คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : มิไรนิคคิ (Mirai Nikki) อนาคตที่แสนน่ากลัว
“นี้คือการ์ตูนแนวเซอร์ไวเวิ่ลที่น่าดูเรื่องหนึ่ง”
มิไรนิคคิ (Mirai Nikki) บันทึก (ประจำวัน) แห่งอนาคต
The Future Diary
ผู้แต่งซาคาเอะ เอสุโนะ
8 เล่มยังไม่จบ แต่คาดว่าคงจะจบเร็วๆ นี้ (มั้ง)
http://www.thaimanga.net/view/126/mirai_nikki/
(อังกฤษ)
http://www.onemanga.com/Mirai_Nikki/
เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น วาดและแต่งเรื่องโดย ซาคาเอะ เอสุโนะ และได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์สยาม และที่ญี่ปุ่นมีภาคเสริมเนื้อเรื่องโดยใช้ชื่อว่า มิไรนิคคิ:โมเสก และ มิไรนิคคิ:Paradox
ซาคาเอะ เอสุโนะนั้นเป็นนักเขียนที่มีจุดเด่นคือเขาผสมเรื่อง สยองขวัญ, แอ็คชั่น, เหนือธรรมชาติ, โรแมนซ์และด้านมืดของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
ส่วนลายเส้นของนักเขียนคนนี้ ผมว่ามีเอกลักษณ์ดีนะ
มิไรนิคคิ หรือบันทึกประจำวันแห่งอนาคต เป็นเรื่องราวของอามาโนะ ยูกิเทรุ งานอดิเรก คือการเขียนบันทึกสิ่งที่ตัวเองนั้นได้พบเห็น ลงมือถือ ยูกิเทรุ เป็นที่ชอบเก็บเงียบคนเดียว ทุกวันเขาจะนั่งคุย กับ "เดอุส พระเจ้าแห่งห้วงเวลา " ซึ่งเขาคิดว่า เป็นแค่จินตนาการของเขา แต่เมื่อวันหนึ่ง เดอุส กลับมอบ สิ่งที่ ทำให้ ยูกิเทรุ นั้น สามารถ เห็นข้อความที่ตัวเองจะเขียน ในอนาคตได้ เรียกว่า "ผู้ครอบครอง "!!
ขณะที่ยูกิเทรุ นั้นกำลังดีใจและสนุกสนามกับ สิ่งที่ตัวเองได้ นั้นทุกอย่างในชีวิตดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ในเวลาต่อมา ยูกิโทรุก็พบ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ "กาไซ ยูโนะ " ที่เธอล้วงรู้ว่าเขานั้น สามารถรู้อนาคตได้ เนื่องจาก ยูโนะ เองนั้น เป็น"ผู้ ครอบครอง" อีกคนหนึ่งนั้นเอง เมื่อแรก ยูกิเทรุ นั้นคิดว่า ยูโนะ จะฆ่าเขา แต่เรื่องกลับกัน ยูโนะ นั้น แอบชอบยูกิเทรุ แต่ คอย สโต๊กเกอร์ ยูกิเทรุ เสมอมา โดน สิ่งที่เธอนั้นได้ครอบครองคือ "เธอสามารถ รุ้เรื่องของยูกิเทรุ ได้ทุกสิบนาที " และเธอนั้น จะพยายามคุ้มครองยูกิเทรุ จากผู้ครองครองอื่น !!! ซึ่งที่จริงมันเป็นแผนของพระเจ้าที่จะหาผู้สืบทอดมารับช่วงต่อจากตน โดยให้ผู้ที่ได้รับไดอารี่คนอื่นๆมาต่อสู้และฆ่าฟันกัน เกมแห่งการฆ่าฟันได้เริ่มขึ้นแล้ว !!
จากนั้นยูกิเทรุก็เริ่มเข้าใจว่าบันทึกนั้นได้เปลี่ยนชีวิตเขาจาก "ผู้ชม" กลายเป็น "ผู้เล่น" โอกาสของยูกิเทรุในการเอาชีวิตรอดในเกมมรณะนี้มีน้อยมาก ความสามารถพิเศษของยูกิเทรุที่ใช้ได้ในการต่อสู้มีเพียงอย่างเดียวคือความแม่นยำสูงในปาลูกดอก และความสามารถการทำนายอนาคตสิ่งแวดล้อมรอบๆ เท่านั้น และเมื่อมีสัญญาณชี้ให้เห็นว่า “เขาจะตาย” เมื่อไหร่ยูกิโทรุจะต้องถูกยูนะช่วยปกป้องทุกครั้งไป และทั้งคู่จะสามารถรอดจากเกมอำมหิตนี้ได้ไหมก็ติดตาม(เอาเอง)เถอะ
หลังได้อ่าน ผมขอเล่าสปอยแค่เล่ม 1 และ 2 นะครับ แน่นอนมันเป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาความรุนแรงมาก ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานอย่างรอบคอบ แต่ถ้าถามว่าโหดไหม คำตอบคือไม่โหด ไม่ถึงขั้นเลือดสาดสยอง แต่จะหนักตรงปมหลังของตัวละครแต่ละตัวที่เอาปัญหาต่างๆ ของญี่ปุ่นมารวมกันตามแบบของคนเขียน ซึ่งเราได้เห็นแนวแบบนี้ในเรื่อง “อานาโกะไปแล้ว”
ปัญหาของตัวละครที่ว่ามีทั้งนามธรรมและรูปธรรม บางอันแรงมาก..........
เริ่มจากแนว พูดง่ายๆ คือการ์ตูนแนว “แนวเซอร์ไวเวิ่ล” (ผู้รอดคนสุดท้ายจะเป็นผู้ชนะ)ปกติการ์ตูนแนวๆ แบบนี้เป็นที่นิยมอยู่แล้วที่นำจะมาเขียนและหวังให้คนมาติดตาม ซึ่งการ์ตูนที่ได้รับความนิยมจากแนวนี้ก็เช่นเรื่อง ชาแมนคิง, กั๊ซเบล, ผ่ากฎ, ไนท์ฯหรือแม้แต่เกมนรกโรงเรียนพันธุ์โหด ที่มีจุดเหมือนกันๆ คือพระเอกอ่อนแอในตอนแรก แต่เมื่อต่อสู้นานๆ เข้าก็จะเริ่มเก่งขึ้น เก่งขึ้น ผลสุดท้ายก็ตัดสินครั้งสุดท้ายกับเหล่าร้ายที่เหลือรอดอยู่ ซึ่งเนื้อหาเรื่องบันทึกมรณะก็ประมาณนี้แหละ แต่จะต่างจากเรื่องเหล่านี้ตรงที่ใส่สิ่งที่ไม่เหมาะแก่เด็กๆ ลงไปค่อนข้างเยอะ เช่น มีประเด็นสังคมที่ค่อนข้างล่อแหลม ฉากโหด อีโรติก โรคจิต ฉากเซอร์วิสก็พอควร(ไม่ลามกนะ) เรียกได้ว่ามีครบทุกรส และจุดเด่นคือมีฉากต่อสู้ที่เน้นเอาตัวรอด ชนิดถึงพริกถึงขิง แต่ไม่บ้าพลังเหมือนเรื่องที่ผมยกตัวอย่างแน่นอน
อามาโนะ ยูกิเทรุ(1st) ชื่อเล่นยุกกี้ เด็กผู้ชายธรรมดา ชอบใส่หมวก(น่ารัก กรี๊ดๆๆ) ซึ่งชอบหลีกเลี่ยงปฏิสัมพันธ์ทุกอย่างและชอบเพียงแต่สังเกตการณ์ และเมื่อเขาเข้าร่วมเกมมรณะแบบบังคับ เราจะเห็นด้านมืดในจิตใจเขามากขึ้น เขาเป็นเด็กขี้แย้ ขี้ขลาด ชอบโยนภาระมาให้ผู้อื่น โทษคนอื่น หาสิ่งสบายเข้าตัว ใช้ประโยชน์คนอื่น(แล้วคนอื่นก็ใช้ประโยชน์กับเขาอีกที) แต่เราจะว่ายูกิโทรูเป็นคนไม่ดีไม่ได้ เพราะมันเปรียบเสมือนด้านมืดของคนปกติที่มีอยู่ในตัวเราทุกคนอยู่แล้ว ถ้าสมมุติเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคุณละคุณจะเป็นเหมือนยูกิไหม ที่อยู่ดีๆ เรารู้อนาคตว่าอีกไม่นานเราจะตาย ตายโหดด้วยไม่ใช้ตายสบาย เราจะทำอย่างไรดีละ ผลสุดท้ายเราก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อมีชีวิตรอดต่อให้จะฆ่าคนเหมือนยูกิโทรุก็ตาม
อามาโนะ ยูกิเทรุเปรียบเสมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไปในญี่ปุ่นที่มีกำลังมีปัญหาเวลานี้ คือครอบครัวหย่า แม่ไม่เอาใส ทำให้เด็กขาดความอบอุ่น จะกลายเป็นเด็กเก็บกด ชอบอยู่ในห้อง และสร้างโลกจินตนาการเพื่อหลีกหนีความจริงที่โหดร้ายในสังคม แต่ลึกๆ แล้วยูกิเทรุอาจเป็นเด็กมีปัญหาที่ต้องการใครสักคนมาปรึกษา ก็ได้ ยกตัวอย่างในการ์ตูนเราจะเห็นว่าใครก็ตามที่มาขอเข้าพวกกับยูกิเทรุ เขาจะเชื่อคนๆ นั้นอย่างสนิทใจ ยอมให้อีกฝ่ายทำตามอย่างไม่ลังเล โดยไม่สนว่าท้ายสุดแล้วเขาจะต้องโดนหักหลังหรือเปล่า
นอกจากนี้สิ่งที่ผมได้เรียนรู้กับยูกิเทรุคือ เขาเป็นคนที่มีความส่วนตัวสูงมากๆ ซึ่งความจริงแล้วนี้คือนิสัยส่วนใหญ่ของคนญี่ปุ่น ยกตัวอย่างที่ผมเล่าไปแล้วในตอน “ภาพผีเฮี้ยน” สังเกตไหมภาพภาพผีที่ผมยกตัวอย่างมามีการปิดหน้าปิดตาผู้ถ่ายในภาพไม่ว่าด้านหน้าหรือด้านหลังในขณะที่ภาพถ่ายผีในไทยไม่มีการปิดหน้าเลยสักนิดทั้งนี้เพราะญี่ปุ่นมีนิสัยมีความเป็นส่วนตัวสูง เขากลัวหน้าเขาเอาไปตัดต่อหรือไปทำอะไรไม่ดีมิร้าย
ดังนั้นเราจะไม่แปลกอะไรเลยที่ยูกิเทรุจะนึกรังเกียจยูนะ แม้ยูนะจะน่ารักเก่งแต่เธอได้ข้ามเขตแดนส่วนตัวของยูกิเทรุมากเกินไป ผลคือความรักของทั้งคู่ก็ยังคงก้ำกึ่งอยู่นั้นแหละ
ส่วนประเด็นที่ว่ายูกินั้นขี้แยและขี้ขลาดเกินไปที่จะฆ่าใครลงนั้น ก็ขอบอกว่ายูกิเทรุนั้นไม่ขี้ขลาดเลย เขาเก่งกว่าโนบิตะด้วยซ้ำ เราจะเห็นพัฒนาการความกล้าของยูกิเทรุที่มากขึ้น(ที่เป็นพัฒนาการด้านไม่ดี)เวลาที่เขาฆ่าคนอื่นมากๆ ยูกิจะเริ่มเข้มแข็งขึ้น จนเริ่มเห็นการฆ่าเป็นเรื่องธรรมดา แม้การฆ่าเขาเขานั้นจะเป็นการฆ่าเพื่อเอาตัวรอดมากกว่าโรคจิตก็ตาม
เหมือนหนึ่งในทฤษฏีฆาตกรต่อเนื่องที่ว่า ครึ่งแรกเมื่อฆาตกรฆ่าเหยื่อคนแรกฆาตกรคนนั้นจะกล้าๆ กลัว หลายอย่าง เช่นกลัวเหยื่อต่อสู้ กลัวตำรวจจับ แต่เมื่อลงมือฆ่าเหยื่อรายแรกได้สำเร็จ แล้วตำรวจไม่เคลื่อนไหว และเขาไม่รู้สึกจับ ฆาตกรคนนั้นจะเริ่มกล้ามากขึ้น จนเขาฆ่าเหยื่อที่สอง และเมื่อฆ่าเหยื่อรายที่สองเขาจะเริ่มคิดว่าเป็นเรื่องที่สนุก สยาม ชอบ และความสนุกตื่นเต้นนี้ส่งผลให้ฆาตกรฆ่าเหยื่อรายที่สาม และเมื่อฆ่าเหยื่อรายที่สามฆาตกรก็เริ่มคิดว่าตนเองเป็นพระเจ้าสามารถกำหนดความเป็นความตายกับคนธรรมดาได้ เขาจะฆ่า ฆ่า ฆ่า เหยื่อต่อไปอย่างไม่จบสิ้น จนกว่าฆาตกรคนนั้นจะถูกจับ
ดูเหมือนว่าผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้จะเข้าใจทฤษฏีฆาตกรต่อเนื่องนี้ดี เลยได้กำหนดให้มีพระเอกอ่อนแอแบบนี้ แทนที่จะให้พระเอกแข็งแกร่งและเก่งแบบสำเร็จรูปมาใช้ ผลออกมาทำให้เราได้ลุ้นว่ายูกิเทรุผู้อ่อนแอจะเอาตัวรอดได้ไหม และพัฒนาการของเขาจะเป็นอย่างไรในอนาคต
กาไซ ยูโนะ(1st) ฉายาเธอหนูขวานคู่แข่งหนูปังตอ เด็กผู้หญิงเพื่อนร่วมห้องเดียวกับยูกิเทรุที่ดูเหมือนจะเพรียบพร้อมไปทุกด้าน ทั้งการเรียนและการกีฬา บุคลิกหน้าตา ไหวพริบและสติปัญญาอันชาญฉลาด แต่เธอก็มีด้านมืดในจิตใจเหมือนกัน เพราะผู้ ไม่มีใครคิดว่าเบื้องหลังของเด็กผู้หญิงที่ดูสมบูรณ์พร้อมอย่างยูโนะ จะเต็มไปด้วยจิตใจอันผิดปกติ ความคิดและความรู้สึกอันสุดโต่ง และความหลงไหลอย่างผิดปกติต่อยูกิเทรุ เช่นเรียกว่าสโตเกอร์ยังอาย และเธอฆ่าทุกคนที่เข้ามาใกล้กับยูกิเทรู ใครก็ตามที่จะมาขัดขวางความรักของเราทั้งคู่ เธอจะจัดการหมด ไม่ว่าเพื่อน หรือแม่ของเจ้าตัวเองยูกิก็ตาม (ในเนื้อเรื่องแม่พระเอกยังไม่โดนจัดการ แค่"เกือบ"โดนจัดการ)
อามาโนะ ยูโนะ(2st) เทรุเปรียบเสมือนวัยรุ่นที่มีปัญหา เวอรชั่นผู้หญิง ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเบื้องหลังครอบครัวของเด็กหญิงเหล่านี้เป็นอย่างไร(ผมอ่านแค่เล่ม 2) แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ผมได้เห็นคือ เธออยู่บ้านหลังคนเดียว บ้านที่ถูกตัดไฟและน้ำ มันช่างเหมือนบ้านเอ็ดดี้ กีน เป็นบ้า บางทีเธออาจมีบุคลิกเอ็ดดี้ กีนก็ได้ คือเธอเหงา เธออยากได้เพื่อนสักคนมาช่วยแรกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือระบายความทุกข์ให้แก่กันและกัน ซึ่งหน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของครอบครัว แต่เมื่อยูโนะไม่มีครอบครัว สิ่งที่เธอต้องการคือการหาความรักจากคนรอบข้าง ไม่ว่าคนล่างข้างจะรังเกียจก็ตามเธอก็รับได้ และหวยก็ออกมาที่ตัวยูกิ ที่ยูโนะแอบหลังรักเขาด้วยเหตุผลเล็กๆ น้อยเคือเธอคิดว่าเราทั้งสองมีความเหมือนกันคือขาดความอบอุ่นในครอบครัว ยูโนะพยายามที่จะเข้ามาในชีวิตของยูกิโทรุทุกรูปแบบ โดยใช้ความรัก(ที่เกินเหตุ)เพื่อให้ยูกิเทรุใจอ่อน (น่ารัก กริ๊ดๆ อยากให้ยูนะปกป้องเฮียบ้าง..)
หลังๆ เราจะเห็นด้านมืดของยูโนะมากขึ้น เธอได้เปลี่ยนความรักเป็นความหึงหวง ความหึงหวงเปลี่ยนมาเป็นฆ่าเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก(ข้างเดียว) โดยไม่สนว่าเธอจะฆ่าคนสักกี่คนก็ตาม
ส่วนใหญ่ฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นคู่ๆ นั้นเลย ในทางทฤษฏีมีหลายตัวอย่าง เช่น ผู้ชายโหด-หญิงอ่อนแอ, ผู้ชายโหด-หญิงฉลาด, ผู้ชายอ่อนแอ-ผู้หญิงวางแผน แต่แต่กรณีคู่รักยูกิ-ยูโนะ ในโลกแห่งความจริงนี้แทบเรียกว่าไม่มี มีไหมที่ฝ่ายหญิงจะเป็นฝ่ายฆ่าฝ่ายเดียว ส่วนฝ่ายชายเป็นคนมองเฉยๆ(??)
แต่สิ่งที่เราได้เห็นชัดเจนคือยิ่งยูกิและยูโนะฆ่าคนมากยิ่งขึ้น ความรักของทั้งคู่ก็เริ่มเพิ่มขึ้น ชนิดเรียกว่าไม่สามารถแยกจากกันได้ ซึ่งตรงกับทฤษฎีฆาตกรต่อเนื่องในกรณีของเรยมอนด์ เฟรอ์นันเดช กับมาร์ธา เบค(Rayomond Fernandez & Martha Beck) ที่ทั้งสองสารภาพว่าพวกเขาสังหารมนุษย์ไปถึง 19 ศพ ด้วยเหตุผลที่ว่ายิ่งพวกเขาฆ่า พวกเขาก็ยิ่งมีความรักและความผูกพันอย่างแนบนิ่งขึ้น
ฮิยามะ ทาคาโอะ(3rd) อาจารย์ในโรงเรียนเดียวกับยูกิเทรุ ซึ่งเป็นฆาตกรต่อเนื่องหลังจากได้รับบันทึกแห่งอนาคต พยายามไล่ฆ่ายูกิเทรุแต่ไม่สำเร็จ และถูกฆ่าเสียเอง
สิ่งที่ผมเห็นในตัวฮิยามะคือเขาประมาท เขาพึ่งความสามารถมากเกินไป เหมือนมนุษย์ที่หวังแต่เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยปัญหา มนุษย์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการชีวิตมากเกินไป เช่นระบบธนาคารก็ใช้คอมพิวเตอร์ ค่าน้ำค่าไฟก็ใช้คอมพิวเตอร์ ระเบิดนิวเคลียส์ก็ใช้คอมพิวเตอร์ โดยไม่สนว่าวันข้างหน้ามันอาจนำหายนะแก่เรา ตัวอย่างก็เช่นปัญหา Y2K ที่เคยวุ่นทั้งโลกมาแล้ว
คุรุสึ เคย์โง(4rd) สารวัตรฝีมือดีประจำสถานีตำรวจซากุรามิ ได้ช่วยเหลือยูกิเทรุจากการก่อวินาศกรรมของผู้ถือครองบันทึก ได้ร่วมมือกับยูกิเทรุและยูโนะในการต่อสู้กับผู้ถือครองคนอื่นๆ
คนนี้ผมไม่ขอพูดถึง แต่เล่มหลังๆ คงกล่าวถึงตัวเขามากขึ้น และเราจะดูรู้จักคำว่า “จูดาส”
อุริว มิเนเน่(9rd) มิเนเน่เป็นผู้ก่อการร้ายระดับโลกในรูปร่างหญิงสาวที่ดูบอบบาง แต่งตัวก็ไม่เหมือนผู้ก่อการร้ายสักนิด เหมือนเจ้าหญิงมากกว่า.... เป็นเชี่ยวชาญด้านวางระเบิด และเคยคิดฆ่ายูกิและยูโนะมาแล้ว
รู้สึกว่าตัวละครสาวตาเดียวจะฮิตมากในการ์ตูนญี่ปุ่น เราได้เห็นตัวละครแนวๆ แบบนี้จากการ์ตูนหลายๆ เรื่อง แต่ก็เอาเถอะนะ ก็มันน่ารักนี้น่าไม่ว่ากัน
ตอนที่มิเนเน่ออกมาครั้งแรก เราได้เห็นฉากการสังหารหมู่ในโรงเรียนที่สุดมันที่สุดในการ์ตูนสมัยใหม่ แสดงตัวตนให้เห็นเลยว่าเธอเป็นคนที่เห็นความตายเป็นเรื่องปกติ และชอบเสียมากเพื่อแรกกับเสียน้อย และมองสิ่งชีวิตเหมือนมดปลวก ยิ่งเล่มหลังๆ เราจะรู้จักตัวตนของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ คือเธอเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ตายในสงครามระหว่างศาสนา จนเป็นเหตุให้มิเนเน่ไม่เชื่อในพระเจ้า และพยายามที่จะทำลายล้างทุกอย่างที่เกี่ยวกับพระเจ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเขียนพยายามจิกกัดประเด็นศาสนา ไม่ใช้ว่าศาสนาเป็นเรื่องไม่ดี แต่ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ต่างหากว่าเราจะใช้ศาสนาเพื่อทำอะไรต่างหาก
จากนั้นมิเนเน่หายูกิเทรุและพยายามฆ่าเป็นรายแรกหลังจากเริ่มเกมอย่างเป็นทางการ มิเนเน่วางระเบิดจำนวนมากไว้ในโรงเรียนของยูกิเทรุ และควบคุมการระเบิดเพื่อดักให้ยูกิเทรุติดกับ แต่ภายหลังแผนก็ล้มเหลวจากการร่วมมือของ ยูกิเทรุ ยูโนะ และเคย์โง และพลาดท่าเสียตาข้างหนึ่งให้ยูกิเทรุ แต่สามารถหนีไปได้จากความสามารถของบันทึกแห่งอนาคตของตนเอง
ภายหลังมิเนเน่ก็ถูกจับโดยสึบากิผู้ครองบันทึกอันดับ6 และเราได้เห็นอยากเซอร์วิสที่แสนจะอุๆ ถูกใจเฒ่าหัวงูทั้งหลาย และภายหลังเธอก็ร่วมมือกับยูกิกับเทรุ สบายใจได้ บทบาทของเธอยังมีอีกเยอะ เพราะเธอเป็นที่นิยมนี้น่า
คาสึกาโนะ สึบากิ(9rd) มิกะผู้มีตาทิพย์เจ้าลัทธิโอเมคะตะเคียว ที่หลอกใช้ประโยชน์ยูกิเทรูและยูโนะ ภายใต้หน้ากากของเจ้าลัทธิที่น่าตาน่ารักที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก กลับมาอดีตที่แสนจะเหลือเชื่อเธอมีชีวิตเหมือนสิ่งของอยู่ในกรงที่มืดมด และเป็นแท้ที่จริงเป็นเพียงของเล่นให้กับคนในลัทธิย่ำยี จนเป็นเหตุให้สึบากิมีความพยาบาทอยากจะทำลายล้างโลกให้สูญสิ้น
แน่นอนสึบากิเปรียบเสมือนตัวแทนของลัทธิของญี่ปุ่นปัจจุบันซึ่งตอนนี้คนญี่ปุ่นหลายคนนับถือลิทธิเหล่านั้นมากกว่าศรัทธาศาสนาเก่าของตน ลัทธิเหล่านี้เปรียบเสมือนธุรกิจชนิดหนึ่งที่หวังเงินมากกว่าจะให้คนพ้นทุกข์ สืบเลือดสูบเนื้อคนเหมือนของเล่น แต่เราจะไปว่าคนที่โดนหลอกได้ได้ เพราะว่าตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังสับสนเรื่องศาสนา ตอนแต่งงานใช้วิธีแต่งงานแบบชาติตะวันตก ตอนปีใหม่ก็กราบไว้ตอนศาสนาเจ้า ศาสนาพุทธของญี่ปุ่นกลายสภาพเสมือนธุรกิจอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น จะเป็นเหตุให้หลายคนในสังคมญี่ปุ่นขาดความเชื่อมั่นศาสนาเดิมของตน จนเปิดโอกาสให้ลัทธินอกรีบเหล่านั้นเข้ามาในชีวิตของคนเหล่านั้น
เราจะเห็นสึบากิแสดงตนออกมาเหมือนเป็นคนเจ้าเล่ห์ ใช้ประโยชน์คนอื่น และกระทำเสมือนหญิงบริการราคาถูกๆ แต่ถ้าเรามองลึกๆ แล้วเธอช่างน่าสงสาร เป็นเหยื่อของคนในลัทธิ และเป็นเหยื่อในสังคมพิกลพิการของญี่ปุ่น
ฮิราซากะ โยโมทสึ(12rd) ชายตาบอดผู้ซึ่งรักความยุติธรรมเป็นชีวิตจิตใจ มีความสามารถในการฟังเสียงได้ดีมาก ใช้บันทึกของตัวเองเพื่อรักษาความยุติธรรมในมุมมองของตัวเอง และยังสามารถสะกดจิตคนหมู่มากได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย หลังจากการพยายามฆ่าผู้ครองบันทึกคนอื่นๆในเหตุการณ์ที่ลัทธิโอเมคะตะเคียวไม่สำเร็จก็พยายามฆ่าตัวตายพร้อมกับยูกิเทรุ แต่ก็ถูกยูโนะจัดการ
โยโมทสึเป็นตัวละครที่ผมชอบมาก ในการออกแบบที่แสนแปลกแหวกแนว และมีความสามารถพิเศษเวอร์ๆ ที่ดูเหมือนผู้ร้ายมากกว่าฮีโร่ด้วยซ้ำ การปรากฏตัวของเขาทำให้เราได้รู้ว่าบางที่คนที่เล่นเกมมรณะนั้นอาจมีคนดีๆ อย่างเขาก็เป็นได้ แต่การทำดีของโยโมทสึนั้นค่อนข้างสุดโด่ง บ้าเลือด เสมือนตอกย้ำว่าคนชั่วคือคนเลวเป็นบุคคลอภัย โทษคือความตายเท่านั้น นอกจากนี้ยังยึดมั่นว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกคนเดียว ฝ่ายผิดคือคนชั่ว คิดๆ แล้วเหมือนประเทศมหาอำนาจบางประเทศที่ใช้นโยบายเฟ้อฝันสะกดจิตคนในประเทศของตนให้คล้อยตามเพื่อหวังใช้ประโยชน์ในการบุกประเทศอื่นๆ โดยอ้างว่าตนคือความ “ถูกต้อง
โยโมทสึคือคนชั่วร้ายที่สุดในบรรดาคนที่ปรากฏตัวอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้ก็ว่าได้
สิ่งที่น่าสนใจในตัว โยโมทสึจะเห็นว่าที่คอล่างหน้ากากของเขามีแขวนคออยู่ และเราสังเกตตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องวอซแมนก็มีตัวละครตัวหนึ่งมีเชือกแขวนคอเช่นกัน(ชาโดว์แมน) สัญลักษณ์การแขวนคอนี้ผมไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่ถ้าเดาๆ คงหมายถึง “ผู้บริสุทธิ์,ง่ายดาย” อันเนื่องจากสมันก่อนการแขวนคอเป็นการประหารที่เก่าแก่มากเพราะรวดเร็วและง่าย และมีผู้บริสุทธิ์ตายเป็นจำนวนมาก บางคนก็ตายสบาย บางคนก็ตายเพราะทนทุกข์ทรมาน ซึ่งผมเดาว่าคนเขียนคงพยายามสื่อว่า “โยโมทสึเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ปกติไม่มีพิษมีภัยต่อสังคมด้วยซ้ำ แต่เพราะเขาได้รับพลังวิเศษ ตกเป็นเหยื่อของเกมมรณะ ผู้บริสุทธิ์ก็กลับกลายเป็นคนอันตรายจนได้”
ส่วนหมายเลขคนอื่นผมไม่กล่าวถึงครับ เพราะยังไม่ได้อ่าน แต่บอกได้ว่าแต่ละคนมีปมปัญหาชีวิตและโรคจิตเกือบทุกคน บางคนก็รักสุนัขสุดชีวิตรักยิ่งกว่าครอบครัว บางคนก็เป็นผู้มีชื่อเสียงแต่ใช้อำนาจในทางไม่ดี สรุปคือทั้งเรี่องมีแต่โรคจิต คนบ้าเหรอนี้
เราจะเห็นแต่ละคนเป็นคนช่างจดบันทึก แต่ละคนจดบันทึกเพราะวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่นยูกิโทรุจดบันทึกเพราะเขาชอบเป็นผู้สังเกตการณ์มากกว่าเป็นผู้เล่น, ยูโนะจดบันทึกเพราะเธอรักยูกิโทรุ,ทาคาโอะจดบันทึกเพื่อปกติสุขเมื่อได้ล่าเหยื่อ, โยโมทสึเธอสนใจเรื่องภายนอก การจัดบันทึกนั้นทำให้เราทราบได้ว่าลักษณะของบุคคลเหล่านี้ในเรื่องเป็นอย่างไร ซึ่งคนเขียนฉลาดมากในการนำเสนอจุดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
แต่น่าคิดเหมือนกันทำไมพระเจ้าในการ์ตูนเรื่องนี้จึงเจาะจงเรื่องบุคคลเหล่านี้เป็นผู้คัดเลือดเป็นพระเจ้า แต่ละคนต่างมีปมปัญหาชีวิต มีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการในชีวิตมากกว่าจะไล่ล่าฆ่าคน หรือว่าคนเขียนต้องการบอกนัยๆ ว่า ผู้นำบนโลกนั้นไม่มีใครสักคนหรอกที่เป็นคนดีทั้งกายและจิตใจ มันจะต้องประกอบด้วยความชั่วด้วย เพียงแต่ว่าเขาจะใช้ความชั่วนี้ให้ประเทศของเขานั้นเจริญได้หรือเปล่า ยกตัวอย่างเช่น จิ๋นซีฮ่องเต้ สตานลิน เหมาเจ๋อตุง ฯลฯ
แน่นอนจุดเด่นเรื่องนี้คือการใช้อนาคตมาเป็นเครื่องตัดสินของแต่ละคน อนาคตเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการอย่างมากในการรู้จักกับมัน ในอดีตมนุษย์พยายามหลายวิธีเพื่อรู้อนาคตให้ได้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จนเกิดศาสตร์ต่างๆ หลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น หมอดู, การทำนาย ,เครื่องข้ามอนาคต ฯลฯ โดยไม่รู้ว่าอนาคตวันข้างหน้าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี บางทีการไม่รู้อนาคตอาจเป็นเรื่องที่ดีกว่าก็ได้
แต่ดูเหมือนว่ามนุษย์เรานั้นจะชอบอนาคตในด้านไม่ดีมากกว่า เห็นได้จากทำนายของนอตตาดามุสที่ทำนายว่าปีนี้โลกจะแตก จนเป็นเหตุให้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ก็มีหลายศาสนา,ลัทธิเหมือนกันที่นำเสนอคำทำนายของตนว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าโลกจะแตกทางแก้คือมาศรัทธาศาสนาของตน เพื่อเป็นแรงจูงใจให้บุคคลภายนอกมาเข้าศาสนาของตนมากยิ่งขึ้น
บางทีการทำนาย การรู้อนาคตอาจเป็นเครื่องมือหนึ่งที่นำมาใช้ประโยชน์ของมนุษย์ก็ว่าได้
มนุษย์ที่ได้ยินคำทำนายเหล่านี้บางคนก็สิ้นหวัง รอความตายเป็นวันๆ หรือทำอะไรสักอย่างที่สุดโด่งที่จะตายเหมือนโยโมทสึ แต่ในขณะที่บางคนพยายามต่อสู้โดยหวังว่าอนาคตจะเปลี่ยนเหมือนกรณีของยูกิโทรุ เราได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่พยายามดิ้นรนเอาตัวรอดจากหายนะที่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถหนีมาได้ เพราะอนาคตถูกกำหนดแล้ว แต่ยูกิโทรุแสดงให้เห็นว่าเขาทำได้ อนาคตได้เปลี่ยนไปแล้ว ทำให้ผู้อ่านหลายคนที่ได้อ่านแล้วมีความหวัง จงสู้ชีวิตต่อไปนะยูกิโทรุและยูโนะด้วย
สรุปคือ เป็นการ์ตูน“แนวเซอร์ไวเวิ่ล”ที่มีอะไรน่าอ่านจริงๆ แฝงทั้งปัญหาสังคม ปัญหาของโลก และอะไรหลายๆอย่างที่คุณไม่สามารถหาได้จากการ์ตูนทั่วๆ ไป เชื่อผมเถอะ
ความคิดเห็น