ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #300 : 7000 million miracles: Sakurazaka 「さくら坂」

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 67


    7000 million miracles
    Sakurazaka 「さくら坂」
    Playlist: Fukuyama Masaharu – Sakurazaka 桜坂












    .

     

     

     

    ปีสองพันเจ็ด

    ขณะนั้นย่างเข้าบ่ายโมงตรงที่แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านชั้นบรรยากาศเข้าสู่ผืนโลก เพิ่มความสดใสและชีวิตชีวาให้กับเด็กสาวทามาโมริ อาริเอย์ที่กำลังเดินเอ้อระเหยขึ้น เนินซากุระ อันเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านและร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดในเมือง มือข้างหนึ่งถือนมกล่องรสกาแฟที่ยกขึ้นดูดพลาง ส่วนมืออีกข้างก็ถือข้าวปั้นห่อสาหร่ายไส้ทูน่าไปด้วย ก่อนที่อาริเอย์จะได้ยินเสียงดีดกีตาร์ดังแว่วมาพร้อมกับเสียงแหกปากร้องโดยไม่สนใจต่อผู้คนที่เดินสวนทางไปมา ไม่ใช่แค่เพราะว่ามันคือบทเพลงที่เธอชอบ แต่เพราะว่ามันคือน้ำเสียงที่เคยคุ้นของเด็กหนุ่มซึ่งมักจะหยิบยกบทเพลงทั้งเก่าใหม่มาร้อง คลอเคล้าไปกับเสียงดีดกีตาร์ด้วยความสุนทรีย์ บางทีก็สร้างสีสัน แต่บางครั้งก็กลับกลายเป็นความน่ารำคาญสำหรับเพื่อนร่วมห้องบีที่ต้องเผชิญ เมื่อนั้นอาริเอย์จึงหยุดฝีเท้า ยืนฟังเพลงฮิตในช่วงปีสองพันจากศิลปินคนโปรดที่แม่ชอบจนส่งต่อมาถึงเธออย่าง ซากุระซากะ (เนินซากุระ) บทเพลงอมตะประจำฤดูกาลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวามากที่สุด...และเป็นเพลงซากุระที่อาริเอย์ชอบมากที่สุดจวบกระทั่งปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเจ้าของเสียงร้อง ณ เวลานี้จะไม่ได้มีโทนเสียงนุ่มลึกเทียบเท่ากับต้นฉบับผู้เป็นตำนานของวงการเพลงญี่ปุ่นอย่างคุณฟุคุยามะ มาซาฮารุ แต่นิชิมูระ ทาคุยะ นักเรียนชั้นปีสองห้องบี โรงเรียนมัธยมปลายซากุระ ก็สามารถขับเสียงร้องในแบบฉบับของตัวเองได้อย่างไพเราะน่าฟังไม่แพ้กัน

    ก่อนทาคุยะที่หันมาเห็นเธอกำลังยืนดูดนมกล่องมองดูเขาจะฉีกยิ้มกว้าง ยกมือขึ้นโบกทักทายขณะที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาพร้อมกับกีตาร์คู่ใจที่สะพายพาดไหล่

    “เพลงกำลังเพราะเลย หยุดร้องซะแล้ว” อาริเอย์เย้า กลั้วไปกับเสียงหัวเราะของทาคุยะ

    “กำลังจะกลับบ้านเหรอ?”

    “อื้อ แล้วนายล่ะ?”

    “กำลังจะไปหาคามิน่ะ”

    เรียกลมหายใจของเด็กสาวให้พรูแรง ตามมาด้วยเสียงตะโกนดังลั่นกับใบหน้าที่ย่นยู่ลงไปว่า “เฮ้อ! น่าอิจฉาคนมีแฟนจังน้า!

    “เธอก็หาแฟนซะสิ ฤดูใบไม้ผลิน่ะเป็นฤดูของการเริ่มต้นความรักเลยนะ”

    “ถ้าไม่ใช่อิเคเมงแบบพวกทาคุยะก็ไม่เอาด้วยหรอก!

    “อิเคเมงอะไร! น่าอายออกจะตาย!” ทาคุยะรีบสวนย้อนกลับไปอย่างเร็วรี่ “มีแต่ฟูกะแหละที่ภูมิใจกับไอ้ฉายาแบบนี้น่ะ! ฉันกับโคทาโร่ไม่เอาด้วยหรอก!

    อาริเอย์ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นออกมาเมื่อไพล่คิดไปถึงเด็กหนุ่มเจ้าของชื่อที่มีใบหน้าหล่อเหลา ร้องเพลงก็เพราะ เล่นกีตาร์ก็เก่ง เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับทาคุยะที่เป็นหนุ่มป๊อปที่สุดในโรงเรียนได้ (น่าเสียดายที่เจ้าตัวขัดเขินเกินกว่าจะยอมรับตำแหน่งนั้น ฟูกะที่มั่นหน้ามั่นใจก็เลยรับแทนให้โดยไม่สนเสียงนกเสียงกา) แต่เพราะไอ้ความตรงไปตรงมาชนิดที่ปากตะไกรยังเรียกพี่ เลยทำให้มีศัตรูรอบด้านไม่ว่าจะชายหญิง แน่นอนว่ากับอาริเอย์ก็ไม่มีข้อยกเว้น

    “ฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวคามิจะรอนาน”

    “บ๊ายบาย ยังไงก็เดตให้สนุกนะ!” อาริเอย์ยกมือข้างที่ถือข้าวปั้นขึ้นโบกเป็นการอำลา ก่อนทาคุยะที่เดินสวนทางไปได้ไม่ทันไรจะหันกลับมาร้องเรียกเธอเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ ให้อาริเอย์เอี้ยวตัวหันไปเลิกคิ้วแทนคำถามที่พูดออกมาไม่ได้เพราะก้อนข้าวปั้นที่กำลังเคี้ยวอยู่เต็มปาก

    “เธอชอบเพลงของคุณฟุคุยามะใช่ไหม?”

    อาริเอย์พยักหน้าหงึก ในที่สุดก็อดรนทนไม่ได้จนต้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้ทั้งที่ยังไม่ได้กลืนข้าวปั้นลงคอด้วยซ้ำว่า “ชอบมากๆ เลยล่ะ!” เรียกเสียงหัวเราะสดใสของทาคุยะ ไม่ต่างจากดวงอาทิตย์ที่กำลังสาดแสงลงมาเลยแม้แต่น้อย

    “งั้นไว้ครั้งหน้าเรามาร้องเพลงของคุณฟุคุยามะด้วยกันนะ!

    และเนินซากุระในวันนี้ก็อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุขที่ไม่จางหายไป

    ถึงอาจเป็นเพียงหนึ่งในเหตุการณ์เล็กๆ ที่ดูจะไม่ได้สลักสำคัญอะไร หากมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นข้างในใจ และในที่สุดก็ถึงวันเบ่งบาน

     

    愛と知っていたのに 花はそっと咲くのに

    ถึงฉันจะรู้ว่ามันคือความรัก ถึงดอกไม้จะเริ่มผลิบานอย่างเงียบงัน

    君は今も 君のままで

    แต่กระทั่งตอนนี้ เธอก็ยังคงเป็นเธอคนเดิม




    7000 million miracles
    Sakurazaka 「さくら坂」
    Playlist: Shibasaki Ko – Sakurazaka 桜坂











    .

    ปีสองพันแปด

    ครั้นกดปลายปากกาวาดวงกลมตัวโปร่งปิดท้ายประโยคและปัดหน้าปกสมุดปิดเข้าหากันแล้ว เธอจึงค่อยยืดแขนยืดตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งหลังขดหลังแข็งทำการบ้านด้วยความเขม้น ฝ่ายกระจายเสียงเริ่มประกาศให้กลับบ้านเมื่อเข็มนาฬิกาบนข้อมือชี้ไปที่เลขหก เธอเก็บข้าวของลงไปในกระเป๋าเรียนลวกๆ ไม่ลืมที่จะปิดหน้าต่างและบานประตูให้เรียบร้อยก่อนเดินย่ำไปตามระเบียงทางเดินที่ร้างไร้ผู้คน อันเป็นดั่งกิจวัตรประจำวันของฟูจิกายะ อายูมิมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนขึ้นชั้นไฮสคูลปีที่สามในโรงเรียนมัธยมปลายซากุระ นั่นคือการมาโรงเรียนตอนเจ็ดโมงเช้า และกลับถึงบ้านตอนเจ็ดโมง...หากเป็นของช่วงเย็นทุกวันที่มีชั่วโมงเรียน

    เธอก็แค่เกลียดบ้านที่ดูไม่เหมือนบ้าน เกลียดครอบครัวที่ดูไม่เหมือนครอบครัวก็เท่านั้น

    เนินซากุระ สะพรั่งไปด้วยสีสันและกลีบดอกไม้ที่พากันเบ่งบานเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ นี่คือเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างโรงเรียนและบ้านที่เธอมักจะมายืนปล่อยใจไปกับสายลมและความงดงามของฤดูที่ชอบที่สุด หลังออกจากรั้วโรงเรียนในทุกเย็น

    แต่ในตอนที่กำลังนึกอารมณ์ดีกระโดดโหยงเหยงขึ้นไปบนทางลาดชั้น เธอก็จะดันสะดุดรองเท้าตัวเองแล้วกระแทกเข่ามนกับพื้นคอนกรีตเข้าอย่างจัง ให้อายูมิรีบลุกขึ้นเร่งฝีเท้าจากไปเพราะเสียงหัวเราะคิกคักที่แว่วลอยตามลมมา ด้วยความที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลยนอกจากความชาแปลบที่แล่นริ้วขึ้นมา อายูมิจึงเดินโขยกเขยกต่อไปโดยไม่ก้มลงมองบาดแผลที่คงจะไม่ได้ร้ายแรงในความคิด กระทั่งเจ้าของใบหน้าที่เธอคุ้นเคยดีในฐานะเพื่อนร่วมห้องของโอกาซากิ โคทาโร่จะเดินสวนทางขึ้นมาบนเนินสะพาน ครั้นสบตากับเธอก็ส่งยิ้มกว้างมาให้ ก่อนสีหน้าที่แฝงไปด้วยความประหลาดใจจะเปลี่ยนไปเป็นความตื่นตกใจจนต้องรีบวิ่งพรวดพราดมาหา

    “เธอ...เลือดออกนี่!

    และเมื่อเธอก้มลงไปเห็นรอยเลือดสีแดงปรากฏเป็นวงอยู่บนเข่าของตัวเอง อายูมิก็จะร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นตกใจเช่นเดียวกัน

    “ไปโดนอะไรมา?”

    “อ๋อ สงสัยจะเป็นเมื่อกี้ที่หกล้มตอนขึ้นเนินน่ะ”

    “เลือดออกเยอะมากเลยนะ” โคทาโร่ว่า “เจ็บมากไหม? เดินไหวหรือเปล่า?”

    ถึงอายูมิจะพยักหน้าตอบรับด้วยความเริงร่าและขันแข็งว่า “อื้อ แค่นี้สบายมาก!” แต่สีหน้าของอีกฝ่ายกลับดูไม่ได้สบายใจตามไปด้วยเลย หลังจากลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้นว่า “ฉันว่าแวะทำแผลก่อนกลับบ้านดีกว่า” ตามมาด้วยประโยคที่ทำให้อายูมิต้องเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู

    “ขี่หลังฉันแล้วกัน”

    “ม...ไม่เป็นไร! ไม่ต้องลำบากโอกาซากิคุงหรอก!

    “เห็นเลือดออกเยอะแบบนี้แล้วฉันรู้สึกไม่ดีเลย บ้านของฟูจิกายะก็อยู่อีกตั้งไกล ถ้ายังไงแวะทำแผลที่บ้านฉันก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวฉันจะปั่นจักรยานไปส่งเอง ว่าแต่กลับบ้านช้าหน่อยคงไม่เป็นไรใช่ไหม?”

    “อ...อื้อ”

    “งั้นก็ขึ้นมาเลย”

    พอได้ยินคำตอบรับแล้วก็ไม่รีรอต่อคำพูดปฏิเสธหรือสนใจกับมือทั้งสองข้างที่อีกฝ่ายยกขึ้นโบกรัวๆ อีก นอกจากก้มตัวหันหลัง มัดมือชกให้เพื่อนร่วมห้องต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้ เมื่อนั้นอายูมิจึงรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยขออนุญาตแม้ว่าจะไม่จำเป็นด้วยสุ้มเสียงที่แผ่วเบา เธอได้แต่ภาวนาไม่ให้หัวใจเต้นรัวแรงเมื่อแนบอกอยู่กับแผ่นหลังกว้างและกลิ่นตัวของผู้ชายที่ดูสดชื่นเหมือนกับกลิ่นทะเลที่ไม่อาจหาพบได้ในเมืองหลวง อย่างนั้นก็คงจะเป็นกลิ่นน้ำหอม

    นอกจากการถามไถ่ถึงเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ดูจะไม่ได้มีคำพูดอะไรมากนักระหว่างเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ได้สนิทกันอีก แต่ท่ามกลางสายลมและกลุ่มกลีบดอกซากุระที่บานสะพรั่งตลอดระรายทาง บาดแผลที่หัวเข่าไม่รู้สึกทั้งอาการชาและความเจ็บปวดแล่นริ้วผ่านขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย มีเพียงสิ่งเดียวที่อายูมิรู้สึกได้ชัดเจนนั่นคือ...ความสุข

    และนั่นก็คือความทรงจำต่อโคทาโร่ที่แม้กระทั่งตอนนี้...อายูมิก็ยังไม่เคยลืมเลือน

    เป็นเหตุผลที่ทำให้ฤดูใบไม้ผลิและดอกซากุระเป็นดั่งสิ่งล้ำค่ายิ่งกว่าขุมทรัพย์ไหนๆ การได้เพียงแอบมองเขาข้างเดียว ด้วยหัวใจที่อัดแน่นไปด้วยความชอบ ก่อนผันเปลี่ยนไปเป็นความรักที่เอ่อล้นเมื่อสัมผัสกับความใจดีที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้สัมผัสมันด้วยตนเอง ถึงอาจโรยราไปจากสายตา อย่างไรก็จะงดงามอยู่ในความทรงจำ ไม่มีวันที่จะแปรเปลี่ยน

     

    愛と知っていたのに 春はやってくるのに

    ถึงฉันจะรู้ว่ามันคือความรัก ถึงในที่สุดฤดูใบไม้ผลิจะหวนคืนมา

    夢は今も 夢のままで

    แต่กระทั่งตอนนี้ ความฝันก็ยังคงเป็นแค่ความฝัน

     











    2024年11月22日
    _______________
     เห็นข่าวบุไตของฟูกะเปิดรอบวันแรกแล้วที่นั่งไม่ถึงครึ่งเพราะเหมือนแบบลงชื่อซ้ำแล้วเค้าห้ามมั้ง หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ ไม่รู้ แปลไม่ออก แต่กูอ่านแล้วก็แอบเศร้า สงสารนักแสดงทุกคน สงสารฟูกะมากที่สุดเพราะเป็นบุไตเรื่องแรกด้วยมั้ง TT_______TT เนี่ย เค้ายังพูดกันเลยว่าอย่าหวังพึ่งนักแสดงคนเดียวให้แบก ไม่งั้นก็จะเป็นแบบนี้แหละ คิดดูนะว่าคนนี้ยังเป็นแค่จูเนียร์ แถมอยู่ในวงที่มีข่าวถึงเค้าจะเป็นคนเดียวที่ไม่มีข่าว ความนิยมเป็นอันดับสองก็ไม่ช่วยหรอก เพราะอันดับหนึ่งยังเกือบไม่รอด เกือบปีแล้ววงยังเรียกความนิยมกลับคืนมาเหมือนเดิมไม่ได้เล้ย เห้ออ ทำไมตอนกูชอบๆ วงไหนมันต้องมีเรื่องทุกที สู้เงียบไปไม่มีอะไรให้พูดถึงอย่างบชนตอนนี้ยังดีซะกว่า กูยิ่งเป็นพวกรักแท้แพ้ความสงสารด้วย อยากจะบ้าตาย
     ตอนแรกจะใช้นางเอกจากเรื่อง Theatre of Tragedy ทั้งคู่ เพราะเรื่องนั้นมีทั้งทาคุโคตะ แต่ไม่ได้จริงว่ะ ขอฉลองหน่อยที่ไอชิลลิ่งคัมแบคหลังจากแปดเดือน จนกูคิดว่าวงแตกแน่แล้ว ใครจะไปคิดว่าจะมีวันนี้ แต่ก็เป็นบทเรียนแล้วว่าวงนูกูเอาลงแค่เรื่องสั้นก็พอ รีบแต่งรีบจบ เพราะถ้าฟิคยาวแล้ววงแตกก่อนมันจะเป็นเรานี่แหละที่จบ U_U เห้ออ มีวงนี้กับบั๊กกาบูนี่แหละที่กูชอบหน้าเกือบยกวงจริง พูดแล้วก็กระเทือนซาง / ละไหนๆ เรื่องนี้เวอร์ต้นฉบับก็เป็นเซมไปในค่าย เพราะงั้นก็เลยลักนามสกุลเมนเราในวงมาเพื่อเป็นอนุสรณ์หน่อยจ้าพี่ (วงอะไรทำคลิปไปกินซูชิแล้วยังยมได้ เหลือจะเชื่อ)
     มึงก็อย่าด่ากูว่าเรื่องดีๆ มีไม่แแปลงวะอีพี่ยู แต่ไม่ได้ว่ะ เพราะมันเป็นพล็อตที่มาจากชีวิตจริงครั้งหนึ่ง เล่าไปแล้วล้านรอบแต่ก็จะเล่าอีกอย่างเช่นว่า สมัยมหาลัยกูใส่ส้นสูงไปมอ ทีนี้กูนึกครึ้มใจอะไรไม่รู้ก็ไปโดดข้ามตะแกรงที่หน้าห้องสมุดแล้วดันหกล้มเลือดท่วมเข่าจริง มีคนหัวเราะขำจริง ต้องเดินขากะเผลกไปห้องพยาบาลคนเดียวจริง อิอิ เขินๆ >_< / จุดเริ่มต้นการแปลงมาจากไม่กี่เดือนก่อนที่กูคิดว่าอยากเอาตอนไปสวนอิโนคาชิระมาแปลงจัง แต่ใจอยากได้วงที่เล่นดนตรีเป็นและอยู่วงเดียวกัน แน่นอนว่าในค่ายมันก็มีแค่สองวงนั่นแหละ แต่หาพระเอกให้อายูมิบ่ได้เลย พระรองได้อยู่แล้วทั้งเรย์อะไทเซย์ แต่พระเอกจะเป็นใคร คนปี้กับเคนเหรอ ผกก.บอกพับๆ จากนั้นก็นึกถึงวัชโช่ยกลุ่มเล่นดนตรี อันที่จริงมีพี่คาโดะกับฮิยามะที่ได้ แต่ที่เหลือ...ไม่ได้จริง อย่าให้กูเขียนชื่อแต่ละคนเลย (ซาโนะ ยาบานะ มิจจี้ อาโอกิ) พับๆ แล้วไม่ต้องกางอีกเลยนะ
     กระทั่งตอนแปลงเรื่องแบ็ครูมที่กูรำลึกได้ว่า ถ้าคทรเล่นเปียโนก็ต้องเล่นคีย์บอร์ดได้สิวะ เช็ก! พระเอกของอาริเอย์เป็นนักร้องนำ เสียงนิชิทาคุก็ดีสุดในวงอยู่แล้ว เช็ก! และฟูกะที่กูจำได้(ยังไงไม่รู้)ว่าเล่นกีตาร์เป็น เช็ก! เพราะวงดนตรีไม่มีเบสก็ได้ป่ะ เดี๋ยวผู้หญิงอีกคนให้มาเป็นกลองเอา (หรือต้องโมริเคนวะ) จบ แถมบทยังลงกับสามคนนี้ได้หมด ตรงใจกูหมดไม่มีติด ว้าวมาก แปลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะชอบฟูกะด้วยซ้ำ เแต่กระทั่งบัดนี้ก็ยังแปลงไม่เสร็จเพราะพาสาเหี้ยมาก ขนาดเรื่องนี้เคยเกลาก่อนแล้วพอเอามาอ่านซ้ำก็ระยำต่ำตม จนกูที่ชอบแต่งยาวน้ำท่วมทุ่งยอมตัดคำรวบทิ้งจนดูดีขึ้น...พอประมาณ แต่เสียเวลาชิบหาย เอาเวลาไปแต่งเรื่องอื่นที่ดีกว่านี้ยังดีซะกว่าไหมวะนิ
     ปล. หรือว่าถึงเวลาที่เราจะมีเมนเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง นับจากอุมิเจสสี้/เจสสี้เร้น/อิสเสคุโระ ในที่สุดก็กลับมาแล้วสินะกับคู่...โคตะมิจจี้ >_< ไปละ หยอกๆ
    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×