ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K I L L - S H O T

    ลำดับตอนที่ #14 : ardor

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 322
      0
      24 ต.ค. 63


    ll You are the sun to the moon and my ocean painted blue. ll

    ____________________________________________________

    APPLICATION



    "แบบนั้นก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา จะตอนไหนก็ดูน่ารักอยู่เสมอเลยไม่ใช่รึไง?"

    "คงจะเป็น..ความรู้สึกเหมือนกับตอนที่ทำเพอร์เฟคเกมส์ได้ล่ะมั้ง"

    [ Role: 07 My love l Momoi Satsuki ]
    _________________________________________________

    ชื่อ TH | ENG: อิซามุ เทนโช l Isamu Tenshou


    ชื่อเล่น:  เทนโช ll Temshou [คนส่วนมากไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ แต่เทนโชไม่ได้ซีเรียสนักถ้าจะถูกเรียกด้วยชื่อต้น ถ้าสังเกตดี ๆ ก็จะพบว่านอกจากครอบครัวแล้ว เพื่อนร่วมชั้นและคนในชมรมเบสบอลเองก็เรียกเขาว่า 'เทนโช' เช่นกัน ll ปกติมักจะไม่ถือสาถ้าคนอายุน้อยกว่าเรียกชื่อเขาห้วน ๆ ด้วย ค่อนข้างไม่คิดมากกับระบบอาวุโส แต่ถ้าเรียกคนอื่นเทนโชก็เรียกด้วยภาษาสุภาพนั่นแหละ]


    อายุ: 17 - year - old


    โรงเรียน: Too Academy


    ชั้นปี: 2nd


    ส่วนสูง / น้ำหนัก: 190 cm. l 80 kg.


    วันเกิด: 22th, March


    กรุ๊ปเลือด: B


    ลักษณะภายนอก:

    'ใบหน้าใสกิ๊งกับท่าทางบุคลิกที่เหมือนหลุดออกมาจากโชโจมังงะ' เป็นคำพูดที่พวกสาว ๆ เอาไว้ใช้อธิบายผู้ชายอย่าง 'อิซามุ เทนโช' เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดดีกรีนักกีฬาตัวจริงชมรมเบสบอล พิชเชอร์ฝีมือดีอนาคตไกลกับตำแหน่งนักเรียนปีสองสุดป็อปฯแห่งสถาบันโทโอ เจ้าของรอยยิ้มนุ่มละมุนคนนี้ในเวลาธรรมดาแล้วดูราวกับลูกสุนัขตาใส เส้นผมสีแอชบราวน์หยักศกเล็กน้อยดูยุ่งฟูพอสมควรจากการไม่ค่อยหวีสาง และมันยิ่งยุ่งเหยิงเหมือนลูกสุนัขที่เพิ่งไปผ่านศึก (?) มาเข้าไปใหญ่เมื่อเพื่อน ๆ นึกหมั่นไส้ในความหน้าใสกิ๊งทั้งที่ออกแดดตากลมอยู่บ่อย ๆ จนพากันมาขยี้ผมนุ่ม ๆ นั่นกันเป็นประจำ เทนโชเดิมทีเป็นคนผิวขาว ปัจจุบันเองผิวก็ไม่ได้กร่ำแดดอะไรนักแม้ว่าจะเป็นนักกีฬากลางแจ้ง อาจเพราะแม่ของเขาห่วงใยในการช่วยดูแลผิวพรรณลูกชายเสมอ เขาจึงดูไม่เหมือนนักกีฬาสักเท่าไหร่เว้นแต่รูปร่างที่มีมวลกล้ามเนื้อ ความปราดเปรียว และความยืดหยุ่นที่เหมาะสมในระดับดีเยี่ยม เทนโชมีดวงตาสีน้ำตาล เป็นดวงตาที่มักพราวระยับไปกับเรื่องที่ชอบ และฉาบความจริงจังเอาไว้ในบางเวลา ปกติแล้วเทนโชจะมีลุคที่ค่อนข้างชิลและปล่อยสบายไม่น้อย สาว ๆ ลงความเห็นว่านั่นก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่น่าค้นหา แต่มุมที่เท่ที่สุดของเขา ก็คือตัวของ อิซามุ เทนโช ในโหมดจริงจังเวลาที่เขายืนอยู่บนสนามในฐานะ 'พิชเชอร์' เมื่อการแข่งขันมาถึงยังไงล่ะ

    เรื่องแฟชั่นของเทนโชนั้นความจริงเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสนสี่สนแปดสักเท่าไหร่ เขาชอบหยิบเสื้อผ้ามาใส่ตามอารมณ์ตัวเอง ซึ่งเซ้นส์ในการ mix and match ก็ค่อนข้างบรรเจิดเกินจินตนาการพอสมควร ยังดีว่าก่อนออกจากบ้านต้องผ่านด่านคุณแม่ก่อน เทนโชเลยมักกลายร่างเป็นตุ๊กตาให้คุณแม่ของเขาจับแต่งตัวอยู่เสมอ และด้วยความว่าหุ่นแบบเทนโชนั้นเหมาะกับการแต่งตัวที่หลากหลาย สไตล์ของเขา (หรือพูดง่าย ๆ ว่าสไตล์แบบที่แม่ของเขาอยากให้เทนโชใส่) เลยไม่ค่อยอยู่นิ่งนัก อาจจะเป็นสไตล์สตรีทอย่างฮู้ดดี้สีครีมสกรีนลายศัพท์สักตัวกับกางเกงห้าส่วนสีดำ หมวกบักเก็ต รองเท้าผ้าใบ และกระเป๋าคาดอกสักใบ หรือเป็นแนวกึ่ง casual กึ่ง formal เสื้อยืดสีเข้มสักตัวกับกางเกงผ้าทรงกระบอกขายาว รองเท้ามีส้นสำหรับผู้ชาย ดัดผมเล็กน้อย ทั้งนี้เครื่องแต่งกายของเทนโชบางครั้งก็ออกไปทางยูนิเซ็กส์พอสมควร เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะได้รับอิทธิพลจากผู้เป็นแม่นั่นแหละ แค่ว่าบางครั้งถ้าเขารีบหน่อย คุณแม่คนเก่งของเขาก็คงคว้าตัวไว้ไม่ทัน และคุณอาจได้เห็นเทนโชในสภาพที่ค่อนข้างสะดุดตาอย่าง เสื้อยืดมัดย้อมสีแสบ กางเกงขาสั้นสีอ่อน สวมใส่รองเท้าคาดส้น โดยเหน็บกระเป๋าเงินและโทรศัพท์เอาไว้กับกระเป๋ากางเกง และมีทรงผมที่ยุ่งฟูจากการสางด้วยนิ้วก็เป็นได้ล่ะนะ

    ทั้งนี้เจ้าตัวไม่ได้สวมใส่เครื่องประดับหรือทำการเจาะที่ตำแหน่งใดบนร่างกายเป็นพิเศษ แต่อันที่จริงตู้เสื้อผ้าเขาก็มีของพวกนี้อยู่เยอะเหมือนกันนะ อย่างพวกหมวกก็มีหลายทรงหลายสไตล์มากเลยล่ะ กระเป๋าส่วนมากแล้วเป็นกระเป๋าคาดอกกับกระเป๋าเป้ซะส่วนมาก ส่วนรองเท้านั้นมีเยอะมากจนน่าตกใจเลยล่ะ เรื่องตลกคือเขากับพี่ชายไซส์เท้าเท่ากัน สองคนนี้ก็เลยขโมยรองเท้าอีกฝ่ายไปใช้ (แล้วก็โดนอีกคนโวยทุกรอบที่ถูกจับได้) ประจำเชียว 


    ลักษณะการพูด

    โทนเสียงที่ทำให้ผู้พังรู้สึกรื่นหู ความสบาย ๆ ถ่ายทอดผ่านทางน้ำเสียงได้อย่างเต็มเปี่ยม หลายคนที่เข้ามาสนทนากับ อิซามุ เทนโช จึงแทบไม่เคยรู้สึกเกร็งด้วยเลย เขาเป็นคนที่เนื้อเสียงนุ่มโดยพื้นฐาน เสียงค่อนข้างสูงกว่าผู้ชายทั่วไปนิดหน่อย (คีย์หรือสองคีย์) คำพูดคำจาของเขามักให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ไม่มีความเป็นทางการมากมายอะไร เว้นแต่บริบทที่พูดควรจะต้องใช้รูปแบบทางการ เทนโชเป็นคนพูดจาลื่นไหล สามารถรับต่อบทสนทนาได้ดี เขามักจะเลี่ยงการพูดคำพูดหรือประโยคที่กระทบจิตใจคนฟัง เป็นคนที่พูดสุภาพโดยไม่มีคำสุภาพ เรียกว่าเป็นบริบทกับเชิงความหมายเสียมากกว่า เทนโชไม่ค่อยตะคอกใส่ใคร อันที่จริงต้องพูดว่าแทบไม่เคยด้วยซ้ำ ส่วนมากถ้าจริงจังหรือโกรธ น้ำเสียงก็จะเข้มและนิ่งมากขึ้น ต่างจากปกติที่อาจมีเสียงกลั้วหัวเราะบ้างอะไรบ้าง ทั้งนี้ เขามักแทนตัวเองว่า "ฉัน" เป็นหลัก เรียกคนอื่นด้วยสรรพนามตามตัว "เธอ / นาย / คุณ" แล้วแต่บุคคลไป เขาไม่ลงหางเสียงเป็นปกติ เว้นกรณีคุยเป็นทางการ ไม่ก็นึกหยอกเย้าใครบ้าง ซึ่งถ้าเป็นบทสนทนาทางการหน่อย เขาก็เปลี่ยนคำตัวเป็นคำว่า 'ผม' แทน

    (Special: สองพี่น้องตระกูลอิซามุเรียกพ่อแม่ด้วยสรรพนาม 'ม๊า' และ 'ป๊า' ทั้งนี้ไม่ได้มีเชื้อจีนแต่อย่างใด แค่เรียกเพราะติดมาจากการดูหนังตอนเด็ก ๆ แค่นั้น อีกอย่างคือเทนโชไม่เรียกพี่ชายของตนว่า 'พี่' แต่จะเรียกชื่อไปเลยตรง ๆ ซะมากกว่า ซึ่งก็เป็นความเคยชินอย่างหนึ่งของคนในครอบครัวนี้ล่ะนะ l เทนโชแทนตัวเองว่า 'น้อง' กับพ่อแม่ ส่วนไคผู้เป็นพี่ก็จะแทนตัวเองว่า 'พี่' กับพ่อแม่เช่นกัน)

    example 1; shall we start with some small talk?

    ความรู้สึกลุกลี้ลุกลนเป็นเรื่องที่พบได้ง่ายกับสถานการณ์แบบนี้ ในขณะที่หลายคนต่างพากันจับคู่อยู่กับเพื่อนของตัวเอง พูดคุยหารือกันไป คาบเรียนวันนี้เองก็กำลังหมดลง แต่เขาที่เป็นนักเรียนใหม่ในห้องเรียนใหม่กับคาบแรกในชีวิตม.ปลาย กลับทำได้แค่ยืนมองซ้ายมองขวา ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับโจทย์แรกที่อาจารย์ได้สั่งไว้ว่า 'ให้จับคู่กันสร้างสรรค์ผลงาน' ขึ้นมาหนึ่งชิ้น

    มันน่าหัวเราะทั้งน้ำตาสักที อาจารย์นะอาจารย์ สั่งอะไรช่วยเห็นใจคนยังหาเพื่อนไม่ได้หน่อยได้ไหม

    ครืดดดด

    แต่แล้วอาการลนลานเหล่านั้นก็กลายเป็นอาการสะดุ้งพรวด เด็กหนุ่มหันขวับไปยังด้านหน้าตน และชะงักไปทันทีเมื่อพบว่าตอนนี้มีดวงตาสีน้ำตาลงามคู่หนึ่งจดจ้องมา พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าหล่อเหลานั่น

    เด็กหนุ่มผมสีแอชบราวน์นั่งคร่อมขากลับหลังอยู่บนเก้าอี้ที่เจ้าตัวอุตส่าห์ไปลากมา "พอดีฉันยังไม่มีคู่เลยน่ะ นายมาคู่กับฉันได้ไหม?"

    ลัคกี้, นั่นคือสิ่งที่เขาคิดในใจ

    แต่ถึงแบบนั้น กับคนที่เข้าสังคมไม่เก่งและช่างตื่นคน มันก็เป็นเรื่องยากที่จะคุยงานกับคนที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกในชีวิตได้ พอพูดอะไรออกไป เสียงเขาก็ตะกุกตะกักไปเสียหมด ท่ามกลางสายตาจดจ้องจากอีกฝ่าย เขาเริ่มใจเสีย ก้มหน้างุดพึมพำคำขอโทษ

    เด็กหนุ่มกังวลใจว่าท่าทางเงอะงะของเขาจะทำให้เพื่อนใหม่รำคาญใจ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น

    "ใจเย็นน่า เรามีเวลาให้คุยกันอีกเยอะแยะไป" เด็กหนุ่มหัวเราะเบา ๆ "งั้น..มาเริ่มจากอะไรที่มันง่าย ๆ กันก่อนไหม"

    มุมปากสองข้างยกสูงขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับคำกล่าวแสนง่ายดายว่า

    "อิซามุ เทนโช — ของที่ชอบคือตุ๊กตากับเบสบอล สามปีจากนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"


    example 2; I don't mind about that, but don't interrupt others, ok?

    "เทนโช"

    "หือ?"

    "แฟนคลับนาย"

    ร่างที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่พลันหยุดชะงักไปเล็กน้อย เทนโชเงยหน้าหันไปตามทางสายตาของเพื่อนร่วมชมรม เขาร้อง 'อ๋า' ออกมาเบา ๆ ตอนเห็นกลุ่มนักเรียนหญิงที่พากันยืนอยู่ตรงขอบสนามเบสบอล เขาพยักหน้ารับเข้าใจหน้าที่ตัวเองเรียบร้อย ก่อนกล่าวขาฉับตรงหากลุ่มเด็กสาวที่พากันส่งเสียงหวีดในลำคอบเบา ๆ ทันใดเมื่อเห็นไอดอลในดวงใจเดินเข้ามาหาชิดติดขอบจอแบบนี้

    "ไงครับสาว ๆ มายืนเชียร์กันข้างสนามแบบนี้ไม่ร้อนเหรอ?" รอยยิ้มเล็กน้อยยกขึ้นตามปกติ เขาหัวเราะนิดหน่อยตอนได้ยินคนตอบกลับมา "ถึงจะร้อน แต่เพื่อเทนโชคุงก็ทำได้อยู่แล้ว" อะไรแบบนั้น

    "แบบนั้นไม่ได้สิ ถ้าเป็นลมขึ้นมาทางนี้จะเป็นห่วงเอานะ"

    "แต่ว่า.."

    เทนโชยกมือห้ามไว้ก่อน ก่อนจะหมุนปลายนิ้วไปอีกทางแทน "ตรงนั้นมีม้านั่งใต้ร่มให้นั่งนะ ถึงจะห่างจากเดิมหน่อยแต่ก็ไม่ร้อน แบบนั้นดีกว่าว่าไหม?" เขาจ้องสายตามองกลุ่มสาว ๆ เหล่านั้น และด้วยความตั้งใจแรกหรืออะไรก็ตาม เหมือนกับพวกเธอเห็นประกายเว้าวอนเล็ก ๆ ในดวงตาสีน้ำตาลนั่น ถึงได้พากันผงกศีรษะรับอย่างไว เรียกรอยยิ้มตาหยีให้กับเทนโชได้ไม่ยากเลย

    ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในสนาม เขาก็ไม่ลืมย้ำเตือนอีกเรื่องด้วยว่า

    "พยายามไม่ส่งเสียงดังกันเกินไปนะทุกคน ถ้าไปรบกวนคนอื่นเขามันจะไม่ดีเอา"


    example 3; c'mon cutie, give me some smile.

    "นายว่าฉันสวยไหม"

    "สวย"

    เทนโชเงยหน้ามองเพื่อนสาวที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันในร้านคาเฟ่แห่งหนึ่ง มันเป็นคำถามฉุกละหุก แต่ก็นั่นแหละ เขาตอบออกไปทันที ไวขนาดว่าคนตรงหน้าทำหน้าไม่สบอารมณ์ เอ่ยบ่นเพราะคิดว่าเขาแค่พูดไปอย่างนั้นเพื่อตัดปัญหา

    "แล้วทำไมจะไม่สวย"

    "ก็ฉันอ้วน" ฝ่ายนั้นตอบกลับ ริมฝีปากเบะลง สีหน้าดูเศร้าใจขึ้นมาหน่อย "แล้วก็มีคนบอกว่าฉันชอบแต่งตัวประหลาด ๆ ด้วย"

    ภาพในหัวที่ผุดขึ้นมาคือแฟชั่นของเพื่อนสาวที่มักมีสีสันฉูดฉาด กับเครื่องประดับหลากหลายแบบ เทนโชขมวดคิ้วเข้าหากันในขณะที่เขากำลังดูดน้ำเข้าปาก พิจารณาในใจราวสามวิได้แล้วตอบกลับไปทันใด

    "รูปร่างใหญ่ก็ไม่ได้แย่อะไรนี่ อีกอย่าง แบบที่เธอแต่งมันก็แฟชั่นไม่ใช่เหรอ เข้ากับรูปร่างแล้วก็สไตล์ดีด้วย ประหลาดอะไรกันล่ะ"

    พอโดนร่ายใส่แบบนั้นก็เหมือนจะชะงักไปนิดหน่อย เด็กสาวทำท่าอึกอัก สีหน้าเหมือนยังไม่มั่นใจในสิ่งที่เขาพูดสักที

    "เชื่อฉันเถอะน่า เธอสวยในแบบที่เป็นเธออยู่แล้ว" อีกครั้งที่เขาย้ำ สายตาไม่มีแววโกหกเลยสักนิด ก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นอีกหน่อยขณะที่แตะปลายนิ้วลงที่มุมปากสองข้างของตนเองด้วย "แต่ว่ายิ้มแล้วสวยกว่าเดิมนะ สวยแบบเดินผ่านแล้วตาพร่าเลย" ว่าแล้วก็ดันแก้มของตนขึ้นมาเสียหน่อย ทำเหมือนกับรอยยิ้มกว้าง ๆ จนนัยน์ตาโค้งคว่ำ เป็นภาพที่ทั้งดูน่ารักและขบขันอย่างเอ็นดูไม่น้อย

    เสียงหัวเราะพรืดหลุดออกมาเบา ๆ เพื่อนสาวส่ายศีรษะ "เพ้อเจ้อ" กล่าวตอบกลับก่อนถอนหายใจเบา ๆ ท่าทางเหมือนจะยังไม่หายเซ็งแต่ก็ดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว..ก็คือว่าภารกิจของเทนโชสำเร็จไปได้หน่อยแล้วนั่นแหละ เขาไม่อยากเห็นเพื่อนสาวมานั่งเศร้านั่งซึมนัก ทั้งที่ความจริงเธอก็เป็นคนสวย และมีเอกลักษณ์ความเป็นตัวของตัวเองในแบบของเธอแท้ ๆ

    ไอ้คนที่ช่างวิจารณ์แฟชั่นคนอื่นนี่เขาก็ช่างสรรหาปากมาพูดกันตลอดจริง ๆ นั่นแหละนะ..เฮ้อ


    example 4; let's talk about this later.

    ความรู้สึกหนักอึ้งเกาะกุมอยู่บนศีรษะ เทนโชพักใบหน้าตนเอาไว้กับฝ่ามือ ขณะที่ดวงตาปรือจ้องมองหน้ากระดาษหนังสือเล่มโตบนโต๊ะ เป็นสภาพที่เหมือนกับหุ่นยนต์แบตหมดร่างไม่ขยับเขยื้อน แข็งทื่ออยู่อย่างนั้นมาประมาณเกือบสิบนาทีแล้ว จนเป็นเหตุให้คนอายุมากกว่าอดรนทนไม่ไหว ต้องเปิดปากเอ่ยเรียกน้องชายเพียงคนเดียวของตนเข้าให้

    "เทนโช ถ้าง่วงก็ไปนอน"

    "....."

    "เทนโช"

    โทนเสียงเข้มกว่าเดิมหวังให้คนสะลึมสะลือรู้สึกตัว และ ได้ผล เจ้าของเส้นผมสีแอชบราวน์สะดุ้งเบา ๆ ก่อนหันมาจ้องหน้าเขาด้วยความเชื่องช้า เทนโชเหมือนประมวลผลอะไรสักอย่างไม่ทัน ขยับปากตอบพึมพำเบาหวิวในเวลาต่อมาว่า

    "ถึงเวลามื้อเย็นแล้วเหรอ"

    มันฟังยังไงของมันให้เป็นมื้อเย็นวะ..

    ลมหายใจถอนออกมาเสียหนึ่งเฮือก ชายหนุ่มนักศึกษาแพทย์ปิดหนังสือเล่มหนาในมือ อันที่จริงเขาก็มีสอบในเร็ววันเหมือนกัน แต่พอเห็นสภาพคนที่เพิ่งกลับมาจากการแข่งขันประจำจังหวัดแล้วมีสภาพแบบนั้น แถมยังมีสอบย่อยในอาทิตย์ถัดไปแล้วก็นึกสังเวชในใจไม่น้อย

    แต่ก็ช่วยไม่ได้ สำหรับเทนโช จะเบสบอลหรือเรื่องผลการเรียนก็สำคัญกับเขาทั้งนั้นนี่

    "ไปนอนไป ถ้าตื่นแล้วเดี๋ยวจะช่วยติวให้"

    "ชีสอะไรล่ะ..ฉันชอบซะที่ไหน"

    "ฉันบอกให้ไปนอน"

    "อยากกินป๊อปคอร์นจัง.." สติหลุดไปจริง ๆ แล้วใช่ไหมนั่น? "โธ่ ปวดหัวชะมัด — ช่างมันไปก่อนแล้วกัน เฮ้อ.." และเมื่อถอนหายใจเสร็จจนหมดปอด เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดเป็นอันเลิกสนใจสิ่งรอบตัว หยิบหนังสือบนโต๊ะเรียนโยนไปเก็บไว้ในกระเป๋า แล้วล้มลงไปนอนฟุ่บกับโต๊ะในทันที

    ชายหนุ่มได้แต่นั่งนิ่งมองน้องชายตัวเองอยู่ที่เดิม ก่อนจะหันไปมองเตียงนอนสีขาวนุ่มที่ตั้งอยู่ห่างไปอีกแค่สามก้าวเท่านั้น

    "..แล้วทำไมไม่ไปนอนบนเตียง"


    example 5; I just want to look at you.

    ขณะที่กำลังนั่งตักเค้กรสชาติหวานละมุนเข้าปากในร้านคาเฟ่หน้าตาน่ารัก ที่ใช้ความพยายามอย่างมหาศาลกว่าจะจับจองที่นั่งมาได้ ก็สัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งคอยจดจ้องมองมาจากคนร่วมโต๊ะฝั่งตรงข้าม เด็กสาวกะพริบตาเบา ๆ ในยามเมื่อเงยหน้าขึ้นพบกับดวงตาสีน้ำตาลสวยคู่นั้น เพิ่งจะรู้สึกตัวเอาตอนนี้เองว่าคู่เดทของตนไม่ได้แตะต้องของหวานตรงหน้าเลย เอาแต่นั่งยิ้มหวานพลางมองมาที่เธอได้สักพักแล้วต่างหาก

    "มีเค้กเปื้อนหน้าฉันเหรอ เทนโชคุง" มือบางยกแตะแก้มตัวเองด้วยท่าทีเลิ่กลั่กไม่ใช่น้อย เทนโชชะงักเบา ๆ เหมือนหลุดจากภวังค์เอาตอนนั้น

    "ขอโทษที ฉันแค่อยากมองเฉย ๆ น่ะ" สุดท้ายเขาก็เฉลยให้ฟัง ยิ้มแหยเล็กน้อยพลางหัวเราะ แหะ ๆ ออกมา "ทำให้รู้สึกแย่เหรอ?"

    "ก็เปล่าหรอก..แต่ทำไมล่ะ"

    เทนโชกระตุกยิ้มขึ้นมากกว่าเดิม นัยน์ตาเขายกหยีสวย ก่อนให้คำตอบที่อยู่ในใจตนออกมาโดยไร้ซึ่งความเก้อเขินใด ๆ แม้ว่าใบหน้าของคู่เดทจะเริ่มแดงเรื่อราวกับผลมะเขือเทศสุกจากคำพูดของเขาก็ตามที

    "วันนี้เธอก็น่ารักมาก ๆ อีกแล้ว ฉันเลยเผลอหันไปมองตลอดเลยน่ะสิ"


    อุปนิสัย

    •  If you fell in love with him, it's not strange at all.

    มังงะโชโจตาหวานมักเป็นหนังสือสุดฮอตฮิตของสาว ๆ วัยดอกไม้แรกแย้มทั้งหลาย เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมผู้ชายที่มีภาพลักษณ์เหมือนกับพระเอกโชโจมังงะอย่าง อิซามุ เทนโช จึงเป็นที่ชื่นชอบของใครต่อหลายคนมากมายนัก ผู้ชายผู้ขึ้นชื่อเรื่องความมีเสน่ห์ในสายตา รอยยิ้ม และท่าทางการกระทำแต่ละอย่าง การที่เขาเป็นตัวของตัวเองอยู่เสมอกลายเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่ง เทนโชมักแสดงบุคลิกของตนออกมาอย่างตรงไปตรงมา นั่นทำให้ผู้คนจดจำเอกลักษณ์ของเขาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกอย่างสีผม หน้าตา หรือการแต่งกายที่มีสไตล์โดดเด่นระดับว่าทำให้คนเดินสวนทางกันบนท้องถนนสามารถเผลอเคลิ้มหันมองตามได้ หรือจะเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกโดยไม่ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวคนอื่น ไม่ทำให้คนรอบตัวเกิดความไม่สบายใจ การสัมผัสเนื้อตัวเองก็ละเอาไว้หากไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้เทนโชยังเป็นที่รู้จักในฐานะ 'นักกีฬา' คนหนึ่งที่มีน้ำใจนักกีฬามาก ๆ อีกด้วย เมื่อรวบรวมองค์ประกอบทั้งหลายนี้เข้าด้วยกันแล้ว หลายคนจึงกล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเขาเป็นคนที่น่าหลงใหลไม่น้อยเลย

    เทนโชแสดงออกผ่านการกระทำของเขา เขาเป็นคนที่ไม่สามารถเก็บความรู้สึกเอาไว้ด้านใน จะเรียกได้ว่าไม่สันทัดเรื่องการเก็บอารมณ์ก็ว่าได้ ต่อให้ริมฝีปากปิดสนิท สายตาหรือท่าทางก็มักบอกความจริงออกมาได้ง่าย ๆ อย่างเช่นการหลบสายตาเวลาต้องโกหก ยกนิ้วเกาแก้มตอนประหม่า และดวงตาเป็นประกาย กับการจ้องคู่สนทนาตาไม่กะพริบเมื่อเกิดสนใจในสิ่งใดขึ้นมา หลายครั้งที่ผู้คนมักสนุกสนานกับการนั่งเดาท่าทีของเทนโช มันเหมือนกับลูกสุนัขตัวหนึ่งที่กำลังนั่งอึน ๆ อยู่หน้าเจ้าของ และเมื่อวางจานอาหารตรงหน้า หูกับหาง (ทิพย์) เป็นพลันยกขึ้นกระดิกด้วยดีใจทันใด เขามักยิ้มกว้างจนนัยน์ตาหยีเวลาที่รู้สึกดีใจเสมอ หรือถ้าโกรธก็ทำหน้าเรียบนิ่งและแสดงสายตาหงุดหงิด ส่วนเวลาที่รู้สึกทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะปฏิเสธคนยังไง ก็ชอบหัวเราะ แหะ ๆ ตลอดเลยล่ะ

    เทนโชไม่ใช่คนเฟรนด์ลี่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่คนปิดกั้น ว่ากันว่าคนทุกคนมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง และสำหรับเขา นั่นคือพื้นที่รอบตัวขนาดห้าเมตรครึ่ง ความสบายใจของเทนโชเกิดขึ้นเมื่ออยู่กับกลุ่มคนคุ้นเคยและคนสนิท เทนโชไม่ได้มีปัญหาเรื่องการสนทนากับคนนอก เขาตอบรับ ยิ้มให้ และทักทายคนรู้จักที่เดินผ่านไปได้เหมือนกับการทำกิจวัตรประจำวัน แค่การพูดคุยในระดับสนิทสนมหรือเรื่องส่วนตัวนั้น จะเป็นการดีกว่าถ้าได้คุยกับคนสนิท ซึ่งอันที่จริงเทนโชก็ไม่ได้สนิทกับคนยากอะไร เขาไหลไปได้กับคนแทบทุกประเภท ไม่เดือดร้อนเรื่องการคบเพื่อนมากนัก หรือถ้าเจอคนไม่ดีก็มีวิธีที่จะพาตัวเองให้ถอยห่างออกไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นคนธรรมดาที่จะสนใจเรื่องที่ชอบเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้าเป็นคนที่มีความชอบคล้าย ๆ กัน ก็จะสนิทด้วยได้ง่ายกว่าคนทั่วไปพอสมควร

    • actually, he's just a simple guy who in love with cute things.

    ว่ากันว่าบุคลิกแรกเห็นกับความเป็นจริงจะมีความต่างกันอยู่ไม่มากก็น้อย เทนโชเองไม่ได้พ้นจากคำกล่าวนั้นแต่อย่างใด เมื่อได้ทำความรู้จักกันและสังเกตผู้ชายคนนี้ไปสักระยะ หลายคนเลือกตัดสินให้ว่าเขาเป็นคนที่มีภาพลักษณ์เหมือนกับ 'ก้อนเมฆ' เป็นก้อนเมฆสีขาวปุยบนท้องฟ้ากว้างสีครามในฤดูใบไม้ผลิ ให้ความรู้สึกสะอาดและชวนผ่อนคลายเวลาอยู่ใกล้จากรอยยิ้ม คำพูด รวมถึงท่าทาง ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ใช้ชีวิตซีเรียสเคร่งเครียดจนเกินไป และสิ่งที่ทำให้ดูเหมือนก้อนเมฆสีขาวปุยมากที่สุด นั่นคือความซื่อตาใสในตัวของเขา เทนโชมักไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม และทำหน้าหมาอึนใส่คนที่เข้ามาพูดเชาว์ปัญญาปริศนาทายคำใส่เขาเบา ๆ แต่เพราะดวงดีก็เลยไม่มีเคราะห์ร้ายใดตามมาจากการตามชาวบ้านไม่ทันนี้ (แค่บางทีด้วยเพราะอารมณ์ซื่อ ๆ นี้ก็เลยโดนเพื่อนแกล้งหยอกเล่นบ้างอะไรบ้าง นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่มักจะแพ้ในเกมที่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมไหวพริบตลอดเลยด้วย แถมเชื่อคนง่ายอีกต่างหากนั่น..)

    อันที่จริงมันก็มีสาเหตุอยู่เหมือนกันที่เขาเป็นคนซื่อ ๆ แบบนั้น เพราะเทนโชเป็นพวกที่มีขอบความสนใจค่อนข้างจำเพาะเจาะจง ตัวเทนโชเป็นคนที่มีความสนใจต่อสิ่งรอบตัวค่อนข้างต่ำ เทนโชมักหลงลืมว่าห้องน้ำในโรงเรียนมีที่ไหนบ้าง อีกทั้งเขายังจำสูตรคณิตศาสตร์หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยได้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นเหตุมาจากการที่เขาไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางในโรงเรียน สูตรคณิต หรือทฤษฎีวิทยาศาสตร์และวิชาการทั้งหลาย เขาชอบอยู่ไม่กี่เรื่อง และไอ้ไม่กี่เรื่องนั่น ก็เป็นสิ่งที่เขามักทุ่มเทให้กับอย่างเต็มที่เสมอมา เทนโชไม่ทำเป็นเล่นกับเรื่องที่เขาชอบหรือสนใจเลย แถมบางทีก็โฟกัสมากไปด้วยซ้ำ ถึงขนาดที่ว่าพอไปโฟกัสกับอะไรปุ๊บ ก็จะไม่ค่อยรับรู้เรื่องรอบตัวเลย เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาจริงจังกับการเล่นรูบิคมาก พอทำเสร็จ เงยหน้ามาอีกทีทุกคนก็หายไปหมดแล้ว แล้วก็มาได้ความทีหลังว่าเพื่อนเรียกจนคอจะแตกแล้วเขาก็ยังไม่ได้ยิน สุดท้ายชาวบ้านเขาเลยคิดตรงกันว่าควรปล่อยเทนโชทิ้งไว้คนเดียวจนกว่าเป้าหมายของเจ้าตัวเขาจะลุล่วงสำเร็จนั่นแหละ เพราะถึงบอกให้เลิก ถ้าไม่ถึงขั้นโกรธใส่กันก็คงไม่รับรู้ด้วยอยู่ดียังไงล่ะ

    แต่ถึงบางครั้งเทนโชจะโฟกัสกับหลายสิ่งมากเกินไปแค่ไหน ก็ต้องยอมรับเลยว่าเขาดูเท่มากจริง ๆ ตอนที่แสดงสีหน้าจริงจังออกมา คนรอบตัวเขาบอกว่า ภาพของเทนโชที่ทำให้ใครหลายคนใจเต้นมากที่สุด นั่นคือภาพสีหน้าในหนึ่งวินาทีก่อนที่เขาจะขว้างลูก ถึงจะฟังดูแปลกไปสักหน่อย แต่อาจเพราะว่าปกติเขาชอบยิ้มด้วยสีหน้าท่าทางสบาย ๆ แบบนั้น พอเปลี่ยนมาทำหน้าตาจริงจัง ก็เลยเหมือนเป็น rare mode ที่ทำให้ใจเต้นตึกตักสุด ๆ ไปเลยน่ะสิ ( — ให้สัมภาษณ์โดยเหล่าแฟนคลับของ อิซามุ เทนโช) ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นแค่เฉพาะตอนเล่นเบสบอลหรอก ถ้าเขาตั้งใจกับอะไรสักอย่างก็จะทำสายตาจริงจังตลอดนั่นแหละ อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงลงความเห็นว่าโหมดหมาน้อยผู้ชื่นชอบในตุ๊กตาแกะนุ่มฟูของเทนโชเป็น the best look of Isamu Tenshou อยู่ดีล่ะนะ

    • although he looks like a chill guy, there are some rules.

    เทนโชเป็นมนุษย์ไม่ซีเรียส ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยโกรธใครเท่าไหร่ ให้อภัยคนง่ายมากกับในเรื่องที่ให้อภัยกันได้ เวลาโดนเพื่อนแกล้ง ถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องจริงจังด้วยมากนัก เขาก็จะทำแค่ถอนหายใจ หรืออาจจะบ่นบ้างนิดหน่อย แล้วเดี๋ยวสักพักก็หายหงุดหงิดไปเองโดยอัตโนมัติอยู่ดี หรือเวลาเจอคนทำตัวไม่ดีใส่ ก็จะเลือกเมินมากกว่าไปต่อกรโวยวายด้วย ค่อนข้างรักสงบก็ว่าได้ และทั้งหมดทั้งมวลนี่คือกฎที่เขาเอาไว้ใช้กับตัวเองเท่านั้น เทนโชคิดว่า ตราบใดที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น เขาก็คิดว่ามันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก เทนโชไม่โมโหเวลาเพื่อนแกล้งเขา แต่เขามักทนไม่ได้เมื่อเห็นคนถูกทำตัวแย่ ๆ ใส่ เช่น การล้อเลียนใส่ด้วยถ้อยคำไม่ดี หรือการใช้ความรุนแรงทำร้ายคนอื่น คนที่เคยมีปัญหากับเขาเคยพูดเอาไว้ว่า 'เทนโชเป็นพวกสอดไม่เข้าเรื่อง' เพราะชอบไปเดือดเนื้อร้อนใจแทนคนอื่น ถึงอย่างนั้นเทนโชก็ไม่แคร์อยู่ดี ให้เมินพฤติกรรมที่ไปก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเขาแบบนั้น บอกตามตรงนะว่าเขาทำไม่ลงหรอก

    เทนโชมีกลุ่มแฟนคลับ เรื่องนี้เขารับทราบและรู้ดี ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้ดีใจอะไรมากมาย แค่ขอบคุณที่ให้ความรักต่อกัน และเขาก็ไม่ได้ไปไล่ตะเพิดกลุ่มแฟนคลับเหล่านั้นเช่นกัน แค่ว่าถ้าจะมาตามดูเขาตอนซ้อมหรือตอนแข่ง ก็ช่วยอย่าก่อความวุ่นวายให้ชาวบ้านเขาก็พอแล้ว หรือถ้าจะชอบเขา ก็ช่วยกรุณาชอบแบบที่ไม่ทำให้พ่อแม่และตัวเองเดือดร้อนด้วยนะ (เทนโชเคยถูกตามสตอล์กครั้งหนึ่งจากเด็กผู้หญิงม.ต้น พอจับได้ เขาก็นั่งเทศนาเธออยู่นานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว) เห็นชิว ๆ สบาย ๆ อะไรก็ได้แบบนั้น บทจะดุพ่อคุณเขาก็ดุตาแตกเชียว เรียกได้ว่าวิญญาณคุณพ่อเข้าสิงเชียวล่ะ แต่ว่า..เอาเข้าจริงเขาก็ทำได้แค่ดุนั่นแหละนะ เทนโชไม่ทำอะไรรุนแรงกว่านั้นหรอก เวลาดุก็ไม่ด่ากราดอะไรด้วย แค่ว่าเพราะโกรธ เสียงเลยดูเข้มกว่าทุกที ดุไปก็แค่อยากให้รู้แล้วไม่ทำพฤติกรรมไม่ดีอีกแค่นั้นเอง หรือถ้าพูดยังไงก็ไม่ยอมฟัง ไอ้ที่แรงสุดในชีวิตเท่าที่จะพูดใส่ได้ก็ต้องพูดไปล่ะนะว่า 'ถ้ายังทำแบบนี้อยู่ จะไม่สนใจแล้วนะ' (ใช้ได้ผลดีกับผองเพื่อนและเหล่าแฟนคลับตามประสาหนุ่มป๊อปฯที่เป็นที่รักของปวงชน) แล้วหลังจากนั้น เทนโชก็จะเมินอีกฝ่ายไปเลย เมินแบบไม่สนใจ เหมือนไม่อยู่บนโลกนี้ไปเลยด้วย

    หน้าตาเหมือนคนใจดี ซึ่งก็ใจดีจริง ๆ เหมือนหน้านั่นแหละ แค่สามารถทำตัวใจแข็งได้อย่างน่ากลัวระดับว่าหินผายังนึกอยากกราบคารวะ เทนโชให้โอกาสคนได้ แต่เขาไม่ได้ให้พร่ำเพรื่อขนาดนั้น ถ้าหลายครั้งแล้วไม่ยอมปรับตัว มันก็ไม่เหลือทางเลือกอื่นให้เขาอีกนอกจากต้องตัดไม่ใช่เหรอ? ตัวเทนโชเองก็ไม่อยากไปบังคับหรือเปลี่ยนอะไรใครด้วย ถ้านิสัยมันเข้ากันไม่ได้ พยายามแล้วยังไงก็ไม่ได้จริง ๆ เขาก็คงได้แต่เลือกถอยออกไปเองนั่นแหละ..

    • he gives plus energy to everyone by natural.

    ก้อนพลังงานบวกเดินได้ ถึงจะไม่ใช่ทุกคน แต่เวลาได้มาอยู่ใกล้เทนโช พวกเขาก็มักรู้สึกดีขึ้นได้ด้วยหลากหลายสิ่งจากตัวผู้ชายคนนี้ เอาจริงแค่เห็นรอยยิ้มของเทนโชก็รู้สึกเหมือนถูกจุดไฟในหัวใจแล้ว ยิ่งเจ้าตัวเป็นคนทัศนคติดียิ่งยอดเยี่ยมเข้าไปใหญ่ ที่บ้านเทนโชสอนเขามาดีมาก ให้ความรู้ระมัดระวังในทุกเรื่องเท่าที่จะให้ได้ จะเห็นได้ว่าเทนโชไม่มีพฤติกรรมไม่ดีอย่างการเหยียดบุคคล หรือการแสดงความคิดเห็นเชิงด่าทอสาดเสียเทเสียใครเลย เทนโชไม่นินทาชาวบ้านด้วยซ้ำ พอจะพูดถึงคนอื่นแบบไม่ดีลับหลังก็รู้สึกกระอักกระอ่วนโดยอัตโนมัติ ปลีกตัวออกจากวงสนทนาทันใด (อาจด้วยเหตุนี้ เขาเลยไม่รู้เรื่องชาวบ้านเท่าไหร่ แต่ก็ช่างเถอะ..) เทนโชจะชอบมองด้านดีมากกว่าด้านเสีย เป็นคนคิดแง่บวก ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้เข้าขั้นว่าเป็นพวกโลกสวยแต่อย่างใดหรอก

    เขาเป็นคนที่พูดจาได้น่าฟังมากคนหนึ่ง เป็นนักให้กำลังใจตัวยงด้วยเหตุนี้ ไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง ธรรมชาติการพูดจาของเทนโชทำให้สิ่งที่เขาพูดมักมีแต่เรื่องน่าฟังเสมอ แถมไป ๆ มา ๆ จะดูเป็นอารมณ์ปากหวานไม่รู้ตัวอีกต่างหาก ขยันชมคนเก่งยิ่งกว่าอะไรดี เจอหน้ากันก็ทักทายและบอกว่า 'วันนี้แต่งตัวน่ารักจังนะ' พร้อมยิ้มจนหวานได้อย่างหน้าตาเฉย ไม่ได้ทราบเลยว่าทำอัตราการเต้นของหัวใจชาวบ้านทะลุจนเกินพอดีตลอด ซึ่งโดยปกติเทนโชจะไม่ทักคนอื่นด้วยคำที่ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจ เว้นแต่จะรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูอิดโรยมาก ๆ ในกรณีนี้เขาจะถามด้วยความห่วงใยเสียมากกว่า หลังจากนั้น ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย อย่างไปซื้อยาให้ หรือช่วยพาไปห้องพยาบาล และเพราะเขาเป็นนักกีฬาที่ดูแลตัวเองอยู่เสมอ เทนโชจึงสังเกตอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ปวดไข้ และอาการบาดเจ็บภายนอกได้เร็วมาก รวมถึงจะโกรธด้วยถ้าเกิดคนรอบตัวดื้อดึงฝืนตัวจนสุขภาพเสีย เป็นความโกรธแบบที่หน้าบึ้งตึง แต่มือก็จะช่วยดูแลเขาไปด้วยนั่นแหละ

    พฤติกรรมของเทนโชที่เป็นแง่บวกอีกหนึ่งอย่างนั่นคือ ปฏิกิริยาลูกโซ่ของความมั่นใจ โดยพื้นฐาน เทนโชเป็นคนที่มั่นอกมั่นใจในตัวเองมาก เขากล้าคิด กล้าแสดงออก และกล้าทำในสิ่งใหม่ที่สนใจ เหตุนั้นเขาจึงมีความคิดที่สร้างสรรค์พอตัวเพราะไม่ถูกครอบโดยกรอบของสิ่งพื้นฐาน เขาจึงเป็นบุคคลที่เหมาะแก่การเป็นผู้นำ ไม่พอ นิสัยของเขายังช่วยผลักดันให้คนรอบตัวมีความมั่นใจ ทั้งคำชม คำแนะนำ หรือการที่เขาเป็นตัวของตัวเองให้เป็นแบบอย่างคนอื่น ๆ พูดก็พูดแล้ว ผู้ชายคนนี้น่ะ ดีถึงขนาดที่ว่าเป็น role model ของใครหลายคนเชียวนะ

    • everyone has their line that other people shouldn't cross.

    คนเราก็มีเรื่องที่ทนด้วยไม่ไหวกันทั้งนั้น คนที่ไม่ค่อยโกรธใครแบบเทนโชก็ด้วย สำหรับเขาแล้ว เรื่องที่ทำให้เหนื่อยใจเข้าขั้นหงุดหงิดได้มีอยู่หลัก ๆ สามอย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ การบอกว่าเด็กที่เรียนไม่เก่งนั้นไม่มีสิทธิ์เล่นกีฬา ใช่ พ่อคุณแสนดีคนนี้ เขามีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่งนั่นคือการที่เทนโชเรียนไม่เก่งเอาซะเลย วิชาการกับเทนโชเหมือนปรปักษ์กัน ไม่เคยเข้ากันได้ และไม่เคยจะดีขึ้นสักที ทุกคนนี้แค่พอลากตัวเองให้ผ่านมาได้แบบคาบเส้นก็รู้สึกเหมือนจะตายในทุก ๆ การสอบแล้ว ไม่ใช่ว่าเทนโชไม่พยายามด้วย สมองของคนเรามันก็ไม่ได้รับสิ่งต่าง ๆ ได้เท่ากัน หลายคนเองก็เข้าใจ แต่บางคนก็ไม่ได้เข้าใจ แล้วมาพูดว่าการที่เขาเรียนไม่เก่งนั่นเพราะเขาเอาแต่สนใจกีฬา เทนโชเกลียดทัศนคตินี้ หรือต่อให้เขาจะเรียนไม่เก่งเพราะเอาแต่ฝึกซ้อมกีฬาจริง ๆ เขาก็ไม่เข้าใจว่ามันผิดอะไร เด็กเรียนเก่งเท่านั้นเหรอถึงจะเป็นเด็กที่ประสบความสำเร็จ? อย่ามางี่เง่ากันหน่อยเลย ทุก ๆ คนเขาก็มีความถนัดเป็นของตัวเองกันทั้งนั้นนี่

    เรื่องที่สอง นั่นคือพฤติกรรมการโกงทุกรูปแบบ เทนโชเกลียด unfair play มากที่สุด สำหรับเขาที่ทุ่มเทกับการทำสิ่งต่าง ๆ เมื่อเจอพวกฉวยโอกาสเอาเปรียบคนอื่นอย่างนั้น มันก็ทำให้เขาหงุดหงิดโมโหเลือดขึ้นหน้าได้ตลอด ทั้งการเล่นผิดกติกาในสนามแข่ง การโกงข้อสอบ หรือกระทั่งการโกงเงินราคาของต่าง ๆ ถ้าเพื่อนรอบตัวเขาทำพฤติกรรมแบบนั้น เขาก็คงผิดหวังมาก ไม่ว่าเหตุผลมันจะเป็นอะไรก็ตาม นอกจากนี้เทนโชเองก็ไม่ได้ชอบคำโกหกมากนัก มันกระดากปากทุกครั้งที่ต้องพูดโกหก รวมถึงรู้สึกแย่ด้วยถ้าตัวเองถูกคนใกล้ตัวโกหก คงจะดีกว่าล่ะนะถ้าเราพูดกันอย่างจริงใจ สำหรับเขา ถึงความจริงมันจะทำให้เศร้า ก็คงดีกว่าการโกหกกันเพื่อให้สบายใจเป็นไหน ๆ เลยล่ะ

    สุดท้าย นั่นคือการไปยุ่มย่ามกับความชอบของคนอื่น เทนโชมีความชอบที่ไม่ค่อยเหมือนกับภาพจำสมัยก่อนของคนหัวโบราณ อย่างแรกนั่นคือการแต่งตัวของเขา หลายครั้งมันเป็นแบบ unisex แม้ว่าเทนโชจะไม่ใช่คนเลือกแฟชั่นเองเป็นส่วนมาก เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับสวมใส่รองเท้าส้นสูง หรือเครื่องแต่งตัว เครื่องประดับของสตรี เวลาแต่งออกมาดูดีเขาก็ชอบด้วยซ้ำ เทนโชคิดว่าไม่ว่าเพศไหนก็สามารถสวมเสื้อผ้าได้ทุกแบบ การมาบอกว่าผู้ชายต้องใส่กางเกง รองเท้าส้นสูงเป็นรองเท้าสำหรับผู้หญิง เรื่องพวกนั้นมันเก่าตกยุคไปหมดแล้วสำหรับเขา รวมไปถึงความชอบอย่างพวกสีหรือลักษณะ เทนโชชอบสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ แกะ และตุ๊กตาตัวนุ่มฟูมาก แต่ก็ชอบมีคนบางกลุ่มมาพูดใส่เขาว่า 'ผู้ชายอะไรมีความสุขกับตุ๊กตา' แน่นอนว่าทำเทนโชคิ้วกระตุกได้ง่าย ๆ แต่เขามักไม่ค่อยให้ค่ากับคนพวกนี้เท่าไหร่ หรือถ้าเส้นความอดทนขาดจริง ๆ ก็อาจมีการขอโทษคุณแม่ไว้ในใจก่อน แล้วชูนิ้วกลางใส่หน้าอีกฝ่ายบ้างก็เป็นได้ 

    • the low-energy mode will turn on at the end of days.

    บางครั้งคนเราก็มีช่วงที่ใช้พลังงานกันไปจนหมดก๊อก แล้วติดสถานะสมองแบล้งค์ เข้าสู่โหมด low-energy กันอยู่เหมือนกัน เทนโชมักเป็นแบบนั้นบ่อย ๆ ตอนช่วงเย็นหลังกลับไปถึงบ้านในวันที่เหนื่อยจัด อย่างเช่นพวกวันแข่งขัน วันสอบมิดเทอม/ไฟนอล หรือวันที่ไปเลี้ยงฉลองกับพวกเพื่อน ๆ มาอะไรเถือกนั้น ถ้าเมื่อไหร่เขาใช้พลังงานไปจนหมดหลอด เทนโชจะเข้าสู่สภาวะพูดน้อย นั่งเหม่อ ตาปรือทันที เขาจะไม่ค่อยหือค่อยอือเท่าไหร่ อันที่จริงต้องบอกว่าไม่ได้ฟังใครเลยมากกว่า เพราะสติคิดแต่ว่า อยากกลับบ้าน อยากอาบน้ำ หิวข้าว ง่วงแล้ว เมื่อไหร่จะได้นอนเนี่ย วนไปวนมาอยู่แค่นี้ ก็คือใครมาพูดอะไรตอนนี้ พ่อคุณปัดตกหมด ไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจอะไรทั้งนั้น ต่อให้เป็นเรื่องที่ชอบมาก ๆ ก็พร้อมวางทิ้งแล้วเดินหนีไปนอนจมเตียงได้ดื้อ ๆ เลยด้วย

    โหมดพลังงานต่ำนี้มีสภาวะคงทนตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนั้นจนถึงเช้าของวันถัดไป หรือถ้าวันถัดไปเป็นวันหยุด เทนโชก็จะคงโหมดนี้ไว้จนหมดวันหยุดนั่นแหละ กิจวัตรประจำวันก็จะวนไปแค่ นอน กิน นอน เล่นเกม กิน แล้วก็นอน ไม่ทำอะไรเลยนอกจากผ่อนคลายสมองกับพักผ่อนไปวัน ๆ เอาง่าย ๆ คือหลังแข่งหรือสอบเสร็จ ถ้าติดวันหยุดเมื่อไหร่ เทนโชจะขังตัวเองไว้ในบ้าน และไม่ยอมไปเที่ยวไหนอย่างเด็ดขาด ต่อให้เอาช้างทั้งโคลงมาขุดเขา เขาก็ไม่ไปหรอก ทางเดียวที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับเทนโชก็มีแค่มาหาเขาที่บ้านนั่นแหละ แล้วเดี๋ยวเทนโชก็จะชวนคุณมานั่งดู netflix ไปเคี้ยวป๊อปคอร์นไป กับหาเกมกระดานหรือเกมเพลย์มาให้คุณเล่นแก้เบื่อด้วยกันกับเขาเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก แค่ไล่เพื่อนกลับไม่ลง เลยชวนมาพักผ่อนด้วยกันซะเลยแล้วกันแค่นั้นเอง

    ใด ๆ ก็ตาม สมองเทนโชช่วงนี้จะเบลอเป็นพิเศษ เขาพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะว่าชอบเหม่อตลอด เลยจับประเด็นเรื่องที่ฟังไม่ทัน สมองล้าร่างหนักไปหมด ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ปล่อยเขานอนงีบไปเถอะ ถึงเทนโชจะนอนยาวข้ามวันข้ามคืนเป็นสิบชั่วโมง ก็ไม่ต้องปล่อยปลุกเขาหรอก ปล่อยให้นอนไปเรื่อย ๆ แล้วพอชาร์จแบตเต็มพิกัดเรียบร้อย พ่อคุณเขาก็จะตื่นกลับมาอยู่ในโหมด active เหมือนเดิมได้เองนั่นแหละ

    • everything of you is his best.

    มนุษย์คลั่งรัก2020 นับแต่นี้ และตลอดไป (?) เขาเป็นคนจำพวกที่ตกหลุมรักได้ยาก เพราะมันไม่แน่ไม่นอนเอาเสียเลย สเปคของเขาฟังแล้วเหมือนหาได้ง่าย ทว่าก็ใช่จะพบเจอได้บ่อยขนาดนั่น อีกทั้งยังมีเรื่องของความเข้ากันที่จะทำให้ 'ความต้องตา' ใน first impression กลายเป็น 'การตกหลุมรักโดยสมบูรณ์' นั่นอีก การตกหลุมรักของเทนโชเป็นอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป เหมือนการหยดน้ำลงในขวดทีละนิด ทีละนิด เติมเต็มไปเรื่อย ๆ จนมันล้นออกจากขวดแก้ว และสุดท้ายก็กลายเป็นทะเลของความรัก เพราะเทนโชนั้นเป็นคนจำพวกว่า 'เมื่อได้รักแล้ว ก็จะรักทั้งหมดที่เป็นคุณ' เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่ทุกสิ่งที่เป็นคน ๆ นั้น มันจะทำให้เขาใจเต้นแรง รู้สึกมีความสุข และอยากอยู่ใกล้เสมอ ไม่ว่าอะไรก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ยิ้มได้ทั้งนั้น แค่การได้มองอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้เขาหัวใจพองฟูได้แล้วด้วยซ้ำ

    ความรักเป็นสิ่งพิเศษ คนรักเองก็เป็นสิ่งล้ำค่า หากถึงจะรักมากมายแค่ไหนก็ไม่เคยล่วงเกินเลย เทนโชให้ความสำคัญกับเรื่อง consent มาก ทั้งในเรื่องที่เป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย (โซเชี่ยล ที่พัก เรื่องส่วนตัว ฯลฯ) หรือจะเป็นเรื่องการสัมผัสก็ดี หากอยากสัมผัสมือคุณ ก็คงมองตา ใช้ปลายนิ้วแตะน้อย ๆ เพื่อเป็นการบอกก่อน หากว่าอีกฝ่ายไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธหรืออึดอัดใจ เขาก็อยากกุมมืออีกฝ่ายไว้ให้แน่นที่สุด เทนโชใช้สายตาเพื่อขออนุญาต และเพราะเขาแสดงมันออกมาอย่างชัดเจนที่สุด จึงไม่จำเป็นต้องมีคำพูดเลยด้วยซ้ำ ที่แน่นอนที่สุดนั่นคือเขาจะไม่ล่วงเกินคุณแน่นอนหากว่าความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจนหรือยังไม่ได้รับอนุญาตจากคุณ อย่างมากที่สุดก็คงเป็นแค่การจูบเบา ๆ ที่ปลายนิ้วเบา ทั้งนี้เทนโชเป็นคนที่ค่อนข้างตามใจคนอื่นเก่ง ยิ่งถ้าเป็นคนรักของตัวเองก็คงไม่ต้องพูดถึงเลย แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องสุขภาพหรืออะไรที่อันตราย เขาก็จะเข้มงวดขึ้นมาหน่อย..ก็เพราะว่าเป็นห่วงนั่นล่ะนะ

    ใด ๆ ก็ตาม เทนโชในตอนนี้ไม่มีความสนใจในเรื่องของความรักแต่อย่างใด มีสาว ๆ เข้ามาสารภาพรักบ่อย เจอผู้หญิงมามากหน้าหลายตา ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจต้องตาอะไร แต่ถ้าจะถามว่าตอนนี้เขาคลั่งรักไหม ก็คงต้องตอบว่าใช่..คลั่งรักเบสบอลยังไงล่ะ เจ้าผู้ชายคนนี้น่ะนะ เอะอะไรก็ต้องเบสบอล หายใจเข้าเป็นเบสบอล หายใจออกก็ยังเป็นเบสบอล สมองนึกวนแต่เรื่องการพัฒนาทักษะความสามารถกีฬาด้านนี้ของตน วันว่าง ๆ ก็ไปฝึกซ้อมอยู่บ่อยครั้ง จมอยู่กับสนามแข่งมันทั้งวันยังเคยทำมาแล้ว แล้วในชมรมก็เจอพวกเพื่อน ๆ นักกีฬาหน้าตาคุ้นเคยกันวนไปวนมา เป็นอีหรอบนี้แล้ว มันจะไปชอบหรือรักใครได้ยังไงกันล่ะ..แต่เอาเถอะ เทนโชไม่รีบหรอก หม่าม๊าก็เคยพูดไว้ด้วยนะ ว่าความรักเนี่ย บทจะมา เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ

    • he's never said love word for them since the start.

    เทนโชเป็นผู้ชายที่ดี เขาเป็นคนที่หลายคนในความเห็นว่าในเรื่องทัศนคติ ความสามารถ และพฤติกรรมของเขานั้นอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจอย่างมากต่อบุคคลอื่น ทว่า อย่างไรแล้วเขาก็เป็นเด็กอายุสิบเจ็ดคนหนึ่ง มีความเป็นเด็กน้อยในบางส่วน รวมถึงแง่มุมมองที่อาจจะไม่ได้กว้างมากนัก เขาไม่ใช่พวกที่มีประสบการณ์เยอะมากมาย เพราะถึงจะกล้าคิดกล้าทำ ทว่าก็มักหมกตัวอยู่กับเรื่องที่ชอบเสียมากกว่า บางครั้งเมื่อต้องพบเจอกับเรื่องใหม่ไม่คุ้นชินก็อาจแสดงอาการประหม่าเล็กน้อยในตอนแรก แต่ถ้าได้เรียนรู้ในภายหลัง ย่อมไม่ยากที่จะทำให้เขาปรับตัวให้คุ้นชินกับสิ่งรอบตัวได้ แค่ว่าอาจจะดีหน่อยถ้ามีคนสอนเขาบ้าง ซึ่งเทนโชจะเป็นคนที่ให้อารมณ์เหมือนเด็กช่างใฝ่รู้ ถ้าใครอยากสอนเขาเรื่องอะไร เขาก็จะตั้งใจฟัง ตั้งใจเรียนรู้ ถ้าสนใจก็จะศึกษาต่อยอด ถ้าไม่ก็แค่เก็บมันไว้เป็นความรู้อย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความจำของเขาไม่ได้ดีมากนักหรอกถ้าเป็นเรื่องการเรียนน่ะ..

    ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนช่างเก็บความลับนัก แต่ก็ไม่ใช่คนที่ชอบพร่ำพูดแต่เรื่องของตัวเองให้คนอื่นฟัง เหมือนกับว่าถ้าไม่ถาม เขาก็จะไม่พูดออกไป ดังนั้นหลาย ๆ คนที่ไม่ได้สนิทมักจี่กันดีจึงไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับครอบครัวของเทนโช เว้นแต่เพื่อนสนิทที่ได้ไปเที่ยวเล่นที่บ้านอิซามุบ่อย ๆ พวกเขาจะได้รู้ความจริงหนึ่งประการ นั่นคือสองพี่น้องตระกูลอิซามุนั้นไม่ถูกกันอย่างแรง เด็กดีของทุกคนเมื่อเจอหน้าพี่ชายก็มักมีการจิกกัด ทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ่อย ๆ แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่กลับเป็นเรื่องเล็กยิบย่อยแทบทุกประการชวนให้ปวดหัวกุมขมับ แล้วพอถามเหตุผล เทนโชก็ตอบได้แค่ว่าเขาไม่ชอบพี่ชายของเขา (เหมือนอย่างที่พี่ชายเองก็พูดเสียงแข็งว่า 'แล้วใครเขาชอบนายไม่ทราบ' กลับมาอย่างไว)

    ถึงอย่างนั้น จากคำให้การณ์ของคุณนายประจำบ้านอิซามุ และการช่างสังเกตสังกาของเพื่อน ๆ รอบตัว ค้นพบว่าความจริงแล้วไอ้ที่ว่าเกลียดกันนั่น ก็แค่ปากไม่ตรงกับใจกันไปอย่างนั้น เหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องของพี่น้องผู้ชายสองคน ที่ทำให้พวกเขายากจะญาติดีกันได้เมื่ออยู่ต่อหน้ากัน เพียงแต่ไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดชังที่รุนแรงอะไรต่อกันเลย เชื่อเถอะว่าถ้าอีกฝ่ายขอความช่วยเหลือ ถึงตอนนั้นจะโกรธจะเคืองกันหลังทะเลาะเสร็จด้วยเรื่องอะไรอยู่ พวกเขาย่อมให้ความช่วยเหลือพี่น้องของตัวเองโดยไม่สนข้อแม้แน่ เพราะว่าคนตระกูลอิซามุน่ะ รักกันดียิ่งกว่าใครทั้งหมดเลยน่ะสิ


    ประวัติ:

    [ bless your day ]


    ชอบ

    • แกะ [เทนโชมีเสื้อยืดลายแกะอยู่ในตู้เยอะพอ ๆ กับข้าวของที่มีลวดลายเจ้าแกะตัวขาวปุยนุ่มฟู แต่อันที่จริงแล้วจะสีอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ แกะสีขาว สีเขียว สีดำ สีแดง ไม่ว่าเป็นสีอะไร แกะบนโลกนี้ก็น่ารักกันหมดทุกตัวนั่นแหละเนอะ]

    • ตุ๊กตา [เหตุผลสั้น ๆ คือมันน่ารักและนุ่มมาก พอนอนกอดก็จะหลับปุ๋ยไปเลย]

    • เบสบอล [สิ่งเดียวที่ต่อให้โลกแตกเขาก็จะไม่มีวันทิ้งมัน เทนโชคิดว่าเขาคงเล่นเบสบอลแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะได้เป็นนักกีฬาอาชีพไหม หรือต้องทำงานอื่นยังไง เขาก็ยังหวังให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่ตนรักเสมอต่อไปจนถึงวันที่เขาขว้างลูกไม่ได้อีกแล้ว]

    • ข้าวโพด [อร่อยดีนะ — ไม่ชอบเหรอ?]

    • น้ำเลม่อน [ชอบดื่มเพื่อกระตุ้นให้ตัวเองกระตือรือร้นบ่อย ๆ เขาชอบน้ำเลม่อนที่หวานอมเปรี้ยว แต่จะไม่ชอบน้ำผลไม้สกัดกล่องเท่าไหร่]

    • ของอร่อย [นิสัยอย่างหนึ่งที่กล้ายืดอกยอมรับคือเป็นคนกินจุที่ชอบกินมาก ดังนั้นจะมีความสุขสุด ๆ เวลาได้กินของอร่อย แถมหยุดกินยากด้วย]

    • วาซาบิ [อันที่จริงก็กินแล้วหน้าแดงควันพุ่งเหมือนกันนะ แค่เหมือนจะเสพติดการทรมานตัวเองทางอ้อม กินซูชิทีก็จ้วงซะจนคนข้าง ๆ แทบสำลักแทนด้วยกลิ่นฉุนซะแล้ว]


    ไม่ชอบ

    พี่ชาย  [ถ้าถามเหตุผลตรง ๆ ก็คงตอบไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าไม่ชอบนั่นแหละ (P.s. คุณนายอิซามุให้สัมภาษณ์ว่าสองพี่น้องบอกว่าไม่ชอบหน้ากันตลอด แต่บทตอนน้องชายกลัวผี ก็ชอบไปเคาะห้องขอนอนกับพี่ชายประจำ แถมคนพี่ก็ไม่เคยปฏิเสธซะด้วยสิ)]

    • ชีส [เลี่ยน..ไม่อร่อยเลยสักนิด]

    • Junk Food [อาจเพราะว่าเขาเป็นนักกีฬาด้วย เลยไม่ถูกโฉลกกับอาหารขยะนัก เพราะว่ากินแล้วน้ำหนักขึ้นจนกล้ามเนื้อเหลวหมดเลยน่ะสิ!]

    • อาหารจำพวกเส้น [เคยกินด้วยความเร่งรีบ สูดเส้นเข้าไปจนสำลักเกือบตาย..]

    • ป๊อปคอร์นที่เย็นแล้ว [ไม่อร่อย!!]


    เกลียด

    • โดนบอกว่าถ้าไม่ฉลาดก็ไม่ควรเล่นกีฬา [มนุษย์บนโลกจะต้องทำได้เหมือนกันหมดเลยรึไง? แล้วเด็กนักเรียนแบบเขาจะต้องเรียนเก่งเท่านั้นเหรอถึงจะเก่งถึงจะดีในสายตาพวกผู้ใหญ่? น่ารำคาญเป็นบ้าเลย..]

    • การที่มีคนมาบอกว่าผู้ชายห้ามใส่เครื่องแต่งกายหรือเครื่องประดับของผู้หญิง [ถ้าเขาพอใจจะใส่ เขาจะใส่อะไรมันก็ควรจะใส่ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องมาพล่ามบอกว่าไม่เหมาะหรือดูตลกเวลาเขาใส่ส้นสูงหรอก มันฟังดูแล้วไม่มีตรรกะเท่าไหร่]

    • การโกง/ทุจริต [สายเลือดนักกีฬาเต็มเปี่ยม เกลียดการโกงเกมเข้าไส้ เส้นสายและทุกอย่างที่ไม่เท่าเทียมยุติธรรม ล้วนทำให้เทนโชตบะแตกได้ง่าย ๆ]


    กลัว

    • ฟ้าผ่า [เสียงฟ้าผ่ามักทำให้เขาตกใจกลัว วันที่ฝนตกหนัก เทนโชมักสวมเฮดโฟนอันใหญ่เพื่อเปิดเพลงอัดหูตัวเอง และมักหนีไปหลบในตู้เสื้อผ้าประจำ ซึ่งก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก แค่มันหนาพอจะช่วยกั้นเสียงได้บ้างก็แค่นั้นแหละ / และเนื่องจากกลัวฟ้าผ่า เทนโชจึงมักเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกไปข้างนอกบ้านในวันที่มีพยากรณ์อากาศว่าฝนตก เว้นแต่ว่ามีเหตุสำคัญอย่างสอบล่ะนะ (ถ้าแค่เรียนเฉย ๆ บางวันก็แอบโดดอยู่เหมือนกัน)]

    • ผี [ไม่เชิงว่ากลัวจริงจังนัก แค่บางทีมันฟุ้งซ่านไปเรื่อยแค่นั้นเอง ถึงอย่างนั้นก็เป็นคนจำพวกชอบดูหนังผี หนังสยองขวัญนะ ใช่ ดูเสร็จแล้วก็กลัว กลัวเสร็จก็อยู่คนเดียวไม่ได้ ไม่เคาะห้องคนอื่นขอนอนด้วย ก็นอนคอลกับเพื่อนยันเช้านั่นแหละ]


    แพ้: -


    งานอดิเรก:

    • ฝึกเบสบอล [ในที่นี้หมายถึงการไปฝึกที่ชมรม ฝึกกับคุณพ่อ หรือกระทั่งการขว้าง-รับลูกกับกำแพงคนเดียวเวลาว่าง ๆ ด้วย เทนโชพกลูกเบสบอลติดตัวไว้บ่อย ๆ ถ้าเขาว่างก็จะเอามาโยนเล่นหรือโยนไปเล่นโทรศัพท์ไปเป็นการแก้เบื่อนั่นแหละ]

    • ไปเกมเซนเตอร์ [เป้าหมาย: ตู้คีบตุ๊กตาทั่วราชอาณาจักร]

    • ตามหาเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสวย ๆ จากร้านค้า [มักพากันควงแขนไปสองคนกับคุณนายอิซามุประจำ แต่อันที่จริงก็เหมือนเขาจะไปเป็นหุ่นลองเสื้อมากกว่าจะไปเป็นคนเลือกมากกว่านะ?]

    • ดูรายการแข่งขันเบสบอลย้อนหลัง [ดูไปเรื่อย แมทช์ไหนชอบเป็นพิเศษก็จะดูซ้ำบ่อยหน่อย อนึ่ง ไม่ได้ดูเพื่อเก็บเกี่ยวเทคนิคแต่อย่างใด ทำไปเพราะความสุขส่วนตัวล้วน ๆ]

    • ไปว่ายน้ำ [ว่ายท่าฟรีสไตล์ได้ แต่เหมือนเจ้าตัวจะชอบท่าปลาดาวหงายซะมากกว่า]


    ความสามารถพิเศษ

    • เบสบอล [ต้องขอบคุณความชอบ สภาพแวดล้อม และการฝึกฝนอุตสาหะ เทนโชจึงเป็นคนที่มีฝีมือในด้านนี้มาก ถึงขนาดว่าถูกเรียกว่าเป็นพิทเชอร์ดาวรุ่งดวงใหม่ที่น่าจับตามองจากวงการเบสบอลญี่ปุ่นเลยด้วย]

    • แปะสติ๊กเกอร์ [ไม่รู้ว่าควรเรียกว่ามันเป็นความสามารถพิเศษดีไหม..เทนโชแปะสติ๊กเกอร์ตกแต่งลวดลายเก่งมาก เขาผสมสติ๊กเกอร์หลาย ๆ แนวและจัดองค์ประกอบมันได้ดีมากเลยล่ะ เพื่อนหลายคนก็ชมอยู่บ่อย ๆ ด้วย]

    • สมรรถภาพร่างกาย [การทดสอบสมรรถภาพ เทนโชได้อันดับหนึ่งของระดับชั้นทั้งหมด เป็นพวกร่างกายพระเจ้าสร้างก็ว่าได้]

    • ทำให้คนอื่นใจเต้น (?) [จะคำพูด ท่าทาง สายตา หรือรอยยิ้ม ทุกอย่างที่เป็นเทนโช ความน่าอัศจรรย์ของมันคือเป็นบุคลิกที่มีเสน่ห์ทั้งสิ้น ไหนจะรอยยิ้มลูกสุนัขน่ารักที่มุมเท่ ๆ ในตอนจริงจังกับเรื่องกีฬาที่ชอบอีก เจอเข้าไปสักท่า แทบจะศรคิวปิดปักอกกันถ้วนหน้าเชียว]


    สเปคคนที่ชอบ: เทนโชไม่ได้สนใจเรื่องรักใคร่อะไรมากนัก และเขามักโดนถามแบบนี้บ่อย ๆ ซึ่งเจ้าตัวจะแค่หัวเราะเบา ๆ แล้วตอบกลับไปว่า 'คนที่เปล่งประกายได้ด้วยการเป็นตัวของตัวเองล่ะมั้ง' 


    สถานที่ ๆ อยากจะไปในเดทแรกงานแข่งขันเบสบอลที่โตเกียวโดม (ตัวอักษรถูกขีดฆ่าทิ้งและเขียนใหม่ด้วยความเร่งรีบไม่น้อย) ร้านตุ๊กตา


    เพิ่มเติม

    • ardor (n.) - meaning: warmth and affection associated with a romantic feeling

    • ความหมายของชื่อนั้นได้ถูกกำหนดไว้ว่า: อิซามุ - นักสู้ l เทนโช - โบยบินบนท้องฟ้า, เทวดา l อิซามุ เทนโช - { นักสู้ซึ่งโบยบินบนฟ้ากว้าง }

    • เป็นมนุษย์ที่หายใจเข้าก็เบสบอล หายใจออกก็เบสบอล อาการหนักถึงขนาดที่ว่า ไม่ว่าจะถามเรื่องอะไร สมองก็สามารถรันคำตอบทุกคำถามให้เกี่ยวกับเบสบอลก่อนเป็นอันดับแรกได้อย่างน่าอัศจรรย์ (เคยนึกคำตอบข้อสอบไม่ออก เลยเขียนชื่อนักกีฬาเบสบอลในทีมโปรดลงไปแทนรายชื่อไฟลัมพืชแทน)

    • เทนโชกับไคทำอาหารเป็นประสาลูกชายเจ้าของร้านภัตราคารอาหารชุดเลื่องชื่อ แค่ว่าฝีมือไม่ฉกาจเหมือนแม่ เลยถูกคุณนายเขากระซิบว่าอยากได้สะใภ้ช่วยสืบทอดกิจการหน่อย แน่นอนว่าไอ้หนุ่มที่สนแต่เบสบอลอย่างเทนโช วิ่งไม่เหลียวหลังตั้งแต่ได้ยิน ส.เสือ ในคำว่าสะใภ้แล้ว (เทนโชพกข้าวกล่องทำเองไปทานที่โรงเรียนประจำด้วย ให้เหตุผลว่าต้องการสารอาหารที่ครบห้าหมู่สำหรับนักกีฬา / เป็นข้าวกล่องสามชั้น และไม่เคยกินเหลือเลยด้วย)

    • หนุ่มป็อปทั้งในโลกจริงและโลกโซเชี่ยล ทั้งนี้เป็นแอคเค้าท์ไอจีที่เปิดเพื่อเก็บบันทึกภาพชุดในแต่ละวันที่ผู้เป็นแม่ช่วยแต่งให้ มีช่างภาพเป็นคุณพ่อคนเก่ง และพี่ชายทำหน้าที่แอดมิน (?) คอยไล่บล็อคคนแปลก ๆ ที่มาทำตัวไม่ดีกับน้องชายในโซเชี่ยล ทั้งนี้ไอจี 'isa_mmtt' นี้ เทนโชไม่เคยเข้าไปดูแต่อย่างใด รับรู้แค่ว่าครอบครัวอัพเดทรูปไว้ กับทำหน้าที่หุ่นลองเสื้อให้คุณแม่เขาเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น เขาก็เลยไม่รู้เลยว่ามีคนตามไอจีตัวเองเป็นหมื่นคนแล้ว.. (ส่วนตัวเทนโชรู้ว่าคนที่โรงเรียนค่อนข้างกรี๊ดกร๊าดเขาพอสมควร แต่เขาไม่รู้ว่าคนติดตามเขาในโซเชี่ยลด้วย แถมคนที่ฟอลไอจีส่วนมากก็ไม่ได้รู้ว่า isa_mmtt คือคนเดียวกับ อิซามุ เทนโช เนื่องจากภาพถ่ายไม่ได้ถ่ายให้ติดหน้า มีแค่เพื่อนบางคนที่พอจำสไตล์ได้ แต่ไม่ได้ป่าวประกาศกันแต่อย่างใดเพื่อความสงบสุขในชีวิตของเทนโชล่ะนะ)

    • มักหัวเราะ แหะ ๆ เวลาคนแซวว่าเป็นหนุ่มป๊อป และชอบหยุดเรียนหนีในวันวาเลนไทน์ เพราะเคยรับขนมมาแล้วก็รู้สึกผิดถ้าจะทิ้ง แต่พอกินจนหมด ก็ดันปวดท้องไปอีกสามวันเต็มจนเข็ดเข้าไส้นั่นแหละ

    • ความจริงแล้ว อิซามุ ยูเนะ หรือคุณแม่ของเทนโชนั้นเคยฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ แต่มาทำธุรกิจร้านอาหารชุดเพราะเป็นอาชีพของครอบครัวเธอ หญิงสาวเลยมีความสุขกับการแต่งตัวให้ลูกชายมาก ๆ แน่นอนว่าเธอถามความสมัครใจเขาทุกอย่าง ถ้าอันไหนที่เทนโชบอกว่าไม่ชอบ หรือแอบแสดงท่าทีไม่โอเค เธอก็จะไม่บังคับเด็ดขาด ซึ่งยูเนะน่ะเก่งเรื่องการอารมณ์มาก เพราะอย่างนั้น ถึงเทนโชจะทำเป็นพูดว่าโอเค แต่ถ้าใจจริงไม่โอเค คุณแม่เขาก็รู้ทันอยู่ดีล่ะนะ

    • ทะเลาะกับไคบ่อยจนคนทั้งซอยมองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว วันไหนสองพี่น้องไม่ตีกันนี่สิแปลก (?)

    • Isamu Family:

            Isamu Yuichi (Alive / 49 yrs.) - ผู้ฝึกสอนนักกีฬาเบสบอลระดับโอลิมปิค

            Isamu Yuune (Alive / 47 yrs.) - เจ้าของร้านอาหารชุดขนาดกลางแห่งหนึ่ง

            Isamu Kai (Alive / 20 yrs.) - นักศึกษามหาวิทยาลัยโทได ภาควิชาแพทย์ศาสตร์

    +

    _______________________

    O T H E R  P R O F I L E

    _______________________


    Isamu Kai (22 yrs.)

    Status: Alive  ll  Weight/Hieght: 187/74

    { พี่ชายของเทนโชที่อายุห่างกันห้าปี ทั้งนี้ทั้งนั้นความห่างของอายุไม่ใช่อุปสรรคในการกระโดดถีบกันแต่อย่างใด

    ความสัมพันธ์แบบ love-hate relationship ตีกันมาตั้งแต่จำความได้ และยังแสตนด์บายตำแหน่ง #แอนตี้แฟน ของอีกฝ่ายอย่างเหนียวแน่นอีกด้วย }

    +

    Role Play

    สวัสดีค่ะ ฉันชื่อสุมิเระ มาอิ หรือจะเรียกว่า 'ไวโอเล็ต' ก็ได้ เป็นผู้ก่อตั้งชมรมนี้ขึ้นมาค่ะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรเหรอคะ? 

    : รอยยิ้มละมุนเป็นสิ่งแรกที่เทนโชเลือกส่งมอบให้แก่เด็กสาวหน้าตาอ่อนหวานตรงหน้า เขาผงกศีรษะลงเพื่อเป็นการทักทาย "สวัสดีครับ" ยามแรกครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยว่าควรจะลงหางเสียงดีไหม เพราะไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าอายุมากกว่ารึเปล่า แต่เทนโชก็ไม่อยากเสียมารยาท เขาจึงทักทายไปเช่นนั้น รวมถึงแนะนำตัวเองตามคำร้องขอของอีกฝ่ายอย่างว่าง่ายด้วย "อิซามุ เทนโช ครับ ดีใจที่ได้เจอกันนะ สุมิเระซัง"


    เป็นชื่อที่น่ารักดีนะคะ ฉันคิดอย่างนั้นนะ (หัวเราะ) ก่อนที่จะกรอกใบสมัคร ฉันขอถามคำถามเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนนะคะ คำถามแรก ทำไมคุณถึงตัดสินใจที่จะเข้าชมรมนี้คะ?

    : เทนโชยิ้มแหย่นิดหน่อย "อย่าโกรธผมนะ แต่ว่าเรื่องที่ว่าทำไมผมถึงตัดสินใจสมัครเข้าชมรมเนี่ย..มันเป็นเพราะเพื่อนของผมน่ะ" นึกแล้วเขาก็อดกำหมัดอยู่ในใจไม่ได้ นึกอยากกลับไปทุบกะโหลกเจ้าคนเล่นไม่รู้ความนั่นสักที สั่งอะไรไม่สั่ง ดันสั่งให้เขามานัดบอดเนี่ยนะ.. "ผมมาที่นี่เพราะแพ้เกมน่ะ แต่แม่ของผมเขาก็บอกว่ามันเป็นการหาประสบการณ์ใหม่ที่ดี เพราะฉะนั้นวางใจได้เลย ผมไม่ได้แค่คิดจะมาเล่น ๆ อย่างเดียวหรอก" อ่า..เขาหวังจริง ๆ นะว่าเธอจะไม่โกรธเขา หรือคิดว่าเขาจะมาเล่น ๆ ไปเรื่อยกับชมรมของเธอ หวังว่าสุมิเระซังจะเข้าใจเขานะ..


    คำถามข้อที่สอง คุณได้คาดหวังอะไรจากการเข้าชมรมในครั้งนี้รึเปล่าคะ? 

    : "ก็คงเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ.." เทนโชคิด เขาไม่เคยมานัดบอดเลยสักครั้งในชีวิต เพราะว่าเอาแต่สนใจเรื่องเบสบอลอยู่น่ะสิ.. "คือผมก็ไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นว่าต้องหาแฟนได้ หรือจะได้เจอคนที่ใช่อะไรหรอก อย่างน้อยก็หวังไว้ว่าจะได้ความทรงจำดี ๆ กลับไปบ้าง แล้วก็หวังว่าตัวเองจะไม่ไปสร้างความทรงจำที่ไม่ดีให้ใครนั่นแหละครับ" 


    คำถามข้อที่สาม คุณคิดว่าคู่เดทที่คุณจะได้เจอ จะตรงกับที่คุณวาดฝันไว้มั้ยคะ? และคุณหวังว่าจะได้เจอกับคนแบบไหนเหรอ?

    : มันเหมือนกับเวลามีคนถามเขาว่าสเปคของเขาเป็นแบบไหน เทนโชรู้สึกกระอักกระอ่วน การคิดเรื่องรักใคร่ไม่ใช่งานถนัดของเขา เพราะแบบนั้น เด็กหนุ่มจึงนั่งเงียบไปสักพัก ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนที่มานั่งอยู่ต่อหน้าเด็กสาวคนนี้ ต้องบอกตามตรงเลยว่าเขาไม่ได้คิดเลยว่าตนจะได้เจอคนแบบไหนอะไรยังไง แต่ว่านะ..

    "ไม่ต้องตรงกับคนที่วาดฝันไว้ก็ได้ครับ"

    คนเรามีหลากหลายมากมาย เรื่องบนโลกนี้ที่เกิดขึ้นก็ทั้งธรรมดาและแปลกใหม่ไม่ซ้ำวัน

    "ผมคิดมาตลอดว่าการเป็นตัวของตัวเองเป็นเรื่องดีครับ เพราะฉะนั้น ถ้าเขามั่นใจและรักในตัวของเขาเอง ผมก็คิดว่าไม่ว่าเขาจะเป็นคนแบบไหน นั่นก็คงเป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก ๆ แล้วล่ะครับ"


    คำถามข้อที่สี่ คุณคาดหวังไว้ว่าอยากจะให้ความสัมพันธ์ของตัวเองกับคู่เดทลงเอยยังไงคะ?

    : "คำถามยากจังครับ" เทนโชสารภาพออกไปตามตรง หัวเราะ แหะ ๆ ออกมาด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนหมาอึนเวลานึกไม่ออกว่าควรตอบรับอย่างไรดี "ก็..ถ้าเป็นไปได้ด้วยดีก็ดีครับ หมายถึง — ไม่ต้องเป็นไปในเชิงรักใคร่ก็ได้ครับ จบแบบที่สร้างความทรงจำดี ๆ ให้กันได้ เป็นเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือเป็นความสัมพันธ์แบบที่พึ่งพากันได้ แบบนี้ผมก็ว่าดีไปอีกแบบนั่นแหละ" นี่เขาพูดงงไปรึเปล่านะ? ไม่หรอกมั้ง..


    คำถามข้อที่ห้า ถ้าหากว่าความสัมพันธ์ของพวกคุณลงเอยด้วยดี คุณอยากจะบอกอีกฝ่ายว่ายังไงคะ หรือถ้ามันไม่ใช่อย่างที่คุณหวัง คุณอยากจะบอกอะไรกับเขา โอ๊ะ ไม่ต้องตกใจไปนะคะ อย่างหลังฉันแค่ถามเพราะอยากรู้เท่านั้นเอง

    : "ก็จะบอกว่ารักนั่นแหละครับ" เขาใช้เวลาไม่นานเลยกลับการคิดคำตอบสำหรับคำถามข้อนี้ แทบไม่ได้ต้องประมวลผลอะไรมากมายด้วยซ้ำ "ถ้าลงเอยด้วยดี มันคงแปลว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับผมจริง ๆ ผมคงไม่มีเรื่องให้บอกเขามากมาย นอกจากเรื่องที่ว่าผมคงรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นไปอีกยาว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้คุณเขารักผมกลับเยอะ ๆ เหมือนกันอะไรแบบนั้นน่ะครับ" หน้าซื่อตาใส ราวกับลูกสุนัขที่กระดิกหางส่ายไปมา อยากบอกให้เจ้านายช่วยมอบความรักให้เขาที

    ก่อนดวงตาของเขาจะหลุบลง ดูมีแววหม่นลงเล็กน้อยในคำตอบข้อที่สอง "แต่ถ้ามันจบลงไม่ดี..มันก็คงน่าเสียดายแหละครับ ผมได้แต่หวังว่าผมจะไม่ทำให้เขารู้สึกแย่อะไร ที่แน่ ๆ ผมคงขอโทษเขาก่อน แล้วก็ขอให้เขาเจอคนที่ใช่สำหรับเขาในสักวันครับ"


    คำถามข้อสุดท้าย คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนคะ? อ้อ แล้วคิดว่าฉันเป็นคนยังไงเหรอ? (ฮา)

    : "เพื่อนผมบอกว่าผมเหมือนสุนัข..อ้อ ไม่สิ ต้องเป็นมุมมองของตัวเองสินะ.." คำตอบถูกพลิกกลับ เทนโชนิ่งคิดอยู่ชั่วอึดใจ สรุปใจความสั้น ๆ สำหรับสิ่งที่เขาคิดว่าเขาเป็นออกมาได้ว่า "ส่วนตัวผมว่าผมเป็นคนที่อ่านง่ายมาก แถมยังเก็บอารมณ์ไม่ค่อยเก่งอีก ผมเลยพยายามไม่คิดอะไรแง่ลบเกินไปเพราะไม่อยากแสดงอารมณ์ไม่ดี ๆ ให้คนอื่นเขาเห็น แล้วก็ เป็นคนกินเก่ง ชอบแกะ แล้วก็เบสบอลกับตุ๊กตาครับ" 

    "ส่วนสุมิเระซัง จากที่เราคุยกันมา ผมรู้สึกว่าคุณให้ความรู้สึกนุ่มฟูเหมือนสายไหมเลยล่ะครับ..แบบว่าหวาน ๆ แล้วก็นุ่มฟู"

    ช่วงปลายประโยคนั้นดูเหมือนเป็นการพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า ก่อนเทนโชจะเบนสายตากลับไปสบกลับเจ้าของชมรม violet แห่งนี้ ยกยิ้มกว้างจนนัยน์ตาหยีเป็นพระจันทร์เสี้ยวอย่างที่เคยทำอยู่เสมอ

    "แต่การที่คุณตั้งชมรมนี้มาเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ เกี่ยวกับเรื่องความรักของพวกเขา มันก็ทำให้ผู้รู้สึกว่าคุณเป็นคนที่ดีมากเลยล่ะครับ"


    ขอบคุณสำหรับการตอบคำถามนะคะ กรอกใบสมัครตรงนั้นให้เรียบร้อยคุณก็จะได้เป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์แล้วค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ชมรมนี้นะคะ!

    +

    Talk with Vrissa

    สวัสดีค่ะ ไรต์มีนามปากกาว่าวริสซ่านะคะ จะเรียกวริสก็ได้ค่ะ คุณผู้ปกครองชื่ออะไรกันบ้างคะ?

    : สวัสดีค่ะคุณวริส ยัยรันคนเดิม เพิ่มเติมคือรู้กชายตัวโน้ย (?) ของเราเองค่ะ


    ก่อนอื่นเลย ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้คะ แล้วทำไมถึงเลือกที่จะส่งลูก ๆ มาในบทนี้เอ่ย?

    : เป็นแฟนคลับ KNB ค่ะ เกาะด้อมนี้มาอย่างเหนียวแน่น (ถึงจะแอบหนีด้อมบ้างอะไรบ้าง --- /แฮ่ม) อันที่จริงเราตั้งใจไว้ว่าจะเป็นลูกชายที่อยู่ในบทพิเศษค่ะ แต่คาร์แรคเตอร์ที่เขียนดันตรงดีเทลของโมโมอิซังพอดี แถมส่วนตัวก็กรี๊ดคุณเขาอยู่แล้วด้วย ก็เลยโยกมาด้วยประการ ฉะ นี้นี่แหละค่ะ ฮา


    ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ลูกของตัวเองกับคู่เดทลงเอยด้วยความสัมพันธ์แบบไหนคะ?

    : อยากให้เขารักกันนะคะ อยากเห็นโมเม้นต์ช่วงมีฟามรักของต้าวลูกชาย เอาจริงยัยรันไบแอสน้องค่ะ ไม่อยากเห็นน้องเสียใจ ฮื่อ


    ถ้าน้องไม่ติดบทที่ต้องการ จะให้ยัดบทให้หรือจะรับกลับดีคะ? (แต่โอกาสที่จะไม่ติดก็น้อยนะ .___.)

    : รับกลับคร้าบ


    อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง (ที่เกี่ยวข้องกับน้อง) เป็นพิเศษมั้ยคะ? 

    : เคยคิดไว้ว่าอยากเห็นคุณแม่ยูเนะกับเทนโชช่วยกันสอนโมโมอิทำอาหารค่ะ 55555555555 คิดภาพแล้วน่าจะวุ่นวายปนน่ารักเอาเรื่องเลยค่ะ เปงนุ้บนิ้บ แต่ว่าถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะคะ แหะ 


    สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณที่ให้ความสนใจในฟิคเรื่องนี้นะคะ! ขอให้ติดบทที่ต้องการกันทั่วทุกคน ไว้เจอกันในคอมเมนต์นะคะ ♡

    ____________________


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×