คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #73 : Dandelion Girls, Dandelion Boys [DEEMO II/แปลไทย]
Happy early birthdays
สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้า
We blew out the candles, grassland cakes
เราเป่าเทียนบนทุ่งหญ้าที่เปรียบเสมือนก้อนเค้ก
Our wishes held on parachutes
ความปรารถนาของเราบนร่มชูชีพ
Gliding through the wind, our youth
ที่ร่อนถลาผ่านสายลม คือวัยเยาว์ของเรา
Congratulations, you’ve been chosen
ยินดีด้วย คุณถูกเลือก
Here’s a pistol matching your mittens
รับปืนพกที่เข้ากับถุงมือคู่นั้นของคุณไป
I thought to myself “it doesn’t suit you at all”
ฉันคิดกับตัวเอง “ปืนนั่นไม่เข้ากับเธอเลย”
I shall carry on all this weight
ฉันจะแบกรับภาระทั้งหมดนี้
Leading me through the way, was your cherry blushing face
สิ่งที่คอยชี้นำฉันคือแก้มสีชมพูระเรื่อของเธอ
If it meant that you could live your life again
ถ้ามันจะสามารถทำให้เธอได้ใช้ชีวิตของตัวเองอีกครั้งแล้วละก็
I’ll gladly give mine in
ฉันยินดีจะเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก
Carrying hope, you sailed away
เธอแล่นเรือจากไปด้วยความหวัง
Whose tears salted the waters, keeping you up afloat from the ocean bed?
น้ำตาของผู้ใดที่หลั่งไหลลงสายน้ำ ทำให้เรือของเธอยังลอยพ้นก้นทะเล?
Secretly, secretly, I prayed for a storm to set you back
ฉันภาวนาอย่างลับที่สุดให้พายุหยุดเธอไว้ไม่ให้ไป
Whose fault is it that our seeds have spread too far, leaving us nowhere to bloom?
ความผิดผู้ใดที่เมล็ดพันธุ์ของเรากระจายไกลจนไม่มีที่ให้เราได้เบ่งบาน?
Yet the dandelions grew
แต่เหล่าแดนดิไลออนยังเติบโต
No more airplanes to fly, ships to sink
ไม่มีเครื่องบินให้บินหรือเรือให้จม
Stuffing my plywood swimming coffin
ขนของใส่โลงศพไม้อัดลอยน้ำได้ของฉัน
To ocean the railway extends
รางรถไฟทอดไกลถึงมหาสมุทร
Over the sea, that’ll be where I’ll proudly be expensed
โพ้นทะเลนั้น คือสถานที่ซึ่งฉันจะถูกใช้แล้วทิ้งด้วยความภาคภูมิใจ
From up there, we must not look human anymore
จากบนนั้นพวกเราคงไม่ดูเหมือนมนุษย์อีกต่อไป
Another stage to premier your force
เป็นแค่อีกเวทีเพื่อให้คุณอวดความเกรียงไกร
On those monitors, are we just a little piece of white fluff?
บนหน้าจอนั้น พวกเราเป็นเพียงก้อนนุ่นสีขาวหรือ?
Blown off on to the floor
ที่ถูกเป่ากระเด็นลงพื้น
With a white cloth on your back, you returned to me at last
ในที่สุดเธอก็กลับมาหาฉันโดยมีผ้าสีขาวห่มคลุมหลัง
Whose child was I dreaming to pierce through the unworn tip of my bayonet?
ลูกของใครที่ฉันฝันว่าจะแทงด้วยปืนปลายดาบที่ไม่เคยถูกใช้นี้?
Whose life have I decided was less worthy of respect?
ชีวิตของใครที่ฉันตัดสินแล้วว่าไม่สมควรได้รับความเคารพเท่ากัน?
Whose home did I hope to reach as I tighten the screws on balloons in lead?
บ้านของใครที่ฉันหวังให้มันไปถึงขณะฉันขันน็อตบนลูกโป่งเหล็กนี้?
Whose future was lost in pursuit of mine?
อนาคตของใครที่สูญหายไปกับการไขว่คว้าอนาคตของตัวฉันเอง?
Yet the dandelions ate, slept, and grew
กระนั้น ดอกแดนดิไลออนยังกิน นอน และเติบโต
The truth is, the world isn’t so small we need to step on each other
ความจริงคือ โลกนี้ไม่ได้เล็กขนาดที่เราจะต้องเหยียบย่ำกันเอง
But I know even if it’s only the two of us
แต่ฉันรู้ว่าถึงแม้จะมีกันอยู่แค่สองคน
Even if we have everything, everything in our hands
ถึงแม้เราจะมีทุกสิ่งอยู่ในกำมือ
Still we’d fight until our last
แต่เราจะยังสู้จนหยดสุดท้ายของชีวิต
Prove me wrong
พิสูจน์สิว่าฉันคิดผิด
Prove me wrong
พิสูจน์สิว่าฉันคิดผิด
Prove me wrong
พิสูจน์สิว่าฉันคิดผิด
ภาษาดอกไม้ของแดนดิไลออนคือการเติบโต ความหวัง การเยียวยา
เพลงนี้ฟังครั้งแรกเราร้องไห้เลย แน่นอนว่ามันเป็นเพลงสงคราม เด็กหนุ่มที่ออกรบด้วยความหวังกับเด็กสาวที่เคืองโชคชะตา ทั้งยังเป็นเพลงของความไร้เดียงสาของวัยเยาว์ที่สูญเสียไป (mittens ในท่อนแรกให้ความรู้สึกแบบถุงมือถักไม่แยกนิ้วที่เด็กเล็กๆ ชอบใส่กัน)
ท่อนแรกของเพลงเป็นแค่การเป่าดอกแดนดิไลออนเหมือนเป่าเค้กวันเกิด เปรียบความปรารถนาเป็นเมล็ด ร่มชูชีพคือไอ้ขาวๆ ฟูๆ ที่ทำให้มันลอยได้
ท่อนนึงที่เราฟังหลายรอบยังไม่เข้าใจคือ balloons in lead คืออะไรวะ เรือเหาะเหรอ? หรือหมายถึงบอลลูนที่กองทัพญี่ปุ่นปล่อยให้ลอยข้ามทวีปไประเบิดที่อเมริกาสมัยสงครามโลก?
สุดท้ายนี้คือรู้สึกเหมือนโดนเพลงนี้แกง เพราะตอนเห็นในยูทูปเรานึกว่าจิบลิปล่อยหนังเรื่องใหม่ 55555555 ภาพประกอบมันชวนให้คิดแบบนั้นจริงๆ นะ 5555555
ความคิดเห็น