ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] Family Project (KrisYeol) : Day&Night Secret Love

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter - 18 [END]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.99K
      10
      11 มิ.ย. 57

    มาแล้วววววววววว ~~~ หายไปนานเลยยยยยยยยยยย ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายแบบชุลมุนวุ่นวายไปหมดทุกทิศทางเลย ฮืออออ ร่างจะพัง!!
     
    ตอนนี้โอเคล่ะเราจะเริ่มเคลียร์ทุกสิ่งล่ะ.... 
     
    คิดถึงเราไหม TTwTT อย่าเงียบสิเราเสียใจ *วิ่งไปซุกอกเฮียโหด*
     
    เดย์ไนท์จบแล้วอ่ะไม่อยากให้จบเลยอ่ะ ฮือ... รู้สึกผูกพัน #เพราะอู้มานานสินะ 555555
     




    สวัสดีค่ะ บตนนค่ะ อยากจะขอพูดอะไรสักนิดนะคะ จะได้เข้าใจตรงกันนะ
     
    เราจะไม่เลิกแต่งคริสยอล เราจะแต่งไปเรื่อยๆ แม้จะไม่มีใครอ่าน จะไม่มีใครสนใจ หรือจะไม่มีใครชอบแล้ว เราก็ไม่สนใจนะบอกไว้ตรงนี้เลยว่า 'เราจะทำตามความพอใจและแพลนของเราต่อไป'
     
    ขอโทษจากใจถ้าไม่ถูกใจใคร เราทิ้งคริสยอลไปไม่ได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าโลกสวยงามราวกับวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งหญ้าข้าวสาลีอะไรหรอก แต่เราเริ่มต้นด้วยคริสยอลเราก็ไม่รู้จะทิ้งไปได้ยังไงและเราก็ทิ้งไม่ลงด้วย
     
    เรารักคริสยอลและเราจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเขียนคริสยอลต่อ ทุกแพลน ทุกพล็อตและทุกเรื่องที่เราสรรสร้างขึ้นมาเพื่อคริสยอลที่เรามีในมือทุกอย่าง เราจะดำเนินการมันต่อ
     
    เราเชื่อว่าความรักของทั้งสองคนยังคงสวยงามและเราก็รู้สึกถึงมันอยู่ในใจตลอดเวลา
     
    ด้วยรักและอยากให้เข้าใจ (ถ้าไม่ทิ้งกันนั่นจะดีที่สุด T^T)
    Betty Noona
     
     
     
    ________________________________
     
     
     

     
    ลูกพี่กำลังเซ็ง.. ใช่ เซ็งมากด้วย ไม่ได้เซ็งที่คริสชอบมาวุ่นวายหรือเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ในหัวในความคิด หรือชอบสั่งเขาหรอกแต่ลูกพี่กำลังเซ็งเพราะนอนไม่หลับเนี่ยแหละ นี่ขนาดบุกไปเล่นเกมที่ห้องของลู่หานมาแล้วนะ ลงไปหาอะไรกินก็แล้วแต่ก็นอนไม่หลับสักที นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ!! 
     
    ชานยอลนอนพลิกตัวไปซ้ายทีขวาทีแต่ก็ยังไม่ยอมหลับ นี่เปิดมือถือมาเล่นเกมแล้วนะแต่ตาก็ยังสว่างอยู่เลย คุณพ่อไปรับลูกพี่กลับมาจากบ้านของคริสเมื่อเย็นนี้เองหลังจากที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนๆ นอนด้วยกันทุกคืนมันก็แบบ... ไม่ชินแล้วไหมล่ะตอนที่ต้องกลับมานอนคนเดียวอ่ะ พอนอนคนเดียวเตียงที่นอนมันก็กว้างมาก ห้องที่เคยอยู่มันก็ดูกว้างเกินไป พอตอนที่อยู่คนเดียวมันก็เหงาอ่ะ
     
    “โอ๊ย!!” ชานยอลร้องโวยวายแล้วก็ลุกพรวดขึ้นนั่งก่อนที่จะดึงหมอนหนุนมากอดแล้ววางปลายคางเกยหมอนนิ่มที่กอดไว้ก่อนที่จะยู่หน้าอย่างเซ็งๆ ก็นอนคนเดียวมันเหงานิไอ้คนที่เคยชินเวลานอนจะต้องมีคนกอดน่ะพอต้องมานอนคนเดียวมันก็ไม่ชินแล้วหรือเปล่าล่ะ
     
    “นอนไม่หลับว่ะทำไงดีวะ” ชานยอลบ่นพึมพำเบากับหมอนแล้วก็ซุกหน้าลงไป 
     
    “หรือว่า...” ชานยอลที่เพิ่งนึกอะไรออกก็เหวี่ยงหมอนไว้บนเตียงแล้วลงจากเตียงไปยืนกระโดดตบอยู่ข้างเตียง ตัวเขาจำได้ว่าเวลาที่คนเราเหนื่อยๆมันจะนอนหลับเพราะงั้นจะต้องออกกำลังกายสักหน่อยให้เหนื่อยจะได้หลับๆไปสักทีแต่จนแล้วจนรอดชานยอลก็ยังไม่ง่วง ขนาดที่ว่ากระโดดตบจนเหนื่อยหอบแล้วนะ
     
    ชานยอลทิ้งตัวลงนอนกับเตียงแล้วก็นอนลืมตามองเพดานไปอย่างนั้น นอนมองจนเลิกเหนื่อยไปเองแล้วในหัวก็พาลไปคิดถึงใครอีกคน ใครบางคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะนอนหลับลงหรือเปล่าจะเป็นเหมือนเขาบ้างหรือเปล่าแต่แล้วเสียงมือถือก็ดังขึ้นชานยอลที่อยากจะนอนแต่ก็นอนไม่หลับก็เลยลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสียก่อนที่จะยื่นมือไปหยิบมือถือที่หัวเตียงมากดรับสายโดยที่ไม่มองว่าใครโทรเข้ามา
     
    “ฮัลโหลใครโทรมาทำไมไม่ว่างหรอกนะ” ชานยอลได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายสายก็เลยยกมือถือออกแล้วมาดูหน้าจอว่าใครโทรมา พอรู้ว่าใครเท่านั้นแหละก็ทำตาโตแล้วยิ้มอย่างดีใจเชียว
     
    “คริส!!” ชานยอลที่ดีใจเอ่ยเรียกชื่อออกไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง เอาซะเขาไม่รู้เลยว่าอยากคุยด้วย
     
    “ตอนนี้ว่างหรือยังหื้ม?”
     
    “โห้ยว่างสุดๆ ว่างที่สุดเลย!” คริสก็หัวเราะเบาๆกลับมาก่อนที่จะเอนตัวอนพิงหัวเตียงไว้ ชานยอลที่ดีใจก็ดึงหมอนมากอดแล้วก็ก้มหน้าลงซุกหมอน
     
    “ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ” คาดว่าถ้าคริสอยู่ใกล้ๆคงได้เห็นเจ้าตัวแสบแบะปากใส่อยู่แน่ๆ ชานยอลแบะปากแล้วก็ทำหน้าบู้
     
    “ก็นอนไม่หลับอ่ะ ทำยังไงก็นอนไม่หลับเลย” ชานยอลส่งเสียงอู้อี้กลับไป คริสก็ได้แต่ระบายยิ้มเพราะเขาก็นอนไม่หลับเหมือนกัน มันไม่ชินที่ไม่มีคนตัวนิ่มๆมาให้กอด
     
    “นอนไม่หลับเหมือนกัน... อยากนอนกอดตัวเล็กชะมัดเลย” คนที่โดนบอกว่าอยากนอนกอดก็หัวเราะคิกคักชอบใจเขานักล่ะ ก็เป็นแบบเดียวกันเลยนินะ..
     
    “อื้อ.. ตัวเล็กก็อยากนอนกอดตัวสูงเหมือนกัน” คริสยกยิ้มแล้วเกาต้นคอตัวเองอย่างเขินๆ เออเห็นโหดเถื่อนแบบนี้ก็เขินเป็นนะเว๊ยเฮ้ย! ชานยอลที่รู้สึกเขินๆก็ยิ่งก้มหน้าซุกหมอนใหญ่ นี่ถ้าคริสอยู่ใกล้ๆสงสัยได้มีโดนจับหอมแก้มรัวๆแน่เลย
     
    “แล้วตอนนี้อยู่ไหนเนี่ย” ชานยอลขยับตัวลงนอนที่เตียงแล้วก็พองลมใส่สองแก้ม
     
    “อยู่ห้องผัวใหม่มั้ง” คริสที่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของชานยอลแล้วก็ยกยิ้มตาม
     
    “อยากจะโดนผัวเก่าตบไหมล่ะครับ” ชานยอลยู่ปากแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมอก 
     
    “ล้อเล่นเถอะ นี่นอนอยู่บนเตียง” คริสที่รู้อยู่แล้วก็ไม่ได้เอ่ยปากตอบอะไรออกไปแต่ชานยอลกลับคิดว่าคริสกำลังโกรธและคิดว่าเขาอยู่กับคนอื่นจริงๆ
     
    “เฮ้ยนี่อยู่บนเตียงในห้องจริงๆนะ!” คริสหัวเราะทีนี้ชานยอลก็เลยพองสองแก้มเลยเพราะรู้ว่าโดนแกล้งแน่ๆ ทำไมคริสถึงชอบแกล้งเขาจังเลยนะ!
     
    “รู้หรอกน่า เวลาแบบนี้จะไปไหนได้กันล่ะโทรเช็คเรียบร้อยแล้ว” 
     
    “เอ๊ะ? โทรเช็คกับใคร” ชานยอลทำตาโตอย่างตกใจแล้วก็อ้าปากหาวหวอดๆ 
     
    “แล้วคิดว่าใครล่ะ” ชานยอลส่ายหน้าไปมากับหมอนทำเหมือนว่าปลายสายเขาจะเห็นเลย
     
    “ไอ้ลู่เหรอ” ชานยอลเริ่มนอนตาปรือเสียแล้วสิแต่คริสน่ะยังนอนไม่หลับเลย แค่ได้ยินเสียงของชานยอลผ่านทางปลายสายน่ะมันไม่ได้ทำให้เขาข่มตาหลับได้เลย แค่ได้ยินเสียงก็ยิ่งอยากจะนอนกอด อยากจะขับรถไปหาแล้วไปนอนกอดจริงๆเลยแต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก
     
    “ใช่แล้ว ตอนนี้ตัวเล็กง่วงหรือยัง” 
     
    “อื้อ..” ชานยอลตอบด้วยเสียงที่เริ่มจะงัวเงีย ชานยอลง่วงแล้วแต่เขายังไม่ง่วงเลย แล้วคืนนี้จะนอนยังไงกันล่ะเนี่ย
     
    “ถ้าง่วงก็หลับตาซะนะคนดี” ชานยอลค่อยๆหลับตาลง
     
    “ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ถึงคอด้วยนะ เดี๋ยวก็โดนลมเย็นๆเอา” ชานยอลก็ทำตามโดยการดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมถึงคอ
     
    “ฝันดีนะตัวเล็กของคริส” คริสเอ่ยบอกเสียงนุ่ม
     
    “อื้อ ฝันดีเหมือนกันตัวสูงของชานยอล” แล้วไม่นานชานยอลก็หลับไป คริสก็เลยได้แต่ยิ้มแล้วก็นอนฟังเสียงลมหายใจของชานยอลไปเรื่อยๆ เอาน่านอนฟังไปเดี๋ยวก็หลับ คิดซะว่าเราอยู่ด้วยกันก็แล้วกัน
     
    ...ถึงตัวจะไกลแต่หัวใจของเราก็ใกล้กัน..
     
    น้ำเน่าชะมัดเลยว่ะ!
     
     
     
    “พ่อว่าอะไรนะ!!” ชานยอลทำตาโตลุกวาวเชียว 
     
    “ก็บอกว่าจะพาไปเที่ยวไง ไอ้ลูกหมาจะไปไหม” ชานยอลยิ้มกว้างแล้วกระโดดเข้ามานั่งกับคุณพ่อที่นั่งยิ้มทำท่าราวกับอาเสี่ยกำลังจะจ่ายเงินให้สาวๆ
     
    “ไปสิ ชานยอลต้องไปอยู่แล้วว่าแต่พ่อจะพาไปไหนแล้วใครไปบ้างอ่ะ”
     
    “ว่าจะไปสวนดอกไม้อีกไปเปล่า ก็ไปแต่พวกเรานี่ล่ะต้องให้ใครไปด้วยอีกเหรอ?” ชานยอลพองแก้มแล้วทำท่าเหมือนอยากพูดแต่ก็ไม่กล้าพูด
     
    “ว่าไงต้องชวนใครไปอีกเหรอเราก็ไปเที่ยวกันเป็นครอบครัวไง เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งเป็นเดือนพ่อก็คิดถึงไอ้ตัวเล็กของพ่อบ้างสิ” คุณปาร์ครั้งคอของชานยอลมาแล้วก็ฟัดแก้มเข้าให้ แหมได้ฟัดแก้มลูกสุดที่รักนี่มันมีความสุขจริงๆ จะให้ไปฟัดไอ้ลู่หานก็ไม่ไหวหรอกหน้าโหดขนาดนั้นฟัดไปไม่มีความโมเอร์เลยให้ตายสิ
     
    “ก็เปล่าหรอก ถามเฉยๆ” พอบอกว่าไปกันครอบครัวทีนี้ชานยอลก็ไม่กล้าถามเลยว่าจะเอาคริสไปด้วยได้ไหม เจ้าตัวก็ได้แต่นั่งกอดพ่อหงอยๆ ส่วนคุณพ่อกับลู่หานที่รู้เรื่องกันก็มองหน้ากันแล้วก็ยิ้มให้กัน 
     
    ชานยอลไม่รู้ว่าจะบอกคริสว่ายังไงดีถ้าเขาไปเที่ยวแล้วไม่ได้บอกคริส คริสจะโกรธไหม จะแอบตามไปอีกหรือเปล่าแต่มันติดตรงที่ทริปนี้เป็นทริปครอบครัวน่ะสิแล้วเขาจะทำยังไงดีล่ะ อยากให้คริสไปด้วยแต่ก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงดีแต่ถ้าไม่บอกก็จะหาว่าโกหกอีก โอ๊ยลูกพี่ปวดหัว!!
     
    ช่วงวันสองวันนี้คริสไม่โทรหาแล้วก็ไม่มาหาด้วย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีนั่นแหละแต่มันจะไม่ดีก็ตรงที่จะเดินทางอยู่แล้วแต่เขายังไม่ได้บอกคริสเลย ถ้าหายไปไม่บอกคริสจะว่าเขาไหมวะ ไม่หรอกๆ ทีคริสยังหายไปไม่บอกเลยเพราะฉะนั้นก็ตามนี้เขาจะหนีไปโดยที่ไม่บอกอะไรมั่ง!
     
    ทุกคนในบ้านได้แต่มองชานยอลที่ทำหน้าหงอยๆแล้วก็อยากจะหัวเราะนัก ก็ดูเอาเถอะมานั่งทำหน้าเป็นหมาหงอยรอเจ้าของกลับบ้านไปได้ ทุกคนวางแผนการณ์เอาไว้แต่ดูท่าว่าชานยอลคงจะตามไม่ทันอีกเช่นเคย คุณปาร์คที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้มองลูกชายที่กำลังนั่งเล่นกับดอกไม้แล้วก็อยากจะลุกขึ้นไปกอดปลอบนัก แค่ทำหน้าทำตาจะร้องไห้คนในบ้านก็พาลจะใจอ่อนกันหมดแล้ว
     
    แต่ไม่ได้สิจะทำการใหญ่ใจมันต้องนิ่ง!!! คุณปาร์คจองฮุนบอกตัวเองซ้ำไปซ้ำมาพอเห็นลูกชายทำหน้าหงอยทีก็อยากจะกอดที คนเป็นพ่อที่มีลูกน่ารักๆนี่ลำบากใจเหมือนกันนะ ลู่หานที่กำลังจัดการพรวนดินดอกไม้ที่แปลงข้างๆชานยอลมองแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาท่าทางว่าน้องชายของเขาจะเป็นเอามากเลยนะ
     
    ก็ไม่สงสัยหรอกว่าทำไมชานยอลกับคริสถึงได้รักกันมากขนาดนั้น บางทีมันอาจจะรักกันโดยที่ไม่รู้ตัวมาตั้งนานแล้วก็ได้ ก็ต้องบอกไว้เลยนะว่าลู่หานน่ะความจำดีจดจำได้หมดทุกรายละเอียดนั่นแหละ ลู่หานส่ายหน้าไปมาแล้วก็ลุกขึ้นไปรดน้ำพรวนดินดอกไม้ต่อดีกว่าที่จะมานั่งมองชานยอลทำหน้าบู้แล้วก็พึมพำกับดอกไม้ใบหญ้าแบบนั้น บางทีลู่หานก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเด็กน้อยที่เขาเลี้ยงมากับมือนี่มันยังประสาทดีอยู่หรือเปล่า
     
    พอถึงวันที่ต้องไปเที่ยวแล้วชานยอลที่ชื่นชอบกับการไปเที่ยวก็ชักจะไม่อยากไปเสียแล้วสิ ก็แหงล่ะในหัวมันคิดไปสะระตะเลยว่าคริสจะว่ายังไงถ้าเขาหายไปแต่ก็เอาเถอะถือซะว่าเขาเอาคืนมันก็แล้วกัน มันหายหัวไปเขาก็จะหายไปบ้าง เอาวะลูกพี่เป็นคนแฟร์ๆ! 
     
    ชานยอลที่สะพายเป้ลงมาก็ต้องแปลกใจว่าคนในบ้านหายไปไหน ไม่สิ... จริงๆมันแปลกตั้งแต่เช้าแล้วที่คุณแม่ไม่มาปลุกปล่อยให้เขาตื่นเอง ชานยอลล้วงมือถืออกมากดดูเวลาก็เห็นว่ามันยังไม่สายเท่าไหร่แล้วทุกคนหายไปไหนทำไมบ้านมันเงียบแบบนี้... มันเงียบไปเกินไป ชานยอลที่กำลังจะเดินออกจากบ้านก็ชะงักเข้ากับโน๊ตที่แปะอยู่ตรงประตูบ้าน
     
    “ห๊ะ??” พออ่านจบก็ได้แต่ทำหน้างงสงสัยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ข้อความในกระดาษเขียนไว้ว่าเพราะเขาตื่นสายให้รออยู่ที่บ้านซะ นี่แปลว่า? ... ทุกคนไปเที่ยวโดยที่ไม่มีเขาอย่างนั้นเหรอ!!
     
    “มันจะมากไปแล้วนะ!” ชานยอลล้วงมือถือออกมากดโทรหาทุกคนแต่ก็ไม่มีใครรับสายเขาสักคน ไปเที่ยวไม่เอาคริสไปยังทนได้แต่ไปเที่ยวกันไม่มีลูกพี่คือไม่ทนนะ!!!
     
    “คิดว่าไปเองไม่เป็นใช่ไหม ได้เลยเดี๋ยวเจอกัน!!” ชานยอลคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายแล้วเดินไปดูที่เก็บกุญแจรถ ที่บ้านยังมีรถคันเล็กอีกคันที่มักจะใช้ขนของเล็กๆน้อยๆไปส่งที่ร้านดอกไม้ เวลาที่ลู่หานต้องไปที่ร้านก็จะใช้คันนี้แทนมอเตอร์ไซด์ คิดว่าปาร์คชานยอลขับรถไม่เป็นล่ะสิ นี่บอกเลยว่าหัดขับมาแล้วเถอะ!
     
    แต่จะหลงไหมก็อีกเรื่องนะ... เอาน่ามีจีพีเอสนำทางซะอย่างแค่นี้จิ๊บๆ ว่าแล้วก็ไปกันเถอะ!
     
    ชานยอลขึ้นรถได้ก็จัดการคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วเสียบกุญแจรถพอสตาร์ทเครื่องได้ก็ขับรถออกไปเลย จีพีเอสนำทางก็นำทางของมันไปชานยอลก็ขับตามไป เอาสิแล้วจะรู้ว่าลูกพี่น่ะเก่งทุกเรื่อง!! ชานยอลขับตามจีพีเอสไปเรื่อยๆ มันบอกตรงก็ตรง ซ้ายก็ซ้าย ขวาก็ขวาแม้จะไม่รู้ว่าตอนนี้มันพาไปไหนก็เหอะแม้ทางจะไม่ค่อยคุ้นเลยก็ตาม
     
    ดวงตากลมมองไปด้านหน้าแล้วก็ได้แต่ทำหน้างง ตอนที่เขามาคราวที่แล้วนี่มันมีเส้นทางป่าๆแบบนี้ด้วยเหรอ? เอาน่าบางทีมันอาจจะเป็นตอนที่เขาแอบหลับก็ได้.. มันคงต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ! ชานยอลเองก็ขับไปเรื่อยๆไม่ได้ดูเลยว่าเกน้ำมันมันตกจนเข็มจะหลุดอยู่แล้วแค่ขับมาถึงไหนก็ไม่รู้ได้ก็ดีแล้ว ชานยอลไมได้ขับเร็วเร่งเครื่องอะไรเลยก็ขับไปช้าๆตามภาษาคนไม่คุ้นเส้นทาง
     
    “เฮ้ยเป็นไรอ่ะ” ขับมาอยู่ดีๆรถก็กระตุกๆแล้วดับเสียอย่างนั้น คนที่ไม่เคยเจอแบบนี้ก็ตาโตตื่นตกใจเลยน่ะสิ เอาแล้วไงลูกพี่งานเข้าแล้ว! 
     
    “แล้วจะทำไงอ่ะ แล้วกูจะทำยังไงดีอ่า~~” ชานยอลขยี้ผมจนมันยุ่งไปหมดอย่างกับคนเสียสติ ลองกดโทรหาที่บ้านดูก็ยังไม่มีใครรับสายเลยสักคนแล้วทีนี้จะทำยังไงกันล่ะวะ ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยแล้วจะทำยังไงดีวะ
     
    ชานยอลลงจากรถแล้วก็หันซ้ายหันขวายังไม่เห็นรถคันไหนจะผ่านมาทางนี้สักคันเลย สงสัยต้องช่วยตัวเองไปก่อนแต่ทว่าจะช่วยยังไงล่ะรถก็ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ ไม่มีใครรับสายเขาสักคนเลย.. ถ้าไม่รับสายก็ส่งข้อความ!
     
    “เฮ้ยเชี่ย!!!” ชานยอลที่กำลังกดพิมพ์ข้อความอยู่ดีๆแบตก็หมดเสียอย่างนั้นเพราะเมื่อกี้ใช้จีพีเอสนำทางมาน่ะสิแบตเลยหมดเอาที่ชาร์จสำรองก็ลืมไว้บ้านแล้วที่นี่จะทำยังไง๊!! 
     
    “แล้วกูอยู่ที่ไหนวะเนี่ย” หันซ้ายหันขวาก็มองไม่เห็นแม้แต่หมาสักตัวแล้วทีนี้จะทำยังไงอ่ะ ต้องมานอนตายที่นี่อะนะ ไม่นะ!!! 
     
    “นี่กูต้องมาตายที่นี่เหรอวะแล้วจะทำยังไงอ่ะ ไม่เอานะ ไม่ๆๆๆ ฮือ....” ชานยอลที่สติแตกเดินไปเดินมา เดินวนไปทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างหาทางออกจนตัวเองเดินเข้าป่าข้างทางไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว ไปเดินเดินมาแล้วก็ลงนั่งยองๆแล้วขยี้หัวไปมา
     
    “ไม่เอานะไม่อยากตายที่นี่อ่ะศพไม่สวยนะเว๊ย คริสอยู่ไหนอ่ะฮือ!!” ชานยอลโวยวายไปน้ำตาก็ไหลไป คือก็กลัวไง มาอดตายแถวนี้มันก็ไม่ดีนะเว๊ยกว่าคนจะมาพบศพคงแห้งตายแน่ๆนี่ยังไม่ได้ไปเที่ยวรอบโลกเลยนะ 
     
    “ฮือ... คริสอ่า!!!!!” 
     
    “ชานยอล!!” เจ้าของชื่อหันหน้าไปมองแล้วก็ยิ่งน้ำตาจะไหลหนักกว่าเดิมอีก
     
    “คริส!!!!” ชานยอลลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหาคริสที่เดินเข้ามาหา พอถึงตัวได้ลูกพี่ก็กระโดดกอดเอาเขาเกี่ยวเอวไว้เลย
     
    “โฮนึกว่าจะตายอยู่ที่นี่ซะแล้วอ่า!!” คริสกอดชานยอลแล้วยกยิ้มตัวเล็กของเขาคงจะกลัวมากล่ะสิถ้ารออยู่ที่บ้านก็ไม่ต้องมานั่งกลัวแบบนี้แล้วแท้ๆ ฝ่ามือใหญ่ที่ลูบหัวปลอบมันก็ยิ่งทำให้ชานยอลร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม หยดน้ำตาที่ซึมผ่านเสื้อมาโดนที่ไหล่ทำเอาคริสไม่รู้จะเศร้าใจตามหรือตลกคนที่มากระโดดกอดเอาขาเกี่ยวเอวเขาดี
     
    “ไม่เป็นไรแล้วนะ ทำไมไม่รออยู่ที่บ้านหื้ม?” คริสลูบหัวปลอบชานยอลแล้วก็ต้องคอยประคองชานยอลไว้เผื่อจะหงายหลัง ชานยอลกอดคริสแน่นไม่ยอมปล่อยเลย เออก็อยากบอกอยู่หรอกกอดแบบนี้นานๆเมื่อยเป็นนะเว๊ยแต่พูดไม่ออกกลัวร้องไห้ไม่หยุดน้ำท่วมโลก
     
    “ถ้ารออยู่ที่บ้านก็มารับไปเที่ยวแล้วเนี่ย” ชานยอลเงยหน้าออกจากไหล่ของคริสแล้วมองหน้าด้วยความสงสัย ใบหน้าน่ารักเต็มไปด้วยน้ำตาและใบหน้าที่แดงเรื่อ ผมก็ยุ่งเหยิงเชียว ชานยอลคงกลัวมากเลยสินะแต่อยากจะเสียมารยาทว่ะว่าคนมองอยู่อยากจะหัวเราะให้ไตสะเทือน
     
    “หมายความว่ายังไง” ชานยอลถามด้วยน้ำเสียงสะอื้นสั่นเครือ
     
    “ก็พ่อชานยอลบอกให้คริสมารับชานยอลไปที่สวนดอกไม้ไง ก็ครอบครัวเราจะไปเที่ยวกันไม่ใช่เหรอ” แค่ได้ยินคำว่าครอบครัวเราชานยอลก็ร้องไห้โฮอีกแล้ว ทีนี้ก็กอดคริสแน่นจนจะหายใจไม่ออกล่ะ คริสลูบหัวปลอบประโลมชานยอลให้หยุดร้องไห้แต่ดูท่าว่าเด็กในอาณัติของเขาจะไม่ยอมหยุดร้องง่ายๆเนี่ยน่ะสิ
     
    “ก็ไม่รู้นิพ่อบอกว่าไปกันครอบครัวก็ไม่คิดว่าคริสจะไปด้วย ฮือ.. รู้งี้โทรหาตั้งนานแล้ว!” คริสยกยิ้มแล้วก็ตบหลังชานยอลเบาๆ
     
    “ชานยอลไม่คิดว่าคริสเป็นครอบครัวเหรอ” พอได้ยินคำถามแบบนั้นชานยอลก็ผละตัวออกแล้วทำหน้าตื่นตกใจ
     
    “ไม่นะๆ คริสเป็นครอบครัวเป็นผัวชานยอลเอง โฮ..” อ้าวกลายเป็นร้องหนักกว่าเดิมอีก
     
    “ชานยอลลงก่อนหนัก” แต่ชานยอลก็ส่ายหน้าไปมา ซุกหน้าลงกับไหล่คริสไม่ห่าง
     
    “ลงเหอะหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย” ชานยอลผละตัวออกมาแต่ก็ยอมลงแต่โดยดี คริสช้อนแก้มของชานยอลขึ้นแล้วปาดเช็ดน้ำตาให้
     
    “คริส.. ตามมาได้ยังไงอ่ะ” คริสยิ้มแล้วโน้มหน้าลงไปแนบหน้าผากกับคนที่ยังร้องไห้ไม่หยุด
     
    “ก็ขับรถตามหลังมาเนี่ยแหละแต่เมื่อกี้เลี้ยวตามไม่ทันเลยต้องไปวนรถกลับมาหา ไม่ร้องนะคนดี” ชานยอลพยักหน้ารับเบาๆ คริสก็เลยยื่นริมฝีปากไปทาบแตะสัมผัสที่ริมฝีปากแผ่วเบา
     
    “เดี๋ยวเราไปหาที่พักแถวๆนี้นอนกันสักคืนนะแล้วพรุ่งนี้ค่อยไปที่สวนดอกไม้ กว่าจะวนกลับไปถึงคงอีกนาน” คริสจูงมือชานยอลมาเอาของที่รถคันเล็กที่เจ้าตัวขับมาไปไว้ที่รถของเขา
     
    “ทำไมอ่ะ” คริสเปิดประตูให้ชานยอลขึ้นรถไปนั่งแล้วก็เก็บกระเป๋าไว้ที่เบาะหลัง
     
    “ก็นี่มันคนละเส้นทางกันเลยยังไงก็พักแถวๆนี้ก่อนแล้วกันกว่าข้ามฝากไปถึงโน้นก็คงมืดแล้วแหละ เดี๋ยวเรื่องรถเดี๋ยวให้ลูกน้องป๊ามาจัดการให้โอเคนะ” ชานยอลพยักหน้า คริสเลยโน้มตัวยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บที่แก้มแล้วก็ปิดประตูรถให้
     
    คริสจัดการโทรศัพท์บอกลูกน้องป๊าให้มาจัดการเรื่องรถแล้วก็โทรบอกพ่อของชานยอลว่าเขาจะหาที่พักแถวๆนี้ก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางอีกที ชานยอลที่นั่งมองอยู่บนรถก็รู้สึกอุ่นใจที่อย่างน้อยคริสก็ตามหาเขาเจอถึงจะขับรถตามมาแล้วหลงกันด้วยก็เหอะ ถ้าไม่มีคริสเขาก็ไม่รู้แล้วว่าจะทำยังไงคงต้องขอบคุณที่เขาได้เจอกับคริสสินะ
     
    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยคริสก็ขับรถต่อไปในเส้นทางนั้นเพื่อหาที่พักและคาดว่าเจ้าตัวแสบของเขาคงจะหิวแน่ๆเพราะเขาจำได้ว่าแถวนี้ถ้าขับไปอีกนิดล่ะก็วิวสวยใช้ได้เลย ขับไปได้สักพักใหญ่ๆก็เจอเข้ากับบ้านพักแถวนั้น คริสลงไปถามหาว่ามีที่พักให้พวกเขาหรือเปล่าและก็โชคดีที่ยังเหลือบ้านพักอยู่อีกหนึ่งหลังแต่ก็เป็นเพียงบ้านหลังเล็กๆ ก็ยังดีกว่าคืนนี้ต้องนอนในรถกันนั่นแหละ
     
    “ชานยอลตื่น” คริสเปิดประตูแล้วปลุกเรียก พอชานยอลลืมตาตื่นมองไปรอบก็ทำตาโตเชียว
     
    “ทะเลเหรอ!!?” ชานยอลลงจากรถแล้วยืนมองทะเลที่อยู่ไม่ไกล จริงๆมันก็แค่ชายหาดเล็กๆเท่านั้นแต่วิวก็สวยดี
     
    “คืนนี้เราจะพักกันที่นี่นะโอเคไหม” ชานยอลหันกลับไปมองคริสแล้วก็พยักหน้ารัวๆเลย แบบนี้น่ะมันยิ่งกว่าโอเคอีกนะ!!
     
    พอจัดการเอากระเป๋ามาเก้บไว้ในบ้านหลังเล็กๆได้คุณเจ้าของที่พักก็จัดหาอาหารให้มากินกัน พอกินเสร็จชานยอลที่ร้องไห้จนเหนื่อยก็ขอหลับอีกสักรอบคริสก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว พอช่วยกันปูฟูกนอนเสร็จชานยอลก็ล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปเลย คริสที่ไม่ได้เจอและไม่ได้นอนกอดชานยอลมาหลายวันแล้วก็ลงมานอนซ้อนหลังแล้วพาดแขนโอบกอดไว้
     
    พอโดนอ้อมกอดอุ้นๆกอดชานยอลที่รู้สึกอุ่นทั้งใจอุ่นทั้งกายก็พลิกตัวหันกลับมาซุกคริสแล้วก็หลับสนิทไป คริสที่กอดชานยอลไว้แนบอกก็ได้แต่ยิ้มจนเมื่อยแก้มไปหมดแล้ว ก็เพราะชานยอลน่ารักแบบนี้ไงเขาถึงไปไหนไม่รอดแค่ไมได้เจอหน้ากันก็จะเป็นจะตายซะแล้วบอกเลยว่าถ้าเขาชาดชานยอลไปสงสัยจะขาดใจตายตามไปด้วย
     
    ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหนแต่พอชานยอลตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นคริสอีกแล้ว ด้วยความตกใจก็มองไปรอบๆห้องก็ยังเห็นทั้งกระเป๋าและกุญแจรถของคริสอยู่เลย แค่นี้ก็เบาใจแล้วล่ะว่าคริสจะไม่หนีไปไหน ว่าแต่.. แล้วตอนนี้คริสอยู่ไหนซะล่ะ
     
    ชานยอลเดินออกมาจากบ้านก็เดินลงไปที่ชายหาดเล็กๆที่คล้ายกับหาดส่วนตัว เพราะมันทั้งเงียบสงบแล้วก็บรรยากาศดีมากๆ บางทีมันอาจจะเป็นท่าเรือไว้ส่งของก็ได้ พอเดินลงมาที่ชายหาดก็เห็นร่างสูงของใครบางคนยืนมองท้องทะเลอยู่ ชานยอลเดินเข้าไปใกล้แล้วก็สอดมือกอดเอวและแนบหน้าลงกับไหล่ของคริส
     
    “ตื่นแล้วเหรอตื่นไวจัง” คริสหันหน้ามาถาม ชานยอลก็ยู่หน้าใส่
     
    “ก็ไม่มีใครกอดแล้วนอนไม่หลับก็ตืนน่ะสิ” คริสหัวเราะแล้วดึงชานยอลให้มายืนซ็อนที่ข้างหน้าและตัวเขาก็เป็นฝ่ายกอดชานยอลเสียเอง
     
    “ไว้เดี๋ยวคืนนี้จะนอนกอดทั้งคืนเลย” ว่าแล้วก็ก้มลงฉกหอมแก้มกลมไปฟอดใหญๆทั้งสองข้าง 
     
    “ไม่บอกก็ต้องทำอยู่แล้วเถอะ” ชานยอลหันไปแบะปากใส่
     
    “แล้วมายืนทำอะไรอยู่ที่นี่น่ะ” ชานยอลถามด้วยความสงสัยว่าเพราะอะไรกันที่ทำให้คริสมายืนนิ่งๆมองท้องทะเลได้ มีอะไรให้ต้องคิดกันนะ
     
    “ก็มายืนมองอะไรไปเรื่อยนั่นแหละ” คริสปล่อยอ้อมแขนจากชานยอลก่อนที่จะลงนั่งกับพนื้ทรายแล้วดึงชานยอลให้ลงนั่งที่ระหว่างขาของเขา อ้อมแขนยาวของคริสสอดกอดชานยอลไว้แนบชิด ใบหน้าคมวางปลายคางเกยไหล่ของคนในอ้อมแขน
     
    “แล้วไอ้เรื่อยเปื่อยที่ว่าคืออะไรกันล่ะ” ชานยอลเงยหน้าขึ้นไปมอง คริสก็มองสบประสานสายตาแล้วก็ยกยิ้มอ่อนโยน
     
    “ก็เรื่องของคนแถวๆนี้นั่นแหละ” คริสสอดมือเข้าประสานกับหลังมือของชานยอลแล้วก็โอบกอดกันไว้ 
     
    “ทำไมอ่ะ”
     
    “ก็แค่คิดว่าเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกนานหรือเปล่า อนาคตจะมีอะไรอีกไหมแล้วก็ชานยอลจะยอมอยู่ข้างๆฉันไปอีกนานแค่ไหนกัน” ชานยอลทำหน้าไม่เข้าใจใส่
     
    “ไม่เห็นต้องคิดให้ปวดหัวเลย ถ้าคริสอยู่ชานยอลก็อยู่ด้วยอยู่แล้ว” ชานยอลยิ้มกว้าง คริสยื่นหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆให้รางวัลคนพูดถูกใจ
     
    “แล้วคริสล่ะอยากอยู่กับชานยอลหรือเปล่า ชานยอลเป็นแบบนี้คริสรับได้ใช่มะ?” คริสหัวเราะแล้วโยกตัวไปมา ชานยอลนั่งพิงคริสแล้วมองออกไปยังท้องน้ำที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
     
    “ต่อให้เอ๋อกว่านี้ก็รักครับ” ว่าแล้วก็หัวเราะ ส่วนไอ้คนโดนว่าก็ดึงมือออกมาฟาดเข้าให้ป้าบใหญ่เลย
     
    “คริสอ่ะ! นี่จริงจังอยู่นะเว๊ย!!” คริสยิ้มแล้วยกมือข้างที่สวมแหวนที่จับสอดประสานกันขึ้น เรียวนิ้วของคริสแนบชิดกับเรียวนิ้วของชานยอล แสงอาทิตย์ที่ยังพอเหลืออยู่อีกนิดกระทบตัวแหวนทองคำขาวที่พวกเขาสวมกันไว้คนละวง แหวนที่สื่อแทนใจทุกอย่าง
     
    “ชานยอลเห็นไหม เห็นแหวนวงนี้ของเราหรือเปล่า” ชานยอลพยักหน้ารับ สายตาของทั้งสองมองไปที่แหวนสองวงที่อยู่เคียงคู่กัน มันดูดีและเหมาะสมเมื่ออยู่เคียงข้างกันเพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทั้งสองคน เพื่อความรักของคนสองคน
     
    “นี่แหละคำตอบของคำถามทั้งหมดในใจของเราสองคน” ชานยอลยิ้มกว้าง คริสกดจูบที่กลุ่มผมนิ่มของชานยอล
     
    “ถ้าบอกว่านี่เป็นคำตอบถ้าอย่างนั้นเราก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไปใช่ไหม” ชานยอลเงยหน้าขึ้นไปถาม
     
    “อยู่จนชั่วนิรันดร์เลยครับ” แล้วคริสก็มอบจูบสัญญาแห่งนิจนิรันดร์ให้ ชานยอลเองก็ตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ มือของทั้งสองยังคงสอดประสานกันอยู่อย่างนั้น... และจะไม่มีวันที่มันจะแยกจากกัน
     
     
    ไม่ว่าจะอีกกี่วัน... กี่เดือน... กีปี... อีกกี่สิบปี... ทั้งคริสและชานยอลก็จะอยู่ด้วยกันแบบนี้ อยู่ด้วยกันเหมือนแหวนสองวงที่ต้องอยู่เคียงคู่กัน เหมือนคริสและชานยอลที่ต้องอยู่เคียงคู่กันเพราะแยกจากกันไม่ได้ สองคนที่รวมหัวใจเป็นหนึ่งเดียวตลอดกาล
     
     
    Eternal Love ...Kris&Chanyeol...
     
     
    ชานยอลอาจจะไม่เคยเห็นด้านในของแหวนที่สลักรอบตัวแหวนไว้ว่า รักที่ไม่มีวันสิ้นสูญ ...คริสและชานยอล... แต่ถึงชานยอลจะมองไม่เห็นก็ไม่เป็นไรเพราะคริสจะทำให้ชานยอลเห็นเองว่ารักของเขาน่ะไม่มีวันเลือนหายไปจากโลกนี้จริงๆ รักของเขาที่มีให้ตั้งแต่แรกพบจนถึงชั่วนิรันดร์
     
     
     
    แด่รักที่หอมหวานและเป็นนิรันดร์ ... แด่ความรักของคริสและชานยอล …
     
     
     
     
     
     

     
     
     
    The End…
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×