คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #164 : Thermae Romae ทำไมลูเซียสถึงคิดแบบนี้!?
แรกที่เห็นปกมังงะ Thermae Romae ผมไม่ทราบเลยว่าเป็นการ์ตูนแนวอะไร เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร แต่ผมก็ได้ซื้อการ์ตูนดังกล่าวเนื่องจากได้อ่านบทความมหัศจรรย์การ์ตูนจากหนังสือพิมพ์มติชนที่ได้เขียนแนะนำการ์ตูนเรื่องนี้ไว้อย่างน่าซื้อมาอ่าน หากแต่ตอนแรกผมก็นึกว่าเป็นแนวคน(ต่างชาติ)โบราณมาใช้ชีวิตในโลก(ญี่ปุ่น)ปัจจุบันเสียอีก แล้วพบวัฒนธรรมญี่ปุ่นแทบรับไม่ได้(มองเป็นด้านลบ) แต่เมื่อผมซื้อเล่มแรกมาอ่านปรากฏว่าสิ่งที่ผมคิดผิดถนัด มันเป็นแนวเจาะลึกเกี่ยวกับการแช่น้ำร้อนญี่ปุ่นโดยเฉพาะและเป็นเรื่องการมองวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้านบวกต่างหาก และเป็นการ์ตูนแก๊กตลกหน้าตายที่น่าสนใจอย่างยิ่ง!!
Thermae Romae
ตลก, ความรู้รอบตัว, ประวัติศาสตร์
Thermae Romae เป็นการ์ตูนตลกญี่ปุ่นผลงานของมาริยา มาซากิ ลงต่อเนื่องในนิตยสารรายเดือน Comic Beam (Enterbrain) ซึ่งเป็นการ์ตูนแนวเซเน็น (เหมาะสำหรับผู้ชายอายุ 18-25 ปี) ในปี 2008 และได้รับแปลไทยโดยสำนักพิมพ์สยามในชื่อ “สู้ต่อไปลูเชียส!” ด้วยเนื้อหาแปลกใหม่ไม่เหมือนใครมังงะได้รับรางวัลการ์ตูนมังงะไทโซครั้งที่ 3 ปี 2010 (ขณะที่ Bakuman ได้ที่ 3) และ Tezuka Osamu Cultural Prize (เรื่องสั้น) ครั้งที่ 14 ด้วยเหตุผลว่าเป็นการ์ตูนที่สื่อถึงสองวัฒนธรรม(ที่แตกต่างกันสุดขั้ว)ระหว่างญี่ปุ่นและโรมที่เข้ากันได้อย่างน่ารัก และด้วยเนื้อหาดังกล่าวทำให้มีการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ภาคคนแสดงที่กำลังจะฉายในเร็วๆ นี้ (ตัวอย่างสามารถดูทางยูทูป แต่อย่างเสนอบางอย่าง เอาคนญี่ปุ่นมาแสดงเป็นคนโรมัน ดูยังไงก็ไม่เข้ากัน เอาคนกรีกเถอะเชื่อผม)
Thermae Romae การ์ตูนจบในตอน (แต่เนื้อหาต่อเนื่องกัน) เป็นเรื่องราวสมัยค.ศ.130 ที่โรมันสมัยการปกครองของฮาดริอานุสกำลังเรื่องอำนาจ แต่พระเอกของเราลูเซียส โมเดสตุสสถาปนิกและวิศวกรออกแบบห้องอาบน้ำชาวโรมันกำลังตกต่ำ เพราะว่าการผลงานการออกแบบของเขาค่อนข้างล้าหลังไม่ทันยุคทันสมัย อีกทั้งฝีมือความสามารถของเขาใช้ว่าจะเก่งอะไรมากมาย แต่เรื่องอีโกนี้สูงนัก
ในขณะที่ลูเซี๊ยสกำลังเดินแตะฝุ่น บ่นไปเรื่อยอยู่นั้นเอง เพื่อนของเขาก็ได้มาเห็นเขากำลังห่อเหี่ยวใจ จึงเสนอให้เขาไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำโรมันดูเผื่อสมองปลอดโปร่ง และในขณะที่เขาอาบไปคิดอะไรไปอยู่นั่นเอง จู่ๆ เขาก็โดนดูดไปก้นอ่างและเมื่อเขาโผล่มาอีกทีก็พบว่าเขาได้ข้ามกาลเวลามายังบ่อน้ำร้อนญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน(แต่ลูเซียสคิดเองว่าเป็นประเทศของพวกทาสไร้ดั้ง) ซึ่งมีแต่สิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เข้าใจสำหรับเขาเต็มไปหมด และเมื่อเขาสติลืมเลือนเขาก็จะกลับไปยุคของเขาอีกครั้ง
และทุกครั้งที่เขาอาบน้ำร้อนและเกิดอุบัติเหตุทุกครั้งเขาก็จะโผล่ไปบ่อน้ำร้อนที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นปัจจุบัน และทุกครั้งที่กลับมาเขาก็เอาสิ่งที่เห็นลักจำมาออกแบบปรับปรุงให้ห้องอาบน้ำโรมันให้ทันสมัยขึ้น(??) จนลูเซียสมีชื่อเสียง จนเรื่องไปเข้าหูจักรพรรดิฮาดริอานุสเข้า จึงเรียกลูเซียสมายาราไนก้า!? เฮ้ย มาออกแบบห้องอาบน้ำโรมันส่วนตัวให้ต่างหาก และลูเซียสจะเป็นอย่างไร เขาจะรอดพ้นยาราไนก้าจักรพรรดิฮาดริอานุสได้หรือไม่? ติดตามตอนต่อไป
เห็นปกแบบนี้ผมก็นึกว่าไดโนเสาร์ไทยจะบ้าจี้เซ็นเซอร์เสียอีก โชคดีที่ยังมีสมองเข้าใจแยกศิลปะกับภาพอนาจารออก เห็นปกเล่มแรกก็รู้เลยว่าคนออกแบบปกตั้งใจจะล้อเลียนรูปปั้นดัง โดยเล่มแรกเป็นการล้อรูปปั้นเดวิด (David) ของศิลปินเอกระดับโลก มิเกลันเจโล ที่ตั้งอยู่ในเมือง ฟลอเรนซ์ (ประเทศอิตาลี ซึ่งว่ากันว่าเป็นรูปลักษณ์ชายชาตรีที่สวยงานสมบูรณ์ที่สุด ส่วนเล่มที่ 2 ล้อเลียนรูปปั้นวีนัส(Venus de Milo) ไร้เขียนที่ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลุฟท์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ส่วนเล่มที่ 3 ล้อเลียนรูปปั้นเลอาโคอันและบุตร (Laocoön and His Sons)ที่พิพิธภัณฑ์วาติกันในนครรัฐวาติกันในประเทศอิตาลีนั่นเอง โหยแค่ปกก็ได้ความรู้แล้ว
ในเมื่อการ์ตูนเรื่องดังกล่าวเน้นเรื่องโรงอาบน้ำโรมัน(โบราณ)และญี่ปุ่นดังนั้นก่อนจะพูดถึงการ์ตูนเรามาดูข้อมูลที่สอดแทรกดีกว่า โดยในเชิงอรรถท้ายเรื่องได้พูดถึงการอาบน้ำว่าเป็นกิจกรรมที่สำคัญของมนุษย์ เพราะเราต้องชำระร่างกายให้เกิดความสะอาด และเมื่อรายการสะอาดเราก็ผ่อนคลายสบายอุรา สมองปลอดโปร่ง สำหรับคนไทยแล้ว เราควรอาบน้ำทุกวัน ถ้าเป็นไปได้วันละ 2 เวลา(เช้า - เย็น) ด้วยซ้ำ แต่การอาบน้ำของคนไทยไม่ใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไหร่ เพราะว่าแค่มีฝักบัวก็สามารถอาบน้ำได้แล้ว บางพื้นที่ก็ใช้แม่น้ำลำคลองอาบน้ำก็ได้ แต่สำหรับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปแล้วการอาบน้ำถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นประเทศที่อากาศค่อนข้างหนาว แต่กระนั้นสำหรับชาวโรมันโบราณแล้วการอาบน้ำถือว่าเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมในสังคมโรมันโบราณที่พบบ่อยที่สุด โรงอาบน้ำถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของโรมัน ทุกเมืองจะมีการสร้างโรงอาบน้ำเอาไว้ ทำให้เรามักเห็นซากโรงอาบน้ำในหลายสถานที่ในยุโรป ซึ่งมีทั้งแบบสาธารณะที่คนหลายชนชั้นเข้ามาอาบ ไปจนแบบส่วนตัวของผู้มีอันจะกิน หรูหรากว้างใหญ่จนเป็นต้นแบบของสปาที่เรารู้จักกันถึงทุกวันนี้ และการ์ตูนก็ช่างเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับโรงอาบน้ำโรมันโบราณได้ดีเหลือเกิน เช่น ตอนต้นลูเชียสได้เห็นโรงอาบน้ำมีคนทำกิจกรรมต่างๆ ก่อนลงไปแช่น้ำเป็นต้นว่า เล่นมวยปล้ำ เล่นบอล แปลกๆ ดี ซึ่งเมื่อเปิดข้อมูลดูแล้วก็พบว่า เวลาชาวโรมันจะอาบน้ำค่อนข้างมีพิธีรีตองมาก โดยตอนแรกพวกเขามักจะเล่นเกมบอลเพื่อออกกำลังกายในห้องบันเทิงพิเศษก่อน จากนั้นก็ไปห้องร้อนเพื่อไล่เหงื่อออก แล้วไปล้างผิวด้วยน้ำมัน จากนั้นก็ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำร้อน เดินไปห้องเย็นเพื่อปล่อยให้ตัวเย็น จากนั้นก็แช่น้ำเย็น สรุปคือหลายขั้นตอน ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่โรงอาบน้ำของโรมันจะกว้างใหญ่มาก
และคำถามที่ว่าโรงอาบน้ำโรมันมีผู้หญิงเปลือยกายอาบกับผู้ชายไหม คำตอบคือมี และเป็นเหตุทำให้โสเภณีเข้ามามั่วบริการด้วย และมีปัญหาเรื่องผิดศีลธรรม การเปลี่ยนคู่นอน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเพาะอาชญากรรม เพราะมีการขายของมึนเมา ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีปัญหาพวกเสียงดังหนวกหู จนชาวโรมบางคนเห็นว่าการอาบน้ำนำมาซึ่งความเสื่อมโทรมของโรมันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่โรงอาบน้ำที่ลูเชียสไปใช้บริการในตอนต้นเรื่องเป็นสถานที่ไม่ชวนเข้าไปอาบเลยสักนิด
ส่วนโรงอาบน้ำของญี่ปุ่นนั้นแม้ว่าจะมีความแตกต่างจากโรงอาบน้ำของโรมันโบราณในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ยุคสมัยความเก่าแก่ ความยิ่งใหญ่ ปรัชญาที่ญี่ปุ่นมักมีคติในเรื่องการอยู่ร่วมกับธรรมชาติมากกว่า ในขณะที่ของโรมันโบราณมีคติปรัชญาเน้นการก่อสร้างให้ยิ่งใหญ่เข้าไว้ แต่สิ่งที่เหมือนๆ กันก็คือ มีธรรมเนียมการอาบน้ำหลายขั้นตอน และความหลากหลายของโรงอาบน้ำญี่ปุ่นมีมากมายพอๆ กับโรงอาบน้ำของโรมัน
ตัวอย่างเช่น บทที่ 1 ที่ลูเชียสท่องเทียวไปอยู่โรงอาบน้ำญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่เราพบเห็นบ่อยในการ์ตูนญี่ปุ่น(โดยเฉพาะฉากเชอร์วิส) ซึ่งโรงอาบน้ำญี่ปุ่นที่เห็นนั่นก็คือเซนโต(sento) ห้องอาบน้ำรวม น้ำอุ่นที่ได้จากการนำน้ำประปาต้มเป็นน้ำร้อน ซึ่งเป็นธรรมเนียมของโรงอาบน้ำสาธารณะญี่ปุ่นคือคนที่มาใช้บริการล้างตัวจะต้องแก้ผ้าและลงแช่ในอ่างเดียวกันเหมือนโรงอาบน้ำโรมัน ซึ่งสำหรับญี่ปุ่นแล้วส่วนมากห้องส้วมและห้องอาบน้ำมักแยกกันต่างหาก แต่ส่วนมากห้องอาบน้ำจะไม่มี โดยเฉพาะจำพวกที่อยู่อาศัยแคบๆ จำพวกห้องเช่าราคาถูก ทำให้มีชาวญี่ปุ่นบางส่วนนิยมไปอาบน้ำร้อนที่เซนโตกัน โดยลูกค้าจะจ่ายเงินสำหรับเข้า โดยมีการแยกเพศโดยมีกำแพงกั้นสูงกั้นเขตแดนชายและหญิงไว้ และจะมีก๊อกน้ำและอาบน้ำร้อนขนาดใหญ่เพื่อไปอาบรวม (แต่ในการ์ตูนผู้ชายหื่นหลายคนพยายามปีนไปดูสาวแก้ผ้าฝั่งตรงข้าม) อย่างไรก็ตาหลังศตวรรษที่ 20 โรงอาบน้ำเหล่านี้เริ่มปิดกิจการเป็นจำนวนมากเนื่องจากบ้านญี่ปุ่นมีห้องอาบน้ำมากขึ้น ทำให้การ์ตูนบางเรื่องเรามักจะเห็นโรงอาบน้ำที่กว้างขวางไร้ผู้คนเวลาตัวเอกไปใช้บริการเสมอ ทำให้บางสถานที่มีการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น เช่น อาจมีอ่างจากุซซี่ สไลด์น้ำ คาโอเกะมีให้บริการ บางแห่งมีการทำสวนน้ำบ่อน้ำร้อนโดยลูกค้าสวมชุดว่ายน้ำมาใช้บริการ
การ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องมักวาดโรงอาบน้ำเซนโตจนเราแทบเห็นภาพโดยรวมอย่างละเอียด โดยสิ่งแรกที่เราเห็นคือผ้าม่านสีฟ้าที่ตั้งข้างนอก เมื่อเข้ามาจะมีทางเข้าสองทางที่มีผ้าม่านบอกอย่างชัดเจนว่าทางไหนทางเข้าชายและหญิง และจะมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยระหว่างทางเข้าจะมีโต๊ะขนาดใหญ่สูงที่เรียกว่าบันได (banda) ซึ่งมีผู้ดูแลอยู่ เมื่อเข้ามาอ่างอาบน้ำร้อนขนาดใหญ่จะพบภาพวาดขนาดใหญ่ปลายสุดของห้อง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นภูเขาไฟฟูจิ อย่างไรก็ตามบางที่ก็มีภูมิทัศน์ญี่ปุ่น ภูมิทัศน์ยุโรป แม่น้ำหรือมหาสมุทร และนอกจากบริการอาบน้ำแล้ว ยังมีบริการมากมายหลังการอาบน้ำ เช่น ซาวน่า เครื่องดื่มที่เป็นนมเย็นซึ่งเป็นรสชาติดังเดิม และบางที่อาจมีไอศกรีมไว้ให้บริการด้วย
ส่วนมารยาทการอาบน้ำในเซนโตของญี่ปุ่นนั้น ค่อนข้างมีมารยาทพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักเข้าใจชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมเสียมารยาทบ้าง หากแต่ไม่ร้ายแรงมากมาย พวกเขาก็ให้อภัยได้ และให้คำแนะนำแม้ว่าจะไม่สามารถสื่อสารกันรู้เรื่องก็ตาม (คนละภาษา) เช่นการนำสิ่งของเข้าไปส่วนมากจะเป็นสิ่งของเข้าไปโรงอาบน้ำที่จะบางเห็นได้มีการห้ามของที่ไม่ควรเข้าไปด้วย(อย่างมากควรเอาผ้าขนหนูกับผลิตภัณฑ์สุขอนามัยอื่นๆ เช่นสบู่และแชมพู) การใส่รองเท้าเข้าไปก็ถือว่าเสียมารยาท ต้องล้างตัวจากก็อกน้ำก่อนที่จะแช่อาบน้ำรวม ร่างกายที่เต็มไปด้วยสบู่ห้ามลงไปอาบเด็ดขาด บางแห่งปฏิเสธลูกค้าที่เป็นชาวรัสเซีย หรือพวกขี้เมา มีรอยสัก
ในตอนที่ 2 ลูเชียสท่องอนาคตไปบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งญี่ปุ่น หรือออนเซ็นที่เรารู้จักกันนั้นเองโดยออนเซ็น(แปลว่าน้ำพุร้อนในภาษาญี่ปุ่น)จะแตกต่างจากเซนโตตรงที่เป็น สถานที่อาบน้ำแร่ น้ำพุร้อนธรรมชาติ ส่วนสถานที่ลูเชียสอยู่น่าจะเป็นสวนลิง ในออนเซ็นแห่งหนึ่งใน จังหวัดนะกะโนะ โดยบ่อดังๆ ก็เช่นยุคะนะดะและชิบุ ออนเซ็น เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องลิงภูเขาแช่น้ำร้อนออนเซ็น ซึ่งสถานที่แห่งนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะ ตอนแรกผมยังคิดเลยว่าลิงภูเขาที่รู้จักนี้นิสัยส่วนใหญ่ไม่ดี หากแต่พอดูข้อมูลปรากฏว่าลิงภูเขาดังกล่าวมีนิสัยดี ไม่ก้าวร้าว ไม่ขี้ขโมย หากคนไม่เข้าไปจับมัน มันก็ไม่ทำอะไร
ญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟมาก ดังนั้นทั่วญี่ปุ่นจึงมีบ่อน้ำพุร้อนมากมายกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ กว้างยาว คุณสมบัติแตกต่างกันออกไป และออนเซ็นแบบดังเดิมจะถูกไปใช้เป็นที่อาบน้ำสาธารณะและจะมีบ่อชาย, บ่อหญิง และบางที่อาจมีบ่อรวม(ครอบครัว) มีทั้งกลางแจ้งหรือในร่ม มีทั้งเทศบาลหรือเอกชน ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นส่วนหนึ่งของโรแรม(หรือเรียวกัง) ที่มักบริการอาหารและที่พักสำหรับผู้มาเยือน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น(จนกลายเป็นสถานที่สุดฮิตที่ตัวละครการ์ตูนญี่ปุ่นมักมาใช้บิรการประจำ)
น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่มักจะอยู่ในชนบท ซึ่งส่วนมากเรียวกังมักได้นักท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์ หรือครอบครัวที่ต้องการผ่อนคลายหลังจากที่ทำงานมาหนักตลอดปี ทำให้บรรยากาศเรียวกังส่วนใหญ่มักออกแบบให้ผ่อนคลายเป็นหลัก
มารยาทบ่อน้ำร้อนออนเซ็นนั้นคล้ายๆ เซนโต คือพวกเขาต้องล้างตัวข้างนอกก่อนที่จะแย่บ่อน้ำร้อน โดยจะมีก๊อกน้ำ ถังน้ำ อุปกรณ์อาบน้ำสบู่และแชมพู บางแห่งก็มีฝักบัวมาด้วยเพื่อความสะดวกสบาย และห้ามสวมชุดว่ายน้ำเข้าไปอาบออนเซ็น(แต่จะมีบางแห่งอนุญาตได้) ส่งของที่จำเป็นที่ไปแช่ออนเซ็นมีเพียงผ้าขนหนูชิ้นเล็กๆ แต่ส่วนมากจะไม่นิยมจุ่มผ้าขนหูลงออนเซ็นเพราะไม่สะอาด ดังนั้นพวกเขาจึงพับผ้าขนหนูบนหัวแทน และออนเซ็นส่วนใหญ่เน้นความเงียบมากกว่าเสียงดัง
บทที่ 3 ลูเชียนกลับมายังอนาคตอีกครั้ง คราวนี้เป็นห้องอาบน้ำส่วนตัวของญี่ปุ่นที่เรียกว่าฟุโร(Furo) ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าห้องอาบน้ำ ซึ่งห้องอาบน้ำชนิดนี้มักพบเห็นทั่วไปในญี่ปุ่นในบ้านพาร์ทเมอนทท์และโรงแรมขนาดเล็กแบบญี่ปุ่นโบราณ(เรียสกัว) โดยจะมีความแตกต่างไปจากตะวันตกเดิมคือพื้นที่จะค่อนข้างเล็ก หลักๆ คือมีอ่างน้ำขนาดเล็กและฝักบัว น้ำอ่างจะร้อนและจะมีฝาเปิดเพื่อเก็บความร้อนและยังสามารถรีไซเคิลน้ำมาใช้อย่างอื่นได้ด้วย
บทที่ 4 ลูเชียนกลับมายังอนาคต คราวนี้ได้ไปอยู่ที่ กัมบังโยกุ หรือสปาหินธรรมชาติ และน่าภูมิใจก็คือสปาดังกล่าวนั่นมีอยู่ในไทยมานานแล้ว (ไม่แน่ใจว่าญี่ปุ่นเอาไทยมาเป็นแบบหรือเปล่า?) โดยเป็นสปาดังกล่าวผู้ใช้บริการจะแนบตัวกับพื้นที่เป็นหินแกรนิตที่มีความร้อนจากใต้พิภพ เพื่อให้ร่างกายของเขาค่อยๆ ร้อนขึ้น โดยมีคุณสมบัติล้างสารพิษ ช่วยระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้น ซึ่งส่วนมากกว่าใช้สปาหินดังกล่าวเหมาะสำหรับหลังขึ้นจากการอาบน้ำในบ่อน้ำร้อน
แม้ว่าการอาบน้ำในโรงอาบน้ำของญี่ปุ่นจะได้รับความนิยม อย่างไรก็ตามสำหรับคนไทยหลายคนแล้ว รับไม่ค่อยได้กับวัฒนธรรมดังกล่าว เนื่องจากสาเหตุหลายๆ อีกอย่างคือ คนไทยส่วนใหญ่มีนิสัยไม่เรื่องมากและไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก อีกทั้งชอบทำอะไรรวดเร็วว่องไว ไม่นิยมการแช่น้ำหรืออาบน้ำนานเป็นชั่วโมง และค่อนข้างรับไม่ได้ที่จะต้องต่อแถวอาบน้ำในอ่างที่คนอาบมาก่อนแล้ว เพราะเห็นเป็นสิ่งน่ารังเกียจ สกปรก อีกทั้งการอาบน้ำในที่สาธารณะก็รับไม่ได้อย่างยิ่งที่เห็นคนอื่นนอกจากตัวเราเปลือย และคนอื่นเห็นตัวเราเปลือยเรื่องร่าง แม้จะเป็นเพศเดียวก็ตาม ดั่งที่เห็นไดอารี่คนไทยไปญี่ปุ่นมักเขียนบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
ตอนแรกๆ ที่ผมอ่าน “สู้ต่อไปลูเชียส!” และได้ทราบว่าเนื้อหาเกี่ยวกับการอาบน้ำร้อนของญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ผมก็มาคิดดูว่าเรื่องเหล่านี้มันมีอะไรให้น่าเขียนมากมายหว่า (ก็อย่างที่บอกคนไทยไม่เรื่องมากอาบน้ำนัก) แต่ปรากฏว่าหลังจากที่อ่านแล้วไปเปิดข้อมูลดูก็รู้ว่าการอาบน้ำร้อนของคนญี่ปุ่นมีมากมาย และมีอะไรเอามาเล่นอย่างไม่สิ้นสุด ในเล่มต่อๆ ไป จะมีเรื่องของเรียวกังปรากฏออกมาแน่นอน
สิ่งที่เห็นประจักษ์ในเล่มแรกคือไม่เห็นตัวละครวัยรุ่นหนุ่มสาวเลยหว่า? ที่การ์ตูนฮาเร็มนี้ออกมาเพียบ แต่ทำไมการ์ตูนเรื่องนี้เห็นแต่ป้าแก่ ลุงแก่ ชายกลางคนโชว์ช้างน้อย โชว์นมกันเพียบ (เล่มหน้าอาจเห็นสาวสวยเปลือยแล้ว) เหมือนเห็นสัจธรรมที่ว่าในโ]กแห่งความจริงวัยรุ่นหนุ่มสาวเองก็ไม่ได้นิยมในการอาบน้ำในโรงอาบน้ำร้อนกันแล้ว จะมีแต่พวกรุ่นคนเฒ่าคนแก่เท่านั่น บางทีวัฒนธรรมการอาบน้ำในที่สาธารณะอาจหายสาบสูญไปจากสังคมญี่ปุ่นก็ว่าได้
เอาล่ะนอกเรื่องมานาน ที่เขียนเกี่ยวกับข้อมูลโรงอาบน้ำร้อนญี่ปุ่นเพื่อให้คนอ่านเห็นว่า การ์ตูนเรื่องนี้มีสาระเกี่ยวกับบ่อน้ำร้อนมากกว่าที่คุณคิด ดังนั่นเวลาคุณอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ งง กับบางสิ่งบางอย่างบางอย่างที่ลูเชียสไม่เคยเห็น คนไทยเราก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ลองไปค้นดูอินเทอร์เน็ตดูว่าคนญี่ปุ่นเรียกสิ่งนั้นว่าอะไร เอาไว้ทำอะไรและคุณจะได้รับความสนุกและมีความรู้ในเนื้อหาของการ์ตูนมากยิ่งขึ้นไม่มากก็ไม่น้อย
แม้ว่าการ์ตูนดังกล่าวจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับโรงอาบน้ำร้อน ที่คนไทยหลายคนแทบไม่เคยเห็นของจริงมันเลย แต่กระนั้นเราก็รู้จักมันจากอนิเมชั่นหรือมังงะจากการ์ตูนเรื่องอื่นๆ บางทีเกือบทุกเรื่องด้วยซ้ำ ไม่ว่าแอ็คชั่นหรือคอมมาดี้(แต่มากที่สุดคือฮาเร็ม) ดังนั้นพวกคอการ์ตูนอ่านสบายอยู่แล้ว แม้ว่ารายละเอียดมากมายจะไม่รู้บ้างก็ตาม
ThermaeRomaeเป็นการ์ตูนตลกหน้าตาย ซึ่งหมายถึงแค่หน้าเฉยๆไม่ต้องมีสีหน้าอะไรก็สามารถให้ผู้ดูตลกได้ ซึ่งแตกต่างจากการ์ตูนมังงะทั่วๆ ไปที่มักเล่นแบบยิงมุกรั่วเป็นฉากๆ ตัวละครทำท่าตลก ทำแบบไม่เหมือนชาวบ้านไร้สาระเป็นวันๆ ค่อนข้าง แม้ว่าตลกหน้าตายจะมีส่วนผสมการแสดงออกเปิ่นๆ(เหมือนพวกบ้านนอกเข้ากรุง หรือพวกมาต่างโลก) ไปบ้าง แต่กระนั้นสิ่งสำคัญคือการทำการสร้างมุกให้คนดูตลกทั้งๆ ที่ดูฉากแล้วไม่น่าขำแม้แต่น้อยนั่นเป็นเพราะความฉากของการวางบท ปูเรื่องราวตัวละคร นิสัย บทการดำเนินเรื่องนำไปสู่ตอนจบที่หักมุมตอนท้ายเรื่อง และอดใจที่ต้องหัวเราะไม่ได้ดังนั้นการเล่นมุกดังกล่าวนี้ต้องใช้สมองผ่านการคิดนานพอสมควร
ยกตัวอย่างเช่น จักรพรรดิฮาดริอานุสเข้ามาจับมือกับลูเชียสแบบไม่ยอมปล่อย ถ้าเป็นคนไม่ได้ติดตามการ์ตูนหรือไม่ทราบประวัติจักรพรรดิฮาดริอานุสไม่ขำ หากแต่คนที่ติดตามการ์ตูนมานี้ฮ่าก๊ากแน่นอน เพราะการ์ตูนได้อธิบายปูเรื่องว่าฮาดริอานุสเป็นเกย์ และกำลังหาชายคู่ใจมาอยู่ข้างกายอยู่!! เป็นต้น
แม้ว่าเนื้อหาการ์ตูนจะเป็นแนวคนโบราณข้ามเวลามายังยุคปัจจุบัน แต่อารมณ์ดังกล่าวกลับเหมือนกับชาวต่างชาติแถวยุโรปมาเที่ยวเอเชียแหละครับ เจออะไรก็ตกใจ แปลกใจหมด (บางคนถ่ายรูปด้วยซ้ำ )ในขณะที่เจ้าถิ่นอย่างเราๆ ก็นึกแปลกใจว่าชาวต่างชาติคนนั้นมันจะแปลกใจอะไรหนักหนากับสิ่งเหล่านี้ ทั้งนี้เพราะความเคยชินของเจ้าถิ่นที่เห็นสิ่งดังกล่าวมาทั้งชีวิตตลอดทั้งวันแล้วแล้ว ในขณะที่ต่างประเทศมันไม่มี ตัวอย่างเช่น ลูเชียสเองข้ามเวลาไปยังโณงอาบน้ำเซนโตของญี่ปุ่น ที่คนญี่ปุ่นบอกว่ามันโครตเชยระเบิด มีแต่คนแก่เข้าไปอาบ หากแต่ลูเชียสไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเขาคิดว่ามันโครตแนวๆ จริงๆ มีภาพภูเขาไฟฟูจิประดับบนผนังแสนจะอลังการงานสร้าง ภายนอกมีตะกร้าไว้ใส่ผ้าไม่ให้ปะปนกัน และที่แจ๋วสุดยอดคือการได้ดื่มนมรสผลไม้เย็นชื่นใจหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยมีในประเทศของตนเองไม่ว่าจะเป็นยุคโบราณหรือสมัยปัจจุบัน ในบทที่ 2 ลูเชียสเห็นชาวญี่ปุ่นต้มไข่ก็ตกตะลึงเพราะในยุโรปไม่มีเรื่องต้มไข่น้ำพุร้อนกิน
เป็นไปได้ไหมที่ทุกวันนี้มนุษย์มองไกลเกินไป จนไม่เห็นสิ่งใกล้ตัวที่มีค่า โดยใช้มาตราฐานความทันสมัย ไม่ทันสมัย หรือเหตุผลส่วนตัวมาตีค่า ทำให้ทุกวันนี้มีสิ่งดีๆ จากภูมิปัญญาของคนโบราณหายไปจากสังคมเรา บางอย่างพวกฝรั่งก็ขโมยหรือฉกชิงจดสิทธิบัตรเป็นของตนเอง อย่างเช่นสมุนไพรไทยที่เรามองนักมองหนาว่าเป็นของเชยๆ โบราณ แต่พอฝรั่งมาเจออะเมซิ่ง และเอาไปเลียนแบบในเมืองนอก ส่วนเราก็ได้แต่ตามองปริบๆ ไม่ได้ส่วนได้อะไรเลย
ดังนั้นตอนแรกผมจึงมองลูเชียสว่าเป็นคนไม่ดีนัก ด้วยเหตุผลที่เปรียบเทียบ 2 อย่าง คือการก็อปความคิดของคนอื่นเอาเป็นไอเดียของตัวเองโดยไม่ให้เครดิต อีกทั้งยังคุณภาพด้อยกว่าต้นฉบับด้วยซ้ำ(แม้จะมีเรื่องเวลายุคมาขั้นเอาไว้ก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันอาจมองแค่เพียงแค่ลูเชียสนำวัฒนธรรมญี่ปุ่นมาปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมของตัวเองเข้าหน่อยก็สามารถใช้ได้ และอย่างที่สองที่มองคือลูเชียสเปรียบเสมือนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มองชาติที่ด้อยกว่าอย่างดูถูกดูแคลน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวยุโรปและเอเชีย ที่เจ้าถิ่นชาวเอเชียต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างดี อย่างมีน้ำใจแม้ว่าจะพูดเป็นคนล่ะภาษาก็ตาม หากแต่มีฝรั่งบางส่วนที่มีนิสัยแบบลูเชียสกลับมองความมีน้ำใจของชาวเอเชียในเชิงเหยียดสีผิว หรือเป็นทาส (พวกไร้ดั้ง) มองอีกแบบคือลูเชียสอาจเป็นคนที่รักชาติและมีความคิดมาตลอดว่าโรมันเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่(เหมือนชาวต่างชาติที่มาจากประเทศเจริญกว่า) ทำให้ลูเชียสเกิดความคิดว่าชาติของตนเองเก่งกว่าใครและพวกชาติอื่นๆ ด้อยกว่าเป็นเพียงแค่ทาส อย่างไรก็ตามการ์ตูนได้นำจุดนี้มาเล่นอย่างฉลาด คือลองเอาคนโบราณที่มีวัฒนธรรมเจริญรุ่งเรื่องขีดสุดอย่างโรมันแล้วมาท่องเวลาไปญี่ปุ่นปัจจุบันที่กลายเป็นประเทศเจริญแล้วมาดูสิจะเกิดอะไรขึ้น ลูเชียสถึงกลับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
แต่กระนั้นผมก็ยังเชื่อว่าจุดหลักอีกจุดที่การ์ตูนต้องการนำเสนอ นอกเหนือจากการย้อนเวลาไปบ่อน้ำร้อนที่ต่างๆ ในญี่ปุ่น นั้นคือการพัฒนาจิตใจของลูเชียส ในระหว่างที่ลูเชียสท่องเวลาไปยังสถานที่อาบน้ำร้อนแตกต่างกัน (ครั้งหน้าอาจมีสวนสนุกน้ำร้อน) ลูเชียสได้ซึมซับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เห็นความมีน้ำใจของคนญี่ปุ่น และการสังเกตว่าโดยลึกๆ แล้ววัฒนธรรมโรมันกับญี่ปุ่นนั้นมีความเหมือนกัน แต่จะเป็นในทิศทางไหน เพราะในขณะที่การงานอาชีพของลูเชียสกำลังเจริญรุ่งเรื่อง แต่เรื่องส่วนตัวของลูเชียสกับ
ตอนที่ผมเขียนบทความ การ์ตูนยังวางแผงแปลไทยยังอยู่ที่เล่ม 1 ซึ่งเนื้อหายังเน้นเรื่องตัวลูเชียสอยู่ แต่เชื่อว่าเนื้อหาในเล่มๆ ต่อไปอาจมีเรื่องการเมืองของโรมันเกี่ยวข้อง เพราะโรงอาบน้ำร้อนโรมันมันเป็นสถานที่พบปะของคนหลายเชื้อชาติไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าหรือนักการเมืองเข้ามาสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และว่ากันว่านโยบายการเมืองส่วนใหญ่มักมาจากโรงอาบน้ำร้อนมากกว่าที่ประชุมสภาก็ว่าได้
ด้วยเนื้อหาที่สื่อถึงสองวัฒนธรรมยุโรปและเอเชีย ทำให้ Thermae Romae กลายเป็นการ์ตูนที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจ แสดงถึงความฉ,ดของตัวคนเขียนที่เอาเรื่องต่างประเทศมาเขียนในเชิงที่แปลกใหม่ และเป็นด้านบวก บางทีในอนาคตอันใกล้การ์ตูนเรื่องนี้อาจไม่จบแค่อนิเมชั่นคนแสดงหรือการ์ตูนแน่นอน
+ +
ความคิดเห็น