ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #399 : (วิจารณ์แบบแมวๆ) ลองอ่าน 10 นิยายเน็ต (ญี่ปุ่น) ที่ลงเน็ตเวลานี้กัน!?

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 59


                    สิ่งที่หลายคนจดจำในเว็บ trikx หรือเติร์ก คือเป็นเว็บแรกๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่คนเอานิยายเน็ตญี่ปุ่นเอามาแปล (บางเรื่องก็ไม่ใช่นิยายเน็ต) และเกิดคนติดตามจำนานมาก แม้นิยายเน็ตส่วนมากพล็อตจะสำเร็จรูปแต่หลายเรื่องก็สำเร็จจนได้รับการตีพิมพ์เป็นนิยายแบบรูปเล่ม, ทำเป็นมังงะ ทำเป็นอนิเมะ และทำเป็นเกม ซึ่งในบทความนี้ผมก็หยิบนิยายเน็ตที่ผมอ่าน นำมาวิจารณ์กัน

     


    ปล.-บทความนี้ไม่ได้จัดอันดับนิยายเว็บที่ผมอ่านแล้วชอบที่สุดแต่อย่างใด เพราะนิยายเน็ตที่ผมอ่านแล้วชอบมีเรื่องเดียว คือ เทพมารทีเรีย (ในแง่ความน่าติดตาม ส่วนทักษะการเขียนไม่กล่าวถึง) ส่วนนิยายเรื่องอื่นๆ ขอละไว้  

    -ปกติผมนิยายอ่านนิยายผมชอบการบรรยายแบบมีชั้นเชิง ลูกเล่น การบรรยายตัวละครน่าอร่อย (อย่างรักของนายคุราตะ) แต่นิยายเว็บส่วนมากจะแปลโดยผู้ลองแปล มักใช้ภาษาง่ายๆ บรรยายตัวละครง่ายๆ  (ไม่ค่อยน่าอร่อย) ดังนั้นตัดเรื่องการใช้ภาษาได้เลย แปลผิด แปลถูกก็ช่าง เพราะเราจะมาเน้นดูโครงเรื่อง การดำเนินเนื้อเรื่อง ความแปลกใหม่ ความน่าสนใจมากกว่า ว่าเรื่องนี้สามารถนำมาต่อยอด ทำนิยายในแบบของเราได้หรือเปล่า

    -บทความนี้จะไม่พูดถึงนิยายในบทความของบอลลิ่ง แม้อยากเขียนถึงสงครามคุโร่ก็เถอะ (แต่ถ้าอยากให้ผมเขียนนี้ ผมว่า วงแตกแน่นอน เพราะผมหนักไปทาง บ่น มากกว่า)

    สามารถอ่านได้ที่http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1223949&chapter=206

    -บางอันดับผมไม่แน่ใจว่าเป็นนิยายเว็บหรือเปล่า เอาเป็นว่าเป็นนิยายแปลโดยแฟนซับไทยละกัน

    -ขอบอกว่าผมแตกต่างจากบอลลิ่ง และผมไม่ค่อยชอบพวก เมนู เลเวล เมนูสกิล อะไรสักเท่าไหร่


     

                  10.  Isekai wa Smartphone to Tomoni

                   

                   ประเดิมนิยายเว็บเรื่องแรก Isekai wa Smartphone to Tomoni หรือ In a Different World with a Smartphone หรือแปลเป็นไทยก็ โลกต่างมิติน่ะต้องไปกับสมาร์ทโฟนสิ ผลงานของ Fuyuhara Patora และคนวาดประกอบ Usatsuka Eiji จากผลงาน ยัย 0 (แต่ภาพประกอบในเว็บ จะเป็นคนวาดที่ชื่อ ทามะ)

    นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของพระเอกคนหนึ่งชื่อ โมจิซึกิ โทยะ ตายด้วยอุบัติเหตุจากความผิดพลาดของพระเจ้า  แต่พระเจ้าเห็นว่าพระเอกใจดี พระเจ้าเลยให้พระเอกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างโลกด้วยร่างใหม่ที่พระเจ้าสร้างให้ เท่านั้นไม่พอ กลัวว่าพระเอกจะตาย พระเจ้าเลยออฟชั่นให้พระเอกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นพระเอกสามารถใช้เวทมนต์อะไรก็ได้บนโลก มีร่างกายแข็งแรงกว่าคนปกติ และให้สมาร์ทโฟนสามารถใช้งานได้ในต่างโลก (แถมแอฟสุดโกง โครตสะดวกสบายเพียบ)

                    แม้ว่านิยายเรื่อง “มาสร้างฮาเร็มที่ดันเจี้ยนโลกคู่ขนานกันเถอะ!” จะเป็นนิยายเรื่องยุคแรกของเว็บตรุกี และเป็นจุดเริ่มต้นการแปลนิยายเว็บของไทย แต่กระนั้น เรื่องนั้นยังไม่ได้มีอิทธิพลสำหรับนิยายเว็บเด็กดีสักเท่าไหร่ (เท่าที่รู้สึก) เพราะเรื่องสมาร์ทโฟนนี้แหละ เป็นนิยายที่สร้างอิทธิพลกับการแต่งนิยายต่างโลกในเว็บเด็กดี (และเว็บอื่นๆ ที่เยาวชนไทยแต่ง) อย่างแท้จริง โดย พระเอกตายเพราะพระเจ้า พระเจ้าให้พระเอกเกิดใหม่ แถมสกิลโกง และฮาเร็ม (ความจริง นิยายหลายเรื่องที่ผมเห็นเว็บเด็กดี จะเอามุกจากเรื่องนี้ เรื่องโน้นมาใส่ และใส่ความเป็นของตนเองนิดหน่อย เป็นต้นว่า เรื่องนี้ มุกพระเอกตายเพราะพระเจ้าแล้วพระเจ้าให้เกิดใหม่ก็เอามุกจากสมาร์ทโฟน)

                    ก่อนอื่น ผมก็ขอออกตัวก่อนว่า ผมอ่านนิยายเว็บหลายเรื่อง แต่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ความสุดยอดไร้รอยตะเข็บแต่อย่างใด  เราไม่ได้ดูความสุดยอดของการใช้ภาษาในการแต่ง ไม่ใช่ความน่าติดตามแบบเป็นเรื่อเงเป็นราว หากแต่นิยายเว็บส่วนมากจะเป็นนิยายที่สามารถอ่านได้เรื่อยๆ อ่านแล้วมีความสุข สิ่งที่พระเอกทำมันสามารถตอบโจทย์ความรู้สึกของคนอ่านได้  

    ส่วนหนึ่งที่ผมอ่านนิยายเว็บ เพราะพระเอกเรื่องนี้เป็นคนธรรมดา หากแต่ได้สกิลโกง (สิ่งที่หลายคนอยากได้) ได้ไปเกิดที่โลกแฟนตาซี (ก็เป็นความฝันของใครหลายคน) และสร้างวีรกรรม ความสำเร็จมากมาย ใช้ชีวิตสุขสบาย ให้อารมณ์ว่า “คนธรรมดาสามารถเปลี่ยนโลกได้”

    คุณลองคิดสิว่า พระเอกเป็นคนธรรมดา (ซึ่งเปรียบเสมือนตัวผู้อ่าน) ได้กลายเป็นคนสำคัญของประเทศ มีส่วนร่วมแก้ปัญหาระดับประเทศ ได้ฮาเร็ม มีเงินมีทอง มีอำนาจ แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีคุณธรรม ใช้ความดีช่วยเหลือผู้คน เป็นฮีโร่ คนอื่นให้ความสำคัญ สิ่งเหล่านี้คือความใฝ่ฝันล้วนเป็นความฝันของเรา ที่ยากจะทำได้ในชีวิตจริง

    Isekai wa Smartphone to Tomoni ก็เป็นนิยายประเภทดังกล่าว ที่พระเอกธรรมดา ที่มีนิสัยชิวๆ มาก (คือเป็น ประเภทไหลไปตามเรื่องเรื่องราว ง่ายๆ สบายๆ) ได้เสียชีวิตเพราะความผิดพลาดของพระเจ้า แต่เจ้าตัวก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีดราม่าอะไร จากนั้นพระเจ้าก็ส่งไปเกิดใหม่ แถมให้ความสามารถสุดโกง ชนิดว่าพระเจ้าคนนี้ใจดีโครตๆ จากนั้นพระเอกก็ไปโลกแฟนตาซี ไปเจอคนดีๆ ให้เงิน ไปเจอสาวๆ ในปาร์ตี้ ทำภารกิจสู้กับสัตว์ป่าอย่างง่ายดาย จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้เวทมนต์ เรียนรู้ความสามารถโกงๆ จากนั้นก็ไปช่วยลูกสาวขุนนาง จนได้รู้จักพระราชา ทำความดีความชอบ ได้เจ้าหญิงเป็นคู่หมั่น จากนั้นพวกสาวๆ ในปาร์ตี้ก็เปิดเผยว่าทุกคนชอบพระเอก เช่นกัน และทั้งหมดก็มาอยู่ในคฤหาสน์แสนสุข ทำภารกิจทำเควสนิดๆ หน่อยๆ พร้อมกับทำความดีความชอบด้วย และในที่สุดก็ได้เป็นราชา!?

    คือชีวิตพระเอกนี้เพียบพร้อมไปทุกเรื่อง ไม่มีดราม่า ไม่มีอุปสวรรค์ ดำเนินเรื่องสะดวกสบาย ไม่ต้องมีเป้าหมาย (เช่น ปราบจอมมาร หาทางกลับโลก) แต่อย่างใด จะทำอะไรก็เป็นเรื่องง่ายหมด แม้แต่การปักธงแค่อยู่ด้วยกันสักพักสาวๆ ก็ชอบแล้ว ไม่ต้องมีอีเวนส์ปักธง

    ดังนั้นนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่อ่านเรื่อยๆ มากกว่า ที่จะหาความงดงามของคำว่า “ฮาเร็ม” เพราะปกติแล้วการที่เราจะดูฮาเร็มดีๆ สักเรื่องไม่ใช่ว่าพระเอกจะปักธงสาวๆ ได้ง่า มันอยู่ที่ความยากในการปักธง การแสดงผลของการปักธง หากเราอ่านนิยาย “รักของนายคุราตะ” เราจะเห็นว่ากว่าพระเอกจะปักธงสาวแต่ละคนนั้นมันยากเย็นเพียงใด พวกสาวๆ มีดราม่า มีประวัติดำมืดขนาดไหน พระเอกต้องทำยังไง บางคนนี้กว่าจะปักธงก็ปาเป็นเล่มกว่าจะได้

    เมื่อสิ่งที่ได้ยากก็ย่อมให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับตัวละครนั้นด้วย

    Isekai wa Smartphone to Tomoni และนิยายเว็บหลายเรื่องอีกหลายเรื่อง ยังคงขาดพลังฮาเร็มดังกล่าว (ไม่ทราบว่าในรูปเล่มจะปรับเนื้อหาอะไรมากน้อยเพียงใด) แม้จะเรียกว่าแนวฮาเร็ม แต่เนื้อหากลับไม่ได้เน้นรูทความรักของสาวๆ มากนักเพราะเนื้อหามันอยู่ที่การดำเนินเรื่องมาเป็นตัวขับเคลื่อน

    ดังนั้น Isekai wa Smartphone to Tomoni  ไม่ได้เป็นนิยายที่เราต้องการคำนิยาม “ความงดงามของฮาเร็ม” หากแต่เป็นนิยายที่สนองเนิร์ดตัวพ่อได้ระดับหนึ่ง ที่เป็นแนวพระเอกธรรมดาที่กำลังยิ่งใหญ่เสียมากกว่าในต่างโลก ซึ่งถือว่าเป็นสูตรสำเร็จในแนวต่างโลกหลายเรื่องในเวลานี้ และหลายคนก็ชอบพล็อตแนวๆ นี้ด้วย



    9. Ubau Mono Ubawareru Mono

    จาก Isekai wa Smartphone to Tomoni ที่พระเอกเก่งเวอร์ๆ สกิลโกง ทำอะไรก็ง่ายไปหมด มาคราวนี้มาดูเรื่องตรงกันข้ามบ้าง กับนิยายเว็บเรื่อง Ubau Mono Ubawareru Mono หรือชื่อไทยว่าแย่ง หรือถูกแย่งชิง เป็นนิยายเว็บของ Mino วาดภาพประกอบโดย  Hazano Kazutake

    Ubau Mono Ubawareru Mono เป็นเรื่องราวของ ซาโต้ ยู เต็กหนุ่มอายุ 12 ปี ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะตั้งแต่เกิดมาชีวิตของเขามีแต่ถูกแย่งชิงสิ่งต่างๆไป โดยเฉพาะ ชีวิตเขาถูกแย่งชิงไปโดนพ่อบุญธรรมของเขาที่เป็นหนี้ วันหนึ่ง พ่อบุญธรรมได้ทำร้ายเขาจนสลบ และเมื่อรู้สึกตัวเขาก็อยู่ต่างโลก

    อย่างไรก็ตาม แม้อยู่ต่างโลกเขาก็ถูกคนรอบข้างทำร้าย และปฏิบัติอย่างเย็นชา อันเนื่องจากเขามีดวงตาดำ และผมดำ ซึ่งแตกต่างจากคนที่นั้น หากแต่ชีวิตของเขาอยู่ได้เพราะคุณป้า (เทพธิดาปลอมตัวมา) ที่เลี้ยงดูจนเติบใหญ่มาได้

    นอกจากนี้ยูยังเป็นนักผจญภัย แต่เป็นระดับชั้นต่ำ แถมถูกทำรัดเอาเปรียบโดยนักผจญภัยอื่นๆ ในหมู่บ้านที่เขาอยู่ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาก็พบว่า เขามีความสามารถพิเศษนั่นก็คือสกิลขโมย ที่สามารถขโมยสกิลของใครก็ได้ (สกิลของมอนสเตอร์ก็ขโมยได้) และพลังนี้ทำให้เขากลายเป็นคนพิเศษขึ้นมา

    ครับ..... หลังจากมุกพระเอกธรรมดาสบายๆ ได้พลังโกง ดำเนินเรื่องไปเรื่อย กลายเป็นมุกสูตรสำเร็จ เกลื่อนไปหลายเรื่อง ก็ไม่แปลกที่จะมีบางคนคิดได้ว่า ทำไมไม่สร้างพระเอกที่มีประวัติชีวิตสุดเลวร้าย ดิ้นรนเสียบ้างละ ผลก็คือมันก็เกิดนิยายเว็บเรื่องนี้ขึ้นมา

    ใช่แล้วครับ หากพระเอกเรื่องสมาร์ทโฟนทำอะไรง่ายไปหมด ตรงกันข้ามจากพระเอกแย่งชิงที่เน้นเรื่องเก่งแบบค่อยๆ เก่ง ลำบากในตอนแรก (แต่มาสบายทีหลัง) ทำให้เราได้เสพด้วยอารมณ์แตกต่างออกไป ทำให้เกิดความรู้สึกเอาใจช่วยให้พระเอกที่มีแต่ความทุกข์นี้ ให้สุกสบายบ้างไม่มากก็ไม่น้อย

    อย่างไรก็ตาม การดำเนินเรื่องก็ยังคงตามสูตรของนิยายแฟนตาซีฉบับนิยายเว็บ ที่พระเอกผจญภัยกับเพื่อนพ้อง (พ่วงด้วยคำว่าฮาเร็ม) ลุยดันเจี้ยน อันเป็นมุกหากินที่พบเห็นเวลานี้ เพียงแต่ตัวละครไม่ได้เก่งเวอร์ และไม่ได้เน้นเกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศ เพราะเนื้อหาเน้นกับการเป็นนักผจญภัยลุยดันเจี้ยนมากว่า คือพระเอกจับกลุ่มปาร์ตี้ หาของในดันเจี้ยน (เก็บเลเวล) และพบเหตุการณ์ต่างๆ นาๆ

    ถ้าหากเทียบกับสมาร์โฟน พระเอกแย่งชิงนั้นค่อนข้างมีเหตุมีผลมากกว่า ในความเป็นมนุษย์ ที่มีด้านดี และไม่ดีอยู่บ้าง (แต่ด้านดีมากกว่า) แม้จะไม่ได้ดีเลิศ แต่เขาก็เป็นประเภท “ใครดีก็ดีตอบ” หากใครทำดีกับพระเอก เขาก็จริงใจช่วยเหลือเต็มที่  แต่ใครมาร้ายนี้เอาคืนเป็นร้อยเท่า เช่นกัน

                    แต่ที่น่ากลัว ที่หลายคนไม่ได้สังเกต หรือความรู้สึกนั้น คือ “การฆ่าคนครั้งแรก” ที่ผมสังเกตว่านิยายแฟนตาซีหลายเรื่องมักบรรยายความรู้สึกพระเอกฆ่าคนครั้งแรกว่า “ไม่ได้รู้สึกอะไร กับรู้สึกโล่งใจด้วยซ้ำ” สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งน่ากลัว แม้ว่าคนที่พระเอกฆ่าจะเป็นคนชั่วก็ตาม เพราะมันหมายถึงพระเอกได้เสพการฆ่าคน ไม่เกรงกลัวต่อบาป กฎหมายในโลกแฟนตาซีไม่สามารถเอาผิดได้

                    ผมเชื่อว่าลึกๆ แล้ว คนที่ใฝ่ฝันจะไปโลกแฟนตาซีนั้น ก็มีเหตุผลคือ “อยากฆ่าคน” อยากเป็นอิสระเหนือกฎหมาย มีชีวิตที่น่าตื่นเต้นที่หนีจากโลกความจริง และหนีการตีกรอบของสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้นิยายเว็บเป็นนิยายที่ตอบสนองใครหลายคนที่มีความคิด ความรู้สึกแบบนี้ได้

                    สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบเรื่องนี้มากนัก ก็คงจะเป็นการเอาตารางสถานะ บอกสกิล โผล่มา (อีกแล้ว)

    หากถามผมว่า ทำไมผมถึงไม่ชอบตารางแสดงสถานะ (เป็นตารางบอกว่า ตัวละครเลเวลเท่าไหร่ สวมเครื่องแต่งกายอะไรบ้าง มีสกิลอะไร และมีท่าไม้ตายอะไรบ้าง) คำตอบของผมคือมันเป็นส่วนเกิน ไม่จำเป็นที่สุดในนิยายครับ  เพราะนี่คือนิยาย ไม่ใช่เกม RPG  มันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องจดจำครับ เพราะถึงยังไงตัวละครก็ต้องอธิบายว่าตนเองขึ้นเลเวล สวมชุดป้องกันอะไรบ้าง และพูดชื่อท่าไมตายตอนต่อสู้อยู่ดี การใส่ตารางสกิลมันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แถมถ้าทุกตอนอัฟตารางสกิลทุกครั้ง ผมจะเป็นเรื่องน่ารำคาญ มากกว่า  นิยายเว็บดังๆ อย่าง ยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่อง หรือโอเวอร์โหลดเองก็ไม่ได้มีการใส่ตารางบอกสถานะให้รำคาญใจเลยแม้แต่น้อย (หากอยากจะใส่ตารางสถานะ ก็ควรใส่กลางบท หรือ ภาพเปิดเรื่องเลย อย่าง โอเวอร์ลอร์ด)

    ดังนั้นตารางแสดงสถานะเป็นสิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบเลย เมื่อผมอ่านนิยายเว็บสักเรื่องหนึ่ง เชื่อผมเถอะต่อให้อ่านข้าม คุณก็ไม่เสียอรรถรสในการอ่านนิยายด้วยซ้ำ

    สรุปคือ เรื่องพระเอกแย่งชิง หากตัดเรื่องดราม่าชีวิตตัวเอกออก ส่วนที่เหลือก็ไม่แตกต่างจากแนวลงดันเจี้ยนทั่วไปมากนัก ก็ยังคงสูตรเดิมๆ เพิ่มเข้ามาคือมีเลือดสาดบ้าง และสิ่งที่น่าสนใจคือพวกสาวๆ ในเรื่องค่อนข้างปักธงใช้ได้พอสมควร ไม่ใช่ปักธงแบบหลวมๆ ซึ่งพระเอกเรื่องนี้มองผู้หญิงเป็นคนในครอบครัว เป็นเพื่อนที่ยอมตายแทนกันได้ มากกว่าความรู้สึกทางเพศ เหมือนพระเอกนิยายเว็บฮาเร็มเรื่องอื่นๆ

    ถือว่าเป็นนิยายเว็บที่ดีเรื่องหนึ่งครับ แม้จะมีบางช่วงน่าเบื่อบ้างก็เถอะ


                   

    8. Gun-ota ga Mahou Sekai ni Tensei Shitara, Gendai Heiki de Guntai Harem wo Tsukucchaimashita!?

    ก็ยังคงเป็นแนวนิยายเว็บฮาเร็ม เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมชอบน้อยที่สุดใน 10 อันดับนิยายที่ผมแนะนำมา (แม้หลายคนจะอวยก็เถอะ) นั่นก็คือ Gun-ota ga Mahou Sekai ni Tensei Shitara, Gendai Heiki de Guntai Harem wo Tsukucchaimashita!? (เมื่อเจ้าเนิร์ด (โอตาคุ) ปืนจุติลงมาเกิดยังโลกเวทมนตร์ เขาจึงจัดตั้งกองทัพฮาเร็มด้วยอาวุธที่ทันสมัย ​​!?) เรียกสั้นๆ ว่า คุปืน (โอตาคุปืน)

    คุปืน เป็นเรื่องราวของโฮตตะ ยูวตะ อายุ 27 ปี ที่เป็นนีท (ในเรื่องระบุว่าเป็นฮิคิโคโมริ แต่ฉิคิโคโมริเขาไม่ออกจากห้องเพื่อไปทำงานหรอก ส่วนนีททำงานเพียงเพื่อตนเองอยู่รอดเท่านั้น) สาเหตุที่เขาเป็นนีทอันเนื่องจากความผิดบาปที่เขาปล่อยให้เพื่อนรักทานากะ โควจิโดนกลั่นแกล้งจนตาย (และพระเอกเองก็มีประสบการณ์โดนกลั่นแกล้ง)

    จนกระทั่งวันหนึ่งเขาถูกคนร้ายถือมืดแทงซ้ำไปซ้ำมาจนตายอย่างโหดร้าย หากแต่เขารู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองนั้นอยู่ในโลกแฟนตาซี และเขากลายเป็นเด็กทารก ที่สำคัญมันไม่ใช่โลกที่เขาอยู่ แต่เป็นโลกแฟนตาซีที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ มนุษย์ ปีศาจ สาวหูสัตว์ เอลฟ์ และมอนสเตอร์

                    เพื่อให้อยู่รอดในโลกที่โหดร้าย พระเอกนั้นเป็นเด็กกำพร้าถูกนำมาทิ้งที่บ้านเด็กกำพร้า แถมไม่มีพรสวรรค์เป็นจอมเวทย์ นั่นเองพระเอกจึงความรู้โลกเดิมมาดัดแปลงให้เป็นประโยชน์ ด้วยการสร้างอาวุธที่เรียกว่า “ปืน” ซึ่งเขาได้ทดลองอะไรหลายอย่าง จนสามารถกลายเป็นปืนได้สำเร็จ และเมื่อเขาอายุที่พร้อมจะเดินทางไปโลกกว้าง เขาก็ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อเป็นนักผจญภัย และนี่คือจุดเริ่มต้นของตำนาน

                    นิยายเว็บคุปืนนั้น ก็ยังคงเป็นนิยายเว็บทั่วๆ ไป ที่เป็นเรื่องของพระเอกมาเกิดใหม่ นำความรู้จากโลกเดิมมาใช้ประโยชน์ในต่างโลก ซึ่งเจ้าความรู้จากโลกเดิมที่ว่าส่วนใหญ่เราจะเห็นแค่พระเอกทำอาหารญี่ปุ่น ทำของหวาน (ซึ่งผมก็ยังสงสัยว่าพวกแฟนตาซียุโรปกลางเขารับได้กับปลาดิบ อาหารญี่ปุ่นหลายๆ อย่างเหรอ) และคุปืนก็คือการนำอาวุธปืนมาใช้ต่างโลก

    ถ้าถามว่า คุปืน สนุกไหม ผมก็ตอบได้แค่ว่าก็ระดับหนึ่ง อย่างน้อยนิยายก็มีเนื้อมีหนัง   เป็นเรื่องเป็นราว อย่างน้อยก็มีเนื้อเรื่อง มีอุปสรรค์ มีปัญหา มีวิกฤตให้แก้ไข ตัวนิยายก็ใส่ปริศนาลงไปด้วย เป็นต้นว่า ศัตรูปริศนา เรื่องราวชีวิตของพระเอกที่มีการสะดุดเล็กน้อย (ตอนเด็กเป็นทาส)

                    อย่างไรก็ตาม ในบรรดานิยายเว็บที่ผมอ่านมา คุปืน ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมเฉยมาก ส่วนหนึ่งคือมันอารมณ์ไม่สุด แลมีอะไรหลายอย่างที่คาใจ (และผมก็ไม่อ่าน เม้น พูดคุยในหน้าเว็บที่ผมไปติดตามดูด้วย) เป็นต้นว่า

                    เริ่มจาก พระเอกนั้นสร้างปืนง่ายดายขนาดนี้เชียวเหรอ โอเค ปืนอัดลม, ปืนจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ, ปืนไทยประดิษฐ์นั้นมันสร้างพอดี ขอให้รู้วิธีทำ มีวัตถุดิบครบ แต่ปัญหาคือปืนที่พระเอกสร้างนั้นมันเป็นปืนที่มีความซับซ้อนสูง พวกไรเฟิล ปืนกล ผมเคยเห็นสารคดีการทำปืนเหล่านี้ เขาใช้ช่างมากมาย บางส่วนก็เป็นความลับ การสร้างแต่ละครั้งมีการวัดองศา พระเอกนั้นสามารถสร้างปืนเหล่านี้ได้ เพียงแค่จินตนาการ และมันต้องใช้ความจำที่ดีมากๆ แม้พระเอกจะเป็นโอตาคุก็เถอะ แต่มันก็ต้องมีพลาด มีลืม  ถ้าเพียงแค่มีวัตถุดิบ ความจำเรื่องปืน (ซึ่งต้องจำ การออกแบบปืน, การสร้างปืน) สร้างปืนง่ายแบบนี้ ผมว่าโลกคงวุ่นวายน่าดู (ผมว่า พระเอกไม่น่าเป็นนีทเลย ไปทำบริษัทเถอะ)

    โอเค สมมุติพระเอกความจำดีเลิศ ใช้เวทย์สร้างวัตถุดิบเป็นส่วนประกอบต่างๆ ของปืน เอามาประกอบได้ปืนหนึ่งกระบอกสำเร็จ (งั้นทำไม พระเอกไม่ทำเป็นจำนวนมากๆ เลยฟ่ะ) ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าพระเอกมันเก่งขนาดนี้เชียวเหรอ หลายฉาก พระเอกยิงปืนได้ดีเกือบทุกชนิด มีทักษะการใช้มีดด้วย มีทักษะเข้าแดนศัตรูเพื่อก่อการร้าย ช่วยเหลือตัวประกัน ฯลฯ  สิ่งเหล่านี้จะต้องฝึกฝนอย่างหนัก ขนาดทหารจริงๆ อย่างหน่วยซีลต้องฝึกชนิดปานตายกว่าจะทำได้ แต่ในนิยาย ผมเห็นพระเอกฝึกยิงปืนบ้าง แต่เรื่องการใช้มีดจริงๆ นี้ ก็ตั้งคำถามอีกว่า พระเอกมันเรียนรู้ได้ยังไงหว่า ไปเรียนรู้ตอนที่เคยเป็นทาสเป็นคนรับใช้ ผมก็ยังสงสัยอยู่ดี ถ้าจำจากในหนังสือสมัยเป็นนีท พระเอกก็ไม่น่าอ่อนแอจนโดนเขาแกล้ง โดนคนบ้าแทงตายจนไปเกิดใหม่เลย

    เอาเถอะความสงสัยนี้ผมโยนทิ้งไปก็ได้ เอาเป็นว่าพระเอกเก่งละกัน

    ทางด้านเส้นทางการดำเนินเรื่องนั้น ผมว่าน่าสนใจตรงๆ ที่เนื้อหาเป็นเรื่องราวชีวิตของคนหนึ่งๆ ตั้งแต่เด็กจนถึงวัยรุ่น  ที่พัฒนาตัวของลูทที่ไม่อยากเป็นนีท และไม่ต้องการเป็นภาระใคร อยากให้ตนเองสามารถตั้งตัวได้ ทำให้เขาพยายามที่จะเดินทางชีวิตและเลือกเป็นนักผจญภัย ช่วยเหลือทุกคน (เพื่อขจัดปมไม่สามารถช่วยคนในโลกเดิมได้) ซึ่งส่วนนี้นิยายเว็บหลายเรื่องค่อนข้างละเลยเรื่องเหล่านี้ และส่วนมากผจญภัยตกผู้หญิงไปเรื่อยๆ มากกว่า

    ไม่รู้เพราะการแปลหรือเปล่า เพราะแม้ว่านิยายจะใส่มุกตลก และความโรแมนติกลงไป แต่ผมรู้สึกเฉยๆ ก็ไม่รู้ (บางทีนิยายเว็บต้นฉบับนั้นมุกตลกมาก แต่เมื่อมีการแปลที่ อาจไม่เต็มร้อย หรือการใช้คำ ทำให้ ไม่สามารถดึงอรรถรสจากต้นฉบับได้เต็มที่ก็ได้)

    ส่วนด้านฮาเร็มการปักธงก็ไม่ดีมากนัก แม้เหตุผลการปักธงฮาเร็มก็รับได้อยู่  เป็นต้นว่า หูหมาเพื่อนสมัยเด็กมาจากความใกล้ชิดที่อยู่ด้วยกันและสัญญา คุณหนูแวมไพร์ที่ต่างรักพระเอก เพราะอยู่ใกล้ชิดกัน แต่ปัญหาคือรูทที่เกี่ยวกับผูกพันกันนั้นต้องเน้นเซอร์วิส เน้นตัวผู้หญิงมากกว่านี้อีกนิดจะดีมากกว่านั้น เพราะตัวนิยายไม่ค่อยมีฉากปักธงงามๆ สักเท่าไหร่  ส่วนใหญ่เป็นแบบพระเอกช่วยเหลือพวกผู้หญิง จบภารกิจ สาวมาขอแต่งงานด้วย มันขาดกระแทกแรงๆ ไปนิด

    อนึ่ง สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบนิยายเรื่องนี้คือ การที่พระเอกมีเพศสัมพันธ์กับบรรดาฮาเร็ม แม้จะไม่ได้มีการบรรยายฉากร่วมเพศ แต่ความรู้สึกของผมมันเหมือนไม่มีค่ายังไงชอบกล ถ้าพระเอกแค่หมั้นไปก่อนก็ว่าไปอย่าง มันได้ลุ้น ได้เห็นอะไรสนุกอยู่บ้าง  อีกทั้งพระเอกกับบรรดาภรรยาก็อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ (ตัดเรื่องเจ้าหญิงเอลฟ์ออก เพราะอายุเลยวัยคุณยายไปแล้ว) การทำกันก็ไม่เหมาะ ก็จริงอยู่ที่โลกนี้แต่งงานตอนอายุ 14 ได้ ทำตามประเพณีก็ตาม  แต่มันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดี สำหรับคนที่อ่านนิยายเรื่องนี้ (อย่างน้อยก็ผมแหละ) จนมองไปว่าการที่พระเอกมีเพศสัมพันธ์กับบรรดาฮาเร็มเป็นการสนองเนิร์ดของคนแต่งมากกว่า ที่จะฟิน

    สงสัยผมคงเป็นคนเดียว

    สรุปว่าแม้นิยายเรื่องนี้จะมีเรื่องมีราว ฮาเร็มก็ปักธงแบบมีเหตุผลอยู่บ้าง (แต่กรณีเจ้าหญิงเอลฟ์ยังอ่อนอยู่นะ) แต่ปัญหาคือมันสนุกหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวเนื้อเรื่องมันเดาทางง่ายไป และตัวพระเอกไม่ได้ตลกเลย (ถ้านิยายเว็บ พระเอกต้องตัวตบมุก แต่เจ้ารูทนี้ผมเห็นไม่ค่อยปล่อยมุกเลย) ทำให้ขาดรสชาติไปพอสมควร


    7.  10 nen goshi no HikiNiito o Yamete Gaishutsushitara Jitaku goto Isekai ni Ten’ishiteta

                   

                 ปัจจุบันนิยายเว็บถูกนำมาทำเป็นนิยายรูปเล่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่เนื้อหานิยายเว็บที่เป็นรูปเล่มส่วนใหญ่จะไม่เหมือนต้นฉบับในเว็บ แน่นอนว่ามันมีเหตุผล  เป็นต้นว่า สำนวนนิยายเว็บยังต้องปรับปรุงอีกมาก รวมไปถึงการเปลี่ยนเนื้อเรื่องเพื่อไม่ให้เหมือนนิยายเว็บ  เพื่อทำให้สมเหตุสมผล เพื่อเจาะกลุ่มคนอ่าน และทำให้คนอ่านนิยายเว็บไปแล้วมีความรู้สึกใหม่ๆ ขึ้นหากต้องมาอ่านซ้ำ (ไม่ทราบว่านิยายเว็บไทย เวลาเอาไปตีพิมพ์สำนักพิมพ์นี้มีการเกลาสำนวน หรือเปลี่ยนเนื้อเรื่องบ้างหรือเปล่าก็ไม่ทราบ) และหนึ่งในนิยายเหล่านั้น มีเรื่องที่ไทยแปล นั่นคือ 10 nen goshi no HikiNiito o Yamete Gaishutsushitara Jitaku goto Isekai ni Ten’ishiteta

    นิยายที่ชื่อแสนยาวเยียดนี้ไม่รู้จะเรียกย่อยังไง ชื่อไทยก็ประมาณว่า “พอออกจากบ้านหลังเลิกหมกตัวเป็นฮักกี้นีท 10 ปี ผมก็ถูกส่งมาต่างโลกซะงั้น”  แต่เว็บที่แปลไทยเขาเรียกว่า “นีทไฟฉาย”, “โคทาโร่นางเอก” ประมาณนี้แหละ เอาเป็นว่า นีท 10 ปีละกัน  เป็นผลงานของผู้แต่งบันโด ทาโร่ ส่วนภาพอะกาโอะ

    นีท 10 ปีเป็นเรื่องราวของโฮโจ ยูจิ เป็นฮิกกี้นีทมา 10 ปี โดยไม่เคยออกจากบ้านเลยสักครั้ง แต่เมื่อพ่อแม่ของเขาตายเพราะอุบัติเหตุทางถนน ทำให้เขาจำเป็นต้องออกจากบ้าน และเมื่อออกจากบ้านก็พบว่าข้างนอกเป็นป่า ในต่างโลกซะแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ชีวิตต่างโลกของยูจินั้นก็ไม่ได้ลำบากมากนัก เพราะเขามีบ้าน อยู่กับ “โคทาโร่” สุนัขแสนซื่อสัตย์ แถมบ้านของเขามีทั้งไฟฟ้า, น้ำ, ก๊าซหุงต้ม และอินเทอร์เน็ต ที่ใช้งานได้ไม่มีวันหมด!? ทำให้โคทาโร่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไประยะเวลาหนึ่ง

    จนกระทั่งวันหนึ่งระหว่างที่ยูจิและโคทาโร่ไปหาของกินได้ในป่าอยู่นั้น เขาก็พบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งสลบ ยูจิได้ช่วยเหลือเธอ และกลายเป็นผู้ปกครองชั่วคราว

                    นีท 10 ปี ค่อนข้างดำเนินเรื่องแปลกกว่านิยายเว็บอื่นๆ ปกตินิยายเว็บพวกนีทเวลาหลงไปต่างโลก มักออกเดินทาง มีสกิลโกงๆ มีฮาเร็ม เป็นจุดศูนย์กลางเปลี่ยนโลกใช่หรือเปล่า หากแต่เรื่องนีท 10 ปีนั้นตรงกันข้าม คือในเมื่อนีทไปต่างโลกพร้อมกับบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องออกผจญภัยแต่อย่างใด ขอให้แค่หาอาหารได้ แล้วอยู่ไปวันๆ มันก็สุขสบายอุราแล้ว ซึ่งเป็นแบบนี้เกือบทั้งเรื่อง (แม้จะมีเรื่องผู้บุกรุกก็อปลินโผล่มาบุกรุกบ้านก็เถอะ)

                    นอกจากนี้การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างแปลก เพราะเนื้อหานิยายเว็บที่อ่านมา ปรากฏว่ามีเรื่องของการตั้งกระทู้ เอาง่ายๆ เหมือนนิยาย “หนุ่มรถไฟ”  (Densha Otoko) ที่หนุ่มคนหนึ่งโพสกระทู้ในเวปบอร์ดสังคมของญี่ปุ่น (2ch) เพื่อให้คนอื่นออกความคิดเห็นว่าจะทำยังไงให้เขาจิ๊บผู้หญิง ซึ่งก็มีคนมากมายออกมาแสดงความคิดเห็น ให้ปรึกษา ให้กำลังใจ ซึ่งตัวนิยายนั้นจะไม่ได้เป็นแบบที่เราอ่านๆ กัน เพราะเป็นรูปแบบกระทู้เขียนตอบกันของห้องในบอร์ด 2ch นั้นเอง

                    เรื่องนีท 10 ปีก็เช่นกัน ซึ่งเนื้อหานิยาย มีช่วงโพสกระทู้ในบอร์ด (บอร์ดนีท) ให้โต้ตอบกันเหมืนอ “หนุ่มรถไฟ” เพียงแต่หัวข้อกระทู้จะเป็นช่วงพระเอกถามว่าพวกนีทว่า “จะใช้ชีวิตแฟนตาซีต้องทำยังไง” แถมมีการอัฟรูปในโลกแฟนตาซีให้ได้ชมกันด้วย ถือว่าแปลกใหม่มากสำหรับนิยายเว็บ

                    แน่นอนว่านิยายเรื่องนี้มีการ ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มเหมือนกัน แม้ว่าจะไปได้อ่านเนื้อหาข้างใน แต่ถ้าดูจากหน้าปกก็น่าตกใจเหมือนกัน เพราะในนิยายระบุว่าตัวเอกมีเป็นนีทอายุ 30 ปี แต่ในนิยายเล่มดูแล้วพระเอกจะเป็นเด็กมัธยมปลายมากกว่า และยังมีตัวละครยังมีตัวละครที่ไม่ปรากฏตัวในนิยายมาอาศัยอยู่กับพระเอกด้วย (ไม่รู้เป็นน้องสาว หรือเพื่อนสมัยเด็ก) ส่วนนิยายน้องสาวพระเอกแต่งงานกับฝรั่ง (เสียสถาบันน้องสาวหมด) แต่นิยายเล่มดูเหมือนจะเป็นพี่สาว (?) แทน  ถือว่าเป็นการปรับที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับคนที่อ่านนิยายเว็บแล้วกลับไปอ่านอีกรอบ และเป็นการปรับให้เข้าถึงคนอ่านทั่วไปด้วย (ส่วนตัวผมก็อยากอ่านนิยายเล่มนี้นะ) แต่ไม่รู้ว่าตัดส่วนบอร์ดนีทไปหรือเปล่า

                    สำหรับเนื้อหา ออกไปทางอ่านได้เรื่อยๆ แม้พระเอกอยู่กับบ้าน แต่ก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามาในชีวิตพระเอกเหมือนกัน และมันก็มีช่วงน่าหงุดหงิดเรื่องนี้บ้าง เป็นต้นว่า พระเอกหายไปสักคน ทำไมไม่เป็นข่าวใหญ่ สังคมญี่ปุ่นมันแล้งน้ำใจขนาดนี้เชียวเหรอเวลาคนหายไปสักคน

                    แม้ เนื้อหาจะเรื่อยๆ  แต่ถึงอย่างนั้น กลับเป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างชอบซะงั้น อาจเป็นเพราะการดำเนินเรื่องค่อนข้างแตกต่างจากนิยายเว็บเรื่องอื่นๆ และการนำเสนอเรื่องของนีทได้อย่างได้อย่างเข้าท่าด้วย


    6. Kizoku no Obotchan Dakedo, Sekaiheiwa no Tameni Yuusha no Hiroin o Ubaimasu

    หนึ่งในพล็อตแนวเกิดใหม่ในต่างโลกในปัจจุบัน นอกจากเกิดเป็นคนต่างโลก, เกิดเป็นมอนสเตอร์แล้ว มุกที่พบเห็นบ่อยที่สุดปัจจุบัน ก็คือตัวเอกเกิดเป็นตัวละครในเกมที่ตนเองเล่น และตัวละครดังกล่าวเป็นตัวโกง แต่ตัวพระเอกนั้นจะต้องทำตัวดี เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม ตัวโกงดังกล่าวมีจุดจบอันน่าอนาถ

    พล็อตดังกล่าวส่วนมากจะเป็นนิยายสำหรับเด็กผู้หญิงอ่านมากกว่า คือตัวเอกเป็นผู้หญิงเกิดเป็นตัวร้ายในเกม และทำความดี ซึ่งปัจจุบันหากสังเกตดีๆ ในเว็บเอานิยายเว็บแปลเป็นไทย ก็มีนิยายพล็อตแบบนี้หลายเรื่องเหมือนกัน

    อย่างไรก็ตาม อันดับดังกล่าวจะเป็นตัวเอกที่เป็นผู้ชาย โดยมีชื่ออันแสนยาวเหยียดว่า Kizoku no Obotchan Dakedo, Sekaiheiwa no Tameni Yuusha no Hiroin o Ubaimasu แปลเป็นไทยก็ “ผมแค่เป็นเจ้านายของตระกูลขุนนาง (ชั่ว) แต่ผมจะต้องขโมยเหล่านางเอกของผู้กล้าเพื่อสันติภาพของโลกใบนี้” แต่ถ้าเรียกสั้นๆ ก็ “แย่งเมียผู้กล้า

    แย่งเมียผู้กล้านั้น เป็นเรื่องของชายคนหนึ่ง ที่กำลังเล่นเกมสายมืดเกมหนึ่ง โดยเราต้องรับบทเป็นผู้กล้า เก็บสาวๆ ถึง 6 คนเข้าฮาเร็ม และปราบขุนนางชั่วตัวอ้วนชื่อ “ริโทเน่” โดยเจ้าขุนนางจับสาวคนหนึ่งชื่อ “ริน” มาเป็นทาสของมัน ระหว่างที่ผู้กล้าไปช่วยเหลือริน ขุนนางได้ขอให้ผู้กล้าดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ออกเพื่อแลกกับริน

                    หากแต่ เมื่อผุ้กล้าไปดึงดาบออก ก็กลายเป็นว่าเมื่อดาบถูกดึงออก ผนึกที่สะกดปีศาจก็ได้คลายลง ทำให้จอมมารมายังโลกพร้อมกับกองทัพปีศาจ และเพื่อจะเอาชนะได้ผู้กล้าจึงเลือกเสียสละรินเพื่อเก็บดาวศักดิ์สิทธิ์ต่อสู้กับปีศาจ

                    เกมจบลงโดยผู้กล้าปราบจอมมารได้สำเร็จ และช่วยเหลือโลกไว้ได้ และแล้วผู้กล้าก็ได้ขึ้นเป็นราชาปกครองประเทศพร้อมกับสาวในฮาเร็ม 6 คน ส่วนริโทเน่และคนในตระกูลกลายเป็นตระกูลชั่วร้ายและพบจุดจบอันน่าอนาถ

                    อย่างไรก็ตาม หลังจากเล่นเกม ชายคนหนึ่งเกิดหัวใจวายกะทันหัน และก็ตาย เมื่อเขาตายก็พบเทพธิดามาขอร้องว่าให้ช่วยโลกในเกมที่เขาเล่นหน่อย เพราะว่าโลกในเกมนั้นเกิดล่มสลายหลังจากผู้กล้าขึ้นปกครอง เนื่องจากผู้กล้าไม่มีความรู้ในการปกครองประเทศ เอาแต่ใจ แถมภรรยาในฮาเร็มทั้ง 6 ก็ให้ท้าย เศรษฐกิจประเทศพังเพราะผู้กล้ายกเลิกหนี้ ทำลายตระกูลริโทเน่ทั้งที่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ล่มลาย หายนะจนโลกล่มสลายไปในที่สุด

                    เพื่อให้แก้ปัญหานี้เทพธิดาจึงให้พระเอกเกิดใหม่ในร่างของริโทเน่ ที่ตอนแรกๆ ชีวิตวัยเด็กถูกชาวบ้านรังเกียจ และเกือบถูกขายเป็นทาส หากแต่ลุงที่เป็นขุนนางใหญ่ได้ช่วยเหลือ ทำให้เขากลับมาเป็นขุนนาง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเลือกเป็นขุนนางที่ดี พร้อมกับภารกิจสุดหินเพราะเขาต้องแย่งว่าที่เมียผู้กล้าให้ได้

                    ในแง่การบรรยายแล้ว แย่งเมียผู้กล้าถือว่าด้อยกว่าเรื่องอื่นๆ ในอันดับค่อนข้างมาก เอาง่ายๆ นิยายเว็บเด็กดีบางเรื่องยังมีการบรรยายเรื่องราวได้ดีกว่านี้อีก  ไม่ว่า การบรรยายตัวละคร, การบรรยายรายละเอียดเนื้อเรื่อง รวมไปถึงการดำเนินเนื้อเรื่องก็ออกไปทางง่ายเกินไป (จนผมแนะนำว่าสำนวนนี้อย่าเอาเป็นตัวอย่างการแต่งนิยายเด็ดขาด  (ไม่รู้ว่าพอตีพิมพ์เป็นเล่มไม่รู้ว่าจะเพิ่มเนื้อหาขึ้นหรือไม่) คำถามต่อมาคือ คนแปลแปลจากต้นฉบับนี้จริงหรือไม่ ผมก็ไปดูเว็บต้นฉบับเทียบกับการแปล ปรากฏว่า เนื้อหาเกือบตรงกันกัน อาจมีย่อเล็กน้อย (เห็นได้ชัดคือช่วงตอนต้นๆ)

                    สิ่งที่น่าสนใจคือพล็อตเกี่ยวกับตัวเอกที่เกิดใหม่เป็นตัวละครในเกม และเป็นตัวร้าย เริ่มเป็นที่นิยม รวมไปถึงการใช้ความรู้จากโลกเดิมมาปรับใช้ปกครองในโลกแฟนตาซีที่วิทยาการล้าหลัง ผมว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ รวมไปถึงเป้าหมายสูงสุดคือแย่งเมียผู้กล้า อีกทั้งการต้องมาตามเช็ดก้นผู้กล้าที่ทำอะไรไม่รู้จักคิดก็ด้วยก็ถือว่าทำให้น่าติดตามมากขึ้น        

                    นอกจากนี้สิ่งที่ได้จากนิยายเรื่องนี้ก็น่าคิด เกี่ยวกับ มุมหนึ่งของผู้กล้า ในอีกมุมหนึ่งสิ่งที่ผู้กล้าทำไปอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องในสายตาผู้อื่น หากแต่มันกลับเป็นสิ่งที่เลวร้ายในอนาคต เรามักเห็นผู้กล้าขึ้นมาเป็นราชาปกครองอย่างเป็นธรรมในตอนจบของเรื่อง แต่เอาเข้าจริงแล้ว ถ้ามีเนื้อเรื่องกล่าวต่อไปอีก ก็คงเป็นแบบนิยายเรื่องนี้ เขาอาจเป็นผู้กล้าก็จริง แต่ล้มเหลวในการปกครอง ทำอะไรก็ไม่เป็น เอาแต่พึ่งคนอื่น ซึ่งถ้าใครมาอ่านนิยายเรื่องนี้นับลองว่าหลายคนคงหมั่นไส้ผู้กล้าไม่มากก็ไม่น้อย

                    อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขียนบทความนี้นิยายเรื่องนี้ดองมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ก็หวังว่าจะมีการแปลต่อ ผมจะได้ติดตามต่อ

                   

                   5. Genjitsushugisha no Oukokukaizouki

    ก็มาถึงนิยายที่หลายคนอวยในเวลานี้ Genjitsushugisha no Oukokukaizouki  หรือแปลเป็นไทยว่า “อภิมหาตำนานราชาผู้กล้าผู้ซื่อตรง” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ราชาทาส” แต่งโดย Dozeumaru ภาพประกอบโดย Fuyuyuki  และได้รับการรวมเล่มเมื่อปี 2014  หากใครคุ้นๆ ลายเส้น และนางเอกเหมือนเซเบอร์ ใช่แล้วครับ คนวาดเขาวาดแฟนพิคซีรีย์ Fate บ่อยๆ)

    ราชาทาส เป็นเรื่องราวของโลกแฟนตาซีที่ราชาปีศาจยึดดินแดนหนึ่งในห้า หากแต่เหล่ามนุษย์ชาติไม่ได้จะร่วมมือกันเลย ราชาแต่ละดินแดนหวังแต่ผลประโยชน์ของตนเอง แถมพยายามจะกลืนกินประเทศที่อ่อนแอกว่า จนกระทั่งมีประเทศหนึ่งอัญเชิญผู้กล้าจากต่างโลก เป็นเด็กหนุ่มที่ชื่อ “โซมะ คาซึยะ” แต่ที่แทนที่ราชาส่งให้เด็กหนุ่มมาเป็นผู้กล้า กลับให้เขามาเป็นเครื่องบรรณาการให้ประเทศที่ใหญ่กว่าแทน เพื่อใช้หนี้ เพราะประเทศที่อัญเชิญพระเอกนั้นกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร ปัญหาคอรัปชั่น ผู้อพยพมากมาย ทำให้ราชาจนปัญญาที่จะบริหารประเทศ หากแต่เนื่องด้วยพระเอกปฏิเสธที่จะไปเป็นทาส เขาเลยเสนอนโยบายต่างๆ ให้ราชา จนราชาเห็นว่าโซมะนั้นเก่ง จึงยกให้เป็นราชาปกครองประเทศ และแล้วตำนานราชาโซมะก็เริ่มต้นขึ้น

    เป็นนิยายที่หลายคนอวยมาก เอาข้อดีก่อน นิยายเรื่องนี้ออกไปทางแนวการปกครอง และการทำสงคราม ถือว่าเป็นแนวที่กำลังฮิตๆ ในนิยายเว็บ ซึ่งทึ่ผ่านมานิยายเว็บส่วนใหญ่เป็นแนวเก็บเลเวลเรื่อยๆ ลงดันเจี้ยนมาตลอด แต่แนวพวกนี้ไม่ค่อยเน้นเอาความรู้จากโลกของเรามาปรับใช้โลกแฟนตาซีสักเท่าไหร่ ดังนั้นนิยายแนวปกครอง-ทำสงครามจึงเกิดขึ้น เพื่อตอบสนองความใฝ่ฝันอยากไปโลกแฟนตาซีนำความรู้ต่างๆ ไปปรับใช้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเอาด้านดีๆ การปกครองของโลกเราไปบริหาร (แต่ถ้าฮิตเลอร์ไปต่างโลกนี้ กลายเป็นสาวโมเอะ ผมว่าท่าจะมันน่ะ)

    นิยายราชาช่วงแรกๆ ก็แก้ปัญหาที่โลกแฟนตาซีส่วนใหญ่เป็น นั้นคือ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหาร ปัญหาผู้อพยพ คอรัปชั่น พระเอกก็นำความรู้พื้นฐานของโลกเราเอามาปรับใช้ (พื้นฐานจริงๆ แบบว่าถ้าเราไปโลกแฟนตาซี เป็นราชา เราจะทำยังไง) เริ่มจากหาวัตถุดิบใหม่ ทำอาหารใหม่ๆ  หางานให้ผู้อพยพทำ สรรหาบุคลากรมาใช้ประโยชน์ และก็ตามสูตรพระเอกไม่ถือตัวมองความสามารถของคนมากกว่าชาติตระกูล ทำให้มีคนเก่งมาทำงานเพียบ (ไม่รู้ว่าจะยกเลิกทาสหรือเปล่า) ถือว่าเป็นนิยายที่แปลไทย ที่การปกครองเป็นเรื่องเป็นราวที่สุดแล้วในเวลานี้

    อย่างไรก็ตาม ราชาทาสนั้นกับเป็นนิยายที่ผมอ่านแล้วเฉยมากๆ คืออ่านได้เรื่อยๆ แต่ให้มีอารมณ์ร่วมสิ่งที่นิยายพยายามถ่ายทอดนั้นไม่ ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือละคร นั่นคือตัวพระเอกโซมะที่เป็นพระเอกแบนๆ เกินไป เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้กล่าวถึงโซมะเลย ไม่เหมือนนิยายเรื่องอื่นๆ ที่เรื่องราวเริ่มเล่าประวัติชีวิตของตัวเอก ว่า เขาเป็นใคร มาจากไหน ครอบครัวเป็นยังไง แต่ตัวนิยายไม่เล่าเกี่ยวกับตัวโซมะเลย โผล่มาก็ได้เป็นราชา มาถึงการจัดทำบัญชี บริหารประเทศ เนื้อเรื่องขับเคลื่อน แต่แทบไม่เล่าตัวของโซมะเลย แม้จะมีนิสัย หรือความชื่นชอบอ่านหนังสือ (ซึ่งนิยายแนวต่างโลกเกือบทุกเรื่อง เป็นแบบนี้หมดแหละ โผล่มาแต่ชื่อ แต่ไม่ไล่ประวัติอะไรสักอย่าง เก็บสกิลลูกเดียว) แต่ก็เข้าใจว่าตัวนิยายต้องการเสนอให้ราชาโซมะนี้เสมือนหนึ่งตัวคนอ่านนั้นเอง แต่ถ้าทำแบบนี้จริงก็น่ะจะใช้คำว่า “ผม” ตัวเอกไม่มีชื่อแทน ไม่ใช่สร้างตัวละครมีชื่อ เพราะเมื่อตัวละครมีชื่อเราก็ต้องอยากรู้ตัวตนของพระเอกนี้มากขึ้นว่าเขาเป็นใครมาจากไหน

    ส่วนตัวผมชอบพระเอกเริ่มต้นเป็น 0 มากกว่า ทุกวันนี้ผมยังชอบ Utawarerumono (เฉพาะช่วงแรกๆ นะ ช่วยท้ายไม่ค่อยสนุก) ที่พระเอกเริ่มจากความลึกลับ สูญเสียความทรงจำ ตอนแรกๆ เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา อยู่ในระบบการปกครองที่เอาเปรียบ จากนั้นพระเอกกับพวกชาวบ้านก็ก่อการกบฏ ล้มล้างจักรพรรดิไม่ได้เรื่อง แล้วขึ้นไปเป็นจักรพรรดิที่ดี และจากนั้นสเกลเรื่องก็ใหญ่ขึ้น ทำสงครามระหว่างประเทศ ผมว่าเป็นสิ่งที่ได้ลุ้น และสุดยอด (ฟิน) เอาใจช่วยมากกว่านี้มาก

    และเมื่อเนื้อเปิดกว้างขึ้น ตัวละครก็เยอะขึ้น และสกิลจำชื่อตัวละคร ผมก็อยู่ในระดับห่วย ผมแทบจำชื่อตัวละครทั้งหลายในเรื่องไม่ได้เลย บางตัวละครชื่อก็แสนจดจำยาก ซึ่งมันก็เป็นปัญหานิยายเว็บอยู่แล้วที่ตัวละคร (บางเรื่องดีหน่อยที่ใช้ชื่อพยางค์เดียว ไม่ก็คือเรียก หัวหน้ากิลด์ เมด บริกร เท่านั้นเอง)

    ส่วนการปกครองของโซมะ ก็มีหลายเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วย หนึ่งนั้นนั้นคือเกี่ยวกับการใช้ประชาธิปไตยมาใช้การปกครอง ให้ประชาชนตัดสินใจ (ซึ่งในเรื่องคงเป็นกึ่งๆ ราชา-ประชาธิปไตยมากกว่า ) คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมการตัดสินใจ ผมว่าไม่เหมาะมากนัก เพราะประชาธิปไตยที่ดีไม่มีอยู่จริง พื้นฐานมันอยู่ที่คุณภาพของประชากร แต่โลกของโซมะนั้นประชาชนไม่รู้หนังสือ ควรให้ได้รับการศึกษาก่อน การใช้การปกครองนี้เสี่ยงมากให้ประชาชนเริ่มเอาแต่ใจ ร้องขอรัฐมากขึ้นเท่านั้น ความจริงไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องประชาธิปไตยในตอนนี้หรอก เพราะมันไม่ใช่การปกครองที่ดีที่สุด การปกครองที่ดีที่สุดก็คือ สิ่งที่ประชาชนต้องการความปลอดภัยอะไรที่สามารถปกป้องพวกเขาได้ ก็ใช้ไปเถอะ มากกว่า

    ในด้านการสงคราม แม้จะเป็นสูตรที่ผมเห็นทั่วๆ ไป (แถมพระเอกก็อ้างอิงพิชัยสงครามซุนวูจนได้ ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วกุนซือตะวันตกเก่งๆ ก็เยอะ) แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือพระเอกนั้นใช้ยุทธวิธีการรบสงครามยุคปัจจุบันมาปรับใช้กับสงครามยุคกลาง (แฟนตาซี)

    หลายคนคิดว่าความน่ากลัวของสงครามยุคใหม่คืออาวุธ ยุทธ์อุปกรณ์ที่ทันสมัย ฆ่าคนได้จำนวนมาก ก่อความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่ความจริงแล้ว ความน่ากลัวของสงครามยุคใหม่ก็คือ การใช้กำลังพลน้อยเอาชนะพลมากกว่า สงครามยุคกลางเป็นการรบที่ใช้กำลังเข้าห่ำหันกัน ทัพไหนแข็งแกร่ง ทัพไหนมีจำนวนมากก็ย่อมได้รับใช้ชนะ ซึ่งส่วนมากเป็นการรบระหว่างประเทศ อาณาจักรรบระหว่างอาณาจักร หากแต่สงครามสมัยใหม่นั้นไม่ได้เป็น เช่นนี้ เพราะประเทศต้องรบกับกลุ่มคน หรือองค์กรก่อการร้าย รวมไปถึงสิทธิมนุษยชนเข้าไปเกี่ยวข้อง การส่งทหารจำนวนมากก็ต้องตายเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการใช้กำลังขนาดเล็กและมีประสิทธิภาพจึงเกิดขึ้น และเน้นภารกิจที่ใช้กลุ่มทหารที่มีฝีมือ เน้นความปลอดภัย แต่แม่นยำมากขึ้นด้วย ซึ่งราชาทาสก็ใช้ยุทธวิธีกองโจร การหาข่าวสาร รวมไปถึงการใช้ข่าวสารเพื่อให้ประชาชนของฝั่งข้าศึกเกิดความสับสนและเกิดอคติต่อเจ้าเมืองด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นยุทธวิธีที่ใช้กันในสงครามสมัยใหม่ขึ้นพื้นฐาน แม้ในสายตาของคนอื่นอาจมองว่าขี้โกง แต่ขี้โกงที่ว่าสามารถรักษาชีวิตทหารได้จำนวนหลายพันนาย ก็สมควรที่จะนำไปใช้เป็นอย่างยิ่ง

    อย่างไรก็ตาม ก็น่าเสียดาย แม้ว่าราชาทาสจะนำสงครามสมัยมาปรับใช้ แต่มันก็ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กระนั้นเราก็ได้เห็นการคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบ ซึ่งถือว่าเป็นนิยายเว็บ (ที่แปลไทย) ที่เอาเรื่องยุทธวิธีสงครามมาใช้ดีที่สุดแล้วในเวลานี้ (สงครามของพระเอกก็มีทั้ง ภายในที่พวกแม่ทัพไม่พอใจที่พระเอกเป็นราชา และอาณาจักรอื่นที่หวังจะงาบดินแดนพระเอก)

      จะว่าไปผมก็ไม่ได้พูดถึงคนยุโรปกับอาหารญี่ปุ่น คือเรามักเห็นพระเอกเผยแพร่เกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นให้คนในโลกแฟนตาซียุคกลางมาให้กิน เช่นข้าว ปลาดิบ แต่ผมก็ยังสงสัยว่าทำไมคนโลกนั้นยอมรับอาหารของญี่ปุ่นง่ายจัง เพราะอย่างที่เราทราบว่าคนแฟนตาซีญี่ปุ่น ก็คือคนยุโรปยุคกลางดีๆ นี่เอง เขายอมรับอาหารญี่ปุ่นได้เหรอ เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นแตกต่างกันมาก พวกเขาไม่กินอาหารดิบ พวกเขากินแต่ขนมปัง การรับประทานข้าวไม่เคยชิม ก็เหมือนบ้านเราปกติกินแต่น้ำเปล่า น้ำชาหวานๆ พอไปญี่ปุ่นมีแต่น้ำชาจืดๆ ไม่ค่อยมีน้ำเปล่าขายแบบนั้นแหละ


    4. Tensei Shitara Slime Datta Ken

    Tensei Shitara Slime Datta Ken  หรือชื่อไทยว่า “เกิดใหม่เป็นสไลม์” เป็นเรื่องราวของหนุ่มโสดวัยทำงานคนหนึ่งชื่อ มิคามิ ซาโตรุ เขาถูกแทงตายหลังจากปกป้องรุ่นน้องที่ทำงานพยายามอวดแฟนใส่เขา ซ้ำร้ายเขาก็ได้เกิดใหม่ในต่างโลก (แฟนตาซี) หากแต่เขาไม่ได้เกิดเป็นคน เขาเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยที่สุดในโลกแฟนตาซี นั่นคือสไลม์

                    นิยายเกิดใหม่เป็นสไลม์เป็นนิยายเรื่องแรกๆ ที่มาพูดถึงตั้งแต่บ้านเราเริ่มแปลนิยายเว็บกัน ซึ่งเนื้อหาก็คล้ายๆ เกิดใหม่เป็นก็อบลิน (Re:Monste) ที่เนื้อหาตัวเอกเกิดเป็นมอนสเตอร์ กล่าวคือพระเอกโดนแทง แล้วเกิดใหม่เป็นสไลม์ (ก็อบลิน, แมงมุมดันเจี้ยน, สไลม์, มังกร มีเกือบหมดแล้วละ ขาดแต่เทนตาเคิลเท่านั้น) จากนั้นตัวเอกพยายามมีชีวิตอยู่ โดยสามารถเอาตัวรอดได้ เพราะมี “สกิล” (คือ พวกบอกสถานะ ที่เป็นเสียงแว่วๆ บนหัวของพระเอก  เช่น “คุณได้รับสกลิทนพิษค่ะ”, “เลเวลอัฟแล้วคะ”) ซึ่งก็ไม่รู้เจ้าสกิลที่ว่ามาจากไหน (บ้างก็ว่า มาจาก  นางฟ้าเทพธิดามาคอยบอกเรา) และสกิลนี้เอง ทำให้พระเอกสามารถเรียนรู้อะไรต่างๆ รวดเร็ว ไปเจอเหตุการณ์ให้เก่งเทพ แล้วการใช้ความสามารถเฉพาะของสไลม์ให้เป็นประโยชน์ จากตอนแรกๆ เอาชนะพวกมอนสเตอร์กระจอก ก็ขยับขยายมอนสเตอร์ที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกับวิวัฒนาการเก่งขึ้นด้วย

                    หลังจากพระเอกแข็งแกร่งพอสมควร ก็ได้พรรคพวก เริ่มสร้างกลุ่ม เริ่มสร้างอาณาจักร ต่อสู้กับพวกรุนราน (โลกนี้พวกก็อบลิน พวกอมนุษย์ถูกมนุษย์เอารัดเอาเปรียบ) สูตรเหล่านี้ก็ไม่แปลกอะไร สำหรับนิยายเว็บ

                    ความสนุกของนิยายเรื่องนี้ เราได้เห็นพระเอกพัฒนาความสามารถ มากกว่าที่จะพัฒนาด้านจิตใจ เริ่มจากอ่อนแอ เริ่มแข็งแกร่งขึ้น มันเป็นอะไรที่เพลินๆ เหมิอนกันครับ

                    ในด้านความส่วนตัวแล้ว ผมอาจดูเฉยๆ กับเรื่องนี้ ยังดีหน่อยที่การบรรยายเรื่อ่งไม่เป็นแบบเกิดใหม่เป็นก็อปลิน รายนั้นใช้การเล่าแบบไดอารี่วันต่อวัน สาระวนไปกับการกิน และลองสกิล  แต่สไลม์ยังพอมีเรื่องมีราวบ้าง แต่กระนั้นสิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบมากนัก ก็คงเป็น การใส่เรื่อง “สกิล” มาใส่นี้แหละ คือมันเป็นสิ่งที่ (เอาตรงๆ นะ) ตามความรู้สึกแล้วมันคือ “ความมักง่าย” มากกว่า

                    ทำไมผมว่ามักง่าย คือ แทนที่ผมจะเห็นการบรรยายที่ดูดิบ ดูมีสัญชาตญาณของมอนสเตอร์ แต่เพราะสกิลนี้แหละทำให้ตัดอารมณ์เหล่านี้ไป

                    คิดดูสิครับ แค่ว่าตัวเอกเป็นสไลม์ มันก็น่าอ่านแล้วใช่เปล่า ว่าสิ่งมีชีวิตระดับต่ำที่สุดในโลกแฟนตาซี เป็นศัตรูตัวแรกๆ ในวีดีโอเกมที่ทำได้แค้พุ่งชนลด HP -1 มันจะเก่งได้ไง    เราได้เห็น ความลำบากของเป็นสไลม์ตั้งแต่แรกๆ ที่ตัวเอกต้องอยู่ในโลกที่มืดมิดหลายวัน ต้องเขาใจกายวิภาคของตน ไม่มีแขน ไม่มีขา ต้องใช้ร่างกายเมือกๆ ในการเคลื่อนที่ การกินแบบสไลม์ ซึ่งช่วงแรกๆ (ตัดเรื่องสกิลออก) ถือว่าน่าสนใจมาก จากนั้น พระเอกเอารอดจากการเรียนรู้ การใช้สันชาตญาณความพิเศษของสไลม์ เมือก ทนต่อการโจมตี   มันดูสมจริง น่าลุ้นมากกว่า แต่พอมีสกิล นางฟ้ามาคล้ายบอกความสามารถพระเอกให้ ผมว่าอะไรก็ง่ายไปหมด แค่นั่งอ่านว่าพระเอกมีสกิลโน้นสกิลนี้ ก็รู้ว่าพระเอกมีความสามารถอะไรแล้ว  แทนที่จะให้พระเอกมานั่งคิดเองว่าสไลม์มีความสามารถอะไรดี เรียนรู้อย่างช้าๆ  แถมเจอมังกรในตำนานตั้งแต่ตอนแรก ได้รับความสามารถมา พระเอกเก่งเลย ไม่เหมือนหนูแมงมุมกว่าจะเก่งปาไปหลายตอน


                 3.  Evil God Average

    หลังจากที่ผมอ่านนิยายต่างโลกหลายเรื่อง ความคิดเห็นส่วนตัวผมพบว่านิยายเว็บที่เป็นแนวอ่านเอาตลก เอาขำๆ ดูเหมือนจะสนุกที่สุดกว่านิยายเว็บ ที่เน้นเรื่องฮาเร็ม สร้างบ้านสร้างเมือง หรือดราม่าปวดตับ เพราะย่างน้อยแนวที่เน้นตลกนั้นจะใส่มุก เนื้อหาก็แปลกกว่าใครเขาเพื่อน ทำให้ดูไม่น่าเบื่อมากกว่า อย่างเรื่องเทพมารเอนริ เองก็เป็นอีกเรื่องที่ผมคิดว่าใช้ได้เลย

    หลังจากที่นิยายต่างโลกมีตัวเอกเป็นผู้ชาย เป็นตัวดำเนินเนื้อเรื่อง หลายเรื่อง ออกมาพักใหญ่ ก็ถึงต่างที่ตัวเอกหญิงจะมีบทบาทดำเนินเนื้อเรื่องในนิยายต่างโลกบ้าง ซึ่งวจะมีเกือบทุกพล็อต ทั้งกลายเป็นมอนสเตอร์, ผู้ชายกลายเป็นหญิง, ผู้หญิงผจญภัยต่างโลก ไปจนถึงเกิดใหม่ในร่างนางร้ายในเกม (พล็อตประเภทนี้ภาพประกอบเหมือนจะเหมือนกับผู้อ่านที่เป็นผู้หญิงมากกว่า เพราะตัวละครชายหล่อคมมาก)

                    แน่นอนว่ารวมไปถึง Evil God Average หรือ เทพมารธรรมดา หรือจำง่ายๆ เทพมารเอนริ ผลงานของ Kitaseno Yunaki นิยายแบ่งเป็นสองภาค ภาคแรก 2 เล่ม (เหมือนจะจบนะ แต่ตอนที่เขียนนี้ มันมีเล่ม 3 ครับ  ไม่รู้เป็นภาคที่ตัวเอกผู้ชายแต่อยู่ในโลกเดียวกับเอนริหรือเปล่า)

    แม้ว่าเนิ้อหาตอนแรกๆ จะเหมือนแนวต่างโลกทั่วไป โดยเป็นเรื่องราวของสาวน้อยคนหนึ่งชื่อ “เอนริ” ที่เธอมีดสวงตาที่มืดมน ใครเห็นต้องมีอันต้องกลัว ไม่ก็เผ่นหนี วันหนึ่งเธอได้ถูกคนที่เชื่อว่าเป็นเทพมาร ส่งไปยังโลกแฟนตาซีแบบไม่ทราบสาเหตุว่าส่งไปเพื่ออะไร ซึ่งโลกนี้มีทั้งผู้กล้ากับจอมมาร

    อย่างไรก็ตาม เอนริไม่อยากลำบาก เธออยากอยู่สบายๆ มากกว่า หากแต่เธอก็พบว่าโลกนี้อยู่ยากกว่าที่คิดเพราะใครเห็นเธอก็ต้องเผ่นหนี แถมเธอยังมีสกิลจากเทพมารที่แตะของใดๆ ก็ต้องสาป แต่เพื่อกินและอยู่ สิ่งแรกที่เธอทำคือการเป็นนักผจญภัย ภารกิจง่ายๆ คือเก็บของป่า ความจริงมันเป็นภารกิจที่ยากมาก เพราะในป่าเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ หากแต่เพราะเหล่ามอนสเตอร์ต่างกลัวดวงตาของเอนริ ทำให้เอนริเก็บของป่าได้สบายเพราะไม่มีมอนสเตอร์มายุ่งยาม จนกระทั่งเธอเข้าไปดันเจี้ยนแห่งหนึ่ง แล้วเธอก็อัฟเกรดเป็นมาสเตอร์ดันเจี้ยนไปในที่สุด

    ในช่วงแรกๆ นั้นเทพมารเอนริก็เหมือนนิยายเว็บต่างโลกทั่วไป ที่ตอนแรกตัวเอกมีสกิลติดตัวนิดหน่อย เช่าโรงแรม รับเควส จนกระทั่งสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ จู่ๆ อัฟคลาสโหดโครต พุ่งจากนักผจญภัยธรรมดา เป็นดันเจี้ยนมอนสเตอร์ แถมเพราะมีพลังโกงแฝง จากดันเจี้ยนธรรมดา กลายเป็นโครตดันเจี้ยน แถมทำให้ผู้คนหวาดกลัว จนมีลัทธิล้ำลือไปทั่ว จนเอนริกลายเป็นเทพมาร (!?) ไปในที่สุด

    คิดๆ ไป ถ้าตัวละครหญิงเป็นตัวเอกของเรื่อง ถ้าไปผจญภัยนี้ขี้โกงกว่าตัวละครชายอีก ตัวละครชายแค่มีสกิลโกง แต่ตัวผู้หญิงนี้มีทั้งสถานะโกง ทั้งอัฟคลาส บางคนกลายเป็นพระเจ้า เทพมารของโลกนั้นก็มี

    จุดเด่นของนิยายเรื่องนี้คงอยู่ที่การทำอะไรแหวก (ประชด) นิยายต่างโลกค่อนข้างเยอะ ปกติเราเห็นพระเอกกว่าจะเก่งกว่าจะเก็บเลเวล เจออุปสรรค์มากมาย แต่เทพมารเอนริแค่หน้าตาก็เป็นอาวุธ อยู่เฉยๆ ก็คนก็ยกเป็นเทพมารซะงั้น จับอะไรนิดอะไรหน่อยก็กลายเป็นเทพ (จับอาวุธธรรมดาก็เทพ เรียกอะไรที่ดูธรรมดาแต่พอใส่พลังนิดหน่อยก็เทพ)  มันเป็นอะไรที่สุดติ่งจริงๆ

    นอกจากนี้ เนื้อหาเทพมารเอนริส่วนใหญ่จะเน้นการเฝ้ามองของเอนริ ต่อนักผจญภัยที่มาลองของดันเจี้ยนเอนริ ทั้งนักผจญภัยธรรมดา ผู้กล้า ลูกสาวจอมมาร รวมถึงบรรดาตัวประกอบต่างๆ ที่อยู่ในเรื่องด้วย

    น่าเสียดายอยู่อย่าง ที่จริงตัวนิยายนั้นมีอะไรให้เล่นเยอะ ใส่มุกตลกๆ ฮ่าๆ ก็มาก แต่ว่าบทจะง่ายก็ง่ายเกินไป หรือบางอย่างมันราบเรียบอะไร นิยายในเว็บในช่วงที่เอนริเป็นเทพมารตัดสินใจที่จะเป็นมนุษย์อยู่อย่างสงบมันราบเรียบไป

    ปัจจุบัน นิยายเว็บเริ่มภาคตัวเอกที่เป็นผู้ชาย (เป็นเหตุการณ์ที่ห่างจากภาคแรกหลายปี) เอาตรงๆ  ภาคแรกมันขายเอนริที่ทำอะไรก็เป็นเรื่องใหญ่หมด พอมาถึงภาคพระเอกเป็นผู้ชาย ดำเนินเรื่องตามสูตร มันกลายเป็นพล็อตธรรมดา เชยๆ ไปเสียแล้ว พูดง่ายๆ สู้ภาคแรกไม่ได้เลย

    ดูเหมือนว่านิยายเทพมารเอนริฉบับรวมเล่มจะดำเนินเรื่องไม่เหมือนในเว็บ เพราะมีตัวละครใหม่ (?) ที่ไม่ปรากฏในเว็บมาด้วย ไม่รู้ว่าจะได้อ่านในฉบับลิขสิทธิ์ไทยหรือเปล่า

    สรุปคือ เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆ มีมุกตลก แต่ไม่ได้ฮ่าบ้าบอแบบเทพมารทีเรีย

     

    2. Kuro no Senki

    คือ.....มันอดไม่ได้....ที่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ มันมีอะไรหลายอย่างให้หลายคนได้คิด เวลาจะแต่งนิยายเว็บเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ การบริหารบ้านเมือง, สงคราม รวมไปถึงฮาเร็ม (ซึ่งไม่ฟินสักนิด)  มันเป็นนิยายที่ทำให้ผมมีอารมณ์ (ส่วนใหญ่เป็นด้านลบ)  จนต้องร่ายยาวให้ได้อ่านกัน 

    ปัจจุบัน เท่าที่ทราบนิยายเรื่องนี้คนแปลเขาเริ่มดองแล้วมั้ง ไม่รู้เพราะอะไร แต่ส่วนตัวผมก็ไม่อยากจะอ่านสักเท่าไหร่ออก พอดีหลวมตัวไปอ่าน จนปาไปหลายตอน จะเลิกก็เหมือนคาใจ แต่เวลาพอตอนใหม่มา ผมดู หงุดหงิดใจตลอด

                    Kuro no Senki หรือบันทึกสงครามคุโระ เป็นนิยายเว็บเรื่องแรกๆ ที่หลายคนรู้จัก หลายคนชม บางคนถึงขั้นวิเคราะห์ การจัดทัพ การใช้ชีวิตของคนยุคกลางก็มี (นิยายเว็บเด็กดีน่าจะมีแบบนี้บ้างนะ)

                    การเปิดเรื่องนิยายเรื่องนี้แตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ  (ในที่นี้ขอบอกเนื้อหาในเว็บก็พอ ส่วนรูปเล่มนิยายไม่ขอกล่าวถึง เพราะไม่มีข้อมูล) เพราะเริ่มต้นขึ้น การเป็นฉากสงครามห้ำหั่นกันไปมา ในโลกแฟนตาซี ที่เราแทบไม่ทราบว่าใครสู้กับใคร ก่อนที่เรื่องจะเริ่มกล่าวถึงกลุ่มพระเอกชื่อ “โครโน่” ที่ต้องคุมกำลังทหารกลุ่มหนึ่งทำสงครามแนวหน้า หลังเสร็จสงครามก็ได้แผลเป็นตาขวาเป็นเครื่องเตือนใจ จากนั้นก็เป็นคนคุมบริหารเมืองหนึ่งที่พึ่งปลดเจ้าเมืองที่เป็นขุนนางชั่วออก โดยเจ้าหญิงทีเรีย (หนึ่งในฮาเร็มของโครโน่) ให้การสนับสนุน

    ความจริงแล้ว โครโน่เป็นเด็กจากโลกอื่น ที่หลงมายังต่างโลก โชคดีที่ได้อุปการะจากพ่อบุญธรรมที่เป็นขุนนาง แต่ชีวิตของเขาไม่ค่อยดีนัก เพราะอยู่ในสภาพสังคมทีเต็มไปด้วยปัญหา ชนชั้นสูงห่วงแต่ช่อเสียง ขุนนางโกงกิน เหยียดเชื้อชาติ (พวกอมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระ เป็นพลเมืองชั้นสอง) ราชาไร้ความสามารถ สงครามระหว่างประเทศเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โครโน่ต้องเรียนโรงเรียนทหารแต่ผลการเรียนไม่ได้เรื่อง ไม่มีพรสวรรค์ด้านดาบ ขี่ม้า หรือเวทมนต์  แถมต้องไปแนวหน้า ลูกน้อง (ส่วนใหญ่เป็นอมนนุษย์ตายเป็นประจำ) แถมเสร็จสงครามมาก็ต้องมาบริหารบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยปัญหา คุณภาพชาวเมืองต่ำ (พอๆ กับแมนยูในเวลานี้) อย่างไรก็ตามโครโน่จะต้องใช้ความรู้จากต่างโลกที่มี ในการพัฒนาบ้านเมือง และเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ได้ (ซึ่งก็ไม่รู้จะเมื่อไหร่)

    ..... หากใครไม่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ มาอ่านเรื่องย่อของผม หลายคนอาจสนใจไม่มากก็ไม่น้อย ที่จะหามาอ่าน แต่ผมขอบอกในที่นี้ แบบไม่ให้หวังมากนัก เลยว่า “นิยายเว็บเด็กดีบางเรื่องสนุกกว่านี้ด้วยซ้ำ”!?

    ในแง่ภาษาเขียนก็อย่างหนึ่ง เพราะการแปลที่เอามาจากต้นฉบับอาจไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีผิดพลาดบ้าง  แต่ต่อให้ตัดออก ไม่พูดเรื่องการแปล การดำเนินเรื่อง ผมเชื่อว่าหลายคนก็คงสร้างความหงุดหงิดใจไม่มากก็ไม่น้อย  (เชื่อผมเถอะ)

    หากถาม หงุดหงิดเรื่องไหนบ้าง บันทึกสงครามโครโน่ ก็ไม่แตกต่างจากราชาทาส สักเท่าไหร่ ตรงที่เราแทบ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเอกเลย ว่าเขาเป็นมายังไง ก่อนที่จะหลงมายังต่างโลก จู่ๆ ก็เข้ามาในต่างโลก พัฒนาบ้านเมือง ในเรื่องร่ายเพียงว่าโครโน่เป็นเด็กหนุ่มหลงมาต่างโลก มีความรู้แบบคนธรรมดาทั่วไป (แต่เรื่องที่หลายคนไม่อยากรู้ ดันรู้ซะงั้น) ส่วนครอบครัวโลกเดิมไม่กล่าวถึงใดๆ ทั้งสิ้น ผมจึงวไม่ได้อินกับโครโน่สักเท่าไหร่ (หากจะเล่นประเด็นดราม่า เช่น พระเอกสงสารคนอื่น โกรธแค้น หรือจิตตกลูกน้องตาย แต่สำหรับบางคน อาจจะโต้ว่า “น่ารำคาญมากกว่า” ด้วยซ้ำ)

    แม้ว่าประวัติโควโน่ในโลกแฟนตาซีจะมี แต่นั้นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง มันเป็นภาระที่ต้องดิ้นรนจนได้ตัวตนในโลกแห่งนี้ แต่ตัวตนเดินในโลกที่จากมา กลับไม่ได้พูด

    เอาเป็นว่าตัวนิยายก็คงกำหนดว่าเขาเป็นคนที่ธรรมดามากๆ  (มากถึงที่สุด)

    ถ้าให้เทียบกับราชาทาส ผมว่าราชาทาสดีกว่าเยอะครับ เออ....หลายคนอาจเถียงว่า บันทึกสงครามคุโระพระเอกไม่ได้เป็นราชานี้น่า เป็นขุนนาง ปกครองเมืองหนึ่ง แถมลำบากสู้ชีวิตเยอะ ราชาทาส พระเอกมาถึงก็เป็นราชาแล้ว โอเคครับไม่เถียง แต่ประเด็นที่ดีกว่า ราชาทาสนั้น ใส่เรื่องการปกครอง, การสงคราม ได้ดีกว่าบันทึกสงครามคุโระมาก

                    เริ่มจากการปกครองก่อน การปกครองของพระเอกจะเป็นแบบเมืองเดียว  ส่วนพระเอกราชาทาสเป็นประเทศ แต่พื้นฐานเหมือนกัน คือ การจัดระเบียบเมือง การสร้างกฎหมายใหม่ เพิ่มสิทธิประชาชนทุกเผ่าพันธุ์ให้เท่ากัน การสร้างงาน เพิ่มพืชเศรษฐกิจใหม่ สินค้าใหม่ๆ เช่นกระดาษ เกลือ พืชผลใหม่ๆ  สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้พลิกแปลกแต่อย่างใดสำหรับความคิดของคนธรรมดา

                    และที่ขาดไม่ได้คือเรื่อง “ทาส” โลกของพระเอกมีการซื้อขายทาสกัน ปกตินิยายแนวนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนำเสนอการขายทาสเป็นสิ่งน่ารังเกียจ  แต่อย่างน้อยเรื่องนี้ก็พอที่จะเสนอไปบ้าง (แต่ก็ไม่มากนัก) นอกจากพระเอกยังจัดระเบียบการขายทาสให้ดูดีมีสวัสดิการอยู่บ้าง (พวกทาสได้รับการปฏิบัติต่อพ่อค้าทาสดีขึ้น) อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวผมอยากให้เลิกทาสไปเลยยังดีกว่า ไม่ก็ชี้ให้หลายคนตื่นตัวเรื่องสิทธิมนุษยชนให้มากขึ้น แม้พระเอกจะให้เหตุผลว่าถ้าเลิกทาส มันก็ไปอยู่ใต้ดิน ทำให้ติดตามได้ยาก (ซึ่งถือว่าถูก แต่พระเอกน่าจะคิดเกี่ยวกับโครงการระยะยาว พยายามหว่านเมล็ด ให้คนทั่วไปชี้ให้เห็นเกี่ยวกับความรังเกียจของการค้าขาย การออกกฎหมายทำให้อาชีพนี้อยู่ยาก แบบนี้น่าจะถูก)

                    แต่อย่างไร สิ่งหนึ่งที่แสนหงุดหงิดใจ คือ การปกครองของพระเอก อยู่ภายใต้อำนาจของขุนนางโกงกินบ้านโกงเมืองนี้แหละ มันเป็นอะไรที่หงุดหงิดมาก อารมณ์เหมือนบางประเทศเวลานี้แหละ ข้าราชการดีๆ ต้องมาผจญอยู่ในประเทศที่เต็มไปด้วยนักการเมืองที่โกงกิน จับได้ไล่ไม่ทัน  ปกติถ้าเป็นนิยายอื่นๆพระเอกปราบพวกโกงกินบ้านเมืองง่ายๆ แล้ว แต่คุโระก็ยังคงทำงานอยู่ภายใต้สถาวะนี้แหละ ดูแล้วอึดอัดแทน แถมเสี่ยงจะโดนการเมืองเล่นงานเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ใครอยากเห็นเรื่องที่พระเอกตบหัวขุนนางพวกนี้แบบสะใจ ข้ามไปเลย ไม่ต้องอ่าน ไม่รู้จะเอาคืนเมื่อไหร่ด้วย

                    อ่านไป ผมจึงเกิดความคิดแว่บมาว่า เจ้าพระเอกเรื่องนี้คิดแบบธรรมดา  ไม่ค่อยมองการณ์ไกลสักเท่าไหร่  (เจ้าตัวเองก็คิดว่าอยากอยู่สบายๆ นอนหลับเป็นสุขมากกว่า) ถ้าเป็นพระเอกเรื่องอื่นๆ ตอนเจ้าหญิงตกอับมาหา พระเอกคงใช้เรื่องนี้ยึดบัลลังค์ไปนานแล้ว (มัวแต่วุ่นวายกับงานนี้แหละ ให้ความสำคัญผิดไปแล้วเฟ้ย)

                    ส่วนในด้านสงคราม ผมก็มักเถียงบ่อยๆ กับคนอื่นอ่านเรื่องนี้ ว่าบางอย่างพระเอกมันทำได้เหรอ เป็นต้นว่าระเบิดแป้ง  ที่พระเอกรวยแป้งตามฟื้นเพื่อให้กระจายในอากาศ เวลาศัตรูเข้ามาพื้นที่ แล้วจุดไฟ มันจะเกิดระเบิดขึ้น  ซึ่งระเบิดแป้งจะใช้ผลดีในพื้นที่แคบๆ  แต่ปัญหาคือในนิยายมันประสบความสำเร็จได้ดี แต่ปัญหาคือนิยายไม่ได้บรรยายรายละเอียดเอาไว้เลยว่าสถานที่พระเอกใช้ระเบิดแป้งมันที่ใด และจากทีอ่านผมก็เข้าใจว่าเป็นที่โล่งมากกว่าพื้นที่แคบอีกต่างหาก    (ความจริง การเกิดระเบิดแป้งมีหลายอย่าง รวมไปถึงอุณหภูมิด้วย  ซึ่งการบรรยายส่วนนี้ไม่ค่อยชัดเจนมากนัก เลยเดาภาพไม่ออกว่าสถานที่พระเอกใช้ระเบิดแป้งเป็นยังไง)

                    การบรรยายฉากสงครามันเป็นสิ่งที่ยาก คือมันจะต้องบรรยายระเอียดไม่ว่าจะเป็นสนามรบเป็นยังไง จำนวนทหารของอีกฝ่าย การจัดทัพ  นอกจากจะละเอียด และจะต้องทำให้คนอ่านนึกภาพออกแล้ว จะทำยังไงให้สนุกด้วย ซึ่งถ้านิยายทำไม่ได้ มันก็ไม่รู้สึกอินแต่อย่างใด

                    สิ่งหนึ่งที่ผมคาใจเรื่องนี้มากๆ คือ พระเอกคิดค้นสิ่งมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น อาหารแห้ง, เกลือ, เกราะเบา แต่สิ่งที่พระเอกดันน่าจะทำ อย่าง “ดินปืน” ดันไม่ทำ เพราะสังเกตดูแล้วสงครามในโลกพระเอกนั้นไม่มีปืนใหญ่เลย เวทมนต์ก็ไม่ได้อยู่ในระดับรุนแรงมาก ดังนั้นดินปืนน่าจะจำเป็นที่ช่วยให้พวกพระเอกไม่มากก็ไม่น้อย (แถมมันจะช่วยทำให้พระเอกเลื่อนขั้นได้เร็วอีกต่างหาก) แต่พระเอกไม่ทำมันเลย ทั้งๆ ที่ดินปืนก็ไม่ใช่สิ่งทำยากมากนัก (การทำดินปืน ผสม ดินประสิว กำมะถัน กับคาร์บอน ซึ่งพอหาได้ง่าย นอกจากนี้ก็ผสมผงเหล็ก กับอลูมิเนียนเพื่อเพิ่มความรุนแรง) และตรงจุดนี้เองทำจึงมองพระเอกว่า พระเอกไม่ค่อยจะฉลาดมากนักสักเท่าไหร่

    แม้ว่าชีวิตของโครโน่จะลำบาก (แต่ผมไม่อิน) แต่การปักธงสาวๆแต่ละคนในเรื่องนี้ค่อนข้างง่ายมาก ซึ่งเจ้าพระเอกนั้นมีสาวๆ ในฮาเร็มมากกว่า  7 คน (ทั้งเล่นกับพระเอกแล้ว กับไม่ได้เล่นพระเอก) มีทุกคลาส แถมไม่ทะเลาะกันอีก มีการจัดสรรว่าวันนี้เป็นเวรใครด้วย ซึ่งคนที่อ่านอาจสุดยอด (ฟิน) แต่สำหรับผมแล้วการปักธงนั้นเป็นจุดด้อยที่สุดของนิยายเรื่องนี้เลยก็ว่าได้

    ฮาเร็มที่ดี ไม่ได้อยู่ที่จำนวน หากแต่มันอยู่ที่คุณภาพ ไม่ได้ที่จำนวน ต่อให้พระเอกมีผู้หญิงมากมายกี่คน มันก็ไม่มีคุณภาพอยู่ดี

    คุณภาพของฮาเร็มนั้น มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวของผู้หญิงแต่ละคน ความเป็นมานั้นดราม่าเพียงใด มีฐานะทางสังคมยังไง พระเอกสามารถปักธงงามแค่ไหน พระเอกทำเพื่อพวกเธอยังไง สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงบ่บอกถึงคุณภาพของฮาเร็ม แต่มันบ่บอกถึงความสมเหตุสมผลให้ผู้หญิงหลายคนชอบพระเอกคนเดียวกันด้วย

    แต่บันทึกสงครามคุโระนั้นไม่ได้เป็นแบบนี้ มันมีอะไรหลายๆ ที่ทำให้คุณภาพของฮาเร็มนั้นไม่ฟิน อย่างแรกคือเนื้อเรื่องเป็นการขับเคลื่อนเรื่องราวที่เน้นการบริหารบ้านเมือง การทำสงคราม ดังนั้นเรื่องรักๆ โรแมนติกจึงไม่ค่อยได้กล่าวถึงมากนัก ทำให้บทสาวๆ ของแต่ละคนนั้นน้อยมาก แถมมีการเฉลี่ยกระจายบทให้เท่าเทียมอีกต่างหาก

    นอกจากนี้ส่วนใหญ่ฮาเร็มของพระเอกเป็นทาส หรือลูกน้อง ปกติแล้วแนวฮาเร็มไม่นิยมฐานะผุ้หญิงต้อยต่ำกว่าพระเอกสักเท่าไหร่ หากเราดูพวกฮาเร็มดีๆ  เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่ฮาเร็มจะเป็นผู้หญิงที่มีสถานะสูงกว่าพระเอกทั้งสิ้น แฟนตาซี ก็จอมเวทย์โครตยิ่งใหญ่, เทพธิดา ไม่ก็เจ้าหญิง สาเหตุง่ายๆ คือความท้าทาย ยิ่งท้าท้ายมากก็ยิ่งฟิน

                    ยิ่งสาวใดปักธงยากมากแค่ไหน คุณค่าของฮาเร็มก็จะยิ่งมากขึ้น แต่ฮาเร็มของพระเอกเรื่องนี้ไม่ท้าทายเลย ปักธงนิดหน่อยรักเลย บางคนก็รักพระเอกเพราะเป็นขุนนาง บางคนคุยไม่กี่วันก็เอากันแล้ว มันเป็นอะไรที่จืดมากสำหรับผม ยิ่งสาวไม่บริสุทธิ์ เพราะไม่บรรลุนิภาวะ ก็มีเพศสัมพันธ์ ผมมองว่าพระเอกมันเงี่Xน มากกว่าจะรักใครจริงๆ จังมากกว่า (คือมันไม่มีความรู้สึกโรแมนติกแผ่มาจากเจ้าพระเอกนี้สักนิดเลย)

                    ฮาเร็มที่ดี เราจะต้องเห็นพระเอกทำอะไรเพื่อฮาเร็มบ้าง อย่างเช่นพวกนางมีประวัติดาร์กๆ อย่าง สาวมาโซเคยโดยอดีตคนรักใส่ร้าย และเป็นใหญ่เป็นโต แล้วถูกขายให้เป็นทาส ซึ่งพระเอกซื้อไว้เพื่อช่วยเหลืองาน รูทนี้จะฟิน สะใจมาก หากพระเอกคืนความยุติธรรมให้สาวคนนี้ แล้วลากอดีตแฟนนั้นมันรุมยำ  แต่เชื่อไหมครับหลังพระเอกรู้เรื่องเหล่านี้ พระเอกไม่ทำอะไรเลย ไม่คืนความยุติธรรมอะไรให้สาวคนนั้น แถมปล่อยอดีตแฟนสาวคนนั้นลอยหน้าลอยตาอีก ผมโครตหงุดหงิดเลย ซึ่งก็มีหลายรูทที่พระเอกปักธงได้แย่ และเลี่ยนมากๆ เชื่อผมเถอะ

                    อย่างที่ผมบอกเอาไว้ เมื่อผู้หญิงมีสถานะต่ำต้อยกว่าพระเอก ปักธงง่ายเกินไป บทของพวกเธอน้ำหนักมันก็น้อยอีก  มี และนั้นทำให้ฉากที่พระเอกเธอจัดคิวว่าคืนนี้ใครจะเป็นคู่นอนพระเอก ผมยอมรับเลยไม่รู้สึกฟิน หรือรู้สึกอิจฉาสักนิด เพราะพระเอกไม่แสดงให้เห็นเลยว่าฮาเร็มของเขานั้นมีคุณภาพแต่อย่างใด เพราะพระเอกทำ มันก็ไม่แตกต่างจากขุนนางทั่วๆ ไปที่มีฮาเร็ม (คนที่เป็นขุนนางแค่ทำดีหน่อยกับผู้หญิงก็มีฮาเร็มแล้ว)   มันไม่อิจฉามันเลย  แถมทำให้หลายคนมองฮาเร็มไปทางด้านลบชัดๆ  ฮาเร็มมันต้องพิเศษกว่านี้ มันต้องไม่เหมือนใคร และให้คนอ่านอิจฉาได้ด้วย

                    อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการวิจารณ์ในเว็บ ไม่ได้เป็นรูปเล่ม เท่าที่ดูรูปเล่มนั้นจะแตกต่างไปจากเว็บโดยสิ้นเชิง (โดยเฉพาะคาแร็คเตอร์ตัวละครหลัก ซึ่งเคะกว่าที่คิด (โดยในเว็ยบก็ไม่ค่อยบรรยายรูปร่างตัวละครละเอียดอยู่แล้ว แถมมีภาพ CG ตัวละครที่ออกแบบผู้หญิงแต่ละคนอารมณ์นักรบอเมซอนอีก พอเคะเลยรุ้สึกแปลกๆ) ซึ่งโดยส่วนตัวหากใครอยากเห็นตัวอย่างดีๆ ในการแต่งนิยายบริหารบ้านเมือง สงคราม ความรัก นิยายเรื่อง (ในเว็บ) นี้ไม่ใช่คำตอบที่ดีในการจะมาใช้เป็นตัวอย่างมากนัก



    Kyuuketsu Hime wa Barairo no Yume o Miru

    ก็มาถึงนิยายเว็บเรื่องสุดท้ายที่จะหยิบมาบ่นในบทความนี้ กับนิยายเรื่อง Kyuuketsu Hime wa Barairo no Yume o Miru หรือ “ความฝันสีกุหลาบของเจ้าหญิงแวมไพร์ (หรือเอาง่ายๆ ก็ เจ้าหญิงแวมไพร์”) ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายโอเวอร์ลอร์ด

    Kyuuketsu Hime wa Barairo no Yume o Miru เป็นเรื่องราวของพระเอกคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หากแต่กลายเป็นว่าเขากลับเกิดมาใหม่ในร่างของเจ้าหญิงแวมไพร์โลลิโมเอะ ตัวละครเทพที่เขาสร้างในเกมออนไลน์ “Eternal Horizon Online” และเขาไม่ได้มาตัวเปล่า เพราะพลังสกิล ทรัพย์สิน (เงิน, ปราสาทลอยฟ้า) และบรรดาสัตว์เลี้ยง (เทพ, มาร, มังกร) ก็มากับเขาด้วย

    และเมื่อพระเอกตั้งสติได้ก็พบว่าบรรดาสัตว์เลี้ยงของเธอนั้นเทพกว่าเธอหลายขุม แถมแต่ละตัวนั้นจงรักภักดีและคาดหวังให้พระเอกนำพวกมันสู่สงครามเพื่อยึดครองโลก แถมโลกที่พระเอกตื่นนั้นไม่ใช่โลกที่เขารู้จักหากแต่เป็นโลกแฟนตาซียุคกลางที่พบเห็นทั่วไป และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์วุ่นวายของต่างไหลมาหาพระเอกในร่างสาวน้อย

                    เจ้าหญิงแวมไพร์น่าจะเป็นนิยายเว็บชายกลายเป็นหญิงที่ค่อนข้างเข้าท่าในเวลานี้ (อีกเรื่องหนึ่งที่เข้าที่เข้าท่าก็ ปราชญ์โลลิ Professed Herself The Pupil Of The Wiseman) ปกตินิยายเว็บส่วนมาก แม้ตัวเอกชายจะเปลี่ยนหญิงที่บอบบาง โลลิ น่าทะนุถนอม แต่ไม่ค่อยแสดงจุดเด่นของฉากเซอร์วิสของความโลลิเลย ส่วนใหญ่ก็ยังคงวนเวียนกับการเก็บเลเวลอยู่ดี แต่เจ้าหญิงแวมไพร์นั้นอย่างน้อยก็มีเรื่องราวสอดแทรกบ้าง แม้เนื้อหาจะคล้ายๆ โอเวอร์ลอร์ด แต่เจ้าหญิงแวมไพร์แม้จะเย็นชา แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้คิดถึงคิดถึงแต่พ้องพร้อมของตนเอง  หรือเอาแต่ได้อย่างเดียว เพราะบางมุมก็ช่วยเหลือคนในโลกแฟนตาซีอยู่บ้าง

    โดยส่วนตัว เรื่องนี้แสดงความน่ารักของพระเอกที่เปลี่ยนร่างโลลิได้ดี มีเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราว ที่ชอบคือตอนสั้นคั่นตอน ที่เป็นเรื่องราวของตัวละครประกอบ แม้จะไม่เกี่ยวสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่อง แต่มันก็ช่วยให้มีความรู้สึกตัวละครในเรื่องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความจงรักภักดีของมอนสเตอร์ต่อเจ้าหญิงแวมไพร์ว่าจงรักภักดีจริงๆ ไปจนถึงประวัติชีวิตของพระเอกสมัยยังเป็นมนุษย์ในโลกเดิมที่นิยายหลายเรื่องมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไป ถือว่าเป็นนิยายที่สนุกใช้ได้เลย

    (ขอนอกเรื่องหน่อย โดยส่วนตัวผมไม่ชอบพระเอกเปลี่ยนเป็นหญิงมาหลงรักตัวละครชายมากนัก เพราะในเมื่อในเรื่องนั้นตัวละครหญิงแจ่มๆ ทั้งนั้น ซึ่งคนอ่านผู้ชายส่วนมาก อยากเห็นพระเอก (ที่เป็นหญิง) ปักธงผู้หญิงมากกว่า พอมารักกับตัวละครชายที่หลายคนไม่อยากอวย (อย่างน้อยก็ผมแหละ) มันเสียความรู้สึก)

    สรุปคือ ค่อนข้างสนุก น่าติดตามมากครับ


     


                    ก็จบการแนะนำนิยายเว็บครบ 10 เรื่อง ซึ่งน่าจะครบทุกแนวแล้ว (ยกเว้นแนวออนไลน์) ปัจจุบัน แนวนิยายเว็บ-นิยายเกิดใหม่ในต่างโลกกำลังมีอนาคตสดใส เพราะจากอันดับนิยายไลท์โนเวลต่างโลก อันดับหนึ่งยังคงเป็นเรื่องยัยเทพธิดาไม่ได้เรื่องที่มียอดขายแสนกว่าเล่ม นอกจากนี้ก็มีนิยายเว็บสองสามเรื่องที่ติดอยู่เหมือนกัน ด้วยยอดขายเป็นหมื่นเล่ม ซึ่งไม่ช้าเราอาจได้เห็นอนิเมะแนวเกิดใหม่ต่างโลกมากขึ้นก็เป็นได้

    ในทางกลับกันในเมื่อมันก็ฮิตมาก มันก็เฟ้อมาก ล่าสุดงานประกวดนิยายสั้นของ Bungaku Free Market และ Shousetsuka ni Narou ประเทศญี่ปุ่น ประจำปีนี้ถึงกับได้ประกาศกฎกติกาประจำการว่าทางงานไม่รับผลงานที่เกี่ยวเนื่องจากการ เกิดใหม่ในต่างโลก หรือ ข้ามมิติไปต่างโลก แสดงให้เห็นว่าที่ญี่ปุ่น แม้ว่าเนื้อหามันจะดี สร้างสรรค์ก็ตาม

    อย่างไรก็ตาม นิยายเกิดใหม่ในต่างโลกก็ยังเป็นที่นิยมในเว็บ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น หรือไทย แต่กระนั้นก็มีทั้งสร้างสรรค์ ไม่สร้างสรรค์ สูตรสำเร็จ ซึ่งก็แล้วแต่ละคนว่าคุณจะสร้างโลกของคุณยังไงให้น่าสนใจ


     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×