ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #175 : Rabuyan ก็คนหน้าไม่หล่อนี้หว่า!?

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 55



                   

    ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวโด่งดังไปทั่วโลก โดยเป็นเรื่องราวของโอตากุชาวเกาหลีคนหนึ่งชื่อ “ลีจินกิว” ซึ่งมีรูปลักษณ์เป็นเด็กหนุ่มอ้วนกลม ซึ่งทำเรื่องตกใจแก่คนรอบข้าง(และทั่วโลก) เมื่อเขาทำพิธีแต่งงานกับหมอนข้างรูปเฟทจัง (จากอนิเมะจอมเวทย์สาวนาโนฮะ Mahou Shoujo Lyrical Nanoha)

    "ดากิมากุระ" หรือหมอนข้างลายการ์ตูนสาวนั้นโด่งดังมากในประเทศญี่ปุ่น และมีโอตากุรักหมอนข้างเช่นเดียวกับเขาหลายราย

    โดยจากแหล่งข่าวบอกว่าโอตากุคนนี้รักเฟทจังมากถึงขึ้นขั้นสะสมทั้งโปสเตอร์ ฟิกเกอร์ ผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนข้างเป็นลายเฟทจัง เพื่อให้คนรอบข้างรู้ว่าผู้หญิงที่เขารักมีเฟทจังเท่านั้น (ถ้าเป็นไปได้ตรูก็อยากสะสมนิมฟ์จังกับแคมมี่จังเหมือนกันว่ะ) นอกจากนี้เขายังนำหมอนข้างไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ งานรื่นเริง หรือนั่งรถเล่น หรือแม้แต่กินข้าวนอกบ้าน เขาก็พาไป

                    และที่น่าตกใจคือหนุ่มโอตากุดังกล่าวได้ตัดสินใจแต่งงานกับหมอนข้างดังกล่าวเป็นเรื่องเป็นราว เพราะคิดว่าหมอนข้างลายเฟทจังนั้นมีชีวิต และเมื่อวานเริ่มก็สร้างความงุมงงต่อคนรอบข้างทั้งสิ้น

                    กรณีของหนุ่มเกาหลีไม่ใช่กรณีแรก เพราะก่อนหน้านี้มีหนุ่มญี่ปุ่นเคยออกมาประกาศแต่งงานกับตัวการ์ตูนแบบจริงจังมากแล้ว

    แน่นอนว่าผลตามมามีหลายฝ่ายให้ความคิดเห็นแตกต่างกัน คนไทยมองว่าโอตากุคนนั้นเป็นคนบ้า ส่วนคนอเมริกันมองว่าทำไมโอตากุคนนั้นไม่ปรับปรุงตัวเอง ประมาณว่าไปเข้าฟิตเนส เพิ่มเสน่ห์ให้แก่ตนเองแล้วหาผู้หญิงจริงๆ มาเป็นแฟนจะดีกว่า

    อย่างไรก็ตามหากคุณเข้าใจธรรมชาติของโอตากุล่ะก็ คุณจะรู้ว่าโอตากุนั้นมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด ว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถทำอย่างที่หลายคนคิดได้ อย่าว่าแต่โอตากุเลย คนบางคนก็ไม่สามารถทำสิ่งที่เรียกว่าหาแฟนได้ด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่นพระเอกในการ์ตูนเรื่องที่ผมกำลังจะพูดถึงต่อไปนี้

     

     
    Rabuyan

     

    Rabuyan เป็นการ์ตูนตลกบ้าบอ ผลงานตามสไตล์ของฮโรชิ ทามารุ (ผู้แต่งเรื่อง ตำนานมาเรียน่า) ลงประจำใน Afternoon (Kodansha) เผยแพร่ในปี 2000 ปัจจุบันตอนที่ผมเขียนถึงปาไป 15 เล่มแล้วยังไม่จบ และไม่มีลิขสิทธิ์ในไทย และไม่มีใครแปลไทย

    Rabuyan เป็นการ์ตูนตลกคอมมาดี้ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับทูตสวรรค์แห่งความรักบายูร่า (นางเอก และขอพูดว่านางฟ้าน่ะครับง่ายดี) ที่เธอเป็นแม่สื่อกับใครก็ตามจะมีอัตราประสบการจีบความสำเร็จ 100% หากแต่แล้ววันหนึ่งเธอก็พบภารกิจใหม่ เมื่อคนที่เธอจะต้องเป็นแม่สื่อรายใหม่ชื่อ โอโมริ คาซุฟุยะ (พระเอก) หนุ่มโอตากุแว่นที่ไม่ทำงานทำการ แสนจะไม่เอาไหน อายุ 24 ปีแล้วยังเกาะแม่กิน ชีวิตก็ไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนมาหลงรัก เพราะหน้าตาไม่หล่ออย่างรุนแรง นิสัยก็ขี้ขลาด ซึ่งแค่ดูหน้าแวบเดียวเทพสวรรค์ก็ลงความเห็นทันทีว่างานนี้สิ้นหวังแล้วเว้ย!! (แถมยังโดนพระเอกเรียกเธอว่า “โมเอะ-จัง” อีก)

                    แต่นางฟ้าไม่ท้อถอย พยายามเป็นแม่สื่อดันให้เจ้าหนุ่มที่แสนจะสิ้นหวัง.ให้สมหวังในความรักให้ได้ โดยถามว่า “นายอยากได้ใครมาเป็นแฟนล่ะ? เดี๋ยวฉันจะจัดให้” และผู้หญิงคนแรก (เหยื่อ?) ที่พระเอกหมายตาไว้ก็ปรากฏตัว นั่นคือ “เด็กแว่นประถม 6” โอ้พระเจ้ามาคนแรกก็เม่งเฉียดคุก เอ็งเคยส่องกระจกดูหน้าตนเองก่อนขอบ้างเปล่าว่ะเนี้ย

                    อย่างไรก็ตามนางฟ้าก็ไม่อาจกลับคำให้หนุ่มโอตากุได้ และเธอก็พยายามให้คำแนะนำต่างๆ มากมายเพื่อเปลี่ยนโอตากุคนนี้เป็นคนหล่อ (ทั้งรูปร่างและจิตใจ) ให้ได้ แต่กลับเป็นว่ายิ่งทำยิ่งสิ้นหวังกว่าเดิม จีบเด็กประถมไม่ติดสักที (จนเด็กมันขึ้นมัธยมต้นก็ยังจีบไม่ติด) ลองเปลี่ยนเป็นจีบคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เด็กมัธยมปลาย เพื่อนข้างบ้าน อย่าว่าแต่ฮาเร็มเลย จีบติดสักคนยังไม่มี จนนางฟ้าชักเริ่มสิ้นหวัง ปักหลักอยู่ยาวในบ้านพระเอกซะเลย ตราบใดที่ภารกิจเธอไม่สำเร็จก็ไม่สามารถกลับสวรรค์ได้ และเธอจะทำให้โอตากุบ้าบอคนนี้สมหวังหรือไม่ก็ติดตามต่อไปเถอะ

                      

    ก่อนอื่นขอบอกว่าใครที่คิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้คือคอมมาดี้ ฮาเร็ม โลกเป็นสีชมพู รักโรแมนติก ประมาณว่าเหมือนเรื่อง Countrouble หรือจะหื่นแบบ Minamoto kun monogatari ขอเอาความคิดดังกล่าวทิ้งลงถังขยะได้เลย เพราะการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนตลกเล่นมุกบ้าๆ บอๆ ตามสไตล์ของคนเขียนฮิโรชิ ทามารุ ไม่มีเรื่องหวานซึ้ง โรแมนติกอะไรทั้งสิ้น

    เชื่อเถอะว่าในที่นี้แทบไม่มีใครอ่านผลงานของฮิโรชิ ทามารุ เพราะว่าการ์ตูนตลกของคนเขียนคนนี้ใช่ว่าจะได้รับความนิยมในไทยสักเท่าไหร่ และการเล่นมุกออแนวมั่วๆ บ้าๆบอๆ ซึ่งคนที่อ่านไม่ชอบใจแน่ กล่าวคือ เป็นการ์ตูนตลกแนวพูดโต้ตอบบ้าง เล่นมุกบ้าง เนื้อหาเหมือนมีการดำเนินเป็นเรื่องเป็นราวแต่ปรากฏว่าพอเรื่องดำเนินมาก็ทิ้งประเด็นนั้นไปเสียสิ้นกลายเป็นไร้จุดมุ่งหมายโดยสิ้นเชิง

    ยกตัวอย่าง เช่น การ์ตูนมังงะเรื่อง ตำนานมาเรียน่า ที่เนื้อหาประมานว่าพระเอกอยู่ชมรมโปโลนามมีฝีมือหากแต่ห่วงภาพลักษณ์อยากเล่นสวยๆ ยิงประตูสวยๆ เพื่อให้คนรอบข้างชื่นชอบ จนกระทั้งเขาไปพบกีฬายิมนาสติกลีลาใต้น้ำคู่ก็เลยคิดว่ามันน่าจะมาปรับมาใช้กับการเล่น ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเป็นราวใช่เปล่า หากแต่การ์ตูนกับไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องโปโลน้ำหรือยินนาสติกลีลาใต้น้ำแม้แต่น้อย หยุดประเด็นด้วยซ้ำ เพราะทั้งเรื่องตัวละครเอาแต่ก็พูดไปพูดมา แขวะใส่กัน ออกทะเล คุโรมาตี้มาเจอต้องอาย เพราะมันทำอะไรเพี้ยนๆ เยอะมาก บ่อยมาก หาสาระหรือแบบแผนอะไรไม่ค่อยเจอ บางมุกก็อึ้งว่า มันกล้าเล่น

                    จุดเด่นหลักการ์ตูนเรื่องนี้คือ ตัวละครกล้ามเป็นมัดๆ ออกมาโผล่มาแจมบ่อยมากๆ (ตัวประกอบ) และตัวตบมุกดันเป็นผู้หญิง (ส่วนมากการ์ตูนตลกมักเป็นฝ่ายชายมาตบมุกฝ่ายหญิงมากกว่า) ที่ต้องตบมุกเวลาตัวละครชายทำเรื่องบ้าๆ บอๆ ตามแบบการ์ตูนตลกแบบไม่จริงจังมากนักของญี่ปุ่น

                    พูดง่ายๆ เป็นการ์ตูนที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นครับ แต่พอดีผมเป็นผู้ใหญ่ที่กำลังตามการ์ตูนที่เล่นมุกตลกอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ เรื่องนี้เลยเข้ากันพอดี ดูไปเพลินไปไม่คิดอะไรมาก

                      

                   ยังคงสไตล์ของคนเขียนแหละครับ จากตอนแรกๆ เหมือนนางฟ้าจะแนะนำพระเอกให้หาวิธีจีบหญิงดีๆ แต่สุดท้ายแผนก็ผิดพลาดหมด ครั้งแล้วครั้งเล่า จนนางฟ้าแล้วสิ้นหวังว่าเจ้าพระเอกคนดังกล่าวมันขุนไม่ขึ้น นางฟ้าเลยปลักหลักอยู่ยาวที่บ้านพระเอกซะเลย พระเอกอยากทำอะไรมันก็เรื่องของมัน

    ถ้าพูดหลักการดำเนินเรื่องของการ์ตูน ก็คงเป็นการ์ตูนแนวโต้กลับ แม่สื่อสอนชาย (ไม่ได้เรื่อง) จีบหญิงแหละครับ โดยแนวแม่สื่อสอนให้ชายจีบหญิงที่เรารู้จักกันดีก็คือ หนุ่มรถไฟที่เป็นฮิตในบร์ดทูแลนแนล  ซึ่งเป็นเรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่ใช้บอร์ดสำหรับหนุ่มโสดที่เพื่อปรับทุกข์ ที่เขาช่วยสาวสวยคนหนึ่งและได้สนิทกัน หากแต่หนุ่มโสดคนดังกล่าวเป็นโอตากุ เก็บตัว เข้าสังคมไม่เป็น ไม่เคยมีประสบการณ์ความนักมาก่อน เขาเลยถามชาวบอร์ดว่าเขาควรทำยังไงดี และชาวบอร์ดก็ให้แนะนำว่าก่อนอื่นก็ให้เขาเปลี่ยนภาพลักาณ์ตนเองก่อน เช่น ตัดผม หาเสื้อผ้าดีๆ มาใส่ เพื่อให้รูปลักษณ์ออกมาดีก่อน จจากนั้นก็เลิกเก็บตัวอยู่ในห้อง หันมาทำกิจกรรมสร้างสรรค์บ้าง ผลปรากฎว่าความรักของเขาก็ดีขึ้น ผลสุดท้ายก็สมหวังกับผู้หญิงคนนั้น และเรื่องก็จบอย่างมีความสุข

    หลังจากนั้นเป็นต้นมา หนุ่มรถไฟก็โด่งดัง เนื่องจากพล็อตเรียบง่าย ทันสมัยเข้ากับอิทธิพลต่อวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ต จนได้รับดัดแปลงเป็นมังงะและถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

    ส่วนการ์ตูนพล็อตประมาณหนุ่มรถไฟก็มีเพิ่มมากขึ้น ที่พล็อตประมาณว่าพระเอกไม่ได้เรื่อง ที่ไม่มีดวงความรัก หากแต่แม่สื่อ (ส่วนมากเป็นเทวดา) มาช่วยจีบหญิง หรือมีเหตุอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนพระเอกไม่ได้เรื่องคนดังกล่าวเป็นคนใหม่ เป็นคนดีทั้งจิตใจและร่างกาย เช่นเรื่อง Countrouble หรือจะหื่นแบบ Minamoto kun monogatari หรือจะมืดมนแบบ NHK

      

    Rabuyan เป็นการ์ตูนที่มีส่วนคล้ายๆ หนุ่มรถไฟแต่มืดมนกว่า (เพราะว่ามันไม่สมหวังสักที) แต่กระนั้นก็ไม่มืดมนเท่า NHK เพราะความมืดมนได้เปลี่ยนเป็นอารมณ์ขัน ขำก๊าก และบ้าๆ บอ ๆ หลุดประเด็นไปเรื่อยๆ อย่างจงใจ จนไม่ถึงฝังสักที แต่การออกทะเลนี้เป็นเอกลักษณ์ของคนเขียน ซึ่งไม่ได้ทำให้ขัดอารมณ์

                    ทำไมผมถึงนิยามการ์ตูน Rabuyan เป็นการ์ตูนตอบโต้ แม่สื่อสอนชายโดยปกติแล้วการ์ตูนแนวพัฒนาจิตใจของพระเอก ส่วนมากการ์ตูนมักกำหนดให้พระเอกเป็นหนุ่มมัธยมปลายหน้าตาธรรมดาที่มักมีความรักกับเด็กสาววัยเดียวกันที่เขาแอบชอบมากกว่า หากแต่การ์ตูน Rabuyan กลับกำหนดให้พระเอกเป็นหนุ่มวัย 24 ปี เรียนจบไปนานแล้ว ไม่เรียนต่อ ไม่ทำงานทำการ โสดสนิท หน้าตาดูไม่ได้ ไม่มีความหล่อ ชีวิตแทบไม่เคยคุยกับผู้หญิงเป็นๆ เลยแม้แต่น้อย

                     

    แม้ว่าการ์ตูนจะจ่อหัวว่าภารกิจของนางฟ้าที่ให้คำแนะนำโอตากุให้สมหวังความรัก แต่เท่าที่ดู เท่าที่สังเกตแล้วการ์ตูนไม่ได้สื่อว่าพระเอกเป็นโอตากุแม้แต่น้อย (นอกจากลักษณะจะเหมือน) เท่าที่ดูน่าจะเป็นพวกนีท NEET-Not in Education, Employment or Training บุคคลที่ไม่ได้อยู่ในระหว่างการศึกษา,ถูกจ้างงานหรือฝึกฝน) แต่ต่างจากฮิคิโคโมริตรงที่พวกนีทออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง พูดคุยกับคนภายนอกบ้าง ไม่ได้เก็บตัวอยู่แต่ในห้องเสมอไป และหลายคนคิดว่าเป็นโอตากุชนิดหนึ่ง (ก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ถูกต้องปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดนีทก็เพราะการติดการ์ตูนทำให้อยู่กับบ้านมากขึ้น)

    ปัจจุบันจำนวนของนีทเพิ่มมากขึ้นประเทศญี่ปุ่น กว่า 60 เปอร์เซ็นต์คือคนอายุ 25-34 ปี สำหรับญี่ปุ่นแล้วพวกนีทถือว่ากำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมเนื่องจากเป็นอาชีพที่ไม่ทำงานทำการ เกาะพ่อแม่กิน ทำงายก็ทำแต่งานง่ายๆ รายได้ต่ำ พออยู่พอกิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเท่าใดนัก อีกทั้งรัฐบาลต้องเลี้ยงดูพวกนีทด้วยเงินสวัสดิการจำนวนมากอีก

    ส่วนสาเหตุทำให้เกิดพวกนีทนั้นมีหลายสาเหตุ ไล่ตั้งแต่สภาพครอบครัวที่ลูกถูกเลี้ยงดูด้วยเงินจากพ่อแม่ สภาพสังคมที่มีแต่การแข่งขัน บางคนถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน ทั้งชีวิตมีแต่การพ่ายแพ้ เพื่อนไม่คบ การเรียนไม่เอาไหน (หรือเรียนยากเกินไป) ผู้หญิงไม่สนใจ (หรือไม่สนใจผู้หญิง) สุดท้ายก็หนีโลกแห่งความจริง กลายเป็นคนเก็บตัว บวกกับการทำงานพิเศษนั้นดีกว่างานประจำที่ต้องใช้ชีวิตแบบมีกฎระเบียบและงานหนักแล้วถือว่าการเป็นนีทดีกว่ามาก สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้พวกนีทมีเพิ่มมากขึ้นในญี่ปุ่น

    พวกนีทนั้นแก้นิสัยยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา ยากพอๆ กับฮิคิโคโมริ ดังนั้น เมื่อนางฟ้ามาเห็นพระเอกครั้งแรกไม่แปลกเลยว่ามันเป็นงานยากแน่นอน ยากยิ่งกว่าโดเรมอนสอนโนบิตะเป็นล้านเท่า เพราะอย่างน้อยโนบิตะมันยังเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย มีเพื่อนฝูงอยู่บ้าง แต่เจ้าพระเอกนี้แทบไม่มีข้อดีอะไรสักอย่าง แก่ก็แก่ หล่อก็ไม่หล่อ นิสัยก็บ้าๆ บอๆ ชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรดี แล้วที่นี้ตรูจะทำยังไงดีว่ะ!!

    ต่อมานางฟ้าพยายามขุนเจ้าหนุ่มโหล่ยโท่ยนี้ให้สมหวังให้ได้ ก่อนอื่นลองเปลี่ยนตัวเองหน่อยสิ ลองเปลี่ยoนเสื้อผ้าให้เหมือนผู้เหมือนคนหน่อย ปรากฏว่ามันแต่งชุดทหารซีออนจากเรื่องกัมดั้มซะงั้น!! (ไม่แน่นใจแต่เป็นชุดทหารแหละ) โหยชีวิตฉันไม่เคยเข้าใจเรื่องแฟชั่นกับชาวบ้านนี้น่า แถมไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าดีๆ มาใส่จะให้ทำไงว่ะ นางฟ้าก็บอกให้เจ้านีทนั้นฟิตร่างกายดู ให้บึกบึนเหมือนชายชาตรีหน่อย แต่ปรากฏว่ามันก็บึกมากไป หน้าตาก็ดูไม่ดีเหมือนเดิม อีกทั้งนิสัยขี้ขลาดมันก็ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด

      

    มาถึงตรงนี้อ่านแล้วก็คิด มนุษย์บางจำพวกต่อให้เปลี่ยนภายนอกแล้ว จิตใจนั้นยากที่จะเปลี่ยนแปลงในเร็ววัน หนุ่มโสดที่ทั้งชีวิตมีแต่พ่ายแพ้ แทบไม่เคยคุยกับผู้หญิง อายุใกล้จะ 30 จะให้เปลี่ยนทันทีมันทำไม่ได้ อยู่ต่อหน้าผู้หญิงก็อึ้มๆ อึ้งๆ คนมันหน้าตาไม่หล่อนี้หว่าสาวที่ไหนจะมาติด ว่าแล้วพระเอกก็แห้วตามระเบียบ จีบผู้หญิงคนไหนก็ไม่ติด

    อันนี้ก็น่าเห็นใจ พระเอกมันสอนยากมันก็เหมือนบัวใต้น้ำ จะสอนมากเพียงใด มันก็ปรับปรุงตัวไม่ดีขึ้น เพราะสอนไม่เข้าใจความหมาย ขาดความเพียร เสมือนหนึ่งโคลนตมที่จมอยู่แต่ใต้น้ำ ที่ไม่มีวันขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

    ที่อดทนที่สุดคือนางฟ้า นอกจากจะเพียรพยายามสอนแล้ว ยังต้องเป็นคนตบมุกพระเอก (และตัวละครในเรื่องอีก) หลังๆ นี้มันใช้ตรูอย่างกับโดเรมอน ตรูก็สิ้นหวังกับตัวเอ็งอยู่น่ะเว้ย เมื่อสอนพระเอกเปลี่ยนคนใหม่ไม่ได้ นางฟ้าก็ใช้วิชามารซะเลย จัดอีเว้นท์แบบเกมจีบสาวให้โรแมนติกหน่อยสิ ประมาณว่าพระเอกไปช่วยสาวที่ชอบจากเงื่อมมือนักเลง (เตี๊ยม) ดูเผื่อจะผ่าน แต่ก็ล้มเหลวอีก ลองใช้เวทมนต์ดีไหมเผื่อจะดีขึ้น แต่ปรากฏว่ายิ่งทำยิ่งเละ ลองให้พระเอกเข้าเรียนในโรงเรียนศึกษาพิเศษเพื่อสัมผัสชีวิตมัธยมปลายดีๆ กลับคืนมา ปรากฏว่าคนเข้าเรียนมีแต่คนแก่กับพี่บึกดูยังไงก็ไม่น่าจะก่อให้เกิดความประทับใจเลยพับผ่า

    แม้ว่าผิดพลาดหลายต่อหลายครั้ง นางฟ้าก็ไม่ได้โทษพระเอกว่าไม่ได้เรื่องอย่างเดียว เพราะนางฟ้าก็โทษตนด้วยว่าตนอาจฝึกฝนตนเองไม่พอ ดังนั้นเธอก็เริ่มฝึกฝนตนเองด้วย  

    แม้ว่าผิดพลาดหลายต่อหลายครั้ง นางฟ้าก็ไม่ได้โทษพระเอกว่าไม่ได้เรื่องอย่างเดียว เพราะนางฟ้าก็โทษตนด้วยว่าตนอาจฝึกฝนตนเองไม่พอ ดังนั้นเธอก็เริ่มฝึกฝนตนเองเพื่อช่วยพระเอกต่อไป ดูแล้วช่างเป็นนางฟ้าที่มีความอดทนและน่านับถือเสียจริงๆ 

    สรุป Rabuyan เป็นการ์ตูนตลกๆ บ้าๆ บอ ไม่จริงนัก ใครหวังว่าจะสอนจีบสาวหรืออยากเห็นโรแมนติกก็เลิกคิดไปได้เลยว่ามันไม่มี แต่มุกตลกนี้ค่อนข้างขำก๊ากเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นพูดตลกจำอวด ตัวละครที่แสนจะขำ (โดยเฉพาะตัวพระเอกเม่งอย่างฮ่า) แซวการ์ตูนเรื่องอื่นอีก แถมการ์ตูนที่แซว โครตอมตะเลย ไม่ว่าจะเป็นโดเรมอน (ขำตอนพระเอกร้องรียกนางฟ้ามาช่วย กับนางเอกเอาแต่นอนในตู้เก็บผ้าฟุก) หรือลามู (พระเอกไล่จับสาวต่างดาว) เอาเป็นว่าใครอยากดูการ์ตูนตลกที่ไม่จริงจังอะไรมาก ก็ขอแนะนำเลยละกันว่าเรื่องนี้น่าสนใจ

     

    + +
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×