ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crescendo ดนตรีรัก จังหวะร้าย (YaOi)

    ลำดับตอนที่ #20 : Rhythm 18 : Restart

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.32K
      3
      8 มี.ค. 53

     Rhythm 18 : Restart

     

     

                (Special Part : ตะวันขอแย่งซีนครับ ^^)

                ผมถอนหายใจเบื่อๆ สายตาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เกือบเที่ยงแล้วครับ อีกไม่นานก็จะถึงเวลาพักกลางวัน(โรงเรียนผมพักตอนเที่ยงสิบห้า)เสียงอธิบายของมิสที่อยู่หน้าห้องกลายเป็นเสียงหวี่ๆข้างหูที่ฟังแทบไม่รู้เรื่อง ผมรู้สึกไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเอาเสียเลย ซึ่งสาเหตุมันก็คงไม่ใช่อะไรนอกจากเรื่องเมื่อวาน

                เมื่อวานนี้...ผมโดนพวกไอ้ปลาบู่ชาร์กกับไอ้ส้วมซึมไล่กวดไปจนถึงสวนพฤกษา แถมยังเกือบจะโดนพวกมันรุมสกรัมอยู่แล้วครับ แต่ก็ดันมีคนที่ไม่คาดฝันโผล่ไปขัดตาทัพ

                พี่ม.ปลายคนนั้น...พี่กานต์

                อยากจะถามอยู่เหมือนกันล่ะครับว่าทำไมถึงโผล่หน้ามาขัดจังหวะได้ถูกซีนแบบนี้ แต่ก็อย่างว่า ยังไงเขาก็ช่วยผมเอาไว้ แถมยังช่วยพาไปทายาที่ห้องพยาบาลอีก

                ทั้งๆที่...ไม่จำเป็นเสียหน่อย

                เราเคยเจอกันแค่สองสามหนเท่านั้นเองครับ และเจอกันครั้งแรกก็เพราะพวกไอ้ปลาบู่อีกนั่นแหละ ผมหนีพวกมันเข้าไปซ่อนใต้โต๊ะโรงอาหาร ซึ่งบังเอิญว่ากลุ่มพี่กานต์เขามานั่งที่โต๊ะนั้นพอดี พี่กานต์ช่วยให้ที่ซ่อนกับผมจนพวกไอ้ชาร์กรามือเลิกไล่บี้ ทำให้ผมรอดไปได้แบบหวุดหวิด

                ครั้งที่สองก็ตอนเย็นวันเดียวกันนั้นนั่นแหละครับ น้ำฝนน้องสาวผมทำเรื่องจนพี่ชมรมบาสคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ผมได้คุยกับพี่เขาทีหลังจนรู้ว่าเขาชื่อ พี่ซีผมรู้สึก...เอ่อ...น่าจะเรียกว่าปลื้มมากกว่า...ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้ แต่พี่ซีก็ปฏิเสธผมอย่างเด็ดขาดด้วยเหตุผลที่ว่า มีคนที่ชอบอยู่แล้ว

                ผมหลงรักพี่ซีได้แค่ชั่ววูบ แล้วก็อกหักในวันเดียวกันนั้นเลยครับ(แอบเศร้านิดๆ แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรจริงจังนักหรอก)

                วันนั้นผมกลับบ้านกับพี่ซี เลยทำให้เจอกับ พี่วารุ่นพี่ม.3 เพื่อนพี่ซีที่ผมเห็นแวบๆว่าเป็นคนไปโรงพยาบาลกับพี่ซี 

                ผมรู้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นสายตาของพี่ซีว่าพี่วานี่แหละ...คนที่พี่ซีชอบ

                และก็...ใช่ครับ มันยิ่งตอกย้ำว่าผมคงไม่มีทางเปลี่ยนใจพี่ซีได้แหงๆ ผมเลยพยายามตัดใจตั้งแต่วันนั้น บางทีระหว่างวันผมก็เจอกับพี่ซีตามตึกนะครับ แต่ก็คุยเหมือนปกติ ไม่ได้พยายามเข้าไปตีสนิทมากเกินควร เพราะส่วนลึกๆที่อยู่ในใจมันก็ยังย้ำเตือนว่าพี่ซีก็เป็นเหมือนคนคนแรกที่ผมตกหลุมรัก

                จะว่า...รักครั้งแรก...ก็คงได้มั้ง...แต่มันช่างเป็นรักที่เกิดเร็วและไปเร็วเหลือเกิน - -

                อ่ะ กลับมาที่เย็นวันที่เจอกับพี่กานต์เป็นหนที่สองก่อน ทีแรกผมก็นึกว่าที่จะกลับด้วยกันมีแค่ผม พี่ซี แล้วก็พี่วา แต่ไหงพอพี่วาลงมาจากตึกถึงได้ลากรุ่นพี่อีกคนติดมาด้วยก็ไม่รู้ และรุ่นพี่คนนั้นแหละครับคือพี่กานต์

                ผมเห็นสายตาที่พี่กานต์มองพี่วา แล้วก็รู้ได้ในทันทีเลยว่า...เป็นสายตาแบบเดียวกับพี่ซี

                สายตาเวลามองคนที่รัก

                ...ซึ่งพี่ซีก็คงจะรู้ล่ะมั้ง พี่ซีถึงได้มีอาการหงุดหงิดเสียขนาดนั้น แถมยังลากพี่วาไปนั่งด้วย ไม่ยอมปล่อยตาพี่กานต์ให้เข้าใกล้พี่วาอีกต่างหาก(ที่จริงตอนนั้นก็แอบขำหน่อยๆนะ)

                ผมซึ่งหลุดเข้ามาอยู่ในสนามรบอันไม่บังควรจึงจำต้องนั่งกับรุ่นพี่ม.ปลายคนนั้นอย่างช่วยไม่ได้

                พี่กานต์...เป็นคนที่ระรื่นจนน่าโมโหครับ แถมตั้งแต่เจอหน้ากันพี่แกก็ไม่เคยเรียกผมด้วยชื่อจริงๆเลยสักครั้ง เอาแต่เรียกตัวเล็กๆอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จะย้ำหาอะไรนักว่าผมเตี้ย! เออ ก็รู้แหละว่าเตี้ย แต่ก็พยายามกินนมอยู่นี่ไงเล่า! ชิ!!

                ระหว่างเรามันไม่ได้มีความสนิทสนมกันอยู่เลย เทียบไม่ได้กับพี่วาด้วยซ้ำ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพี่กานต์ก็ชอบมีเหตุให้เข้ามาพัวพันกับผมอยู่เรื่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งใจหรือเปล่า แต่คนที่ผมมักจะเจอเวลาถูกกลุ่มไอ้ชาร์กไล่กวดก็มีแต่พี่เขาเนี่ยแหละ

                จะเรียกว่า...ดวงซวยๆมันสมพงศ์กันดีไหมนะ?(หัวเราะ)        

                พี่กานต์ใจดีกับผมมาก มากเสียจนน่าโมโห มากแบบที่ทำให้ผมรู้สึกว่า...จะมาทำแบบนี้ไปทำไมในเมื่อคนที่พี่กานต์ชอบคือพี่วา

                เพราะแบบนั้น ผมถึงได้รู้สึกผิดมาตลอดที่เผลอตวาดใส่หน้าพี่เขาไป

               

                รุ่นพี่อย่ามาทำตัวแบบนี้สิ

     

              ผมน่ะ...ไม่ต้องการความหวังลมๆแล้งๆหรอกนะ!

     

                เอ่อ...คุณผู้อ่านอย่าเพิ่งทำสายตาเกลียดชังผมเลยนะครับ แต่เข้าใจไว้เถอะว่าผมน่ะเพิ่งจะอกหักนะ อกหักแบบไม่มีโอกาสทำคะแนนเลยด้วยซ้ำ แต่พี่ซีเองก็ใจเด็ดพอควรเหมือนกันที่ถึงจะรู้ว่าผมชอบ เขาก็ยังคุยกับผมเหมือนปกติ ต่างจากพี่วาที่ถึงจะไม่ได้พูดอะไรแต่ก็ระวังผมแจ(ผมรู้หรอกน่าว่าพี่วาก็ชอบพี่ซี แต่พี่วาแค่ทำปากแข็งไปงั้นเอง)

                ทั้งๆที่พี่กานต์บอกว่าชอบพี่วาแท้ๆ...แล้วมาทำใจดี มาทำเป็นห่วงเป็นใยผมขนาดนี้ให้ได้อะไร?

                ผมน่ะเกลียดชะมัดเลย ไอ้การถูกให้ความหวังแบบนี้น่ะ ถึงแม้เจ้าตัวอาจจะรู้หรืออาจไม่รู้ก็เถอะ แต่ผมถือว่ามันเป็นการเสียมารยาทมากโดยเฉพาะว่าถ้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เพราะมันเหมือนไม่ให้เกียรติทั้งกับคนที่มาที่หลังและคนที่แอบชอบอยู่ เหมือนกับว่าถ้าไม่ได้คนแรกก็อยากเก็บอีกคนไว้เป็นตัวสำรอง...ผมรู้สึกอย่างนั้นน่ะนะ(แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดมากไปหรือเปล่า)

                หลังจากที่ผมพูดแบบนั้นออกไปพี่กานต์ก็เงียบกริบทันที หลังจากนั้นเราเลยไม่ได้คุยอะไรกัน ผมขอบคุณที่พี่เขาพามาห้องพยาบาล ช่วยทำแผลช่วยทายาให้...แล้วระหว่างเราก็จบลงแค่นั้น

                ผมพยายามที่จะลืมเรื่องต่างๆเกี่ยวกับรุ่นพี่คนนั้นออกไป รุ่นพี่ที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกแปลกๆ แล้วก็เรื่อง...จูบนั่น...ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ แต่สักแห่งในใจมันกลับหวิวๆประหลาด ราวกับ...

                ไม่! มันต้องไม่ใช่สิ!

                ผมไม่อาจยอมรับความรู้สึกแบบนั้นได้หรอก มันไม่เหมือนกับครั้งพี่ซี...ผมชอบพี่ซีก่อนที่จะรู้ว่าพี่ซีชอบพี่วา แต่นี่ไม่ใช่...เพราะผมรู้อยู่แก่ใจว่ารุ่นพี่คนนั้นชอบใคร

                พี่วา...คงจะเป็นคนที่ผมไม่อาจเอาชนะได้จริงๆนั่นแหละ

     

                นายตะวัน! ตอบมาซิว่ามิสพูดถึงเรื่องอะไรอยู่!”

                ผมสะดุ้ง ลืมไปได้ยังไงกันนะว่าชั่วโมงเรียนยังไม่หมด ผมก้มมองหนังสือเรียน กวาดตามองไปทั่วๆอย่างรวดเร็ว รู้สึกเหมือนหน้าเริ่มจะซีดลงเรื่อยๆเพราะไม่ได้ฟังเลย

                ประวัติการก่อตั้งธนบุรี

    มีเสียงกระซิบแผ่วๆดังมาจากข้างหลังผม ผมเลยรีบตอบทันควัน ประวัติการก่อตั้งกรุงธนบุรีครับ

    มิสเอื้อนนภาทำหน้าเซ็งหน่อยๆ แต่ก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าถูก หากก็ยังไม่วายสำทับ แหม ถ้าฟังอยู่ก็อย่าทำหน้าเบื่อสิ ทำสีหน้าให้มันมีอารมณ์ร่วมหน่อย

    ผมยิ้มแหะๆ พูดไม่ได้หรอกว่าอันที่จริงแล้วก็ไม่ได้ฟังจริงๆนั่นแหละ...

     

    หลังออดหมดชั่วโมงดัง ผมก็ไม่รอช้าที่จะหันกลับไปด้านหลัง

    เฮ้ย ขอบใจมากนะออฟ ไม่ได้นายนี่แย่ผมยิ้มเขินๆ เหม่อมากไปหน่อย เกือบโดนเจ๊นภาบีบคอตายแล้วมั้ยล่ะ

    ไอ้ออฟเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งข้างหลังผม ไอ้พรายกระซิบเมื่อครู่นี้ยิ้มตอบ เล็กน้อย...กับนายเรายินดีช่วยอยู่แล้ว

    ผมหัวเราะร่า เป็นคนดีแบบนี้นี่เอง แกถึงมีแฟนที่รักกันยืนยาว

    ออฟมันมีแฟนอยู่ห้องหนึ่งครับ เป็นเด็กผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาเรียนปีนี้(ปีนี้โรงเรียนผมเพิ่งมีเด็กผู้หญิงเข้าม.ต้นกับประถม ปกติจะมีแค่ม.ปลาย) เห็นว่าไปรู้จักและคบกันมาตั้งแต่ต้นเทอม 1 จนป่านนี้ก็ยังเห็นหวานแหววจี๋จ๋ากันอยู่

    ไอ้ออฟชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะตอบ เอ่อ...นั่นสินะ...

    เอ๊ะ? ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าวะ...เห็นหน้ามันแปลกๆชอบกล แต่ผมยังไม่อยากเครียดเรื่องมันนักหรอกเพราะยังมีเรื่องที่ต้องทำอยู่

    ผมรีบเก็บของยัดใส่กระเป๋าแล้วเผ่นออกจากห้องเรียนอย่างว่องไว ในใจกระหวัดนึกไปถึงใครอีกคนที่ผมอยากขอโทษที่พูดจาแย่ๆแบบนั้นออกไป แต่...ผมจะมีความกล้าพอที่จะทำอย่างนั้นหรือเปล่านะ?

     

     

      

                เอาแล้วครับ...อย่างที่คิดเป๊ะ...ผมไม่กล้าจริงๆด้วย

                ทีแรกหลังจากถึงเวลาพักและลงจากตึกเรียนผมก็คิดว่าจะไปตึกกิจกรรม เพราะไม่ว่ายังไง...ผมก็อยากจะขอโทษพี่กานต์

                ไม่ว่าพี่กานต์จะคิดยังไงกับใครก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องไปก้าวก่าย แถมผมยังพูดจาไม่ดีทั้งที่พี่เขาช่วยผมเอาไว้(แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม)

                แต่พอเดินลงมาเท่านั้นแหละครับ กลุ่มคนสามคนที่วิ่งผ่านหน้าไปก็ทำเอาผมหลบหวืดกลับเข้าข้างบันไดแทบไม่ทัน

                พี่กานต์มาวิ่งทำอะไรแถวนี้เนี่ย!!?

                หน้าตึกมัธยมจะเป็นสนามบอลครับ สนามบอลโรงเรียนผมจะรายล้อมด้วยองค์ประกอบต่างๆของโรงเรียน ดังนั้นมันจึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางของที่นี่ ที่วิ่งอยู่นอกจากพี่กานต์ก็มีพี่วา แล้วก็รุ่นพี่ม.ปลายอีกคนที่ผมเห็นแวบๆว่าอยู่กลุ่มเดียวกับที่โต๊ะกินข้าวพวกพี่กานต์วันนั้น ดูแล้วก็น่าจะเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่นแหละ

                ห้ามอู้โว้ย!! กล้าโดดก็ต้องกล้าวิ่ง!!”เสียงโหดๆของใครสักคนดังขึ้น เจ้าตัวขี่จักรยานตามกลุ่มที่วิ่งมาพร้อมทั้งกรอกเสียงมหาโหดใส่โทรโข่งทำให้ได้ยินกันแทบทั้งฟาก ผมจำเสียงนั้นได้ดี เป็นเสียงพี่อั๋นคนที่ดุที่สุดในกลุ่มพี่กานต์ครับ ผมรู้สึกประหลาดใจที่เห็นตัวจริงชัดๆ พี่อั๋นเตี้ยกว่าพี่กานต์ด้วยซ้ำแถมหน้าก็ไม่ได้ดุอะไร ออกจะน่ารักด้วยซ้ำ แม้จะมีผิวสีน้ำผึ้งแบบคนไทยแต่ก็ดูดีไปอีกแบบ ไม่ได้ดูโหดหินทมิฬชาติ(?)อย่างน้ำเสียงเลยสักนิด

                แต่เอ๊ะ...เดี๋ยวสิ...กล้าโดดก็ต้องกล้าวิ่ง? แปลว่าที่วิ่งกันอยู่นี่เพราะโดดงั้นเหรอ? โดดอะไรกันหว่า?

                ผมมองกลุ่มที่เพิ่งผ่านไป มีพี่วา พี่กานต์ พี่อีกคนที่ไม่รู้จัก แล้วก็พี่อั๋น...

                เฮ้ย! นี่มันพวกวงโยฯนี่หว่า! งั้นก็แปลว่าที่ว่าโดดเนี่ย...ง่า...แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง...

               

                วันนี้ไม่ซ้อมเหรอ?

              อ้อ ซ้อมสิ แต่ไม่ได้ไป 

     

                บทสนทนาที่ติดอยู่ในหูวาบขึ้นมาในความคิด ทำเอาผมรู้สึกสยดสยองยกกำลังสอง ตอนนั้นพี่กานต์แกตอบหน้าตาเฉยมากเลยนะครับ แถมยังมีการมาให้เหตุผลประกอบ

     

    ใครจะปล่อยไปได้ล่ะ เราน่ะชอบเป็นเป้าให้ใครๆเขารังแกอยู่เรื่อย...

     

                ผมเริ่มอยากด่าหน่วยความจำฝ่ายซีรีบรัมของตัวเอง จะทำให้รู้สึกผิดกันให้ได้สินะ - -^

                พี่กานต์โดดก็เพราะผม แถมเป็นถึงลีดเดอร์(เจ้าตัวบอกมา)มีหรือจะไม่รู้ว่าถ้าโดดจะโดนทำโทษยังไง แต่ถึงอย่างนั้น...ก็ยังบอกว่าไม่เป็นไร

                แล้วผม...ไปต่อว่าเขาเสียขนาดนั้นได้ยังไงกันนะ

                ผมแอบมองกลุ่มที่วิ่งอยู่เงียบๆที่ใต้ตึก ไม่รู้เหมือนกันว่าวิ่งกันมากี่รอบแล้ว แต่ดูท่าต่างคนก็ต่างสะบักสะบอมกันเต็มทน ผมยืนดูอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งพวกเขาเลิกและยกกันกลับขึ้นตึก

                ผม...เกลียดตัวเองชะมัดเลย...ทำไมถึงไม่มีความกล้าให้มากกว่านี้นะ

     

     

     

                ผมก้าวขึ้นบันไดทีละก้าวๆอย่างช้าๆราวกับไม่อยากจะให้ถึงจุดหมาย ชั้นบนสุดของตึกกิจกรรมเป็นห้องวงโยฯครับ ตอนเย็นๆแบบนี้นอกจากพวกวงโยฯบนตึกนี้ก็ไม่มีใครแล้วเพราะพวกชมรมกีฬาก็ซ้อมกันข้างล่างทั้งหมด ทำให้มันเงียบเสียจนน่าสยดสยอง

                ถ้าเจอกันแล้วจะพูดว่าอะไรดีนะ...ขอโทษไปตรงๆ...นั่นสิ...แบบนั้นน่าจะดีที่สุดแล้ว

                แต่ให้ตายห่าซี่...พอมายืนอยู่หน้าประตูห้องจริงๆผมก็ดันป๊อดซะอีก

                ห้องวงโยฯโรงเรียนผมเป็นห้องกระจกครับ ทำให้คนด้านในเห็นคนด้านนอกและด้านนอกก็เห็นด้านในแบบชัดๆ ผมจึงไปยืนหลบอยู่ข้างกระถางต้นไม้ พยายามบีบตัวให้ลีบที่สุดเท่าที่จะทำได้ โว้ย...ไอ้ตะวัน ถ้าไม่ขอโทษเขาแล้วมึงมาทำบ้าอะไรล่ะวะเนี่ย...

                ทั้งๆที่มองเห็น...ทั้งๆที่อยู่ใกล้แค่นี้...ทั้งๆที่แค่ก้าวก็จะไปถึง...

               

                “ตะวัน...?

               

                ผมสะดุ้งเฮือก สะดุ้งจริงๆยังกับโดนผีหลอกเลยครับ แต่พอหันหลังขวับไป คนที่ยืนอยู่กลับกลายเป็นพี่วา

                พี่วามีท่าทีสงสัยนิดๆที่เห็นผมมายืนอยู่ตรงนี้ ก็น่าจะให้สงสัยอยู่หรอก ผมน่ะวงโยฯซะเมื่อไหร่ล่ะ

                เอ่อ...หวัดดีครับพี่วาผมทักเก้อๆ ไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ

                พี่วาพยักหน้ารับ แต่ก็ยังคงมีสีหน้างงแกมสงสัยอยู่ พี่วามองผมทีมองเข้าไปในห้องวงที ก่อนจะทำหน้าเหมือนเพิ่งบรรลุ

                เฮ้ยๆๆ...บรรลุอะไรอ่ะ...กลัวนะเฟ้ย

                มาหาใครอ่ะ เรียกให้มั้ย?

                นั่น บรรลุจริงๆด้วย...ชิบหาย

                ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ผมไม่อยากบอกเรื่องนี้ให้พี่วารู้เลย จึงส่ายหน้าหวืดปฏิเสธ ไม่เอาดีกว่าครับ ขอบคุณ

                ผมแทบจะเดินแบบไฮสปีดลงจากตึก พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำตัวให้ดูน่าสงสัย พร้อมกันนั้นก็นึกสบถด่าตัวเองในใจ

                ไอ้ตะวัน...ไอ้ห่า...ไอ้ขี้ขลาด...

     

                กะอีแค่ ขอโทษคำเดียวยังพูดไม่ได้ แล้วงี้คำพูดอื่นของแกมันจะมีน้ำหนักอะไรวะ บ้าเอ๊ย!!!              

     

     

     

                ผมกลับมาที่บ้านแล้วก็เริ่มคิดแผนการใหม่

                ผมหมุนโทรศัพท์มือถือในมือไปมาเล่นๆ เมื่อวันก่อนตอนกลับด้วยกันสี่คนกับพี่ซีพี่วา พี่กานต์เป็นคนขอเบอร์ผมเอาไว้ เราเลยแลกเบอร์กัน(ด้วยเหตุผลที่พี่เขาอ้างข้างๆคูๆว่าเผื่อโดนพวกอันธพาลไล่ตื้บอีก) ทำให้ตอนนี้ผมมีเมมเบอร์อีกฝ่ายอยู่ในเครื่องแบบพร้อมใช้งาน  

                มีอยู่อย่างเดียวที่ไม่พร้อม...ซึ่งไอ้ที่ไม่พร้อมก็ตัวผมเองเนี่ยแหละ!

                ผมมองนาฬิกา สามทุ่มเกือบจะสี่ทุ่มอยู่แล้ว ไม่รู้โทรไปจะดึกเกินหรือเปล่า แถมนึกไม่ออกเลยสักนิดว่าจะพูดอะไร อีกอย่างเรื่องแบบนี้พูดทางโทรศัพท์มันจะดีเร้อ...

                ....................................

                ............................

                .....................

                .................

                ............

                ........

                ฮึ่ย!! เอาวะ!! เป็นไงเป็นกัน!!

     

                P’ Kant >>>> กำลังโทร...

     

                ผมมองข้อความที่ขยับอยู่บนมือถือ จังหวะหัวใจในอกเริ่มเต้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผันผ่านและระดับความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้น จะพูดอะไรดีวะ...หวา...กดโทรออกไปแล้วด้วยง่า...

                ผมแอบภาวนาอย่าให้พี่กานต์รับเลย(แต่งี้จะโทรไปทำซากไรฟะ - -) หากดูท่าวันนี้ฟ้าจะไม่เข้าข้าง

                [ ครับ? ]

                ง่า............

                ผมแหกปากร้องอยู่ในใจ เสียงนี้พี่กานต์ชัวร์ๆ เอ๊ะ...แต่ทำไมมันแหบๆแปลกๆวะ? พี่กานต์เป็นอะไรไปหรือเปล่านะ...?

                เอ่อ...หวัดดีครับ...นี่ตะวันนะ...ผมทักเก้อๆอย่างคนนึกบทพูดไม่ออก และก็ได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาลอยมาตามสาย

                [ รู้แล้ว ชื่อเมมมันก็ขึ้นอยู่ว่า ตัวเล็ก’ ]

                ไอ้...รุ่นพี่กวนประสาทเอ๊ย!!

                ผมชักเซ็ง ไม่น่าไปนึกเป็นห่วงคนแบบนี้ให้เสียดายเซลล์สมองเลยว่ะ ผมชื่อตะวัน - -^”

                พี่กานต์ไม่ได้ว่าอะไร เอาแต่หัวเราะเหมือนคนประสาท ผมนึกหงุดหงิดบอกไม่ถูก แต่ถึงอย่างนั้นก็พอจะจับได้ว่าในเสียงหัวเราะนั้น...มันมีบางสิ่งแปลกไป

                ทำอะไรอยู่เหรอ?

                [ นั่ง~ ]

                ผมได้ยินเสียงเซลล์สมองอีกหลายเส้นสลายหายไปดังปึด!

                แค่นี้นะ - -^”ผมเอ่ยห้วนๆ นึกอยากวางขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว แบบนี้จะโทรทำไมให้เปลืองตังค์วะเนี่ย...

                [ เดี๋ยวดิครับ พี่ล้อเล่น โอเค พี่ไม่แกล้งแล้ว ] ปลายสายรีบเบรกไว้ก่อนที่ผมจะกดวางจริงๆ [ พี่กำลังจะนอนแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ออกมาหาน้ำกินที่ห้องครัว ]         

                “ไม่กวนใช่ปะ?

                [ อ้อ กวนสิ ]

                “ลาขาดกันดีกว่านะครับ พี่กานต์ - -^”

                ฝ่ายนั้นเอาแต่หัวเราะร่าเหมือนอารมณ์ดีสุดๆ แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนพี่เขาเพิ่งไปเจอกับอะไรสักอย่างจนเป็นบ้ามากกว่า คนอะไรเอาแต่หัวเราะเหมือนเพิ่งไปกระเดือกยาม้ามา...

                [ แล้ว...มีอะไรงั้นหรือ ] ในที่สุดพี่กานต์ก็หยุดเล่นไร้สาระครับ ผมมองเวลาโทรออกแวบหนึ่ง ฮือ...สี่นาทีของไอ้ตะวัน

               

    ก็แค่...อยากขอโทษ

     

    ผมอุบอิบ ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าปลายสายจะเงียบไปทันที เมื่อวาน...ผมพูดกับพี่ไม่ดีเลย...ทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์จะพูดแบบนั้นซะหน่อย

                ผมเงียบรอฟังคำตอบแต่พี่กานต์ก็ไม่พูดอะไร ผมเลยพูดต่อทั้งที่ตื้อๆตันๆแบบนั้นแหละ

                ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆนะที่พี่คอยช่วยเหลือผม และผมก็ไม่ควรจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่...แค่นี้แหละครับที่อยากขอโทษ

                [ ตัวเล็ก... ] เสียงพี่กานต์เบาลงไปนิดหนึ่ง ซึ่งผมก็แอบเถียงอยู่ในใจว่าผมชื่อตะวันเฟ้ย [ พูดตามตรงนะ...ตั้งแต่ตอนที่เราทักพี่เรื่องนี้ พี่ก็เริ่มไม่แน่ใจตัวเองขึ้นมาแล้วล่ะ ]

                หือ? พี่กานต์พูดอะไรออกมาน่ะเฮ้ย... หมายความว่าไงอ่ะ?

                [ เอ่อ...พูดไงดีล่ะเนี่ย ]พี่กานต์หัวเราะ แต่น้ำเสียงแห้งแล้งเต็มทน [ คือ...พี่เพิ่งจะโดนหักอกมาน่ะ ]

                หา!!!”

                [ อืม... ]พี่กานต์ตอบเบาๆเหมือนปลงอนิจจัง ไม่ต้องถามผมก็เก็ททันใดว่าใครหน้าไหนที่เป็นคนหักอกพี่เขา

    [ พี่ก็เสียใจอยู่หรอกนะ...แต่มันช่วยไม่ได้นี่ ]

                คนเขาไม่ใช่ของเรา ยื้อไว้ก็มีแต่เจ็บนะครับผมพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว ปลายสายเลยเงียบกริบทันที

                [ ...ตัวเล็ก แน่ใจนะว่านั่นคำปลอบ? ]

                ง่า...ผมเกาหัวแกรกๆ เออว่ะ...เหมือนจะไม่ใช่คำปลอบแฮะ ...ผมปลอบคนไม่เป็นอ่ะ

                [ ช่างเถอะ ] พี่กานต์หัวเราะมาตามสาย [ แปลกดี คุยกับเราแล้วสบายใจขึ้นเยอะเลย ]             อ่ะ...

                ไม่รู้สินะ...ว่าความรู้สึกแบบนี้คืออะไร

                แต่ผม...รู้สึกดีแฮะ

                ...อย่าพูดอะไร...แบบนั้นน่าผมโต้กลับไปเบาๆ อย่าปากดีไปหน่อยเลยพี่ เพิ่งอกหักมาหมาดๆไม่ใช่รึไง

                [ ก็นะ... ]ปลายสายพึมพำ [ แต่มันผิดเรอะที่อยากมองหาโอกาสรีสตาร์ทเนี่ย ]

                “หือ?

                [ Restart...ก็เริ่มต้นใหม่ไง ]

                ผมเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่พี่กานต์เงียบทำไมผมก็ไม่รู้ เราต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไรต่อเหมือนจะให้ความเงียบช่วยเป็นคำตอบของทุกอย่าง

                หากพอพี่กานต์เริ่มพูด คำพูดนั้นก็ทำเอาผมแทบแข็งเป็นหิน 

                 

            [ โอกาสรีสตาร์ทของพี่...อยากจะรับไว้หรือเปล่าครับ? ตัวเล็ก ]

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    ตอนนี้จะย้อนไปประมาณตอนที่ 11-12 นะคะ ที่พี่กานต์ไปชวยน้องตะวันแล้วก็พาไปทำแผล....และโดนเขาด่าเสยเข้าให้!!
    ควิซๆกันเถอะ ตอนนี้พี่กานต์น่ารักหรือน่าเตะ? มันเหมือนจะน่ารักนะ แต่คิดไปคิดมาเฮียแกก็มักง่ายเอาเรื่อง เล่นขอทางโทรศัพท์ โรแมนซ์ไปไหน.....
    แบบว่าอัพช้าไปนิด เพิ่งหลุดจากนรกแกะแพะ ข้อสอบแกะอังกฤษสุโค่ยอย่างแรง นั่งอ่านตาแทบแหก!!!
    ใครเจอเหมือนโนว์บ้างเอ่ย?? เหอๆ ดีนะยังไม่เจอโอเน็ต...ไม่งั้นประสาทเสียแน่

    หมดเรื่องพล่าม และก็มาตอบเม้นท์กันเถิดเอย

    คุณ p_infinity - ใช่มะๆพี่ปู มีแต่คนคิดเหมือนโนว์ ตาซีน่าตบกะโหลกแตกสุดๆ รู้สึกช่วงนี้เหล่าเมะจะทำตัวน่าเตะเป็นพิเศษ(ลามไปถึง พี่กานต์??) วาน่ารัก ตะวันน่ารัก พวกเมะๆหลบป๊ายยยยยยย(โดนรีดเดอร์รุมโขกสับ) บทพูดที่พี่ปูชอบโนว์ก็ชอบแหละ อันที่จริงก็คือชอบหนูวาตอนนี้ทั้งตอนเลย 5555 แต่ตอนนี้มัวเมา(?)กับพี่กานต์และน้องตะวันไปก่อน ซี&วา หลบปายยยยยยยยยยย

    คุณ พี่ชายน้อย -  เอาปากงัดปาก O[]O!! โอ ข้อเสนอน่าสนใจ เดี๋ยวโนว์ก็เอาจริงหรอกค่ะ 5555 ดีเนาะ อยากปากหนักนักเดี๋ยวให้วาเอาปากงัด เอ๊ะ หรือถ้าอยากให้ซีมันพูดจริงๆ สงสัยไม่ใช่ว่าต้องเอาปากงัดปากตาซี แต่ต้องเอาปากวาไปงัดกับคนอื่นให้ตาซีเห็น(วา - อย่าหาเรื่องเสี่ยงตายให้ผมสิโว้ยครับ = = )

    คุณ ว้าว  - เอ่อ รออ่านวาแอนด์ซีอยู่ป่าวคะเนี่ย ดันเอาอีหนูตะวันมาสับบทคั่นซะได้ - -" อ่ะนะ เอาเถอะ ลงไปแล้ว ช่วยบ่ได้(ไอ้ไม่รับผิดชอบ!!) พี่กานต์เหมือนศิราณีกลายๆ แต่คิดอีกทีก็น่าสงสาร ทำใจนานมั้ยนั่นกว่าจะบอกให้วาไปหาคนอื่น เหอๆ ในขณะที่ไอ้คนที่วาไปหาก็เล่นตัวซ้า....คิดเหมือนโนว์ปะคะ ช่วงนี้พวกเมะทำตัวน่าเตะกันทั้งน้านนนน

    คุณ hahn - ค่า ไม่เป็นไรค่า งานของโนว์คืออัพนิยายอยู่แล้ว แต่แหม แต่งจบเอ็นท์ติดเลยเหรอ สมพรปากเถอะค่าาาาาาา >< อวยพรกันอย่างงี้อัพสุดใจขาดดิ้น แบบว่ากระหาย(?)อยากติดมากมาย 5555 ถ้ายังไม่เอ็นท์ก็ขอให้ติดเช่นกันนะคะ โนว์อัพตอนใหม่ให้แล้ว หวังว่าจะชอบนะ ^O^

    คุณ Specialise - ระวังยิ้มมากเหงือกแห้งนะเออ....แต่เห็นแล้วท่าจะยิ้มกว้างจริงๆนั่นแหละ ฮาๆ ถ้าชอบก็ดี ยิ้มกว้างๆโลกสดใส เอิ๊กๆๆๆ(แต่แบบอีนี่นี่ไม่ไหว มันบ้า = = ) อัพตอนใหม่ให้แล้ว แต่ไม่รู้ตอนนี้จะยิ้มหรือจะอะไรนะ 555

    คุณ jedi2550 - ทุกคนชอบหนูวา ในขณะที่ตาซีโดนหลายคนสาปส่ง 55555 อารมณ์วาคงอยากกระโดดชาร์จเอาขาหน้า(?)ถีบเจ้าซีเต็มทน คนรักแทบตายแต่ดันเล่นตัว เดี๋ยวว่างๆวาก็เล่นตัวบ้างซะนี่! ฮา....

    คุณ ผู้วิเศษในคราบมนุษย์ - มาแบบสั้นๆแต่ได้ใจความ ตอนนี้ท่าจะได้ใจไปหลายคน เอานะ หวานก็ดีกว่าขม รึบางคนชอบขมมากกว่าหวานหว่า? เอิ๊กๆ

    คุณ majoong  - (เอียงหน้าหลบม๊วฟ) อ่ะล้อเล่งๆ เอิ๊กๆ อย่าเพิ่งคลั่งจ้ะ เอ...แต่โนว์ฉีกไปทางพี่กานต์กับหนูตะวันแบบนี้จะโดนหลายๆคนเหยียบเอามั้ยเนี่ย T^T เริ่มกลัว งืม ตาซีคงไม่ยอมพูดง่ายๆ เล่นตัวเป็นที่หนึ่ง เรื่องเล่นตัวนี่อย่าให้บอก เฮียแกถนัด!! บอกได้คำเดียว....ทำใจ(วิ่งปรู๊ดหลบรองเท้า)

    คุณ yunjae-kyumin - ไม่เดาเหรอจ๊ะ ไม่เดาเหรอ ง่ายออก ง่ายมากๆ โนว์ก็เลิกแต่งฝั่งเจ้าวาก่อนไง กร๊ากกกก(วิ่งหลบหม้อ ไห กะละมัง) อ่า อันที่จริงเพราะมันถึงคิวตัดอ่ะนะ อย่าเอาอะไรเขวี้ยงหัวโนว์เลยจ้ะ เดี๋ยวจะ"โน"(ว์)ตามชื่อ 555 รอๆๆ รอให้ตาซีบอกรักหนูวาบ้างงงงงง


    คุณ >>>BulldoG - ฮาๆ ไม่ได้พูดถึงว่ามีใครเห็นหรือเปล่า แต่คิดว่าไม่มี หรือถึงมีแต่ถ้าไม่ใช่คนรู้จักก็คงเดินหนีลิ่วๆ แบบ ไม่รู้ กูไม่เห็น...ก๊ากกกกกก ประเจิดประเจ้อกลางสนาม เป็นโนว์โนว์ยังไม่กล้าเลย(แต่ก็ไม่เคยนะจ๊ะ ฮาๆ) 

    คุณ PMD_OongFong - ถามหาตะวันตะวันก็มาทันที 5555 พี่กานต์ตอนที่แล้วดี๊ดี แต่ตอนนี้หนูตะวันจะเล่นด้วยรึเปล่าก็ไม่รุ...พักทางเฮียซีกับหนูวาเอาไว้ก่อน แต่อีกไม่นานเกินรอก็คงจะกลับมาค่ะ
    ปล. จำได้จิ โนว์ความจำดีนา(แน่ใจ - -? ) ยิ่งรีดเดอร์น่ารักๆยิ่งจำได้แม่นนนนนนนนน 5555

    คุณ เจ้าหญิงแห่งนางฟ้า - เหลือซี เหลือซี ตรงนี้แหละยาก ตาซีนี่ตัวร้ายเลย เอาอะไรง้างปากมันดี ถ้ามันไม่ยอมพูดซะอย่างชะแลงก็งัดไม่อยู่ เดี๋ยวจะได้เอาปากวางัดจริงๆอย่างที่คุณพี่ชายน้อยเสนอ เอิ๊กๆๆ

    คุณ frem - เจอที่แล้วเข้าไปชีวิตสดใสขึ้นเย้ออออ แต่พอมาดูตอนนี้ ชีวิตช่างคลุมเครือ = = แบบว่าวาพูดแล้ว พี่กานต์ก็พูดแล้ว เหลือตาซีกับน้องหนูตะวัน ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเผยความในใจค่ะ ขนาดวาที่ซึนมาได้ตั้งหลายตอนยังคลายหมดเปลือก 555 วาว่าซึนแล้ว เจอซึน+เกรียนเทพอย่างตาซีเข้าไปนี่ถึงกับจอด แต่ก็ยังดันทุรังแจวต่อไปได้ นี่แหละนายเอกเรื่องนี้ ฮาๆ
    ปล. ดีใจที่ยิ้มได้ค่ะ ขอบคุณเช่นกันที่ติดตามมาตลอด แฟนพันธุ์แท้คนแรก!!! ฮา.....(โค้งตอบงามๆ)

    คุณ puppylove - เนอะๆ ตอนนี้หนูวาน่ารักมากมาย ซีน่ะมันรักของมันมาตั้งนานแล้ว แต่มันคงยังไม่ยอมหลุดคำว่ารักออกมาง่ายๆ ฮา....แบบว่าซึนได้อีกค่ะพี่น้อง 555 แหะๆ คงรอนานไปหน่อยนะคะตอนนี้ โนว์ติดสอบอะ อยากตบสทศ. = = (หันซ้ายหันขวา เผื่อเจ้าหน้าที่สทศ.เข้ามาอ่าน...) เรื่องตาซีจะไปฮ่องกงหรือไม่ขออุบไว้ก่อนตามระเบียบ แต่จะพยายามมาอัพให้สม่ำเสมอนะคะ ขอบคุณที่รอเสมอค่ะ ^^
    ปล.ไม่ต้องทวงจ้า อัพให้แล้ว แหะๆ มาช้าดีกว่าไม่มานะ กร๊ากกกกก(เอากำไรเข้าตัวแล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว)

    คุณ ZAFFIROBLU - ซีมันซึนค่าาาาา ใครบอกวาซึนเป็นคนเดียว ซีก็ซึนด้ายยยยยยยยย แหม ปกติไม่ค่อยมีใครแต่งพระเอกเล่นตัว แต่อีสโนว์แหกคอก 555 อยากรู้เรื่องของพีกานต์ตอนนี้ก็ได้รู้แล้ว ขอให้ชอบนะค้า 

    คุณ lll_PeaChEriNo_lll - ตอนนี้สปีดเริ่มตกแล้วค่ะ ยอมรับผิด = = ติดสอบยาว ฮาๆ ชอบตอนหวานๆกันเหรอคะ แต่ตอนนี้เอาตอนซึนๆมึนๆมั่วๆไปก่อนนะ(โดนถีบ!) คู่พี่กานต์กับตะวันมาแล้วนะจ๊ะ ไม่ต้องรอนาน

    คุณ Casanovy - ฮาๆ เรื่องนี้ใครว่าหนูวาอ่อนหวานน่ารัก ไม่จริ๊งงงงง มันก็ยังเป็นผู้ชายนั่นแหละ บทจะโหดก็โหดด้ายยยยย(ถลกหนัง??) หนูวาซึนจริง แต่เจอซึนกว่าอย่างซีไปก็ทำเอามึนได้เหมือนกัน 5555 ปกติคนที่หน้าด้านกว่าจะเป็นซี แต่ตอนนี้ซีมันอยู่โหมดซึน หนูวาเลยต้องหน้าด้านแทน เอิ๊กๆ ตอนนี้เปลี่ยนบรรนยากาศเป็นพี่กานต์กะหนูตะวันซักหน่อย หวังว่าจะชอบนะจ๊ะ

    ปล. มิน่าไม่เจอกันเลย 555 แต่ช่วงนี้โนว์ก็ไม่ค่อยออนอ่ะจ้ะ ยุ่งๆ
    ปล.2 โนว์แก่กว่าคาชเยอะเลยเหรอ? อุ๊ยเขิล....ฮาๆ เรียกเหมือนเดิมก็ได้ ไม่ซีเรียสอะไร ว่าแต่คาชอายุเท่าไหร่อ่ะจ๊ะ

    คุณ Prince"Z - แพกเกจดี แต่คงต้องไปทะเลาะแย่งกับตาซีก่อน 55555 ตอนนี้วาแมนกว่าตาซีเยอะเลย เดี๊ยะโมโหจับสลับบท.....เฮ้ย!!? 55555 โจ๊กค่ะโจ๊ก(แต่ก็อยากลองเหมือนกัน...) แหม ทำโนว์ฮาเกือบตาย แต่ก็ดีนะ ถ้าซีไม่หื่น เดี๋ยววาหื่นแทน กร๊ากกกกก

    คุณ naminie - แหมๆ เฝ้ารอให้มีคนมาพูดว่ารักอยู่เหรอจ๊ะ โนว์เองก็ยังหาไม่เจอเลย กร๊ากกก อยากได้เหมือนกัน บอกแล้วววววว ตอนนี้หนูวาอย่างแมน(?) เดี๋ยวว่างๆหนูวาสติขาด จับฟาดแล้วลากขังไว้ในบ้าน สรุปไม่ต้องไปมันแล้วฮ่องกง ฮิยะฮะฮ่าาาาาา พี่กานต์หนูตะวันมาเสิร์ฟแล้วนะจ๊ะ ขอให้สนุกน้า

    คุณ ReNaI---aWaRe - ฮาๆ เห็นแววอะไรชัดขนาดนั้น แต่เอาเป็นว่ารอลุ้นกันไปก่อนละกันค่ะ เพราะตอนนี้โดนพี่กานต์กะน้องตะวันคั่นอยู่


    ฮาๆ หมดแล้วนะ รีบไปๆ วันนี้ไม่พูดมาก แต่ก็รักทุกคนเหมือนเดิมนะค้าาาา ><
     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×