ตอนที่ 33 : 梅花 ❀ กลีบที่ ๒๖
梅花
เหมยฮวากลีบที่ 26
“ข้าขอโทษ”
ขื่อ...ขื่อ...
เสียงคำรามของสัตว์มีขนสี่เท้ากำลังร้องออกมาด้วยความคับแค้นใจ แต่อาจเป็นเพราะด้วยรูปลักษณ์และขนาดของเจ้าตัว การคำรามในสัญชาตญาณจึงเป็นเพียงแค่การขู่ฟ่อๆ ในสายตาของคนทั่วไปเท่านั้น
เจ็บใจจนแทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว!
เหมยหลงผิดตรงไหนที่เกิดมาเป็นแมว! แมวไม่คู่ควรกับมนุษย์งั้นหรือ!
ร่ำร้องประท้วงอยู่ในใจ ดวงตาแหลมคมจดจ้องมองไปยังเตียงนอนของคู่สามีภรรยาที่กำลังพักผ่อนหลังผ่านศึกรักอย่างหนักหน่วงเสียงดังกังวานไปทั่วตำหนักเมื่อคืน! นี่ขนาดเหมยหลงออกไปนอนบนต้นไม้นอกตำหนักแล้วนะ ยังมิวายได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาเบาๆ เลย!
‘พะ พี่ชานเลี่ย...อ๊ะ...อย่า...อย่าทำอย่างนั้นสิ ฮ้า...’
‘อ่า...ปั๋วเสวียน...’
พอ! จบ! ไม่ต้องจินตนาการใดๆ ทั้งนั้น ได้ยินแค่เสียงเหมยหลงก็เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว อยากจะกระโดดเข้าไปขัดขวางให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็กลัวเจ้านายจะเตะกลิ้งออกมานอกตำหนักอีกนั่นแหละ! เหนือความรักที่มีมากล้น เหมยหลงก็ยังกลัวเจ็บอยู่นะ...
ส่วนเหมยหลินน่ะหรือ? เหอะ เจ้าแมวตัวนั้นน่ะขี้อ้อนอย่างกับอะไรดีไม่ว่าเวลาไหนก็ไปขลุกอยู่แต่กับท่านจงเหริน อย่าคิดว่าเหมยหลงคิดไม่ทันล่ะ เจ้าเหมยหลินนี่ไม่เบาเลยนะ แถมยังรุกแรงกว่าตนเสียอีก มันน่านัก! มีเพียงเหมยหลงคนเดียวที่รักคนที่เขามีเจ้าของแล้วอย่างนั้นหรือเนี่ย
“อื้อ...” เสียงอื้ออึงในลำคอของคนที่กำลังจะฟื้นจากนิทราดังขัดความคิดในหัวของเหมยหลง เผยให้เห็นภาพบาดตาบาดใจเหมยหลงอีกครั้งยามที่เจ้านายของตนส่งยิ้มอบอุ่นให้กับคนในอ้อมกอดที่กำลังหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องรู้ราว แอบจุมพิตบนหน้าผากเนียนแล้วแอบลามกเปิดใต้ผ้าห่มขึ้นดู...
ว๊ากกกกก เจ้านายทะลึ่ง เหมยหลงไม่ยอม!
“แง่ววว!” ส่งเสียงร้องออกไปหนึ่งทีเพื่อให้คนที่กำลังจะฉวยโอกาสพระชายาคนสวยของตนได้รู้ตัวว่านี่!...ตาวิเศษเห็นนะ! ฉับพลันพอเจ้าของห้องได้ยินเสียงขัดจังหวะก็เงยหน้าขึ้นเพื่อมองหาต้นเสียง
อ๋อ...เจ้าแมวไม่รักดียืนสี่ขาแอบมองตนอยู่บนคานไม้นั่นเอง
“หึๆ” หลุดหัวเราะเล็กน้อยให้กับท่าทีแสนตลกของเจ้าแมวตัวจ้อย ขนหางที่พองฟูบ่งบอกได้ชัดเลยว่ากำลังโกรธอยู่ แต่ใครสนกัน...พระชายาปั๋วเสวียนเป็นของชานเลี่ยทั้งกายและใจอย่างที่หนีไปไหนไม่ได้แล้ว ชานเลี่ยก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรอีก
‘จุ๊บ~’ คนเจ้าเล่ห์ร้ายลึกอย่างองค์ชายห้ามีหรือจะปล่อยให้เสียโอกาส ริมฝีปากหนาประทับลงบนลาดไหล่ขาวของพระชายาตัวน้อยที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาด้วยความรักใคร่...อยากจะฟัดปั๋วเสวียนทั้งวันทั้งคืนเพราะความรักที่มีอยู่ในใจนั้นมันเต็มอกไปหมด แต่ก็กลัวว่าภรรยาที่น่ารักนั้นจะตัวช้ำเสียก่อนจึงได้หยุดไว้
“แง่ววววว” เป็นอีกครั้งที่เจ้าแมวแสนรู้ของเขาร้องออกมาด้วยความคับแค้นใจ แต่คนอย่างองค์ชายห้าหากมีสิ่งใดที่น่าสนใจอยู่ตรงหน้าก็ไม่สนใจอย่างอื่น ชายหนุ่มจึงส่งมือหนาเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วลูบไล้ก้นกลมกลึงที่ได้สัมผัสมาทั้งคืน
...เพราะกลัวพระชายาจะปวดสะโพกหลังจากร่วมรักกันทั้งคืนจึงได้แอบนวดให้ในยามเช้า...
คงไม่กล้านวดตอนที่ตื่นหรอก เพราะก็คงรู้ดีว่าคนขี้อายอย่างปั๋วเสวียนจะต้องปฏิเสธหน้าดำคร่ำเครียดเป็นแน่ พอนึกถึงบทรักที่แสนเร่าร้อนและเอาแต่ใจของตนนั้นก็อดนึกขอโทษกายบางในอ้อมแขนนี้ไม่ได้เลย...ชานเลี่ยไม่คิดว่าตนจะเป็นคนที่มักมากในรสรักถึงเพียงนี้ จริงอยู่ว่าเคยเที่ยวหอนางโลมมาหลายครั้งตามประสาวัยรุ่นเพื่อหาทางผ่อนคลาย แต่ไม่ว่าจะผ่านหญิงใดมาก็ไม่มีสักคนที่ทำให้ชานเลี่ยรู้สึกหิวกระหายได้เท่ากายบางเนื้อหอมตรงหน้านี้อีกแล้ว
...ผิวกายเนียนละเอียดและเอวบางคอดกิ่วประกอบกับสะโพกกลมที่ผายออกไม่ต่างจากหญิงสาวนั้นทำให้ชานเลี่ยหลงใหล แต่ไม่เท่าความน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติในยามร่วมรักของตนกับปั๋วเสวียนหรอก...
ถ้าหากเปรียบปั๋วเสวียนเป็นดอกเหมย ก็คงเป็นดอกเหมยที่งดงามชวนเด็ดดมมากที่สุดเลยก็ว่าได้
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
“อืม...” เสียงครางเล็กๆ ของพระชายาตัวน้อยดังขึ้นหลังจากที่นอนเอาแรงมาเสียครึ่งค่อนวัน แอบตกใจเล็กๆ ที่ลืมตาขึ้นมาก็เห็นแผงอกขาวมีกล้ามเล็กน้อยของพระสวามีอีกแล้ว...และก็เป็นอย่างทุกครั้งที่ตื่นนอนแล้วก็เขินหน้าแดงอยู่คนเดียว
เมื่อคืนก็ถูกเขากอดจนสุขแทบขาดใจ
ยามที่ได้รู้ว่ารักเขาเต็มหัวใจ พอถูกกอดมันช่างมีความสุขยิ่งนัก
พระชายาตัวน้อยผลิยิ้มเล็กน้อยเมื่อคิดว่าตนกำลังจะมีพยานรักกับชานเลี่ยแล้ว...หากเขาไม่รักสักวันเขาก็ต้องรัก...นึกโทษตัวเองที่ปากพาซวยแต่ก็แอบดีใจเช่นกันที่เขาไม่อีดออดรังเกียจยามทำรัก ปั๋วเสวียนดีใจเหลือเกินที่ยอมถูกกอดเขาช่างดูโหยหา...
“ตื่นแล้วหรือพระชายา” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อยในอ้อมอกอุ่นนี้จนได้สติ ปั๋วเสวียนที่ยังคงถูกเขากอดจนจมอกก็ได้แต่พยักหน้าอย่างเขินอายโดยไม่รู้สาเหตุ นึกหาคำตอบไม่ได้เช่นกันที่จู่ๆ หัวใจก็เต้นรัว ใบหน้าก็แดงระเรื่อยามที่ตื่นขึ้นมาแล้วได้นอนอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นเช่นนี้
“...”
“...”
“ข้าขอโทษ”
“เอ๋?” จู่ๆ พระสวามีที่ตนกล่าวหาว่าเป็นคนเย็นชาก็พูดคำขอโทษออกมาเสียอย่างนั้น พระชายาเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจอ้อมอกแล้วก็ถูกคนตัวใหญ่กว่ามอบสัมผัสบางเบาจากริมฝีปากไว้ที่หน้าผาก
“ขอโทษที่เอาแต่ใจกับเจ้าเมื่อคืน” เพียงเท่านี้หัวใจดวงน้อยก็เหมือนหยุดเต้นไปเสียแล้ว...จู่ๆ เขาก็จูบหน้าผากแล้วพูดขอโทษแบบนี้...อย่าให้ความหวังได้ไหม อย่าทำให้ปั๋วเสวียนเข้าข้างตัวเองนักสิว่าเขาก็มีใจให้
“มะ..ไม่เป็นไร...สามีภรรยาร่วมรักกันก็ไม่เห็นแปลก” ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา...ปั๋วเสวียนเพียงแค่พยายามปรับตัวแล้วทำให้ชินเสียทีว่าการร่วมรักกับพระสวามีนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตคู่
“ข้ารุนแรงกับเจ้า...”
“ข้าไม่เจ็บสักนิด” ยังไม่ทันได้พูดจบพระชายาแสนน่ารักก็รีบปฏิเสธทันที...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงต้องรีบอธิบายด้วยเล่า...หรือเพียงเพราะไม่อยากให้เขาโทษตัวเองอย่างนั้นน่ะหรือ
“ฮะๆ” องค์ชายผู้สูงศักดิ์ถึงกับหลุดหัวเราะเล็กน้อยกับความน่ารักของภรรยาตน ไม่รู้หรอกว่าเหตุใดพระชายาถึงได้รีบปฏิเสธ แต่การรีบพูดขัดออกมานั้นก็แลดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
“ท่านหัวเราะอะไรกันน่ะ!” พอถูกหัวเราะเยาะเข้านิสัยขี้เขินก็เริ่มกลับมา พวงแก้มใสขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับใบหน้ามู่ทู่ของคนชอบโมโหกลบเกลื่อนก็น่ารักเหลือเกิน
...น่ารักเสียจนชานเลี่ยลืมตัว...
“อึก...” กลายเป็นถูกเขาทักทายยามเช้าด้วยการป้อนจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว มือเรียวเล็กได้แต่กำเข้าหากันแน่นอยู่ตรงหน้าอกของเขาเพราะไม่รู้จกจิกอะไรดีเป็นการแก้เขินและแก้ตกใจ..หากเขาสวมใส่เสื้อผ้าก็คงได้จิกผ้าเนื้อดีแทน แต่เปลือยเปล่าอยู่เช่นนี้คนน่ารักก็ไม่กล้าจิกลงบนอกเขาหรอก
“อรุณสวัสดิ์นะพระชายา...” ผละจูบออกแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพล่า เล่นเอาคนฟังถึงกับหน้าตาตื่นรีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งแม้จะปวดนิดๆ บริเวณบั้นท้ายแต่ก็กัดปากก้มลงคว้าเสื้อคลุมที่ถูกถอดทิ้งไว้บนพื้นข้างเตียงขึ้นมาสวมใส่
“อยู่ๆ ก็จูบ...คนบ้า” เสียงเล็กบ่นงึมงำเบาๆ แต่คนอยู่บนเตียงกลับได้ยินชัดเจน หน่วยตาคมมองตามร่างบางที่รีบสาวเท้าเดินหนีเข้าห้องน้ำไปแล้วก็อดหยอกล้อคนน่ารักที่น่ารักขึ้นทุกวันไม่ได้
“เดี๋ยวนี้เขินแล้วไม่ทำร้ายร่างกายข้าแล้วหรือพระชายา”
“!!” คนถูกล้อสะดุงตัวโหยงก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปหยิบบางอย่างแล้ววิ่งออกมา
“คนบ้า!” แผดเสียงลั่นด้วยความเขินอายพร้อมปาผ้าเช็ดตัวที่ถูกจัดไว้ในห้องน้ำใส่คนบนเตียงด้วยความโมโหแล้วหันหลังวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำปิดประตูดังปัง...
คนถูกปาด้วยผ้าเช็ดตัวฉีกยิ้มอย่างหุบไม่อยู่เมื่อพระชายาตัวนั้นแสนปากแข็งนั้นช่างน่ารักน่าชัง ก้มลงมองผ้าเช็ดตัวแล้วความเจ้าเล่ห์ที่มีอยู่ก็เผยออกมา รออยู่หลายนาทีจนเสียงราดน้ำรอบที่สองเงียบไปครู่ใหญ่ ฝ่าเท้าใหญ่ก้าวไปยังห้องน้ำเมื่อมั่นใจว่าพระชายาของตนคงจะอาบน้ำเสร็จแล้ว
ยกมือขึ้นเคาะประตูไม้เนื้อดีเบาๆ สองครั้ง
ฉีกยิ้มกว้างเมื่อลองนึกถึงใบหน้าของพระชายาด้านหลังประตูหลังจากได้ยินคำพูดของตน
.
.
.
“พระชายา...เปิดประตูมาเอาผ้าเช็ดตัวหน่อยเร็ว...หรือจะให้สวามีเช่นข้าเช็ดตัวให้ก็ได้นะ...ข้ายินดี”
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
เหมียว ~ เหมียว ~ เหมียว ~
เสียงร้องใสๆ ของเจ้าสัตว์ขนปุยตัวน้อยอย่างเหมยหลงนั้นกำลังเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของตำหนักหน้าหวานอย่างพระชายาอยู่ อุ้งเท้าน้อยๆ พยายามตะปบชายผ้าที่ยอมกรอมเท้าของพระชายาที่กำลังนั่งเหม่อลูกเจ้าเหมยหลินอยู่บนโต๊ะ
เหมยหลินร้ายกาจยิ่งนัก! เจ้าแมวอ้วนขบคิดในใจอย่างไม่ชอบใจนัก เพราะอิจฉาที่ศัตรูตัวฉกาจกำลังนอนหลับตาพริ้มให้คนสวยลูบขนให้อย่างไม่ยี่หระอะไร เหมยหลงอยากให้พระชายาลูบขนสวยๆ ของเหมยหลงบ้าง เหมยหลงอยากใหพระชายารู้ว่าเหมยหลงอ้อนเก่งกว่าใครๆ!
“เฮ้อ...” คนเหม่อนอกจากจะไม่รู้ว่ามีหนึ่งชีวิตกำลังเฝ้ารอตาละห้อยอยากให้สนใจแล้วก็ยังลอบถอนหายใจออกมายกใหญ่
“ดึกมากจนใกล้จะเข้าสู่วันใหม่อยู่แล้ว...เหตุใดยังไม่กลับมาอีก” กลีบปากบางบ่นอุบยามที่นึกถึงเจ้าของห้องอีกคน...ตั้งแต่วันที่โดนเขาแกล้งในยามเช้าวันนั้นก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าในความสัมพันธ์นัก ทั้งๆ ที่ปั๋วเสวียนเองก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าเขาจะสนใจตนมากกว่าเดิม
แต่นี่อะไร...องค์ชายห้าทรงงานหนักทุกเมื่อเชื่อวัน!
คนหวังจะสร้างความสัมพันธ์ด้วยใจห่อเหี่ยวนะรู้ไหม!!!
“ข้ารอตั้งแต่หัวค่ำหวังว่าจะได้เสวยมื้อค่ำด้วยกัน...นี่ข้ารอจนแสบท้องแล้วนะ!” ทุบโต๊ะแรงๆ หนึ่งทีเพื่อระบายความหงุดหงิด แต่อดีตคุณชายน้อยสกุลเปี้ยนคงลืมไปเสียแล้วว่าโต๊ะนั้นแข็งแค่ไหน
“โอ๊ย!” แล้วก็ต้องยกมือเรียวขึ้นมาสะบัดแรงๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เหมยหลินที่หลับพักผ่อนอยู่บนโต๊ะลืมตาลุกขึ้นแลบลิ้นเลียมือขาวทันทีที่ปั๋วเสวียนวางมือลง
“ขอบใจนะเหมยหลิน” พระชายาส่งยิ้มหวานให้กับเจ้าแมวแสนดีตัวนี้อย่างเอ็นดู เดือดร้อนไปถึงแมวอีกตัวที่ถูกลืมอย่างไร้ตัวตนอยู่ด้านล่าง
ร้าย! ร้ายนักนะ! เหตุใดจึงร้ายเช่นนี้!
หากเป็นคนเหมยหลงคงตัวสั่นประหนึ่งเจ้าเข้าไปแล้ว ดวงตาเพชรลุกวาวไปด้วยไฟแห่งความริษยาที่แสนน่ารักน่าชัง เหมยหลงสะบัดหน้าหนีใช้สี่เท้าของตนวิ่งไปยังตำหนักเจ้านายของตน เพราะในเมื่อเหมยหลงไม่ได้พระชายาปั๋วเสวียน เจ้าเหมยหลินก็ไม่มีสิทธิ์ได้! และแม้จะเจ็บปวดที่หัวใจแต่ก็ขอยอมมอบพระชายาที่แสนน่ารักให้กับเจ้านายตนดีกว่า!
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
“ข้าไม่ไหวแล้วล่ะเหมยหลิน” ท้ายที่สุดเมื่อนั่งรอต่อจนรอไม่ไหวแทบจะหลับอยู่รอมร่อพระชายาตัวน้อยก็ยกมือขยี้ตาหาววอดๆ แต่พูดได้ไม่ทันไรบานประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับเจ้าของตำหนักตัวจริงที่ก้าวเข้ามา คนรอสะดุ้งตัวลุกขึ้นยืนคว้าเจ้าแมวขนปุยอีกตัวไว้ในอ้อมกอดแล้วยืนนิ่ง
...ก็ปั๋วเสวียนไม่รู้จะทำตัวอย่างไรนี่นา...
“พระชายา...รอข้างั้นหรือ?” ถามออกไปอย่างไม่มั่นใจนัก เพราะปกติกลับมาถึงพระชายาก็มักจะเข้านอนแล้ว แต่วันนี้กลับยังไม่นอน...มิน่าล่ะ...ก็ว่าเหตุใดเหมยหลงถึงได้มางับแขนงับขาดึงชายเสื้อจนต้องยอมลุกออกมา
“ข้าเปล่า!” คำโป้ปดหลุดออกจากเรียวปากสวยอย่างไม่ทันยับยั้ง พูดจบก็รีบเสหน้าหลบกัดริมฝีปากอย่างประหม่า
ก็รอเขาจริงๆ มิใช่หรือปั๋วเสวียนคนโง่!
ไหนว่าเจ้าอยากจะทำตัวดีๆ ให้เขาหลงรัก แต่เหตุใดจึงปฏิเสธออกไป!
ก่นด่าตัวเองในใจอย่างหงุดหงิด ใบหน้าหวานค่อยๆ หันกลับมามองพระสวามีที่ยังคงยืนอยู่หน้าห้องไม่ขยับไปไหนเช่นกัน
“คะ ความจริงข้าแค่อยากเล่นกับเหมยหลินเท่านั้น” เมื่อเผลอโป้ปดไปแล้วจะกลับคำก็คงน่าขัน ปั๋วเสวียนจึงทำได้เพียงแต่โป้ปดต่อไปอีก
“แล้วเหตุใดจึงไม่เสวย...” องค์ชายเอ่ยถามนิ่งๆ พลางชายตามองไปยังโต๊ะทานข้าวที่ตอนนี้อาหารมือค่ำคงเย็นชืดหมดแล้ว
“ก็...ก็ข้ายังไม่หิวก็เลยไม่...”
จ๊อกกก~ กลายเป็นว่าท้องไม่รักดีดันส่งเสียงร้องดังลั่นจนคนถามถึงกับหลุดขำ...พระชายาเบิกตากว้างด้วยความเขินอายก่อนจะก้มหน้างุดๆ ซ่อนริ้วแดงบนพวงแก้ม
“หากจะรอข้าก็บอก ไม่มีสิ่งใดน่าอายสำหรับสามีภรรยามิใช่หรือ” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเอ็นดูพลางสาวเท้าเข้าไปลูบศรีษะคนตัวเล็ก พระชายาก้มหน้าจนคางแทบชิดอกเพราะเขินอายที่ถูกจับได้ มิหนำซ้ำเขายังมาลูบหัวตนอีก
“ก็บอกว่าเปล่า...” บ่นพึมพำเบาๆ แลดูน่ารักน่าชังอีกแล้ว แต่ยังไม่ทันจะปฏิเสธได้เท่าไรเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น เจ้าของห้องเอ่ยอนุญาตให้คนด้านนอกได้เข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมฉุย
“มาแล้ว~ หม่อมฉันนำของโปรดขององค์ชายและพระชายามาถวายเพคะ เห็นว่าพระชายาทรงรอองค์ชายกลับมาเสวยร่วมกัน แต่หม่อมฉันก็รู้ดีว่าองค์ชายต้องทรงงานจนดึกก็เลยแอบเข้าครัวไปสั่งห้องเครื่องไว้ให้ พอเห็นเจ้าเหมยหลงวิ่งหางตั้งออกจากตำหนัก หม่อมฉันก็รู้ว่าองค์ชายจะต้องกลับมาก็เลยรีบไปอุ่นอาหารมาถวายเพคะ~” เสียงเจื้อยแจ้วจากนางกำนัลคนสนิทดังขึ้นอยู่เพียงผู้เดียว แต่การช่างพูดในครานี้ทำเอาหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวถึงกับสะดุ้ง
“พี่เจี่ยเจีย!” ปั๋วเสวียนกัดริมฝีปากล่างมองค้อนนางกำนัลสาวสวยแล้วหันกลับมามองสามีตนเองแล้วก็ต้องพบกับสายตากรุ้มกริ่มที่จ้องมองมาจนต้องหันหน้าหนีด้วยความเหนียมอาย
“แหม่...พระชายาล่ะก็...แต่งงานมาหลายเดือนแล้วนะเพคะ ทรงนอนกับพระสวามีทุกคืน ร่วมรักกันตั้งหลายหน มิเห็นพี่สิ่งใดที่ต้องอายเลยเพคะ” เจี่ยเจียฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีก่อนจะวิ่งไปหยิบถาดอาหารชุดเก่าแล้วรีบออกจากห้องทันที ทิ้งให้คนขี้อายยืนอยู่กับคนขี้แกล้งอยู่อย่างนั้น
“เอ่อ...เหมยหลงไปถามองค์ชายมาหรือ...” เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรก็เบี่ยงประเด็นไปที่อื่นแทน แต่เจ้าแมวขนปุยแสนรู้ก็สะบัดหน้าหนีทันทีที่พระชายามองมา
เชอะ...ข้างอนแล้วพระชายาต้องมาง้อข้าด้วย!
“เหมยหลง...เป็นอะไร...”
“เดี๋ยวอาหารจะจืดชืดนะ เจี่ยเจียอุตส่าห์ทำมาให้” ดึงดูดความสนใจจากพระชายาอีกครั้งแล้วทิ้งกายลงบนเก้าอี้ พระชายาตัวน้อยวางเจ้าเหมยหลินในอ้อมกอดลงแล้วรีบวิ่งเข้าไปล้างมือก่อนจะออกมานั่งข้างๆ พระสวามี แม้จะมีเกร็งๆ อยู่บ้างแต่อาหารมื้อค่ำมื้อแรกที่ได้ทานกันสองต่อสองก็ผ่านไปได้ด้วยดี
“อ่า...” หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว องค์ชายห้าที่ทรงงานหนักเป็นพิเศษในช่วงนี้ก็นวดต้นด้วยท่าทีปวดเมื่อย เกือบจะล้มตัวลงนอนอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าสัมผัสเบาๆ จากทางด้านหลังหยุดการกระทำไว้เสียก่อน
“ให้...ให้ข้านวดให้ท่านนะ...องค์ชาย” โชคดีที่คนถูกนวดเพียงแค่พยักหน้าและไม่ได้หันกลับมา มิเช่นนั้นองค์ชายห้าคงได้เห็นพระชายาตัวน้อยหน้าแดงเถือกเพราะเขินอายที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้
...ปั๋วเสวียนก็แค่อยากจะปรนนิบัติให้เขาเริ่มรักตนบ้าง...
ฝ่ามือเล็กบรรจงบีบนวดให้เขาอย่างตั้งใจ แม้แรงที่มีจะถือว่าน้อยนิดก็ตาม แต่สำหรับคนที่รักปั๋วเสวียนมาสิบปีกว่าอย่างชานเลี่ยนั้นกลับรู้สึกว่าหายเมื่อยล้าไปในทันทีที่มือเล็กนั่นแตะลงอย่างตั้งใจ คราแรกที่รู้ว่าปั๋วเสวียนมีใจให้ตนแล้วก็ดีใจไม่น้อย แต่พอได้เห็นคนปากแข็งพยายามจะทำตัวน่ารักนั้นก็ยิ่งหลงเข้าไปอีก
“อ๊ะ…องค์ชาย!” พระชายาร้องลั่นทันทีหลังถูกดึงข้อมือบางแล้วล้มตัวลงมาข้างหน้า แผ่นหลังเล็กถูกประคองไว้ไว้ท่อนแขนแกร่ง ใบหน้าได้รูปของพระสวามีอยู่ใกล้แค่คืบก่อนจะยิ่งใกล้เข้าไปอีกเมื่อคนด้านบนค่อยๆ โน้มหน้าลงมา
“อะ องค์ชาย...ข้าไม่ได้จะ...” ...ทำแบบนี้...คำพูดส่วนที่เหลือถูกตัดออกไปเมื่อยังพูดไม่จบปลายจมูกโด่งก็สัมผัสกับลำคอขาวแล้วสูดดมจนไรขนอ่อนของคนขี้กลัวลุกชัน
“เจ้าตัวหอม” อยู่หน้านิ่งเป็นประจำอย่างชานเลี่ยเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามนิสัย แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจของเขานั้นเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่นับร้อยเพียงแค่ได้สูดดมกลิ่นหอมจากกายตรงหน้า
“องค์ชาย...ฮือ...ข้าเขิน” หลุดปากออกมาทันทีเมื่อเขาละโมบในความหอมฟัดพวงแก้มใสอย่างเอาแต่ใจและไล่ลงไปตามสันกราม ลำคอไม่หยุดหย่อนจนปั๋วเสวียนต้องร้องห้าม
“ข้าแค่อยากนวดหลังให้ท่าน ไม่ได้จะให้ท่านทำกับข้าเช่นนี้” เมื่อความเขินมีมากกว่าความโกรธแค้นซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนตอนที่ไม่ได้รักเขา การปฏิเสธสัมผัสของปั๋วเสวียนจึงไม่ใช่การด่าทอหรือทุบตีเหมือนดังเดิม แต่กลับเป็นพูดเอ็ดเบาๆ เสียมากกว่า
“เหตุใดเจ้าจึงอยากนวดหลังให้ข้า”
“ก็...ก็มันเป็นหน้าที่ของภรรยา...”
“หากเจ้าไม่ชอบข้าก็ไม่จำเป็นต้องฝืนใจหรอก ข้าไม่อยากทรมานใจเจ้า” แกล้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพื่อหวังใช้แผนบีบความจริงด้วยการกดดันตามบิดาของตน ปล่อยตัวพระชายาในอ้อมแขนให้เป็นอิสระก่อนจะจัดที่ทางเอนตัวลงนอนไม่สนใจสิ่งใดอีก ทิ้งให้พระชายาที่ไม่รู้อะไรกับกระวนกระวายใจกับคำพูดนั้นอยู่ฝ่ายเดียว
...ชานเลี่ยจริงๆ นั้นแสนร้ายกาจ...
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
เมี้ยว~
อุ้งเท้าขาวๆ ของสัตว์เลี้ยงแสนรู้วางลงบนใบหน้าหวานหวังปลุกให้คนน่ารักตื่น วันนี้พระชายาไม่ได้ตื่นนอนบนอกของศัตรูหัวใจของเหมยหลงอย่างเช่นทุกวัน เจ้าแมวไม่รู้จักเจียมก็บังอาจถือวิสาสะเลียหน้าพระชายาตัวน้อยเสียจนคนหลับต้องสะดุ้งตื่น
“อือ...เหมยหลง” เมื่อลืมตาขึ้นเห็นเจ้าแมวขนปุยอยู่ระยะใกล้คนตัวเล็กก็ย่นคิ้วลุกขึ้น
“...เหม็น...” คำพูดสั้นๆ จากปากพระชายาทำเอาเจ้าแมวหลงตัวเองถึงกับใจเสีย จู่ๆ คนน่ารักของเหมยหลงก็พูดว่าเหม็นพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร เหมยหลงจึงตัดสินใจออดอ้อนด้วยการชันตัวขึ้นเลียหน้าพระชายาอีกครั้ง
“เหมยหลง...เหม็น...” พระชายาผละหน้าหนีทันทีเมื่อจะถูกสัมผัส แต่กระนั้นเจ้าแมวเอาแต่ใจก็ยังคงพยายามที่จะเข้าใกล้คนสวยอยู่อย่างนั้นจนท้ายที่สุดคนบ่นว่าเหม็นก็ลุกพรวดพราดวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
“พระชายาเป็นอะไรหรือ!” ชานเลี่ยรีบตามเข้ามาในห้องนำทันทีเมื่อได้ยินเรียกอาเจียนของคนรัก เห็นพระชายาแทบเกาะขอบโถอยู่รอมร่อ มือหนารีบเข้าไปช่วยรวบเส้นผมดำขลับที่เกะกะคนอาเจียน เจ้าแมวตาแป๋วที่ไม่รู้ว่าตนผิดอะไรได้แต่ยืนสี่ขามองอยู่ห่างๆ
ก็เข้าไปหาแล้วพระชายาก็ยิ่งอาเจียนหนัก...เหมยหลงผิดอะไร...
“เจี่ยเจียตามหมอหลวง!” เสียงทุ้มตะเบงออกไปสุดเสียงด้วยใจที่แสนห่วง พยายามลูบหลังคนป่วยอยู่พักหนึ่งคนตัวเล็กก็สงบลง
“ข้า...แฮ่ก...ข้าเหม็นเหมยหลง” ดวงตาเรียวรีช้อนมองคนข้างกายด้วยน้ำตาคลอเบ้า เพราะอาเจียนเสียจนหมดแรงแล้วก็เจ็บคอมากเสียด้วย
“เหมยหลงออกไปไกลๆ” ได้ยินดังนั้นก็สั่งแมวรักเสียงเครียดจนเจ้าแมวขนปุยต้องเดินหางตกออกไปนอกตำหนักด้วยใจเศร้าหมอง
“ลุกไหวไหมพระชายา” ประคองกายบางเอาไว้เพื่อช่วยพยุงให้ลุกขึ้น แต่ร่างกายของปั๋วเสวียนก็อ่อนเปลี้ยไปหมดจนต้องรีบอุ้มออกมา
“หมอหลวงมาแล้วเจ้าค่ะ!” ประตูห้องถูกเปิดออกตามด้วยหมอหลวงและเจี่ยเจียที่ต่างวิ่งกระหืดกระหอบ ไม่วายมีทั้งจงเหรินและอี้ฝานตามมาด้วย
“พระชายาบอกว่าเหม็นเหมยหลงแล้วก็อาเจียนจนหมดแรง” คนเป็นห่วงรีบแจ้งอาการให้หมอหลวงทราบทันที
“ขออนุญาตนะพะยะค่ะพระชายา” เอ่ยขออนุญาตแตะเนื้อต้องตัวเป็นพิธีแล้วรีบตรวจชีพจรคนป่วยกระทันหันที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง
“พระชายาเสวยพระกระยาหารไม่ตรงเวลาหรือพะยะค่ะ”
“เมื่อคืนพระชายารอข้าจนเข้าวันใหม่ถึงจะได้เสวย” ตอบคำถามแทนพระชายาด้วยความร้อนใจพลางนึกว่าอาจเป็นเพราะพระชายาหิ้วท้องรอ ไม่ยอมเสวยสิ่งใดจึงอาจเป็นโรคกระเพราะได้
“พระชายานอนดึกติดต่อกันหลายคืนด้วยใช่หรือไม่พะยะค่ะ” ครานี้หมอหลวงก็ถามในคำถามที่ชานเลี่ยตอบไม่ได้ เพราะกลับมาถึงหองทีไรก็เห็นคนตัวเล็กหลับปุ๋ยเสียแล้ว...แต่หารู้ไม่ว่าปั๋วเสวียนนอนรอตนอยู่ทุกคืน
“...” คนตัวเล็กไม่ได้ตอบใดๆ เพียงแต่พยักหน้าแทบคำตอบ หมอหลวงจัดการเขียนใบสั่งยาอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตำหนิที่พระชายาไม่ดูแลตนเองทั้งนอนดึก และทานอาหารไม่ตรงเวลา เคราะห์ร้ายจะกลายเป็นโรคกระเพาะซึ่งแสนจะทรมานจนคนถูกต่อว่ารู้สึกเหมือนตัวเล็กลง
“อีกอย่างถ้าหากพระชายาเป็นโรคกระเพาะก็จะส่งผลเสียต่อเด็กในครรภ์ด้วยพะยะค่ะ”
“ห้ะ!!” สิ้นประโยคของหมอหลวงทุกคนที่อยู่ในห้องต่างก็อุทานออกมาพร้อมเพรียงกัน
“เอ่อ...ขออภัยที่กระหม่อมบอกช้าไป”
“...”
“...พระชายาตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์แล้วพะยะค่ะ...”
❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀❀
พูดคุยกับหมาน้อย
เขาท้องมานานแล้ว เขาไม่รู้ตัวกันแหละ...ขอบคุณเหมยหลงที่ทำให้พระอาการของพระชายาออกด้วยนะคะ ฮี่ๆ....ขอโทษที่หายไปนานมากๆ ค่ะ เนื่องด้วยทั้งงานราชงานหลวงมีมาเต็มไปหมดเลย บอกจะอัพภายในวันนั้นวันนี้ก็ปั่นไม่ทัน รู้สึกแย่มากที่ทำให้ทุกคนรอแล้วก็ผิดหวัง ขอโทษด้วยนะคะ ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่มีเหตุผลจริงๆ ค่ะ ต้องทำงานกลุ่ม งานเดี่ยว ขายของ (สำคัญมากเพราะเรียนท่องเที่ยวต้องใช้เงินเยอะ) ก็เลยดูวุ่นๆ ไปหมดเลยค่ะ
ตอนหน้าอาจจะจบแล้วนะคะ ฮี่ๆ ถ้าจบจริงๆ ก็จะรีบขียนตอนพิเศษเอามาสปอยด์ในเด็กดีให้นะคะ ฝากตามฟิคใหม่หมาน้อยด้วยน้า #ยอลยอลฮะ ส่วนพีเรียตเรื่องใหม่รอก่อนฮ้าบ
เปิดจองฟิคแล้วนะค้า อย่าลืมเล่นเกมชิงฟิคฟรีกัน #อริร้ายชานแบค
S Y D N E Y `

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ท้องแล้วววววววววววววววว ดี๊ดี
แต่ก็สงสารเหมยหลงเหมือนกันนะเนี่ย
ท้องแล้วครัช ท้องแล้วววววววววว
วู้วววววววววววววววววว