ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ╭ ᴋɪɴɢᴅᴏᴍ''

    ลำดับตอนที่ #1 : [NO.4] Fresh ―

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 191
      0
      29 ก.ค. 61



    APPLICATION




    - รูปสี -


    "กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง ถ้ารอบหน้ายังปากดี กูทำมึงเป็นศพเหมือนลูกพี่มึงแน่"

    "อย่าให้กูต้องพูดซ้ำอีก ไสหัวไปให้พ้น"



    บท : ประธานนักเรียน
    โรงเรียน : คีรีสีหราช
    ชื่อ-นามสกุล : ภัสวัฒน์ อุ่นเรือน / Passawat Aunruen
    ชื่อเล่น : โอ๊ต / Oat
    สัญชาติ : ไทย
    เพศ : ชาย
    อายุ : 18
    ศึกษาในระดับชั้น : ม.6
    ชมรม : นักประดิษฐ์
    นิสัย

              #ไม่พิมพ์เยอะ เจ็บนิ้ว มาดขรึม น้ำนิ่งไหลลึก ฟังมากกว่าพูด และมักใช้คำพูดในเวลาที่ตนเห็นว่าสมควรแก่การสื่อสาร เขาเป็นพวกที่แสดงออกทางการกระทำมากกว่าการพรรณนา จึงมีหลายครั้งที่ชอบลั่นหมัดใส่คนอื่นอย่างที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว เวลาพูดก็พูดอย่างตรงประเด็น ไร้การประนีประนอมรักษาน้ำใจ ไม่พูดมาก ไม่พูดยืดเยื้อ ไม่treatผู้คนแบบนุ่มนวล นั่นทำให้เขาดูป่าเถื่อนประหนึ่งชาวไวกิ้งในตำนาน (เอาจริงๆคือแค่สายตาของเขาก็ชวนกดดันมากพออยู่แล้ว คนจึงหลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขาตั้งแต่แรก) แต่ความจริงแล้วคือเด็กนักเรียนเกือบทุกคนในโรงเรียนนี้ก็ไม่ต่างจากหมาป่า และเขาก็เกลียดการถูกถอนหงอกจากพวกปีนเกลียว ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าคนประเภทนี้ฟังภาษามนุษย์ไม่ค่อยรู้เรื่อง หนทางเดียวที่จะสามารถสั่งสอนได้คือการใช้ความรุนแรงยุติปัญหาทั้งหมด แต่โอ๊ตไม่ใช่คนที่ใช้กำลังมั่วซั่ว หมัดของเขาจะสวนใส่คนอื่นก็ต่อเมื่อเขารู้สึกรำคาญและเห็นว่าการปล่อยอีกฝ่ายไว้จะเป็นภัยแก่ตัวและคนรอบข้างเท่านั้น
              โอ๊ตไม่ใช่คนที่สะทกสะท้านกับคำพูดของใคร เขาปัดคำพูดพวกนั้นให้เหมือนเป็นอากาศเสมอ การด่าเขาจึงไม่ใช่วิธีการทำให้เขาปรอทแตกเลยสักนิด และเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายsensitiveที่จะมางอนงี่เง่ากับการกระทำของใคร เป็นผู้ชายที่ใช้ตรรกะมากกว่าอารมณ์ แค่ขอให้พูดคุยกันแล้วรู้เรื่อง ไม่บ้าบิ่นเกินลิมิต เพียงแค่นี้ก็สามารถอยู่ร่วมกับเขาได้อย่างสงบสุขแล้ว และเขาก็เป็นคนจริงจังและเต็มที่กับงานที่ตนเองได้รับมอบหมายมาก จนถึงขั้นเคยโดนผอ.ลองใจมอบหมายงานให้ไปช่วยภารโรงล้างถังขยะทั้งโรงเรียนก็ทำมาแล้ว ความรับผิดชอบของเขาสูงลิ่วสวนกับหน้าตาที่ดูไม่ค่อยเอาไหน ต่อให้งานจะหนักหนามากจนอยากจะเททิ้ง แต่เขาก็เลือกที่จะปิดปากเงียบและไม่บ่นให้ใครฟัง....นั่นก็อาจจะนับเป็นข้อดีอย่างนึงของเขา
              โอ๊ตอาจดูน่ากลัวในสายตาคนอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่เขามีและปฏิบัติเสมอคือการ 'รู้จักกาลเทศะ' กฎเหล็กของเขามีอยู่ไม่กี่ข้อ หนึ่งคือต้องนอบน้อมต่อผู้ที่ควรเคารพอย่างครูบาอาจารย์ แม้กระทั่งลุงภารโรงหรือป้าแม่บ้าน ทำให้เขาสนิทสนมกับบุคลากรในโรงเรียนมากพอตัว โอ๊ตไม่เคยเลียแข้งเลียขาใส่ครู เขาไม่ใช่คนปากหวาน ไม่เคยพูดชมใคร แต่เขาก็แสดงความมุมานะในการเรียนให้พวกครูได้เห็น นั่นก็ยิ่งทำให้บรรดาอาจารย์ประทับใจในตัวเขามากขึ้นอีก แม้ว่าเขาจะมีเรื่องกับคนอื่น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เครดิตเขาด้อยลงไปในสายตาของอาจารย์ เพราะทุกคนก็รู้ดีว่าที่นี่ก็เป็นสถานที่รวบรวมเด็กเลวจากทุกสารทิศอยู่แล้ว และเขาก็ไม่ใช่ประเภทที่จะหาเรื่องให้ตัวเองต้องลำบาก เว้นเพียงมีคนมาบวกใส่เขาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าก่อน
              ข้อสองคือ 'ไม่รีดไถจากคนที่อ่อนแอกว่า' เพราะเขาถือว่านั่นเป็นการกระทำที่เสียเกียรติไม่ต่างจากพวกกุ๊ยข้างถนน แต่เขาก็ไม่ได้ออกตัวเป็นพระเอกปกป้องคนพวกนี้ เขาแค่ไม่ยุ่ง แต่คนอื่นจะทำหรือไม่ทำก็เรื่องของเขา ข้อสุดท้ายคือ 'ไม่ใช้กำลังกับผู้หญิง' ถึงแม้จะมีพวกผู้หญิงห้าวๆมาบู๊สะบั้นหั่นแหลกใส่ เขาก็จะทำเพียงแค่กลอกตาอย่างรู้สึกรำคาญ แล้วก็คอยหลบหมัดและลูกเตะของอีกฝ่ายพร้อมตีตัวออกห่าง
              บทบาทประธานนักเรียนในความคิดของโอ๊ตนั้นต้องไม่ใช่พวกบ้าบิ่นเอาดีแต่เพียงเรื่องเตะต่อย แต่ต้องรู้จักการbalanceทั้งคู่ให้อยู่ในระดับเท่าๆกัน สนใจแต่เรื่องการเรียนอย่างเดียวก็คุมพวกเด็กที่เหลือไม่ได้ ถ้าสร้างแต่เรื่องก็ทำให้พวกอาจารย์ไม่ปลื้ม เขาจึงเลือกปรับตัวเองให้ลื่นไหลไปตามสถานการณ์มากกว่า โอ๊ตจึงเป็นทั้ง(เกือบ)หัวกะทิและอันธพาลขาใหญ่ได้ในเวลาเดียวกัน


    ประวัติ :

              คีรีสีหราชไม่ใช่โรงเรียนที่โอ๊ตจะเข้าตั้งแต่แรก แต่เป็นพนาสัตตบรรณ ทว่าอนิจจาวิชาชีวะที่ทำให้เขาไม่ผ่านเกณฑ์เข้าไปได้ จนต้องร่อแร่มาหาที่เรียนใหม่ แม้ว่าโอ๊ตจะสามารถชิงทุนเข้าเซนต์รอยัลได้ แต่ไปๆมาๆเขาก็เลือกที่จะเข้าโรงเรียนแห่งนี้ในที่สุด (ซึ่งเขาก็regretกับการตัดสินใจจนมาถึงทุกวันนี้ แต่ก็ฝืนเรียนจนมาถึงปีสุดท้าย) ถ้าหากตัดเรื่องความยุ่งเหยิงในโรงเรียนทั้งหมดออกไป ที่นี่ก็ถือว่าเป็นโรงเรียนที่ตรงกับสิ่งที่เขาถนัดมากที่สุด ด้วยความที่พ่อของโอ๊ตเป็นวิศวกรเครื่องกล แม่เป็นโปรแกรมเมอร์ เขาจึงมีหัวไปทางวิทย์-คณิตไปแบบเต็มๆ และเขาก็มีความชอบทั้งในการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ การคำนวณเชิงฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ประยุกต์ อีกทั้งเขายังสามารถเข้าใจภาษาอังกฤษในเชิงอุตสาหกรรมและธุรกิจได้บ้าง ความสามารถของเขาจึงกลายเป็นที่โดดเด่นในหมู่อาจารย์และเพื่อนร่วมรุ่นในทันที
              การมีตัวตนของโอ๊ตกลายเป็นปรากฏการณ์ที่หายากยิ่งในโรงเรียนที่มีภาพลักษณ์สุดแสนจะยอดแย่ เพราะส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่พวกกุ๊ยก็เป็นพวกขี้โรคอ่อนแอปวกเปียก แต่สำหรับเขาที่พึ่งเข้ามาอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่จึงกลายเป็นเป้านิ่งสำหรับแก๊งค์อันธพาล ทว่าก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ไม่มีใครกล้าแหยมกับเขาอีกเลย....
              ทุกคนคิดว่าโอ๊ตก็เป็นแค่เด็กเนิร์ดธรรมดาที่พวกครูพยายามดันสุดฤทธิ์ แน่นอนว่าเขาก็ย่อมโดนข่มขู่ตามประสาเด็กใหม่ไปตามระเบียบ อีกทั้งมีคนพยายามจะเอาบุหรี่จี้ที่แขนเขา ด้วยความที่เขาไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงลิ่ว เด็กหนุ่มเลยตัดสินใจใช้กำลังเข้าสู้ ใช้เท้าเตะก้านคอจนหมอนรองกระดูกเคลื่อน ต่อยรุ่นพี่จนม้ามแตกนอนหยอดน้ำเกลือที่โรงพยาบาล ความเนิร์ดของเขาในสายตาของผู้คนจึงลดลงอย่างฮวบฮาบ แปรเปลี่ยนไปเป็นปีศาจร้ายที่ผู้คนเริ่มยำเกรงแทน
              ** ความจริงที่ผู้คนไม่ค่อยรู้คือ ลุงของเขาเปิดค่ายมวยไว้ปั้นพวกเด็กๆไปแข่ง ส่วนเขาก็ไปเรียนเพราะได้ออกกำลังกายเฉยๆ แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เขาเรียนมาจะได้เอามาใช้จริงในโรงเรียนแห่งนี้...
              จากนั้นก็ดันมีรุ่นพี่คนหนึ่งพยายามเข้ามาตีสนิทเขาด้วยการขอให้สอนวิชาวิทย์และเลขให้ จนกระทั่งเริ่มสนิทสนมกันนับเป็นพี่เป็นน้อง ซึ่งเขาก็มารู้ทีหลังว่ารุ่นพี่คนนี้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการนักเรียน และพยายามหาเด็กใหม่ขึ้นเป็นกรรมการชุดต่อไปอยู่ ด้วยความสามารถของเขาที่มีอยู่ ทั้งด้านวิชาการและคำร่ำลือที่สามารถคว่ำแก๊งค์อันธพาลได้ เขาจึงถูกดันให้ขึ้นแท่นเป็นประธานนักเรียนในที่สุด ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดอยากจะเป็นตั้งแต่แรก....แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
              หลังจากที่เขาขึ้นเป็นประธานนักเรียน มีหลายคนที่ไม่พอใจกับการคัดเลือกและแสดงท่าทีมุ่งร้ายกับเขาอย่างชัดเจน โอ๊ตไม่ได้สนใจคนพวกนั้น เด็กหนุ่มรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ย่อมมีคนเกลียด จึงเลือกที่จะต่างคนต่างอยู่ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่นำความเดือดร้อนมาให้หรือหาเรื่องเขาก่อน และตัวเขาไม่ปลื้มกับการวางก้ามใส่คนอื่นเพราะคิดว่ามันน่าเกลียด (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะลดการ์ดลงให้คนอื่นมาปีนเกลียวง่ายๆ) บุคลิกของเขาจึงมุ่งไปทาง 'นักเลง' มากกว่า 'อันธพาล'

    ลักษณะภายนอก :

              เจ้าของตำแหน่งประธานร่างสูงใหญ่ที่ใครก็ต่างเกรงใจและเกรงกลัว หากทว่าเมื่อไหร่ที่สังเกตดีๆ จะพบว่าใบหน้าของเขาค่อนข้างครบเครื่องอยู่พอสมควรเลยทีเดียว กรอบหน้าคมคายได้รูปประดับด้วยเครื่องหน้าคมเข้ม เรียวคิ้วหนาที่มักขมวดเข้าหากัน นัยน์ตาคมกริบดุจเหยี่ยวสีชาดอันเป็นเอกลักษณ์์ สันจมูกโด่งประหนึ่งชาวยุโรป และริมฝีปากหยักหนาปราศจากรอยยิ้มใดๆ แก้มสากข้างซ้ายแสดงรอยแผลเป็นจากการถูกของคมกรีด โหนกแก้มไม่สูงเด่นมากนัก แต่ก็มากพอที่จะทำให้สันกรามนูนเด่นขึ้นมาได้เล็กน้อย ผิวกายขาวนวลแม้ผ่านแสงแดดบ่อยครั้ง เรือนผมสั้นระต้นคอสีปีกกายุ่งเหยิงจากการที่เจ้าตัวยังไม่มีเวลาไปตัด ทว่าทุกอย่างบนใบหน้านั้นก็ไม่ได้เด่นชัดเท่าดวงตาคู่เรียวที่ผู้คนต่างกล่าวขวัญกันว่า ดวงตามรณะ ที่พียงแค่ปรายตามอง ก็ทำให้บรรยากาศที่เคยสนุกสนานกลายเป็นกดดันได้ในพริบตา
              ร่างของเขาถือว่าสูงใหญ่เกินมาตรฐานคนไทย ด้วยความที่ทั้งครอบครัวล้วนร่างใหญ่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตัวเขาจึงได้รับกรรมพันธุ์ร่างใหญ่มาเต็มๆ ลาดไหล่หนาใหญ่ แผ่นหลังกว้าง มีกล้ามเนื้อแข็งแรงประดับอยู่ตามช่วงแขน ขา และลอนหน้าท้องทำให้ร่างดูหนาบึกบึน ทว่าไม่ถึงขนาดว่าถึกเป็นนักเล่นกล้าม การแต่งกายของเขาส่วนใหญ่จะไม่ค่อยถูกระเบียบนัก แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยเซอร์จนดูสกปรก อย่างน้อยเขาก็ยังรู้ว่าตัวเองต้องแต่งตัวเรียบร้อยเวลาอยู่ในงานพิธีการสำคัญ....

              โอ๊ตมีความสูงอยู่ที่ 188 เซนติเมตร กับน้ำหนักอีก 79 กิโลกรัม

    ชอบ : หุ่นยนต์ / มอเตอร์ไบค์ / แกงเทโพ
    เกลียด : คนที่พูดมากจนไร้สาระ / พวกปีนเกลียว / พวกงี่เง่า / คนโลเล
    กลัว : -
    งานอดิเรก : เขียนโค้ดคำสั่งหุ่นยนต์ / อ่านนิตยสารรถแข่งกับมอเตอร์ไบค์ / ช่วยงานจิตอาสา / เตะคู่อริ / นั่งดูข่าวกับสารคดี
    ความสามารถพิเศษ : เขียนโปรแกรม /หาผลลัพธ์สูตรคำนวณยากๆ / ทำให้คนกลัว / เจรจาเชิงธุรกิจได้บ้าง
    เพิ่มเติม
    - รอยแผลเป็นของเขามาจากมีดพับของคู่อริ นั่นทำให้เขาไม่ค่อยพอใจนักเวลาที่มีคนถามถึงที่มาของแผล
    - โอ๊ตไม่ค่อยพูดคำหยาบนอกเหนือไปจากคำว่ากู/มึง แต่ถ้าหากให้พูดมากกว่านัั้นแสดงว่าเขาเริ่มไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ถ้าเวลาคุยกับผู้หญิงก็จะแทนว่าฉัน/เธอ กับครูและพวกผู้ใหญ่ก็ใช้ ผม/จารย์/คุณ แต่ถ้าคุยกับพ่อแม่ก็จะแทนตัวเองว่าโอ๊ต แต่ถ้าเป็นน้องจะแทนตัวเองว่าพี่ต่อหน้าพ่อแม่และแทนว่ากู/มึงลับหลัง

              "มีปัญหาอะไรก็พูดต่อหน้ากูนี่" ― กับคนในโรงเรียน
              "อะไร?" ― เริ่มรำคาญเสียงผู้หญิงโวยวาย
              "ถ้าเพิ่มเครื่องจักรมาช่วยช่วงคอขวดตรงนี้ได้ก็ดีครับ ยังไงก็ผลิตได้เร็วกว่าจ้างคนงานเพิ่ม" ― คุยกับอาจารย์
              "ผมป้อนโค้ดบรรทัดนี้ผิด ขอแก้ก่อน" ― คุยกับอาจารย์
              "เห่าแถวนี้ไม่มีใครฟังหรอก ไปเห่าให้พ่องฟัง" ― กับอริ
              "จะทำอะไรก็คิดถึงหน้าครอบครัวบ้าง มึงไม่ได้โง่ สมองก็มี หัดคิดหน่อย" ― กับน้องสาว
              "โอ๊ตไปค่าย ฝากจ่ายค่าเน็ตบ้านด้วย" ― คุยกับแม่

    - มีน้องสาวหนึ่งคนชื่ออาย ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ม.4 เป็นคนร่าเริงแจ่มใสโดยพื้นฐาน แต่เมื่อไหร่ที่อยู่กับโอ๊ต สองพี่น้องกลับวางมวยกันตลอดเวลา จนถึงขนาดที่ว่าโอ๊ตถีบน้องจนเป็นเรื่องปกติ ส่วนอายก็ต่อยพี่ชายตัวเองทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ; รูป
    - โอ๊ตมีอาวุธคือแข้งตัวเอง ถึงแม้ว่าหมัดจะหนักแต่ก็ไม่เท่าขา ซึ่งคนที่มีพละกำลังที่ขามากมากมากมากมากมากมากมากแบบเขานั้น เมื่อไหร่ที่จระเข้ฟาดหางใส่ใคร คนๆนั้นจะน็อคโดยอัตโนมัติ
    - เขาออกกำลังกายโดยการต่อยมวยเพียงอย่างเดียว ไม่ค่อยนิยมกีฬาอื่นๆ แต่ก็พอเล่นได้บ้างนิดหน่อยตามสไตล์ผู้ชายอกสามศอก
    - มักลากคณะกรรมการนักเรียนออกค่ายจิตอาสาเสมอ ส่วนใหญ่ก็จะไปทำความสะอาดตามแหล่งชุมชน หรือขึ้นไปสอนหนังสือให้เด็กชาวเขาบนดอย
    - โอ๊ตไร้สกิลในการปล่อยมุขเสี่ยว จีบหญิงไม่เป็น จนมักจะโดนเพื่อนผู้หญิงด่าว่าไร้น้ำยา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×