ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -My Sweetheart..You're Everything -KiHae HanHyuk SJ-

    ลำดับตอนที่ #37 : :: Chapter 26 : Because of you ::

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.65K
      18
      26 มี.ค. 53

     

     

     

    26

    Because of you

     

     

     

    ผ่านมาแล้วสำหรับชีวิตเด็กม.ปลาย    จุดเริ่มต้นใหม่ๆ ของเส้นทางที่ใครบางคน  หรือหลายๆ คนกำลังก้าวเดิน    เวลาสามเดือนก่อนการเข้าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย SM   สถานศึกษาเครือเดียวกับโรงเรียน   นักเรียนทุกคนได้รับอภิสิทธิ์ให้เข้าเรียนต่อที่นี่ได้โดยไม่ต้องเอนทรานซ์ใดๆ 

     

     

    สามเดือนก่อนที่ชีวิตเด็กนักเรียนกำลังจะหมดไป   คนเหล่านี้เลือกที่จะใช้ชีวิตให้ดำเนินไปอย่างมีความสุข   กับคนที่รัก...

     

     

    ...ด้วยหัวใจของพวกเขา

     

     

                My sweetheart.. You’re everything.

     

     

     

     

     

     

     

     

    หมดไปอีกเรื่องสำหรับลีซองมิน    ไม่ง่ายเลยที่จะสอบไป   และทำหน้าที่ แม่บ้านให้โจวคยูฮยอนไปด้วยได้  

     

     

    อีกสี่วันเองซองมิน   อดทนๆๆ   กระต่ายป่าตัวอวบพร่ำบอกตัวเองในใจ   หลังโดนกดขี่ข่มเหงรังแก

     

     

    อะไรของมันนักวะ!   ฮึ่ย  สามวันๆ

     

     

    ใกล้แล้วๆๆ   มะรืนนี้ไอ้คยูกี้บ้าก็จะกลับจีนแล้ว   ชั้นจะได้รับอิสรภาพซะที   โฮ~!’

     

     

     

     

    “นายก็รู้ว่าชั้นไม่ชอบบ้านรกๆ   ขยันหน่อยนะ   เป็นแม่บ้านของชั้นทั้งที”  

     

     

    คยูฮยอนกระหยิ่มยิ้ม   ตีก้นซองมินที่กำลังก้มลงจัดแผ่นซีดีที่ระเนระนาดงกๆ

     

     

    “ถ้าไม่ชอบก็หัดเก็บเองซะบ้างสิวะ...   ฮะ”   คยูฮยอนหรี่ตาจับผิด   ซองมินกลับลำน้ำเสียงห้วนแทบไม่ทัน     คยูฮยอนสั่งห้ามไม่ให้แม่บ้านอย่างเขาพูดจาไม่เพราะ

     

     

    “ก็ ฮะไง  แหะๆ”   ซองมินเหงื่อตก   มือไม้เริ่มสะเปะสะปะ   เจ้าหมาป่ายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้

     

     

    “คืนนี้นายเจอดีแน่   มินมิน...”

     

     

    อ๊ากกกกกกกกกกก    ไม่เอาน้า~!!!

     

     

     

     

     

    ตุ้บ~!!!

     

     

    “อื้ม..”

     

     

    ร่างอวบตกกระทบผิวเตียงพร้อมๆ กับที่ร่างหนาตามลงมาทับ    ริมฝีปากบางถูกครอบครอง   ร่างกายถูกสั่งไม่ให้ขัดขืน    ตำแหน่งตอนกลางวันที่ไม่ต่างอะไรจากคนใช้    ทว่าเมื่ออาทิตย์ลาลับ   หน้าที่นั้นก็เปลี่ยนไป

     

     

    ...แม่บ้านตอนกลางคืน   ศรีภรรยาของโจวคยูฮยอน...

     

     

    เพราะกลัวว่าจะถูกทำอะไรไปมากกว่านี้   ทุกๆ คืนจึงต้องยอมให้คยูฮยอนกอดจูบลูบคลำจนกว่าคนเจ้าเล่ห์จะพอใจ  

     

     

    อย่าดิ้น    ถ้าไม่อยากเสียเวอร์จิ้น   นายก็ต้องเอาตัวเข้าแลก

     

     

    แล้วมันต่างกันยังไงฟะ!’   ซองมินยังจำได้ถึงถ้อยคำที่เขาเถียงออกไป   เมื่อตอนที่โดนคยูฮยอนล่วงล้ำร่างกายในคืนแรกของหน้าที่แม่บ้านสกุลโจว

     

     

    เพราะชั้นจะทำแค่นี้...   นิ้วยาวลูบไล้เรียวปากบางแล้วยกยิ้ม  

     

     

    แค่นี้...   มือหนาสอดเข้าใต้เสื้อแล้วสัมผัสกับร่างกายขาวนุ่มนิ่มน่าลิ้มลอง   ซองมินหลับตาปี๋   ขนลุกซู่

     

     

    หรือถ้าไม่...   คยูฮยอนบีบเคล้นเนื้อก้นขาวผ่านอาภรณ์กั้นอย่างย่ามใจ

     

     

    ‘…ก็ถึงตรงนี้    ถ้านายดื้อ     กดปลายนิ้วเน้นย้ำบนร่องช่องทางรักแรงๆจนซองมินครางเสียงหลง    หายใจเหนื่อยหอบกับการกระทำอุกอาจสุดแสนจะหื่นกามและลามก

     

     

    ก็แล้วมันต่างกันตรงไหนเล่า!   ยังไงชั้นก็เสียเปรียบอยู่ดี   ซองมินดิ้นพล่าน   เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพราวขึ้นเต็มใบหน้า  ใช่จะไม่รู้ว่าคยูฮยอนจงใจปั่นป่วนอารมณ์เค้า    แต่เจอแบบนี้มันก็ยากเกินต้านทาน

     

     

    คืนนั้น...   ลีซองมินทำหน้าที่ศรีภรรยาได้เกือบสมบูรณ์แบบ    นอนหลับไปในอ้อมกอดของโจวคยูฮยอนอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง   หลังอดทนจนผ่านพ้นวิกฤติรักษาเวอร์จิ้นเอาไว้ได้

     

     

    เพราะทำแค่นั้นถึงได้ยอม...

     

     

    ...จริงๆ น่ะเหรอ

     

     

     

     

    “นิ่งๆ แบบนี้สิน่ารัก”   คยูฮยอนหลงใหลอยู่กับริมฝีปากบางแสนหวานอยู่พักใหญ่   กอดก็แล้วจูบก็แล้ว    ใช่ว่ามากกว่านี้เขาจะทำไม่ได้   ใช่ว่ามากกว่านี้เขาจะไม่กล้าทำ   แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ

     

     

    ซองมินเปรียบเสมือนกระต่ายน้อยๆ ในกำมือ    แม้พิษสงจะร้ายกาจแต่เจอลีลาเรื่องอย่างว่าของคยูฮยอนไปมีหรือจะไม่ระทวย   จุดหวั่นไหวข้างในยอมศิโรราบให้หมาป่าหน้าหื่นไปอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง   จะมีแต่ใจเท่านั้นแหละ   ที่มันยังดื้อรั้นไม่ยอมให้คยูฮยอนช่วงชิงเอกราชพรหมจรรย์สีชมพูไปได้สำเร็จ

     

     

    ชั้นจะไม่ยอมเสียเวอร์จิ้นให้นาย   ไม่ยอมๆๆ  

     

     

    ซองมินพร่ำย้ำในใจ   แต่สิ่งที่กายปฏิบัติคือยกแขนโอบรัดรอบลำคอหนาให้แนบแน่น   บิดเบือนใบหน้าของตนให้อยู่ในทิศทางหฤหรรษ์ให้ได้มากที่สุด    ยากยิ่งเกินกว่าจะทำใจให้ปฏิเสธสัมผัสอันรัญจวนใจนี่พ้น

     

     

    ชั้นจะกลับมาเอาครั้งแรกของนายให้ได้!’ 

     

     

    ประโยคที่เมื่อสี่ปีก่อนเขาประกาศลั่นกลางสนามบิน   ตอนที่ซองมินถูกแม่บังคับให้มาส่งเขา   ใบหน้าน่ารักงองุ้มไม่พอใจ   ยิ่งพอได้ยินประโยคนั้นก็เบิกตากว้างพูดไม่เป็นภาษา   กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็นู่นละ   ถูกเค้าขโมยจูบแล้วหนีขึ้นเครื่องไปแล้วเรียบร้อย

     

     

    ตอนที่ซองมินหลอกเค้าว่าบ้านไฟไหม้ให้มาช่วยจนเค้าอดแอ้มแม่สาวร้อนแรงคนนั้นมันก็ไม่พอใจอยู่หรอก      แต่ที่เด่นชัดมาอันดับหนึ่งเลยคือเขารู้สึกโกรธ   ไม่ได้โกรธที่ถูกหลอก   แต่โกรธที่ซองมินเอาเรื่องแบบนี้มาทำให้เค้าเป็นห่วง   โมโหที่ล้อเล่นกับความรู้สึกของเขาได้ลง

     

     

    แต่คงไม่ผิดอะไร   ก็ในเมื่อคยูฮยอนเองนี่แหละที่ไปบอกฮโยมินว่าลูกของตัวเองคบอยู่กับผู้ชาย   มารดากริ้วประกาศิตสั่งห้ามซะขนาดนั้น    ลีซองมินจะไปเหลือทางเลือกอะไรได้อีกล่ะ

     

     

    บอกเลิกชางมินทั้งที่รักเขาไปหมดใจ   ความรู้สึกสูญเสียที่คยูฮยอนไม่มีทางรับรู้

     

     

     

     

    ซองมินกลับมาที่บ้านหลังจากรอดพ้นเงื้อมมือของเจ้าหมาป่าหน้าหื่น    เสี้ยวหนึ่งของความรู้สึก    เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นเพียงของเล่น   ทั้งที่ถูกเอาเปรียบแต่ก็ไม่ขัดขืน   เหมือนคนใจง่ายที่ยอมให้คยูฮยอนได้สัมผัสร่างกาย   

     

     

    เหนื่อยที่จะต้องดิ้นรนกับการรักษาสิ่งที่คยูฮยอนต้องการพรากมันไปจากเขา...  

     

     

    ก้นบึ้งของหัวใจรู้สึกเจ็บแปลบเวลาเห็นใบหน้านั้น   มันชวนให้เค้านึกถึงพี่ชางมิน...

     

     

    ผู้ชายใจดีที่เคยปกป้องและดูแลเค้า    เพียงคนเดียวที่เขาคิดจะมอบสิ่งสำคัญให้...

     

     

    ถ้าพี่รู้ว่าผมกำลังคิดถึงพี่   พี่จะกลับมาหาผมเหมือนเดิมมั้ยฮะ...

     

     

    ซองมินกัดริมฝีปากแน่น   ทรุดตัวลงกับประตูห้องนอนอย่างเหนื่อยล้า   ความรู้สึกเดิมๆวกเข้ามาทำร้ายเขาอีกครั้ง   ตอนที่เสียชางมินไปในวันนั้น    โกรธ  เกลียด  แค้น  ชิงชังคยูฮยอน    เค้าไม่เคยไปทำอะไรให้เลย    แต่ทำไมถึงต้องทำร้ายกันแบบนี้

     

     

    หรือคยูฮยอนจะเป็นคนเดียวที่เขาไม่มีทางเอาชนะได้

     

     

    ...คยูฮยอน   ถ้านายไม่กลับมาที่นี่   มันคงจะดีซะกว่า...

     

     

    “ฮึก...  ลีซองมิน    นายมันน่าสมเพช   เป็นได้แค่ของเล่นให้คนพรรค์นั้น   นายต้องหนีมันไปให้พ้นๆ สักที...”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - My sweetheart...  You’re everything - - - -

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    สามวันแล้วที่พี่ชายหน้าสวยได้แต่รอคอยการปรากฏของน้องชายหน้าหล่อ   ผู้กอบกุมหัวใจอันแสนดื้อรั้นเอาไว้ทั้งดวง

     

     

    “ชั้นโกรธนายแล้วนะซีวอน”   ฮีซอลมองแบ็คกราวน์บนโทรศัพท์ด้วยสีหน้าบึ้งตึงกึ่งเง้างอน

     

     

    “นายหายไปไหนฮะ   สามวันแล้วนะ   ทำไมไม่หาชั้นฟะ  คิดว่าชั้นจะง้อนายรึไง   หา!   ฮีซอลเหมือนเป็นคนบ้า   ทำหน้าโกรธแล้วด่าโทรศัพท์อยู่กลางบ้าน

     

     

    จู่ๆ เด็กบ้าหน้าหล่อก็หายหัวหายตัวไปไม่บอกไม่กล่าว   โทรหาสองครั้งไม่รับเค้าก็เลิกโทร   ที่มหาลัยก็ไม่เจอ   เวลาไปไหนกับอิทึกก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเหมือนทุกที   พอถามเพื่อนสนิท    ก็ได้คำตอบที่ไม่ช่วยอะไรเลยกลับมา  

     

     

    ไม่รู้

     

     

    “คิดถึงเค้าก็ไปหาเค้าสิครับ   พี่ฮีซอลนี่”   น้องชายหน้าหวานเดินลงมาจากบันได   ใบหน้าระรื่นจนฮีซอลชักจะหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ

     

     

    “ไม่ไปโว้ย   ไม่จำเป็นที่ชั้นต้องไปหาหมอนั่น”

     

     

    “อ้าว  ทำไมล่ะครับ” 

     

     

    “ไม่มีเหตุผล”   ฮีซอลเชิดหน้าไปอีกทาง  

     

     

    “ผมรู้นะว่าพี่กำลังรอให้พี่ซีวอนมาหาอยู่    ก็ถ้าคิดถึงเค้า   ทำไมไม่ไปหาเค้าล่ะครับ   ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”

     

     

    “ด๊อง  แกคิดดูนะ   คนอย่างชั้นเนี่ยนะ   มัน...   มัน...  ไม่รู้ว่ะ   ตอนแรกชั้นก็รู้สึกว่ามันมากเกินไปอ่านะ   ตอนที่ซีวอนมาทำตัวติดกับชั้นทุกวัน   ตลอดเวลาเลย    พอซีวอนไม่มาวันแรกชั้นก็รู้สึกดี   แต่พอหลายวันเข้า   มันก็...”

     

     

    “รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป”   ดงเฮต่อข้อความที่ฮีซอลเงียบไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

     

     

    มากไปก็ไม่ได้   ขาดไปก็ไม่ดีอีก    เข้าใจยากแฮะพี่เรา...   ดงเฮพูดในใจ

     

     

    “ซีวอนหายไปเลย”     ฮีซอลพูดเสียงเบาหวิว   เกิดความรู้สึกเหมือนคนถูกทิ้งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้   สัมพันธ์ลึกซึ้งที่เกิดขึ้นยากเกินตัดขาด   กลัวว่าจะเสียคนที่รักไป  สาเหตุก็คงไม่ใช่จากอะไร   ถ้าไม่ใช่ตัวเขาเอง

     

     

    ดื้อด้าน   สร้างปัญหาให้ซีวอนตลอด

     

     

    เอาแต่ใจ   โวยวายใส่ซีวอนเสมอ...

     

     

    ไม่มีเหตุผล   ...นั่นแหละตัวเขา

     

     

    และเรื่องบนเตียง...  

     

     

    ฮีซอลยอมรับว่ายังไม่ชิน   แหงแหละ   ใครจะไปชินลงกัน     ไม่ใช่ไม่มีความสุข    แต่ลึกๆ แล้วเขาไม่ใช่คนประเภทหื่นยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างซีวอน    ให้ตามใจคนรักทุกครั้งก็ไม่ไหว  

     

     

    ม้าศึกคึกสนามอย่างซีวอนใครมันจะไปรับมือได้    วู้ฮูกันแต่ละทีแม่งอย่างกับแพ้รบ  

     

     

    ...แต่ฮีซอลก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า   เค้าเองก็อยากที่จะมีอะไรกับซีวอน   สัมพันธ์ลึกซึ้งที่มีความหมายสำหรับคนรักกัน

     

     

    ...ถ้าชั้นไม่พูด   นายก็ไม่มีทางเข้าใจงั้นเหรอ...

     

     

    ปิ๊นนน  

     

     

    เสียงรถหน้าบ้านดังขึ้นสั้นๆ  ดงเฮชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วระเบิดรอยยิ้มออกเต็มหน้า   วิ่งเข้ามายิ้มหวานให้กำลังใจฮีซอลก่อนรีบเดินออกไป    ฮีซอลแอบดูตรงหน้าต่างว่าใครมา   พบไอ้เด็กหน้าตายฉายาก้อนน้ำแข็งเดินได้ฉีกยิ้มบางๆ รออยู่นอกบ้าน

     

     

    “ชิ   หนีไปสวีทกันให้น้ำตาลแดกโลกไปเลยไป๊”   ฮีซอลพาล   พร้อมๆ กับที่ประโยคหนึ่งแวบเข้ามาในหัว

     

     

    เดี๋ยวเถอะๆ   ถ้าวันไหนไม่เห็นผม   ไม่ได้ยินเสียงผม   พี่นั่นแหละจะทนไม่ได้

     

     

    ...นายขาดชั้นไม่ได้หรอกไอ้ซิมบ้า   คอยดูละกัน!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - My sweetheart.. You’re everything. - - - -

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ครบสัปดาห์แล้วสำหรับคู่หวานสะท้านวงการ   จะวงการอะไรก็ช่างเถอะ   รู้แต่ว่ามันออกตัวสปีดแซงคู่ก่อนหน้านี้ไปไกลโขเลยทีเดียว

     

     

    “จะไปไหนเหรอ    อ่ะอ๊ะ   คงไม่ได้ล่อลวงชั้นไปทำมิดีมิร้ายหรอกนะ”   ดงเฮถามกวนๆ   ยกไม้ยกมือมาปัดป้องอกอย่างระแวงระวัง   ร่างสูงที่ขับรถอยู่ข้างๆ หันมายิ้มมุมปาก   ลูกล่อลูกชนชั้นเชิงยั่วเย้าหยอกล้ออารมณ์มีพอกันทั้งคู่   อยู่ที่ว่าใคร...   จะเป็นฝ่ายรับ   ฝ่ายรุก

     

     

    “ก็ไม่แน่หรอก   ไม่ยอมดีๆ ก็คงต้องหลอกไปจับกด”

     

     

    “ทะลึ่ง”

     

     

    “ทะลึ่งแล้วรักมั้ย”   คิมคิบอมหันมาถามด้วยสีหน้าอยากรู้   นัยน์ตาฉายชัดเต็มที่ถึงความสุขที่เอ่อล้นอยู่ข้างใน   โชคดีที่ทางนี้เป็นถนนเส้นนอกเมือง   เลนใหญ่และรถน้อยเป็นพิเศษ

     

     

    “ก็...  ก็รัก”   ดงเฮหน้าแดงจัด   บิดหน้าคิบอมให้ไปมองทางแก้อาการเขิน   “เดี๋ยวก็รถชนหรอก   มองถนนสิ    มองชั้นอยู่ได้”

     

     

    “ก็น่ารัก    ถึงมอง”

     

     

    คำตอบที่กระชากให้หัวใจเต้นถี่ระรัว   เหมือนเสียงกลองที่กระหน่ำตีอย่างบ้าคลั่ง   คิบอมยื่นหน้ามาหอมแก้มคนน่ารักของเขาเบาๆ แล้วกลับไปขับรถต่อด้วยสีหน้าระรื่น

     

     

    “แล้วบอกได้ยัง   จะพาชั้นไปไหน”  

     

     

    “บ้านของผม”  

     

     

    “บ้าน!?   ดงเฮตกใจ   บ้านงั้นเหรอ...

     

     

    “นายจะพาชั้นไปบ้านนายทำไม”  

     

     

    “ล่อลวงไปทำมิดีมิร้ายมั้ง”   คิบอมหันมายักคิ้วให้อย่างกวนประสาท

     

     

    “เอาดีๆ สิ”   เสียงหวานรั้งงอนอมลมแก้มป่องเพราะคนขี้แกล้งมัวแต่เล่น

     

     

    “ก็ได้   เอาแล้วดี   ไม่เอาก็ไม่ดี   ใช่มั้ย” 

     

     

    “คิบอม~!! 

     

     

    แล้วคิบอมก็ระเบิดเสียงหัวเราะให้ก้องรถ   เสียงหัวเราะที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีชีวิต   รอยยิ้มที่ดูจะกลาดเกลื่อนไปทั่วนับจากมีคนหน้าหวานมาข้างกาย

     

     

    อย่าไปไหนจากผมเลยนะดงเฮ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - My sweetheart.. You’re everything. - - - -

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คิบอมต้องผิดหวังนิดๆ   เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในบ้านและพบว่าคุณและคุณนายคิมเพิ่งไปสนามบินเมื่อสิบนาทีก่อนนี้เอง   กะว่าจะพาดงเฮมารู้จักพ่อกับแม่เขาเสียหน่อย    กลายเป็นอดไปซะงั้น

     

     

    “โอ้โห   ห้องน้ำกว๊างกว้าง”  

     

     

    ไม่รู้จะพิศวาสอะไรห้องน้ำของเขานักหนา   ตามปกติแล้วต้องเดินดูอะไรรอบๆห้องไม่ใช่เหรอ   แต่นี่คนหน้าหวานกลับตรงไปที่ห้องน้ำแล้วชมนู่นชมนี่เยอะแยะ

     

     

    “คุณชายครับ   จะให้เตรียมของว่างไว้ที่ไหนครับ”   พ่อบ้านถามยิ้มๆ   แอบเอ็นดูในความซื่อใสและเป็นเด็กของดงเฮ   ดีใจที่คุณชายของเขาพาใครสักคนมาที่บ้าน   นอกจากคุณฮันกยองแล้ว   ก็ไม่มีใครที่คิบอมยอมขนาดให้มาเหยียบบ้าน   หรือกระทั่งเข้ามาในห้อง

     

     

    ถ้าเป็นแค่เพื่อนก็ดี...

     

     

    ดงเฮเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วพบชายชรา   โค้งหัวให้อย่างมีมารยาทแล้วยิ้มหวานทักทาย   พ่อบ้านโค้งรับน้อยๆ แล้วรอฟังคำสั่งจากปากคิบอม

     

     

    “สวนแล้วกัน   ช็อคโกแลตร้อนก็ดี    ชอบใช่มั้ย”    ประโยคหลังคนพูดก้มหน้าถามคนตัวเล็ก   ดงเฮยิ้มรับเบาๆ  พ่อบ้านเดินจากไป   แต่สมองของเขายังคงมีภาพของคุณชายผู้แสนเย็นชาที่กำลังมอบแววตาอบอุ่นและรอยยิ้มบางๆส่งให้คุณหนูคนนั้นติดตรึง

     

     

    ...ดูท่า   คำขอของเขาคงไม่เป็นผลสินะ...

     

     

     

     

    “มานี่สิ”   คิบอมจูงมือร่างบางให้มานั่งบนเตียงด้วยกัน   ดงเฮสอดส่ายสายตาไปรอบๆห้อง   ผิดกับอีกคนที่กอดเขาจากทางด้านหลังแล้วซุกซนสูดดมความหอมบริเวณลำคอขาวไปทั่ว

     

     

    “นาฬิกา~!    ดงเฮดีดตัวลุกจากเตียง    ตั้งใจกลั่นแกล้งคิบอมหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้    นอกจากตัวเค้าเอง

     

     

    มือบางหยิบเอานาฬิกาตั้งโต๊ะเรือนเล็กที่เค้าซื้อให้คนหน้าเฉยเมื่อตอนที่ยังคงเป็นศัตรูตัวฉกาจจากชั้นลอยมาลูบๆคลำๆ   เพียงเพราะประโยคดีๆ ที่เค้าสังเกตเห็นและชอบใจ   ถึงได้ตัดสินใจซื้อมาให้กับคิบอม

     

     

    Thank you for the good time    we have had together, I would not forget    

     

     

    เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ที่ข้างหูพร้อมกับอ้อมกอดที่เข้ามาพันธนาการหัวใจจากทางด้านหลัง   ประโยคที่คิบอมไม่ได้แม้แต่จะท่องจำ   แต่มันชัดเจนอยู่ในใจ   ข้อความที่มีความหมายและเต็มไปด้วยความรู้สึกจากคนให้

     

     

    ร่างบางเอนกายไปกับร่างสูง   คิบอมค่อยๆเคลื่อนกายตัวเองและกายในอ้อมกอดมาที่เตียง    ร่างสูงนั่งลงบนเตียงโดยมีร่างบางนั่งอยู่บนตัก   อิงซบกันอยู่แบบนั้นโดยไม่มีใครคิดจะถอยห่างออกไป

     

     

    “รักผมตั้งแต่ตอนนั้นเลยล่ะสิ”  

     

     

    เอาแล้วไง   โรคเข้าข้างตัวเองกำเริบอีกแล้ว   คิมคิบอมพูดออกมาได้หน้าตาเฉย

     

     

    “ง่ะ”   ดงเฮคราง   บีบจมูกโด่งๆ นั่นไปอย่างหมั่นเขี้ยว   “หลงตัวเอง”

     

     

    “ไม่จริงเหรอ?”  

     

     

    “ไม่รู้”   คนหน้าหวานแลบลิ้นปลิ้นตาแกล้งคนแก้มป่อง

     

     

    “จุ๊บ..   รู้ยัง”   คิบอมจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากสีหวาน  

     

     

    “รู้แล้ว”  

     

     

    “รักผมตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ”   ดูท่าคิบอมคงอยากจะรู้จริงๆ   คนแก่นแก้วแสนซนดีดตัวลุกออกจากตักของร่างสูงแล้วหันมาประจันหน้า

     

     

    “ตั้งแต่ Sorry kiss มั้ง”   ดงเฮแหย่เล่น    จากนั้นก็ถูกคิบอมดึงตัวลงไปนอนราบบนเตียงอยู่ดี  

     

     

    “งั้นถ้าทำอีก   ก็คงจะรักอีกใช่มั้ย” 

     

     

    “ไม่บอกหรอก   อุ๊บส์...”    ริมฝีปากบางถูกประทับตรารักอีกครั้ง   คิบอมแนบเรียวปากลงมาอย่างอ่อนหวาน   อ่อนโยน    เหมือนบอกให้รู้เป็นนัยๆ

     

     

    ...เขาหลงรักความหวานจากคนๆ นี้จนถอนตัวไม่ขึ้น...

     

     

    ดงเฮเองก็เช่นกัน   ไม่รู้ว่ารักตั้งแต่เมื่อไหร่   ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ใจพร่ำเพ้อชื่อคิบอมออกมา    อาจเป็นตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า    ครั้งที่สองที่สบตา   หรือครั้งที่สามด้วยจุมพิต...

     

     

    จะอะไรก็ช่าง    ให้เป็นเพราะอะไรก็ได้    ในเมื่อสิ่งที่ดงเฮแน่ใจมีเพียงสิ่งเดียว

     

     

    ...เพราะเป็นคิบอม...

     

     

    “อื้อ...”    เสียงหวานร้องประท้วงแล้วผลักอกแข็งๆ ออกเบาๆ   คิบอมถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งระคนเสียดาย

     

     

    “พอแล้ว...   หายใจไม่ทันนะ    คนอะไรชอบเอาเปรียบ”   ดงเฮเง้างอดอมลมแก้มป่องแทนคิบอมเสียอย่างนั้น

     

     

    “ยอมเถอะนะ”   คิบอมบอกเสียงนุ่ม    คลอเคลียอยู่กับแก้มใส   อะไรที่ทำกับดงเฮมันทำให้เขามีความสุข   แค่ได้อยู่ใกล้ๆ   นั่งข้างๆกันหรือสบตากัน   แค่นั้นมันก็ทำให้เขาสุขล้นอย่างบอกไม่ถูก    การสัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายเป็นเพียงการแสดงความรักและปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเท่านั้นเอง

     

     

    “ไม่เอาด้วยหรอก”  

     

     

    “งั้น...   เรามาเล่นเกมส์กัน”   

     

     

    เกมส์ปั่นหัวใจอีกหรือเปล่า...     เสียงหวานถามตัวเองในใจแล้วลอบยิ้มขำ

     

     

    “เกมส์อะไรล่ะ?”

     

     

    “อืม...”    คิบอมกำลังนึก...  ไม่สิ   กำลังตั้งชื่อเกมส์ของเขา    “เกมส์ซ่อนหา   ตามล่าหัวใจ”

     

     

    “มีเกมส์แบบนี้ด้วย   นายกำลังเอาเปรียบชั้นอยู่อีกแหงมๆ เลย”   หน้าหวานเดาทางออก   คิบอมจูบหน้าผากใสไปทีเป็นการลงโทษของคนรู้ทัน

     

     

    “เล่นมั้ยล่ะ   ถ้าแพ้ต้องยอมนะ”

     

     

    “แล้วถ้าชนะล่ะ?”   เสียงหวานถามมีเลศนัย

     

     

    “ถ้าคุณชนะ   ผมจะยอมสละกายให้คุณย่ำยี”   คิบอมพูดหน้าตาเฉย   ดงเฮตีแขนล่ำดังเพี๊ยะ

     

     

    “มีที่ไหนกัน    ยังไงคิบอมก็เอาเปรียบกันอยู่ดีนั่นแหละ”

     

     

    “โอเคๆ   ถ้าผมหาคุณไม่เจอภายในยี่สิบนาทีผมจะยอมให้คุณทำอะไรก็ได้   พอใจรึยังครับคนดี”

     

     

    “อื้ม    แบบนี้ค่อยว่ากันง่ายหน่อย”   ดงเฮยิ้มกว้างถูกใจ   คิบอมลูบหัวหน้าหวานเล่นอย่างเอ็นดูแล้วบอก

     

     

    “เอ้า   ไปซ่อนสิครับ   อย่าไปไกลนะ    เดี๋ยวผมหาหัวใจไม่เจอ”    คิบอมพูดยิ้มๆ   ไม่เคยพูดแบบนี้กับใครมาก่อน   แรกก็รู้สึกเขินๆ   แต่พอนานเข้ามันชักจะเป็นไปตามกลไกหัวใจ   สั่งการให้ทำไปตามที่หัวใจเรียกร้อง

     

     

    “บ้า  หาให้เจอแล้วกัน   ไม่งั้นจะลอยไปหาคนอื่นนะ   ฮิๆ”

     

     

    ก่อนจะไป   ดงเฮเอาใจคนแก้มป่องด้วยการวิ่งมาหอมแก้มคิบอมซ้ำๆ สองสามทีแล้ววิ่งออกไปซ่อน   ไม่อย่างนั้นเค้าคงถูกลงโทษที่พูดอะไรไม่เข้าหูแน่ๆเลย    ก็คิบอมน่ะ   ขี้หึงจะตาย...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     - - - - My sweetheart.. You’re everything. - - - -

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    [นายอยู่ไหน]

     

     

    “บ้านฮันกยองครับ   พี่ฮีซอล...”

     

     

    [ไปเที่ยวกัน]  

     

     

    “เอ๋?”   ฮยอกแจงง   จู่ๆ ฮีซอลก็โทรหาเขาแล้วชวนไปเที่ยว   นึกคึกอะไรขึ้นมาเนี้ย

     

     

    [แบบวันนั้นไง   ไปกันเหอะ]    

     

     

    แบบวันนั้น    ครั้งนึงอิทึกกับฮีซอลจู่ๆ ก็นึกครึ้ม   พาซองมิน   ฮยอกแจและดงเฮไปเปิดหูเปิดตา   สนุกสุดเหวี่ยงที่ผับของรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัย   จำได้ว่าวันนั้นกลุ่มพวกเขาฮอตที่สุดในร้านเลยก็ว่าได้   เรื่องที่ถ้ารู้ถึงหูคังอิน ซีวอน  ฮันกยองและคิบอม   มีหวังพวกเขาได้ดับอนาถคาเตียง

     

     

    แต่มันก็น่าเสี่ยง...

     

     

    “เมื่อไหร่ฮะ   แล้วด๊องกับซองมินแล้วก็พี่อิทึกล่ะ”   ฮยอกแจละชอบนัก   ฮันกยองที่นั่งอยู่ข้างหันมามองอย่างสงสัย   ไม่รู้ว่าคุณหนูเล็กของเขาจะไปทำอะไรเข้าให้อีก

     

     

    ความลับที่คุยกันบนโต๊ะอาหารครั้งที่ฮันกยองไปบ้านฮยอกแจครั้งแรก   วันนี้เราคงได้รู้กันซักทีว่ามันคืออะไร

     

     

    [ชวนไอ้ทึกกี้แล้ว   แกโทรตามซองมินซิ   เดี๋ยวชั้นโทรตามด๊อง   อ้อ   เอาจุนกิมาด้วยนะ]

     

     

    “หา?    แล้วพี่ชายเค้าจะยอมเหรอฮะ”   ฮยอกแจคิดว่าจุนกิไม่น่าจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่   เพราะครั้งแรกที่ทำคุณหนูใหญ่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรด้วย   ไม่รู้เรื่องเสียด้วยซ้ำ

     

     

    [ก็อย่าเพิ่งบอกสิ    เอามันมาให้ได้นะ   อย่าเอาไอ้ฮันกยองมาด้วยล่ะ    หมดสนุก]   ฮีซอลกำชับ   ฮยอกแจฟังจากน้ำเสียงของพี่ชายสุดสวยแล้วพอจะรู้ว่าอารมณ์ฮีซอลไม่คงที่นัก   อย่าขัดใจเป็นอันดีที่สุด

     

     

    “โอเคฮะ   แล้วเจอกัน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     - - - - My sweetheart.. You’re everything. - - - -

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ดงเฮมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อ ลิ้มแก้มแตก แล้วอมยิ้มขำ   เขาแอบอยู่ที่สวนหน้าบ้าน  กะว่าคิบอมลงมาปุ๊บเค้าก็จะหนีไปซ่อนบนห้องคิบอมอีกรอบ   ลีด๊องฉลาดซะไม่มี   อิอิ

     

     

    “หาหัวใจเจอรึยังเอ่ย”   ดงเฮพูดเสียงใส   สายตาซุกซนมองไปยังร่างสูงที่ยืนมองรอบๆ อยู่หน้าบ้านเพื่อหาตัวเขา

     

     

    [อยู่ไหนน้า   คนดีของผมซ่อนอยู่ไหนเนี่ย   บอกใบ้ให้หน่อยสิ]   คิบอมเดินมาใกล้เรื่อยๆ   ดงเฮค่อยๆ เขยิบตัวไปตามแนวของพุ่มไม้ประดับ   ปากก็คุยโทรศัพท์ไปด้วย

     

     

    “อยู่ในใจนายไง  ฮิๆ”

     

     

    [พูดจาน่ารักแบบนี้   เดี๋ยวเถอะ   เจอหน้าแล้วต้องให้รางวัลซะให้เข็ด]

     

     

    “อ่ะอ๊ะ    มีเวลาเหลือแค่สิบนาทีนะ   ถ้าหาชั้นไม่เจอก็ไม่นับแล้ว”  

     

     

    [หาเจอแน่ครับ]   คิบอมมั่นใจ

     

     

    “หาไม่เจอหรอก”    ดงเฮหน้ายู่ใส่โทรศัพท์    มือเท้าสะเอว   มั่นใจกว่าว่าไม่มีแพ้อย่างแน่นอน

     

     

    [ถ้าเจอแล้วจะจูบให้ปากช้ำ   จะหอมให้แก้มบวมเลยนะ]   คิบอมคาดโทษไว้ก่อน

     

     

    “มาสิ   มาเลยๆ”   ดงเฮท้าทาย

     

     

    […]

     

     

    “แน่ะ   หาไม่เจอล่ะสิ   เงียบเลยๆ”    ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม   อีกแค่สามนาทีเท่านั้นเค้าก็จะชนะแล้ว

     

     

    […]

     

     

    “คิบอม   นายอยู่ไหนเนี่ย”   ดงเฮหันไปมองรอบๆ แต่ไม่พบร่างสูง   อะไรกัน   เมื่อกี้ยังเห็นหลังไวๆอยู่เลย   สงสัยไปหาที่อื่นแล้วสิเนี่ย    แหงแหละ    บ้านตัวเองเล็กๆซะที่ไหนกัน   คฤหาสน์ตระกูลคิมจะทำดงเฮหลงทางหรือเปล่าก็ไม่รู้สิเนี่ย

     

     

    [Still  with   you]

     

     

    “เจอตัวแล้ว...”

     

     

     

     

    วงแขนอบอุ่นทาบทับกายเล็กจากทางด้านหลัง   คิบอมฉวยเอาโทรศัพท์ดงเฮเก็บไว้ในกระเป๋าแล้วกอดร่างบางเอาไว้แน่น

     

     

    “อ๊า   ขี้โกงนี่”   เสียงหวานประท้วง

     

     

    “โกงอะไรล่ะ   หาหัวใจเจอแล้วนี่ไง”   คิบอมจูบที่ริมฝีปากสีสด    ให้รางวัลกับตัวเองที่หาหัวใจเจอ   

     

     

    ดงเฮหัวเราะเบาๆ   คิบอมโคลงกายเล็กไปมาอย่างชอบใจ   “จับได้แล้ว    ยอมรึยัง”

     

     

    “โอเคๆ   ยอมก็ได้ๆ   จะเอาอะไรล่ะ    ไม่เอามิดีมิร้ายนะ”   ดงเฮดักทางคิบอม   ร่างสูงยิ้มหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงมาหมายจุมพิตริมฝีปากหวาน    และคงจะได้ทำอย่างนั้นถ้า...

     

     

    All I want to do is find a way back into love

     

     

    คิบอมส่งเสียงจิ๊จ๊ะถูกขัดใจ   หยิบโทรศัพท์ของคนหน้าหวานแล้วส่งให้   ไม่ลืมที่จะแอบมองว่าใครโทรหาที่รักของเขาเสียด้วยสิ

     

     

    “ว่าไงครับพี่ฮีซอล...”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    - - - - My sweetheart.. You’re everything. - - - -

     

     

     

     

    วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×