ฮีซอลเลิกสนใจดงเฮแล้วหันไปถามกระต่ายอวบ   

    ผมอยากรู้ด้วยว่า   ครั้งแรกมัน... เจ็บมั้ยฮะ

    โคตรๆ  

    ประสบการณ์มันต่างกันไอ้กระต่าย  -*-

    ฮีซอลทำหน้าทำตาซะซองมินสยอง    หน้าสวยๆ ของฮีซอลที่ตอนนี้เหยเกแสดงถึงความเจ็บปวดในตอนนั้น   แต่ถ้าให้พูดกันตามจริงแล้วความรู้สึกอื่นๆ ในรสรักมันก็ชัดเจนจนบดบังความเจ็บแสบไปเสียหมด

    อยากรู้เหรอ   อืม ...   ลองเอานิ้วแหย่เข้าไปดูสิ”  

    ทุกคนบนโต๊ะตาโตจินตนาการถึงภาพที่คนสวยบอก    แข่งกันหน้าขึ้นสีไปตามๆ กัน

    “พูดเรื่องอะไรกันวะเนี่ย”  

    เจย์ถึงกับทนไม่ไหวเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกสังกัดเคะ -*-   ร่างสูงชิ่งหนีไปเข้าห้องน้ำเสียอย่างนั้น

    “จะรู้สึกเหมือนกันเลยเหรอฮะ   นิ้วกับไอ้นั่น...”  อายก็อายแต่ก็อยากรู้    กระต่ายอวบถามแล้วชูนิ้วชี้ขึ้นมาดู   อิทึกกับฮยอกแจสายหน้าดิก    อาการของคนมีประสบการณ์

    “ซักสิบนิ้วนะ   นั่นแหละของจริง  

    “สิบนิ้ว!!!

    ดงเฮ   ซองมิน  และจุนกิผู้คงความเวอร์จิ้นตะโกนออกมาพร้อมกัน   

    “หึๆ   ทำใจเหอะ   เรื่องแบบนี้มันเป็นอะนิมอลวิวดู

    เอ๋?   อะไรเหรอฮะ   ซองมินงง   สำเนียงฝรั่งของฮีซอลแทบจะเป็นศูนย์   ลองพูดๆ แบบจุนกิสิเขาจะได้ฟังออก

    วู้ว   ตกอังกฤษรึไงแกน่ะ   ไปเอาดิกมาเปิดไป   ชั้นไปเต้นดีกว่า   ไปถึกกี้  ไปฮยอกจี้

    “ซอลลี่นี่   ชั้นถึกตรงไหนกัน   ทึกกี้สิ”  

    อิทึกแหวแล้วเดินตามไป   ทิ้งให้เหล่าผู้ร่วมขบวนการพาวเวอร์เวอร์จิ้นช่วยกันแปลปริศนาอะนิมอลวิวดูอยู่ตรงนั้น

     

     

     

     

    ครั้งแรกที่มาผับแห่งนี้เพราะความอยากรู้อยากลอง    อิทึกที่ชักชวนกันมาเล่นสนุก    พากันไปออกสเต็ปร่ายรำอยู่กลางฟลอร์ไม่แคร์สายตาใคร   จำได้ว่าวันนั้นไม่มีใครในผับแห่งนี้ที่จำหน้าพวกเขาไม่ได้    สนุกชะมัดเวลาทำให้ใครที่สนใจพวกเขาเกิดอาการ อดไปตามๆ กัน

    และวันนี้ก็จะเป็นเช่นนั้น   ตามที่ฮีซอลหมายมั่นว่าเขาจะต้องใช้ใครสักคนในที่นี้แหละทำให้ไอ้ซิมบ้าหึงจนตามมาหาแทบไม่ทัน

    ชั้นจะทำให้นายรู้ว่านายไม่ควรปล่อยให้ชั้นห่างตัว   ชเวซีวอน!

    แชะ!   แชะ!   แชะ!

    “แน่ใจเหรอว่าแบบนี้จะได้ผล”   อิทึกถามแล้วไล้กายบางของฮีซอล    สะบัดกายจังหวะเดียวกันไปพลาง  สอดส่ายสายตาร่ายไปพลาง    สลับมือกันรับจังหวะเต้นของฮยอกแจอย่างรู้กัน

    “ส่งรูปไปแล้วใช่มะ   ไม่ได้ก็ต้องได้แหละ”   คนสวยยืนกรานในผลตอบรับ   “แต่ชั้นว่าชั้นจะจัดการไอ้เจย์ซะหน่อย   กวนตีน”  

    “จะทำอะไรอ่ะซอลลี่”  

    “หึๆ   มาสิ”  ฮีซอลยิ้มมุมปากร้ายๆ แล้วกวักมือเรียกดงเฮกับซองมินให้มาเต้นเป็นเพื่อนฮยอกแจ   ส่วนเขากับเพื่อนสนิทเดินแยกไปอีกทาง

     

     

     

     

    ติ๊ดๆ   ติ๊ดๆๆ

    ซีวอนขมวดคิ้วเมื่อ MMS ที่ได้รับต้องใช้เวลาในการดาวน์โหลดภาพนานสักหน่อย    ร่างสูงนั่งลงบนเตียงแล้วลูบที่นอนหนานุ่มไปมา   คลี่ยิ้มบางๆ เมื่อภาพแสนสวยของเจ้าหญิงในหัวใจกำลังใส่ชุดวันเกิดนอนทอดกายอยู่บนเตียงของเขา

    “คิดถึงพี่ชะมัด”

    ซีวอนหัวเราะออกมาเบาๆ คิดถึงใบหน้าโกรธๆ ของคนสวยเมื่อพรุ่งนี้เขาจะไปหาแล้วบอกว่าที่ทำไปทั้งหมดแค่เรื่องล้อเล่น  

    ร่างสูงเหลือบมองภาพหน้าจอที่โหลดเสร็จพอดี

    “...”

    ซีวอนขบกรามแน่นเมื่อเห็นคนในภาพแนบชิดอยู่กับใครก็ไม่รู้   รอยยิ้มยั่วยวนที่เป็นของเขากลับถูกแจกจ่ายให้ใครอีกคน

    “ฮีซอล!

     

     

     

     

    “สวัสดีครับ”  

    ชายแปลกเดินเข้ามาทักทายหนุ่มน้อยแก๊งค์กระต่ายไก่ปลา    ดงเฮกับซองมินชะงักหลังจากออกท่าทางน่ารักๆ ใสๆ บนฟลอร์     ฮยอกแจหยุดเต้นแล้วเดินมาใกล้ๆ เพื่อนเขาทั้งสอง

    “เอ่อ..   สวัสดีครับ”   ดงเฮตอบตามมารยาท

    “มากันสามคนเหรอครับ”    ผู้ชายหน้าตาพอดูได้ถามยิ้มๆ  

    “นับเลขเป็นป่ะล่ะ    ก็เห็นอยู่ว่ามาสามคนแล้วจะถามทำไม”   ซองมินรู้สึกไม่ชอบใจกับสายตากะลิ้มกะเหลี่ยของผู้ชายคนนี้   ทั้งๆ ที่เห็นจนชินตาจากไอ้หมาป่าแต่ทำไมยังไม่ชินอีกนะ    อีกอย่าง  สายตาแบบนี้ถ้าไม่ใช่จากคยูฮยอนแล้วมันชวนให้เขาอยากจะอ้วกอย่างบอกไม่ถูก

    “โอ๊ะโอ   เก่งซะด้วย”   เขาเลียริมฝีปากตัวเองด้วยสายตาหื่นกระหาย

    “ไปให้พ้น”   ซองมินไล่   ฮยอกแจบีบมือเข้าหากันแน่นรวมพลังวัตร   ในขณะที่ดงเฮคิดหาวิธีไปให้ไกลจากคนพวกนี้   ถ้าคิบอมอยู่ก็ดีสิ...

    “ดุจัง   หึๆ   แล้วเรียกผมนะครับ   ผมนั่งอยู่โต๊ะนู้น”   

    “โต๊ะไหน   อ๋อ   ดี    ชั้นจะไม่ไปเหยียบแถวนั้นเลย!

    เขาจิ๊ปากเบาๆ แล้วเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม

    “ไอ้พวกนี้นี่มันยังไงกันนะ   ผู้หญิงมีเยอะแยะไม่ชอบ”   ซองมินบ่น  เดินนำกลับมาที่โต๊ะ

    “ฮ่าๆ   เหมือนแกไง    ผู้หญิงมีตั้งเยอะไม่ชอบ  ไปชอบพี่ชางมิน”   ฮยอกแจยิ้มร่า

    “ไม่เหมือนกันนะ   เพราะชั้นอ่อนแอต่างหาก    ชั้นถึงต้องมีคนมาปกป้อง”   ซองมินเข้าข้างตัวเอง

    “โห   อ่อนแอจังเลยนะเนี่ย”   ดงเฮล้อบ้าง   ไล่สายตาสำรวจหุ่นอวบและก้นนุ่มนิ้มที่ล้นเนื้อผ้าออกมาอย่างแกล้งๆ 

    Rrr Rr r

    โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นถี่ๆ    คนอ่อนแอตัวจริงอย่างฮยอกแจมองชื่อที่โชว์หราแล้วทำหน้าเลิกลั่ก

    “ฮันกยองโทรมาอ่ะ   ทำไงดี”  

    “โทรมาก็รับสิ   ถามโง่ๆ”  

    “จะบ้ารึไงไอ้กระต่ายสิ้นคิด    ถ้าหมอนั่นรู้ว่าชั้นอยู่นี่ชั้นตายแน่ๆ”

    “เออว่ะ”   กระต่ายสิ้นคิดรับอย่างนึกขึ้นได้

    “แล้วจะทำไงอ่าฮยอก   จะไม่รับเหรอ”   ดงเฮพูดแล้วคว้าโทรศัพท์ที่สั่นออกมากดรับบ้าง    จากนั้นคนหน้าหวานก็มีสีหน้าไม่ต่างไปจากฮยอกแจนัก

    “เอาละวุ้ย   มีแฟนก็ซวยเงี้ย”   ซองมินพูดเบาๆ     ดงเฮตัดสินใจตัดสายแล้วส่งข้อความไปหาลิ้มแก้มแตกของเขาแทน

    ตอนนี้ไม่ว่าง   ดึกๆ จะโทรหานะ

    ไม่ช้าก็มีข้อความที่คนรักตอบกลับมาอย่างว่าง่าย   มิวายออดอ้อน

    ครับ   แต่ตอนนี้ผมงอน    อย่าลืมง้อด้วยนะครับ   ดูแลตัวเองดีๆ นะ

    “ด๊องฉลาดแฮะ”   ซองมินชมเปาะแล้วหันไปหาฮยอกแจที่กำลังคิดไม่ตกว่าจะรับหรือไม่รับดี

    ในที่สุดน้องอ่อนแอก็กดรับจนได้   “ว่าไงฮัน”

    [ทำไมเพิ่งรับล่ะ   มือหงิกแล้วนะครับ]  ฮันกยองทักทายน้ำเสียงอารมณ์ดี

    “นายพูดว่าอะไรนะ!  ฮยอกแจต้องตะโกนถามแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม

    [คุณอยู่ไหนเนี่ยฮยอกแจ   ทำไมเสียงดังขนาดนี้]

    “ฮะ!  พูดว่าอะไรนะ”   ฮยอกแจขมวดคิ้วมุ่นแล้วตะโกน

    [คุณอยู่ไหน!!!]  ฮันกยองตะโกนเสียงดัง  

    “...ไม่ได้ยินง่ะ”

     

     

     

     

    “ไงวะ   หายไปนานเลยนะ”  

    “เออสิ   ชั้นไม่ได้หล่อขนาดสาววิ่งเข้าหาแบบแกนี่หว่า  ไอ้คยู”   เขาบอกแล้วเหล่สายตาไปทางสาวที่พูดถึง

    “เออน่า   เธอกลับไปก่อนไป   ไว้จะโทรหานะ”   คยูฮยอนบอกกับสาวข้างตัว   ทั้งสองจูบลากันก่อนที่เธอจะเดินเฉิดฉายออกไป

    “ไหนวะ   ชี้ให้ดูหน่อยสิ”  เจ้าหมาป่าหน้าหื่นเริ่มออกลาย

    “โน   เดี๋ยวแกก็คาบไปกินอีก   คนนี้เด็ดเว้ย   ไม่ยอมๆ”

    “ไอ้นี่   บอกมาดิ๊    คนไหน   ชั้นไม่เอาหรอก   มีอยู่แล้วคนนึง”   คยูฮยอนพูดเบาๆ   มองมือของตัวเองแล้วยิ้มบางๆ

    “ใครวะ   ผู้หญิงเมื่อตะกี๊อ่ะเหรอ   เฮ้ย  ไหนบอกเล่นๆ ไง”   เพื่อนของเขาตาโต

    “ไม่ใช่เว่ย    เรื่องของชั้นน่า    จะบอกได้ยังวะว่าคนไหน”   คยูฮยอนบอกปัด

    “นั่นไง   คนหน้าหวานๆ นั่นน่ะ   ที่นั่งกันอยู่สามคนโต๊ะนั้นน่ะ”

    “อ๋อ”  คยูฮยอนพึมพำรับคำ    สวยจริงๆ ด้วยว่ะ  

    แต่เฮ้ย  นั่นมัน...

     

     

     

    ในระหว่างที่แก๊งค์กระต่ายไก่ปลายังคงวาดลวดลายแบบเด็กมัธยมอยู่นั้น   เป็นเวลาเดียวกับที่พี่ชายหน้าสวยปฏิบัติการร้าย

    “จะทำอะไรน่ะซอลลี่”  

    “แค้นนี้ต้องชำระ  หึๆ”

    ฮีซอลยิ้มร้ายแล้วโรยผงสีขาวบางอย่างที่เพิ่งได้มาจากบาร์เทนเดอร์ใส่ลงแก้วสีอำพันของใครบางคน    แล้วส่งต่อให้พนักงานเอาไปเสิร์ฟที่โต๊ะ

    “เครื่องดื่มมาแล้วครับ”

    เจย์คว้าหมับที่ออนเดอะร็อคแล้วตั้งท่าจะกรอกเข้าปาก

    “เจย์    พอได้แล้วนะ   นายดื่มเยอะไปแล้วนะ”   จุนกิรั้งมือหนาไว้

    “ยุ่งน่า    นายเองก็เหอะ   นานๆ ทีจะมาแบบนี้ไม่ใช่เหรอ   ดาร์คเฮิร์ทกระจอกไปเลยล่ะสิ”   คนคอแข็งจอมปากเสียพูดห้วนๆ   อ้างถึงผับธรรมดาๆ ที่ไม่มันส์เร้าใจเท่าผับแห่งนี้

    “ที่แบบนี้ไม่ได้ดีไปกว่ากันนักหรอก   เจย์พอได้แล้ว”    มือบางเอื้อมไปคว้าแก้วเล็กออกจากร่างสูง

    “เฮ้ย   ยุ่งว่ะ   อยากกินขนาดนี้เลยหรือไง”  

    นี่มันไม่ใช่น้ำเปลี่ยนนิสัยแล้ว    นี่มันน้ำเผยนิสัยต่างหาก   ไอ้เจย์จอมห่ามของเพื่อนๆ แผลงฤทธิ์อีกครั้ง    นางฟ้าจุนกิหน้านิ่วไม่พอใจกับกริยาของเจย์

    คนปากเสียมึนๆ นิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับเมา   เค้ายังมีสติดีอยู่ประมาณเก้าสิบเปอร์เซ็นต์  

    “เห็นนายใจดีนะ   เอ้า   เอาไปสิ”   เจย์ยื่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรงมาให้

    “ไม่เอา   นายก็รู้ว่าเราไม่ดื่ม”

    “เอาน่า   นิดหน่อยจะเป็นไรไป”

    “ไม่เอา...  อื้อ!   อึก...”   

    ไอ้คนห่ามบรรลัยไม่สนใจเสียงทัดทาน   ล็อคคอคนสวยแล้วจ่อแก้วที่ริมฝีปากบางก่อนกระดกให้น้ำสีอำพันไหลเข้าสู่ร่างกายของจุนกิจนหมด

    “แค่กๆ   เจย์!   แค่กๆ”

    “เป็นไง   ฮ่าๆๆ”   ร่างสูงหัวเราะร่าอย่างชอบใจ    

    “เจย์...”   คนสวยเรียกเสียงแผ่ว

    “หืม   มีอะไร”

    “เรา...   เรา...   จะอ้วก   แหวะ..!!

    ซวยแล้วกู!

     

     

     

     

    “เอิ๊ก   ทำม๊ายยย    ทำไมไอ้ซีว๊อนมานถึงทามแบบเน้”  

    ฮีซอลเมามายโวยวายไม่ได้สติ    พอกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วเห็นฮันกยองนั่งคุมฮยอกแจอย่างหึงหวงออกนอกหน้ากับสายตาของคนที่มองน้องอ่อนแอของเขาก็เกิดอาการ อิจฉา

    ซัดเหล้าเข้าปากประชดรักซะอย่างนั้น    

    “คิดดูน้าจองซู๊    ไอ้แฟนบ้านั่นมันทิ้งชั้นไว้ตั้งสามวัน   สามวัน!!!    ไอ้แฟนบ้าา”

    “แค่นั้นยังไม่พ๊อออ    มันแกล้งช้านให้นั่งคิดถึงมานท้างวันท้างคืนเล๊ยยย”

    “พี่ฮีซอลเค้าเป็นอะไรของเค้าน่ะ”   ฮันกยองถึงกับหน้าเหวอเลยทีเดียว   หลังจากคาดโทษกับคนตัวเล็กเสร็จก็นั่งคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง

    “ชีช้ำน่ะสิ    พี่ซีวอนแกล้งไม่มาหาน่ะ”

    “แกล้ง?”

    “อื้ม   พี่เค้าอยากให้พี่ซอลล่ารู้สึกด้วยตัวเองน่ะว่าขาดพี่เค้าไปไม่ได้”   ฮันกยองพยักหน้าเข้าใจ

    “งั้น...  ผมต้องทำแบบนี้กับคุณรึเปล่าเนี่ย   จะได้ไม่ต้องไล่ผมอีก”  

    “บ้า   ที่ไล่น่ะเพราะนายไม่ยอมกลับไปนอนบ้านเลยต่างหาก   เนียนตลอด”   คนน่ารักว่าเข้าให้

    “หึๆ   ก็อยากอยู่ด้วยนี่ครับ   ถ้าคราวหน้าคุณมาเที่ยวแบบนี้อีกต้องบอกผมนะ   ไม่งั้นผมก็จะไปด้วย   ทำแบบนี้ผมเป็นห่วงรู้มั้ย”    ฮันกยองโอบเอวเล็กไว้แน่น    ทำขนาดนี้อยากรู้นักไอ้พวกที่คิดจะแอ้มคุณหนูเล็กของเขาน่ะยังจะกล้าอีกมั้ย

    “ขอโทษนะ    ก็ไม่รู้นี่   เห็นว่าเป็นพี่ซอลล่าก็เลยไม่ได้คิดอะไร”

    “ก็นั่นแหละ   บอกผมนิดนึงก็ยังดี”

    “อื้อ  ครั้งหน้าจะบอกนะ”

    “น่ารักมากครับ”   พูดจบก็จูบที่แก้มขาวเบาๆ อย่างรักใคร่

    “โว๊ยยย    อย่ามาสวีทกันแถวนี้นะเฟ้ย”   คนสวยอาละวาด   หมั่นไส้กับบทรักสีม่วงนี่ขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล

    “พาลนี่หว่า”   ฮันกยองพูดอย่างที่เคย   สมัยเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในชมรม

    “เออเด่ะ   แล้วไงว๊า   จะทำมาย”   ฮีซอลยังคงเอาเรื่องไม่เลิก

    “คอยดูนะเว๊ยยย   ไอ้ซิมบ้ามาเมื่อไหร่นะ   ชั้นจะจับจูบโชว์มันตรงนี้เลย!

    คนเมาหนอคนเมา

    “ผมมาแล้วครับ   ฮีซอล”

    เจ้าของชื่อหันขวับ    เห็นชัดเต็มสองตาว่าไอ้เด็กหล่อที่รักยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า    ร่างบางเดินโซเซเข้าไปหา

    “งาย!   มาแล้วช่ายมะ!    นายเป็นแฟนชั้นช่ายมะ    ไอ้ซิมบ้าช่ายมะ   มา    มานี่เล๊ยยยยยย”

    คิมฮีซอลโผเข้ากอดคนตรงหน้าแล้วประกบจูบดูดดื่มอันแสนร้อนแรงทันที    สองแขนและสองขาเกี่ยวรัดร่างสูงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย    เหมือนไม่ยอมให้คนๆ นี้หนีเค้าไปไหนได้อีก...

    ซีวอนอึ้งกิมกี่กับรสจูบวาบหวาม    แต่ร่างสูงก็ยินดีและเต็มใจที่จะตอบรับจุมพิตนี้โดยไม่ข้องใจใดๆ ทั้งสิ้น  

    เมื่อไม่มีใครคิดที่จะหยุดคิสซีนนี้ก็ดำเนินต่อไป   นานเป็นนาทีกว่าคนสวยจะยอมผละออก    แขนและขาที่กอดแน่นกับตัวซีวอนค่อยๆ ผ่อนแรงออกพร้อมกับสติของร่างบางในอ้อมแขนที่ค่อยๆ หายไป

    “งืม   ซีวอนนน    อย่าไปไหนน้า   นายรู้ม้าย...   ชั้นขาดนายม่ายด้ายยย  

     

     

     

     

     

     

    วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×