ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสน่หาอินคา

    ลำดับตอนที่ #27 : บทที่ 6 เฝ้ามอง [2]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 622
      7
      5 ธ.ค. 60







     

     

    หน้าที่ของยาบารีอีกอย่างก็คือการไล่นกไล่กา ไม่ให้ลงมาจิกกินข้าวโพดและข้าวสาลี ที่กำลังผลิผลเป็นทุ่งกว้างสุดสายตา ยาบารีชอบทุ่งข้าวสาลีเป็นที่สุด เพราะท้องทุ่งจะเป็นสีทองสว่างจ้าทอดยาวราวกับผ้าไหมสีทองผืนใหญ่กางลงระหว่างหุบเขาสีเขียวขจี ทุกครั้งที่ลมแรงพัดผ่านรวงข้าวสาลีก็จะเอนลู่ไปในทิศทางเดียวกัน หญิงสาวกระชับกิ่งไม้ไว้ในมือทั้งสองข้าง แล้วกางแขนออกจนสุด ก่อนจะวิ่งถลาไปในทุ่งข้าวเพื่อไล่ฝูงกาให้บินหนีไป หญิงสาวหัวเราะร่วนเมื่อพวกมันแตกตื่นร้องโวยวาย บินแตกฮือหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว บางตัวดูเหมือนจะไม่ชอบใจเธอนักจึงได้บินเฉียดศีรษะของเธอไปราวกับจะแกล้งกัน

     

    เธอชอบงานนี้ เพราะไม่ถนัดงานฝีมืออย่างสตรีคนอื่น ทั้งที่ความจริงแล้วพวกงานไล่นกไล่กาเป็นงานของเด็กผู้ชายอายุ 6-7 ปี หาใช่หญิงสาวอายุ 18 ปีอย่างเธอ

     

    “ยาบารี!

     

    ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน ไม่ต้องหันไปเธอก็จำได้ เสียงของเพื่อนสาวเชรีนั่นเอง เธอเดินกลับออกมาจากทุ่งข้าวสาลี เห็นเชรีโบกมือหย็อยๆ พร้อมกับห่อผ้าก็รู้ว่าเธอคงนำอาหารมาให้ ทั้งสองเดินไปทิ้งตัวลงนั่งใต้ร่มไม้ใหญ่ ยาบารีชินกับเผือกเผา มันเผา สตูข้าวโพดเสียแล้ว นานๆ ครั้งถึงจะได้กินเนื้อสัตว์อย่างหมู ยามา หรืออัลปากา ซึ่งต้องเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ

     

    “นี่ยาบารี วันนี้เจ้าชายเสด็จมาอีกแล้วนะ”

     

    “ยังไม่ครบหนึ่งเดือนเลยไม่ใช่เหรอ เพิ่งจะมาที่นี่ไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง ไหนเจ้าบอกว่า...”

     

    เชรีพูดแทรกขึ้นพลางโบกมือไปมา “ช่างเถอะ เจ้าชายเสด็จมาบ่อยๆ ดีจะตายไป ข้าจะได้...” หญิงสาวชะงักอย่างยั้งปากเอาไว้ได้ทันว่าไม่ควรแพร่งพรายความลับออกไป ขืนให้ยาบารีรู้เธอคงโดนล้อแน่ๆ ทว่าท่าทางของเชรีไม่สามารถรอดพ้นความช่างสังเกตของยาบารีไปได้

     

    “เจ้ามีอะไรปิดบังข้างั้นหรือเชรี” หญิงสาวจากอนาคตหรี่ตา แล้วมองหน้าเชรีอย่างจับผิด

     

    “เปล่า...ไม่มี เจ้านี่ยังไงนะยาบารี จู่ๆ มาซักไซ้ข้า รู้เช่นนี้ข้าไม่เอาอาหารมาให้เจ้าเสียจะดีกว่า” เชรีพยายามเฉไฉโวยวายไปเรื่องอื่น ทว่าใบหน้ากลับแดงก่ำ ริมฝีปากเล็กยิ้มกว้างแทบหุบไม่ลง

     

    “ไม่มีก็ดีแล้ว” ยาบารีแสร้งทำเป็นไม่สนใจ แล้วจัดการกับอาหารตรงหน้า แต่ไม่วายเหลือบตามองเพื่อนสาว เชรีคิดอะไรทำไมจะดูไม่ออก ลองมีท่าทางแบบนี้ต้องมีอะไรปิดบังเธออยู่แน่ๆ อย่างนี้ต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย ต้องสืบดูให้รู้ว่าเชรีปิดบังอะไรเธออยู่

     

    เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเชรีก็ขอตัวกลับ ยาบารีไม่กลับไปด้วยเธอบอกว่าจะอยู่ไล่ฝูงกาต่อ เย็นๆ ถึงจะกลับเข้าไปในหมู่บ้าน ทว่าเมื่อลับหลังเชรีเธอกลับโยนไม้ไล่กาทิ้งอย่างไม่ยี่หระ แล้วสะกดรอยตามเชรีไปอย่างเงียบเชียบ...

     

     

    เชรีแวะกลับเข้าบ้านหยิบห่อผ้าอีกห่อที่เตรียมอาหารเอาไว้ติดมือไปด้วย หญิงสาวเดินไปยังท้ายหมู่บ้าน ซึ่งค่อนข้างปลอดคน ไม่มีคนเดินไปมาแถวนี้เท่าใดนัก นางนั่งลงมองห่อผ้าในมือแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คิดย้อนไปถึงการพบกันครั้งแรก ผู้ชายที่ทำให้นางใจเต้นแรงในวันนั้น...องครักษ์วาคัค

     

    หลังจากที่นางถูกจับได้ว่าแอบดูเจ้าชายทูปัก วีรา นางก็วิ่งหนีออกมาด้วยความเขินอาย ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือพรหมลิขิตทำให้นางได้พบกับเขาอีกครั้ง

     

    เราเจอกันอีกแล้วนะสาวน้อย

     

    เชรีหมุนตัวกลับหมายจะเดินหนี ทว่าชายหนุ่มกลับวิ่งมาดักหน้านางเอาไว้ ข้าน่ารังเกียจนักหรือ เจ้าถึงไม่อยากคุยกับข้า

     

    ข้าไม่รู้จักท่าน จะให้คุยกับท่านได้อย่างไร

     

    ข้าชื่อวาคัค เป็นองครักษ์ของเจ้าชายทูปัก วีรา ข้ามาที่นี่หลายครั้ง ได้เห็นใบหน้าหวานของเจ้าคอยแอบมองเจ้าชาย ทำให้ข้าอยากรู้จักเจ้า หากเจ้าไม่รังเกียจจะบอกชื่อข้าได้หรือไม่วาคัคเป็นคนตรงไปตรงมา เขาเปิดเผยชัดเจนว่าสนใจหญิงสาว ซึ่งนั่นทำให้สาวน้อยเชรีถึงกับหน้าแดงก่ำ นางเคยถูกผู้ชายในหมู่บ้านเกี้ยวพาราสีเป็นเรื่องปกติเพราะนางเป็นคนสวย แต่ทว่าผู้ชายเหล่านั้นเทียบองครักษ์วาคัคไม่ได้เลยสักคน ทั้งคำพูด น้ำเสียง และรูปร่างหน้าตา

     

    ข้าชื่อเชรีค่ะหญิงสาวตอบเสียงแผ่ว ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย











    เสน่หาอินคา
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    ยาบารี ยาบารี ที่รักของข้า? เสียงเรียกอันแสนคุ้นเคยของใครบางคนที่ ยาบารี หญิงสาวลูกครึ่งไทย-เปรู ฝันถึงตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินทางมายังเปรูดินแดนต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาที่เธอหลงใหล เสียงปริศนาดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในยามหลับและยามตื่นราวกับกำลังเรียกเธอให้ไปหา... แล้วปาฏิหาริย์ก็ชักนำให้เธอหลงกาลเวลาไปยังอาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งทองคำเมื่อสี่ร้อยกว่าปีก่อน ด้วยสร้อยพระอาทิตย์ของสำคัญที่บิดาทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิต ณ ที่แห่งนี้ เธอได้พบและผูกพันหัวใจไว้กับเจ้าชายทูปัก วีรา เจ้าชายหมอผู้สูงศักดิ์ ท่ามกลางสงครามและยุคสมัยแห่งการล่มสลายของอาณาจักรที่รุ่งเรือง หญิงสาวผู้มาจากอนาคตและเจ้าชายหนุ่มจะร่วมกันแก้ไขหน้าประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ แล้วเธอจะหาทางกลับมายังปัจจุบันได้อย่างไร เมื่อยังมีสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่กับชายสูงศักดิ์เกี่ยวกระหวัดให้หัวใจมิอาจลืมเลือน ***ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากหัวใจรัก นำพาให้คนทั้งสองได้พบเพื่อจาก และพรากเพื่อเจอ ตราบใดที่หัวใจทั้งสองดวงยังคงร้อยรัดด้วยสายใยแห่งรักและผูกพัน ปาฏิหาริย์จะชักพาหัวใจทั้งสองดวงให้กลับมาเคียงคู่กันในสักวัน

    ซากุระผลิที่กลางใจ
    เพียงฤทัย
    www.mebmarket.com
    หลิวหลุดเข้าไปใน 'ยุคสมัยเฮอัน' ซึ่งย้อนอดีตไปถึงพันปีเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเธอกลายเป็นคุณหนูของคฤหาสน์อาจิไซ บุตรีขององคมนตรีชั้นเอกผู้เป็นข้ารองบาทขององจักรพรรดิในขณะเรื่องราวผิดฝาผิดตัวสร้างความโกลาหลวุ่นวายหัวใจของหญิงสาวก็เบ่งบานไม่ต่างจากดอกซากุระ

    ดวงใจปฏิพัทธ์
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    เลือดต้องล้างด้วยเลือด จักต้องแผดเผาศัตรูให้พินาศย่อยยับแต่เหตุใดเล่า... เมื่อเห็นนางเจ็บ เขากลับเจ็บยิ่งกว่า! องครักษ์หนุ่มนัยน์ตาสีน้ำเงิน ผู้ที่เข้ามาทำให้โลกของเจ้าหญิงครีษมาสดใส นางหลงรักเขาอย่างหมดหัวใจ ทว่าการที่องครักษ์หนุ่มเข้ามาใกล้ชิดนางนั้นกลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ... เมื่อองครักษ์หนุ่มคืนสู่ศักดิ์อันแท้จริง เขาคือเจ้าชายภานรินทร์ที่หายสาบสูญ เขากลับมาอีกครั้งเพื่อขจัดความอยุติธรรม พร่าเกียรติและศักดิ์ศรีเจ้าหญิงผู้สง่างามให้พลิกผันเป็นเพียงนางบำเรอชั้นต่ำ!นาง...เจ็บเจียนตายแต่หัวใจกลับรักเขาเขา…แค้นฝังใจแต่มิอาจปล่อยมือจากนางบทสรุปความรักจะเป็นเช่นไร...รักฤาชัง

    มายามรณะ
    รางนาก
    www.mebmarket.com
    ภาพหลอน! ความกลัว! ความตาย! และความสิ้นหวัง! ประดังเข้าสาดซัดนางเอกสาวดาวรุ่งราวกับห่าฝนในคืนเดือนมืด เมื่อมือที่มองไม่เห็นยื่นมากระชากชีวิตของหญิงสาวให้เปลี่ยนไปตลอดกาล...

    มะนาวซ่อนหวาน
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    ใครๆ ต่างพากันตั้งฉายาให้ มะนาว ว่า...ไฮโซขาวีน และ ไฮโซมือตบแต่...อย่าได้แคร์สื่อ เธอยังคงสวย เริด เชิด หยิ่งจนกระทั่งผู้เป็นบิดาต้องงัดไม้เด็ดมาปราบลูกสาวหัวดื้อทางด้าน เตชธรรม ถึงกับกุมขมับเมื่อได้รับมอบหมายให้ดัดนิสัยยายตัวร้ายที่เขาให้คำจัดความว่าตั้งแต่แรกเห็นว่า‘ชอบเที่ยวกลางคืน ยั่วยวนผู้ชาย ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว’ชายหนุ่มจึงงัดสารพัดวิธีที่มั่นใจว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ออกมาจัดการทว่า...ผิดคาด เมื่อมะนาวลูกนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยวซ่าอย่างที่คิดและกว่าจะรู้ตัวว่า...ผิดแผน หัวใจก็ลิ้มรสหวานจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเสียแล้ว

    มนตราสีกุหลาบ
    สะมะเรีย
    www.mebmarket.com
    มนตราแห่งเพตรา ดลบันดาลให้หัวใจสองดวงผูกพัน ก่อเกิดเป็นความรักร้อนแรงจนแม้แต่แสงจากดวงอาทิตย์ก็มิอาจเทียบ หลังจากผิดหวังในความรัก ยี่สุ่น...หญิงสาววัยเบญจเพสจึงตัดสินใจเดินทางมายังจอร์แดนตามคำชักชวนของมารดา พร้อมความเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้พบรักแท้ และเมื่อเธอมาถึงนครเพตรา?นครศิลาสีชมพู เธอก็ได้พบรัฟฟาน หนุ่มจอร์แดนมาดเข้ม เธอหลงคิดว่าเขาเป็นไกด์พื้นเมืองจึงใช้งานเขาสารพัด รัฟฟาน... ตำรวจสากลผู้ได้รับมอบหมายให้มาสืบหาแหล่งผลิตยาเสพติดที่นครเพตรา ยินยอมเป็นไกด์ให้ยี่สุ่นเพราะต้องการปลอมตัวให้แนบเนียน ไม่เป็นที่สงสัยของคนร้าย แต่นักท่องเที่ยวสาวกลับทำให้เขาต้องคิดทบทวนว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่ยอมเป็นไกด์ให้เธอ เพราะเธอเปิ่นและบ้าดีเดือดชนิดไม่มีใครเหมือน ซ้ำยังทำให้หัวใจเขาหวั่นไหว ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ ความรักได้ก่อเกิดขึ้นจากความใกล้ชิด พร้อมกับอันตรายที่คืบคลานเข้ามาให้เขากับเธอร่วมกันฟันฝ่า เพื่อพิสูจน์ว่ารักแท้มีอยู่จริง +++++++++++++“ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้ตั้งใจลวนลามคุณ ผมแค่เข้ามาปลุกคุณไปกินอาหารเย็น” รัฟฟานหัวเสียไม่น้อย นี่ล่ะเขาถึงไม่อยากมีแฟนเพราะรำคาญผู้หญิงที่ชอบพูดไม่รู้เรื่อง เอะอะก็โวยวายเอาไว้ก่อนไม่เคยฟังเหตุผลอะไรเลยสักอย่างเดียว“ฉันไม่เชื่อ”“ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้ดู”“คุณ...”รัฟฟานไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวโวยวายไปมากกว่านี้ เขาปิดปากอิ่มได้รูปด้วยริมฝีปากเรียวอย่างรวดเร็ว ยี่สุ่นพยายามโวยวายแต่กลับเป็นการเปิดเรียวปากให้ชายหนุ่มแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดเร้าควานหาความหอมหวานจากปากนุ่มสีกุหลาบ ยี่สุ่นสั่นไปหมดทั้งตัว หัวสมองหนักอึ้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่แล้วเขาก็เติมเต็มลมหายใจให้เธอพร้อมๆ กับฉกฉวยมันไป สลับไปมาจนเธอชาวาบจนถึงปลายเท้า แข้งขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่ติดพื้น เมื่อเขาบดจูบเร่าร้อนยาวนานจนเธอเผลอกอดตอบเขาและเผลอ...จูบตอบเขาอย่างไร้เดียงสารัฟฟานผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย ยี่สุ่นทรุดฮวบลงไปกองที่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คิดหาคำพูดหรือคำด่าทอไกด์หนุ่มไม่ถูก นั่งบื้อใบ้หัวสมองมึนงงด้วยความสับสน“คราวนี้เชื่อหรือยังว่าผมมาปลุกคุณให้ตื่นไปรับประทานอาหารเย็น ไม่ได้ตั้งใจเข้ามาลวนลาม เพราะถ้าผมตั้งใจจะทำ...ผมจะทำแบบเมื่อครู่นี้ เอาละ...อีกสิบห้านาทีผมจะกลับเข้ามารับ อย่าช้าล่ะเพราะที่นี่จัดอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์หากเกินเวลาไปมากกว่านี้อาจไม่เหลืออะไรให้คุณกิน” พูดจบเขาก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งหน้าแดงก่ำจูบแรกของฉัน...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×