ตอนที่ 39 : 11.เคยไหม? เดี๋ยวผมจะพาไปทำอะไร
11.
เคยไหม? เดี๋ยวผมจะพาไปทำอะไร
วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเหมือนปกติคือตีสี เพราะตั้งแต่ผมต้องพยายามข่มตาหลับขับตานอนโดยไม่ให้นึกถึงภายนัฐญานอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงเดียวกันนั้นส่งผลกระทบให้ผมต้องตื่นเช้ากว่าก่อนหน้านี้ แต่พักหลังนี้อาการผมดีขึ้นมาก หรือจะว่าไปมันเพิ่งจะดีก็เมื่อคืนนี่เอง ผมนอนมองดูเธอในความมืดโดยไม่คิดอะไรทะลึ่งๆ นอกจากจะนึกขอบคุณอาหารมื้อเย็นแสนอร่อยที่ทำให้ผมนอนหลับได้อย่างสบาย แล้วก็นึกว่า ‚เธอช่างน่ารักเหลือเกินเวลาที่นอนกอดมาร์ชา ทั้งคู่ดูเหมือนแม่กับลูก มันเป็นภาพที่มองแล้วอบอุ่นจริงๆ
เรื่องมันไม่ได้มีอยู่แค่นั้นนะ วันนี้ผมทำตัวเป็นพ่อบ้านที่ดีแล้วเลือกทำอาหารเช้าอุ่นๆ แบบง่ายๆ สไตล์อังกฤษไว้รอพวกเขาด้วย จะเป็นอะไรไปได้นอกจาก...ไข่ดาวหมูแฮม ทอดมะเขือเทศ ขนมปังอุ่นร้อนๆ ถูกเตรียมไว้แล้วเรียบร้อย ผมหวังว่าเมื่อพวกคุณได้เห็นกับตาก็จะต้องบอกว่า ‚โอ...ผมช่างเป็นคนดีอะไรเช่นนี้
ผมเดินขึ้นไปชั้นบนตรงไปที่ห้องของมาร์ชา นัฐญากำลังยืนอยู่หลังมาร์ชาที่ยืนอยู่หน้ากระจก เขาสองคนยิ้มให้กันและกันอย่างมีความสุขขณะที่เจ้าตัวเล็กจัดชุดตัวเองให้เข้าที่
คุณน้าคะ
เจ้าตัวเล็กถอยหลังจนติดตัวเธอ คว้านมือมาด้านหลังแล้วกุมมือนัฐญาเอาไว้โดยไม่พูดอะไรอยู่นาน ทั้งคู่ยืนมองตากันในกระจกสีหน้าอ่อนโยนอมเศร้า
หนูรักคุณน้าจัง
ทันทีที่มาร์ชาพูดจบแววตาของทั้งคู่แสดงความเจ็บปวดมากกว่าเดิม นัฐญาย่อตัวลงแล้วกอดเจ้าตัวเล็กเอาไว้ ผมเองเข้าใจว่ามาร์ชาคงเหงาและกำลังคิดถึงพ่อกับแม่ที่จากไป
วันนี้มาร์ชาอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าคะ เดี๋ยวน้าจะทำให้
เธอพยายามถามมาร์ชาอย่างเริงร่า หอมแก้มเจ้าตัวเล็กพร้อมกับรอยยิ้มที่สวยงามที่ผมเห็นได้จากเงาสะท้อนกระจก
อะไรก็ได้ค่ะ
มาร์ชาหันหน้าเข้าหาเธอแล้วเอาหน้าผากชนกัน ก่อนจะโยกหัวเอียงซ้ายแล้วยิ้มให้ผมราวกับดอกไม้น้อยๆ ที่กำลังเบ่งบาน
อาวินด์ โอ้อาวินด์ หนูไม่เคยตื่นเช้าแล้วเห็นหน้าอาเลย วันนี้คุณอาไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ
มาร์ชาวิ่งมากอดเต็มรัก ผมลูบหัวเจ้าตัวเล็ก นึกอยู่ในใจว่าเด็กนี่ช่างดีจริงๆ ที่ไม่ค่อยโกรธใครข้ามวันข้ามคืน ขณะที่สายตายังจับจ้องไปยังผู้หญิงที่ยืนหันหน้าเข้ากระจกแล้วมองดูผมผ่านเงา ใบหน้าที่งองุ้มเหมือนไม่มีความสุขคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ ขณะจ้องลงต่ำไปยังตำแหน่งที่ยัยเปี้ยกอยู่ แต่เมื่อเธอเห็นว่าผมยิ้มตอบเธอก็รีบหุบยิ้มแล้วเบือนหน้าหนีทันที ผมเลยเอ๋อไปเพราะยิ้มเกล้อ
ยิ้มอะไรอยู่หือ? แม่ตัวยุ่ง นี่หนูเห็นอาผู้หล่อเหลาเป็นตัวตลกรึไงเรา
ผมสงสัยลูบแก้มมาร์ชาเบาๆ เมื่อเห็นเธอยิ้มซ่อนเล่ห์ คนถูกถามหันไปยังหญิงสาวแล้วมองผมราวกับจับผิด ผมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เจ้าตัวเลยเอียงหัวทำตัวน่ารัก
เดี๋ยวฉันขอตัวลงไปทำอาหารเช้าให้มาร์ชาก่อนนะคะ คุณจะร่วมโต๊ะด้วยรึเปล่าคะ
นัฐญาเดินมาหยุดอยู่หน้าผม
ครับ ถ้าคุณยินดีที่จะให้ผมร่วมโต๊ะด้วย
ฉันลงไปข้างล่างก่อนนะคะ
เธอเดินผ่านผมไป กลิ่นเรือนผมสวยหอมเตะจมูกจนผมเคลิ้ม แต่ก็ตื่นจากภวังค์เมื่อใครคนหนึ่งหัวเราะชอบใจ
อิอิ
หัวเราะอะไรล่ะเรา
เปล่าค่ะ หนูหิวแล้วเดินไม่ไหวเลย อาวินด์อุ้มหนูลงไปข้างล่างทีได้ไหมคะ
ไม่ว่าเปล่าก็ยืนแขนออกมาข้างหน้า ผมนึกถึงวันที่เธอขอให้ผมอุ้มครั้งแรก แล้วผมบ่นในใจว่ามันเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ผมนึกถึงเรื่องที่เธอทำให้ผมอยากได้ใครสักคนมาช่วยเลี้ยงเธอ ไม่ใช่เพราะว่าเธอเป็นคนเลี้ยงยาก แต่เป็นเพราะความเพลย์บอยของผมทำให้ผมนึกว่าเธอจะทำให้ผมต้องสูญเสียเวลาไปเพลย์บอยกับหญิงอื่น แต่แล้วในที่สุด...ผมก็คลั่งพี่เลี้ยงเธอจนทำให้นึกถึงหญิงอื่นน้อยลงเรื่อยๆ และในวันนี้ ผมยินดีจะอุ้มเธอโดยไม่คิดตะหงิดใจเลยสักนิด
อ้า ตัวหนักขึ้นนะเรา กินอะไรเข้าไปเนี่ย หินเหรอ? คุณนัฐญานี่ไม่ไหวเลยจริงๆ ทำไมถึงได้เลี้ยงหลานอาด้วยของพวกนั้นนะ
มาร์ชาสูงขึ้นนิดหน่อยเอง มาร์ชาหนักขนาดนั้นเลยเหรอคะ
เปล่าหรอกจ้ะ มาร์ชาหนักขึ้นหน่อยเดียวเอง
ผมขำเมื่อเธอทำหน้าวิตก ถ้าหากอุ้มมาร์ชาไม่ไหว คนอย่างผมคงไม่มีปัญญาอุ้มนัฐญาขึ้นเตียงแน่ๆ เวรแล้ว! นี่ผมคิดอะไรออกไป ไหนเมื่อเช้ายังดีๆ อยู่เลย ตอนนี้ผมกำลังจะทะลึ่งอีกแล้ว ผมว่าผมควรจะลงไปรดน้ำต้นไม้สักรอบสองรอบก่อนไปทำงานเผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น
นัฐญางอนผมใหญ่โตตอนเรานั่งโต๊ะอาหารเช้าร่วมกัน เธอหาว่าผมไม่ยอมบอกว่าทำอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็...ผมจงใจไม่ให้เธอรู้ว่าผมทำเสร็จแล้ว จะบอกได้ไง
ผมรู้ว่ามันอาจจะไม่ได้วิเศษเหมือนอาหารที่คุณทำ...
เธอใช้มีดหั่นเบคอนหน้าเชิดสูงแต่ผมเห็นว่าแก้มเธอกำลังออกสีแดงขึ้นเรื่อยๆ
อาหารที่คุณอาทำอร่อยมากๆ ค่ะ มาร์ชาว่าก้มลงทานอาหารต่อ
ขอบใจมากจ้ะมาร์ชา ผมว่าแต่ยังมองนัฐญาอยู่ ผมแค่อยากทำอะไรให้คุณบ้าง แต่ถ้าหากคุณไม่พอใจ
ผมลุกขึ้นเดินไปหยุดหยู่ข้างเธอ นัฐญาเงยหน้าขึ้นมามองผมทำหน้าสงสัยท่าทางของเธอทำให้ผมอยากก้มลงจูบเสียตอนนี้เลย
ผมเอาไปเททิ้งก็ได้ แล้วเราจะทานอาหารที่คุณทำกัน
ผมเสียมารยาทแล้วยกจานขึ้นมา
คุณจะบ้ารึยังไงคะ เอาจานวางลงเดี๋ยวนี้นะ
เธอแย่งไป เลื่อนจานหลบผมไปอีกทางขมวดคิ้วอย่างเอาเรื่อง
เอามาให้ผมเถอะครับ มันไม่อร่อยหรอก ผมจะเอาไปเททิ้งให้หมด
ผมเดินอ้อมไปอีกทาง นัฐญาก็เลื่อนจานหนีไปอีกทาง
จะเอาไปเททิ้งง่ายๆ ได้ไง มีคนตั้งมากมายบนโลกที่ต้องอดตายโดยไม่มีของกิน
เธอว่าแล้วลงมือทานต่อ
คุณน้าพูดเหมือนคุณแม่เลย
ขณะที่กำลังสนใจมาร์ชาอยู่นั้น ผมอยากแกล้งเธอเลยดึงจานเธอมา แต่นัฐญารู้ตัวทันลุกขึ้นมาตั้งท้าจะแย่งจานกลับคืน ผมยกจานสูงขึ้นมาหน่อยเธอกำแขนผมเอาไว้เราแย่งกันไปมา
พลั๊ก เคร้ง!
คุณวินด์
เธอร้องเสียงหลงหลังจากเทอาหารใส่เสื้อผมทั้งยังทิ้งจานลงบนพื้น ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่จกใจก็ตามข้อนั้นผมไม่สน แต่ว่า...เธอดูตลกมากตอนทำหน้าตกใจ
มาร์ชาอย่าเข้ามาใกล้นะคะ เดี๋ยวเศษจานจะบาดเท้าได้ คุณก็ด้วย
เธอหันมาสั่งผม หลังจากสั่งมาร์ชาเสร็จแล้ว แต่ผมคิดว่าเธอออกคำสั่งเกินความจำเป็นจริงๆ เพราะเท่าที่เห็นหลานสาวผมยังไม่ทันคิดที่จะขยับตัวเลยด้วยซ้ำ
คุณทำชุดทำงานผมเปื้อนหมดเลย
อะไรกันคะ ก็คุณนั่นแหละมาแย่งจานฉันไปเอง
เธอดึงผ้าเช็ดจานผืนใหม่ออกมาจากตู้ ใช้ไม้กวาดกวาดเศษแก้ว
ก็คุณกินท่าทางผะอืดผะอมอย่างนั้น จะให้ผมทนมองอยู่เฉยๆ ได้ยังไง
ฉันทำหน้าผะอืดผะอมเพราะไม่พอใจที่คุณทำอาหารแล้วไม่ยอมบอกต่างหาก ทำไมชอบเอาเรื่องมาผสมปนเปกันอยู่เรื่อยเลยนะ
เธอบ่นไปเช็ดเสื้อให้ผมไป มาร์ชาพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นว่าผมแอบยิ้มและต้องหุบยิ้มเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา ท่าทางของผมในตอนนี้แทบจะไม่ต่างจากคนหน้าไหว้หลังหลอก
แล้วทำไมคุณต้องไม่พอใจผมขนาดนั้นครับ
เพราะคุณทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลก ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณก็ขึ้นไปหาเราที่ห้อง...
จากที่เคยเช็ดอย่างระมัดระวังตอนนี้เธอแทบจะเอาเล็บจิกผมได้เลย เธอเอาแต่บ่นๆ แต่ผมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ผมกำลังมองปากของเธออย่างใช้ความคิดว่าจะทำยังไงดีถึงจะได้หยุดบ่นสักที จูบเลยดีไหม!
หมับ!
ผมกำข้อมือเธอไว้แน่นทั้งสองข้าง เธอยังต่อต้านและพยายามผลักหนี
ถ้าหากคุณไม่หยุดบ่นให้ผม ผมจะจูบคุณจริงๆ นะ
โอ๊ะโอ...หนูออกไปรอข้างนอกนะคะ
มาร์ชารีบเผ่นไป นัฐญาก็ยังไม่หยุดบ่นผมคาดว่าเธอไม่ได้ฟังที่ผมขู่
เมื่อคืนคุณก็ปลุกฉันให้ตื่นขึ้นมาแล้ว...
เธอเงียบจ้องผมตาไม่กระพริบเม้มปากเล็กน้อย ผมดึงเธอเข้ามาใกล้ตัวอย่างง่ายดายไม่มีทีท่าว่าคนตรงหน้าจะขัดขืน เมื่อผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ เธอก็ค่อยก้มหน้าลงต่ำอย่างเกร็งๆ ใจผมเริ่มหวั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความห่างระหว่างเราจนเกือบจะสั้นจนไม่ถึงเซนติเมตร
คุณเคยทำอะไรตอนกลางคืนไหม ถ้าไม่...เดี๋ยวผมจะพาคุณไปทำอะไรด้วยกัน
พลั๊วะ!
อ้อ อย่าลืมทำความสะอาดห้องครัวนะคะ ฉันขอตัวไปส่งมาร์ชาไปโรงเรียนอนุบาลก่อนค่ะคุณวินด์เวิร์ด
เสียงคำสั่งสุดท้ายก่อนจากกันตอนเช้าของนัฐญายังคงกึกก้องอยู่ในหัวผม
ฉันพูดอะไรผิดเหรอ ถามแค่นี้ทำไมเธอต้องตบฉันด้วย
หลังจากเลิกงานมาผมก็มาฟ้องไอ้คุณหมอเจมเพื่อนผู้แสนดี เพราะยังเจ็บไม่หายทั้งใจทั้งหน้า
แล้วคุณไปถามอะไรไม่ดีมาล่ะคะถึงได้โดนแบบนี้
วินนี่ถามขึ้นเดินออกมาจากอีกห้อง
ถามอะไรไม่ดีเหรอ คำถามผมออกจะสุภาพ
คำถามนายน่ะมันสองแง่สองง่าม แต่ไอ้การกระทำของนายมันก็น่าทำให้เขาคิดไปในทางที่ดีนักนี่
เจ้าเจมบ่นอุบ ผมกรอกตาลอกแลกมองวินนี่เดินเข้าๆ ออกๆ จนเวียนหัว แล้วเธอนำกระดาษมาวางไว้หน้าผม
นี่ค่ะ สัญญายกเลิกเป็นแฟนกัน
เฮ้วินนี่ นี่คุณบอกเลิกผมเหรอ แฟนคุณกำลังมีความทุกข์นะ ผมประท้วง
แฟนที่ไหนจะทนฟังแฟนตัวเองเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นได้ล่ะคะ
แต่วินนี่...
ฉันล้อเล่นน่ะค่ะ แท้จริงแล้วฉันทำตามข้อตกลงต่างหาก ตอนนี้คุณก็ดีขึ้นแล้ว ควรจะเปิดโอกาสให้ตัวเองนะคะ คุณไม่ควรจะมาคบกับฉันทั้งที่เราไม่ได้มีความรักให้กัน ทำไมไม่เปิดอกคุยกับเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ตอนนี้คุณกำลังจะทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนะคะ
จากที่ทะเล้นๆ ผมเกิดอาการทะเล้นไม่ออกเพราะความกระอักกระอวนที่จุกขึ้นมาถึงคอ คำว่า ‚ทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย มันทำให้ผมฉุกคิดได้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต...ครั้งที่ผมน่าจะจดจำเป็นบทเรียนได้แม่นยำ ถึงการกระทำที่ไม่สมควร ‚คบคนอื่นเพื่อนประชดคนที่ตนรัก แตกต่างกันนิดหน่อย ตรงที่ผมคบกับวินนี่ตอนนี้ไม่ใช่เพื่อประชดเธอ แต่กำลังกีดกันตัวเองจากเธอ
คุณหมอคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับเลยนะคะ วินนี่บอกลา
วินนี่ คุณไม่ให้ผมไปส่งเหรอ
เออ...ฉันมีรถมาค่ะ และอีกอย่างคุณหมอยังต้องคุยกับเพื่อนไม่ใช่เหรอคะ
เธอมองผมกับเจมสลับกันไปมา ราวกับต้องการรู้ว่าผมยังโอเคดี ผมก็ไม่ได้เสียใจเลยที่โดนบอกเลิก เพราะผมรู้แต่แรกแล้วว่า...ผมไม่ได้รักเธอขนาดนั้น แต่ความบ้าของคนนี่มันเป็นเรื่องที่พูดยากนะ
วินนี่เดินออกจากห้องไป บรรยากาศภายในเลยเงียบกริป ไอ้เจมถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดอะไรของมันไม่รู้ ผมก็ยังใช้ความคิดต่อไป
เพราะนายยื่นอยู่ตรงนี้แท้ๆ เลย ไอ้เจมพูดขึ้น
ฉันยืนอยู่ตรงนี้แล้วมันทำไมวะ ฉันไม่ได้กำลังนึกถึงนายในสภาพเปลือยเปล่าแล้วคิดจะปล้ำนายสักหน่อย
...
มันมองผมนิ่งประมาณต้องการจะด่าว่า ‚ไอ้โง่
ฉันมาขัดใจนายเรื่องวินนี่ล่ะสิ ผมแหย่
รู้ไว้ก็ดีแล้ว
โอเคๆ ผมยกมือขึ้นยอมแพ้พร้อมหัวเราะออกมา
ตอนนี้ตานายแล้ว ฉันจะไม่ยุ่งกับคุณวินนี่อีกเป็นอันขาด แม้เธอจะน่าปล้ำก็ตาม
ไอ้วินด์
เจมมันไล่เตะก้นผมอ้อมห้อง ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าพวกเราอายุสามสิบกันจริงๆ บรรยากาศแบบนี้มันทำให้ผมนึถึงสมัยเรียนมหาลัย มากกว่า
------------------------------------------------------------100%--------------------------------------------------------
เล่นเกมส์ >O< หมดเขต 25 นะ http://www.mathurada.com/webboard/index.php?page=view_reply&topic_id=352
อะแฮ่ม อินังรันเองค่ะ พอเจ้าของเรื่องเน็ตห่วยอย่างแรง จึงได้รบกวนอินังรันคนนี้มาลงตอนใหม่ให้แทน (อีกและเพื่อนตู) อ่านแล้วเม้นส์กันด้วยนะจ๊ะ แล้วก็อย่าลืมไปอ่านนิยายเรามั่งนะ (แฝงโฆษณาชัดๆ)
ปล. นาตเค้าฝากขอโทษทุกคนด้วยค่า ที่เนทมันห่วย =_=
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
