ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Au Fic KHR]Rosemary in Valentine'บันทึกรักแห่งความทรงจำ

    ลำดับตอนที่ #4 : First Paper : My Valentine's ...♥ (35%)

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 55


    :) Shalunla

      

    ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน... เราก็ต้องได้พบกันอีก ฉันสัญญาว่าจะกลับมา อย่าลืมมารอละ

     

    อย่าเผลอลืมฉันไปก่อนแล้วกัน

     

    ฮะๆ คนที่ลืมน่ะ อาจเป็นเธอมากกว่านะ

     

    อะไรกัน! แล้ว...ถ้านายเป็นฝ่ายลืมละ?’

     

    บอกแล้วไงว่า...ฉันไม่มีทางลืมหรอก และ ฉันจะเตือนเธอเองนะ ไม่ต้องห่วงไป

     

    ภายในห้วงแห่งความทรงจำ ได้ผุดพรายซึ่งภาพ สัญญา และรอยยิ้มของเธอและเขาภาพอันเลือนลางที่ถูกปิดผนึกไว้ใต้ก้นบึ้งหัวใจอย่างดีมาตลอด ไม่มีใคร...สามารถไปรื้อค้นและขโมยสิ่งเหล่านี้ไปจากใจของทั้งคู่ได้ แม้แต่...เจ้าของเอง ก็มิอาจจะฟื้นคืนชีพให้กับมันได้เท่าที่ควรเลย เศษเสี้ยวเล็กๆนี้ จึงฉายซ้ำไปซ้ำมา อย่างไม่มีทีท่าว่า...อีกครึ่งหนึ่งที่สูญหายไปจะกลับมา 

     

     

     

    มันมีอะไรแย่กว่านี้อีกมั๊ย!!!!!!”

     

    น้ำเสียงหวานถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากของเด็กสาวนางหนึ่งที่ตอนนี้เจ้าตัวดูไม่สนใจสิ่งรอบข้างแม้แต่น้อย คาดว่าระดับเสียงคงมีความถี่เกิน 190 เดซิเบลเป็นแน่ หรือก็คือ เป็นน้ำเสียงที่อยู่ในระดับที่กล่าวได้ว่าเป็นอันตรายต่อโสตประสาทของบุคคลรอบข้างหรือแม้แต่ตัวต้นกำเนิดเสียงเอง...

     

    ภายหลังจากที่เด็กสาวปลดปล่อยซึ่งความอัดอั้นตันใจภายในออกมาจนหมด เจ้าตัวก็ล้มฟุ่บลงกับโต๊ะ จนหน้าผากเนียนๆของเธอกระแทกโต๊ะเสียงดังปัง!’ แต่อย่างน้อยสิ่งนี้...ก็ช่วยให้เด็กสาวตื่นจากสติที่เลื่อนลอยเสียที

     

    เป็นอะไรของเธออีกเนี่ย วิโซล่า

     

    น้ำเสียงทุ้มเบาที่ต่างจากเสียงกรีดร้องของเด็กสาวเมื่อสักครู่ ถูกเอ่ยมาจากเด็กหนุ่มเรือนผมสีเพลิงคนหนึ่งที่ตอนนี้ ตัดสินใจมานั่งอยู่ด้านหน้าของเด็กสาวผู้ที่ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในห้อง...มือของเด็กหนุ่ม ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาเขย่าตัวเพื่อนสาวเจ้าปัญหาเพื่อหวังจะสะกิดให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาบ้าง แต่ทว่า...

     

    ... ไร้ผลลัพธ์การตอบสนอง

     

    คราวนี้ มืออีกข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มก็ต้องยกขึ้นมากุบขมับ ด้วยหมดปัญญาที่จะเรียกสติของเด็กสาวตรงหน้าให้กลับมา... ให้กลับมาหาเขา...

     

    จู่ๆก็ร้องขึ้นมา แล้วก็ฟุ่บหน้าลงไปจนหน้าผากกระแทกโต๊ะ แต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา... จะอะไรนักหนาอีกนะ! -*-

     

    เด็กหนุ่มได้แต่นึกบ่นเจ้าของร่างเบื้องหน้าอยู่ในใจ เพราะถึงพูดออกไป เขาก็ไม่ต่างจากคนบ้าที่พูดอยู่คนเดียวนักหรอก เพื่อนสาวตัวดีคนนี้ ยังไงก็คงไม่เงยหน้าขึ้นมาพูดอีก จนกว่าคุณเธอจะพอใจ...

     

    วิโซล่า!!!!”

     

    เด็กนุ่มตัดสินใจเรียกชื่อเพื่อนสาวของเขาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังมาก (สำหรับเขา) แม้จะดังไม่เท่าเสียงของวิโซล่าเมื่อสักครู่ แต่เขาก็ตะโกนด้วยเสียงที่ดังที่สุดเท่าที่เขาพอทำได้(?) ซึ่งมันเป็นระดับเสียง ที่คนทั้งห้องต้องหันมามองอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเสียงมันดังมากหรอกนะ แต่ทุกคนตกใจที่คนอย่างเอ็นมะพูดเสียงดังขนาดนี้

     

    แม้ทั้งห้องจะหันมามอง แต่กระนั้น ก็ยังหลงเหลือเพียง เด็กสาวหนึ่งคนที่มีดวงตาหนึ่งคู่เท่านั้น ที่ยังไม่ไยดี ไม่คิดจะชายตามองเขาเลยสักนิด จนขณะนี้...ความอดทนของเขา...ก็ใกล้จะหมดแล้วด้วยสิ ถึงเอ็นมะจะมีความอดทนสูงอย่างไร ก็ย่อมมีขีดจำกัดที่รับได้มากที่สุดเหมือนกันนะ

     

    ก็ได้ๆ ถ้าเธอไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา...ฉันจะบอกความลับของเธอให้ทั้งโรงเรียนรู้ซะ...

     

    เอ็นมะกล่าวเสียงเรียบ มันเป็นการช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เขาจะต้องงัดไม้ตายนี้มาใช้ แต่ถ้าไม่ใช้ ยัยตัวดีจอมก่อปัญหาเบื้องหน้าเขาก็คงไม่โผล่หัวขึ้นมาแน่ แม้จะเป็นเสียงเรียบๆ แต่มันกลับมีน้ำเสียงที่ทุ้ม และช้ามากขึ้น สร้างความขนลุกให้กับอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ถ้าหากเด็กสาวยอมเงยหน้าขึ้นมา ก็แสดงว่าเธอคงไม่ได้ขนลุกกับเนื้อใจความสำคัญเท่านั้น แต่เธอยังขนลุกไปกับน้ำเสียงของเอ็นมะด้วยแน่ ...และ...ได้ผล!

     

    อย่าเด็ดขาดนะ!!! ห้ามบอก ไม่ว่ายังไงก็ห้ามบอกใครทั้งสิ้น!!”

     

    ในที่สุด...วิโซล่าก็ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักที แต่ที่แย่ก็คงเป็น...เอ็นมะ เพราะตอนนี้วิโซล่าลุกลี้ลุกลนมาก ถึงขนาดที่รีบกุลีกุจอเอามือของเธอมาปิดปากเขาเอาไว้อย่างเร็วไว จนเขาแทบจะหายใจไม่ออก ไม่ใช่แค่นั้น...เธอยังสะดุดขาเก้าอี้จนล้มทับเขาอีกต่างหาก! เจ็บน่าดูเลยนะ เอ็นมะ ^ ^

     

    ก็เข้าใจนะว่าไม่อยากให้ความลับแตกออกมา แต่ทำแบบนี้...เกินไปหน่อยไหม?

     

    อะ โอ๊ย...

     

    เสียงครวญครางดังลอดออกมาจากริมฝีปากบางของวิโซล่าอย่างแผ่วเบา ก็แหงละ!คนที่เจ็บจริงๆไม่ใช่เธอนี่นา... ใต้ร่างของเธอยังมีผู้รอดชีวิตอีก 1 ศพ(?) ที่น่าจะเจ็บหนักกว่าเธอหลายเท่านัก ไหนจะโดนน้ำหนักตัวของเธอทับ ไหนจะต้องรับแรงกระแทกจากพื้นที่แผ่นหลัง และ ไหนจะน้ำหนักของโต๊ะ ที่ยัยเพื่อนสาวทำล้มลงอีก!

     

    โอ๊ย..นี่มันวันอะไรกันแน่?”

     

    เด็กหนุ่มโอดครวญเบาๆตามประสา พร้อมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตาตัวปัญหาผู้เป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด มือข้างหนึ่งยันตัวเองให้นั่งลงกับพื้น ส่วนอีกข้างก็เลื่อนขึ้นมาสัมผัสบริเวณศีรษะของตน เพื่อตรวจสภาพ(?)ตนเอง แต่แล้ว...ก็ไม่มีส่วนไหนได้รับบาดแผลเลยสักนิด คงจะมีก็แต่รอยขีดข่วนเล็กๆที่ปรากฏบนบริเวณเรือนหน้าและมือของเขา ช่างโชคดีเสียจริง!

     

    วันนี้...วันวาเลนไทน์น่ะ

     

    เด็กสาวพูดอย่างอารมณ์ดีเพื่อเบี่ยงประเด็น และเพื่อสร้างความสนุกสนาน แต่ดูท่าว่า...อีกฝ่ายคงไม่ได้ชอบใจกับมุกของเธอเท่าไหร่นัก

     

    เอ่อ...ขอโทษนะ เอ็นมะ

     

    ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยก็ไม่มีใครบาดเจ็บ อีกอย่าง...เธอก็ยิ้มแล้วนี่

     

    เอ็นมะพูดพร้อมส่งยิ้มให้ ใช่แล้ว!เขาต้องการแค่รอยยิ้มของเธอนี่นา... แต่ประโยคของเขากลับทำให้เด็กสาวเบื้องหน้า ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อๆทันที เพราะความหวังดีที่แฝงมากับรอยยิ้มของเขา ทำเอาเธอกลับรู้สึกอายและรู้สึกผิดมากขึ้น ที่ทำให้บุคคลซึ่งเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้ ต้องเจ็บตัว เนื่องจากความซุ่มซ่ามของเธอ!

     

    อ้าว!หลังจากฟื้นสติ ก็เป็นไข้เลยหรอ?”

     

    บ้าสิ!นายน่ะ ไม่รู้เนื่องหรอกน่า!”

     

    แล้ว...ทำไม เมื่อกี้ เธอถึง...จู่ๆก็ร้องเสียงดัง แล้วก็ฟุ่บหน้าลงละ

     

    กะ ก็...ก็มัน...





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×