คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 6 เฝ้ามอง [3]
‘ขอบคุณที่ไม่รังเกียจข้า
หากข้ามาที่นี่อีก ข้าขอมาพบเจ้าอีกได้มั้ย’ องครักษ์หนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวอย่างไม่อ้อมค้อม
เชรีมองหน้าเขาด้วยความตกใจ
ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ
‘หากข้ามาที่นี่
ข้าจะมารอเจ้าที่ท้ายหมู่บ้าน ไม่ว่าเจ้าจะมาหรือไม่ก็ตาม’ ชายหนุ่มหยักยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินจากไป
ทิ้งให้คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนร่างกายจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ
นางบอกกับตัวเองว่าพวกทหารในวังเจ้าชู้นัก นางไม่ควรยุ่งเกี่ยว แต่ทว่า...
นางกลับมารอเขา
แถมยังนำเผือกเผามาให้เขาอีกด้วย
“ดีใจเหลือเกินที่ได้พบหน้าเจ้า...เชรี”
องครักษ์วาคัคยิ้มละไม เมื่อเห็นหญิงสาวมานั่งรอเขา เชรีลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีขวยเขินก่อนจะส่งห่อผ้าให้ชายหนุ่ม
“เผือกเผาค่ะ เล็กๆ น้อยๆ จากข้า”
“ขอบคุณมาก
นอกจากเจ้าจะงามใบหน้าแล้ว น้ำใจของเจ้าก็งามยิ่งนัก” ชายหนุ่มรับห่อผ้ามากอดเอาไว้
สายตากรุ้มกริ่มมองเชรีอย่างเปิดเผยความในใจ
“เชรี!”
ยาบารีแอบตามมาเมื่อเห็นเชรีนั่งอยู่คนเดียว
ชะเง้อเหมือนรอใครสักคน เธอจึงปีนขึ้นไปแอบบนต้นไม้เพื่อคอยจับตาดู
แล้วเธอก็ตกใจจนแทบตกต้นไม้ เมื่อเห็นว่าเชรีนัดพบกับผู้ชาย ผู้ชายคนนั้นเป็นทหาร
ยศอะไรนั้นเธอเดาไม่ออก แต่จากสีชุดคงไม่ใช่ทหารที่มาเก็บผลผลิตเป็นแน่
ชุดแบบนี้เธอเคยเห็น...ใช่แล้ว!
ชายคนนั้นคือทหารของเจ้าชายทูปัก วีรา นั่นเอง
“ไม่ได้การ ต้องลงไปถามให้รู้เรื่อง”
หญิงสาวกำลังจะปีนลงจากต้นไม้
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งกลับพบว่าเชรีและนายทหารคนนั้นหายไปเสียแล้ว
“อ้าว! หายไปไหนแล้ว”
ยาบารีเท้าสะเอวทั้งสองข้าง แล้วเดินตามหาเชรีกับนายทหารคนนั้น เธอเดินตามหาไปทุกที่
ที่คิดว่านายทหารคนนั้นจะล่อลวงเชรีไปทำมิดีมิร้าย
ซึ่งแต่ละสถานที่ต้องค่อนข้างเปลี่ยว และไม่ค่อยมีใครเดินผ่านไปมา
“ไปแอบอยู่ไหนนะ
เชรีนะเชรีไม่น่าเลย ไอ้ทหารคนนั้นมันไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
ยาบารีถอนหายใจเฮือกใหญ่ เป็นห่วงเชรีที่มักมองโลกในแง่ดีจนคิดว่าใครๆ
ก็ดีไปเสียหมด
จริงอยู่ที่อาณาจักรอินคาแทบไม่มีคนร้ายหรือขโมยฉกชิงวิ่งราว
นั่นเพราะกฎระเบียบเข้มงวดจนไม่มีใครกล้ากระทำผิด
หากมีใครฝ่าฝืนหรือฆ่าผู้อื่นตายจะถูกจับโยนลงจากหน้าผา
เพื่อให้ร่างตกกระทบโขดหินแหลกเละไม่เป็นชิ้นดี ส่วนชายที่ชอบเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน
โทษคือจับร่างเปลือยเปล่าแขวนประจานในที่สาธารณะเพื่อให้ผู้คนเย้ยหยัน ได้รับความทุกข์ทรมานและความอับอายจนขาดใจตาย
หากผู้ใดดูหมิ่นเทพเจ้าจะถูกแขวนกลับหัวลงดิน คว้านท้องเอาไส้ออกมา
หรือถ้าเป็นอาชญากรโทษสถานเบาก็จะถูกตัดมือ ตัดเท้า ควักลูกตาแล้วแต่ความผิดของแต่ละคน
กฎที่เข้มงวดทำให้ชาวอินคาเกรงกลัวต่อความผิด
แต่ยาบารี...เธอมาจากอนาคตที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมหลากหลายประเภท
เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหวาดระแวงและวิตกกังวลล่วงหน้าเสมอๆ
หญิงสาวออกเดินไปเรื่อยๆ และเพราะมัวแต่ชะเง้อหาจึงไม่ได้มองบนผืนหญ้า
จึงทำให้เธอสะดุดอะไรบางอย่างจนล้มไม่เป็นท่า
“ว้าย!”
หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตกใจ
เมื่อพบว่าเธอกำลังนอนทับผู้ชายตัวโตอยู่ คนบ้าอะไรมานอนกลางแจ้งเช่นนี้
เธอไม่เหยียบก็ดีแค่ไหนแล้ว หญิงสาวบ่นในใจก่อนจะถอยออกจากร่างหนา
“ขอโทษค่ะ
ข้าไม่คิดว่าจะมีคนนอนอยู่ตรงนี้” เธอลุกขึ้นยืน แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง
เมื่อคนที่เธอเตะแล้วสะดุดล้ม ทับลงบนตัวเขาคือเจ้าชายทูปัก วีรา
“กระต่ายน้อย เจอกันอีกแล้วนะ”
“จะ...เจ้าชาย ฉันขอโทษค่ะ
อะ...เอ่อ” หญิงสาวติดอ่างไปชั่วขณะ นึกโกรธตัวเองที่ไม่ฝึกพูดคำราชาศัพท์เสียที
นั่นก็เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าชายทูปัก วีรา อีกครั้งหนึ่ง
“อย่าบอกใครว่าเจอข้านอนอยู่ตรงนี้ได้หรือเปล่า”
ทรงหยัดพระวรกายขึ้นนั่ง ดวงเนตรอบอุ่นทอดพระเนตรหญิงสาวที่นั่งหน้าซีดเผือดอย่างกลัวความผิดตรงหน้าด้วยความรู้สึกขบขัน
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้าแต่ในแววตาฉายชัดว่ามีคำถาม ว่าเพราะเหตุใดเจ้าชายถึงไม่ให้เธอบอกใคร
ในเมื่อใครต่างก็รู้ว่าเจ้าชายเสด็จมาที่หมู่บ้านแห่งนี้
“ข้าเพิ่งรักษาคนไข้เสร็จ
อยากนอนดูท้องฟ้าเงียบๆ เลยหนีผู้ติดตามออกมา ป่านนี้คงกำลังตามหากันใหญ่แล้ว”
ทรงอธิบายด้วยพระสุรเสียงสบายพระทัย บรรทมบนผืนหญ้าโดยหนุนนอนพระพาหาข้างหนึ่ง
ส่วนพระพาหาอีกข้างกางออกด้วยท่าทางสำราญพระทัย
“ฉันขอตัวค่ะ”
เธอไม่ควรนั่งอยู่ตรงนี้นานๆ
การมองเจ้าชายรูปงามนอนอยู่บนทุ่งหญ้าไม่เป็นผลดีต่อหัวใจเท่าใดนัก ทว่าพระสุรเสียงทุ้มกลับดังขึ้นห้ามไว้เสียก่อน
“กระต่ายน้อย
นั่งเป็นเพื่อนข้าก่อนสิ”
‘กระต่ายน้อย’ หน้าบูดอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยินเจ้าชายเรียกตนเช่นนั้น
แต่ก็ไม่กล้าโวยวายหรือด่าทอเจ้าชายเพราะกลัวจะต้องโทษ เพราะแค่เธอพูดกับพระองค์ด้วยภาษาสามัญชนแล้วพระองค์ไม่ตำหนิก็ดีแค่ไหนแล้ว
“ข้ามีงานต้องทำ ขอตัวค่ะ”
หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วรีบสาวเท้าจนแทบวิ่งออกไปจากบริเวณนั้น เจ้าชายทูปัก วีรา ทอดพระเนตรร่างอ้อนแอ้นวิ่งออกไปแล้วก็ทรงพระสรวลอย่างอารมณ์ดี
ว่าแต่ ‘กระต่ายน้อย’
นางนี้ช่างคุ้นหน้านัก แต่เหตุใดพระองค์จึงคิดไม่ออก
คิดไม่ออกว่าทรงเคยพบที่ไหน ดวงตาดื้อรั้นเช่นนั้นพระองค์จำได้อย่างแม่นยำ ใช่แล้ว! ผู้หญิงชาวป่าที่พระองค์พบเมื่อสามเดือนก่อน นางช่วยกระต่ายเอาไว้เลยทำให้ขวางขบวนเสด็จของพระองค์
นี่เองสินะที่ทำให้พระองค์รู้สึกว่านางสดใส
น่ารักราวกับกระต่ายน้อย นั่นก็เพราะครั้งแรกที่ได้พบหน้า
หญิงสาวอุ้มกระต่ายเอาไว้ด้วยท่าทางตื่นตระหนก
เมื่อระลึกถึงเหตุการณ์หลายเดือนที่ผ่านมา
ก็ทรงพระสรวลก่อนจะปิดเปลือกพระเนตรลง ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคนวิ่งตรงมายังจุดที่บรรทมอยู่
ก็ทรงรู้แล้วว่าทหารอารักขาได้หาพระองค์พบแล้ว...
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น