ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    : Thanks : ขอบคุณที่รักกัน

    ลำดับตอนที่ #1 : 1.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      5
      19 พ.ค. 61

    1.


        ท้องฟ้าเบื้องบนเริ่มเป็นสีดำ ควันรถที่พ่นกันเต็มถนนยังส่งกลิ่นชวนเวียนหัวได้เหมือนทุกวัน ทั้งที่หลายคนกำลังกลับบ้านแต่บนทางเท้ากลับปรากฏร่างเด็กหนุ่มวิ่งสวนกระแสคนเดินด้วยความเร่งรีบ

        ความซวยของการที่นาฬิกาตายมันไม่เคยเข้าใครออกใครจริงๆ ตอนนี้เขาควรจะไปถึงที่ทำงานเเละเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแต่ยังมาเดินย่ำต๊อก ต้อยๆ อยู่แบบนี้ อ๊าก!! จะบ้าตาย

        โครม!!

        ซวยซ้ำโดยการเลี้ยวที่หัวมุมแล้วชนเข้ากับใครก็ไม่รู้ ฝ่ายนู่นยืนงงแต่เด็กหนุ่มกระเด็นลงไปนั่งคลุกฝุ่นที่พื้นไม่เป็นท่า ไม่มีเวลามาโวยวายหรือสำออยต้องรีบลุกแล้ววิ่งพรวดๆ ไปทั้งที่ยังเจ็บก้นกบ
       
        “วิ่งตลกชะมัด” คนที่ชนเค้าหรือถูกชนก็ไม่รู้ส่ายหน้าเมื่อมองตามหลังคนตัวเล็กๆ นั้นไป พอสุดสายตาก็กะว่าจะเดินต่อแต่ตาก็ดันไปเจอของบางอย่างตกอยู่บนพื้น

        ‘โซเอะ ยูซูรุ’ มุราซากิ บาร์

        ร่างสูงก้มลงหยิบป้ายชื่อขึ้นมาพิจารณาก่อนเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ท่าทางต้องตามไปคืนเสียแล้วกระมัง
    .
    .
    .
        บนถนนของคนกลางคืนหลายร้านเริ่มเปิดเเล้ว เห็นแบบนี้รู้เลยว่าสัญญาณอันตรายกำลังมาเยือน ยูซูรุเร่งฝีเท้าอึดใจเดียวก็มาหยุดหน้าร้านที่ตัวเองทำงานอยู่ กำลังจะก้าวเท้าเข้าร้านอยู่แล้วเชียวเอะใจนึกขึ้นได้

        “ถ้าเข้าด้านหน้า ต้องเจอมากิจังแน่ๆ” ใบหน้าสวยหวานปานเทพธิดาลอยมาโปรด แต่ความดุนั้นไม่เป็นที่สองรองใครเลยหละเจ้านายเขา เลี้ยวอ้อมเข้าหลังร้านดีกว่า เจอลุงพ่อครัวหน้าเหี่ยวๆ ยังดีกว่าเจอปีศาจน้อยหน้าหวาน เหอ~

        ยูซูรุพุ่งเข้าไปหลังร้านตัดผ่านห้องครัวแล้วก้าวพรวดๆ ไปยังห้องแต่งตัวทันที รอดไปหนึ่งดอก สาธุ ซวยมาทั้งวันแล้ว อย่าให้ความซวยเกิดขึ้นอีกเลยนะ

        จัดการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นยูคาตะสีสด ล้างหน้าทำผมเสียหน่อยให้มันดูเป็นผู้เป็นคนเผื่อจะได้ทิปเยอะๆ พอจะออกไปหน้าร้านเท่านั้นแหละ ความซวยก็ตามมาหลอนอีกจนได้

        ป้ายชื่อหายไปไหน!!

        ควานหาทั้งในกระเป๋าเป้ ในล็อกเกอร์ก็ไม่มี ขืนออกไปทั้งแบบนี้ คุณมากิแปลงร่างเป็นยักษ์แน่ๆ
    .
    .
    .
        ร่างโปร่งที่ปรากฏอยู่หน้าร้านแต่งตัวง่ายๆ เหมือนจะออกไปซื้อของตามคอนวิเนี่ยน สโตร์มากกว่าจะมาสถานเริงรมย์ยามค่ำคืน

        “เอ่อ ที่นี้มีคนชื่อโซเอะ ยูซูรุมั้ยครับ” ถามเสียงนุ่มพร้อมยิ้มน้อยๆ อย่างสุภาพ

        พนักงานต้อนรับหนุ่มน้อยที่โดนถามเพิ่งสังเกตุว่าคนตรงหน้านี้ก็หล่อชะมัดเหมือนกัน สงสัยจะเป็นลูกค้าใหม่ ถามหาดาวดังของร้านเสียด้วย
       
        “ยุซูรุอยู่ที่นี้แหละครับ เชิญข้างในดีกว่า” รอยยิ้มธุรกิจฉายวาบบนพนักงานต้อนรับหน้าสวย แล้วเดินนำเข้าไปภายในทันที

        ชายหนุ่มที่มาเลือกนั่งโต๊ะที่ค่อนข้างห่างจากโต๊ะอื่น แถมยังสั่งเพียงน้ำอัดลมเท่านั้นแต่ขอให้ช่วยตามโซเอะ ยูซุรุมาให้หน่อย

        ระหว่างรอเครื่องดื่มและคนที่ต้องการ โชก็กวาดตามองไปเรื่อย เขาพอจะรู้ลางๆ ว่าร้านนี้ต้อนรับคนรสนิยมแบบไหน พนักงานในร้านก็เป็นเด็กหนุ่มรุ่นๆ แถมหน้าตาหวานเสียผู้หญิงหลายคนอาย โดยเฉพาะคนที่นั่งอยู่ตรงเคาร์เตอร์ มองผาดๆ ยังคิดว่าเป็นนางฟ้าลงมาเที่ยวโลกมนุษย์เลย
    .
    .
    .
        “ยูซูรุ แขกเรียก” มากิเข้ามาตามเจ้าตัวแสบในห้องแต่งตัว วันนี้เป็นอะไรนะ ไม่เสนอหน้ามากวนเขาแถมยังไม่ยอมออกมาทำงานอีก

        “ฮ่ะ … ไปเดี๋ยวนี้แล้ว” คนที่ถูกเรียกตะโกนบอกทั้งที่ยังเดินวนเป็นหนูติดจั่น หาป้ายชื่อไม่เจอแบบนี้ต้องโดนด่าแถมยังโดนหักเงินเดือนอีกแน่ๆ แต่ถ้ารอให้คุณมากิมาตามถึงในห้องก็ซวยเหมือนกัน รีบวิ่งออกไปเลยดีกว่า

        ร่างบางๆ วิ่งสวนออกมาจากห้องแต่งตัว ไม่ทักทายผู้เป็นนายด้วยซ้ำ

        “วิ่งไปแบบนั้นแล้วจะรู้โต๊ะมั้ย” มากิบ่นด้วยความระอาในความอยู่ไม่นิ่งของเจ้าลูกน้องตัวดี

        ยูซูรุถอนหายใจเฮือกเพราะพ้นเงื้อมมือมากิมาได้ รีบแถเข้าไปหาพนักงานคนนึงที่จำได้ว่าวันนี้มีเวรรับแขกหน้าร้าน

        “โต๊ะไหนเรียกฉันหรอ”

        “โต๊ะ 5 ครับ” พนักงานที่เป็
    นน้องใหม่กว่าตอบอย่างนอบน้อมแล้วขอตัวไปทำงานต่อ

        โฮต์หนุ่มสวมวิญญาณธุรกิจทันที ปั้นหน้าให้ยิ้ม ทำใจให้ว่าง ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้นนอกจากเอาใจแขกให้ดีที่สุด  

        “ขออนุญาตนะครับ” เอ่ยเสียงหวานแล้วก็ขยับเก้าอี้นั่งลงตรงข้าม แอบสงสัยว่าจะเรียกโฮตส์มานั่งด้วยทำไมไมนั่งโต๊ะแบบโซฟาแต่ดันนั่งโต๊ะอาหารธรรมดา ที่เก้าอี้กห่างกันเป็นโยชน์

        เพิ่งมองแขกของตัวเองชัดๆ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นลุงแก่ๆ ที่ไหนได้หน้านี่อ่อนเชียว จะอายุน้อยกว่าเขารึเปล่าก็ไม่รู้ หนีพ่อแม่มาเที่ยวรึเปล่าเนี่ยะ

        “สวัสดีครับผม โซเอะ ยูซูรุเรียกผมว่า ยูซูรุก็ได้ครับ” แนะนำตัวไปตามเสต็ปแล้วก็รอปฏิกริยาของลูกค้าที่สั่งแค่โค้ก

        “เอ่อ ผม …. โช เป็นนักศึกษาเแพทย์ปีสี่ ม.ไทโด”

        อ๊าง!! หล่อจังแถมเก่งด้วย

        ยูซูรุคิดในใจแต่ก็ยังปั้นหน้าเป็นโฮตส์มืออาชีพต่อไป

        “วันนี้ให้ผมดูแลคุณนะครับ” ใส่เสียงหวานกับยิ้มไปนิดหน่อย แค่นี้คุณลูกค้าก็ดูประหม่าแล้ว

        “เอ่อ..ไม่ต้องหรอกครับผมแค่เอานี่มาคืน”

        มือใหญ่ล้วงป้ายสีทองมันวาวขนาดเล็กออกมาวางบนโต๊ะ เท่านั้นคนตวเล็กก็ทำตาโต สีหน้าที่ประดิษฐ์ประดอยอย่างดีแตกโพล๊ะกลายเป็นยูซูรุที่พูดแจ้วๆ เป็นต่อยหอย

        “ขอบคุณมากเลยครับ รู้มั้ยว่าถ้าผมไม่ได้ป้ายอันนี้คืนมา มากิจัง เอ่อ เจ้านายผมหนะครับ คนที่สวยๆ นั่งอยู่ตรงนู่น ต้องฆ่าผมแน่ๆ แถมบ่นไปสามวันเจ็ดวัน แล้วก็หักเงินเดือนผมด้วย… คุณเห็นเค้าสวยๆ แบบนั้นแต่อย่าไปหลงจีบเด็ดขาด ดุอย่างกับอะไรดี แต่ก็มีแฟนแล้วนะครับ ชื่อคุณไฮต์….” โฮตส์หนุ่มร่ายบทนินทาเจ้านายยาวเหยียดอย่างอารมณ์ดีที่ได้ของคืนมา ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งฟังแล้วก็อมยิ้ม

        “เอ่อ…ผมขอเรียกคุณว่าหมอนะ” หลังจากพูดโดยไม่หยุดมาเกือบชั่วโมงเจ้าตัวดีก็เปิดช่องให้อีกฝ่ายพูดบ้าง

        “ตามใจคุณเถอะ งั้นผมเรียกคุณว่ายู…นะ”

        “โอเค ไม่เคยมีใครเรียกมาก่อนเลยนะ” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “อ๋อ..ให้ผมเลี้ยงเหล้าหมอเป็นการขอบคุณนะ”

        ยูซูรุทำท่าจะเรียกพนักงานในร้านแต่ก็โดนห้าม “ผมแพ้แอลกอฮอล์หนะ”

        แป่ว!!

        “งั้น บุหรี่มั้ยครับหมอ”

        ตั้งท่าจะเรียกอีกแต่ก็ถูกห้าม “เป็นหมอสูบบุหรี่ได้ไงหละครับ”

        นั่นซิ ลืมไปเลย

        ยูซูรุหัวเราะแก้เก้อ แก้มขาวแดงออกมาอย่างน่ารัก

        “งั้นเลี้ยงข้าวละกัน โอเคมั้ยครับ”

        “ไม่เป็นไร…” คราวนี้หมอห้ามไม่ได้แล้วเพราะคนตัวเล็กที่นั่งหน้าเขาสั่งจ้อยๆ ไม่หยุด แถมกำชับเพื่อนร่วมงานให้ใส่แถมๆ มาด้วย

        “ต้องบอกไปว่าผมสั่ง ลุงพ่อครัวเค้าจะได้พิเศษให้”  ร่างบางบอกด้วยรอยยิ้มทะเล้น หลังจากนั้นก็ชวนหมอจ้อต่อ แต่เป็นในลักษณะหมอแค่นั่งพยักหน้าเออออ ที่เหลือเจ้าตัวเล็กขอโปรโมชั่นเล่าเองคนเดียว
    .
    .
    .
        หลังทานอาหารเสร็จและคุยกันต่ออีกเล็กน้อย หมอก็ขอตัวกลับเพราะวันรุ่งขึ้นมีเรียนเช้า ยูซูรุเดินตามไปส่งถึงข้างหน้าแล้วก็กลับมาทำงานต่อ

         ถ้ารู้ว่าไม่เหมือนพวกลูกค้ารายอื่น ตอนแรกไม่นั่งปั้นหน้าให้เมื่อยหรอก ฟู้ว~

        “ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” มากิเดินเข้ามาเเซว

        “หรอครับ”

        “มีอะไรดีดีรึไงเห็นนั่งคุยด้วยกันตั้งนาน แถมเลี้ยงข้าวเค้าอีก”

        “ความลับ” เจ้าตัวดีทำหน้าเป็นใส่แล้วก็เดินลัลล้าเข้าไปในร้าน

        เห็นแล้วก็มันเขี้ยว เดี๋ยวตัดเงินเดือนเสียให้เข็ดเลยนี่

    .
    .
    .
        วันต่อมา คนในร้านคึกคักเหมือนเดิมแต่หมอไม่ยักกะมา

        “แล้วเค้าจะมาทำไมหละ เฮ้อหวังลมๆ แล้ง” ยูซูรุเพียรบอกตัวเองแต่อดไม่ได้ที่จะหันมองทางเข้าทุกสองนาที

        “ตั้งใจทำงานหน่อยซิ มองหาใครอยู่ได้”

        มาอีกแล้วเสียงสวรรค์ “มากิจังก็..”

        “ทำไม รอคนเมื่อวานหรอ เค้าบอกจะมารึไง” มากิขยับเข้ามาใกล้ ที่จริงเขากับยูซูรุก็คล้ายจะเป็นเพื่อนกันมากกว่าจะเป็นลูกน้องกับเจ้านาย เนื่องจากอายุเท่ากันแถมยังไปไหนต่อไหนด้วยกันบ่อยๆ เลยกล้าจะหยอกล้อพูดคุยอย่างสนิทสนม

        “หมอ..เค้าคงไม่มาแล้วมั้ง” ยูซูรุบอกหงอยๆ

        ไม่เคยเห็นเจ้าตัวเล็กเป็นแบบนี้มาก่อนเลยตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาสองปี

        “ชอบเค้ารึไง”

        “ไม่ซักหน่อย” ผู้ต้องหารีบปฏิเสธ ส่ายหน้าผึบผับจนผมที่ซอยระต้อนคอปลิวว่อน

        “หรอ..” มากิลากเสียงล้อ ก็ไม่เคยเห็นเจ้าตัวแสบหน้าแดงมาก่อนนี่นา อยากจะแกล้งให้จนมุมจริงๆ เลยเชียว

        “แค่คุยสนุกดี แล้วก็สุภาพดีด้วย”

        เจ้านายพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ตั้งใจทำงานเถอะ บางทีวันนี้เค้าอาจจะไม่ว่างก็ได้ รอดูพรุ่งนี้ซิ”

        ยูซูรุพยักหน้ารับแล้วก็ร่อนไปทำงานต่อ แต่ท่าทางมันดูเนือยๆ พิลึก
    .
    .
    .
        วันที่สาม ยูซูรุนั่งหน้าเศร้าถอนหายใจเฮือกๆ เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์เขามีแขกประจำอยู่แล้ว ทานาบาตะซังเจ้าของร้านก่อสร้างร้านใหญ่ในเขตนี้ ทั้งที่แต่งงานมีลูกมีเมียแล้วยังชอบเลี้ยงเด็กหนุ่มหน้าตาดีไว้ดูเล่นอีก

        เบื่อไม่อยากจะไปน่ังคุยด้วยเลย แถมทำงานเสร็จก็ต้องไปต่ออีก

        ร้านใกล้ปิด ทานาบาตะซังพร้อมลูกน้องก็ได้ฤกษ์ยกทัพกลับ ยูซูรุอยู่ในอ้อมเเขนของชายหนุ่มรุ่นพ่อที่เริ่มเมาแล้วก็ทำรุ่มร่ามแต่จะขัดไปก็เท่านั้น ออกไปแล้วได้เงินดีใครจะไม่ชอบหละ

        เกือบจะออกนอกร้านอยู่แล้วเชียวถ้าสายตาไม่ไปประทะกับดวงตาอีกคู่เสียก่อน

        “หมอ..” ขยับปากทั้งที่ไม่มีเสียงแต่ก็ไม่สามารถหยุดคุยด้วยได้ ทำได้เพียงหันมองจนคอแทบหลุดแล้วก็โดนลากขึ้นรถไป

        ยูซูรุนั่งเงียบไปตลอดทาง ในหัวมีแต่ใบหน้าของชายหนุ่มที่ได้เห็นแค่เเวบเดียว หมอมานานรึยัง ถ้าวันนี้เขาไม่ติดแขกหมอจะเรียกเขาหรือเปล่า แต่สายตาหมอเมื่อกี้เหมือนผิดหวังอะไรบางอย่าง

        หมอมาเจอเราใช่มั้ย เพราะคนที่แพ้เหล้าไม่สูบบุหรี่แบบนั้นจะมาบาร์ทำไม

        คิดอะไรอยู่คนเดียว มารู้ตัวอีกทีก็ถึงโรงแรมหรูเสียแล้ว พวกลูกน้องถูกไล่ไปจนหมด เหลือเพียงชายวัยห้าสิบท่าทางเเบบเสี่ยกับเด็กหนุ่มรุ่นลูกเท่านั้น

        ยูซูรุถูกพรมจูบไปตลอดทางตั้งแต่ลิฟต์ปิด จนเข้ามาถึงห้องสวีทราคาแพง

        แล้วกิจกรรมเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ดำเนินต่อไป เพียงแต่วันนี้ในใจเด็กหนุ่มกลับไม่ได้สงบเหมือนปกติ มันร้อนรนและคอยคิดถึงคนที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่สามวันเท่านั้น

        ลิ้นร้อนลามเลียไปทั่วร่างเขา ทั้งที่ทุกครั้งคิดว่าแค่หลับตายอมให้ทำก็จะจบไป หรือไม่ก็จัดการสวมหน้ากากมายาทำตัวให้มัวเมายอมสนองตอมรสกามาที่อีกฝ่ายปรนเปรอให้เอาใจไปนิด ใส่ความยั่วยวนเข้าไปหน่อย แล้ว ผลพลอยได้ก็จะตามมาอย่างงดงาม

        แต่วันนี้แค่พอปิดตาภาพใบหน้าหงิมๆ ของใครบางคนก็ลอยเข้ามา น้ำเสียงสุภาพกับการกระทำทีให้เกียรติเขาทุกกระเบียดนิ้วนั้นยังตรึงตรา

        “ยูซูรุ ทำไมวันนี้นิ่งจังเลยจ๊ะ ฉันทำอะไรให้ไม่ถูกใจรึเปล่า” เสียงหอบและหื่นแว่วกะซิบตรงปลายหู ก่อนจะแลบเลียให้ขยะแขยงเล่น

        กลิ่นเหงื่อจากเนื้อหนังที่อุดมด้วยไขมันชวนคลื่นเหียนนัก แต่ก็ต้องกัดฟันยิ้มหวานให้แล้วพลิกตัวออก “ให้ยูซูรุจัดการให้ดีกว่านะครับ ทานาบาตะซังนั่งลงเถอะครับ”

        “แหม อยากจะเริ่มเองก็ไม่บอกนะ น่ารักจังเลย” ชายแก่หยิกแก้มอิ่มเบาๆ แล้วก็ยอมย้ายไปนั่งห้อยขาที่ริมเตียง

        ร่างบางขาวเนียนเยื้องย่างตัวเองลงไปบ้าง หากเป็นทุกวันคงมีอารมณ์ประดิษฐ์ท่าให้ยวนยั่วแต่วันนี้เดินแข็งยังกับหิน

        ยูซูรุก้มลงรับความร้อนที่ไม่น่าอภิรมย์เข้าไปในโพลงปาก จัดการให้สมกับแรงตัณหาที่ลูกค้าเขาสะสมไว้นาน เสร็จตั้งแต่ตอนนี้จะได้ไม่ลุกล้ำร่างกายเขามากนัก

        เสียงครางอือด้วยความพอใจ ใบหน้าร่ำรวยเงินทองนั่นแหงนเริ่ดจากรสกามที่เด็กคราวลูกปรนเปรอให้ แถมยังเลื่อนอุ่งมือใหญ่มากระชากผมนุ่มแล้วผลักมันเข้าออกให้ได้จังหวะที่ตนต้องการ

        ใบหน้าหวานบิดด้วยความทรมาน แถมยังแดงจัดเพราะหายใจไม่ค่อยออก

     
         ก่อนที่หยาดหยดจะรดหลั่งยูซูรุก็ผละหน้าออกมาทัน วันนี้เขาคงรับมันเข้าไปในร่างกายไม่ไหว แค่คิดอาหารเย็นก็จะพุ่งย้อนออกมาเสียให้ได้ 

        ด้วยความที่ยังลอยคว้างอยู่ในห้วงสวรรค์อันเริงรมย์ ชายแก่เลยไม่ได้สังเกตุถึงความแปลกไปของสินค้าชิ้นแพง

        “ทานาบาตะซังครับ คือ…ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย ..ขอตัวกลับเลยได้มั้ยครับ” ยูซูรุลดเสียงให้อ่อนลง ทำหน้าอ้อนเข้าใส่

        “ไม่สบายหรอ” มือใหญ่เอื้อมมือมารั้งร่างผอมบางให้ขึ้นไปนั่งบนตัก หยอกเอินยอดอกสีสวยเล่นด้วยปลายนิ้ว

        “ครับ ปวดหัวจัง” ใส่ความสำออยเข้าไปหน่อย หวังว่าจะยอมปล่อยเค้าไปนะ

        “ขอให้ฉันชิมตัวนายอีกรอบได้มั้ย แล้วจะยอมให้ไป”

        ยูซูรุกัดปาก ก้มหน้าก้มตายอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็มันเป็นงานเขาเลือกเส้นทางสายนี้เอง จะให้มาทำอิดออดได้อย่างไร

        ร่างที่เบาหวิวราวปุยนุ่นยันตัวขึ้น ก่อนจะค่อยกดสะโพกลงรับความร้อนระอุเข้าไปอีกครั้ง

        ถ้าเป็นปกติเขาคงครางเอาใจลูกค้าแต่วันนี้แม้เสียงมันจะเล็ดลอดขึ้นมาแค่ไหนก็ต้องกลืนกลับลงไป

        “ปวดหัวมากหรือเด็กน้อย ทำไมไม่มีเสียงเพราะๆ ให้ชื่นใจเลย”

        ยูซูรุได้แต่ฝืนยิ้มไม่พูดอะไร กลั้นใจขยับร่างให้เร็วเพื่อจะได้กลับท่ีพักตัวเองซักที

        มือใหญ่เลื่อนมาเอ็นดูชิ้นส่วนน่ารักของเด็กหนุ่ม เขาขยับมันให้เท่าทันจังหวะกันและกัน ความอุ่นนุ่มและคับแน่นของยูซูรุทำให้ทานาบาตะแทบคลั่ง ไม่เสียแรงที่ทุ่มเงินไปมากเพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติอันหวานหอมนี้

        “ฮึก…ผมจะไม่ไหวแล้วครับ” คนตัวเล็กส่งเสียงออกไป ทั่วทั้งร่างพราวระยับไปด้วยเหงื่อ อาการที่ถูกขยับสวนขึ้นมาจากด้านล่างทำเอาเขาจุกและเจ็บเอาการ

        “อีกนิดเดียวนะเด็กดี”

        หลังจากปลายทางสุดท้ายเปิดออกยูซูรุทรุดลงในอ้อมกอดที่มันเพื่อมไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขารีบยันตัวออกทันที หลังจากไม่มีสิ่งปิดกั้น เศษซากกามาก็ไหลอาบขาขาวนวล

        “ร้อนแรงไม่เปลี่ยนเลยนะ” ดวงตาวาววับไล่กวาดไปทั่วร่างเปลือยเปล่าจนยูซูรุต้องรีบคว้าผ้าห่มบนเตียงมาปิดบังร่างตัวเองไว้ กลับกลายเป็นว่าเป็นกริยาอันน่ารักน่าชังในตาทานาบาตะเสียนี่

        “ทำท่าน่ารักแบบนั้นเดี๋ยวฉันก็ไม่ปล่อยให้กลับหรอก”

        เด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้งกับคำหยอกเอินนั้น อีกฝ่ายเลยหัวเราะใหญ่ กลายเป็นว่าเหมือนเห็นยูซูรุยั่วเเขกอีกรอบ

        “เอาเถอะ ถือว่าวันนี้ทำให้ฉันพอใจมากไปอาบน้ำแต่งตัวซะ เดี๋ยวจะวางเงินไว้ให้” ส่วนฉันกลับก่อนนะ”

        “ครับ ขอบคุณครับ”

        ก่อนไปร่างหนายังเข้ามาจุมพิตกลีบกุหลาบงามไปอีกหนึ่งรอบ ลิ้นสากและน้ำลายหนืดทำให้ยูซูรุรู้สึกรังเกียจได้อย่างประหลาด ในหัวมันกลับมีแต่ภาพของหมอโชติดตา

        อยากเปลี่ยนสัมผัสหยาบโลนนี้เป็นปากแดงจัดของผู้ชายคนนั้นแทน สองมือที่ลูบไล้เนื้อกายอยากให้กลายเป็นตระกองกอดอย่างทะนุถนอม

        เอ๋า! ฟุ้งซ่านใหญ่แล้วยูซูรุ ใครเค้าจะทำแบบนั้นให้แก แค่เค้าเก็บป้ายชื่อมาคืนให้ก็ฝันเสียไกลเลยนะ

        ทั้งที่บอกตัวเองอย่างนั้นแต่ก็รีบผละออกมาจากทานาบาตะแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไป


    :::::: be con::::::


    เหลือเชื่อว่าลงครั้งแรก 27 เมษา 51 (นานขนาดนั้นเชียว)

    ส่วนใครทีพึ่งเข้ามาอ่าน ไรต์กำลังทยอย รีไรต์ เเก้คำผิด ฯลฯ แล้วจะมาต่อให้จบแล้วจ้า 
    ขอกำลังใจกันด้วยเน้อ เดี๋ยวนี้ฮิตสกรีมแท็ก ใช่หรือไม่ ฝากคำนี้ด้วยน๊า #หมอกับยู 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×