ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #7 : Rhythm 5 : Will be beside you?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.23K
      9
      29 ธ.ค. 52

     Rhythm 5 : Will be beside you?

     

     

                ผมได้ยินเสียงกลองเสียงแตรเสียงบ้าเสียงบออะไรต่อมิอะไรมากมายดังมาจากสนามใหญ่ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสแตนด์บายก่อนเข้าแข่งในสนาม เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาโรงเรียนของผมเพิ่งจะยกขบวนกันมาที่สนามกีฬาแห่งชาติเพื่อประกวดดิสเพลย์นั่งบรรเลงในตอนเช้าและเดินแปรขบวนในตอนเย็น เราได้คิวต่อจากโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพที่เคยมีประวัติชนะเลิศมาแล้ว แน่นอน หนาวใช่ย่อยที่ต้องแข่งต่อจากโรงเรียนแบบนั้น แต่ไม่เป็นไร...พวกผมเต็มที่อยู่แล้ว!

                ผมมองนาฬิกาซ้ำแล้วซ้ำอีก เวลาผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งพี่อั๋นเรียกให้พวกเราเดินเข้าไปที่ข้างสนาม ผมเริ่มรู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่ถือเป็นสนามจริงครั้งใหญ่ครั้งแรกของผม แต่พี่กานต์ที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มให้

                ไม่เป็นไรนะ วา ตื่นเต้นมากหรือเปล่า?

                ผมยิ้มตอบ ไหวครับ สบายมากผมมองพี่กานต์นิ่ง ทั้งที่มีรูปขบวนที่พี่กานต์ต้องออกไปเป็นแตรเดี่ยวคนเดียวแท้ๆ แต่ไหงเฮียแกถึงได้ดูสบายๆนักนะ...

                แต่พูดตรงๆ...พี่ก็...ตื่นเต้นเหมือนกัน

                พี่กานต์ยังคงยิ้ม ฝ่ามืออุ่นจัดกำมือเย็นเฉียบของผมขึ้นมาทำเอาผมชะงัก แต่ก็ไม่ได้ปัดทิ้ง  

                มือวาเย็นเฉียบเลยพี่กานต์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจสายตาใครๆด้วยซ้ำ ดีขึ้นไหม?

                เอ้อ...ครับ...ขอบคุณผมล่ะพูดไม่ออก สะบัดทิ้งก็ไม่ได้ แต่จะให้ตอบรับมันก็...

                ให้มันน้อยๆหน่อย ไอ้กานต์ จะแสดงอยู่แล้วมึงยังจะทำเล่น!”เสียงพี่อั๋นแหกปากว้ากมาจากหัวขบวนทำให้แทบทั้งวงหันมามองพวกผมกันหมด ผมอ้าปากค้างแล้วรีบกระตุกมือออกทันทีแบบลืมกลัวเสียมารยาทกะทันหัน

                ไอ้นัทที่ยืนด้านหน้าผมส่ายหัว ...มึงนี่...หลายใจชิบ

                ไอ้เชี่ยนัท! ไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะเว้ย!”ผมกระซิบด่ามัน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามันเพิ่งพูดอะไร เดี๋ยวสิ...กูหลายใจตอนไหนวะ? ไอ้ห่านี่ หาเรื่อง

                ไอ้นัทส่ายหน้าซ้ำ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหน่ายใจเรื่องอะไร...

                ได้เวลาแล้วล่ะพี่กานต์เตือน ได้ยินเสียงคทากรสั่งแถวตรง ทำให้พวกผมหยุดการสนทนา แล้วกลับมาตั้งสมาธิที่การแข่งอย่างจริงๆจังๆ

                เสียงประกาศชื่อโรงเรียนผมและเพลงที่ใช้จบไปแล้ว แถวของพวกเราเริ่มเดินออกมา จากปลายหางตา เห็นอัฒจันทร์สูงอยู่ไกลๆ ทำให้นึกไปถึงใครอีกคน

                ไอ้ซีคงดูอยู่บนนั้นสินะ...

                ผมแอบหวังในใจ

                อาจจะจริง...ที่ว่าเส้นทางของเราไม่ได้ไปทางเดียวกัน...มันกับผมเดินกันคนละทาง...แต่...ไม่รู้สิ...ผมกลับไม่รู้สึกว่าแบบนี้มันแย่แฮะ

                ซึ่งนั่นก็คงจะเพราะ...มันยังอยู่เคียงข้างผมเสมอ...ล่ะมั้ง...

     

     

     

                วันนี้พี่ต้องขอบคุณทุกคนมากพี่อั๋นที่เป็นประธานวงกล่าวเรียบๆหลังจบการแข่งและกลับมาโรงเรียนแล้ว ปรากฏว่าประเภทนั่งบรรเลงโรงเรียนผมได้ที่หนึ่ง และแปรขบวนได้อันดับสาม พี่รู้ว่าครึ่งปีที่ผ่านมาทุกคนได้พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว แข่งครั้งหน้าของเรา หวังว่าจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่เมืองไทยนะ

                ฮิ้ววววววววพวกม.5 เพื่อนๆพี่อั๋นโห่รับสนับสนุนคำพูดท่านประธาน ก่อนจะโดนท่านประธานจ้องตาเขียว

                โห่เชี่ยอะไรของพวกมึง!”ว้ากสั้นๆคำเดียวพี่อั๋นก็กระแอมนิดๆ แล้วค่อยพูดต่อ โรงเรียนจะให้หยุดเป็นพิเศษจนถึงวันจันทร์ แล้วระหว่างนี้ไม่ต้องเสนอหน้าโผล่มาเชียว ไม่งั้นงวดหน้าอดหยุดแน่

                ฮิ้ววววววววคราวนี้ไม่ใช่แค่ม.5 แต่เป็นทุกชั้นเนื่องจากได้หยุดฟรีๆศุกร์-เสาร์ พี่อั๋นทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก ทำเพียงเดินลงจากพื้นยกระดับหน้าห้อง และทิ้งท้ายคำพูดไว้ว่า

                จบแค่นี้...เชิญไสหัวกลับบ้านแล้วนอนให้เต็มที่กันได้เลย!!”

                พวกผมค่อยๆทยอยลงจากตึก ตอนนี้เกือบห้าทุ่มแล้ว ผมแบกกระเป๋าเสื้อผ้าที่เอามาค้างโรงเรียนกลับบ้าน โดยมีไอ้นัท แฝดบอลบาส จูน กรีน เพชร กลุ่มเดิมๆเดินตามมาเป็นพรวน

                เราลากันตรงป้ายรถเมล์เพราะผมเป็นคนเดียวที่บ้านอยู่คนละทาง ผมมองหารถเขียว แต่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าป่านนี้มันคงไม่มีวิ่งแล้ว(คนเรายังต้องหลับนอน...ไม่ใช่เซเว่นอีเลฟเว่น...)

                อ้าว? กลับไงเนี่ยวา?ผมหันขวับกลับไป พี่กานต์นั่นเอง แต่น่าแปลกที่ไม่มีพวก ม.5 คนอื่นอยู่ด้วย บ้านวาขึ้นคันไหนล่ะ

                เมล์เขียว...แต่คงไม่มีวิ่งแล้วล่ะผมยืนถอนหายใจเซ็งๆ ก็เลยว่าจะนั่งแท็กซี่กลับ

                พอดีเลย หารกับพี่สิ พี่ก็นั่งเมล์เขียวกลับเหมือนกันพี่กานต์บอก บ้านพี่ไปทางถนน xxxโน่นแน่ะ        

                ผมชะงักกึก ดีใจสุดขีดที่เจอเพื่อนร่วมชะตากรรมแล้ว ทางเดียวกัน!”

                ในที่สุดผมก็ร่วมหัวจมท้ายโบกแท็กซี่กลับกับพี่กานต์ หลังจากที่คุยกันไปคุยกันมาก็พบว่าบ้านผมกับพี่กานต์ไม่ได้ห่างกันมากนัก เราคุยเรื่อยเปื่อยกันไปตลอดทาง จนกระทั่งพี่กานต์ถามขึ้น

                หยุดสามวันจะทำไรบ้างล่ะ?

                อืม...ผมนึก ไม่รู้สิครับ ยังไม่ได้คิดเลย

     

                แต่แด๊วแด่แด๊ว! ปอย...ปอย...ป่อย...

     

                อยู่ๆเสียงข้อความเข้ามือถือผมก็แผดลั่นไปทั่วรถ ผมแอบเห็นคนขับแท็กซี่มองกระจกหลังแล้วจ้องผมแปลกๆเมื่อมันเป็นเสียงอินโทรโดเรมอนตอนเปิดตอน - -

                เมื่อเห็นชื่อคนส่งมา ผมก็รู้สึกพองโตพิกล...ไอ้ซี

     

                14/01/08    23.38

              ได้ดูแล้ว แต่เห็นมึงยุ่งๆเลยไม่เข้าไปทัก รีบกลับบ้านไปนอนไป

     

                ผมยิ้มนิดๆกับข้อความสั้นๆนั้น มันไม่ใช่ข้อความที่พิเศษอะไรเลย แต่ก็น่าแปลกที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจ

                แฟนเหรอ?พี่กานต์แซวยิ้มๆ ทำเอาผมอ้าปากค้าง

                เพื่อนครับ!”ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนี้...แต่ก็นะ...     

                พี่กานต์ไม่พูดอะไร แต่ไอ้การที่ไม่พูดแล้วจ้องหน้าผมอย่างเดียวนี่ก็ทำให้ผมเสียวสันหลังชอบกลอยู่เหมือนกัน ก็ดูพี่แกยิ้มสิ...โคตรไม่น่าไว้ใจ

                วา

                ผมชะงัก รู้สึกระแวงนิดๆ ไมเหรอพี่?

                วันเสาร์ไปเที่ยวกัน~”

                ผมขมวดคิ้วนิดๆ ไม่ใช่ไม่อยากไปหรอก แต่แค่ประหลาดใจว่าทำไมพี่กานต์ถึงชวนผม

                นึกไงชวนล่ะครับ?ถามกันเหนียวด้วยความสงสัย และพี่กานต์ก็ยิ้มกว้างตอบ

                ก็เห็นเราว่างๆ~”

                ยังไม่ได้บอกเลยว่าว่าง...

                สรุปตกลงสินะ?

                พูดตอนไหนวะ...

                เพิ่งจะซึ้งก็วันนี้ว่าพี่กานต์ก็เป็นพวก เอาแต่ใจนิดๆเหมือนกันแฮะ...เหมือนใครก็ไม่รู้...

                ก็ได้อยู่หรอกครับผมขี้เกียจต่อปากต่อคำต่อ เลยตอบเออออไป

                ได้คำตอบแบบนี้พี่กานต์เลยยิ่งยิ้มแป้น วันเสาร์สิบโมงที่สยามนะ~”

                คร้าบๆ...

                รถมาถึงบ้านผมก่อน ผมเลยลาพี่กานต์แล้วลงรถไปทั้งๆที่ยังมึนๆงงๆอยู่นั่นแหละ

                สรุปวันเสาร์ผมต้องไปเที่ยวกับพี่เขาสินะ...เออหนอปาก...แต่ไม่รู้ทำไม...ผมถึงได้รู้สึกเหมือนกำลังหาเรื่องใส่ตัวยังไงชอบกลแฮะ...

     

     

     

                วันเสาร์สิบโมงที่สยาม

                ผมมาตามที่พี่กานต์บอกโดยเลือกที่เจอกันตรงรถไฟฟ้าเป็นหลักเพราะจะได้หากันง่ายหน่อย...ซะที่ไหน...สยามนี่ล่ะแหล่งคนเยอะ..ไม่เยอะธรรมดา...แต่เป็นเยอะชิบหาย!

                ตอนที่ผมไปถึงพี่กานต์ก็รออยู่ก่อนแล้ว ผมเลยเร่งฝีเท้านิดหนึ่งจะได้ดูเหมือนรีบหน่อย<<ไอ้นี่ก็สร้างภาพเกิ๊นนน

                โทษทีพี่ รถติด

                รถไฟฟ้าอ่ะเหรอ? ^^”

                โทษอีกรอบนะ...แต่นั่นเรียกมุกใช่มะ - -^“

                พี่กานต์หัวเราะร่าแล้วพาเดินนำหน้าไปก่อน พี่จะมาเลือกของขวัญให้น้องสาวน่ะ แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรเลยอยากได้คนมาช่วย

                ผมเกาหัว รู้สึกมันเป็นประโยคบอกเล่าที่แหม่งๆชอบกล เลือกของให้น้องสาว...แต่ผมเป็นผู้ชายนี่หว่า...แล้วงี้เอาผมมาทำเพื่อ...?

                ผมไม่มีน้องสาวนะ

                ไม่เป็นไร ให้วาช่วยเลือกแหละดีแล้ว

                เอ๊ะ...ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่าพี่เขามีเจตนาอะไรกันแน่

                แต่เออ...ของขวัญก็ของขวัญ เอากับเฮียแกหน่อย...

                ผมกับพี่กานต์เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆตามร้านค้า ที่นี่ของเยอะจนเลือกไม่ถูก พี่กานต์ดูโน่นดูนี่แต่ก็ไม่เห็นซื้อสักอย่างจนผมชักจะเง็งว่าวันนี้จะได้ของมั้ย เฮียแกเดินทะลุตรอกโน้นตรอกนี้เข้าออกที่นู่นที่นี่เป็นว่าเล่น แต่มันก็ลงท้ายด้วยการออกมามือเปล่าทั้งนั้น

                ผมเริ่มเหนื่อย เลยจำต้องถามอย่างอดไม่อยู่ ถามจริง น้องสาวพี่ชอบอะไรกันแน่อ่ะ เห็นเดินดูอะไรพี่ก็บอกว่าไม่น่าจะถูกใจทั้งนั้นเลย

                ความจริงที่ถามไม่ได้รำคาญนะครับ แค่เหนื่อย ก็โดนลากเดินทั่วสยามเลยนี่หว่า...

                พี่กานต์หยุดคิด ก่อนจะพูดสั้นๆแต่ทำเอาผมแทบหงายหลัง

                นั่นสิ ไอ้แก้วมันชอบอะไรน้อ?

                อ้าวเฮ้ย...

                ผมเกาหัวยิกๆ ถ้ามีรังแคก็คงจะร่วงไปหลายเม็ดแล้ว แล้ววันนี้จะได้ของหรือครับ

                ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร...ไป ไปกินข้าวกันพี่กานต์ชวนอย่างอารมณ์ดีแล้วพาผมเดินเข้าร้านอาหาร แต่ผมนี่สิงงเป็นไก่ตาแตก เริ่มจะคิดขึ้นมาอีกรอบว่าตกลงพี่แกอยากได้ของขวัญไปให้น้องสาวจริงหรือเปล่า...

     

     

     

                ผมกับพี่กานต์เข้ามาในฟูจิ ทั้งที่ผมก็บอกแล้วว่าไม่เอาฟูจิหรือโออิชิเพราะผมถังแตก - -แต่พออีกฝ่ายยืนกรานจะเลี้ยงผมเลยสนองพระโอษฐ์โดยการรับเป็นผู้ถูกเลี้ยงที่ดี...อดอยากมานาน ฮ่าๆ ของฟรีโว้ย...

                เดินซะทั่วเลยพี่กานต์ชวนคุย ในขณะที่มือคีบซูชิส่งให้ ผมบอกขอบคุณ ก่อนจะถามในสิ่งที่ข้องใจมานาน

                จะไปเดินหาของขวัญต่อมั้ยอ่ะ?

                อ้อ แน่นอน

                ตอบซะมั่นใจ...ฮ่าๆ...เหอๆ...เฮ้อ....

                วาเบื่อรึเปล่า?อยู่ๆพี่กานต์ก็ถามด้วยสีหน้าจริงจังผิดกับอาการขี้เล่นเหมือนที่ผ่านๆมา ผมเงยหน้าขึ้นจากจานเทมปุระ(ก็มันอร่อยนี่หว่า...) รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน แต่ก็ส่ายหน้า

                เหนื่อย แต่ก็สนุกดีนี่ครับเอื๊อก...กลืนเข้าคอให้หมดก่อนกันทุเรศ ใครบอกว่าเบื่อ?

                งั้นเหรอ~”พี่กานต์เปลี่ยนกลับเป็นหน้ายิ้มตามปกติได้อย่างรวดเร็วพอๆกับตอนทำหน้าเครียด จนผมเริ่มออกอาการงงว่าตกลงอันไหนกันแน่ที่เป็นหน้าจริง

                ผมเพิ่งรู้อะไรอีกอย่าง...รุ่นพี่ผมนี่...แปลกคนว่ะ...

                แต่ก็เอาเถอะ ยกโทษให้...ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฟูจิอร่อยนะเนี่ย<<ไม่เกี่ยว...

                เราหยุดคุยกันเพราะอินโทรเปิดตอนของโดเรมอนเจ้าเก่าดังขึ้น ผมหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นข้อความเข้าจาก...ไอ้ซี...

     

                16/01/08    13.14

    อยู่ไหน 

     

                ผมเลิกคิ้ว...ไอ้นี่จะมาไม้ไหน?...แต่ด้วยความไม่คิดอะไรเลยพิมพ์ตอบกลับไปแบบซื่อๆ

     

    16/01/08    13.15

              ฟูจิที่สยาม

     

                พี่กานต์นั่งมองผมกดโทรศัพท์เงียบๆแต่ก็ไม่ได้แสดงออกว่าไม่ชอบใจ ยังตักนู่นตักนี่ใส่จานให้ผมตามปกติ

                รอไม่ถึงนาทีข้อความใหม่ก็เข้า

               

    16/01/08    13.15

                คนเดียว?

     

                ผมเริ่มเซ็ง ขี้เกียจพิมพ์ตอบเต็มทนเลยตัดสินใจยอมเปลืองตังค์โทรไปหา แต่ก็ไม่ลืมคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

                ขอเวลาเดี๋ยวนะพี่กานต์ ไอ้บ้านี่เอาแต่ส่งข้อความไม่ยอมพูดไม่ยอมจา รำคาญ

                ผมกดเบอร์ที่จำได้แม่นแล้วโทรออกทันใด และก็น่าโมโหตรงที่โทรศัพท์ดังไม่ถึงครั้งมันก็รับ

                ไอ้ซี มึงจะส่งข้อความมาทำบ้าอะไรทุกๆนาที มีไรไม่โทรมาวะผมโวยวาย และก็ได้ยินเสียงขำดังมาจากอีกฝั่ง

                สถิติใหม่ แค่สองข้อความก็โทรกลับไอ้ซีพูดไปขำไป ผมเลยได้แต่สบถเซ็งๆ

                ไอ้ห่านี่...กวน

                ไอ้บ้าซีชอบใช้วิธีประสาทๆแบบนี้แหละครับ มันจะส่งข้อความมาเรื่อยๆกวนใจผมเพราะเครื่องมันส่งฟรี(แต่ของผมเสียตังค์ - -+)และก็รอจนกว่าผมจะเป็นฝ่ายโทรไปเอง ซึ่งวิธีนี้ไอ้บ้าซีจะใช้เฉพาะเวลาที่ว่างมากจริงๆเท่านั้น(เพราะมันเสียเวลาใช่ย่อย ไอ้การพิมพ์ตอบไปตอบมาเนี่ย)

                เออ แล้วตกลงมีไร?ผมถามกลับเสียงห้วน ยังหงุดหงิดไม่หาย

                มึงไปทำอะไรที่สยาม? นึกว่าอยู่บ้านซะอีก

                กูมาซื้อของกับพี่กานต์

                ปลายสายเงียบไปนิดหนึ่ง พี่กานต์นี่...รุ่นพี่ในวงมึงใช่มะ?

                เออ

                มึงว่าตอนนี้อยู่ไหนนะ?

                ฟูจิ

                โอเค อีกห้านาทีเจอกัน

                เฮ้ย!!?

                พูดสั้นๆแค่นั้นไอ้ซีก็กดวาง ผมอ้าปากค้าง แล้วหันไปมองที่ประตูร้านโดยอัตโนมัติด้วยความหวาดระแวง

                มีอะไรหรือพี่กานต์ถามอย่างสงสัย...แต่ก็คงจะสงสัยตั้งแต่ตอนที่ผมโทรไปโวยแล้วล่ะ

                ผมเกาหัวแกรกๆ ไม่รู้จะตอบยังไงดี เลยบอกส่งๆไป ช่างเหอะครับ แค่เพื่อนวามันบ้า

                พี่กานต์ไม่ว่าอะไร บรรยากาศระหว่างเราเงียบลงไปนิด ก่อนที่พี่กานต์จะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน

                พี่อยากจะสารภาพอะไรสักอย่างพี่กานต์เอ่ย น้ำเสียงซีเรียสแต่ใบหน้ายังยิ้มแย้ม พี่อยากจะบอกว่า...อันที่จริงเรื่องของขวัญน้องพี่เป็นเรื่องรอง...ความจริงที่ชวนมาก็แค่อยากมาเที่ยวกับวาเท่านั้นแหละ

                ผมยิ้มเก้อๆ ชักวางตัวไม่ถูก เอ่อ...ครับ?

                พี่ดีใจที่รู้ว่าวาก็สนุกนะ

                ผมเริ่มรู้สึกสังหรณ์ๆ พี่กานต์อย่ายิ้มแบบนี้ดิครับ...มันยิ่งทำให้ผมหนาวสันหลัง...เดาเรื่องได้เข้าไปใหญ่...

                พี่กานต์เงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วอยู่ๆก็หัวเราะแห้งๆ คือ...จะว่าไงดี...

                ผมอึ้ง เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่กานต์มีท่าทีที่แถวบ้านเขาเรียกกันว่า เขิน

               

    ปฏิเสธหัวใจอย่างไร ชั้นทำไม่เป็น

    เพียงแค่เห็นเธอเข้ามาทักทาย

    เหมือนได้เห็นฝันที่กลับกลาย เป็นความจริง

     

                ทั้งผมทั้งพี่กานต์นั่งเงียบ อยู่ๆที่ร้านเสือกเปิดเพลงบ้าอะไรเนี่ย!

     

                หัวใจที่ไม่เคยมีรัก

    กลับอยู่ไม่เป็นจังหวะ เพียงเธอส่งยิ้มมา

    ไม่กล้าเปิดเผยใจ กลัวเธอจะรู้ว่า คนที่ยืนอยู่ตรงนี้...

    แอบหลงรักเธออยู่ แต่เธอคงดูไม่ออก

    ซ่อนความรักไม่กล้าบอก กลัวเธอจะเปลี่ยนไป

     

                ผมสบถ นึกอยากด่าคนเปิดเพลงชอบกล แต่พอมองหน้าคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ผมก็ต้องร้องเฮ้ยในใจ

                พี่กานต์...เขินจริงๆเหรอเนี่ย!?

                รุ่นพี่ที่เคยอารมณ์ดี เฮฮา ทำหน้าอย่างอื่นไม่เป็นนอกจากยิ้ม...พี่กานต์คนนั้น...กำลัง...หลบตา...แถมยังโหนกแก้มแดงๆ...

                พี่ก็เคยถามวาไปแล้วล่ะ...แต่ก็ยังอยากถามดูอีกสักครั้งเสียงของพี่กานต์เบาลงกว่าทุกครั้งแล้วก็เกร็งเอาการ ทำเอาผมชักเกร็งทำตัวไม่ถูกไปด้วย คือ...แบบว่า...

                ผมนั่งตัวแข็ง ตื่นเต้นเสียจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัว

     

                ถ้าวายังไม่มีใคร...วา...คบกับพี่ได้ไหม?

     

                สิ้นประโยคนั้นทั้งผมทั้งพี่กานต์ก็ต่างนั่งเงียบ แต่แล้วพี่กานต์ก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เขาเงยหน้าขึ้นนิดๆ สายตามองข้ามหลังผมไป

                นาย...

                ผมหันกลับไปมอง ก่อนจะเบิกตากว้างที่เห็นแผ่นหลังของคนที่คุ้นตาที่กำลังเดินออกไปนอกร้านอย่างรวดเร็ว

                ซี!!”

                ผมลุกพรวด ในหัวหมุนติ้วด้วยความไม่เข้าใจ ถึงมันจะบอกว่าเดี๋ยวมาหาก็เหอะ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมาทันได้ยินอะไรแบบนี้เข้า

                เอ๊ะ? แล้วผมกังวลอะไรล่ะเนี่ย?

    อยากจะตามไปเคลียร์แต่ก็ติดว่าพี่กานต์ยังนั่งอยู่ตรงนี้ จะลุกไปเลยก็เสียมารยาท ผมได้แต่หันรีหันขวาง จนกระทั่งแผ่นหลังของซีหายไปกับฝูงชนนอกร้าน

                ผมยืนอึ้ง แล้วตัดสินใจนั่งลงเงียบๆ ได้ยินเพียงเสียงเพลงเพลงเดิมลอยมา

     

    ห้ามใจยังไงให้ไหว เมื่อเธอน่ารักเกินกว่าใคร

    ปฏิเสธอย่างไร เมื่อรักเธอจนไม่อาจจะถอนตัว

                (Lipta : ปฏิเสธอย่างไร)

               

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ 

    (โนว์/วิ่งหลบรองเท้า)
    ฮ่าๆ อย่าเพิ่งฆ่าโนว์นะเจ้าคะ แบบว่า ให้โอกาสพี่กานต์เขาบ้างจิ โฮะๆๆๆ(หัวเราะชั่วร้าย) 
    เอาล่ะ ลองมาควิซกันหน่อยมั้ยคะ คำถามว่า ตาซีจะรู้สึกอย่างไรมากกว่ากัน ระหว่าง น้อยใจ โกรธ เซ็ง แล้วก็อยากฆ่าคน =[]=
    ฮาๆ ถามเล่นๆ ไม่ต้องซีเรียสน่อ!

    เอาล่ะ มาถึงช่วงตอบเม้นท์ คือแบบ....ช่วงนี้คอมไอ้สโนว์มันรวนบ่อยมั่กๆเลยอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะตอบเม้นท์ซ้ำหรือเปล่า อยากตอบให้ครบทุกอัน แต่บางอันถ้าเคยตอบไปแล้วขึ้นอีกก็อย่าด่ากันนะ หน้าก่อนหน้านี้เม้นท์มันหาย โนว์ละเครียสสสสสสส(กร๊าซ!!! อยากเผาคอม = = ) 

    คุณ davil_will_cry - สามเม้นท์ต่อกัน วู้ววววว ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน หนูวาไม่เสร็จง่ายๆหรอก ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่นะค้า ^^

    คุณ ไพดเดแก - ว่าจะบอกก็ไม่ได้บอกซะที แต่พี่เน็ตเป็นผู้ชายจ้า วงโยโรงเรียนนี้ไม่รับผู้หญิง ชอบพี่เน็ตหรือจ๊ะ โนว์เองก็อยากแต่งตอนพิเศษของพี่เน็ตเหมือนกันน้า ^O^

    คุณ My Angle - ฮาๆ ตาซีได้มากกว่าด้านอีก เอิ๊กอ๊าก เอ่อ...เพิ่งเห็นเม้นท์ล่าสุด ทำรวมบทความอยู่เหรอคะ เดี๋ยวโนว์จะแวะไปเยือน+สูบ(พูดมาได้หน้าด้านๆ = =) ขอบคุณนะคะที่กรุณารับเอาเรื่องนี้ไปลง >< 

    คุณ LEE DONE HAE - ขอบคุณค่า ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ ขอให้สนุกกับนิยายเรา ^^

    คุณ SILVER_KNIGHT&Lovely Hee chuL - ระวังคุณแม่ตกใจนะคะ = = อัพให้ก่อนปีใหม่ตามที่ขอค่าาาา

    คุณ pan - อีกหนึ่งแม่ยกซี ฮู่เร่!!!

    คุณ อลิซหน้าโง่ :( - แม่ยกฮียซีXหนูวาเต็มขั้น ฮาๆ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ ><

    คุณ pea pae -  เสร็จเลยเหรอ มอบลางแปลกๆให้หนูวาอีกคน ฮาๆ = =

    คุณ poy✚ - ยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ค่ะ ^^ ชอบโนว์ก็ดีใจ กรี๊ดกร๊าด(มันบ้า...) อ่านตอนล่าสุด น่าจะรู้แล้วล่ะมั้งคะว่าพี่กานต์คิดอะไรกับหนูวาหรือเปล่า ฮะฮะฮ่า... ซีมันก็จริงจังได้แบบสุรามาเป็นระยะ อ่านต่อถึงไหนแล้วค้า โดยส่วนตัวโนว์ชอบตอนพิเศษนะ ตาซีดูหลุดดีๆ ><

    คุณ bummi - เป็นอะไรที่จึ้ก ฮ่าๆ แต่ตอนใหม่นี่กลับกันค่ะ เป็นซีได้ยินพี่กานต์บอกรักวา "ต่อหน้า" เน้นๆต่อหน้า เอิ๊กๆ ลองควิซกับโนว์ดูจิคะว่าตาซีจะรู้สึกยังไงมากกว่ากัน เหอๆ


    คุณ งงปะ  -  โนว์ก็ชอบตอนคริสต์มาสนะ มันเห็นชัดๆว่าซีเป็นคนใจดีกว่าที่แสดงออกกับวา เป็นพวกตบหัวลูบหลัง รักนะแต่ไม่แสดงออก ว้ายยยยย >< (เริ่มบ้าระลอกใหม่ = =)
    อัพตอนใหม่ให้แล้วนะค้าาาา

    คุณ andnor309 - ฮาๆ ถึงขั้นน่าสงสารน่าเห็นใจ อยากเป็นพระเอกมันต้องทนอดสูกันหน่อย(อดสู??? = =) อัพตอนใหม่แล้วนะคะ เพิ่มดีกรีความน่าอดสู ฮาๆ(โดนรองเท้าปาหัวอั้ก! =[]=)

    คุณ >>>BulldoG - ระวังเหงือกแห้งจ้า เหอๆ ลองไปฟังมาดูเหมือนกัน เพลงให้อารมณ์ซึ้ง แต่ตอนแต่งโนว์ฟังมากกว่ารักของพีทล่ะ ชอบเพลงนี้มากกก เป็นเพลงที่หน้าหลักด้วย >< 
    เรื่องจั่วหัว แหม...ตอนนั้นโนว์คิดไม่ถึงนี่จ๊ะ แต่ไว้จะลองพิจารณานะ ฮาๆ 

    คุณ kiss&hugs - ตาซีมันทำตัวงี้มาตั้งแต่เด็กๆ เหอๆ วาเองก็เด็กสนิทไม่มีเปลี่ยนแปลง(โตไม่เป็น) ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ สมพรปากเน้อ ^^ แล้วก็ขอให้ได้ในสิ่งดีๆเช่นเดียวกันค่ะ

    คุณ koala_march91 - สวัสดีปีใหม่แอนด์เมอร์รี่ย้อนหลังค่า ^O^ ชอบคำอวยพรจัง ขอบคุณนะคะ

    คุณ Tea cup - มาแบบสั้นๆแต่ได้ใจความ อัพต่อแล้วนะคะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านน้าาา

    คุณ oong fong  - ฮาๆ มั่นใจเป็นอย่างสูงว่าวาต้องเลือกซี นั่นสิน้า? คงเป็นงั้น...ล่ะมั้ง ^^ (โดนรองเท้าเขวี้ยงหัวแตก)

    คุณ น้องแก้มจร้า - อัพให้แล้วค่ะ ขอให้สนุกนะ แต่ทางจะจบนี่...ยาวไกล ฮาๆ แต่จะพยายามนะ ^^

    คุณ ping_ping> - แบบว่าปลื้มมมมมม อัพตอนใหม่แล้ว ติดตามกันให้ได้น้าาา ><

    คุณ ~S.L.W.~ - เมอร์รี่เช่นกันค่า สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าด้วย อัพให้แล้วนะคะ

    คุณ HuG_sUnGmIn - น่ารักก็รักกันให้น้อยๆ...แต่นานๆนะคะ ฮิๆ ขอให้สนุกกับเรื่องนี้ค่ะ อัพแล้วนะ ><

    คุณ L-iquid - เป็นเม้นท์ที่ลึกซึ้งเห็นภาพเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่บอกความรู้สึกอย่างละเอียดและตรงไปตรงมาขนาดนี้ มันทำให้เรารู้ว่ามีคนที่ตั้งใจอ่านจริงๆอยู่เยอะค่ะ ^^ จะพยายามให้ระดับมันคงเส้นคงวาแต่จะไม่ให้เรื่องมันเครียดมาก ยังไงเรื่องนี้ก็อยู่หมวดสบายๆนี่เนอะ >< แล้วมาตามลุ้นต่อนะคะ 

    คุณStudent Superintendent - รู้รึยังคะว่าซีขออะไร ช่วยกันลุ้นหนูวาด้วยนะคะ ^^


    ตอบหมดแล้วววววว ภาวนาขออย่าให้เจ๊งอีก เจ๊งบ่อยๆแล้วรับไม่ได้ -*- 
    ถึงตอนนี้ ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ช่วยอ่านช่วยเม้นท์ช่วยเชียร์ โนว์จะพยายามอัพอย่างสม่ำเสมอนะคะ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าทุกคน ขอให้มีความสุขมากๆน้า ><




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×