คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 6 : ทาร์ตบลูเบอร์รี่ของฉันกับความลับของนาย [100%]
6
อ้าว! เห้! อย่ามาล้อเล่นกับฉันหน่อยเลยนะ
-_-; หมอนี่บอกว่าอาศัยอยู่ที่นี่คนเดียว ฉันไม่เชื่อหรอก ยังไงก็ไม่เชื่ออยู่ดี
“ฉันไม่เชื่อนายหรอกตาบ้า หลบไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะเข้าไปพิสูจน์เอง!” ว่าแล้วฉันก็ผลักเขาออกและเดินดุ่มๆ เข้าไปในห้องของหมอนี่อย่างรวดเร็ว
=_=* อืม
นั่นมันห้องน้ำ กระถางต้นไม้ เตียง ตู้เสื้อผ้า พรมเช็ดเท้า โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ และ
ชั้นหนังสือ
แล้วมนุษย์หายไปอยู่ไหนหมดฟะ! หน็อย
ไอ้ครอบครัวนี้ชอบเล่นซ่อนแอบกันรึไง! หรือชอบเป็นมนุษย์ล่องหนกัน
ฉันหันกลับไปหาไซเลนท์ที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู เขากำลังลากกระเป๋าของฉันเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ เพราะมันหนักเกินไป -_-;
“เห้! นายจะทำอะไรน่ะ ฉันยังไม่อนุญาตให้จับข้าวของๆ ฉันเลยนะ!” ฉันตะโกนแล้วชี้หน้าเขา
“วางไว้ข้างนอกเดี๋ยวของก็หายหรอก”
=_=* ขอบคุณที่อุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใยของๆ ฉันเสมือนเป็นของๆ ตัวเอง
เขาลากกระเป๋าเดินทางของฉันมาวางไว้ที่ข้างๆ เตียง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
-.,- ทำไมไม่อยู่แถวนี้ให้นานกว่านี้ ฉันจะได้ยืนจ้องผู้ชายหน้าหล่อไม่ใส่เสื้อผ้า เอ้ย! ฉันจะได้ด่าให้เขาไปใส่เสื้อให้ดีก่อน
ฉันเอนตัวนอนลงบนเตียงอย่างอ่อนล้าพลางคิดเตลิดไปต่างๆ นานา
โอ้ย! ทำไมคุณพ่อต้องให้ฉันมาอยู่กับหมอนี่สองคนด้วยล่ะ ทุกคนต้องรู้เห็นเป็นใจกันแน่ๆ เลย แล้วฉันจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงไม่ทราบ ผู้หญิงกับผู้ชายมันอยู่ห้องเดียวกันไม่ได้หรอกนะ! เวลาอาบน้ำเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าฉันจะทำยังไงล่ะ ไหนจะอย่างนู้นอย่างนี้อีก สู้ให้ฉันนอนในส้วมตลอดไปยังยอมเลย T^T
ขณะที่ฉันกำลังเพ้อไปไกล เสียงประตูห้องน้ำก็เปิดออก ฉันกระเด้งตัวขึ้นด้วยความตกใจสุดขีด =_=; ก็แน่ล่ะสิ นี่ไม่ใช่เตียงนอนของฉันสักหน่อยนี่!
ไซเลนท์อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีดำ =.,= ทำไมฉันถึงรู้สึกอยากจะกระโจนเข้าไปกอดเขาเสียเดี๋ยวนี้ โอ้ย! ไม่สิ
อย่าบ้าไปหน่อยเลยน่ะยัยเชียร์! คนอย่างฉันน่ะมีนิยามผู้ชายอยู่ว่า ‘คารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง’ เชียวนะ อย่าเผลอใจให้กับผู้ชายหน้าหล่อๆ แต่ทำบ้าอะไรไม่เป็นเลยอย่างนั้นสิ -_-^
“มองอะไรของคุณ”
-_-^ ร่างกายของนายมันเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลรึไงยะ! ฉันถึงห้ามมองมันน่ะ หรือเวลามองแล้วต้องเสียค่าปรับ
“มองคนปัญญาอ่อน”
“-_-^^^^”
“=_=”
“-_-“
“=[]=”
ฉันกับหมอนั่นจ้องหน้ากันอยู่ประมาณสามนาทีสี่สิบห้าวินาทีก่อนที่เขาจะเริ่มเอ่ยปากถามทำลายความเงียบ
“แล้วคุณจะมาหาผมถึงที่ห้องทำไม”
เอ๋!!!!!!??? =_=^^^ ทำไมนายถึงกล้าถามฉันแบบนี้ นี่ไม่รู้ตัวเลยเหรอไงว่าฉันกำลังจะมาหา
“ก็ฉันต้องย้ายออกมาอยู่บ้านเดียวกับนายไม่ใช่รึไงยะ”
เขาถอนหายใจ
“แล้วผมจะไปรู้อะไรกับคุณล่ะ”
-_-; ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างหมอนี่จะไม่รู้สึกรู้สาว่าจะมีผู้หญิงหน้าตาน่ารักย้ายมาอยู่กับมันสองต่อสอง
“นายไม่รู้งั้นก็แล้วไป แต่นายควรจะรับรู้ตั้งแต่บัดนี้ว่าฉันจะย้ายมาอยู่ที่นี่! ห้องนี้ที่เดียวกับนาย และเราต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกว่านายจะอยู่คนเดียวแบบนี้”
หน็อย
! คุณพ่อกับเสี่ยกวง! สงสัยวางแผนกันสองคนอีกแล้วล่ะสิ ไอ้หมอนี่ก็ไม่ได้ไปรับรู้อะไรจากพ่อของมันเลย! ไร้สาระชะมัด -..-
“ไม่รู้ นั่นก็เป็นเรื่องของคุณ ไม่ใช่เรื่องของผม”
=_= นายนี่จะพูดเพราะไปถึงไหนกัน ฟังแล้วขัดหูชอบกล
“นายน่ะ! ไม่ต้องพูดเพราะกับฉันขนาดนั้นก็ได้ เพราะยังไงเราก็เซ็นสัญญาหมั้นกันแล้ว นายควรแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ และเรียกฉันว่า ‘เธอ’ เข้าใจมั้ย!?” เรื่องแค่นี้ยังต้องให้สอนกันอีก สงสัยหมอนี่จะถูกอบรมสั่งสอนให้เป็นผู้ดีมาตั้งแต่เด็ก =O=
“
”
เขายืนนิ่งไม่ไหวติงเหมือนซากศพ =_= เอ้ย! เหมือนหุ่นไล่กา นี่นายจะตอบฉันสักคำไม่ได้เลยเหรอไง -_-^
“ตอบฉันสิ!”
“ได้ สำหรับเธอ ฉันจะเรียกแบบนี้”
“ดีมาก =..=”
หลังจากนั้นพวกเราก็ยืนจ้องหน้ากันอีก (วันๆ มันทำได้แค่นี้ -_-;) ทำไมนายนั่นต้องจ้องหน้าฉันด้วยล่ะ!
“=_=* หน้าฉันมันสวยมากเกินรึไง ถึงต้องจ้องขนาดนั้น”
“เปล่า”
เขาพูดขึ้นแล้วก็เดินไปเปิดประตูและออกจากห้องไปเลย O[]O! ทำไมนายถึงกล้าทำแบบนี้ จะบอกกล่าวกันสักคำก่อนไม่ได้รึไงว่าจะหายหัวไปไหน แล้วนี่ฉันจะตามหาตัวหมอนั่นได้ที่ไหนล่ะเนี่ย! แต่ช่างเถอะ ยังไงห้องนี้ก็เป็นของฉันอยู่แล้ว จะทำยังไงก็ได้
ใช่แล้ว! ฉันลืมไปเลยว่าต้องโทรไปโวยคุณพ่อกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดไปสดๆ ร้อนๆ
ไม่รอช้าฉันรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าและกดไปที่เบอร์ของคุณพ่อทันที
ตู๊ด
ตู๊ด
แกร๊ก
(ฮัลโหล)
“คุณพ่อออออออออ
! ทำไมคุณพ่อถึงส่งหนูมาอยู่กับหมอนี่สองต่อสอง คุณพ่อรู้ใช่มั้ยว่าหมอนี่ไม่ได้อยู่บ้านกับเสี่ยกวง แต่มันอยู่ที่คอนโดมีเนียมสุดหรูตัวคนเดียว แล้วนี่คุณพ่อจะปล่อยให้หนูอยู่กับมันสองคนได้ยังไง หนูยังเด็กอยู่เลยนะ ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย เกิดมันนึกคึกขึ้นมา หนูจะเอาตัวรอดยังไงล่ะคะ ประตูก็มีแค่บานเดียว หน้าต่างก็มีสองบาน ห้องก็ไม่ได้ใหญ่มากแถมเป็นห้องปิดตายอีก
!! *@^#*&!!^&@!..!!!!!”
(เดี๋ยวๆ หยุดพูดแล้วฟังพ่อก่อนเชียร์)
“โอ้ย! ความจริงหนูมีอะไรให้โวยมากกว่านี้ตั้งเยอะค่ะ นี่โชคดีนะเนี่ยที่หมอนั่นออกไปข้างนอก อ้อ! มันออกไปแบบไม่ได้บอกกล่าวหนูสักคำเลย แต่ช่างเถอะ ออกไปได้ก็ดี หนูเลยมีเวลาโทรมาหาคุณพ่อ -..-”
(-_-^ หยุดบ่นแล้วฟังพ่อก่อนได้มั้ยเชียร์)
“ค่ะ หนูจะฟัง แต่ฟังด้วยความอัดอั้นตันใจนะ T^T”
(พ่อรู้ว่าเลนอยู่คนเดียว
)
“หา!! คุณพ่อรู้แล้วทำไมถึงยังจะส่งหนูมาอยู่กับไอ้
! ไอ้กะโหลกกะลาบ้านี่
! หนูมีหน้าที่อะไรถึงต้องมาอยู่กับหมอนั่นล่ะคะ”
(พ่อรับรองว่าลูกจะปลอดภัย แต่พ่อไม่ขอบอกว่าทำไมลูกถึงต้องไปอยู่กับเขา)
“ทำไมคุณพ่อถึงทำกับหนูแบบนี้! หนูไม่ใช่องค์กรเอฟบีไอที่จะคอยสอดส่องผู้ร้ายข้ามแดนนะพ่อ
พ่อ!!!”
ตู๊ด
ตู๊ด
ตู๊ด
TOT คุณพ่อถึงกับตัดสายฉันทิ้งเลยเหรอเนี่ย! ฮือๆ ฉันถามหน่อยว่าฉันผิดตรงไหน ฉันไม่ผิดเลยสักนิดใช่มั้ยล่ะ มันเป็นสิทธิของฉันที่ฉันจะโวยวายเพราะว่าฉันไม่ได้รู้มาก่อนนี่นาว่าจะต้องอยู่กับผู้ชายแค่สองคน
ฉันนั่งคอตกอยู่บนเตียง ไม่นานนักหมอนั่นก็กลับมาพร้อมกับชาร้อนถ้วยเท่าควายและทาร์ตบลูเบอร์รี่ของโปรดของฉัน -_-^
“ฉันเอามาให้เธอ”
ไซเลนท์พูดพร้อมกับยื่นถ้วยชาร้อนมาให้ฉัน
“=_=^ ฉันอยากกินทาร์ตบลูเบอร์รี่มากกว่า”
เขามองลงมายังถ้วยชาร้อนสลับกับทาร์ตบลูเบอร์รี่ “ความจริงแล้วทาร์ตบลูเบอร์รี่อันนี้ ฉันซื้อมากินเอง”
T~T ไม่นะ! ทำไมนายต้องทำร้ายจิตใจฉันด้วยทาร์ตอันแสนน่ากินนั่นด้วยล่ะ ก็ฉันอยากกินทาร์ตบลูเบอร์รี่ชิ้นนั้นมากกว่าไอ้ชาร้อนบ้าๆ นี่ ตอนแรกแอบหลงดีใจว่าคนอย่างนายก็มีดีเหมือนกัน อุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใยฉัน =_=^
“แต่ฉันให้เธอก็ได้ เดี๋ยวฉันดื่มชาร้อนเอง”
เขายื่นถุงใส่ทาร์ตบลูเบอร์รี่มาให้ฉันแล้วนั่งลงข้างๆ TOT ฮือๆ น่ากินจริงๆ อยากกินมากๆ เลย
ฉันรีบเปิดถุงใส่ทาร์ตบลูเบอร์รี่ออก จนในที่สุดฉันก็ได้สัมผัสกับทาร์ตบลูเบอร์รี่ที่แสนจะน่ากินแล้ว >O<
พลาสติกที่คลุมทาร์ตบลูเบอร์รี่ถูกแกะออกอย่างช้าๆ ด้วยน้ำมือของฉัน -.,- หึหึ~ อีกไม่นานก็จะได้ลองลิ้มชิมรสอันแสนอร่อยของทาร์ตที่อยู่ตรงหน้าแล้ว!
เผละ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”
ไม่นะ! ทาร์ตบลูเบอร์รี่ที่หมายตาจะกินได้หกทลายลงมาบนเสื้อของฉัน T^T ฮือๆๆ ฉันไม่กลัวเสื้อเปื้อนหรอก แต่ฉันเสียดายทาร์ตบลูเบอร์รี่น้อยๆ อันนี้
มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากข้างๆ ฉัน -_-^ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เสียงของผีฟ้าเอยที่ไหน แต่มันเป็นเสียงของหมอนั่น
“ฮ่ะๆๆๆ เธอทำอะไรของเธอน่ะ”
=_=^ คนอย่างนายก็หัวเราะเป็นด้วย?
“T_T ฉันอยากกินทาร์ตบลูเบอร์รี่”
“ก็เธอทำมันหกไปแล้ว”
“T_T ฉันไม่กินมันก็ได้”
เขาหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับยื่นทิชชูมาให้ฉัน -.,- เห็นแล้วรวดร้าวเสียยิ่งกะไร ทำไมทาร์ตสุดที่รักถึงขึ้นสวรรค์ไปอย่างง่ายดายแบบนี้กันล่ะ T^T
ฉันใช้ทิชชูที่ได้มาเช็ดเสื้อด้วยความซังกะตาย T_T มันก็แน่อยู่แล้ว ขนมสุดที่รักของฉัน มันยังไม่ทันเข้าไปละลายในปากเลย แต่เสื้อของฉันกลับได้กินมันแทน -_-^
หลังจากนั้นฉันก็กลับมานั่งที่เดิม เขาเดินไปเปิดโทรทัศน์ -_-* ฉันเลยต้องนั่งดูรายการสารคดีไปตามหมอนั่นด้วย สงสัยว่าเขาจะเป็นแฟนพันธุ์แท้รายการแบบนี้ =_=
และตอนนั้นเองที่ฉันนึกถึงคำพูดของคุณพ่อขึ้นมาได้
‘พ่อรับรองว่าลูกจะปลอดภัย แต่พ่อไม่ขอบอกว่าทำไมลูกถึงต้องไปอยู่กับเขา’
ไม่ใช่แค่นั้น! ฉันยังนึกถึงคำสัญญาของอีตานี่ที่ให้ไว้ก่อนจะหมั้นกัน
‘ผมจะบอก ถ้าคุณตอบตกลง’
หึหึ
เวลานี้คงจะเป็นโอกาสดีที่สุดสำหรับฉันแล้วสินะ
ฉันเหล่ตาไปมองไซเลนท์ที่กำลังนั่งดูรายการสารคดีสัตว์โลกอย่างใจจดใจจ่อ นายไม่รอดแน่วันนี้ อย่างน้อยๆ ก็ต้องคายความลับออกมาให้ฉันรู้สักนิดแหละน่ะ
“นี่! นายน่ะ”
เพราะเสียงเรียกทำให้เขาหันมาหาฉัน
“
”
“นายยังจำได้เรื่องที่เคยให้สัญญากับฉันได้มั้ยล่ะ ที่บอกว่านายจะบอกความลับของตัวเองมาถ้าฉันยอมหมั้นกับนาย” ฉันเชิดคอขึ้นอย่างมีชัยพร้อมกับทำจมูกบาน =..= หึหึ
วันนี้นายไม่รอดเป็นแน่แท้
“อ่อ
เรื่องนั้น”
“ใช่เลย! ถ้ายังจำได้นายก็ควรจะปริปากบอกฉันมา”
“ฉันไม่บอกเธอหรอก”
“เห้! ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉันล่ะ! สัญญาไม่เป็นสัญญานี่นา นายนี่ขี้โกงชะมัด” ฉันทำจมูกย่นด้วยความไม่พอใจ
“ตอนนี้ฉันยังบอกเธอไม่ได้ ลองคิดเอาเองก็แล้วกัน”
=_=^ หน็อยแน่ะ! ทำไมถึงต้องมายอกย้อนฉันด้วย สัญญาไม่เป็นสัญญาเลยจริงๆ นะนายเนี่ย
“ถ้านายไม่ยอมบอก ฉันจะบอกให้คุณพ่อยกเลิกการหมั้นทิ้งไป”
เขาหลับตาลงและถอนหายใจ
“ฉันไม่รู้หรอกว่าฝ่ายนั้นเค้าจะเป็นยังไงกัน”
“ละ
แล้วทำไมนายถึงอยากจะหมั้นกับฉันล่ะ!”
ไซเลนท์ลืมตาขึ้นแล้วหันหน้ามาทางฉัน
“แต่ฉันคิดได้เพียงอย่างเดียวว่า เธออาจจะเป็นคนที่พิเศษว่าคนอื่นๆ”
____________________________________________
จบไปอีก 1 ตอน -_-^
Loma_ p
ความคิดเห็น