คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ราชนาวีเสน่หา EP.09
พีรวิทย์มองไปยังร่างที่ฟุบอยู่บนโต๊ะสลับกับสาวสวยในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้าม ผมยาวประบ่า เพียงแค่นี้เขาก็จำได้ทันทีเลยว่าเธอเป็นใคร
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับน้องพร”
“เอ่อ...อ้าว มาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะอาพีท” รวิพรถามเมื่อเห็นว่าผู้ชายที่ถามเป็นใคร งานนี้ยุ่งแน่ถ้าพีรวิทย์รู้ว่าหลานสาวคนโปรดชอบใคร และคนที่ตกที่นั่งลำบากอาจเป็นโชติกา
“ใครหรือครับคุณพร” ปองธรรมหันมากระซิบถามรวิพรอย่างไม่ไว้ใจ สายตาที่ชายคนนี้มองผู้หญิงที่เขาชอบ มันไม่ธรรมดาและยิ่งไม่ธรรมดาก็ตอนที่หันไปมองพี่สาวคนใหม่ของเขา
“อาพีทเป็นอาของภัทริยา”
“หรือครับ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“เกิดอะไรขึ้นน้องพร” พีรวิทย์ถาม สายตายังคงมองไปที่หลานสาวกับเพื่อนสนิทของเธอ นี่ถ้าเขาไม่เห็นรวิพรเสียก่อน เขาก็คงไม่รู้ว่าหลานสาวสุดที่รักออกมาท่องราตรี ทั้งที่เขาเตือนแล้ว ว่าห้ามออกไปเที่ยวกลางค่ำกลางคืนคนเดียว ถ้าอยากเที่ยวก็ให้โทรศัพท์หาเขาก่อนเป็นคนแรก แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน! ทำไมเขาถึงมาเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของหลานสาวในคืนนี้
“เรื่องเดิมๆ นะคะอาพีท”
“เรื่องเดิมๆ หมายความว่าไงครับน้องพร”
“เอ่อ...” รวิพรรู้สึกกระอักกระอ่วนที่ต้องพูดเรื่องของเพื่อนสนิทให้ชายหนุ่มฟัง อีกอย่างเธอไม่มั่นใจเลยว่าถ้าเขาฟังเรื่องที่เธอเล่าจบ จะเกิดอะไรขึ้น แล้วความสัมพันธ์ในอนาคตข้างหน้าระหว่างภัทริยากับโชติกาจะเป็นอย่างไร
“ใบเตย...ทำไมเธอถึงไม่รักฉัน” คำพูดที่ดังขึ้นทำให้พีรวิทย์และทุกคนถึงกับชะงักบทสนทนาไป ไม่ต้องพูดถึงบุคคลที่ถูกกล่าวถึง ร่างสูงโปร่งรีบขยับตัวลุกออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว หันหน้ากลับมามองเพื่อนสนิทกับน้องชายด้วยสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย
“อย่าคิดมากนะใบเตย” รวิพรพยายามปลอบใจเพื่อนสนิท คราวนี้เรื่องคงไม่จบลงง่ายๆ อย่างที่เธอคิด หลายครั้งที่เกิดเรื่องเธอมั่นใจว่าโชติกาพยายามควบคุมอารมณ์เพื่อไม่ทำให้ภัทริยาเสียใจ แต่ครั้งนี้เธอเชื่อว่าความอดทนของโชติกาคงหมดลงแล้ว
“ฉันหมดความอดทนกับภัทรแล้วล่ะพร เมื่อไรมันจะจบเรื่องงี่เง่า บ้าๆ แบบนี้เสียที”
“ใจเย็นๆ สิใบเตย”
“ฉันใจเย็นไม่ลงแล้ว ฉันพยายามอดทนมาตลอด หวังว่าสักวันหนึ่งภัทรจะคิดได้ สิ่งที่ภัทรต้องการจากฉัน มันจะไม่มีวันเป็นจริง”
“นี่มันเรื่องอะไรกันน้องพร น้องใบเตย” พีรวิทย์ถามรวิพรกับโชติกาอย่างต้องการคำตอบ จนลืมไปว่าเขาไม่เคยเรียกโชติกาด้วยสรรพนามที่สนิทสนมเช่นนี้มาก่อน อาจเพราะการวางตัวของรวิพรกับโชติกานั่นต่างกัน จึงทำให้เขารู้สึกว่าเพื่อนสนิทคนนี้ของหลานสาว พยายามทำตัวปลีกวิเวก ไม่ชอบเข้าสังคมเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขารู้จักในรุ่นราวคราวเดียวกัน
โชติกาถอนหายใจแล้วหันไปมองอาหนุ่มของภัทริยา โชคมักไม่เข้าข้างเธอเสียเลย เจอใครไม่เจอดันมาเจอผู้ชายเจ้าระเบียบอย่างกับผู้หญิงแถมยังเป็นอาของภัทริยาอีก
“ก็เรื่องเดิมๆ เหมือนเคยนั่นแหละค่ะคุณพีท”
“เรื่องเดิมๆ นั่นมันเรื่องอะไรล่ะครับน้องใบเตย”
“พี่ใบเตยครับ ผมว่าตอนนี้เราพาคุณภัทรกลับบ้านก่อนดีไหมครับ” ปองธรรมเตือนพี่สาว เมื่อเห็นว่ากำลังจะเกิดศึกน้ำลายขึ้น ถ้ายังยืนอยู่ตรงนี้มีหวังคงได้ทะเลาะกันใหญ่โต
“มีอะไรให้ฉันช่วยไหมพีท” แฟรงค์ตัดสินใจถามเมื่อเริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด และรับรู้ถึงความรู้สึกไม่ปกติของสาวสวยในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามตัวเก๋ สาวสวยคนนี้มองแค่แวบเดียวก็ชวนให้หัวใจสั่นไหว ความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จัก เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจอย่างประหลาด
“ไม่มีหรอกแฟรงค์ ฉันจัดการเองได้”
“แน่ใจ” แฟรงค์ถามเพื่อความแน่ใจ
“แน่ใจสิเพื่อน” พีรวิทย์ตอบแล้วหันมาสนใจเพื่อนสนิทของหลานสาว
“พี่ใบเตยครับ ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องไปส่งคุณภัทรที่บ้านแล้ว” ปองธรรมบอกพี่สาว ก่อนหันมายิ้มให้รวิพร และไม่ลืมที่จะเหลือบมองสีหน้ายุ่งเหยิงของหนุ่มหล่ออีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา หนุ่มหล่อคนนี้ท่าทางลึกลับ เย็นชาและชวนให้ขนลุก
“งั้นเรากลับบ้านกันเถอะป้อง” โชติกาละสายตาจากพีรวิทย์มาบอกน้องชาย ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องไปส่งภัทริยา ใจจริงเธอก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเพื่อนสนิทคนนี้นัก ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าความรู้สึกที่ภัทริยามีให้เธอเกินกว่าคำว่าเพื่อน ระยะห่างระหว่างพวกเธอจึงมากขึ้นไปด้วย
“ครับพี่ใบเตย” ปองธรรมพยักหน้าตอบรับ
“ฝากคุณพีทไปส่งภัทรที่บ้านด้วยนะคะ”
“ครับ ยังไงผมก็ส่งหลานสาวของผมถึงบ้านอยู่แล้ว คุณใบเตยไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกครับ”
“ค่ะ” โชติกาตอบแล้วขยับตัวออกห่างจากภัทริยาที่ยังนั่งคร่ำครวญอยู่บนเก้าอี้ จากนี้ไปเธอควรอยู่ให้ห่างเพื่อนสนิทคนนี้ให้มากยิ่งกว่าเดิม บางทีเธอควรหยุดงานสักพักแล้วเดินทางไปพักผ่อนที่ไหนสักระยะ รอให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ
พีรวิทย์เบี่ยงกายเดินมาหยุดที่อยู่โต๊ะ เขย่าแขนหลานสาวให้รู้สึกตัว ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาเห็นสภาพของหลานสาวที่เขารักที่สุดทำตัวไม่เหมาะสมแถมมีพฤติกรรมแปลกพิศดารจนสุดกู่ ‘หลานสาวฉันเป็นพวกรักร่วมเพศจริงๆ หรือเนี่ย เขาล่ะอยากจะบ้าตาย’
“ลุกได้แล้วภัทร กลับบ้านกันเถอะ” ชายหนุ่มตัดสินใจบอกหลานสาว
“อย่ามายุ่งกับฉัน” ภัทริยาตวาดแว้ด ปัดมือที่แขนของเธอออกอย่างไม่พอใจ ใครที่เธออยากให้มาหาก็คือโชติกา แล้วไอ้คนที่มาหาเธอเป็นใครกัน กล้าดียังไงถึงเข้ามายุ่งเรื่องของเธอ
“ภัทร นี่อาพีทของภัทรไง กลับบ้านกันเถอะ ภัทรเมามากแล้ว”
“อาพีทเหรอ? อาพีทไหน อย่ามาโกหกดีกว่า อาพีทไม่มีทางมาเที่ยวที่แบบนี้หรอก” ภัทริยาร้องบอกเสียงแผ่วเบา สถานที่แบบนี้ อาหนุ่มของเธอไม่มีทางมาเที่ยวเด็ดขาด ทั้งอาและโชติกาก็มีนิสัยไม่ต่างกัน ไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ทั้งคู่ชอบปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียว จึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่เขาจะมาเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืนเช่นนี้
“แต่คนที่กำลังพูดกับเธออยู่ก็คือ พีรวิทย์ ชัยประสิทธิ์และเป็นอาของเธอ...ภัทริยา ชัยประสิทธิ์” พีรวิทย์ตัดใจบอกหลานสาวคนโปรดเสียงเย็นเฉียบ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะรู้สึกโกรธและไม่พอใจหลานสาวตนเองได้มากเท่าครั้งนี้
ภัทริยาชะงักคำพูดที่จะตวาดไปก่อนหน้านี้ทันทีที่ได้ยินเสียงเข้ม ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองก็พบใบหน้าบึ้งตึง แววตาเย็นชากำลังจ้องมองเธออยู่ “อาพีท”
“ใช่ อาเอง กลับบ้านกันได้แล้ว เรามีเรื่องที่ต้องคุยกันอีกเยอะ”
“ไม่ค่ะ ภัทรไม่กลับ ภัทรจะรอใบเตย”
“ไม่ต้องรอหรอกภัทร เพราะใบเตยยืนอยู่นั่น” พีรวิทย์บอกหลานสาว ก่อนหันไปมองผู้หญิงที่หลานสาวเอ่ยถึง ความรู้สึกของเขาในขณะนี้คือโกรธ ไม่พอใจและรู้สึกไม่ชอบเพื่อนสนิทคนนี้ของหลานสาวมากขึ้นไปอีก
ภัทริยาถึงกับตาสว่าง วางแก้วเหล้าแล้วหันไปมองโชติกาอย่างดีใจ นึกไม่ถึงว่ารวิพรจะโทรศัพท์บอกให้โชติกามาหาเธอที่นี่ได้ “ใบเตย...ใบเตยมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่เข้ามาหาภัทรล่ะ” พูดจบภัทริยาก็ลุกขึ้นยืน แล้วปรี่เข้าไปหาโชติกา ไม่ได้สนใจผู้เป็นอาที่ยืนอึ้งไปกับพฤติกรรมของเธอ
โชติกาขยับถอยห่างจากภัทริยาทันที ที่ร่างระหงปรี่เข้ามาเพื่อจะกอดเธอ และนั่นทำให้เธอจนกับผู้ชายที่มากับอาของภัทริยา “Sorry”
“ไม่เป็นไรครับ” คนถูกชนตอบกลับด้วยภาษาไทยถึงจะไม่เก่งเหมือนเจ้าของภาษา แต่ก็ทำให้คนที่ถอยหลังมาชน ต้องเงยหน้าขึ้นสบตามองเขา แฟรงค์ส่งยิ้มให้แล้วขยับกายออกห่างเธอเล็กน้อยเพื่อให้เธอยืนได้สะดวก
โชติกาเงยหน้าขึ้น สบตามองเพื่อนของพีรวิทย์ด้วยความรู้สึกที่ตกใจเล็กน้อย อาจเพราะเธอไม่คิดว่าเขาพูดภาษาไทยได้ ถึงไม่เก่งเท่าเจ้าของภาษา แต่ก็ถือว่าเก่ง เพราะเขาไม่ใช่คนไทย แต่พูดภาษาไทยได้เก่งกว่าคนไทยบางคนเสียอีก
“มีอะไรหรือครับ”
“ฉันแค่แปลกใจนิดหน่อยที่คุณสามารถพูดภาษาไทยได้ถึงขนาดนี้”
“หรือครับ”
“ค่ะ”
“ทำไมต้องคุยกับผู้ชายคนนี้ด้วย ใบเตยมาหาภัทรไม่ใช่เหรอ” ภัทริยาถามเมื่อโชติกาไม่สนใจเธอ แต่กลับไปสนใจและคุยกับคนอื่น ซ้ำยังเป็นผู้ชายแปลกหน้า ผู้ชายที่เข้าใกล้โชติกาทุกคน เธอย่อมรู้จักดี แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวคนนี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
“พอได้แล้วยัยภัทร กลับบ้าน! เรามีเรื่องที่ต้องคุยกันยาวเลย” พีรวิทย์บอกหลานสาวเสียงเยียบเย็น ตอนนี้เขารู้สึกโกรธอย่างที่ไม่เคยโกรธใครมาก่อน นึกไม่ถึงเลยว่าหลานสาวที่เขารัก จะมีนิสัยแบบนี้ ไม่เพียงแต่ไม่น่ารัก แต่ยังทำตัวไร้ค่าอีกด้วย
“ภัทรจะให้ใบเตยไปส่งบ้านค่ะอาพีท”
“ไม่ได้!”
“แต่ภัทรจะให้ใบเตยไปส่งภัทรที่บ้าน”
“ให้อาพีทไปส่งเถอะภัทร มีอะไรก็ค่อยคุยกันพรุ่งนี้” รวิพรเตือนภัทริยา ขืนปล่อยให้เอาแต่ใจเหมือนทุกครั้ง อาจเกิดเรื่องที่เกินแก้ไขก็ได้ ในขณะที่โชติกาก็นิ่งจนน่ากลัว ความโกรธของภัทริยายังไม่น่ากลัวเท่ากับความโกรธของโชติกา
“กลับบ้านกับอาเดี๋ยวนี้นะภัทร มีเรื่องอะไรก็ค่อยคุยกันพรุ่งนี้” พีรวิทย์บอกแล้วเดินไปดึงแขนของหลานสาวที่พยายามจะเดินเข้าไปกอดโชติกา ทว่าผู้หญิงที่หลานสาวเขาพุ่งเข้าไปหากลับถอยห่างออกไปเรื่อยๆ แล้วสีหน้าที่นิ่งจนน่ากลัวนั่นอีก
“ฉันเห็นด้วยกับความคำพูดของอาพีทนะภัทร นี่ก็ดึกมากแล้ว กลับบ้านไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้ฉันกับใบเตยจะไปหาแกที่บ้าน” รวิพรพยายามไกล่เกลี่ย อาหนุ่มของภัทริยาก็ดูจะแรงใช่เล่น ส่วนโชติกานั่นไม่ต้องพูดถึง แม้จะดูนิ่งเฉย ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้โชติกาเครียดและปวดหัวไม่น้อย
“ไม่! ฉันจะคุยกับใบเตยเดี๋ยวนี้ แกได้ยินไหมพร ฉันจะคุยกับใบเตยตอนนี้และก็เดี๋ยวนี้ด้วย”
“ฉันว่าแกเมามากแล้วภัทร กลับบ้านไปนอนซะ”
“แกไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน”
“พอเถอะพร ฉันหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน ฉันเหนื่อยที่ต้องอดทนและยอมภัทริยาแล้ว ฉันเบื่อที่ต้องอ่อนข้อและตามใจภัทริยาแบบนี้ ฉันก็อยากมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างเหมือนกัน” โชติกาตัดสินใจบอกความรู้สึกที่เธอพยายามอดทนอดกลั้นมาตลอดหลายปี คงเพราะความใจอ่อนของเธอ ถึงทำให้ภัทริยากลายเป็นคนเอาแต่ใจ นิสัยเสียและทำตัวเหมือนเด็กเข้าไปทุกวัน
“ฉันเหนื่อยแล้วภัทร เมื่อไรเธอจะเลิกทำตัวแบบนี้เสียที อายุเธอก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ไม่สงสารคุณแม่กับอาของเธอบ้างหรือไง ถ้าเธอยังทำตัวไร้สาระ ไม่มีเหตุผลแบบนี้ ฉันว่าพวกเราเลิกติดต่อกันสักพักเถอะ”
“ไม่นะใบเตย ภัทรทำผิดอะไร ภัทรไม่ดีตรงไหน ทำไมใบเตยถึงไม่ยอมรับรู้ถึงความรู้สึกของภัทรเสียที ภัทรรักใบเตยนะ”
“เราเป็นเพื่อนกันนะภัทร” โชติกาย้อนภัทริยาเสียงเข้ม สองมือกำแน่นเข้าหากันเพื่อพยายามระงับอารมณ์ที่เดือดปุดอยู่ในใจ ไม่นึกเลยว่าเธอต้องมาทะเลาะกับภัทริยาด้วยเรื่องเดิมๆ อีกครั้ง หลายเดือนก่อนก็เพิ่งคุยกันไปเอง เรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเธอ ในขณะที่พีรวิทย์โกรธจนหน้าดำหน้าเขียว ตอนนี้เขาบอกไม่ได้เหมือนกันว่าความโกรธที่เกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วนนี้มันมาจากไหน ที่แน่ๆ มันมาจากหลานสาวของเขาส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งไม่แน่ใจว่ามาจากโชติกาหรือตัวเขาเองกันแน่
“แต่ภัทรรักใบเตย” ภัทริยาร้องบอกเสียงสั่น
“ถ้ารักแบบเพื่อนฉันก็ไม่มีปัญหาหรอกภัทร แต่ถ้าภัทรรักฉันในเชิงชู้สาว ฉันก็ขอยืนยันคำเดิมว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับภัทร”
“ใบเตยมีคนอื่นใช่ไหม! ใช่ไหมใบเตย”
“พอเถอะภัทร” รวิพรเตือนภัทริยาอย่างเป็นห่วง
“แกนะหุบปากไปเลยนะพร ถ้าไม่ช่วยก็อยู่เฉยๆ” ภัทริยาหันมาตวาดแว้ดใส่รวิพร ไม่ช่วยเธอแล้วยังเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของเธอกับโชติกาอีกทำไม?
“มันจะไม่มากไปหน่อยหรือครับคุณภัทริยา จะพูดอะไรก็คิดให้ดีก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ คุณน่ะไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะครับ” ปองธรรมพูดแทรกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์กับคำพูดของภัทริยา ไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดหล่อนถึงไม่สามารถทำให้พี่สาวเขารักได้ ก็เพราะนิสัยเอาแต่ใจตัวเองนี่แหละ ถึงได้อกหัก!
////////
ความคิดเห็น