ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Assasino Café : Assasin คาเฟ่ฆาตกร

    ลำดับตอนที่ #4 : คดีที่ 0 : BACK STORY [RAVEN] บทที่ 2 : IMMURE II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 110
      6
      18 พ.ค. 64

    Assasino Café

    คดีที่ 0  

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 

    BACK STORY

    [RAVEN]


    บทที่ 2

    IMMURE II


     


     



              “เหม็น”


     


               นั่นคือคำแรกที่เขาได้ยินจากปากเล็กๆน่ารักในเช้าวันใหม่ เธอนอนคว่ำกายเงยหน้าขึ้นมาเอามือปิดจมูกอยู่บนโซฟาตัวเดิม ผมให้เธอนอนตรงนั้นแทนที่จะเป็นเตียงในห้องนอน ไม่ใช่เพราะว่าหวงห้องหรืออะไรแต่ห้องมันยังไม่พร้อม’ในตอนนี้’ ถ้าทำได้เขาก็อยากทำตัวเป็นสุภาพบุรุษพาเธอขึ้นเตียงอยู่นะ


     


              เขากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าทีวี ที่ตรงข้ามโซฟา ในปากคาบบุหรี่ซึ่งปล่อยควันสีขาวออกมา โดยที่มือก็ติดกระดุมเสื้อเชิร์ตไปด้วยอย่างลวกๆจนเกือบติดผิด


     


              “โทษที ไม่ชอบเหรอ” ถึงจะตอบแบบนั้นแต่เขาก็ยังคงสูบต่อไปอยู่ดี “ชุดนั้นเข้ากับเธอดีนะ”


     


             ชุดที่เธอใส่อยู่ คือเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวของเขาเอง มันใหญ่จนยาวปิดขาอ่อนจนมิด แขนเสื้อเลยมือออกมาจนคลุมทั้งมือ สภาพดูน่ารักน่าเอ็นดูจนอยากจับมากอดซะให้ได้


              เธอเมินคำชมของผมแล้วลุกขึ้นมานั่งดีๆ ก่อนที่เธอจะชะงักแล้วเอามือกุมที่คอของเธอ


     


     


              อา...คอของเธอเป็นรอยช้ำม่วงตามรอยมือที่เขาได้บีบลงไป  สงสัยจะทำเกินไปหน่อยแฮะ “เจ็บรึเปล่า”


     


            ผมถามออกไปแม้จะรู้ว่าไม่ได้คำตอบ จึงหันเดินไปยังห้องน้ำเพื่อหยิบกล่องพยาบาลออกมา ทันทีที่ออกมาก็พบว่าเธอจ้องผมตาเป็นมันด้วยความหวาดระแวง ...ก็เป็นเรื่องปกติน่ะนะ


     


              เขากดบุหรี่ลงไปในที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะกาแฟ แล้วลงไปนั่งบนโซฟาข้างๆเธอ เธอไม่มีท่าทีถอยหนีแต่กลับมีสีหน้ารังเกียจอย่างเห็นได้ชัด  “เอาคอมาให้ดูหน่อย”


     


                “…” เธอกุมคอตัวเองแล้วมองมาที่เขาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ แต่เขาขี้เกียจจะมาสู้ด้วยโดยเฉพาะตอนเช้าๆที่ทำให้รู้สึกชวนง่วงแบบนี้ แถมวันนี้เขาก็ต้องรีบไปทำงานอีก เขาจึงคว้าข้อมือเธอที่กำลังจับคอตัวเธอเองไว้นั้น แล้วดึงเธอเข้ามาหา เธอไม่ต่อต้านแต่มีสีหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา ซึ่งทำไมมันถึงดูน่ารักนัก


     


              “มานี่มา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนกับเรียกลูกแมว ก่อนที่จะเริ่มทายาที่คอให้กับเธอ พร้อมเอาผ้าพันแผลให้เป็นอย่างดีจนปกปิดรอยช้ำออกไปหมด “ไม่แน่นไปใช่ไหม”


     


             เธอไม่ได้ตอบ แต่เขาไม่ได้สนใจคำตอบเธอแล้ว จะบอกว่าชินที่โดนเมินแบบนี้ไปแล้วก็คงว่าได้ แต่แล้วเธอก็เปิดปากออกมา


     


              “ขอบคุณ”


     


     


              เป็นคำที่เหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะจากปากของเธอซึ่งเป็นคนที่โดนเขาบีบคอ เขายิ้มออกมาน้อยๆ ช่างเป็นเด็กสาวที่ประหลาด และทำให้เขาแปลกใจได้เสมอเลยจริงๆ


     


             “ด้วยความยินดี” เขาก้มหน้าลงไปหาก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากของเธอ พร้อมเอามือลูบกลุ่มผมสีขาวที่สัมผัสนั้นนุ่มกว่าที่คิดราวกับขนแมว “วันนี้ฉันไม่ทานข้าวเช้านะ..  แล้วฉันจะรีบกลับมา”


     


     


              ในตอนนั้นเองมือขาวก็ยกขึ้นมาปิดปากเขาพลางดันออก การต่อต้านเล็กๆน้อยๆนั่นทำให้เขาหัวเราะแต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไร เขาจึงลุกขึ้นเดินออกไปทำงาน โดยขังเธอเอาไว้ในบ้านตามเคย


     


     


     


              เป็นวันที่เขาทำงานหนักอีกวัน มีลูกค้าแอบตามเขา กะจะตามกลับไปที่บ้าน แต่โชคดีที่ยับยั้งเรื่องนั้นเอาไว้ได้ก่อนที่จะเกิดเรื่อง นี่เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเจอเป็นประจำอยู่แล้ว ลูกค้าบางคนก็ตื้อไม่ให้เขากลับชวนไปต่อที่อื่นอยู่เหมือนกัน แน่นอนว่าเขาปฎิเสธ


     


              เขาตัดสินใจที่จะแวะซื้อเสื้อผ้ากลับไปให้คนที่รออยู่ที่บ้าน แม้เขาจะไม่ได้มีรสนิยมดีพอจะซื้อเสื้อผ้าให้เด็กได้แต่เขาก็น่าจะเลือกตัวที่เหมาะกับเธอได้บ้าง


     


     


              หลังจากที่เขาซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงมาได้ 5 ตัว เขาก็บังเอิญผ่านร้านขายดอกไม้ จึงตัดสินใจเดินเข้าไปอย่างไม่ต้องคิด ถือว่าให้เป็นของขวัญปลอบใจแล้วกัน


     


    .


    .


    .


     


    ...


     


     


     


              “ฉันกลับมาแล้ว”


     


              ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก... ก็กะไว้อยู่แล้วล่ะนะ เขาเริ่มเดินหาเธอตั้งแต่จากโซฟาไปจนถึงห้องครัว แต่ก็ไม่พบเธอ แต่รางสูงก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจกับการหายตัวไป แล้วตัดสินใจเดินตรงไปยังห้องน้ำ เมื่อเขาบิดลูกบิดก็พบว่าประตูถูกล็อก จึงเคาะประตูสามครั้งพร้อมร้องเรียกให้เธอออกมา


     


              “นี่เปิดประตูหน่อยสิ”


     


              ไม่มีเสียงตอบรับ นั่นทำให้เขาถอนหายใจออกมา เขาจึงลองเคาะอีกครั้งอย่างมีมารยาท แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ ห้องน้ำไม่มีช่องทางหนีให้เธอออกไปได้แน่   ถึงจะไม่รู้ว่าเธอขังตัวเองไว้ในนั้นทำไมแต่เขาก็ไม่อยากพังประตูห้องน้ำในบ้านตัวเองหรอกนะ


     


     


              แกร๊ก


     


     


              ประตูถูกเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นครึ่งซีกหน้าของเธอที่ใช้นียน์ตาสีฟ้ามองจ้องเขม็งมาที่เขา


     


              “ออกมาเถอะ อยู่ในนั้นก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงชอบเข้าไปอยู่ในนั้น”วันที่สองที่เธอมาอยู่บ้านนี้เธอก็ขังตัวเองไว้ในนั้น ก่อนจะพบว่าน้ำท่วมห้องเพราะเธอใช้ฝักบัวไม่เป็น(เพราะเป็นแบบอิเล็คทรอนิกส์)จนต้องเอาน้ำออกแทบไม่ทัน


     


              “…”เธอจ้องเขาทั้งที่ยังเปิดประตูแค่แง้มๆ “เพราะมันไม่มีกล้อง”


     


     


              คำตอบเหนือความคาดหมายทำให้เขาอึ้งไปก่อนจะยกยิ้มออกมา


     


               “รู้ด้วยเหรอ?”


     


     


              “ทั้งที่เพิ่งเข้าบ้าน แต่ก็รู้ทันทีว่าเราอยู่ที่โซฟา ทั้งที่ยังไม่ได้บอกเลยว่าทำข้าวเย็นเผื่อไว้แต่กลับชวนไปทานข้าวโดยไม่เอ่ยถามสักคำ”


     


     


               พูดอีกก็ถูกอีก ไม่คิดว่าจะช่างสังเกตุขนาดนี้ เขาหัวเราะในลำคอก่อนที่จะพูดเปลี่ยนเรื่อง


     


              “วันนี้พูดเก่งจังเลยนะ แต่เรียกตัวเองว่า’เรา’แบบนี้ ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่เลย” เขายื่นหน้าไปใกล้ๆประตู “เรียกตัวเองว่า 'หนู' สิ”


     


     


              โดนสายตาทิ่มแทงกลับมาตามคาด แถมรู้สึกถึงสายตาได้ว่า’เอาแต่ใจชะมัด’ ออกมาอีกด้วย เขากะจะแกล้งเธอนิดหน่อยแต่พอเห็นแบบนี้ก็อยากแกล้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ


     


             “..หนู”ทันใดนั้นคำพูดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินจากปากเธอก็รอดเข้ามาในหู “เกลียดคุณ”


     


     


              พลั่ก


     


              เขาโดนมือยันจนหน้าแทบหงาย ก่อนที่ประตูจะปิดดัง ปัง ไปอีกรอบ


     


              เจ็บแฮะ.... อุ้งมือกระแทกดั้งพอดิบพอดีเลย


     


     


              เขาเริ่มเคาะประตูอีกครั้งโดยที่มือนึงเอามือกุมจมูก ถ้าถอดถุงมือออกจะพบว่ารอยจิกที่เธอทิ้งไว้ยังหลงเหลืออยู่


     


               “นี่ เปิดประตูก่อนสิ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องคุยนะ”


     


     


               ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ไม่ช้าประตูก็ถูกแง้มออกมาอีกครั้ง ผมยื่นดอกไฮเดรนเจียช่อเล็กสีน้ำเงินสลับม่วงน่ารัก ไปตรงหน้าประตู


     


              “เห็นหนังสือเมื่อวานที่เธอดูเปิดหน้าที่มีดอกไฮเดรนเจียทิ้งไว้อยู่ก็เลยเอามาฝาก” เธอยังคงไม่โต้ตอบ เขาจึงเริ่มกล่าวต่อ”ฉันซื้อเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เธอแล้วอยู่ที่โต๊ะกาแฟในห้องรับแขก วันนี้ฉันซื้ออาหารกลับมาที่บ้าน มาทานด้วยกันนะ”


     


               เธอจ้องเขานิ่งงันก่อนที่จะรู้สึกตัว ดอกไม้ก็ถูกคว้าออกจากมือเขาไปแล้ว และประตูก็ปิดเสียงดังปัง!! อัดหน้าเขาเต็มๆ


     


              ก็นะถือว่าเป็นวันที่ไม่น่าเบื่ออีกวัน


     


     


     


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    SPECIAL


    หนึ่งวันของเด็กสาว


     


               เราคือเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวมาโดย ชายโรคจิตคนหนึ่งที่สุดจะผิดมนุษย์มนา


     


     


               ทุกวันจะได้ยินเสียงร้องแปลกๆมาจากห้องที่น่าจะเป็นห้องนอนของเจ้าตัว ถึงไม่รู้ว่าเป็นเสียงอะไรแล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย เรามักจะตื่นมาตอนกลางดึกเพราะนอนไม่ค่อยหลับในเวลาตี 3  และระหว่างวันเราจะใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือและค้นดูของในบ้าน พร้อมกับปัดกวาดเช็ดถูให้สะอาด


     


     


              ปกติเราจะไม่ทานข้าวเช้า(ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดี) แต่ก็ต้องมาเตรียมกับข้าวให้คุณชายบ้านนี้อยู่เป็นประจำ ชีวิตประจำวันทั่วไปก็จะทำขนมปังทาแยม ไม่ก็แซนวิชให้เป็นอาหารเช้า พร้อมกับกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาลหนึ่งแก้ว


     


     


               ทุกๆครั้งที่สำรวจบ้านก็จะพบแต่ของแปลกๆ ทั้งรูปถ่ายที่มีแต่ศพคนตายและเลือด รวมทั้งเศษชิ้นส่วนมนุษย์แปลกๆที่ไม่แน่ใจว่าเป็นของจริงหรือของปลอม เพราะมักจะถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีในโหลแก้ว เช่น ลูกตา นิ้วมือ หรือไม่ก็ฟันกรามของใครบางคน แต่ที่ค้นเจอบ่อยๆก็มีกระดูก ของพวกนั้นเป็นของไม่กี่ชิ้นที่เธอตัดสินใจที่จะไม่ทำความสะอาด โทรศัพท์บ้านไม่ได้ถูกตัดแต่กลับหายไปซะเฉยๆทั้งที่วันแรกที่มาเธอยังเห็นมันอยู่ในห้องรับแขก ตอนเย็นเธอจะต้องเตรียมอาหารไว้ให้เขาเช่นกัน แน่นอนว่ามันน่ารำคาญแต่เธอก็ทำให้อยู่ดี


     


     


               แม้เวลานอนจะมีหมอนกับผ้าห่มให้ แต่อากาศที่นี่ก็ยังเย็นเพราะเขาเปิดแอร์ทั้งวันทั้งที่เธอจำได้ว่าอากาศข้างนอกก็ออกจะหนาวขนาดนั้น สักวันเธอคงได้เป็นหวัดเอาแน่ๆ และมันคงจะดีกว่านี้ถ้าเธอมีอะไรให้ทำเล่นมากกว่านี้ในแต่ละวัน




    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    (แถมให้ตอนนึงละกัน เจอกันวันศุกร์ครับ ;P)

     


     


     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×