ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องของ wan-wan

    ลำดับตอนที่ #33 : 【 Au KNB 】Again?! ll นาคาชิมะ จิฮารุ ll

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 60
      0
      4 ธ.ค. 59

    APPLICATION





    เลิกคิดว่าฉันตั้งใจมาเจอคุณเสียทีเถอะค่ะ



    ชื่อ : นาคาชิมะ จิฮารุ / Nakashima Chiharu

    ความหมาย :    นาคาชิมะ - ใจกลางของเกาะ

    จิฮารุ - ฤดูใบไม้ผลิที่เกิดเป็นพันครั้ง

    นาคาชิมะ จิฮารุ - ใจกลางเกาะได้เกิดฤดูใบไม้ผลิเป็นพันครั้งแล้ว(ถ้าแปลเป็นประโยคหวานๆคงทำนองว่า หัวใจของฉันได้ผลิบานเป็นพันครั้ง เราเปรียบคำว่าใจกลางเกาะก็เหมือนหัวใจของคนเรา)

    ชื่อเล่น : ฮารุ / Haru(ส่วนใหญ่ฮารุจะให้เรียกแบบเต็มมากกว่าตราบใดที่ยังไม่ได้สนิทกัน)

    สัญชาติ : ญี่ปุ่น

    ลักษณะรูปร่าง : ผมสีขาวบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนยาวสะลวยถึงช่วงเอวคอด ดวงตาสีม่วงอเมทิสต์คู่สวยเปล่งประกายสีสวยแต่กลับมาฉายแววนิ่งสงบราวน้ำลึกที่ไร้สุรเสียงใดๆ ใบหน้าสวยหวานสมวัยแสดงลักษณะที่นิ่งสงบและดื้อรั้นในคราวเดียวกัน ผิวขาวสีสวยไม่ดูซีดเกินไปหรือดูแปลกตาเกินไป รูปร่างเพรียวบางดูน่าถนุถนอม ส่วนสูง 162 ซม. น้ำหนัก 48 กก.

     

    นิสัย :

    ฮารุให้นิยามแก่ผู้พบเห็นคือนิ่งสงบ

                ฮารุให้บรรยากาศจืดจางอ่อนๆรอบตัวที่มีความเงียบและไร้สีสัน แต่ใช่ว่าจืดจางจนคนมองไม่เห็นแต่อย่างใด ไปไหนมาไหนก็สามารถตามหาฮารุเจอได้ทั้งนั้นแหละ ฮารุแค่มีลักษณะพูดน้อย ไม่ทำตัวร่าเริงราวคนบ้า มีมารยาททางสังคมจัดว่าดีในระดับหนึ่ง ลักษณะท่าทางต่างๆของฮารุดูเหมือนน้ำนิ่งที่ไหลไปตามธรรมชาติอย่างช้าๆ เป็นจังหวะอย่างลงตัว ไม่มีสีสันเติมแต่งให้มัวหมอง ก็เหมือนใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีเครื่องประทินโฉมมากมายมีความสวยแต่ดูขัดตาเพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ แต่กลับกันในเชิงของฮารุเธอมีความเป็นธรรมชาติอย่างลงตัว ไม่ต้องการสิ่งเติมแต่งมาเพิ่มให้เสียบุคลิก

                ถึงแม้ฮารุจะมีลักษณะหลายๆอย่างแบบสาวไร้สีสัน แต่บรรยากาศรอบตัวของฮารุกลับเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งถ้าลองไม่ทำความรู้จักดีๆก็อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ใบหน้าของฮารุใช่ว่าจะธรรมดาเป็นสามัญชนเต็มขั้น มันก็ดูสวยสะกดสายตาได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่อาจมากเท่าดาราดังที่สวยเลิศได้ที่แค่อยู่เฉยๆก็สะกดสายตาได้แล้ว ความสวยของฮารุนั้นถูกกลบไปด้วยความนิ่งสงบที่ฉายชัดบนใบหน้า ฮารุเป็นคนยิ้มสวยราวฤดูใบไม้ผลิตามชื่อ มันให้ความสบายใจและอุ่นใจในคราวเดียวกัน แต่ฮารุเธอเป็นคนยิ้มน้อยเท่านั้น ย้ำ! ฮารุไม่ใช่พวกยิ้มยาก! เธอแค่ไม่ยอมยิ้มถ้าไม่มีอะไรน่าให้ยิ้ม ส่วนใหญ่เธอจะยิ้มก็แบบเรื่องมันตลก(ซึ่งบางทีฮารุก็ขำออกมาเลย) การประสบความสำเร็จทั้งของตัวเองและเพื่อน เรื่องครอบครัวที่มีสิ่งดีๆเกิดขึ้น

     

    ฮารุเป็นคนหัวดื้อ

                ถ้าฮารุเชื่อมั่นว่าสิ่งใดที่มันถูกเธอก็จะเชื่ออย่างนั้น ต่อให้คนอื่นมาบอกว่าไม่ถูกเธอก็ไม่ยอมฟังแต่อย่างใด แต่ใช่ว่าฮารุจะงี่เง่าเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ถ้าเกิดเห็นว่าสิ่งเธอเชื่อว่าถูกแล้วมันผิด ฮารุก็ยอมที่ผิดตามที่เห็นสมควร ฮารุดื้ออย่างมีเหตุผลเสมอ เรื่องที่ฮารุจะดื้อนั่นมีหลายรูปแบบ อาจเป็นเรื่องเพื่อน ครอบครัว คนสำคัญที่เธอเลือกจะเชื่อมั่นเข้าข้างเขาไม่ว่าจะโดนสังคมวิจารณ์อย่างใด หรือเรื่องหลักวิชาการที่เธอเชื่อมั่น ไม่ก็เป็นความชอบส่วนบุคคลในมุมมองความคิดและเห็นฮารุ เรื่องบางเรื่องก็มีจริงจังและไร้สาระแบบกวนประสาทกันไป

                การดื้อของฮารุบางครั้งในเรื่องของความรู้สึกส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสังคมอะไร ฮารุจะดื้อหนักกว่าปกติเล็กน้อย ให้นิยามว่าฮารุไม่ยอมพ่ายแพ้ด้านความรู้สึก ถ้าให้เปรียบมันก็เหมือนความรู้สึกรักใครสักคน ที่ยังไม่อยากยอมแพ้ที่จะตกหลุมรักง่ายๆ ให้นิยามดื้อรั้นของฮารุก็ประมาณนั้นนั่นแหละ แต่อาการแบบนี้ของฮารุก็ไม่เกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก เพราะมันเป็นเรื่องของความรู้สึกโดยตรง แค่ไม่มีเรื่องอะไรทำนองนี่ ฮารุก็มีความเป็นกลางเสมอ ประโยคที่เล่ามาฮารุเองก็มีมุมก้นบึ้งในจิตใจคือเกลียดการพ่ายแพ้ แต่ฮารุก็ไม่ได้บ้าต้องชนะทุกสิ่ง เธอมีลำดับขั้นการชนะอะไรต่างๆต่างกันออกไป จะแพ้ก็แพ้อย่างถูกต้อง จะชนะก็ชนะอย่างภาคภูมิ

     

    ฮารุเป็นพวกกวนประสาทหน้าตาย

                ฝีปากของฮารุใช่ว่าจะธรรมดา แต่มันถูกซ่อนไว้ใต้กิริยาที่เรียบเฉยราวน้ำลึกต่างหาก การกวนประสาทของฮารุไม่ต่างจากการพูดเรื่องฝนฟ้าอากาศหรือว่าเหมือนกำลังนึกอาหารที่ทานวันนี้คืออะไรอย่างนั้น ดูได้จากสีหน้าระหว่างพูดที่แทบจะไม่เปลี่ยนเลยนั่น แต่คำพูดที่ออกมากลับคนละเรื่องมันชวนน่าตบและน่าตายในคราวเดียวกัน ฮารุไม่ใช่พวกกวนประสาทไปทั่วเธอจะพูดอย่างนี้ก็ต่อเมื่อพูดเพื่อความตลกคลายเครียด(ถ้าให้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ก็ทำนองว่าซ้ำเติมเพื่อนแบบไม่จริงจังนัก) หรืออาจเป็นก็โต้ฝีปากเมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามว่าตัวเองก่อน

                คำพูดของฮารุนั้นเป็นพวกผู้ดีมีสกุลถึงแม้ฐานะทางบ้านจะไม่ให้ก็ตาม ฮารุจัดเรียงคำพูดต่างๆได้ดี และถึงอาจฉายแววพวกนักเจรจาเสียด้วยซ้ำ การด่าของฮารุนั้นจะเรียกว่ากวนประสาทกันซึ่งๆหน้ามากกว่า เพราะคำพูดนั้นไม้ได้ออกแบบตรงไปตรงมาราวแม่ค้าปากตลาด แต่คำพูดเล่านั้นกลับออกมาแบบอีกฝ่ายเป็นคนผิดและเจ้าตัวก็เป็นคนบริสุทธิ์ไป นั่นอาจจะมุมโหดร้ายอย่างหนึ่งของฮารุก็ไม่เชิง สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามต้องการตราบใดที่ไม่มีอะไรให้เรื่องมันเสีย

     

    ฮารุเนื้อแท้เป็นคนอ่อนโยนมาก

                ฮารุมีมุมเหมือนนิ่งเฉยกับทุกสิ่ง แต่แท้จริงกลับมีมุมคิดมากยิ่งกว่าใคร ไม่ว่าจะพยายามทำอะไรเพื่อคนๆหนึ่งที่อาจจะเป็นเพื่อน ครอบครัว คนสำคัญ บุคคลเหล่านี้เป็นเสมือนบ้านหลังหนึ่งของฮารุ ที่ช่วยให้ฮารุสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมีอิสระ เพราะฉะนั้นบ้านหลังนี้ฮารุจึงมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องและเชื่อใจ และฮารุเกลียดการโดนหักหลังการทรยศมาก ฮารุสามารถรักแรงเกลียดแรงได้เช่นกัน เมื่อฮารุให้ความเชื่อใจไปแล้ว แล้วโดนตีกลับมา ฮารุไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่าที่จะตามตื้อให้รับไว้ จบด้วยดีก็โอเค ถ้านอกจากนั้นก็อาจเลวร้ายขึ้นนิดหน่อย

                ก็เปรียบเสมือนนิยามความรัก ตอนรักก็รักดีแถมรักจริงรักจัง แต่ตอนเลิกคือเกลียดไปเลย สำหรับฮารุมันแค่ก่ำกึ่งนิยามแบบนั้น ตอนรักรักดี ตอนเลิกคือคนแปลกหน้าไร้ความรู้สึกใดๆต่างหาก ฮารุไม่ใช่พวกจำปลักกับอดีตเมื่อเรื่องไม่สามารถไปต่อ เธอก็ไปดันทุรังที่จะไป เธอจะเลือกเส้นทางใหม่เพื่อตัวเธอเองและเผลอๆอาจเป็นตัวช่วยกับอีกฝ่ายให้เดินต่อไปเองมากกว่าเดินอยู่กับเธอด้วยซ้ำ นั้นเป็นความใจดีแบบปิดทองหลังพระของฮารุ ที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเธอช่วยถึงแม้ตอนจบเธอจะเจ็บก็ตาม ฮารุเป็นคนประเภทตัวเองเจ็บดีกว่าคนสำคัญเจ็บ เป็นการปกป้องและห่วงใยจากฮารุ

     

    ฮารุเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบในระดับหนึ่ง

                ฮารุไม่ใช่บุคคลที่มีประวัติเลิศเลอ เธอเปรียบเสมือนสามัญชนธรรมดาคนหนึ่งที่อาจจะสามารถกลืนหายไปในฝูงชนได้ ฮารุมีดีตรงที่ในหมู่คนธรรมดาเธออาจสร้างบรรยากาศที่ดูเหนือกว่าคนอื่นได้นิดหน่อย ระดับมันสมองของเธอก็เหมือนกัน มันอยู่ในระดับปานกลาง ที่ไม่โง่หรือฉลาดเกินไป มีรู้และไม่รู้เท่ากัน ไหวพริบก็พอกันได้แต่พึ่งประสบการณ์และมันสมองบางส่วนเท่านั้น

                แต่ใช่ประสบการณ์เธอจะไม่ดี ดูได้จากนิสัยกวนประสาทของฮารุที่มีความฉลาดมากมายปะปนอยู่ นิสัยประเภทไม่ได้เกี่ยวกับระดับการเรียนของฮารุ แต่ความฉลาดพูดเหล่านั้นมาจากความฉลาดของตัวเองที่ไม่มีหลักวิชาการเลขยกกำลังจนน่ารำคาญนั่นมาข้องแวะ ซึ่งมันอาจจะมีการมีประสบการณ์ที่เคยทำอย่างนี้มาหลายครั้งเป็นตัวช่วยในการพัฒนาความสามารถของฮารุมากกว่าที่ให้พวกหลักวิชาการมาพัฒนาตนเอง

     

    ฮารุเป็นพวกรักสงบใช่ว่าจะไม่มีอารมณ์โกรธ

                เคยได้ยินหรือเปล่าว่าพวกที่เก็บความรู้สึกเก่งนั้นเวลาโกรธน่ากลัวยิ่งกว่าพวกมีอารมณ์ร้อนเสียอีก การโกรธของฮารุนั้นไม่เด็กเลย ถ้าให้เปรยล่ะก็ ใครก็ตามที่ทำให้ฮารุโกรธต่อให้มีเก้าชีวิตมาชดใช้คงมีไม่พอ อาการโกรธของฮารุไม่ใช่อาละวาด ร้องห่มร้องไห้ ตีโพยตีพาย แต่อย่างใด ความโกรธของฮารุคือเงียบสงบ สิ่งที่เปลี่ยนจากปกติไปคือดวงตาของฮารุที่แทบสามารถแช่แข็งคู่สนทนาได้ บรรยากาศรอบตัวทั้งที่มีอุณหภูมิร้อนโลกแทบแตก แต่กลับเย็นวาบเสียวสันหลังจนอยากหลั่งน้ำตา

                ฮารุคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีถ้าสถานการณ์มันเป็นไปตามที่เธอต้องการ ถ้าเกิดในกรณีไม่เป็นไปตามที่เธอวาดหวัง ฮารุก็มุมโวยวายเป็น(นึกถึงละครหลังข่าวแปป ทำไมคุณถึงทำกับฉันอย่างนี้! อะไรแบบนั้น) แต่นั่นหมายถึงที่สุดของอารมณ์ของฮารุจริงๆ การโกรธของฮารุมักมีเหตุผลเสมอหรือไม่อีกฝ่ายก็ทำผิดจริง กรณีอื่นก็อาจเป็นการเข้าใจซึ่งน้อยมากที่จะเกิดอะไรแบบนั้น เธอไม่มีทางงี่เง่าโกรธเพื่อความสุขแบบเห็นแก่ตัวแน่

    ประวัติ :           เรื่องครอบครัวชีวิตของฮารุโดยตรงนั้นค่อนข้างเป็นคนธรรมดาสามัญชนเต็มรูปแบบ ทั้งบ้านและตัวเธอเองไม่มีอะไรวิเศษวิโสอะไรมากมาย ไม่รวยคับฟ้าไม่จนยากแค้น บ้านและฮารุมีชีวิตสโลว์ไลฟ์ไปวันๆ จริงจังก็แค่งานที่ต้องทำมาหากินหรือเรื่องราวรอบตัวที่สำคัญมากๆเท่านั้น พ่อของฮารุทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปที่พิเศษตรงทำงานขยันขันแข็งไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค(บริษัทของพ่อฮารุที่ทำงานด้วยมันอยู่ในเครือข่ายบริษัทอาคาชินั่นแต่มันเป็นแค่บริษัทย่อย) ส่วนแม่ของฮารุมีอาชีพเป็นแม่บ้านประจำบ้านทั่วไป เสาหลักของบ้านรวมถึงเรื่องเงินจึงตกเป็นหน้าที่ของพ่อทั้งหมด ครอบครัวของฮารุก็มีแค่สามคนพ่อแม่ลูกเท่านั้น ญาติคนอื่นๆก็มีหน้าที่การงานกันออกไปต่างคนต่างไม่สนใจเรื่องลำดับญาติอะไรทั้งนั้น

                            ...ย้อนกลับไปยังสมัยฮารุยังเป็นเด็กมัธยมปลาย เธอเป็นหญิงสาวที่ไม่แตกต่างจากปัจจุบันเลยสักนิดที่ยังคงหน้าปลาตายไปวันๆ ฮารุพบอาคาชิครั้งแรกคือในฐานะเพื่อนร่วมห้อง ต่อมาเรื่อยๆก็จับคู่ทำงานกัน ทำให้ทั้งสองต้องใกล้ชิดในหลายๆเรื่อง ผู้หญิงที่ขี้อิจฉาก็ต่างแกล้งฮารุมากมาย ชีวิตเหมือนจะตกยากแต่อาคาชิกลับยื่นมือมาช่วยฮารุเสมอ จนเกิดมีความรู้สึกบางอย่างต่อกัน ทั้งสองต่างรู้จักตัวตนของทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งทำให้รักกันขึ้นไปอีก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีราวนิยายเรื่องหนึ่ง ในวันจบการศึกษามัธยมคือจุดจบของนิยาย

     

    ...ฉันว่าเราควรพอกันแค่นี้

     

    อาคาชิเป็นคนเริ่มบทสนทนา ชายหนุ่มมองฮารุด้วยเรียบหนึ่ง ฮารุเองก็จ้องตากลับพยายามค้นหาความจริงในแววตานั้น ถึงแม้ในใจเริ่มจะมีรอยร้าวก็ตามที

     

    ถ้าฉันขอเหตุผล อาคาชิคุงจะตอบฉันไหมค่ะ?

     

    ชายหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องทางบ้าน พ่อเขาไม่ยินยอมเรื่องลูกสะใภ้ที่ไม่มีอำนาจทางสังคม และไม่สามารถสร้างผลประโยชน์ใดๆแก่ตระกูลได้ พ่อของเขาสั่งให้เขามาบอกเลิกก่อนที่ทางนั้นจะลงมาจัดการเอง ...ฮารุฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนพูดประโยคที่จี้จุดออกมา

     

    เป็นเพราะพ่อของอาคาชิคุงสั่งหรืออาคาชิคุงที่ยอมแพ้เองกันแน่ค่ะ?

     

    คราวนี้อาคาชิเงียบกริบและเสมือนเป็นคำตอบให้ฮารุ ฮารุถอนหายใจกับหัวใจที่แตกไปแล้ว ดวงตาสีสวยเริ่มแดงขึ้น

     

    เข้าใจแล้วค่ะ... ฉันว่าคนเรารักกันจริง ก็ควรทำสุดความสามารถเพื่อให้ฝ่าฝันอุปสรรคไปให้ได้ แต่คุณกลับยอมแพ้ง่ายๆเพียงเพราะโดนสั่ง ...ฉันต้องการคนรักที่เลือกเดินกับฉันไปจนแก่เฒ่าไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหน เราสองคนก็ต้องต่อสู้ไปด้วยกัน

     

    และนิยายเรื่องนี้ก็จบลงโดยการต่างคนต่างแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเองที่เลือกไว้

                            ฮารุกลับมาเจออาคาชิแฟนเก่าของเธอตอนอายุ 22 วัยทำงานที่ฮารุควรมีงานมีการทำได้แล้ว ฮารุมีเพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่งมีงานด้านการจัดหางานให้คนที่ต้องการงาน เพื่อนคนนั้นพอรู้ว่าฮารุต้องการงานก็จัดการหางานให้เสร็จสรรพพร้อมส่งที่อยู่สมัครงานและตารางเข้าพบให้เรียบร้อย และแน่นอนว่าเหมือนโดนแกล้ง งานที่หามาให้ฮารุเป็นงานตำแหน่งเลขาของประธานบริษัทอาคาชิ! กว่าฮารุจะรู้ตัวก็มาเจออดีตแฟนเต็มๆไปแล้วเพราะวันนั้นทางนั้นเองต้องการคัดเลือกเลขาด้วยตัวเอง ...ฮารุไม่มีทางเลือกคือต้องเข้ารับการคัดเลือกไปตามปริยายโดยมีความสภาพไม่เต็มใจและเตรียมพร้อม(อยาก)จะตกงานอย่างยิ่ง!

    คู่ : อาคาชิ เซย์จูโร่

    ชอบ :   - สัตว์จำพวกหมาแมว(ฮารุเดิมทีเป็นพวกรักสัตว์ เมื่อใดที่โอกาสได้เลี้ยงเธอจะเลี้ยงจนมันแก่ตายแน่ เพราะฮารุจะดูแลราวครอบครัวเลยทีเดียว)

                - ของหวาน(ฮารุมักชอบทานเวลาต้องใช้สมองมากๆ ของหวานเป็นตัวช่วยให้สมองปลอดโปร่ง)

    เกลียด :           - การโดนหักหลังหรือทรยศ(ตามข้างบนเลย เมื่อมอบความเชื่อใจไปแล้ว แล้วโดนตีกลับมาแบบนี้ ฮารุไม่ชอบ)

                            - แมลงสาบ(ถ้าเจอมันฮารุก็เฉยๆ สีหน้ายังคงอนุรักษ์เรียบเฉยตามปกติ พอมันบินหรือวิ่งเข้ามาหาเท่านั้นแหละ ต่อให้เป็นฮารุก็มีเปลี่ยนสีหน้าแล้วรีบวิ่งหนีทันใด)

    เเพ้ : -

    งานอดิเรก :     - อ่านหนังสือ(ว่างเมื่อไหร่ถ้าต้องการทำอะไรคลายเคลียด ฮารุจะเลือกหาหนังสือสักเล่มมานั่งอ่าน แนวที่อ่านของฮารุค่อนข้างหลากหลาย เธอถูกจนเล่มไหนก็อ่าน แนวที่ชอบที่สุดคือวรรณกรรม)

                            - นั่งดื่มชาทานเค้ก(ส่วนใหญ่จะเป็นเดือนละครั้งสองครั้ง ฮารุมักจะไปทานถึงที่ร้านเค้กโดยตรงมากกว่าสั่งกลับมา)

                            - เย็บปักถักร้อย(เป็นงานอดิเรกที่ทำเฉพาะที่บ้าน ฮารุมีความคิดสร้างสรรค์คหลายรูปแบบมาก สร้างคิดลายใหม่มาปักถักเองได้)

    ลักษณะการพูด : การพูดของฮารุเป็นลักษณะเชิงสุภาพ มีความนอบน้อมถ่อมตน น้ำเสียงก็เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่รีบหรือช้าเกินไป แทนตัวเองว่า ฉัน ถ้าเป็น หนู คือใช้กับพ่อแม่ เรียกคนอื่นว่า คุณ แบบไม่สนอายุ และมักมีหางเสียงลงท้ายตลอดไม่ว่าคู่สนทนาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ซึ่งรวมทั้งการเติม คุง , จัง , ซัง ลงท้ายชื่อไปด้วย แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่อยากให้เติมฮารุก็มีมารยาทไม่เติมต่อ

    ตัวอย่างที่ 1 เวลาปกติ(หน้านี่ปลาตายมาแต่ไกล)

    ฉันก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกตินี่ค่ะ

    ก็ตามที่เข้าใจแหละค่ะ

    ตัวอย่างที่ 2 เวลาดื้อ

    ฉันเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น คุณเลิกเถียงฉันได้แล้วค่ะ! ”

    มันเป็นอย่างนั้นก็ต้องเป็นอย่างนั้นสิค่ะ! ”

    ตัวอย่างที่ 3 เวลากวนประสาท

    ค่ะ? คุณเข้ามาตำแหน่งนี้โดยการไม่ต้องพิจารณา? เป็นประโยคอ้อมๆว่า อีกฝ่ายนั้นเข้ามาทำงานตำแหน่งนี้ได้เพราะใช้เส้นสายหรือเอาตัวเข้าแลกอะไรทำนองนั้น

    ฉันไม่ได้กวนค่ะ แค่พูดความจริง ฉันขอโทษด้วยที่ทำให้คุณรับไม่ได้ เป็นประโยคที่เหมือนจะยอมแพ้ แต่นั่นมันเพิ่มความโกรธราวราดน้ำมันบนกองเพลิง

    ตัวอย่างที่ 4 เวลาอ่อนโยน

    ฉันรู้ค่ะ...เพราะงั้นถ้าเหนื่อยก็พักเถอะค่ะ

    ...ฉันยิ้มให้แล้ว ดีใจหรือเปล่าค่ะ? ฮารุมีรอยยิ้มสวยตามชื่อ ยิ้มสวยราวฤดูใบไม้ผลิ

    ตัวอย่างที่ 5 เวลาคิดวิเคราะห์อะไร

    ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่คนฉลาดมาก แต่สิ่งที่ฉันคิดมาได้คือประสบการณ์ที่ฉันเคยผ่านมาแล้วค่ะ

    ตรงนี้มันผิดต้องแก้เป็น... ถ้าเครียดก็อาจขมวดคิ้วตีหน้าวุ่นหน่อยๆ

    ตัวอย่างที่ 6 เวลาโกรธ

    คุณไม่รู้ตัวว่าคุณทำอะไรลงไปหรือค่ะ?

    ขอความจริงไม่ใช่คำแก้ตัวค่ะ

    เพิ่มเติม :         - ฮารุมีความเป็นกุลสตรีญี่ปุ่นครบทุกประการ ไม่ว่าจะ ชงชา จัดดอกไม้ เป็นต้น

                            - ฮารุไม่ถนัดด้านใช้กำลังมากๆ แต่กลับกันพยายามของฮารุมากกว่ากำลังตัวเองเสียอีก

                            - ฮารุมีความสามารถด้านเปียโน ซึ่งในวัยเด็กเคยได้รับทุนให้เรียนฟรี ในปัจจุบันถึงแม้จะห่างมือไปแล้ว ฮารุก็สามารถจับจุดเล่นได้อยู่

     

     

    Talk

    สวัสดีค่ะ ผู้ปกครองชื่ออะไรค่ะ ไรท์ชื่อไอริส จะเรียกว่าริสก็ได้เนอะ <3

    : เราว่านนะ จะเรียกไรท์ว่าไรท์ริสแล้วกัน <3

    ทำไมถึงได้มาสมัครเรื่องนี้เอ่ย?

    : จะบอกว่าเนื้อหาน่าสนใจก็ดูเชยไป อืม...เราชอบอ่านนิยายแนวดราม่าด้วยล่ะมั้ง แล้วก็ชอบอนิเมะเรื่องอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

    ถ้าริสจะขอปรับเปลี่ยนข้อมูลหรือรูปภาพจะเป็นอะไรไหมเอ่ยยย

    : ได้สิ ขอแค่ติดเราก็ดีใจแล้วและบางอย่างเราก็ไม่อาจแต่งถูกใจไรท์ริสก็มี

    ถ้าไม่ติดอย่ามาเผาบ้านเค้านะ เค้ากลัว-----//7//

    : ...โอเคค่ะ! ไม่เผาก็ได้ค่ะ แต่ถ้าบึ้มทีเดียว น่าจะไม่เป็นไร

    ซาโยนาระ ขอให้คุณโชคดี//โบกมือลาดั่งนางสาวไทย(?)

    : อา...(หยิบกระดาษเพื่อจดคะแนน)//ยังจะเล่น!!?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×