ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Chapter - 17
บางทีเวลาที่โมโหหรือโกรธมากๆ มันก็มักจะขุดทุกอย่างออกมาเสมอล่ะเนอะ
ถึงพี่คริสจะงี่เง่า............... ก็งี่เง่านะ ก๊ากกกกกกกกกกกก เข้าใจพี่โหดของเราหน่อยนะ
เพราะเขาทำอะไรไม่เป็นนอกจากรักชานยอลคนเดียว กรี๊ดดดดดดดดดดดดด #ชงเองฟินเอง
เห็นแว่บๆ อะไรมีใครร้องไห้ด้วยเหรอ? อิอิ เศร้ากันล่ะซี๊~~ 555555555555555
ปล. ฟิคเดย์ไนท์ยังจองได้อยู่นะคะ ~ *ขายของต่อ*
________________________________
“มึง!!!” คริสพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อลู่หานขึ้นแล้วซัดหมัดเข้าที่มุมปากแรงๆจนลู่หานกระเด็นไปกระแทกกับผนังแล้วไหลลงนั่งกองกับพื้น
“มึงยังกล้าโผล่หน้ามาที่นี่อีกเหรอวะไอ้เชี่ย!!” คริสตะคอกใส่ พยาบาลแถวนั้นเดินมาดุว่าให้เสียงเบาๆ
“กูมาหาชานยอล” คริสมองจ้องลู่หานด้วยสายตาแข็งกร้าวและไม่เป็นมิตร ลู่หานปาดเช็ดเลือดด้วยหลังมือก่อนที่จะค่อยๆใช้ไหล่พยุงตัวกับผนังให้ลุกขึ้นยืน
“มึงไม่มาซะชาติหน้าเลยล่ะ มึงรู้ไหมว่าชานยอลเกือบตายก็เพราะมึง!” ลู่หานหันสายตาหนี
“กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจจะยิงชานยอล” คริสเงยหน้าขึ้นแล้วลูบหน้าตัวเองก่อนที่จะพ่นลมหายใจอีกเฮือกใหญ่
“เรื่องนี้ไว้คุยกันทีหลังรอให้ชานยอลปลอดภัยก่อน.. ถ้าชานยอลฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่กูขอสั่งเลยนะว่ามึงห้ามเข้าใกล้ชานยอลอีกไม่อย่างนั้นกูเอามึงตายแน่!!”
นานพอดูกว่าที่ชานยอลจะถูกพาออกมาจากห้องฉุกเฉินมาที่ห้องพักฟื้นตามเดิม คริสโดนคุณหมอตักเตือนไปชุดใหญ่เรื่องที่พาชานยอลออกไปตากฝนจนมีไข้ซ้อนแล้วไหนจะเรื่องแผลที่ปริก็ต้องเย็บและใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเดิมอีกด้วย คุณหมอกำชับว่าห้ามขยับแขนและห้ามตากฝนอีกไม่เช่นนั้นจะได้เห็นดีกัน จากนั้นคุณหมอก็เดินไปเลย
คริสกับลู่หานกลับมาที่ห้องพักฟื้นของชานยอลก็เห็นว่าเจ้าตัวยังไม่ตื่นและคงอีกสักพักใหญ่ๆ คริสลงนั่งที่ข้างเตียงแล้วจับมือของชานยอลไว้ หลังมือก็แนบหน้าผากแนบแก้มของคนหลับเพื่อวัดอุณหภูมิร่างกาย แม้จะอยู่ใกล้มือหมอแต่เขาก็ไม่อาจจะวางใจได้เลย ก็ชานยอลมีแค่คนเดียวถ้าเขาเสียไปแล้วเขาจะทำยังไง
ลู่หานยืนอยู่อีกข้างแล้วยื่นมือไปลูบหัวคนหลับเบาๆ คริสตวัดสายตามองแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงลู่หานก็ยังมีศักดิ์ความเป็นพี่ ถึงเขาจะไม่ค่อยพอใจและไม่ชอบใจก็เหอะ คริสจูบที่หลังมือของชานยอลแล้วเอามือแนบแก้มตัวเองไว้ เขาอยากให้ชานยอลตื่นขึ้นมาเห็นเขาเป็นคนแรกแล้วครั้งนี้เขาจะไม่หนีไม่ห่างชานยอลอีกแล้ว
ในห้องพักนี้มีแต่ความเงียบทั้งคริสและลู่หานต่างก็เงียบไม่มีใครพูดอะไร นานจนลืมไปแล้วว่าห้องนี้ยังมีคนอยู่ คริสยังคงมองไปที่ชานยอล ลู่หานเองก็เช่นกัน เขาอยากจะพูดแต่ก็ไม่รู้ว่าอีกคนจะรับฟังมากแค่ไหนกัน อยากจะอธิบายทุกเรื่องให้เข้าใจแต่ก็นะพูดไปตอนนี้ไอ้หมาบ้าที่จ้องจะตะครุบเขาทุกเวลาคงจะอาละวาดอีกน่ะสิ
แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยมันก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆน่ะสิ ก็จะเข้าใจผิดกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ.. ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกที่ควร ความลับสมควรถูกเปิดเผยได้แล้ว
“คริสกูว่าเราควรคุยกันได้แล้วนะ” คริสละสายตาจากใบหน้าของชานยอลไปมองใบหน้าของลู่หานที่ตีสีหน้าจริงจัง
“กูไม่คุย” บอกไว้แค่นั้นก่อนที่จะหันมองชานยอลเหมือนเดิม
“แต่มึงต้องคุย ตอนนี้มึงกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่ใช่ไหมเพราะงั้นมึงต้องคุยกับกู” ลู่หานเดินอ้อมเตียงมาแล้วคว้าแขนแต่คริสลุกขึ้นแล้วสะบัดออก
“กูยังไม่มีอารมณ์จะคุยกับมึงตอนนี้ ขอร้องอย่าทำให้กูหงุดหงิดไปมากกว่านี้”
“แต่มึงต้องคุยกับกู ที่มาวันนี้กูจะมาคุยกับมึงเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด” คริสถอนหายใจ
“ไม่จนกว่าชานยอลจะตื่นและถึงตื่นถ้ากูไม่อยากฟังก็คือจะไม่ฟัง” จบประโยคของคริสบานประตูห้องพักของชานยอลก็ถูกเลื่อนเปิดออกและใครบางคนที่เดินเข้ามา
“ถ้าเป็นอา... คริสจะยอมฟังอาไหม” คุณปาร์คจองฮุนเดินเข้ามาแล้วหยุดยืนเยื้องข้างหลังลู่หาน
“พ่อ!” ชานยอลที่ตื่นพอดีเพราะโดนเสียงโวยวายรบกวนก็รีบลุกขึ้นมาทันทีที่เห็นทั้งพ่อและลู่หานยืนอยู่ในห้องแต่ก็ไม่ได้สำนึกว่าตัวเองกำลังเจ็บอยู่
“โอ๊ย!!” คริสรีบเข้าไปประคองแล้วช่วยพยุงให้ชานยอลลุกขึ้นนั่งช้าๆและกระเทือนน้อยที่สุด
“จะรีบลุกขึ้นมาทำไมอยากโดนเย็บอีกใช่ไหมห๊ะ!” ชานยอลแบะปากใส่คริสแล้วก็หันไปมองหน้าพ่อกับลู่หานแล้วก็แบะปากจะร้องไห้อีกแล้ว คริสขยับเข้าไปใกล้แล้วลูบหัวชานยอลเบาๆ
“ชานยอลอยากฟังความจริงจากพ่อแล้วก็ลู่หานหรือเปล่า” คริสมองชานยอลด้วยสายตาอ่อนโยน ไม่ได้บังคับหรืออะไรทั้งนั้น ถ้าชานยอลอยากฟังเขาก็จะฟังและจะอยู่ตรงนี้กับชานยอลด้วย คนที่โดนถามวาดรอยยิ้มกว้างแล้วพยักหน้า
“ฟังสิ คริสก็อยู่ตรงนี้ด้วยนะ” ชานยอลยื่นมือไปกอดเอวคริสถึงจะกอดได้แค่แขนเดียวก็เหอะ คริสครางรับคำเบาๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมจะฟังที่คุณอากับลู่หานจะพูด”
หน่วย DELLTA X เป็นหน่วยลับของทางราชการที่จะถูกให้จัดการและสะสางกับคดีใหญ่ๆที่กรมตำรวจไม่สามารถปิดคดีเหล่านั้นลงได้ หรือแม้แต่คดีที่มีเงื่อนงำซับซ้อนมากมาย คุณปาร์คจองฮุนเป็นหัวหน้าใหญ่ของหน่วยนี้ จองฮุนเข้ารับงานราชการนี้มานานแล้วและก็ถึงวันที่จะต้องเกษียณอายุงานสักทีและด้วยเหตุเพราะทั้งชานยอลและลู่หานคุณจองฮุนก็เลยให้ลู่หานออกจากงานนี้ด้วยและทุกคนที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของคุณจองฮุน
ในคืนวันนั้นเป็นงานทิ้งทวนของหน่วย DELLTA X ที่คุณจองฮุนเป็นหัวเรือใหญ่ ทางหน่วยจะเข้าจับกุมนักฟอกเงินผิดกฏหมาย แผนคือถ้าไฟดับเมื่อไหร่ก็จะเป็นสัญญาณให้เริ่มเข้าจับกุมทันทีแต่ทว่ามันก็อยู่นอกเหนือการควบคุมเมื่องานนี้ชานยอลมาด้วยโดยที่ไม่มีใครรู้เลยสักคนและก็ยิ่งควบคุมไม่ได้ใหญ่เมื่อเหล่าคนร้ายยืนอยู่ข้างหลังคุณคิมยองอุนหัวหน้าพรรคการเมืองและข้างๆก็เป็นบุตรชายคนเล็กและชานยอล
ลู่หานเหนี่ยวไกครั้งแรกออกไปข้ามไหล่ผ่านคุณยองอุนไปโดนนกต่อด้านหลังที่มาจัดการแลกเปลี่ยนข้อมูลผิดกฏหมายในงานนี้และกำลังจะซ้ำอีกครั้งแต่คริสพุ่งเข้ามาชาร์จเขาเสียก่อนเลยทำให้ปลายกระบอกปืนเฉไปหาชานยอล ลูกกระสุนนัดนั้นเลยพุ่งไปที่แขนของชานยอลแทนเพราะคริสเข้ามาตอนที่เขากำลังจะเหนี่ยวไกพอดี
หน่วยราชการลับนี้เป็นองค์กรลับที่ไม่อาจเปิดเผยกับใครได้เพราะฉะนั้นเมื่อตำรวจเข้ามาเคลียร์สถานที่ทุกคนของหน่วยเลยต้องรีบออกจากงานให้ไวที่สุด ในระบบราชการเองก็ยังไม่ทราบเลยว่าบนพื้นแผ่นดินเกาหลีนั้นมีหน่วยงานนี้อยู่เพราะฉะนั้นการไม่เปิดเผยตัวถือจะเป็นการดีที่สุด ลู่หานที่จะมาช่วยชานยอลก็ถูกดึงตัวไปเสียก่อนถึงจะนึกเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน
ไม่ใช่ว่าทั้งลู่หานและคุณปาร์คจะไม่นึกเสียใจที่ชานยอลโดนยิง เขาเห็นกับตาตัวเองว่าลูกกระสุนมันพุ่งไปโดนแขนของชานยอล ที่ยอมหนีออกมาก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกว่านี้ก็เพราะมั่นใจว่าถ้าคริสอยู่กับชานยอลลูกชายของเขาจะต้องไม่เป็นอะไรและคริสคงไม่ปล่อยให้ชานยอลเป็นอะไรไปแน่ๆ เขาถึงได้วางใจให้คริสดูแลชานยอล
ลู่หานเองก็ร้อนใจกลัวว่าชานยอลจะเป็นอะไรซะก่อน ถึงจะต้องซ่อนตัวรอให้พวกตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่และจับกุมพวกมันไปได้ ลู่หานก็จะแอบมาดูอยู่เหมือนกันแต่ก็โดนคำสั่งห้ามไม่ให้มาเสียก่อน ถ้าเกิดมีใครรู้หรือจับได้ขึ้นมามันจะเสียการเอา จนวันนี้ที่ทุกอย่างเรียบร้อยและเขาก็ไม่ใช่คนของหน่วย DELLTA X อีกต่อไปเขาถึงได้มาหาชานยอลและยอมบอกความจริงในทุกๆอย่างให้ฟัง
และเหตุผลที่ตองออกจากหน่วยงานลับแบบนั้นก็เพราะคนที่รัก.. เพราะอยากดูแลคนที่รักให้ดีกว่านี้ อยากใช้ชีวิตกับคนที่รักให้มากกว่านี้ อยากดูแลเขาด้วยสองมือนี้ที่ไม่ต้องเปื้อนเลือดอีกต่อไป หน่วย DELLTA X ถึงได้ถูกยุบลง
“งั้นก็สรุปว่าจริงๆแล้วคุณอาก็เป็นตำรวจลับใช่ไหมครับ” คริสเอ่ยถามหลังจากที่คุณปาร์คเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังจนจบ
“ถ้าจะเรียกแบบนั้นก็ได้นะ” คุณปาร์คส่งยิ้มให้คริสที่นั่งอยู่บนเตียงเคียงข้างลูกของเขา ส่วนเขากับลู่หานก็นั่งอยู่ที่โซฟา
“เห็นไหมล่ะบอกแล้าว่าพ่อกับไอ้ลู่ต้องไม่ใช่คนไม่ดี” ชานยอลถองศอกใส่คริสแล้วยักคิ้วให้
“รู้แล้ว ขอโทษครับ” คริสขยี้หัวชานยอลแล้วก็เลื่อนมือมาลงโอบที่ไหล่
“คุณอาครับ ไอ้ลู่ขอโทษที่เคยพูดไม่ดีว่าลับหลังครับ” คริสลุกขึ้นยืนแล้วก้มตัวลงโค้งขอโทษ คุณอาก็หัวเราะแล้วลุกขึ้นมาตบไหล่คริสแรงๆ
“เอาน่าถ้าเกิดกับอา อาก็คิดแบบนี้แหละขอแค่คริสดูแลตัวเล็กของอาได้ก็พอใจแล้ว ขอบใจนะที่ดูแลชานยอลให้อย่างดี ขอบคุณที่ไม่ทิ้งชานยอลไปไหน” คุณปาร์คยิ้มแล้วตบบ่าคริส คริสเองก็ยิ้มตอบ
“ขอบคุณด้วย ถึงก่อนหน้านี้จะหายหัวไปหลายวันก็เหอะ” ชานยอลจับแขนคริสยิ้มให้แล้วก็แบะปากใส่
“ขอโทษครับยอมให้ทำโทษก็ได้อ่ะ” คริสหันมายิ้มแล้วยื่นมือไปให้ทั้งสองข้าง ชานยอลแบะปากแต่ก็ตีลงสองมือนั้นไม่แรงนัก
“ไว้จะให้พาไปเที่ยวจะเอาให้หมดตัวเลยคอยดู” ชานยอลที่หมายมั่นปั้นมือแล้วก็หัวเราะคิกคัก ทุกคนก็เลยยิ้มตามไปด้วย
“โทษนะที่ต้องทำให้เสียใจ ระดับนี้ไม่มีหมดตัวง่ายๆหรอก” คริสยกมือขึ้นกอดอกแล้วยักคิ้วให้ ชานยอลแบะปากมองใส่อย่างหมั่นไส้
“แล้วก่อนหน้านี้มีอะไรกันเหรอ” คุณปาร์คเอ่ยถามขึ้นขัด คริสกับชานยอลหันไปมองแล้วคริสก็กำลังจะอ้าปากบอกความจริงว่าตัวเขาทำอะไรลงไป
“ไม่มีอะไรหรอกพ่อ ไอ้คริสมันงอนเฉยๆทำนิสัยเป็นเด็กๆไปได้เนอะ งอแงเป็นเด็กสามขวบเลยเด็กโข่งไง?” ชานยอลหันไปจิกสายตาใส่ คริสหัวเราะแล้วพยักหน้า
“โอเคสามขวบ เด็กโข่งด้วย” ชานยอลยิ้มแล้วพยักหน้า
“ไอ้ลู่มานี่ดิ๊” ชานยอลกวักมือเรียกลู่หานที่นั่งเงียบอยู่นานแล้วให้เข้ามาหา ลู่หานก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา คริสขยับตัวออกให้ลู่หานได้เข้าไปที่ข้างเตียง
“ว่าไง” ลู่หานทำท่าจะยื่นมือไปลูบหัวชานยอลแต่ก็ทำท่าลังเล ชานยอลก็เลยจับมือของลู่หานมาวางไว้ที่หัวตัวเองซะเลยหมดเรื่องหมดราว
“น้องยอลรู้ว่าพี่ลู่ไม่ได้ตั้งใจจะยิงชานยอลใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องห่วงนะไม่ต้องขอโทษน้องยอลเข้าใจแค่กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว” ชานยอลยิ้มกว้างๆให้ ลู่หานเลยค่อยๆวาดรอยยิ้มแล้วกอดชานยอลไว้ ชานยอลก็กอดตอบ คริสที่มองอยู่แม้จะยังกรุ่นๆในใจแต่เจ้าตัวว่าไงเขาก็ว่าตามนั่นแหละ
“ขอบใจ” ลู่หานลูบหัวชานยอลแล้วกระซิบเบาๆ
“ก็น้องยอลเป็นน้องของพี่ลู่นิ ไม่เชื่อใจพี่ลู่แล้วจะให้ไปเชื่อใจใครใช่ไหมล่ะ~” ลู่หานผละตัวออกแล้วลูบแก้มกลมของชานยอลเบาๆ
“ก็ไอ้คริสไง” ชานยอลยู่ปากใส่
“คนนั้นน่ะไม่บอกก็เชื่อใจอยู่แล้วเหอะ ว่าแต่คริสไม่โกรธไอ้ลู่แล้วใช่ป่ะ” ชานยอลชะโงกหน้าไปถาม ซึ่งคริสที่อยู่ๆก็โดนโยนคำถามมานั้นก็ตกใจทำหน้าไม่ถูก
“ห๊ะๆ อะไรนะ”
“ไม่โกรธลู่หานแล้วใช่ไหม” ชานยอลจ้องสายตาเขม็งใส่ คริสพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้ลู่หาน
“เออๆ ไม่โกรธแล้ว”
“ดีมากแบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อย” ชานยอลยิ้มแล้วก็เลื่อนสายตากลับมามองลู่หานอีกรอบ
“แต่ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะห้ามยิงพลาดมาโดนน้องยอลอีกนะ น้องยอลเจ็บ” ลู่หานหัวเราะแล้วกอดชานยอลก่อนที่จะพยักหน้ารับ
“ไม่มีอีกแล้ว ฉันจะไม่จับปืนอีกแล้ว” ชานยอลที่อิงใบหน้าอยู่กับอกของลู่หานก็ยิ้มกริ่ม ถึงจะทำงานเป็นสายลับหรือจะตำรวจองค์กรลับอะไรก็เถอะแต่ถ้าต้องจับปืนยิงคนมือเปื้อนเลือดนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่เลย ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากให้ลู่หานเลิกงานแบบนี้ไปเลยเหมือนกัน
คริสที่โดนคุณปาร์คสะกิดแล้วใช้ภาษาท่าทางบอกให้ตามออกมาก็เดินตามออกไป จองฮุนเดินนำไปยังสุดทางเดินแล้วยืนพิงบานกระจกบานใหญ่เอาไว้ สายตาที่มองออกไปด้านนอกหน้าตานั้นคงไม่อาจคาดเดาความหมายได้เลย ไม่รู้ว่าคุณจองฮุนกำลังคิดอะไรอยู่
“อาเข้ารับหน้าที่ในหน่วยนั้นตั้งแต่ชานยอลยังไม่เกิดจนตอนนี้อาถึงได้เลิกเพราะอายุอานามก็ไม่ไหวแล้ว จริงๆอาอยากให้ลู่หานมันทำต่อเพื่อที่จะขึ้นมาแทนอาแต่แล้วอาก็ทำไม่ได้ ใครๆก็อยากจะดูแลคนที่รักกันทั้งนั้น” คริสได้แต่ยืนฟังนิ่งๆ
“งานของอามันเสี่ยงศัตรูก็เยอะมากหน้าหลายตาอิทธิพลพวกมันก็มี อาอาจจะดูแลชานยอลได้ไม่ดีแล้วเกิดอันตรายก็ได้และนั่นคือเหตุผลที่อารับลู่หานมาเลี้ยงอาอยากให้ชานยอลปลอดภัย คริสคงเข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อนะที่มีลูกแค่คนเดียว หัวแก้วหัวแหวนเชียวล่ะ” คริสตอบรับกลับเบาๆ
เขาเข้าใจเพราะเขาก็หวงน้องชายของมากเหมือนกัน ฮวางจื่อเทาเด็กตัวน้อยที่มักจะตามติดเขาไปทุกที่ เด็กตัวเล็กที่ชอบอ้อนเขาถ้าเกิดวันหนึ่งน้องของเขาโดนทำร้ายหรือมีอันตรายเขาก็หวงและสิ่งแรกที่เขาจะทำคือเขาจะจัดการพวกที่มันบังอาจมาทำร้ายน้องเขาให้หมดสิ้น
ตอนที่ม๊าไม่อยู่แล้วจื่อเทาที่รักและติดม๊ามากร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนจนเข้าโรงพยาบาล เขาเป็นห่วงน้องและคอยอยู่ข้างๆน้องมาตลอด ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็จะคอยปกป้อง น้องชายที่แสนน่ารักของเขาน่ะมีคนเดียวก็เหมือนกับชานยอลที่มีคนเดียวและเป็นแก้วตาดวงใจของคุณพ่ออย่างปาร์คจองฮุน
“ยังไงก็ฝากดูแลชานยอลด้วยนะ อาคิดว่าเจ้าลู่หานมันก็คงรู้ตัวนั่นแหละว่าคงถึงเวลาที่มันจะต้องปล่อยมือจากการดูแลชานยอลสักที เด็กอะไรซนอย่างกับลิง” คุณจองฮุนหัวเราะเสียงร่าแล้วหันมาหาคริส
“อารู้นะว่าคริสคิดยังไง อาก็ไม่ได้อยากจะว่าหรอกแต่ช่วยดูแลและปกป้องชานยอลทีนะ อาก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรอีกหรือเปล่า อย่างน้อยทั้งเราแล้วก็พ่อของเราน่าจะช่วยดูแลชานยอลได้ยังไงก็เป็นหูเป็นตาให้อาที”
“ครับ ผมไม่ยอมให้ชานยอลเป็นอะไรไปหรอกคุณอาวางใจได้” คุณจองฮุนยิ้มแล้วตบบ่าคริสหนักๆ
“แหมถ้าไอ้ตัวเล็กของอาเป็นผู้หญิงนี่จะพูดแล้วนะว่าทำดีมากไอ้ลูกเขย ฮ่าๆๆๆ” แล้วคุณจองฮุนก็เดินผ่านตัวคริสไป
“เออโทษทีนะที่ควานหาประวัติบ้านอาแล้วไม่เจออะไรเลย พอดีไม่อยากให้ใครสืบหาอะไรน่ะ” คุณจองฮุนหันหน้ากลับมายิ้มให้แล้วก็เดินต่อไปโดยที่ไม่หันกลับมามองอีกเลย
“รู้ได้ไงวะ” คริสยกมือขึ้นเกาหัวอย่างสงสัยเพราะที่เขาตามสืบบ้านนี้มีแค่เขา ป๊าแล้วก็เลขาของป๊าที่เป็นคนคอยประสานให้แน่นอนว่าเลขาของป๊าไว้ใจได้เพราะเป็นคนของป๊าเอง.. แล้วทำไมคุณปาร์คถึงรู้ว่าเขาสืบประวัติตระกูลปาร์คกัน
แต่ก็ช่างเถอะ.. ตอนนี้เรื่องราวมันก็คลี่คลายได้หมดแล้วเขาก็วางใจแล้ว ถือว่าโชคดีที่คุณปาร์คและลู่หานไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย.. ไม่เช่นนั้นบางทีเขากับชานยอลอาจจะได้จากกันตลอดกาลก็เป็นได้
ชานยอลกำลังตลก อยากจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ได้เดี๋ยวจะโดนโกรธเอา หลังจากที่พ่อบอกว่าจะไปรับแม่กลับบ้านแล้วก็จัดการบ้านก่อนก็ทิ้งลู่หานไว้ที่นี่ แล้วทีนี้พอคริสกลับมาก็เหมือนจะถึงเวลาชำระแค้นของลูกผู้ชายที่เคยซัดกันสินะ แค่มองหน้าลู่หานก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือใคร
ก็พอจะรู้หรอกว่าทั้งคริสและลู่หานก็แหย่กันไปแบบนั้นเองแต่คือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีเขาเป็นตัวกลางด้วยเนี่ย หันซ้านหันขวามองแล้วปวดหัวนะบอกเลย คริสอยู่ข้างขวา ลู่หานอยู่ข้างซ้าย นี่ถ้าไม่มีเขานอนคั่นกลางทั้งสองคนจะกระโดดซัดกันหรือเปล่าน๊า~ ก็น่าลองดูเหมือนกันนะ อิอิ
“มึงหยุดอยู่ตรงนั้นเลยไอ้ลู่ ถ้ามึงก้าวเข้ามาใกล้เตียงชานยอลนะกูจะเอาถาดอาหารฟาดมึงแน่” คริสโอบชานยอลมาอิงที่ตัวเขาแล้วก็ชี้หน้าลู่หาน
“ทำไมกูจะเข้าไปไม่ได้นั่นน้องกูนะ” ลู่หานเถียงสู้ คริสตีสีหน้าโหดแล้วโอบกอดชานยอลไว้
“มึงก้าวเข้ามาอีกกูต่อยมึงแน่!” ลู่หานยักไหล่แล้วเดินอ้อมเตียงกลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม จริงๆแล้วเมื่อกี้กำลังแย่งกันจะป้อนข้าวชานยอลนั่นแหละ
“หมดตัวก่อกวนแล้วก็กินข้าวกันเนอะ ตัวเล็กจะได้หายไวๆ” คริสลงนั่งที่เก้าอี้แล้วก็เริ่มป้อนข้าวชานยอลที่พยายามกลั้นหัวเราะอยู่แต่ก็อ้าปากยอมให้เขาป้อนข้าว
“ตัวเล็กตรงไหนวะ ตัวใหญ่กว่ากูอีก” ลู่หานบ่นเบาๆแต่คืออยู่กันแค่นี้ก็ได้ยินไง ได้ยินชัดด้วยเถอะปาร์คชานยอลขอไฝว์เลยอ่ะ!!
“ตัวเล็กของกูไม่หน้ายับเหมือนมึงด้วยเหอะ หุบปากแล้วนั่งเฉยๆไปเลย!” คริสหันไปขึ้นเสียงใส่ ลู่หานเพียงแค่ยกยิ้มแล้วนั่งก้มหน้ากดมือถือต่อไป
“จะตื๊บมันมะ? ฝากสองทีดิ” ชานยอลทำท่ากระซิบแต่เสียงที่พูดนี่ระดับปกติเลยนะ
“เดี๋ยวจัดให้ครึ่งโหลเลย” แล้วคริสกับชานยอลก็หัวเราะด้วยกัน ลู่หานก็ยิ้มแล้วส่ายหน้าไปมา อะไรๆที่มันกำลังดีอยู่นี้ก็ขอให้มันดีต่อไปเรือยๆนั่นแหละนะ
คริสป้อนข้าวชานยอลจนหมดแม้เจ้าตัวจะบอกว่ากินเองได้ก็เถอะแต่คริสก็ไม่ยอมหรอก ก็พ่อเขาฝากลูกชายให้ดูแลแล้วนินะ ถ้าว่ากันตามตรงนี่คือการยกลูกให้หรือเปล่านะ.. แต่เอาเถอะอู๋อี้ฟานจะคิดว่าใช่นั่นแหละ ชานยอลก็นั่งเฉยๆอ้าปากรอเขาป้อนข้าวป้อนน้ำมาให้ แลดูเหมือนลูกนกรอแม่นกป้อนอาหารเลยแหะ
หลังจากที่กินข้าวเสร็จคริสก็เอาแก้วน้ำที่มีหลอดมาให้ชานยอลดื่มน้ำ เช็ดปากให้ด้วย ป้อนยาด้วยเรียกได้ว่าดูแลดียิ่งกว่าญาติสนิทมิตรสหายเสียอีก ลู่หานที่มองอยู่ก็นึกให้หมั่นไส้ชะมัดแต่ก็เอาเถอะพ่อยกชานยอลให้มันและเขาที่ก็เฝ้าเพียรจับชานยอลใส่พานถวายให้มันก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนกันบ้าง มันเอาน้องเขาไปเขาก็จะเอาน้องมันมาบ้าง
...แฟร์ดีไหมล่ะ...
“คริสชานยอลเดินเองได้!” ชานยอลหันไปเหวี่ยงใส่ มีอย่างที่ไหนล่ะเขาเจ็บแขนมาประคองแทบจะอุ้มกันแบบนี้ มันไม่ใช่นะเว๊ย!
“ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็กลัวล้มนิ” คริสยู่หน้าใส่บ้างแต่ชานยอลกลับหัวเราะ
“ทำไปก็ไม่น่ารักหรอก แบร้! ปล่อยได้แล้วนี่แขนเจ็บไม่ได้ท้องหรือเป็นง่อยนะเว๊ย!” คริสเลิกคิ้วแล้วมองคนในอ้อมแขนด้วยรอยยิ้มมุมปาก แหมทำไมมันช่างมีเลศนัยแบบนั้นนี่ลูกพี่พูดอะไรผิดไปหรือเปล่าเนี่ย
“ท้องเหรอ? ลูกแฝดหรือเปล่าล่ะจะได้ดูแลอย่างดีเลย” คริสเลิกคิ้วมองชานยอลที่ทำหน้าไปไม่ถูก เวลาที่ชานยอลทำหน้าแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันแหะ.. อยากจะเก็บไว้ดูคนเดียวซะแล้วสิเนี่ย
“น่าจะแฝดสามมั้ง” แล้วทีนี้ก็เป็นคริสที่ทำหน้าไปไม่เป็นบ้างก็ดันเจอชานยอลสวนมาแบบนี้ คนที่น็อคคริสได้ก็หัวเราะใหญ่เลย แหมลู่หานนี่สอนอะไรใช้ได้ทันใจ
“นี่คิดจริงจังนะ” ชานยอลยกมือขึ้นขยี้หัวคริสแล้วแบะปากใส่
“ชานยอลท้องไม่ได้คริสก็รู้ ยังจะมาพูดดีอีกเดี๋ยวตีให้ตายเลย” ชานยอลยกมือขึ้นทำท่าจะตีจริงๆ
“ถ้าตายด้วยฝีมือของตัวเล็ก คริสก็ยอมนะ” ทั้งคริสและชานยอลมองหน้ากันก่อนที่จะหัวเราะออกมา ก็แหมไม่ได้เจอกันนานใช่ไหมล่ะมันก็ต้องมีหยอกล้อตามทดคะแนนกันบ้างสิ เอาจริงๆก็คือตั้งแต่วันที่คืนดีกันในวันฝนตกนั้นแล้วก็หยอดใส่กันมาเรื่อยๆ มีความสุขดีจังเลยแหะ
“แล้วนี่ต้องกลับบ้านเลยไหมหรือยังไง” คริสถามพร้อมกับเดินประคองชานยอลออกจากห้องพักฟื้นเพราะคุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้เพราะแผลก็เริ่มที่จะสนิทกันดีแล้วแต่ก็ยังโดนสั่งห้ามขยับแขนเยอะๆหรือยกของหนักอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีปัญหาชานยอลไม่เคยได้ยกอะไรอยู่แล้ว
“พ่อบอกว่าไปนอนบ้านคริสก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปรับเพราะวันนี้ยังจัดการบ้านไม่เสร็จเลย”
“ทำไมจัดบ้านนานจัง สงสัยฝุ่นจะเยอะ” ชานยอลบึนปากแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย
“คงงั้นอ่ะ ไหนจะสวนของพ่ออีกล่ะป่านนี้คงจะตายหมดแล้วมั้งน่ะ” คริสรั้งหัวของชานยอลให้มาซบที่ซอกคอของเขาแล้วตัวเองประคองชานยอลเดินไปตามทางเดินของโรงพยาบาล
“แล้วนี่จ่ายค่าห้องแล้วเหรอ” ชานยอลเงยหน้าขึ้นไปมอง คริสก้มหน้าลงมาจรดริมฝีปากที่หน้าผาก
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“เท่าไหร่อ่ะเดี๋ยวไปบอกพ่อให้” คริสรั้งตัวชานยอลที่ไม่ได้เดินดูทางแต่เดินมองหน้าเขาหลบคุณพยาบาลที่กำลังเข็นรถเข็นของผู้ป่วยสวนมา
“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง เมียคนเดียวเลี้ยงได้” ชานยอลแบะปากใส่
“เออให้มันจริง เดี๋ยวจะผลาญเงินให้หมดตัวล้มละลายเลยคอยดู” คริสหัวเราะแล้วขยี้เส้นผมของชานยอลไปมาจนยุ่งเหยิงไปหมด
“ผลาญหมดตัวได้ก็ลองดิ บอกไว้เลยนะว่ารวยมากอ่ะ” คริสกับชานยอลหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเบิกบานใจเหลือเกิน ก็แค่คิดว่ามันเป็นเรื่องดีๆที่ได้อยู่ด้วยกันล่ะมั้ง.. ก็แค่มีกันและกันอะไรๆก็กลายเป็นเรื่องสนุกและความสุขได้ทั้งนั้นแหละ
คริสพาชานยอลออกจากโรงพยาบาลนี้ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะสดใสของคนในอ้อมแขน ฝากทิ้งเรื่องราวร้ายๆไว้เบื้องหลังและจะไม่หันกลับไปมองมันอีก ตอนที่เข้ามาในโรงพยาบาลพวกเขาเข้ามาด้วยเรื่องราวที่เลวร้าย ความเป็นความตายและคราบน้ำตาแต่พวกเขาจะทิ้งมันไว้แล้วเดินออกมาเจอกับความสุขเบื้องหน้าที่สดใสและส่องสว่างอยู่ไม่ไกล
...ฟ้าหลังฝนที่สดใส ตอนนี้เขาได้เห็นมันแล้ว...
คริสประคองชานยอลขึ้นบนรถของเขา เก็บของใส่เบาะหลังเรียบร้อยคริสก็ขึ้นมานั่งประจำที่ ชานยอลกำลังดึงสายเข็มขัดนิรภัยอยู่แต่ด้วยมือเดียวมันก็ไม่ค่อยถนัด จริงๆแผลก็สมานกันแล้วล่ะแต่มันก็ยังไม่หายดีนักขยับแขนมากๆทีไรจะโดนคริสดุเอาทุกทีก็เลยเลือกที่จะไม่ค่อยใช้งานมันซะดีกว่า ก็กลัวโดนดุนิหว่ายอมรับเลยตรงๆ ลูกพี่แมนอยู่แล้ว!
“มานี่มาเดี๋ยวช่วย” คริสขยับตัวไปทางชานยอลแล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ ใบหน้าของคริสและชานยอลอยู่ใกล้กันแทบจะสัมผัสกันได้ คริสหันสายตามามองก็เห็นว่าชานยอลมองอยู่และริมฝีปากอิ่มคู่นั้นก็กำลังวาดรอยยิ้มอยู่
“ยิ้มอะไร” ชานยอลส่ายหน้าไปมา
“ก็เห็นอยู่ว่ายิ้ม” แต่ชานยอลก็ยังส่ายหน้าเป็นคำตอบเดิม
“หึ.. อย่าทำตัวให้น่ารักมากได้ไหมหื้ม?” คริสโน้มหน้าลงมาแล้วแตะทาบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากนิ่มคู่นั้น บดสัมผัสเคล้นคลึงอย่างถวิลหากัน ชานยอลยกมือข้างที่ไม่เจ็บขึ้นแล้วแนบแก้มของคริสไว้พร้อมกับตอบรับจูบที่ถูกป้อนลงมา
คริสบดเบียดป้อนจูบให้จาบจ้วงยิ่งขึ้น ชานยอลก็ตอบรับทุกสัมผัส เรียวลิ้นแตะสัมผัสแล้วพันเกี่ยวกันไว้ไม่มีใครยอมถอยก่อนยังคงไล่ต้อนกัน คริสเฝ้าวนบดเบียดริมฝีปากนิ่มไม่เลิกรา ชานยอลก็ตอบรับทุกจังหวะที่ถูกป้อนมา ความหวานที่ไม่ได้สัมผัสกันมานานพอได้มาสัมผัสกันก็แทบจะไม่อยากถอนสัมผัสออกถ้าชานยอลไม่ครางประท้วงในลำคอ ริมฝีปากได้รูปละสัมผัสออกแต่ก็ไม่วายขอขบเม้มกลีบปากนิ่มไปอีกสักที
“ฉันทำตัวน่ารักแล้วรักไหมล่ะ” คริสยกยิ้มที่มุมปากแล้วพยักหน้า ปลายเรียวนิ้วแตะสัมผัสที่แก้มกลมเบาๆ
“รักสิ มากด้วยนะ” ชานยอลยิ้มแล้วยื่นหน้าไปแตะสัมผัสที่ริมฝีปากของคริส ทาบค้างไว้เช่นนั้นสักแปบก็ถอนออก
“เรากลับบ้านของเรากันนะ” คริสทัดปอยผมที่ปรกหน้าของชานยอลไปทัดที่ใบหูให้ เขาว่าชานยอลผมยาวไปแล้วนะ พอผมยาวมากๆก็ยิ่งน่ารักแล้วแบบนี้เขาจะกล้าให้ชานยอลห่างตัวได้ยังไงกันนะ
“อืมกลับบ้านของเรากัน!” แล้วรถแวนสีดำก็เคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านของเรากัน ชานยอลมองออกไปนอกกระจกรถแล้วก็ฮัมเพลงเบาๆอย่างมีความสุข พอชานยอลมีความสุขเขาก็เลยยิ้มและมีความสุขไปด้วย
พอได้ยินคำว่า ‘บ้านของเรา’ ที่ชานยอลพูดนั้นมันก็ทำให้เขานึกคิดไปถึงสถานที่ที่เป็นของเราแค่สองคน ที่ที่จะมีแค่เขากับชานยอล สถานที่ที่เขากับชานยอลจะใช้ชีวิตร่วมกัน คริสหันหน้าไปมองก็เห็นเงาสะท้อนชานยอลจากกระจกที่กำลังยิ้มและฮัมเพลงอย่างมีความสุข ใบหน้าที่มีความสุขแบบนั้นน่ะอยากเห็นมันทั้งวันเลย
ถ้าไปขอป๊าซื้อคอนโดป๊าจะยอมหรือเปล่าวะเนี่ย .. ถ้าไม่ยอมก็แค่โดนด่าแค่นั้นแหละ... มั้งนะ..
เมื่อชานยอลกลับมาถึงบ้านของคริสก็เห็นทุกคนมารอต้อนรับเขาเต็มบ้านเลย คุณป๊าที่แวะเวียนไปเยี่ยมบ้างแต่ก็ติดงานยุ่งๆก็ยอมมานั่งรอเขา ออมม่าที่มักจะไม่ค่อยอยู่ก็มาคอยหรือแม้แต่เซฮุนที่ไม่ค่อยได้คุยกันน้องก็มานั่งรอเขา แค่เห็นชานยอลก็มีความสุขแล้ว
คริสพาชานยอลเดินเข้าไปในตัวบ้าน คนแรกที่เข้ามาชานยอลเลยก็คือคุณป๊าที่มาลูบหัวลูบแก้มใหญ่ บอกว่าจะไปรับไอ้ลูกชายก็ไม่ยอมบอกให้รออยู่ที่บ้านดูสิคุณป๊าเลยอดพานั่งรถเล่นก่อนกลับบ้านเลย พอชานยอลกลับมาก็โดนทั้งป๊าทั้งม๊าดูแลประคบประหงมอย่างกับไข่ในหิน คริสก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
“ไงเฮียยิ้มหน้าบานเลยนะ” คริสหันไปมองก็เห็นเทามายืนอยู่ข้างๆก็เลยยกแขนกอดคอน้องซะเลย
“ก็มีความสุขจะให้เฮียร้องไห้ไงวะ” เทากรอกตาไปมา
“เออเอาเหอะจะร้องไห้หรือจะยิ้มเหมือนคนบ้าก็เรื่องของเฮียเถอะ ว่าแต่เคลียร์กันรู้เรื่องแล้วแน่นะ”
“เรียบร้อยแล้ว เป็นห่วงล่ะดิ๊~” เทาพยักหน้ารับไปตรงๆพวกเขาสองพี่น้องก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดกันอยู่แล้วนินะ ทุกเรื่องทุกความรู้สึกก็คุยกันบอกกันหมดนั่นแหละ คริสยิ้มแล้วขยี้หัวเทาจนผมที่เซ็ทไว้เป็นอย่างดีกระจายไม่เป็นทรง
“ไม่ต้องห่วงไปหรอกน่าเฮียจัดการได้” คริสยักคิ้วให้ เทาก็ยิ้มแล้วหัวเราะเหอะๆใส่
“จื่อเทา.. ถ้าเฮียขอป๊าซื้อคอนโดป๊าจะซื้อให้ไหมวะ” เทาทำหน้าตาตกใจแล้วหันมองพี่ชายที่ยังยิ้มอยู่
“คอนโด? ซื้อทำไมอย่าบอกนะว่า...”
“เอออยากไปอยู่กับชานยอลสองคน” เทาส่ายหน้า
“เชื่อดิป๊าไม่ยอม ออมม่าก็ไม่ยอมแน่... ดูนั่น” คริสหันไปมองตามก็เห็นทั้งป๊าและออมม่าที่กำลังเอาใจชานยอลด้วยการพาไปนั่งป้อนข้าวป้อนน้ำ
“เฮียต้องอยู่ที่นี่แล้วแหละ ทำห้องเก็บเสียงเลยไหมล่ะ” แล้วจื่อเทาก็หัวเราะคริสก็เลยเตะก้นไปสักที
“นี่ยืนอยู่ตรงนั้นกันอยู่ได้ มานั่งเร็วๆสิมาเล่าให้ฟังด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น” จุนมยอนกวักมือเรียกแล้วก็ส่งยิ้มมาให้ จื่อเทาก็รีบเดินไปหาเลย แหมขนาดกลายร่างแล้วก็ยังเชื่องอยู่ดีนะฮวางจื่อเทา
“ต้องเล่าด้วยเหรอ?” คริสเดินมานั่งกับน้องๆ คริสลงนั่งที่โซฟาตัวเดี่ยวแล้วเลิกคิ้วถามน้องๆ
“เล่าสิอย่างมาทำหวงนะ” จุนมยอนมองค้อนใส่เข้าให้ คริสก็ระบายยิ้มแล้วพยักหน้ากำลังจะเล่าเสียงเรียกชื่อเขาก็ลอยมาแต่ไกลเลย
“คริส!!”
“อ่า.. โทษทีไว้ว่างจะเล่าให้ฟังนะ” คริสยิ้มให้น้องๆแล้วลุกขึ้นเดินไปหาชานยอลที่ร้องเรียกเขา น้องที่เหลือที่อยากจะรู้เรื่องเสียเหลือเกินก็แบะปากเอาโดยเฉพาะเซฮุนที่อุตส่าห์อยากรู้ซะหน่อยว่าทำยังไงให้ไปโดนยิงได้ คริสเดินเข้าห้องครัวไปก็เห็นชานยอลนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวและขนาบข้างไปด้วยป๊าและออมม่าที่นั่งป้อนข้าวป้อนขนมกันใหญ่
“เรียกทำไม” ชานยอลส่งยิ้มกว้างๆมาให้
“หยิบน้ำให้หน่อย” คริสทำหน้างงแต่ก็ยอมเดินไปหยิบให้ เอาเถอะคุณลูกเจ้าของบ้านเขาสั่งมาทั้งทีลูกเก็บมาเลี้ยงอย่างเขาจะขัดใจได้ยังไงกัน อนาถใจจริงๆ ขนาดเขาป่วยนะป๊ากับออมม่ายังไม่เคยดูแลดีแบบนี้เลย พูดแล้วเจ็บปวด
“น้ำครับคุณลูกเจ้าของบ้าน” คริสรินน้ำใส่แก้วมาให้ ทั้งชานยอล ป๊าและออมม่าก็หัวเราะสนุกกันใหญ่ คริสเดินไปลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับชานยอลแล้วก็นั่งมองชานยอลที่กำลังยิ้มแล้วก็อ้อนป๊ากับออมม่าเรื่องแผลที่แขนว่าเจ็บจะเป็นจะตาย ก็เอากับเขาสิ ใครในโลกนี้จะน่ารักแล้วก็ขี้อ้อนได้เท่าชานยอลมั้งล่ะเนี่ย.. ไม่มีล่ะสินะ
“นี่คุณเด็กเก็บมาเลี้ยงไปหยิบผลไม้ในตู้เย็นให้ออมม่าหน่อยเร็ว” เอากับออมม่าเขาสิ!!!
เอาน่า.. สถานการณ์ในบ้านปกติก็พอแล้วล่ะ
คริสมีความลับที่เขาไม่ได้บอกชานยอล คิดว่าถ้าบอกไปชานยอลคงไม่พอใจหรอกเพราะเขาจำได้ว่าชานยอลแพ้ควันบุหรี่ คริสสูบบุหรี่เป็น.. ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนั้นคริสที่ยังรู้สึกไม่ลงรอยกับครอบครัวใหม่ได้ลองทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ แข่งรถ การสัก ชกต่อยแต่เขาไม่คิดที่จะลองยา ถึงแม้จะเกือบเผลอไปบ้างก็เถอะ เขาไม่ชอบใจที่ป๊าของเขาจะแต่งงานใหม่กับคนอื่น... มะม๊าของเขามีแค่คนเดียวและมีคนเดียวตลอดไปนั่นเป็นหุตผลที่ว่าทำไมเขาถึงเรียกคุณจองซูว่าออมม่า
คุณจองซูไม่ใช่คนไม่ดี ไม่ใช่คนที่จะมากักเกณฑ์ชีวิตของใครเธอเป็นคนที่ค่อนข้างเอาใจใส่ตัวของคริสและเทามากพอๆกับลูกของเธอเลย ยิ่งนานวันเข้าคริสก็ยอมรับตัวของเธอและครอบครัวนี้ไปโดยที่ไม่รู้ตัว เรื่องที่จะประชดประชันครอบครัวด้วยการทำตัวแย่ๆก็เลยเพลาลงและเป็นช่วงที่เขามาเจอกับชานยอลพอดี อะไรๆในหัวที่มันเคยเป็นด้านลบมันก็เลยกลายเป็นด้านบวกมากขึ้น ทุกวันนี้เขาเลิกชกต่อย เลิกแข่งรถและเลิกเพิ่มรอยสักแล้ว แต่สิ่งที่เขายังไม่เลิกก็คือการสังสรรค์และบุหรี่ที่ตัวเขามักจะคิดถึงมันยามที่มีเรื่องให้ทุกข์ใจเท่านั้น
ครั้งหนึ่งเขากับชานยอลเคยกลับบ้านด้วยกันแล้วโดนพวกคู่อริจากต่างโรงเรียนมารอสะสางบัญชี พวกมันพ่นควันบุหรี่ใส่แค่นั้นแหละชานยอลก็จามไม่หยุด น้ำตาไหลตลอดเลยแค่นี้เขาก็รู้แล้วล่ะว่าชานยอลแพ้ ดีที่จงอินกับลู่หานตามมาช่วยได้ทันไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการพวกมันแล้วก็ดูแลชานยอลไปพร้อมกันได้ยังไง
คริสพ่นควันสีขาวให้ลอยวนและจางหายไปกับอากาศ เขากำลังมีเรื่องที่คิดไม่ตก คริสยันสองแขนไว้กับราวระเบียงแล้วก้มหน้าลงถอนหายใจเสียเฮือกใหญ่ เขารู้ว่าป๊าไม่เคยคิดที่จะให้เขาสืบทอดอาชีพนักการเมืองหรอกแต่ออมม่าน่ะอยากให้เขาทำ เขารู้ว่าป๊าไม่เคยพูดแต่ป๊าก็อยากให้เขาทำ.. แต่ตัวเขาไม่อยากทำ ปีหน้าเขาก็จะเรียนจบแล้วและถ้าเขาอยากจะสืบทอดอาชีพนักการเมืองของป๊าเขาก็ต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้วชานยอลล่ะ..?
ชานยอลค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกตัวและได้กลิ่นอะไรหวานๆลอยมา พอลืมตาก็มองเห็นคริสยืนอยู่ที่ระเบียงพร้อมกลุ่มควันสีขาวที่ลอยเอื่อย ตลบผ้าห่มออกจากตัวได้ก็ค่อยๆสาวเท้าไปหาคนที่ยืนเป็นพระเอกเอ็มวีอยู่ที่ระเบียง พอเข้าไปใกล้ๆแม้กลิ่นที่ได้กลิ่นมันจะหอมหวานชวนน่าลิ้มลองแต่ชานยอลก็ไม่ชอบมันอยู่ดี น่าแปลกที่คริสไม่รู้ว่าเขาเดินมายืนอยู่ด้านหลังใกล้ขนาดนี้ ชานยอลกางสองมืออกแล้วสอดเข้ากอดเอวของคริสไว้ก่อนที่จะเอียงหน้าซบที่ไหล่แข็งแรงของคริส
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ”คริสลูบท่อนแขนที่โอบกอดเขาแล้วก็หันไปหาคนด้านหลัง
“อื้อตื่นแล้ว สูบบุหรี่เป็นด้วยเหรอ”
“เป็น โทษทีเดี๋ยวดับให้” คริสขยับตัวจะไปดับบุหรี่ในมือกับที่เขี่ยบุหรี่ที่เขามีซ่อนในที่ระเบียงแต่ชานยอลกลับดึงออกมาลองสูบดูบ้างแต่ผลก็คือไอไม่หยุดเลย
“สูบไม่เป็นแล้วจะสูบทำไมกันห๊ะ!!” คริสดึงบุหรี่ออกจากมือของชานยอลแล้วเอาไปดับก่อนที่จะมาลูบหลังให้คนที่ไอไม่หยุด ชานยอลกำเสื้อของคริสไว้แน่นตอนนี้ไอจนน้ำตาไหลเลย
“ก็อยากรู้นิว่าทำไมต้องสูบด้วย มันอร่อยตรงไหนกัน” คริสส่ายหน้าไปมาแล้วปาดเช็ดน้ำตาให้
“แล้วรู้หรือยังล่ะ” ชานยอลพยักหน้า
“ไม่เห็นอร่อยตรงไหนเลย” ชานยอลแบะปากใส่แล้วยกสองแขนขึ้นคล้องรอบคอของคนตัวสูงกว่าก่อนที่จะยิ้มหวานแล้วเอียงคอใส่
“ถ้าอยากสูบอ่ะ.. มาดูดชานยอลก็ได้นะ” คริสยกมุมปากขึ้นยิ้มแล้วเกี่ยวชานยอลให้เข้ามาชิด
“จะดูดให้หมดทั้งตัวเลย” ว่าแล้วก็ก้มหน้าลงป้อนจูบให้ กดจูบบดเบียดเข้าหากันอย่างจาบจ้วง คริสสอดมือเข้าใต้เสื้อนอนของชานยอลแล้วลูบไล้แผ่นหลังบาง
“อื้อ.. พอแล้ว” ชานยอลเบี่ยงหน้าหนี คริสก็เลยกดริมฝีปากไล้ที่แก้มใสแทน
“ทำไมต้องมายืนดูดบุหรี่ตรงนี้เป็นพระเอกเอ็มวีหรือไง ถึงกลิ่นจะหวานแต่ไม่เห็นอร่อยเลยไม่ชอบ” ชานยอลขมวดคิ้วมุ่นแล้วมองหน้าคริส ปลายเรียวนิ้วแตะสัมผัสที่แก้มของชานยอลเบาๆ
“พอดีมีเรื่องต้องคิดนิดหน่อยน่ะ”
“คิดเรื่องอะไรเหรอบอกได้ป่ะ” ชานยอลทำตาโตเอียงคอถาม คริสยิ้มแล้วดึงชานยอลมากอดไว้เจ้าตัวก็วางคางเกยไหล่ของคริสแล้วก็ลูบหัวปลอบ
“กำลังคิดอยู่ว่าจบแล้วจะไปทำอะไรดี แล้วชานยอลจะทำอะไร” ชานยอลโคลงหัวไปมากับไหล่ของคริส
“อืม.. ไม่รู้สิ อาจจะอยู่เฉยๆให้คนแถวนี้เลี้ยงมั้ง” แล้วเจ้าตัวก็หัวเราะคิกคัก
“ก็เลี้ยงได้อยู่นะ เลี้ยงให้อ้วนๆเวลาจับไปขายจะได้ราคาดีๆ” ชานยอลผละตัวออกแล้วเตะขาคริสไปสองทีข้อหากวนประสาท คริสหัวเราะแล้วยกมือขึ้นลูบแก้มของชานยอลเบาๆ
“กวนตีนล่ะ”
“ถ้าเกิดว่าฉันต้องไปไกลๆ ชานยอลจะไปด้วยกันไหม” ชานยอลยิ้มแล้วเลื่อนมือขึ้นไปเกาะไหล่คริสพร้อมกับเอียงคอใส่
“ให้ไปด้วยไหมล่ะ ถ้าให้ไปด้วยก็จะตามไปทุกที่เลยว่าแต่จะไปไหนอ่ะ” คริสส่ายหน้า
“แค่ถามเฉยๆ อยากรู้” ชานยอลแบะปากใส่
“ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปไหนหรือจะทำอะไรก็ไม่เห็นจะต้องคิดเลย คิดมากปวดหัวเปล่าๆ อนาคตก็คืออนาคตน่า” ชานยอลส่ายหน้าแล้วดันคริสให้ออกห่าง
“ถอยไปเลยจะยืนคิดให้ตัวแตกตายอยู่ตรงนี้ก็ได้นะ ฉันจะได้ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวก่อน” ชานยอลเดินผ่านคริสมาไม่สนใจอีกด้วย คริสที่มองตามก็ยิ้มออกมา แหมตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาชานยอลก็เพิ่งจะพูดอะไรที่ถูกใจเขาก็ตอนนี้นี่แหละ
“ไปอาบด้วยได้ป่ะ” ชานยอลหันหลังกลับมาแล้วยิ้มกว้าง
“ก็ตามมาดิ” กวักมือเรียกเสร็จก็หมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำไปเลย คริสหัวเราะในลำคอแล้วก็เดินตามเข้ามา ก่อนที่จะตามชานยอลเข้าห้องน้ำก็ไม่ลืมปิดประตูระเบียงด้วย
ชานยอลก็พูดถูกนะเรื่องของอนาคตก็คืออนาคตอย่างที่ชานยอลบอกนั่นแหละ ถ้ายังไม่ถึงก็ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันมากมาย เอาน่าอย่าไปคิดมากเลย เรื่องที่ได้ยินมาก็ลืมๆมันไปซะเพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือไปอาบน้ำกับคนตัวเล็กนั่นต่างหาก
“คริสไวๆดิวะ” ชานยอลชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำแล้วตีหน้าดุใส่
“จะรีบไปไหนวะกลัวไม่ได้อาบน้ำด้วยกันหรือไง” ชานยอลแบะปาก
“จะรีบมะ? ไม่รีบฉันจะได้ล็อคประตูห้องน้ำซะเลย” ก้าวไม่กี่ก้าวคริสก็ถึงหน้าประตูห้องน้ำแล้ว
“มาแล้วครับ เมียจ๋าก็ทำเป็นรีบไปได้” ชานยอลมองค้อนใส่แล้วยื่นมือไปทุบอกเข้าให้
“ตลกเถอะ!” ชานยอลหันหลังเดินเข้าส่วนด้านในของห้องน้ำ คริสก็เดินตามก้าวเข้ามาแล้วปิดประตูห้องน้ำ
ชีวิตที่มีชานยอลน่ะมันสนุกนะ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนชานยอลก็ต้องอยู่กับเขานั่นแหละ
ก็ถ้ามีคริสก็ต้องมีชานยอล ถ้ามีชานยอลก็ต้องคู่กับคริส ... ยังไงก็หนีกันไม่รอดหรอกน่า~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น