คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : BAD NEWS :: 4
---------------------------
“คุณป้าฮะ”
[ว่าไงลูกแบคฮยอนมีอะไรกับป้ารึเปล่าจ๊ะ]
“เรื่องคริสน่ะฮะ”
[ตาคริสทำอะไรให้หลานมาพอใจบอกป้ามาเลยลูกเดี๋ยวป้าไปจัดการให้]
“ฮึก คริสเขาไม่สนใจผมเลยฮะคุณป้าคริสสนใจแต่เด็กชานยอล”
[ว่าไงนะนี่คริสยังไม่เลิกยุ่งกับเด็กนั่นอีกเหรอเนี่ย]
“ฮะฮึก”
[ใจเย็นนะลูกอย่าร้องไห้เดี๋ยวพรุ่งนี้ป้าจะรีบกลับไปจัดการเจ้าลูกตัวดีให้นะ]
“ไม่ต้องก็ได้ฮะผมเข้าใจดีว่าคริสรักชานยอลผมไม่อยากไปขัดขวางความรักของพวกเขา”
[โถ่หลานป้า ตาคริสนะตาคริส]
“คุณป้าแค่นี้ก่อนนะฮะคือผมรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย”
[จ๊ะดูแลตัวเองด้วยนะลูกเดี๋ยวพรุ่งนี้ป้าจะจัดการขั้นเด็ดขาดเราก็เตรียมตัวหมั้นหับตาคริสได้เลย]
“ฮะ”
[แค่นี้นะจ๊ะพักผ่อนเยอะล่ะ]เมื่อคุณนายอู๋พูดจบก็วางสายไปทันทีส่วนแบคอยอนนั้นก็ยิ้มเยาะกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
“เด็กน้อยชานยอลเธอนี่ช่างไร้เดียงสาจริงๆแค่นี้ก็ดีไม่ออกว่าฉันกลับมาทำไม”แบคฮยอนแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจออกมา
เช้าวันต่อมาที่คฤหาสน์ตระกูลอู๋
เสียงรถที่มาจอดในตัวคฤหาสน์สร้างความแปลกใจให้กับเหล่าคนใช้และคนงานอื่นเป็นอย่างมากและเมื่อพบเข้ากับร่างของนายหญิง
ใหญ่ของบ้านตระกูลอู๋ก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ในเมื่อนายหญิงใหญ่บอกว่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศไม่มีกำหนดกลับแล้วทำไมตอนนี้ถึงได้
มายืนอยู่ที่นี่ตอนนี้ได้และมาโดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้าอีกทำให้คนใช้ในบ้านไม่ได้จัดเตรียมห้องไว้ให้ท่าน
“มีรึมตาคริสล่ะ”
“อยู่ข้างบนค่ะคุณท่าน”
“ไปปลุกตาคริสลงมาหาฉันทีฉันต้องการพบลูกชายฉันเดี๋ยวนี้”
“ค่ะ”แม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่เดินขึ้นไปปลุกคุณชายใหญ่ที่ในห้องก่อนจะเดินลงมาพร้อมกับคุณชายใหญ่ที่อยู่ในชุดอยู่บ้านธรรมดาแต่ถึงจะ
ธรรมดาก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขานั้นลดลงแม้แต่น้อย
“ม๊ามาได้ไงครับไหนบอกว่าไม่มีกำหนดกลับไงครับ”
“นี่ถ้าฉันกลับมาเร็วกว่านี้ฉันก็คงจะเห็นแกเอาไอ้เด็กชานยอลนั่นมานอนกกไว้ที่บ้านแล้วใช่มั้ย”
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับชานยอลเลยนะม๊า”
“ทำไมจะไม่เกี่ยวถ้าไม่มีเด็กนั่นแกคงจะไม่ทำกับหนูแบคเขาแบบนั้นหรอก”
“ผมไปทำอะไรแบค”
“แกไม่สนใจหนูแบคเลยแกเอาแต่สนใจเด็กนั่นอย่างเดียวแกไม่คิดบ้างรึไงว่าคนที่แม่เลือกมันย่อมดีกว่าเด็กนั่นของแกเป็นไหนๆ”
“ม๊ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชานยอลเลยถึงไม่มีชานยอลผมก็ไม่รักแบคอยู่ดี”
“ทำไมหนูแบคไม่ดีตรงไหนฐานะทางครอบครัวก็ดีพร้อมทุกอย่าง”
“ผมไม่ได้รักแบคที่ฐานะครอบครัวหรืออะไรทั้งสิ้นครับม๊าเพราะต่อให้เหลือแบคคนเดียวบนโลกนี้ผมก็ไม่มีวันแต่งงานกับแบคหรือรัก
แบคครับ”
“นี่แกชักจะเอาใหญ่แล้วนะเดี๋ยวแกกล้าเถียงฉันอย่างนั้นเหรอ”
“ผมไม่ได้เถียงม๊าแต่ผมแค่พูดตามความจริงที่มันควรจะเป็น”
“ถ้าเพราะเรื่องเมื่อ2ปีก่อนที่หนูแบคทิ้งแกไปล่ะก็ฉันว่าแกควรเลิกคิดแล้วเริ่มต้นใหม่กับหนูแบคซะ”
“ไม่ครับไม่ว่ายังไงผมก็ไม่กลับไปคบกับแบคอีกเด็ดขาด”
เพี้ย! หน้าของคริสหันไปตามแรงตบของผู้เป็นมารดา
“ไม่ว่าแกจะอยากกลับไปคบหรือไม่ฉันก็จะให้แกกับหนูแบคหมั้นแล้วแต่งงานกัน”
“………….”
“เตรียมตัวให้ดีเพราะนับจากนี้อีก3วันงานหมั้นจะถูกจัดขึ้นที่โรงแรมของพ่อแกพร้อมทั้งเชิญแฟนแกมาด้วยดูสิว่าแฟนแกมันจะทำหน้ายัง
ไง”
“ไม่ผมไม่หมั้นเด็ดขาดให้ตายยังไงผมก็ไม่ยอม”
“แกขัดคำสั่งฉันไม่ได้หรอกตาคริสเพราะแกก็รู้ว่าถ้าขัดคำสั่งฉันแล้วมันจะเป็นยังไง”
“ผมไม่ยอมต่อให้ม๊าตัดแม่ตัดลูกผมก็ไม่หมั้น”
“แม่ไม่ทำอย่างนั้นหรอกลูกรักแต่แม่จะสิ่งที่แกคาดไม่ถึงและจะเป็นแกเองที่เจ็บปวด”
“ไม่มีทางผมไม่เจ็บปวดกับการกระทำของม๊าหรอกไม่มีทาง”
“งั้นก็คอยดูแล้วกันอู๋ฟานว่าแม่จะทำอะไรแม่ก็ไม่อยากจะให้ลูกรักของแม่เจ็บปวดหรอกนะแต่เมื่อแกเลือกแบบนี้เอง”ผู้เป็นแม่ทิ้งท้ายไว้เท่า
นั้นก่อนจะเดินออกจากบ้านไปโดยที่ไม่หันมาสนใจลูกชายของตัวเองเลย ส่วนคริสนั้นเมื่อได้ฟังผู้เป็นแม่พูดออกมาแบบนั้นก็เริ่มจะใจไม่ดี
แต่ก็ไม่อาจรู้เลยว่าแม่ของตนนั้นจะทำอะไร
ทางด้านคฤหาสน์ตระกูลชเว
“อ้าวยอลเป็นอะไรทำไมเรานั่งหน้าเครียดจัง”ฮีชอลที่พึ่งเดินมาเอ่ยถามขึ้นอย่างห่วง
“เมื่อคืนยอลฝันร้ายน่ะฮะตอนนี้ก็เริ่มใจไม่ดีเลย”
“อย่าคิดมาเลยมันก็เป็นแค่ฝันมันไม่เกิดขึ้นจริงหรอก”
“แต่ในฝันมันเหมือนจริงมาเลยนะฮะ”
“แล้วที่เราฝันน่ะฝันว่าอะไรล่ะเล่าให้พี่ฟังได้มั้ยหืม”ฮีชอลลูบผมชานยอลอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลม
“ยอลฝันว่าแม่ของพี่คริสมาบอกว่าพี่คริสกำลังจะหมั้นกับพี่แบคแล้วก็บอกให้ยอลเลิกยุ่งกับพี่คริสซะ”
“ท่าทางฝันของเธอคงจะเป็นจริงแล้วล่ะชานยอล”เสียงเรียบๆที่ดังมาด้านหลังกับประโยคที่คนฟังพยายามปลอบใจตัวเองมาตลอดว่ามันจะ
ไม่เป็นจริงแต่เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วสิ่งที่พยายามทำไมมันกลับพังทลายลงไปจนหมดสิ้น
“คุณน้า”
“ใช่ฉันเองตกใจมากเหรอจ๊ะหนูชานยอล”
“เชิญคุณน้านั่งก่อนนะฮะ”
“เข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะ”สีหน้าและท่าทางของคุณนายอู๋เปลี่ยนไปทันทีเมื่อจะพูดถึงเรื่องบางเรื่องที่ชานยอลนั้นยังไม่รู้
“เรื่องอะไรฮะ”
“เรื่องหนูกับตาคริสยังไงล่ะ”
“ผมว่าคุณกลับไปเถอะนะครับชานยอลคงไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ”
“แหมหนูฮีชอลเราก็รู้จักกันมานานหนูน่าจะรู้จักนิสัยน้ามาบ้างแล้วนี่จ๊ะ”
“ผมทราบดีแต่ตอนนี้ผมไม่มีธุระกับคุณน้าและผมเชื่อว่าชานยอลก็ไม่มีอะไรที่ต้องคุณกับคุณน้าเหมือนกันกับผมถึงคุณน้าอยากจะคุยกับ
ชานยอลมากแต่ไหนก็ตาม”
“ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“แต่คุณน้านี่เปลี่ยนไปมากเลยนะครับ”
“ตายจริงหนูฮีชอลพูดอะไรน้าเนี่ยนะเปลี่ยนฮ่ะๆๆ”หญิงสาววัยกลางคนหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเริ่มพูดเข้าเรื่อง
“ฉันจะไม่พูดอะไรมากหรอกนะแค่จะมาบอกว่าอีก3วันเชิญหนูชานยอลแล้วก็หนูฮีชอลไปงานหมั้นของตาคริสกับหนูแบคฮยอนด้วยนะจ๊ะ
หวังว่าคงจะเข้าใจนะว่าไปในฐานะอะไร”ท้ายประโยคคุณนายอู๋เน้นย้ำอย่างชัดเจนทำให้คนที่ได้ฟังแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวแต่ก็ต้อง
พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้เพื่อไม่แสดงความอ่อนแอให้คนตรงหน้าได้เห็นและสมเพชตัวเองได้
“คุณน้ามีเรื่องจะบอกผมแค่นี้ใช่มั้ยฮะ”ชานยอลเอ่ยถามขึ้นเมื่อคุณนายอู๋พูดจบ
“ใช่จ๊ะงั้นน้าไปก่อนนะหนูฮีชอลแล้วเจอกันวันงานหมั้นอย่าลืมพาสามีหนูมาด้วยล่ะ”คุณนายอู๋พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินหันหลังกลับไปเป็น
จังหวะเดียวกับที่ซีวอนลงมาและชานยอลก็ร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่จนคนเป็นพี่ที่พึ่งมาเห็นก็ตกใจและอดเป็นห่วงน้องชายของตัวเอง
ไม่ได้
“ที่รักน้องเล็กเป็นอะไรทำไมร้องไห้หนักขนาดนี้”
“ก็คุณนายอู๋น่ะสิมาบอกให้ไปร่วมงานหมั้นของคริสกับแบค”
“ว่าไงนะ”
“นี่จะตกใจอะไรตอนนี้หะมาดูน้องก่อนฉันจะโทรไปหานานะให้กลับมาหน่อยกะจะให้มาช่วยดูชานยอลด้วย”
“แต่นานะก็ต้องดูลูกนะ”
“โอ๊ยลูกนานะโตพอจะรู้เรื่องรู้ราวบ้างแล้วล่ะเรียกมางานหมั้นคริสด้วยเผื่อจะคิดอะไรดีๆออก”
“อย่าเลยเดี๋ยวก็วุ่นกันอีกจนได้”
“เถอะน่า”
“ยอลไม่ไปได้มั้ย”
“ไม่ได้งานนี้ยอลต้องไปแล้วแสดงความเข้มแข็งออกมาให้ทุกคนเห็นอย่าให้เค้าเย้ยเราได้พี่ไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้หรอก”
“แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ทั้งนั้น”ซีวอนที่นั่งกอดน้องอยู่มองคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรเมียของตนอย่างนึกกลุ้มเพราะเขารู้ดีว่าฮีชอลคิดที่จะทำอะไรกับน้องชาย
ของเขา
“พี่ว่ายอลควรเปลี่ยน”
“เปลี่ยนยังไงฮะเจ้”
“เปลี่ยนให้เป็นคนเข้มแข็งเปลี่ยนแปลงไงเปลี่ยนแปลง”
“ที่รักแล้วยอลจะทำได้เหรอ”
“ต้องได้สิอยากให้แบคฮยอนตามมาเยาะเย้ยรึไงล่ะ”ฮีชอลพูดเสียงแข็งเพื่อกระตุ้นน้องของสามีตัวเอง
“ยอลจะเปลี่ยนฮะ”
“ถ้าจะเปลี่ยนก่อนอื่นเลยห้ามพูดฮะเปลี่ยนเป็นครับแทนหรือไม่ก็ไม่ต้องใช้ไปเลย”
“เข้าใจแล้วครับ”
“ดีมาก”
“เฮียหิวข้าวว่ะนี่ก็สายแล้วไปหาไรกินของนอกกัน”
“อ่าไหนๆก็จะออกไปข้างนอกละพอกินข้าวเสร็จเราก็พายอลไปตัดผมให้สั้นกว่าเดิมดีมั้ย”
“เฮียว่าดีผมน้องเล็กก็เริ่มยาวแล้วไปตัดดูเผื่อจะหล่อแบบเฮียบ้าง”
“หน้าอย่างคุณเนี่ยนะหล่อ”
“ถ้าไม่หล่อคุยคงไม่แต่งงานกับผมหรอก”ซีวอนเข้าไปกอดเอวของฮีชอลก่อนที่จะทำท่าหอมแก้มอีกคนแต่โดนผลักออกซะก่อนเพราะว่าเห็น
ชานยอลนั่งมองก็อดที่จะเขินไม่ได้
“น้องก็อยู่เล่นบ้าอะไรของคุณเนี่ยหะออกไปรอที่รถได้แล้วจะไปมั้ยเนี่ย”ฮีชอลพยายามผลักให้สามีของตนเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นก่อน
ที่เดินพาชานยอลขึ้นไปบนห้องเพื่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานนักก็เดินออกมาหน้าบ้าน
“เฮียนึกว่าโดนเสื้อผ้าทับไปซะแล้ว”
“ผมตัวออกจะใหญ่จะมาทับได้ยังไง”
“ชานยอลเรียนรู้เร็วอ่าดูดิไม่มีคำว่ายอลไม่มีฮะแล้วโอ๊ยฉันปริ่ม”
“ที่รักใจเย็น”
ห้าง S
“ย๊าอย่ามายุ่งออกไปห่างๆเลย”
“คุณก็ผมก็อยากเที่ยวกับเมียผมบ้างอะไรบ้าง”
“พวกเฮียแต่งงานกันตั้งนานยังไม่เลิกเถียงกันเป็นเด็กกันอีกนะ”
“เราไม่ต้องมาว่าเฮียเลยนะ”ซีวอนพูดพรางเอื้อมมือไปยีหัวน้องชายตัวเองจนยุ่ง
“หัวยุ่งหมดแล้วเฮียอย่ามาเล่นหัวนะ”ชานยอลทำท่าอมลมใส่พี่ชายตัวเองอย่างงอนๆ
“พอเลยพี่น้องคู่นี้เล่นกันตั้งแต่ร้ายอาหารจนถึงหน้าร้านทำผมแล้วเนี่ย นี่ตกลงฉันเป็นเมียเป็นพี่สะใภ้หรือเป็นแม่กันแน่วะเนี่ย”ฮีชอลหัน
บ่นให้กับสองพี่น้องที่ตอนนี้ยังคงเถียงกันไม่เลิก หลังจากที่หันไปบ่นสักพักฮีชอลก็เดินนำอีกสองคนเข้าไปในร้านซึ่งร้านที่ฮีชอลพามานั้น
ค่อนข้างที่มีคนเข้าใช้บริการเยอะเนื่องจากพนักงานในร้านหล่อใครที่อยากจะมาทำผมต้องจองคิวไว้ก่อนหลายวันแต่สำหรับฮีชอลเรื่องนี้ไม่
มีปัญหาแน่นอนเพราะร้านนี้เป็นร้านของน้องชายฮีชอลนั่นเองอยากจะมาเมื่อไหร่ก็มาได้น้องชายสุดหล่อแทรกคิวให้ก่อนได้เสมอ
“อ้าวเจ้มาได้ไงเนี่ย”คิบอมที่เดินออกมาจากหลังร้านและพบเข้ากับพี่ชายตัวเองพาดีก็เข้ามาทัก
“เดินมามั้งถามได้”
“จะกวนไปไหนเจ้”
“ไม่ได้กวนแต่แกก็น่าจะรู้ว่าฉันมาได้ยังไง”
“โอเคผมยอมว่าแต่จะมาทำอะไรกับหัวอีกล่ะคราวที่แล้วที่พึ่งทำไปยังไม่พอใจอีกรึไงครับ”
“ไม่ใช่ฉันแต่นู่นต่างหากล่ะ”
“ชานยอลอันยองจะมาทำผมเหรอเข้ามาๆ”
“อันยองฮะพี่คิบอม”
“ย๊า!นี่แหน่ะ”ฮีชอลเอื้อมมือไปตีแขนชานยอลทำให้ชานยอลลูบแขนตัวเองเพราะเจ็บที่โดนฮีชอลตี
“พี่ไปตีน้องเขาทำไมเนี่ย”
“บอกว่ายังไงลืมแล้วเหรอชานยอล”
“ขอโทษครับผมลืม”
“ทีหลังอย่าลืมอีกล่ะ”ฮีชอลบอกก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาที่ยังคงว่างอยู่ “คิบอมจัดการเปลี่ยนทรงผมชานยอลให้ดูดีขึ้นมาหน่อยเข้าใจใช่มั้ยว่า
ดูดียังไง”
“แค่มองตาก็รู้ใจแล้วคร้าบ”คิบอมรับคำพี่ชายตนเองก่อนจะพาชานยอลไปสระผมและเมื่อสระเสร็จก็พามานั่งที่เก้าอี้สำหรับเตรียมตัดผมหลัง
จากที่เป่าผมจนแห้งแล้วคิบอมไม่รอช้าก็ลงมือตัดผมทันทีไม่นานนักทรงผมที่คิบอมตั้งใจทำให้กับคนที่กำลังนั่งอึ้งมองตัวเองอยู่ในกระจกก็
ได้ออกมาอวดโฉมให้ทุกๆคนได้เห็นและตะลึงไปพร้อมๆกัน
“สุดยอดทรงนี้แหล่ะใช่เลย”
“เจ้ๆเก็บอาการดีใจเว่อร์ของเจ้หน่อยก็ดีนะ”
“เรื่องของฉัน”
“น้องนุ่งพูดด้วยดีๆหัดพูดดีๆกับน้องบ้างเถอะ”
“น้องพี่หล่อเหมือนพี่เลยนะเนี่ย”ซีวอนเดินเข้าไปยืนข้างชานยอล
“อ้าวเฮียเฮ้ยพึ่งเห็นมาด้วยเหรอเนี่ย”
โป๊ก!
“ฉันรู้ว่าแกเห็นฉันตั้งแต่หน้าร้านแล้วเจ้าเด็กบ้า”
“เฮียไม่ใช่ผมจะมารู้ได้ไงว่าผมเห็นเฮียตั้งแต่ที่หน้าร้านน่ะฮะอูยเจ็บชิบเลย”คิบอมว่าพลางลูบหัวตัวเองตรงที่โดนซีวอนเอากำปั้นมาเขกหัว
ตัวเอง
“เออไม่เห็นก็ไม่เห็นงั้นกลับล่ะแล้วเจอกันนะน้องชาย”
“เอ้ามาใช้แรงงานผมแล้วก็จากไปแบบนี้ใครเหนื่อยผมเหนื่อยเอ้อดีจริงๆ”คิบอมบ่นพร้อมกับเก็บอุปกรณ์ต่างเข้าที่ให้เรียบร้อย
“แล้วเจอกันใหม่นะครับขอบคุณสำหรับทรงผมนี้”ชานยอลโค้งเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปหน้าร้านตามซีวอนกับฮีชอลไปที่เดินนำไปก่อน
แล้ว
เมื่อเขาทั้งสามคนได้เดินเที่ยวเดินชิมเดินเล่นกันจนเวลาล่วงเลยมาจวบจนจะเย็นแล้วก็พากันกลับที่คฤหาสน์ซึ่งถ้ากลับไปถึงจะต้อง
ตกใจกับบุคคลที่กำลังรอพวกเขาอยู่แน่ๆเพราะคนที่มารอพวกเขานั้นสามารถทำให้พวกเขายิ้มกันจนแก้มแตกเลยก็ว่าได้ใครกันนะที่เราพวก
เขาอยู่อยากรู้ก็รอติดตามนะคะ
=========================================================================
Talk Talk
คือขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้นจะเกิดอะไรถ้าชานยอลแมน5555
แล้วใครกันนะที่มารอพวกเขาอยู่พอจะเดากันได้มั้ยเอ่ย เดาไม่ยากค่ะจริงๆนะคะ 55
สุดท้ายช่วยดูคำผิดด้วยนะคะถ้าเกิดมีตรงไหนผิดก็บอกได้เลยค่า
ความคิดเห็น