คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #146 : Planet Shining: Jewel's Dance
ไม่ว่าใครต่างก็รู้จักนากาจิมะ เคนโตะ ในฐานะลูกชายของพ่อและแม่ที่ต่างก็เป็นนักร้องนักดนตรีชื่อดังในช่วงยุคแปดศูนย์ ขณะที่ลูกชายคนเดียวก็ปรากฏใบหน้าผ่านสื่อหรือนิตยสารอยู่บ่อยครั้งจากการเป็นนายแบบข้างถนน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอยากเข้าวงการเต็มตัวในเส้นทางเดียวกับพ่อแม่ หากสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของคณะภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นแนวหน้าแล้วนั้น นากาจิมะ เคนโตะคือหนึ่งในเพื่อนร่วมคณะที่น่าคบหาที่สุด ทั้งจากน้ำใสใจจริงที่ไม่ได้เย่อหยิ่ง หน้าตาที่หล่อเหลาดูดี และความใจป้ำบ้าคลั่งแบบสุดเหวี่ยงชนิดถึงไหนถึงกัน ซึ่งเขาได้พิสูจน์ข้อความจริงนี้ให้เหล่าเพื่อนพ้องพี่น้องร่วมคณะได้เห็นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ จากงานปาร์ตี้เนื่องในโอกาสเล็กน้อยที่สุดอย่างการฉลองหลังสอบเสร็จเทอมสอง ราวกับยกฉากจากภาพยนตร์ยุคเก่ามาไว้ที่หอประชุมของโรงแรมหรูหราราคาแพงระยับกว่าค่าเทอมตลอดสี่ห้าหกปี (ของรุ่นพี่บางคน) เสียอีกในรปปงงิ แน่นอนว่าทุกคนต่างพากันยกความดีความชอบให้กับโฮริ ไครุ หรือสาวคนรักจากคณะเดียวกันของเขาที่กำลังบ้าเห่อหนังและซีรีส์ตะวันตกรุ่นพ่อรุ่นแม่ ซึ่งไครุจะขอแก้ตัวว่าเป็นเพราะเพื่อนสนิทชื่อแปลกของหล่อนต่างหากที่ชักพามาถึงจุดนี้
สุเอนากะ จูเอรุเป็นสาวบ้านนอกเพิ่งเคยเข้ากรุงจากโอซาก้า อาจเพราะอย่างนั้น เธอเลยกล้าเข้าไปทักเพื่อนร่วมคณะที่ชอบทำคอเชิดแถมแสดงออกว่าไม่อยากผูกมิตรกับใครอย่างไครุได้จากประโยคแรกสุดที่ว่า “เธอชอบเพอร์โซน่าด้วยเหรอ?” เพราะเห็นกระเป๋าสะพายสีชมพูของหล่อนห้อยพวงกุญแจตุ๊กตารูปแจ็ค ฟรอสต์ตัวใหญ่เข้ามาในคลาสเรียนวันหนึ่ง สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่ได้เห็นหญิงสาวที่แตกต่างกันคนละขั้วทั้งรูปลักษณ์ นิสัยใจคอ หรือแม้แต่ฐานะ กลายมาเป็นเพื่อนสนิทตัวติดหนึบที่เข้าขากันได้มากขนาดนี้
ก่อนกลุ่มก้อนของหญิงสาวที่เคยมีกันแค่สองคนจะขยายใหญ่ขึ้นมากเพราะการรุกเข้าหาของเคนโตะที่ใครๆ ก็ดูออกว่าเขาอยากเป็นมากกว่าเพื่อนกับไครุ และจูเอรุก็ไม่ได้นึกขุ่นข้องใจอะไรถ้าเพื่อนสนิทของหล่อนจะถูกพ่อหนุ่มรูปหล่อยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า (เพราะเขาร้องเพลงจีบยัยไครุด้วยท่อน ‘ฮันนี่ ฮันนี่ จู อู’ ทั้งวันจนเธอหลอนหู) แย่งตัวไปไหนมาไหนกันสองต่อสองบ่อยๆ เมื่อกลุ่มของเขาล้วนแล้วแต่เป็นหนุ่มโสดหน้าตาดีมากให้เธอเข้าหาเผื่อสานต่อความสัมพันธ์ได้อีกทั้งเจสซี่ ลูอิส, เมกุโระ เร็น และโดยเฉพาะฮิราโนะ โช คนที่จูเอรุสนิทสนมด้วยมากที่สุดเพราะความเฮฮาร่าเริงของเขา ขณะที่เธอเป็นท็อปทรีของคณะรองจากเจสซี่และเคนโตะ โชที่เป็นท็อปทรี...จากล่างท้าย...ก็ยังพูดคุยกับอาจารย์ฝรั่งได้น้ำไหลไฟดับโดยไม่เคอะเขินเหมือนๆ กัน รวมถึงยังนิยมความเป็นตะวันตกไม่ว่าจะดนตรี ภาพยนตร์ หรือแม้แต่แอนิเมชั่นบ้าบออย่างสปันจ์บ็อบที่ต่างเอามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเสียงหัวเราะด้วยกันได้อย่างไม่รู้เบื่อ ถึงคนอื่นอาจจะเบื่ออย่างเช่นไครุที่จะคอยบ่นเมื่อจูเอรุขอให้โชหัวเราะแบบสปันจ์บ็อบ แล้วตัวเองก็ขำท้องคัดท้องแข็งตามมาหลังจากนั้นอยู่คนเดียว
มันคือความสนิทสนมจากความเหมือนที่ดึงดูดเข้าหากันในทีแรก ก่อนแปรเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกที่มากกว่านั้น
เริ่มต้นจากเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลย แต่เป็นเพื่อนสาวคนสนิทของเธอต่างหาก
ขณะที่จูเอรุนั่งกัดหลอดดูดสไปรท์ เขี่ยเส้นสปาเก็ตตี้ที่ยังกินไม่หมด พลางเหม่อมองดูพวงกุญแจห้อยกระเป๋าของเพื่อนที่โทรศัพท์คุยกับคนที่บ้านเกือบสิบนาทีถึงค่อยวางสาย เมื่อนั้นจูเอรุก็จะพึมพำออกมาว่า
“รู้ไหมว่าเพอร์โซน่าได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องทวิน พีคส์?”
“เวลเวต รูม” หล่อนตอบกลับมาแทบจะทันที “รู้สิ แต่ยังไม่เคยได้ดูจริงๆ จังๆ สักที”
นั่นจึงเป็นโอกาสทองของจูเอรุที่จะแนะนำ ‘ทวิน พีคส์’ สุดยอดซีรีส์อันดับหนึ่งในดวงใจตั้งแต่สมัยเด็กตามพ่อกับแม่ที่เรียกได้ว่าคลั่งไคล้เป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีเซ็ตวีเอชเอสแพคเกจพิเศษที่ตอนนี้หายากสุดๆ อยู่ในครอบครอง แต่เพราะจูเอรุไม่สามารถขนมันพร้อมเครื่องเล่นมาจากโอซาก้าได้ — และแน่นอนว่าพ่อกับแม่ก็คงไม่มีวันยอมให้มันอยู่ห่างจากบ้านในระยะศูนย์มิลลิเมตรได้ — เธอเลยขอให้ที่บ้านช่วยส่งแผ่นบลูเรย์มาแทน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไครุนัดจูเอรุมาที่บ้านหลังใหญ่ของหล่อน เธอก็จะได้เจอทั้งเคนโตะ เจสซี่ เร็น และโชที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา กับเสบียงเป็นเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวหอบใหญ่ที่เจ้าของบ้านเป็นสปอนเซอร์ให้ในวันนี้
จูเอรุไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจที่เจสซี่จะตัวไหลไปบนพื้นแล้วนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น เขาอาจไม่ถึงกับเป็นเกมเมอร์เข้าสายเลือดชนิดที่เล่นเกมหามรุ่งหามค่ำไม่ยอมหลับยอมนอน แต่เขาก็เป็นคอเกมอาร์พีจีที่เมาท์มอยกับไครุคอเจอาร์พีจีได้ เช่นนั้น ‘เพอร์โซน่า ไฟว์’ ที่ถือเป็นสุดยอดเจอาร์พีจีแห่งยุคก็ไม่ใช่อะไรที่เจ้าตัวจะพลาด แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับซีรีส์คัลท์ๆ แบบนี้ที่เจ้าตัวคิดว่าพลาดไปก็ไม่เสียหายอะไร จูเอรุสัมผัสได้จากรังสีอำมหิตและรู้ได้เลยว่าหล่อนอยากถีบเขามากแค่ไหนถ้าไม่ติดที่ต้องรักษาภาพพจน์คุณหนูต่อหน้าเคนโตะ ตรงกันข้ามกับเธอที่อยากถีบความจอมปลอมของยัยไครุให้กระเด็นออกมาต่อหน้าทุกคนเลยมากกว่า อย่างไรก็ดี คนอื่นที่เหลือก็สามารถผ่านทั้งแปดตอนของซีซั่นแรกไปด้วยกันในตอนที่ฟ้ามืดแล้วได้จนจบครบสมบูรณ์
ตอนที่เธอได้เดินกลับบ้านพร้อมโช เพราะเร็นต้องแยกตัวไปทำงานพิเศษ ส่วนเคนโตะและเจสซี่ตัดสินใจนอนค้างที่บ้านของไครุ (ถึงรายหลังจะไม่ได้รับการต้อนรับแต่อย่างกับว่าอีตานั่นจะแคร์) เขาก็จะชวนเธอไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารครอบครัวด้วยกัน สนทนากันเรื่องซีรีส์ที่เพิ่งจบลงไป ที่จะทำให้จูเอรุตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่โชบอกว่าเขาก็มีเซ็ตวีเอชเออยู่ที่บ้าน ติดตามดูตอนที่ช่องวาววาวนำมาฉายช่วงซีซั่นสามด้วย (“ฉันก็เหมือนกันๆ! ตอนเห็นคลิปท่านเดวิด ลินช์ทักทายแฟนญี่ปุ่นนะ ฉันงี้กรี๊ดสลบเลยล่ะ!” จูเอรุตะโกนด้วยความกระตือรือร้นเกินไปมากจนเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นจากโชได้) ทั้งยังเล่าว่าสมัยนั้นพ่อกับแม่ของเขาก็เคยดื่มกาแฟจอร์เจียตามคูเปอร์กันเป็นบ้าเป็นหลัง แถมยังไปตามรอยซีรีส์ที่สโนควอล์มีกันแทบทุกปี
“ถึงขนาดแปะรูปติดฝาบ้านเลยนะ”
“โห น่าอิจฉา” จูเอรุย่นจมูก “สักวันฉันก็อยากจะไปบ้างจัง”
“เอาสิ ไว้เราไปด้วยกัน”
ด้วยรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนอย่างที่จูเอรุไม่เคยได้เห็นมาก่อน ในวินาทีที่หัวใจของเธอเต้นรัวแรงอย่างกับมีใครมารัวกลองนั้นเอง จูเอรุถึงได้แน่ใจว่าเธอตกหลุมรักเพื่อนสนิทเข้าให้แล้ว
❤
จูเอรุหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังในตอนที่เดินเข้างานไปกับเพื่อนสนิทที่แวะไปค้างด้วยและช่วยกันแต่งหน้าแต่งตัวอยู่ที่บ้าน แล้วได้เห็นพวกผู้ชายในแก๊งจับกลุ่มกันใส่สูทดำสวมแว่นตาดำ ขานเรียกกันด้วยชื่อสีที่เธอรู้ได้ในทันทีว่ามาจากเรื่อง ‘เรซเซอร์วาร์ ด็อกส์’ ที่โชจับจองเป็นมิสเตอร์ออเรนจ์ เรียกเสียงถุยเบาๆ จากไครุที่ยืนอยู่ข้างหลังจนยิ่งทำให้ท้องคัดท้องแข็งไปกันใหญ่ แน่นอนว่าคนหูดีอย่างนั้นย่อมต้องได้ยินหล่อนซึ่งมาในวิกผมบ็อบสีเงินกับบทบาทของเด็กต่างดาวจากเรื่อง ‘วิลเลจ ออฟ เดอะ แดมน์’ และเมื่อเคนโตะบอกว่าต่อให้หล่อนจะเป็นเด็กนรกเขาก็ยังจะรักเธออยู่ดี โชที่รอโอกาสเหมาะๆ อยู่แล้วเลยได้ทีผสมโรงไปว่า “นายก็รักยัยไครุที่ผุดขึ้นมาจากนรกอยู่แล้วนี่” ให้เคนโตะต้องจับแฟนสาวตัวเล็กแต่ใจใหญ่มากแยกไปก่อนจะมีเหตุการณ์ให้มิสเตอร์ออเรนจ์ต้องนอนโอดโอยทรมานเกิดขึ้นจริงเหมือนอย่างในเรื่อง ถึงจะมีเสียงตะโกนลอยมาตามลมว่า “ระวังตัวไว้เถอะไอ้ฮิราโนะ โช!” ก็ตาม
“แอบหนีออกมาคนเดียวเหรอเจ้าหญิง?”
โชเปลี่ยนมาทักทายจูเอรุที่แต่งเป็นเจ้าหญิงแอนจากเรื่อง ‘โรมัน ฮอลิเดย์’ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงยาวสีฟ้า และผ้าพันคอที่เข้ากับบุคลิกสดใสของเธอมาก ขนาดทำให้โชทอดมองด้วยรอยยิ้มเอ็นดู แบบที่ทำให้ใบหน้าขาววาบของจูเอรุร้อนเห่อขึ้นมา
“ก็อยากลองใช้ชีวิตแบบสามัญชนดูมั่งไง”
“งั้นกระหม่อมจะพาเที่ยวเองพ่ะย่ะค่ะ” แล้วยื่นแขนข้างหนึ่งมาให้เธอควง ให้จูเอรุต้องแก้เก้อด้วยการผลักไหล่เขาแรงๆ ถึงอีกฝ่ายจะแทบไม่เขยื้อนเลยก็ตามแทน
“ทีแรกคิดว่าจะแต่งเป็นลอร่า พาลเมอร์ แต่พอโดนไครุเบรกว่าหน้าฉันตอนปกติก็เหมือนศพอยู่แล้วจะอยากแต่งเป็นศพอีกไปทำไมก็เลยนึกแค้น ขอลุกขึ้นมาแต่งเป็นเจ้าหญิงที่เหนือกว่าคนนิสัยเสียแบบนั้นสักครั้งเหอะ!”
เรียกเสียงหัวเราะดังลั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาจากเรื่องที่ได้ฟัง ซ้ำยังช่วยสมทบไปว่า “สมเป็นเด็กนรกจริงๆ” ให้จูเอรุได้เป็นฝ่ายระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความคิดเห็นที่ต้องยอมรับว่าไม่เพี้ยนผิดไปจากกัน
“แต่วันนี้เธอสวยมากเลยนะ”
ก็จะทำให้เพื่อนสนิทที่ชักจะคิดไม่ซื่อเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขวย แล้วกลบเกลื่อนด้วยการบอกว่า
“พูดโกหกเดี๋ยวได้ตกนรกไปอยู่กับไครุหรอก”
“จะตกได้ยังไง” โชหัวเราะ ยกมือขึ้นลูบหัวที่จัดทรงมาอย่างดี แต่ต่อให้มันจะยุ่งเหยิง จูเอรุก็รู้ว่าเธอจะไม่ต่อว่าเขาเลยแม้แต่คำเดียว “ก็พูดความจริงอยู่เห็นๆ”
_______________
ความคิดเห็น