ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 1 มาตุภูมิ [5]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 811
      9
      8 ต.ค. 60









             “โถ คุณโซลาโน่เปรียบเสียน่าสงสารเชียวค่ะ” ยาบารีหัวเราะจนใบหน้าแดงก่ำ จนต้องใช้หลังมือซับน้ำตาที่หางตา “ดูสิคะ ฉันขำจนน้ำตาเล็ดเลย คุณนี่ตลกร้ายเหมือนกันนะคะ”


             “ผมไม่อยากให้คุณกลัวผม อยากให้เราพูดคุยกันได้” เขาพูดเสียงราบเรียบ ทว่าดวงตาคมกลับไม่ราบเรียบดังเช่นน้ำเสียง มันมีอะไรบางอย่างทอดผ่านสายตาเข้ามากระตุกหัวใจของหญิงสาวให้เต้นไม่เป็นจังหวะ เธอรีบหลุบเปลือกตาลงต่ำ เสมองอาหารจานอื่นๆ


             แล้วอันนี้เรียกว่าอะไรหรือคะถามพลางตักอาหารหน้าตาคล้ายยำขึ้นรับประทาน มีเนื้อปลาสดและกุ้งสดที่หมักในน้ำมะนาวและพริกไทย


             อันนี้เรียกว่าเซบีเชครับ


             อร่อยมากค่ะ เธอพูดพลางตักอาหารเข้าปาก ท่าทางการกินน่าเอร็ดอร่อยจนคนพามาอดปลื้มไม่ได้ นอกจากจะเป็นผู้หญิงที่เรียบง่าย ไม่เรื่องมากแล้ว เธอยังเป็นผู้หญิงที่เวลายิ้ม จะยิ้มทั้งปากและดวงตา มันทำให้โลกดูสดใสขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว


             ส่วนเครื่องดื่มของผมคือปิสโกซาวร์ มีส่วนผสมของเหล้าปิสโก น้ำมะนาว น้ำแข็ง ไข่ขาว และน้ำหวานครับ


             เหล้าปิสโกหรือคะ คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย


             ครับ เหล้าปิสโกก็คือบรั่นดีที่ทำจากองุ่น


             ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ฉันคงต้องขอผ่าน หญิงสาวก้มลงมองดูเครื่องดื่มสีม่วงของตัวเอง


             ของคุณเรียกว่าชีชาโมราดาครับ ทำมาจากข้าวโพดสีม่วง เป็นเครื่องดื่มที่เรานิยมดื่มกันมาก


             ยาบารีลองชิมดู ก่อนจะช้อนเปลือกตาขึ้นมองชายหนุ่ม ฉันคิดไม่ผิดเลยที่ให้คุณโซลาโน่ช่วยเลือกอาหารและเครื่องดื่มให้ ขอบคุณมากนะคะ มื้อนี้อร่อยและน่าประทับใจมาก


             ด้วยความยินดีครับ


             คุณไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่เพื่อนบ้าน แล้วรู้จักกับคุณย่าได้ยังไงคะ หลังจากจัดการอาหารตรงหน้าจนหมดแล้ว ยาบารีก็เป็นฝ่ายชวนชายหนุ่มพูดคุย เพราะถ้าหากว่าเธอไม่พูด เห็นทีเขาก็คงไม่ยอมพูดเช่นกัน


             ผมเพิ่งย้ายมาสอนที่นี่ครับ


             สอนที่นี่ เอ...สอนเกี่ยวกับอะไรเหรอคะหญิงสาวซักถามด้วยความใคร่รู้


             ผมสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในกุสโกครับ


             ยาบารียิ้มกว้างเมื่อได้ยินดังนั้น “จริงหรือคะคุณโซลาโน่” หญิงสาวนิ่วหน้าแล้วเอียงคอเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด


    ถ้าอย่างนั้นขอเรียกแทนตัวเองว่า รี นะคะ รีขอฝากตัวเป็น


    ลูกศิษย์ได้มั้ยคะอาจารย์โซลาโน่ ตอนนี้รีเรียนคณะประวัติศาสตร์ชั้นปีที่ 2 ค่ะ แล้วที่สำคัญรีสนใจอาณาจักรอินคามาก ถ้าได้ความรู้จากอาจารย์โซลาโน่คงดีกว่ากางตำราอ่านเองแน่ๆ
    หญิงสาวเรียกแทนตัวเองว่ารีอย่างสนิทสนมจนโซลาโน่อดขันไม่ได้ เด็กยังไงก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำสิน่า แม้ภายนอกจะดูเป็นสาวสวยพราวเสน่ห์ แต่บางมุมหญิงสาวก็ยังเป็นเด็กอย่างเห็นได้ชัด


             ได้ครับ


             ดีใจจังค่ะ ท่าทางดีใจของหญิงสาวทำให้คนหน้าขรึมหัวเราะออกมาในที่สุด


             แล้วอาจารย์มาสนิทกับคุณย่าได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อบ้านคุณย่ากับมหาลัยของอาจารย์อยู่กันคนละฟากเลย


             ยาบารีอุปโลกน์ตัวเองขึ้นเป็นลูกศิษย์ของโซลาโน่เรียบร้อย แล้วตอนนี้เธอก็ตั้งใจจะสูบความรู้ทั้งหมดจากอาจารย์จำเป็นคนนี้


             ผมมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ กับคุณย่าโรมีนาครับ เลยได้พบท่านบ่อยๆ พอพูดคุยกันบ่อยเข้าเลยสนิทสนมกันในที่สุด


             นั่นสิคะ ดูเหมือนคุณย่าจะไว้ใจอาจารย์มาก ถึงอนุญาตให้รีไปไหนมาไหนด้วยแบบนี้ หญิงสาวเม้มปากอย่างครุ่นคิดก่อนจะสรุปเองเสร็จสรรพ


             ครับ คุณย่าโรมีนายังขอให้ผมช่วยพาหลานสาวของท่านเที่ยวอีกด้วย ถ้าหาก...เอ่อ...คุณรีไม่รังเกียจ กว่าจะเรียกชื่อหญิงสาวออกมาได้ คนพูดน้อยก็เขินจนใบหูและปลายจมูกแดงระเรื่อ


             รีไม่รังเกียจเลยค่ะอาจารย์ ว่าแต่เราไปเที่ยวกันพรุ่งนี้เลยดีมั้ยคะ หญิงสาวมัดมือชกราวกับกลัวว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจ


             เอ่อ ความจริงเรียกผมว่าโซลาโน่เหมือนเดิมจะดีกว่านะครับ เรียกอาจารย์แบบนี้แล้ว... ชายหนุ่มไม่คุ้นชินที่จะมีสาวสวยมาเรียกเขาว่าอาจารย์ มันช่างดูห่างเหินและไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปในทางอื่นเลย


             ได้ยังไงล่ะคะอาจารย์ รีอายุ 18 เองนะคะ ดูแล้วอาจารย์น่าจะแก่กว่ารีหลายปี อายุน่าจะสัก 39 ย่าง 40 หญิงสาวคาดคะเนด้วยสายตา โซลาโน่ยิ้มฝืดเมื่อได้ยินเช่นนั้น


             เอ่อ...คือผมอายุ 30 ครับ ว่าแต่ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ


             ยาบารียกแก้วขึ้นจิบน้ำ แล้วก็แทบสำลักเมื่อได้ยินอายุที่แท้จริงของอาจารย์หนุ่ม เธอรีบหยิบทิชชูมาเช็ดปาก ก่อนจะโบกไม้โบกมือแก้ตัวจ้าละหวั่น


             ไม่ใช่แบบนั้นนะคะอาจารย์ เอ่อ...อาจเป็นเพราะว่าอาจารย์ไว้หนวดเคราแบบนี้ รีเลยทายอายุพลาดไปนิดหน่อยค่ะ เธอแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ใบหน้าแดงก่ำสลับซีดขาว กลัวว่าโซลาโน่จะไม่พอใจจนไม่ยอมพาเธอเที่ยว คราวนี้ละอดแน่ๆ เชียว ครั้นจะไปขอร้องให้คุณย่าโรมีนาพาเที่ยวก็คงจะไม่ไหว หรือจะไปจ้างไกด์ให้พาเที่ยวยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เข้าไปใหญ่ นั่นเพราะเธอไม่มีเงินมากพอจะจ้างไกด์


             “ครับ ผมเชื่อว่าคุณคงไม่ได้เจตนา


             เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมาเช่นนั้นทำให้ยาบารีรู้สึกเขินขึ้นมาดื้อๆ ทำไมนะแค่คำพูดเรียบๆ กับดวงตาคมสีนิลถึงทำให้เธอหวั่นไหวได้ถึงขนาดนี้


             เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณรีแปดโมงเช้า ผมเชื่อว่าสถานที่ที่ผมจะพาคุณไป คุณต้องถูกใจอย่างแน่นอน…”








    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×