คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : บทที่ 7 ผู้ถูกเลือก [3]
‘แม่จ๋า! แม่! แม่อย่าเพิ่งไป รอรีด้วยค่ะ’ หญิงสาวออกวิ่งจนสุดแรง ยิ่งวิ่งมากเท่าไหร่
มารดายิ่งถอยห่างออกไปเรื่อยๆ จนลับหายไป เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้น
รู้สึกเคว้งคว้างสับสน ใบหน้าของมารดาหม่นเศร้าจนเธอใจหาย
‘หนูรีของย่า’
‘คุณย่าคะ
รีอยู่นี่ค่ะคุณย่า’ หญิงสาวร้องเรียก ทว่าย่าโรมีนากลับเดินเลยไปราวกับไม่เห็นเธอ
เธอวิ่งตามหญิงชราแล้วคว้าร่างท่านมากอดเอาไว้ด้วยความคิดถึง
ทว่าตัวเธอกลับทะลุผ่านร่างของย่าโรมีนาไปอย่างรวดเร็ว
‘นี่มันอะไรกัน
เกิดอะไรขึ้น’ หญิงสาวมองร่างกายโปร่งแสงของตัวเองด้วยความมึนงง
ทำไมเธอถึงกอดคุณย่าไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมถึง...
แล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ
เมื่อเห็นร่างของตนเองนอนอยู่บนเตียงคล้ายเตียงของโรงพยาบาล มีสายออกซิเจน
และสายอะไรมากมายห้อยระโยงระยาง
‘โธ่! หนูรีของย่าไม่น่าเลย’ ย่าโรมีนาร้องไห้โฮ
โดยมีอาจารย์โซลาโน่กอดหญิงชราเอาไว้
‘อาจารย์คะ อาจารย์ได้ยินเสียงรีมั้ยคะ
รีอยู่นี่ รียืนอยู่ตรงนี้ค่ะ’ หญิงสาวตะโกนจนเสียงแหบ
แต่กลับไม่มีใครได้ยินเธอเลยสักคน
‘นี่มันเรื่องอะไรกัน
ฉันตายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ นี่ฉันเป็นแค่วิญญาณหรือเป็นอะไรกันแน่’ หญิงสาวมองร่างซีดเซียวของตนเองบนเตียงแล้วใจหาย ก่อนจะร้องไห้โฮอย่างสิ้นหวัง
‘ไม่จริง! มันไม่ใช่เรื่องจริง นี่คือความฝัน ตื่นสิยาบารี ตื่น!’ หญิงสาวหวีดร้องจิกทึ้งทุบตีตนเอง แล้วทิ้งตัวลงนั่งปิดหน้าร้องไห้
“ยาบารี เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง
ตื่นสิยาบารี”
‘เสียงใคร’ หญิงสาวเงยหน้าขึ้น พบว่าตัวเองนั่งอยู่เพียงคนเดียวในห้องมืดๆ
มองไปทางไหนก็มืดมิดไม่มีแม้เศษเสี้ยวแสงสว่างเล็ดลอดเข้ามา
“ยาบารี เจ้ากำลังฝันร้าย
ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้”
‘เสียงโรปา โรปา!’
หญิงสาวลืมตาขึ้น น้ำตานองหน้า
เห็นโรปานั่งอยู่ข้างเสื่อนอนของเธอ
ใบหน้าเขาดูวิตกกังวลด้วยความห่วงใยเธออย่างเห็นได้ชัด
“เจ้าแค่ฝันร้ายเท่านั้นเด็กน้อย”
“โรปา!
ข้าอยากกลับบ้าน ข้าอยากกลับบ้าน!” หญิงสาวโผเข้ากอดโรปาเอาไว้แน่น
สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าฝันร้ายทั้งหมดก็คือการพบว่าตนเองยังอยู่ที่นี่
ที่อาณาจักรอินคา ยังอยู่ในปีคริสต์ศักราช 1532 ไม่ใช่ปีคริสต์ศักราช 2013
ที่เธอจากมา นี่แหละคือฝันร้ายที่แท้จริง!
“บ้านเจ้าอยู่ไหนล่ะยาบารี
ข้าจะไปส่งเจ้าเอง” โรปาใจหายเมื่อคิดว่ายาบารีจะต้องจากเขาไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง
หากนางจากไป ความเหงาคงแทรกตัวเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว คงไม่มีเสียงหัวเราะ
ไม่มีรอยยิ้มทะเล้นให้เห็นอีกต่อไป
“ข้ากลับบ้านไม่ได้ค่ะโรปา
ข้าไม่รู้จะอธิบายให้โรปาเข้าใจได้อย่างไร เพราะข้าเองก็สับสนเหลือเกิน
ข้าไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่ามาที่นี่ได้อย่างไร และจะกลับไปได้อย่างไร
ทุกอย่างมันมืดแปดด้านไปหมด ข้าเคยคิดว่าข้าคงปรับตัวอยู่ที่นี่ได้
แต่ลึกลงไปในใจข้า ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงทุกอย่างที่ข้าจากมา...”
หญิงสาวฟูมฟายร้องไห้จนตัวโยน โรปาได้แต่ปลอบใจไม่รู้จะช่วยหญิงสาวได้อย่างไร
ในเมื่อเขาไม่เข้าใจสิ่งที่หญิงสาวพูด
ยิ่งนานวันความคิดถึงบ้านก็ยิ่งเกาะกุมหัวใจของยาบารี
เธอพูดน้อยลง รับประทานอาหารน้อยลง
หัวเราะน้อยลงจนคนรอบข้างสังเกตได้และต่างเป็นห่วงเธอ หญิงสาวปลีกตัวมานั่งเงียบๆ
คนเดียวข้าง
ลำธาร ยื่นเท้าจุ่มลงไปในน้ำ มองสายน้ำที่ใสจนเห็นปลาตัวเล็กๆ ว่ายทวนน้ำบ้างก็หลบอยู่ตามซอกหิน
“ป่านนี้ทุกคนทางนู้นจะเป็นยังไงบ้างนะ”
ภาพในความฝันบั่นทอนความสดใสของหญิงสาวหายไปจนหมดสิ้น
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหมดอาลัยตายอยาก
ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรดี
“ยาบารี!
ยาบารี!” โรปาวิ่งกระหืดกระหอบมาหาหญิงสาวด้วยท่าทางร้อนรน
หญิงสาวชักเท้าขึ้นจากลำธารแล้วลุกขึ้นยืนด้วยความแปลกใจ
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะโรปา”
“ตามข้ามา! เร็วเข้า!” โรปาคว้ามือหญิงสาวแล้วกระชากให้ออกวิ่ง
“อะไรกันโรปา เราหนีใครหรือคะ”
หญิงสาววิ่งตามพลางมองไปทางด้านหลัง เมื่อไม่เห็นมีใครวิ่งไล่ตามมาเธอก็ยิ่งงุนงง
โรปาพาหญิงสาววิ่งออกจากหมู่บ้านตรงเข้าไปในป่า
ก่อนจะจับเธอยัดเข้าไปในโพรงดินขนาดเล็ก “แอบอยู่ตรงนี้ ห้ามออกมาเด็ดขาด
เข้าใจหรือไม่ยาบารี”
“ข้าไม่เข้าใจ
ทำไมข้าต้องอยู่ในโพรงดินนี่ด้วยคะโรปา”
“อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลย
ห้ามออกมาจากโพรงเด็ดขาดจนกว่าข้าจะกลับมา” พูดจบโรปาก็วิ่งกลับเข้าไปในหมู่บ้าน
ทิ้งหญิงสาวให้ชะเง้อมองตามด้วยความสับสน
ที่หมู่บ้านเกิดอะไรขึ้น!
เธอมาหลบอยู่ตรงนี้แล้วคนอื่นๆ ล่ะจะเป็นอย่างไรบ้าง... หญิงสาวอยากจะออกไปดูให้เห็นกับตาว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งโรปา ในเมื่อโรปาอุตส่าห์พาเธอมาหลบถึงที่นี่
หญิงสาวนั่งคู้ตัวอยู่ในโพรงดิน หลายชั่วโมงผ่านไป
แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าโรปาจะกลับมา...
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น