บทที่ 2
เสียงปริศนา
เหงื่อหยดโตเกาะพราวบนหน้าผากมน
ไรผมเส้นเล็กเปียกชื้นจากหยาดเหงื่อแม้ว่าอากาศภายในห้องจะเย็นเยียบ
ร่างบางนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงกว้าง สองมือกำเข้าหากันแน่น
ริมฝีปากแห้งผากเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง
‘ยาบารี ยาบารี เจ้าได้ยินเสียงข้าหรือไม่ ยาบารี...’
เสียงทุ้มเย็นเยียบเอ่ยเรียกมาจากที่ไกลแสนไกล
บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยหมอกหนาจนแทบมองไม่เห็นหนทาง หญิงสาวพยายามมองหา แต่ไม่ว่าจะพยายามหยีตามองสักเท่าไหร่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือสายหมอกและความมืดมิดจนน่าหวาดหวั่น
‘ใครคะ ใครยืนอยู่ตรงนั้น’
เธอตะโกนเรียกเสียงดัง
ทว่าเสียงที่สะท้อนกลับมากลับเป็นเสียงของเธอเอง
มันดังก้องสะท้อนไปมาราวกับไม่มีวันจบสิ้น
หญิงสาวกำมือแน่นก่อนจะเริ่มเดินไปเบื้องหน้าช้าๆ
หมอกหนาเมื่อสักครู่ดูเหมือนจะเบาบางลงบ้างแล้ว
รอบกายของเธอรายล้อมด้วยหุบเขาสูงชันทอดตัวสลับทับซ้อนกันจนคล้ายกำแพงสูงกางกั้นเอาไว้จากโลกภายนอก
เบื้องหน้าคือบันไดหินทอดยาวขึ้นไปยังหุบเขาสูงชัน
เธอค่อยๆ ปีนขึ้นไปทีละขั้นราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
‘ยาบารี! ยาบารี!’
เสียงเรียกดังขึ้นมาจากบนยอดเขาสูง
เธอเดินขึ้นไปตามเสียงนั้น พยายามมองหาเจ้าของเสียงแม้ว่าดวงตาจะพร่ามัวด้วยเมฆหมอกหนาก็ตาม
หลายครั้งที่เธอเกือบพลาดพลั้งหงายหลังตกลงไป
แต่เธอก็กัดฟันฝืนก้าวขึ้นบันไดต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
แม้ว่าตอนนี้แข้งขาจะอ่อนแรงจนแทบก้าวขาออกเดินไม่ไหว เมื่อขึ้นมาถึงบนยอดเขาหญิงสาวก็หมุนมองไปรอบๆ
ตัว ลานกว้างขนาดเล็กรายล้อมด้วยหินก้อนใหญ่ก่อสร้างเป็นปราการสูง
‘มีใครอยู่มั้ยคะ’
ลำคอแห้งผากกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
เธอกระหายน้ำและอ่อนเพลียจนแทบล้มฟุบลงไปกับพื้น ร่างบางเซไปพิงกำแพงหินเอาไว้
เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องเดินตามเสียงเรียกปริศนามาถึงที่นี่ เธอรู้เพียงว่าเธอต้องตามหาเขาให้พบ
ต้องพบเขาให้ได้!
แต่เพราะอะไรเล่า แล้วเขาเป็นใครกัน!
หญิงสาวสับสน
ค่อยย่างเท้าเดินไปข้างหน้าช้าๆ เธอได้ยินเสียงหายใจเหนื่อยหอบของใครคนหนึ่ง
ใช่เสียงของคนที่เรียกชื่อเธอซ้ำๆ หรือเปล่า แล้วถ้าหากไม่ใช่เสียงของเขาล่ะ
หญิงสาวชักลังเลด้วยความหวาดหวั่น
แต่แล้วเสียงเรียกของเขาก็ทำให้เธอก้าวไปข้างหน้าโดยปราศจากความลังเลอีกต่อไป
‘ยาบารีที่รักของข้า’
‘คุณเป็นใคร
คุณอยู่ที่ไหนคะ กรุณาตอบฉันด้วย’
หญิงสาวตะโกนสุดเสียงขณะออกวิ่งไปเรื่อยๆ
ราวกับคนตามืดบอด แล้วร่างบางก็ชะงักเมื่อเท้าเปลือยเปล่าของตนเหยียบลงบนวัตถุเหลวหนืด
เธอถอยห่างด้วยความตกใจแต่การณ์กลับเป็นว่า รอบกายเธอเต็มไปด้วยน้ำเหลวๆ เต็มไปหมด
แสงจากพระอาทิตย์แรกอรุณค่อยๆ สาดแสงผ่านร่องหินผุกร่อนเข้ามา หญิงสาวก้มลงมองของเหลวที่เธอเหยียบย่ำมาตลอดทาง
และนั่นทำให้ใบหน้าหวานซีดเผือดเมื่อพบว่ามันคือ...เลือด
‘เลือด! มาได้ยังไง นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย’
แม้จะตกใจจนแทบอยากจะกรีดร้อง แต่หญิงสาวก็พยายามควบคุมสติเอาไว้
หวาดกลัวเลือดแดงชาดจับขั้วหัวใจ กลิ่นเหม็นคาวลอยอบอวลคลุ้งไปกับไอหมอกที่สะท้อนแสงอาทิตย์จนเป็นสีส้มอ่อน
‘ยาบารี ข้าอยู่ตรงนี้’
‘ใคร!
คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไงคะ’
เธอรีบวิ่งไปตามเสียงเรียกที่ดังใกล้เข้ามาแทบทุกขณะ
ร่างบางเย็นเฉียบเมื่อเห็นเจ้าของเสียงเรียกนอนจมกองเลือดอยู่เบื้องหน้า
ผู้คนมากมายยืนล้อมรอบเขาไว้ต่างมองราวกับเห็นเป็นเรื่องปกติ
| เสน่หาอินคา | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน | |
|
| ซากุระผลิที่กลางใจ | เพียงฤทัย | www.mebmarket.com | หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ | |
|
| ดวงใจปฏิพัทธ์ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง | |
|
| มายามรณะ | รางนาก | www.mebmarket.com | ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล... | |
|
| มะนาวซ่อนหวาน | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว | |
|
| มนตราสีกุหลาบ | สะมะเรีย | www.mebmarket.com | มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน... | |
|
ความคิดเห็น