คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Rhythm 5 : Will be beside you?
ผมได้ยินเสียงกลองเสียงแตรเสียงบ้าเสียงบออะไรต่อมิอะไรมากมายดังมาจากสนามใหญ่ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสแตนด์บายก่อนเข้าแข่งในสนาม เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาโรงเรียนของผมเพิ่งจะยกขบวนกันมาที่สนามกีฬาแห่งชาติเพื่อประกวดดิสเพลย์นั่งบรรเลงในตอนเช้าและเดินแปรขบวนในตอนเย็น เราได้คิวต่อจากโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพที่เคยมีประวัติชนะเลิศมาแล้ว แน่นอน หนาวใช่ย่อยที่ต้องแข่งต่อจากโรงเรียนแบบนั้น แต่ไม่เป็นไร...พวกผมเต็มที่อยู่แล้ว!
ผมมองนาฬิกาซ้ำแล้วซ้ำอีก เวลาผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งพี่อั๋นเรียกให้พวกเราเดินเข้าไปที่ข้างสนาม ผมเริ่มรู้สึกตื่นเต้น เพราะนี่ถือเป็นสนามจริงครั้งใหญ่ครั้งแรกของผม แต่พี่กานต์ที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มให้
“ไม่เป็นไรนะ วา ตื่นเต้นมากหรือเปล่า?”
ผมยิ้มตอบ “ไหวครับ สบายมาก”ผมมองพี่กานต์นิ่ง ทั้งที่มีรูปขบวนที่พี่กานต์ต้องออกไปเป็นแตรเดี่ยวคนเดียวแท้ๆ แต่ไหงเฮียแกถึงได้ดูสบายๆนักนะ...
“แต่พูดตรงๆ...พี่ก็...ตื่นเต้นเหมือนกัน”
พี่กานต์ยังคงยิ้ม ฝ่ามืออุ่นจัดกำมือเย็นเฉียบของผมขึ้นมาทำเอาผมชะงัก แต่ก็ไม่ได้ปัดทิ้ง
“มือวาเย็นเฉียบเลย”พี่กานต์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจสายตาใครๆด้วยซ้ำ “ดีขึ้นไหม?”
“เอ้อ...ครับ...ขอบคุณ”ผมล่ะพูดไม่ออก สะบัดทิ้งก็ไม่ได้ แต่จะให้ตอบรับมันก็...
“ให้มันน้อยๆหน่อย ไอ้กานต์ จะแสดงอยู่แล้วมึงยังจะทำเล่น!”เสียงพี่อั๋นแหกปากว้ากมาจากหัวขบวนทำให้แทบทั้งวงหันมามองพวกผมกันหมด ผมอ้าปากค้างแล้วรีบกระตุกมือออกทันทีแบบลืมกลัวเสียมารยาทกะทันหัน
ไอ้นัทที่ยืนด้านหน้าผมส่ายหัว “...มึงนี่...หลายใจชิบ”
“ไอ้เชี่ยนัท! ไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะเว้ย!”ผมกระซิบด่ามัน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามันเพิ่งพูดอะไร “เดี๋ยวสิ...กูหลายใจตอนไหนวะ? ไอ้ห่านี่ หาเรื่อง”
ไอ้นัทส่ายหน้าซ้ำ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหน่ายใจเรื่องอะไร...
“ได้เวลาแล้วล่ะ”พี่กานต์เตือน ได้ยินเสียงคทากรสั่งแถวตรง ทำให้พวกผมหยุดการสนทนา แล้วกลับมาตั้งสมาธิที่การแข่งอย่างจริงๆจังๆ
เสียงประกาศชื่อโรงเรียนผมและเพลงที่ใช้จบไปแล้ว แถวของพวกเราเริ่มเดินออกมา จากปลายหางตา เห็นอัฒจันทร์สูงอยู่ไกลๆ ทำให้นึกไปถึงใครอีกคน
ไอ้ซีคงดูอยู่บนนั้นสินะ...
ผมแอบหวังในใจ
อาจจะจริง...ที่ว่าเส้นทางของเราไม่ได้ไปทางเดียวกัน...มันกับผมเดินกันคนละทาง...แต่...ไม่รู้สิ...ผมกลับไม่รู้สึกว่าแบบนี้มันแย่แฮะ
ซึ่งนั่นก็คงจะเพราะ...มันยังอยู่เคียงข้างผมเสมอ...ล่ะมั้ง...
“วันนี้พี่ต้องขอบคุณทุกคนมาก”พี่อั๋นที่เป็นประธานวงกล่าวเรียบๆหลังจบการแข่งและกลับมาโรงเรียนแล้ว ปรากฏว่าประเภทนั่งบรรเลงโรงเรียนผมได้ที่หนึ่ง และแปรขบวนได้อันดับสาม “พี่รู้ว่าครึ่งปีที่ผ่านมาทุกคนได้พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว แข่งครั้งหน้าของเรา หวังว่าจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่เมืองไทยนะ”
“ฮิ้วววววววว”พวกม.5 เพื่อนๆพี่อั๋นโห่รับสนับสนุนคำพูดท่านประธาน ก่อนจะโดนท่านประธานจ้องตาเขียว
“โห่เชี่ยอะไรของพวกมึง!”ว้ากสั้นๆคำเดียวพี่อั๋นก็กระแอมนิดๆ แล้วค่อยพูดต่อ “โรงเรียนจะให้หยุดเป็นพิเศษจนถึงวันจันทร์ แล้วระหว่างนี้ไม่ต้องเสนอหน้าโผล่มาเชียว ไม่งั้นงวดหน้าอดหยุดแน่”
“ฮิ้วววววววว”คราวนี้ไม่ใช่แค่ม.5 แต่เป็นทุกชั้นเนื่องจากได้หยุดฟรีๆศุกร์-เสาร์ พี่อั๋นทำหน้าเซ็งๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก ทำเพียงเดินลงจากพื้นยกระดับหน้าห้อง และทิ้งท้ายคำพูดไว้ว่า
“จบแค่นี้...เชิญไสหัวกลับบ้านแล้วนอนให้เต็มที่กันได้เลย!!”
พวกผมค่อยๆทยอยลงจากตึก ตอนนี้เกือบห้าทุ่มแล้ว ผมแบกกระเป๋าเสื้อผ้าที่เอามาค้างโรงเรียนกลับบ้าน โดยมีไอ้นัท แฝดบอลบาส จูน กรีน เพชร กลุ่มเดิมๆเดินตามมาเป็นพรวน
เราลากันตรงป้ายรถเมล์เพราะผมเป็นคนเดียวที่บ้านอยู่คนละทาง ผมมองหารถเขียว แต่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าป่านนี้มันคงไม่มีวิ่งแล้ว(คนเรายังต้องหลับนอน...ไม่ใช่เซเว่นอีเลฟเว่น...)
“อ้าว? กลับไงเนี่ยวา?”ผมหันขวับกลับไป พี่กานต์นั่นเอง แต่น่าแปลกที่ไม่มีพวก ม.5 คนอื่นอยู่ด้วย “บ้านวาขึ้นคันไหนล่ะ”
“เมล์เขียว...แต่คงไม่มีวิ่งแล้วล่ะ”ผมยืนถอนหายใจเซ็งๆ “ก็เลยว่าจะนั่งแท็กซี่กลับ”
“พอดีเลย หารกับพี่สิ พี่ก็นั่งเมล์เขียวกลับเหมือนกัน”พี่กานต์บอก “บ้านพี่ไปทางถนน xxxโน่นแน่ะ”
ผมชะงักกึก ดีใจสุดขีดที่เจอเพื่อนร่วมชะตากรรมแล้ว “ทางเดียวกัน!”
ในที่สุดผมก็ร่วมหัวจมท้ายโบกแท็กซี่กลับกับพี่กานต์ หลังจากที่คุยกันไปคุยกันมาก็พบว่าบ้านผมกับพี่กานต์ไม่ได้ห่างกันมากนัก เราคุยเรื่อยเปื่อยกันไปตลอดทาง จนกระทั่งพี่กานต์ถามขึ้น
“หยุดสามวันจะทำไรบ้างล่ะ?”
“อืม...”ผมนึก “ไม่รู้สิครับ ยังไม่ได้คิดเลย”
แต่แด๊วแด่แด๊ว! ปอย...ปอย...ป่อย...
อยู่ๆเสียงข้อความเข้ามือถือผมก็แผดลั่นไปทั่วรถ ผมแอบเห็นคนขับแท็กซี่มองกระจกหลังแล้วจ้องผมแปลกๆเมื่อมันเป็นเสียงอินโทรโดเรมอนตอนเปิดตอน - -
เมื่อเห็นชื่อคนส่งมา ผมก็รู้สึกพองโตพิกล...ไอ้ซี
14/01/08 23.38
ได้ดูแล้ว แต่เห็นมึงยุ่งๆเลยไม่เข้าไปทัก รีบกลับบ้านไปนอนไป
ผมยิ้มนิดๆกับข้อความสั้นๆนั้น มันไม่ใช่ข้อความที่พิเศษอะไรเลย แต่ก็น่าแปลกที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจ
“แฟนเหรอ?”พี่กานต์แซวยิ้มๆ ทำเอาผมอ้าปากค้าง
“เพื่อนครับ!”ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนี้...แต่ก็นะ...
พี่กานต์ไม่พูดอะไร แต่ไอ้การที่ไม่พูดแล้วจ้องหน้าผมอย่างเดียวนี่ก็ทำให้ผมเสียวสันหลังชอบกลอยู่เหมือนกัน ก็ดูพี่แกยิ้มสิ...โคตรไม่น่าไว้ใจ
“วา”
ผมชะงัก รู้สึกระแวงนิดๆ “ไมเหรอพี่?”
“วันเสาร์ไปเที่ยวกัน~”
ผมขมวดคิ้วนิดๆ ไม่ใช่ไม่อยากไปหรอก แต่แค่ประหลาดใจว่าทำไมพี่กานต์ถึงชวนผม
“นึกไงชวนล่ะครับ?”ถามกันเหนียวด้วยความสงสัย และพี่กานต์ก็ยิ้มกว้างตอบ
“ก็เห็นเราว่างๆ~”
ยังไม่ได้บอกเลยว่าว่าง...
“สรุปตกลงสินะ?”
พูดตอนไหนวะ...
เพิ่งจะซึ้งก็วันนี้ว่าพี่กานต์ก็เป็นพวก ‘เอาแต่ใจ’ นิดๆเหมือนกันแฮะ...เหมือนใครก็ไม่รู้...
“ก็ได้อยู่หรอกครับ”ผมขี้เกียจต่อปากต่อคำต่อ เลยตอบเออออไป
ได้คำตอบแบบนี้พี่กานต์เลยยิ่งยิ้มแป้น “วันเสาร์สิบโมงที่สยามนะ~”
“คร้าบๆ...”
รถมาถึงบ้านผมก่อน ผมเลยลาพี่กานต์แล้วลงรถไปทั้งๆที่ยังมึนๆงงๆอยู่นั่นแหละ
สรุปวันเสาร์ผมต้องไปเที่ยวกับพี่เขาสินะ...เออหนอปาก...แต่ไม่รู้ทำไม...ผมถึงได้รู้สึกเหมือนกำลังหาเรื่องใส่ตัวยังไงชอบกลแฮะ...
วันเสาร์สิบโมงที่สยาม
ผมมาตามที่พี่กานต์บอกโดยเลือกที่เจอกันตรงรถไฟฟ้าเป็นหลักเพราะจะได้หากันง่ายหน่อย...ซะที่ไหน...สยามนี่ล่ะแหล่งคนเยอะ..ไม่เยอะธรรมดา...แต่เป็นเยอะชิบหาย!
ตอนที่ผมไปถึงพี่กานต์ก็รออยู่ก่อนแล้ว ผมเลยเร่งฝีเท้านิดหนึ่งจะได้ดูเหมือนรีบหน่อย<<ไอ้นี่ก็สร้างภาพเกิ๊นนน
“โทษทีพี่ รถติด”
“รถไฟฟ้าอ่ะเหรอ? ^^”
“โทษอีกรอบนะ...แต่นั่นเรียกมุกใช่มะ - -^“
พี่กานต์หัวเราะร่าแล้วพาเดินนำหน้าไปก่อน “พี่จะมาเลือกของขวัญให้น้องสาวน่ะ แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรเลยอยากได้คนมาช่วย”
ผมเกาหัว รู้สึกมันเป็นประโยคบอกเล่าที่แหม่งๆชอบกล เลือกของให้น้องสาว...แต่ผมเป็นผู้ชายนี่หว่า...แล้วงี้เอาผมมาทำเพื่อ...?
“ผมไม่มีน้องสาวนะ”
“ไม่เป็นไร ให้วาช่วยเลือกแหละดีแล้ว”
เอ๊ะ...ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่าพี่เขามีเจตนาอะไรกันแน่
แต่เออ...ของขวัญก็ของขวัญ เอากับเฮียแกหน่อย...
ผมกับพี่กานต์เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆตามร้านค้า ที่นี่ของเยอะจนเลือกไม่ถูก พี่กานต์ดูโน่นดูนี่แต่ก็ไม่เห็นซื้อสักอย่างจนผมชักจะเง็งว่าวันนี้จะได้ของมั้ย เฮียแกเดินทะลุตรอกโน้นตรอกนี้เข้าออกที่นู่นที่นี่เป็นว่าเล่น แต่มันก็ลงท้ายด้วยการออกมามือเปล่าทั้งนั้น
ผมเริ่มเหนื่อย เลยจำต้องถามอย่างอดไม่อยู่ “ถามจริง น้องสาวพี่ชอบอะไรกันแน่อ่ะ เห็นเดินดูอะไรพี่ก็บอกว่าไม่น่าจะถูกใจทั้งนั้นเลย”
ความจริงที่ถามไม่ได้รำคาญนะครับ แค่เหนื่อย ก็โดนลากเดินทั่วสยามเลยนี่หว่า...
พี่กานต์หยุดคิด ก่อนจะพูดสั้นๆแต่ทำเอาผมแทบหงายหลัง
“นั่นสิ ไอ้แก้วมันชอบอะไรน้อ?”
อ้าวเฮ้ย...
ผมเกาหัวยิกๆ ถ้ามีรังแคก็คงจะร่วงไปหลายเม็ดแล้ว “แล้ววันนี้จะได้ของหรือครับ“
“ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร...ไป ไปกินข้าวกัน”พี่กานต์ชวนอย่างอารมณ์ดีแล้วพาผมเดินเข้าร้านอาหาร แต่ผมนี่สิงงเป็นไก่ตาแตก เริ่มจะคิดขึ้นมาอีกรอบว่าตกลงพี่แกอยากได้ของขวัญไปให้น้องสาวจริงหรือเปล่า...
ผมกับพี่กานต์เข้ามาในฟูจิ ทั้งที่ผมก็บอกแล้วว่าไม่เอาฟูจิหรือโออิชิเพราะผมถังแตก - -“ แต่พออีกฝ่ายยืนกรานจะเลี้ยงผมเลยสนองพระโอษฐ์โดยการรับเป็นผู้ถูกเลี้ยงที่ดี...อดอยากมานาน ฮ่าๆ ของฟรีโว้ย...
“เดินซะทั่วเลย”พี่กานต์ชวนคุย ในขณะที่มือคีบซูชิส่งให้ ผมบอกขอบคุณ ก่อนจะถามในสิ่งที่ข้องใจมานาน
“จะไปเดินหาของขวัญต่อมั้ยอ่ะ?”
“อ้อ แน่นอน”
ตอบซะมั่นใจ...ฮ่าๆ...เหอๆ...เฮ้อ....
“วาเบื่อรึเปล่า?”อยู่ๆพี่กานต์ก็ถามด้วยสีหน้าจริงจังผิดกับอาการขี้เล่นเหมือนที่ผ่านๆมา ผมเงยหน้าขึ้นจากจานเทมปุระ(ก็มันอร่อยนี่หว่า...) รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน แต่ก็ส่ายหน้า
“เหนื่อย แต่ก็สนุกดีนี่ครับ”เอื๊อก...กลืนเข้าคอให้หมดก่อนกันทุเรศ “ใครบอกว่าเบื่อ?”
“งั้นเหรอ~”พี่กานต์เปลี่ยนกลับเป็นหน้ายิ้มตามปกติได้อย่างรวดเร็วพอๆกับตอนทำหน้าเครียด จนผมเริ่มออกอาการงงว่าตกลงอันไหนกันแน่ที่เป็นหน้าจริง
ผมเพิ่งรู้อะไรอีกอย่าง...รุ่นพี่ผมนี่...แปลกคนว่ะ...
แต่ก็เอาเถอะ ยกโทษให้...ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฟูจิอร่อยนะเนี่ย<<ไม่เกี่ยว...
เราหยุดคุยกันเพราะอินโทรเปิดตอนของโดเรมอนเจ้าเก่าดังขึ้น ผมหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นข้อความเข้าจาก...ไอ้ซี...
16/01/08 13.14
อยู่ไหน
ผมเลิกคิ้ว...ไอ้นี่จะมาไม้ไหน?...แต่ด้วยความไม่คิดอะไรเลยพิมพ์ตอบกลับไปแบบซื่อๆ
16/01/08 13.15
ฟูจิที่สยาม
พี่กานต์นั่งมองผมกดโทรศัพท์เงียบๆแต่ก็ไม่ได้แสดงออกว่าไม่ชอบใจ ยังตักนู่นตักนี่ใส่จานให้ผมตามปกติ
รอไม่ถึงนาทีข้อความใหม่ก็เข้า
16/01/08 13.15
คนเดียว?
ผมเริ่มเซ็ง ขี้เกียจพิมพ์ตอบเต็มทนเลยตัดสินใจยอมเปลืองตังค์โทรไปหา แต่ก็ไม่ลืมคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“ขอเวลาเดี๋ยวนะพี่กานต์ ไอ้บ้านี่เอาแต่ส่งข้อความไม่ยอมพูดไม่ยอมจา รำคาญ”
ผมกดเบอร์ที่จำได้แม่นแล้วโทรออกทันใด และก็น่าโมโหตรงที่โทรศัพท์ดังไม่ถึงครั้งมันก็รับ
“ไอ้ซี มึงจะส่งข้อความมาทำบ้าอะไรทุกๆนาที มีไรไม่โทรมาวะ”ผมโวยวาย และก็ได้ยินเสียงขำดังมาจากอีกฝั่ง
“สถิติใหม่ แค่สองข้อความก็โทรกลับ”ไอ้ซีพูดไปขำไป ผมเลยได้แต่สบถเซ็งๆ
“ไอ้ห่านี่...กวน”
ไอ้บ้าซีชอบใช้วิธีประสาทๆแบบนี้แหละครับ มันจะส่งข้อความมาเรื่อยๆกวนใจผมเพราะเครื่องมันส่งฟรี(แต่ของผมเสียตังค์ - -+)และก็รอจนกว่าผมจะเป็นฝ่ายโทรไปเอง ซึ่งวิธีนี้ไอ้บ้าซีจะใช้เฉพาะเวลาที่ว่างมากจริงๆเท่านั้น(เพราะมันเสียเวลาใช่ย่อย ไอ้การพิมพ์ตอบไปตอบมาเนี่ย)
“เออ แล้วตกลงมีไร?”ผมถามกลับเสียงห้วน ยังหงุดหงิดไม่หาย
“มึงไปทำอะไรที่สยาม? นึกว่าอยู่บ้านซะอีก”
“กูมาซื้อของกับพี่กานต์”
ปลายสายเงียบไปนิดหนึ่ง “พี่กานต์นี่...รุ่นพี่ในวงมึงใช่มะ?”
“เออ”
“มึงว่าตอนนี้อยู่ไหนนะ?”
“ฟูจิ”
“โอเค อีกห้านาทีเจอกัน”
“เฮ้ย!!?”
พูดสั้นๆแค่นั้นไอ้ซีก็กดวาง ผมอ้าปากค้าง แล้วหันไปมองที่ประตูร้านโดยอัตโนมัติด้วยความหวาดระแวง
“มีอะไรหรือ”พี่กานต์ถามอย่างสงสัย...แต่ก็คงจะสงสัยตั้งแต่ตอนที่ผมโทรไปโวยแล้วล่ะ
ผมเกาหัวแกรกๆ ไม่รู้จะตอบยังไงดี เลยบอกส่งๆไป “ช่างเหอะครับ แค่เพื่อนวามันบ้า“
พี่กานต์ไม่ว่าอะไร บรรยากาศระหว่างเราเงียบลงไปนิด ก่อนที่พี่กานต์จะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“พี่อยากจะสารภาพอะไรสักอย่าง”พี่กานต์เอ่ย น้ำเสียงซีเรียสแต่ใบหน้ายังยิ้มแย้ม “พี่อยากจะบอกว่า...อันที่จริงเรื่องของขวัญน้องพี่เป็นเรื่องรอง...ความจริงที่ชวนมาก็แค่อยากมาเที่ยวกับวาเท่านั้นแหละ”
ผมยิ้มเก้อๆ ชักวางตัวไม่ถูก “เอ่อ...ครับ?”
“พี่ดีใจที่รู้ว่าวาก็สนุกนะ”
ผมเริ่มรู้สึกสังหรณ์ๆ พี่กานต์อย่ายิ้มแบบนี้ดิครับ...มันยิ่งทำให้ผมหนาวสันหลัง...เดาเรื่องได้เข้าไปใหญ่...
พี่กานต์เงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วอยู่ๆก็หัวเราะแห้งๆ “คือ...จะว่าไงดี...”
ผมอึ้ง เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่กานต์มีท่าทีที่แถวบ้านเขาเรียกกันว่า ‘เขิน’
ปฏิเสธหัวใจอย่างไร ชั้นทำไม่เป็น
เพียงแค่เห็นเธอเข้ามาทักทาย
เหมือนได้เห็นฝันที่กลับกลาย เป็นความจริง
ทั้งผมทั้งพี่กานต์นั่งเงียบ อยู่ๆที่ร้านเสือกเปิดเพลงบ้าอะไรเนี่ย!
หัวใจที่ไม่เคยมีรัก
กลับอยู่ไม่เป็นจังหวะ เพียงเธอส่งยิ้มมา
ไม่กล้าเปิดเผยใจ กลัวเธอจะรู้ว่า คนที่ยืนอยู่ตรงนี้...
แอบหลงรักเธออยู่ แต่เธอคงดูไม่ออก
ซ่อนความรักไม่กล้าบอก กลัวเธอจะเปลี่ยนไป
ผมสบถ นึกอยากด่าคนเปิดเพลงชอบกล แต่พอมองหน้าคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ผมก็ต้องร้องเฮ้ยในใจ
พี่กานต์...เขินจริงๆเหรอเนี่ย!?
รุ่นพี่ที่เคยอารมณ์ดี เฮฮา ทำหน้าอย่างอื่นไม่เป็นนอกจากยิ้ม...พี่กานต์คนนั้น...กำลัง...หลบตา...แถมยังโหนกแก้มแดงๆ...
“พี่ก็เคยถามวาไปแล้วล่ะ...แต่ก็ยังอยากถามดูอีกสักครั้ง”เสียงของพี่กานต์เบาลงกว่าทุกครั้งแล้วก็เกร็งเอาการ ทำเอาผมชักเกร็งทำตัวไม่ถูกไปด้วย “คือ...แบบว่า...”
ผมนั่งตัวแข็ง ตื่นเต้นเสียจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัว
“ถ้าวายังไม่มีใคร...วา...คบกับพี่ได้ไหม?”
สิ้นประโยคนั้นทั้งผมทั้งพี่กานต์ก็ต่างนั่งเงียบ แต่แล้วพี่กานต์ก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เขาเงยหน้าขึ้นนิดๆ สายตามองข้ามหลังผมไป
“นาย...”
ผมหันกลับไปมอง ก่อนจะเบิกตากว้างที่เห็นแผ่นหลังของคนที่คุ้นตาที่กำลังเดินออกไปนอกร้านอย่างรวดเร็ว
“ซี!!”
ผมลุกพรวด ในหัวหมุนติ้วด้วยความไม่เข้าใจ ถึงมันจะบอกว่าเดี๋ยวมาหาก็เหอะ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมาทันได้ยินอะไรแบบนี้เข้า
เอ๊ะ? แล้วผมกังวลอะไรล่ะเนี่ย?
อยากจะตามไปเคลียร์แต่ก็ติดว่าพี่กานต์ยังนั่งอยู่ตรงนี้ จะลุกไปเลยก็เสียมารยาท ผมได้แต่หันรีหันขวาง จนกระทั่งแผ่นหลังของซีหายไปกับฝูงชนนอกร้าน
ผมยืนอึ้ง แล้วตัดสินใจนั่งลงเงียบๆ ได้ยินเพียงเสียงเพลงเพลงเดิมลอยมา
ห้ามใจยังไงให้ไหว เมื่อเธอน่ารักเกินกว่าใคร
ปฏิเสธอย่างไร เมื่อรักเธอจนไม่อาจจะถอนตัว
(Lipta : ปฏิเสธอย่างไร)
(โนว์/วิ่งหลบรองเท้า)
ฮ่าๆ อย่าเพิ่งฆ่าโนว์นะเจ้าคะ แบบว่า ให้โอกาสพี่กานต์เขาบ้างจิ โฮะๆๆๆ(หัวเราะชั่วร้าย)
เอาล่ะ ลองมาควิซกันหน่อยมั้ยคะ คำถามว่า ตาซีจะรู้สึกอย่างไรมากกว่ากัน ระหว่าง น้อยใจ โกรธ เซ็ง แล้วก็อยากฆ่าคน =[]=
ฮาๆ ถามเล่นๆ ไม่ต้องซีเรียสน่อ!
เอาล่ะ มาถึงช่วงตอบเม้นท์ คือแบบ....ช่วงนี้คอมไอ้สโนว์มันรวนบ่อยมั่กๆเลยอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะตอบเม้นท์ซ้ำหรือเปล่า อยากตอบให้ครบทุกอัน แต่บางอันถ้าเคยตอบไปแล้วขึ้นอีกก็อย่าด่ากันนะ หน้าก่อนหน้านี้เม้นท์มันหาย โนว์ละเครียสสสสสสส(กร๊าซ!!! อยากเผาคอม = = )
คุณ davil_will_cry - สามเม้นท์ต่อกัน วู้ววววว ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน หนูวาไม่เสร็จง่ายๆหรอก ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่นะค้า ^^
คุณ ไพดเดแก - ว่าจะบอกก็ไม่ได้บอกซะที แต่พี่เน็ตเป็นผู้ชายจ้า วงโยโรงเรียนนี้ไม่รับผู้หญิง ชอบพี่เน็ตหรือจ๊ะ โนว์เองก็อยากแต่งตอนพิเศษของพี่เน็ตเหมือนกันน้า ^O^
คุณ อลิซหน้าโง่ :( - แม่ยกฮียซีXหนูวาเต็มขั้น ฮาๆ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าค่ะ ><
คุณ pea pae - เสร็จเลยเหรอ มอบลางแปลกๆให้หนูวาอีกคน ฮาๆ = =
คุณ poy✚ - ยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ค่ะ ^^ ชอบโนว์ก็ดีใจ กรี๊ดกร๊าด(มันบ้า...) อ่านตอนล่าสุด น่าจะรู้แล้วล่ะมั้งคะว่าพี่กานต์คิดอะไรกับหนูวาหรือเปล่า ฮะฮะฮ่า... ซีมันก็จริงจังได้แบบสุรามาเป็นระยะ อ่านต่อถึงไหนแล้วค้า โดยส่วนตัวโนว์ชอบตอนพิเศษนะ ตาซีดูหลุดดีๆ ><
คุณ bummi - เป็นอะไรที่จึ้ก ฮ่าๆ แต่ตอนใหม่นี่กลับกันค่ะ เป็นซีได้ยินพี่กานต์บอกรักวา "ต่อหน้า" เน้นๆต่อหน้า เอิ๊กๆ ลองควิซกับโนว์ดูจิคะว่าตาซีจะรู้สึกยังไงมากกว่ากัน เหอๆ
คุณ งงปะ - โนว์ก็ชอบตอนคริสต์มาสนะ มันเห็นชัดๆว่าซีเป็นคนใจดีกว่าที่แสดงออกกับวา เป็นพวกตบหัวลูบหลัง รักนะแต่ไม่แสดงออก ว้ายยยยย >< (เริ่มบ้าระลอกใหม่ = =)
อัพตอนใหม่ให้แล้วนะค้าาาา
เรื่องจั่วหัว แหม...ตอนนั้นโนว์คิดไม่ถึงนี่จ๊ะ แต่ไว้จะลองพิจารณานะ ฮาๆ
คุณ kiss&hugs - ตาซีมันทำตัวงี้มาตั้งแต่เด็กๆ เหอๆ วาเองก็เด็กสนิทไม่มีเปลี่ยนแปลง(โตไม่เป็น) ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ สมพรปากเน้อ ^^ แล้วก็ขอให้ได้ในสิ่งดีๆเช่นเดียวกันค่ะ
คุณ Tea cup - มาแบบสั้นๆแต่ได้ใจความ อัพต่อแล้วนะคะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านน้าาา
คุณ น้องแก้มจร้า - อัพให้แล้วค่ะ ขอให้สนุกนะ แต่ทางจะจบนี่...ยาวไกล ฮาๆ แต่จะพยายามนะ ^^
คุณ ~S.L.W.~ - เมอร์รี่เช่นกันค่า สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าด้วย อัพให้แล้วนะคะ
คุณ L-iquid - เป็นเม้นท์ที่ลึกซึ้งเห็นภาพเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่บอกความรู้สึกอย่างละเอียดและตรงไปตรงมาขนาดนี้ มันทำให้เรารู้ว่ามีคนที่ตั้งใจอ่านจริงๆอยู่เยอะค่ะ ^^ จะพยายามให้ระดับมันคงเส้นคงวาแต่จะไม่ให้เรื่องมันเครียดมาก ยังไงเรื่องนี้ก็อยู่หมวดสบายๆนี่เนอะ >< แล้วมาตามลุ้นต่อนะคะ
คุณStudent Superintendent - รู้รึยังคะว่าซีขออะไร ช่วยกันลุ้นหนูวาด้วยนะคะ ^^
ตอบหมดแล้วววววว ภาวนาขออย่าให้เจ๊งอีก เจ๊งบ่อยๆแล้วรับไม่ได้ -*-
ถึงตอนนี้ ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ช่วยอ่านช่วยเม้นท์ช่วยเชียร์ โนว์จะพยายามอัพอย่างสม่ำเสมอนะคะ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าทุกคน ขอให้มีความสุขมากๆน้า ><
ความคิดเห็น