คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 1 มาตุภูมิ [5]
“โถ คุณโซลาโน่เปรียบเสียน่าสงสารเชียวค่ะ”
ยาบารีหัวเราะจนใบหน้าแดงก่ำ จนต้องใช้หลังมือซับน้ำตาที่หางตา “ดูสิคะ
ฉันขำจนน้ำตาเล็ดเลย คุณนี่ตลกร้ายเหมือนกันนะคะ”
“ผมไม่อยากให้คุณกลัวผม
อยากให้เราพูดคุยกันได้” เขาพูดเสียงราบเรียบ ทว่าดวงตาคมกลับไม่ราบเรียบดังเช่นน้ำเสียง
มันมีอะไรบางอย่างทอดผ่านสายตาเข้ามากระตุกหัวใจของหญิงสาวให้เต้นไม่เป็นจังหวะ
เธอรีบหลุบเปลือกตาลงต่ำ เสมองอาหารจานอื่นๆ
“แล้วอันนี้เรียกว่าอะไรหรือคะ”
ถามพลางตักอาหารหน้าตาคล้ายยำขึ้นรับประทาน
มีเนื้อปลาสดและกุ้งสดที่หมักในน้ำมะนาวและพริกไทย
“อันนี้เรียกว่าเซบีเชครับ”
“อร่อยมากค่ะ” เธอพูดพลางตักอาหารเข้าปาก
ท่าทางการกินน่าเอร็ดอร่อยจนคนพามาอดปลื้มไม่ได้ นอกจากจะเป็นผู้หญิงที่เรียบง่าย
ไม่เรื่องมากแล้ว เธอยังเป็นผู้หญิงที่เวลายิ้ม จะยิ้มทั้งปากและดวงตา
มันทำให้โลกดูสดใสขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว
“ส่วนเครื่องดื่มของผมคือปิสโกซาวร์
มีส่วนผสมของเหล้าปิสโก น้ำมะนาว น้ำแข็ง ไข่ขาว และน้ำหวานครับ”
“เหล้าปิสโกหรือคะ” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“ครับ เหล้าปิสโกก็คือบรั่นดีที่ทำจากองุ่น”
“ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ฉันคงต้องขอผ่าน” หญิงสาวก้มลงมองดูเครื่องดื่มสีม่วงของตัวเอง
“ของคุณเรียกว่าชีชาโมราดาครับ
ทำมาจากข้าวโพดสีม่วง เป็นเครื่องดื่มที่เรานิยมดื่มกันมาก”
ยาบารีลองชิมดู
ก่อนจะช้อนเปลือกตาขึ้นมองชายหนุ่ม “ฉันคิดไม่ผิดเลยที่ให้คุณโซลาโน่ช่วยเลือกอาหารและเครื่องดื่มให้
ขอบคุณมากนะคะ มื้อนี้อร่อยและน่าประทับใจมาก”
“ด้วยความยินดีครับ”
“คุณไม่ใช่ญาติ
ไม่ใช่เพื่อนบ้าน แล้วรู้จักกับคุณย่าได้ยังไงคะ”
หลังจากจัดการอาหารตรงหน้าจนหมดแล้ว ยาบารีก็เป็นฝ่ายชวนชายหนุ่มพูดคุย
เพราะถ้าหากว่าเธอไม่พูด เห็นทีเขาก็คงไม่ยอมพูดเช่นกัน
“ผมเพิ่งย้ายมาสอนที่นี่ครับ”
“สอนที่นี่
เอ...สอนเกี่ยวกับอะไรเหรอคะ” หญิงสาวซักถามด้วยความใคร่รู้
“ผมสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยในกุสโกครับ”
ยาบารียิ้มกว้างเมื่อได้ยินดังนั้น
“จริงหรือคะคุณโซลาโน่” หญิงสาวนิ่วหน้าแล้วเอียงคอเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด
“ถ้าอย่างนั้นขอเรียกแทนตัวเองว่า ‘รี’ นะคะ รีขอฝากตัวเป็น
ลูกศิษย์ได้มั้ยคะอาจารย์โซลาโน่ ตอนนี้รีเรียนคณะประวัติศาสตร์ชั้นปีที่ 2 ค่ะ
แล้วที่สำคัญรีสนใจอาณาจักรอินคามาก
ถ้าได้ความรู้จากอาจารย์โซลาโน่คงดีกว่ากางตำราอ่านเองแน่ๆ” หญิงสาวเรียกแทนตัวเองว่ารีอย่างสนิทสนมจนโซลาโน่อดขันไม่ได้
เด็กยังไงก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำสิน่า แม้ภายนอกจะดูเป็นสาวสวยพราวเสน่ห์
แต่บางมุมหญิงสาวก็ยังเป็นเด็กอย่างเห็นได้ชัด
“ได้ครับ”
“ดีใจจังค่ะ” ท่าทางดีใจของหญิงสาวทำให้คนหน้าขรึมหัวเราะออกมาในที่สุด
“แล้วอาจารย์มาสนิทกับคุณย่าได้ยังไงล่ะคะ
ในเมื่อบ้านคุณย่ากับมหา’ลัยของอาจารย์อยู่กันคนละฟากเลย”
ยาบารีอุปโลกน์ตัวเองขึ้นเป็นลูกศิษย์ของโซลาโน่เรียบร้อย
แล้วตอนนี้เธอก็ตั้งใจจะสูบความรู้ทั้งหมดจากอาจารย์จำเป็นคนนี้
“ผมมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆ
กับคุณย่าโรมีนาครับ เลยได้พบท่านบ่อยๆ พอพูดคุยกันบ่อยเข้าเลยสนิทสนมกันในที่สุด”
“นั่นสิคะ
ดูเหมือนคุณย่าจะไว้ใจอาจารย์มาก ถึงอนุญาตให้รีไปไหนมาไหนด้วยแบบนี้” หญิงสาวเม้มปากอย่างครุ่นคิดก่อนจะสรุปเองเสร็จสรรพ
“ครับ
คุณย่าโรมีนายังขอให้ผมช่วยพาหลานสาวของท่านเที่ยวอีกด้วย
ถ้าหาก...เอ่อ...คุณรีไม่รังเกียจ” กว่าจะเรียกชื่อหญิงสาวออกมาได้
คนพูดน้อยก็เขินจนใบหูและปลายจมูกแดงระเรื่อ
“รีไม่รังเกียจเลยค่ะอาจารย์
ว่าแต่เราไปเที่ยวกันพรุ่งนี้เลยดีมั้ยคะ”
หญิงสาวมัดมือชกราวกับกลัวว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจ
“เอ่อ ความจริงเรียกผมว่าโซลาโน่เหมือนเดิมจะดีกว่านะครับ
เรียกอาจารย์แบบนี้แล้ว...” ชายหนุ่มไม่คุ้นชินที่จะมีสาวสวยมาเรียกเขาว่าอาจารย์
มันช่างดูห่างเหินและไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาความสัมพันธ์ไปในทางอื่นเลย
“ได้ยังไงล่ะคะอาจารย์
รีอายุ 18 เองนะคะ ดูแล้วอาจารย์น่าจะแก่กว่ารีหลายปี อายุน่าจะสัก 39 ย่าง 40” หญิงสาวคาดคะเนด้วยสายตา โซลาโน่ยิ้มฝืดเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เอ่อ...คือผมอายุ 30 ครับ
ว่าแต่ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
ยาบารียกแก้วขึ้นจิบน้ำ
แล้วก็แทบสำลักเมื่อได้ยินอายุที่แท้จริงของอาจารย์หนุ่ม เธอรีบหยิบทิชชูมาเช็ดปาก
ก่อนจะโบกไม้โบกมือแก้ตัวจ้าละหวั่น
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะอาจารย์
เอ่อ...อาจเป็นเพราะว่าอาจารย์ไว้หนวดเคราแบบนี้ รีเลยทายอายุพลาดไปนิดหน่อยค่ะ” เธอแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ใบหน้าแดงก่ำสลับซีดขาว กลัวว่าโซลาโน่จะไม่พอใจจนไม่ยอมพาเธอเที่ยว
คราวนี้ละอดแน่ๆ เชียว ครั้นจะไปขอร้องให้คุณย่าโรมีนาพาเที่ยวก็คงจะไม่ไหว หรือจะไปจ้างไกด์ให้พาเที่ยวยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เข้าไปใหญ่
นั่นเพราะเธอไม่มีเงินมากพอจะจ้างไกด์
“ครับ ผมเชื่อว่าคุณคงไม่ได้เจตนา”
เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมาเช่นนั้นทำให้ยาบารีรู้สึกเขินขึ้นมาดื้อๆ
ทำไมนะแค่คำพูดเรียบๆ กับดวงตาคมสีนิลถึงทำให้เธอหวั่นไหวได้ถึงขนาดนี้
“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณรีแปดโมงเช้า
ผมเชื่อว่าสถานที่ที่ผมจะพาคุณไป คุณต้องถูกใจอย่างแน่นอน…”
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น