ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #147 : Higanjima เกาะกระหายเลือดหรือเกาะหรรษา??

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 54



                    Higanjima เป็นการ์ตูนที่ค่อนข้างจะแปลกที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมา คือมันเป็นการ์ตูนที่ดูเผินๆ เหมือนเป็นการ์ตูนดราม่าสยองขวัญโหดลากไส้ แต่เมื่ออ่านไปนานๆ ก็พบว่าการ์ตูนเรื่องนี้กลับกลายเป็นการ์ตูนตลกโดยไม่ได้ตั้งใจ การดำเนินเรื่องการ์ตูนไม่สมเหตุสมผล เรื่องยืดเยื้อ  น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง สิ่งต่างๆ ที่ไม่สมควรกลับนำมาใส่ไม่เข้ากัน จนคนอ่านต้องคิดว่า “คนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?” ถึงแม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะออกทะเลอย่างกูไม่กลับ แต่เชื่อหรือไม่ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ผมยังคงติดตามอยู่ ไม่ได้รู้สึกรังเกลียดเหมือนการ์ตูนเรื่องอื่นๆ แต่อย่างใด เพราะอะไรผมถึงได้ติดตาม คำตอบอยู่ในบทความนี้แหละ

     

       

    Higanjima

    แอ็คชั่น สยองขวัญ

     

    Higanjima เป็นการ์ตูนแอ็คชั่นสยองขวัญและตลก(??) ซึ่งเป็นการ์ตูนที่หลายคนติดตามกันมาก เนื่องจากเนื้อหาในตอนแรกเต็มไปด้วยเรื่องราวตื่นเต้น น่ากลัว ลึกลับ ชวนติดตาม แม้ว่าช่วงหลังๆ กลายเป็นแอ็คชั่นเลือดสาดบ้าพลังไปแล้ว แต่หลายคนก็ติดตามอยู่(ส่วนหนึ่งก็เลิกอ่าน) โดยการ์ตูนเรื่องนี้เป็นผลงานของ Koji Matsumoto (ผลงานก่อนหน้าก็แนวระทึกขวัญ) ตีพิมพ์ใน Young Champion ตั้งแต่ปี 2003 และยังไม่จบ รวมเล่มจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ Kodansha และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2009

    Higanjima เป็นเรื่องของพระเอกคนหนึ่งชื่ออากิระที่ตอนแรกเป็นเพียงแค่วัยรุ่นที่มีปัญหาคนหนึ่ง  ที่พี่ชายของเขาหายสาบสูญไปอย่างลึกลับ นานถึงสองปี ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวก็ได้เกิดคดีหายตัวไปอย่างลึกลับของคนจำนวนมากอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้อากิระเชื่อว่าพี่ชายเป็นเหยื่อในกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย จนกระทั้งวันหนึ่งเขาก็ถูกสาวลึกลับคนหนึ่งชื่อ “เรย์” บอกว่ารู้จักกับพี่ชายของอากิระ ตอนนี้เขาก็อยู่บนเกาะลึกลับแห่งหนึ่ง ชื่อ  “เกาะฮิกัน” ซึ่งเป็นเกาะที่ผีดูดเลือดที่ชาวบ้านบนเกาะเป็นผู้ติดเชื้อโรคประหลาดบางอย่างที่ทำให้ต้องการเลือดมนุษย์สดๆ เป็นอาหารเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากโรคประหลาดดังกล่าว จึงวางแผนหลอกล่อลวงคนที่มีญาติบนเกาะมายังเกาะนี้เพื่อนำมาดูดเลือดเป็นอาหารทำให้เกิดคดีคนหายสาปสูญดังกล่าว และเมื่ออากิระได้ทราบข่าวพี่ชาย เขาและเพื่อนจึงได้เข้าไปยังเกาะ แต่สิ่งที่ต้อนรับพวกอากิระอยู่นั้นก็คือ “นรกบนดิน”

    สิ่งที่รอพวกอากิระอยู่นั้นเต็มไปด้วยผีดูดเลือดยกฝูง(ที่ตอนแรกพวกอากิระคิดว่ามีไม่กี่ตัว) ทำให้พวกอากิระถูกผีดูดเลือดจับอย่างง่ายดาย และระหว่างที่พวกอากิระกำลังสิ้นหวังอยู่นั้นก็มีชายคนหนึ่งมาช่วยพวกเขาเอาไว้ ซึ่งชายคนนั้นก็คือพี่ชายของอากิระนั้นเอง ต่อมาอากิระก็รู้ความจริงว่าคนที่เป็นตัวการของเรื่องทั้งหมดก็คือผีดูดเลือดของแท้นาม “มิยาบิ” (ชื่ออย่างกับดารา MV ญี่ปุ่น) ที่มีความสามารถราวกับปีศาจร้าย สามารถบงการพวกอสูรและชาวบ้านได้ ซึ่งพวกอากิระไม่สามารถต่อกรได้เลย จนต้องแตกกระจายไปคนละทิศละทาง ทางด้านอากิระเองก็มีความคิดว่าอยากแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะสามารถปกป้องเพื่อนๆ ได้ พี่ชายของอากิระได้ยินจึงแน่นอนบุคคลหนึ่งเพื่อให้อากิระได้ฝึกวิชาป้องกันตัว อากิระจะสามารถช่วยเพื่อนได้ไหม เขาจะสามารถกอบกู้เกาะแห่งนี้ได้หรือไม่ ก็ติดตามตอนต่อไป

                     

    อากิระ วัยรุ่นชายที่บ้านทำอาชีพเป็นร้านขายผลไม้ เป็นคนที่มีจินตนาการสูง ช่างสังเกต กระตือร้อร้น แต่เนื่องจากชอบทำตัวมีปัญหาทำให้คนในบ้านชอบเปรียบเทียบพี่ชายคนตนที่เป็นเก่งฉลาดกว่าตน หากแต่ต่อมาพี่ชายคนตนได้หายไปนานถึงสองปีโดยไม่ยอมกลับบ้านส่งผลทำให้ความสัมพันธ์กับคนในบ้านแย่หนักเข้าไปใหญ่ จนกระทั้งวันหนึ่งเขาไปรู้จักหญิงลึกลับคนหนึ่งว่ารู้จักพี่ของอากิระและเขาก็ชวนเพื่อนๆ เข้าไปยังเกาะที่คาดว่าจะมีพี่ชายเขาอยู่ แต่เมื่อไปแล้วกลับพบว่าที่นั่นมีแต่ผีดูดเลือด ซึ่งอากิระและพรรคพวกจำเป็นต้องสู้เพื่อเอาตัวรอด โดยตอนแรกอากิระผมสั้น อารมณ์ร้อน และมึกพึ่งพาคนอื่นเสมอ แต่เมื่อหลังจากที่ไปฝึกวิชา(อย่างกับหนังจีน)เขาก็กลายเป็นคนละคน ผมยาวขึ้น มีหนวดขึ้น น้าเข้มอย่างกับไปรบสงครามเวียดนามมา 10 ปี  ร่างกายเข้มแข็ง และร้ายกาจชนิดเรียกว่าใช้ดาบเดียวฟันคนขาดสองท่อนได้ และสามารถต่อกรศัตรูมกกว่าร้อยคน จนถูกขนานนามว่า “พี่เทพ”

       

                    นิชิยามะ คนดีที่ไร้ตัวตนในการ์ตูนเรื่องนี้ เป็นเพื่อนสนิทของอากิระ(และอาจรู้ใจและรักอากิระมากกว่าคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ) มีความจำเป็นเลิศ ครอบครัวทำอาชีพขายเครื่องเขียน แต่กระนั้นเขาก็เอาดีจนเป็นนักศึกษามหาลัยชั้นนำโตเกียวได้ มีความฝันอยากได้แฟนในโตเกียวและเป็นแพทย์ในอนาคต ความสามารถพิเศษคือทำอาหาร และประดิษฐ์ระเบิด ในการ์ตูนนั้นแม้ว่านิชิยามะจะอยู่ก๊วนอากิระมาโดยตลอด แต่บทบาทไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่เขาน่าจะเป็นมันสมองของกลุ่มด้วยซ้ำ แต่พี่เทพทำมันหมองหมด

                   

                   คาโต้ เพื่อนสนิทของอากิระ หลังจากจบมัธยมก็ทำตัวเหลวไหล มักเป็นตัวน่ารำคาญและตัวถ่วงของกลุ่ม อากิระ(คือมันไม่ได้เก่งอะไรเลยสักอย่าง) และมีสกิลเทพสามารถรอดได้ทุกสถานการณ์ แม้ว่าโดนจับหรือจะโดนกินก็รอดมาได้ทุกครั้ง

                     

                    ปง เพื่อนสมัยเด็กของอากิระ ไม่ทราบชื่อจริง บ้านเป็นร้านขายของเล่น นิสัยขี้ขลาด อ่อนแอ และเดินทางมายังเกาะผีดูดเลือดร่วมกับพวกอากิระด้วย หากแต่ต่อมาก็ได้พลัดพลาดจากกลุ่ม และถูกจับโดยพวกผีดูดเลือด และได้กลายเป็นสัมภเวสี และถูกฆ่าโดยอากิระอย่างอนาถ

                     

    เคน เป็นเพื่อนของอากิระ ภายนอกเหมือนวัยรุ่นเกเรแต่ความจริงแล้วเป็นคนดี รักเพื่อน และสนิทกับอากิระ มีความฝันอยากเป็นนักเล่นกีตาร์มืออาชีพแต่ทางครอบครัวอยากให้มาสืบทอดร้านขายปลามากกว่า ตอนแรกๆ เป็นผู้นำกลุ่ม นิสัยใจร้อน และเป้นตัวตั้งตัวตีพาเพื่อนมายังเกาะเพื่อฆ่าพวกผีดูดเลือด แต่หลังจากอากิระเก่งเทพแล้วก็กลายเป็นผู้นำแทน แต่กระนั้นโดยรวมแล้วเป็นคนที่แมนที่สุดในเรื่อง

      

    ยูกิ นักเรียนมัธยมปลายที่กำลังจะเข้ามหาลัยและเป็นเพื่อนสมัยเด็กของกลุ่มอากินะ โดยเธอเป็นแฟนของเคน แต่ในขณะเดียวกันก็มีใจให้อากิระเช่นกัน(รักสามเศร้า) ผมสั้น อ่อนโยนและเข้มแข็ง และเธอก็ตามพวกอากิระมาที่เกาะด้วย ที่สำคัญยูกิเปลือยบ่อยมาก ไม่รู้จะคนเขียนหื่นหรือเปล่า?

       

    มิยาบิ ผู้นำ บอสใหญ่ของผีดูดเลือดบนเกาะ (ที่แต่งตัวไม่เข้ากับบรรยากาศเสียเลย) อดีตเคยเป็นหนึ่งในตระกุลผีดูดเลือดเก่าแก่ประจำเกาะที่ยังหลงเหลือตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซ้ำยังเป็นตัวพาหนะโรคผีดูดเลือด ที่นำเชื้อแพร่ไปทั่วเกาะ นิสัยโหดเหี้ยม หย่อหยิ่ง ชอบเลือด มีความสามารถคือเป็นอมตะขนาดตัดหัวก็ไม่ตาย และสามารถใช้พลังจิตควบคุมอสูรบนเกาะได้ และเป็นเป้าหมายที่พวกอากิระจะต้องฆ่าให้ได้

                   

                    เชื้อผีดูดเลือด เชื้อที่มิยาบิแพร่กระจายไปทั่วเกาะทำให้ชาวบ้านติดเชื้อไปหลายคน โดยการแพร่คือการที่คนธรรมดาโยรับเลือดที่มีเชื้อผีดูดเลือดเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลหรือทางทวารทั้งเจ็ด  คนที่ติดเชื้อผีดูดเลือดส่วนใหญ่จะสามารถอยู่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีดวงตาสีแดง เขี้ยวแวมไพร์ออกมา มีพละกำลังมากกว่าคนปกติ และอึดกว่าคนธรรมดา (แต่หลังๆ ทำไมมันตายง่ายจังว่ะ กากสุดๆ) ไม่มีจิตใจเป็นมนุษย์ ชอบดูหมิ่นคนธรรมดา แต่พฤติกรรมเหมือนคนทั่วๆ ไป ชอบดูดเลือด และโหดเหี้ยมอย่างร้ายกาจ แต่กระนั้นก็มีผีดูดเลือดบางตัวที่ยังคงมีจิตใจเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่หากคาดเลือดจะขาดสติและกลายเป็นปีศาจกระหายเลือด  หากขาดเลือดจะกลายเป็นอสูรหรือไม่ก็สัมภเวสี (เชื่อเถอะเดี๋ยวคงมีปรนะเทศร่างสุดยอดแบบดิจิมอน) โดยอสูรจะน่ากลัวที่สุดเพราะมีรูปร่างใหญ่โตร้ายกาจ อิทธิฤทธิ์เยอะ มีพลังชีวิตสูง แต่ไม่มีสติปัญญา  และเป็นอาวุธที่มิยาบิใช้ในการควบคุมเกาะ

                       

                    ครั้งแรกที่ผมอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ เป็นเล่มที่ 3 เมื่ออ่านก็เกิดคำถามในใจว่าพวกตัวเอกเรื่องนี้มันหอบ แฮ่ก ๆ  อะไรกันนักหนักกันหนา หอบเกินเหตุ มันก็ไม่เห็นจะเหนื่อย หรือตื่นเต้นมากมายอะไร มันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าว่ะ จำพวกอากาศบนเกาะนี้ไม่บริสุทธิ์ หรือพวกตัวเอกเป็นโรคติดต่อหอบลึกลับอะไรบางอย่าง พอมาดูเล่มหนึ่งก็ถึงบางอ้อ เพราะไม่เกี่ยวกับข้อสันนิษฐานดังกล่าวเลย ตัวละครชอบหอบแฮ่กๆ ไปเอง แต่กระนั้นก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันจะหอบอะไรหนักหนา ทำให้ผมตั้งชื่อการ์ตูนเรื่องนี้ว่า เกาะโรคหอบ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของการ์ตูนเรื่องนี้ไป

    Higanjima ในช่วงแรกที่ผมอ่านนี้โครตสนุกมากๆ แม้ตัวละครจะดูแข็งๆ สีหน้าท่าทางก็วาดไม่ลงตัว (และจนบัดนี้ก็ไม่มีการพัฒนาลายเส้นตัวละครให้ดีขึ้นแต่อย่างใด) แต่กระนั้นสิ่งที่ทดแทนบรรยากาศของเรื่องที่น่าจะลึกลับซับซ้อน เน้นความน่ากลัวด้วยโทนมืดๆ สยองขวัญ ที่ตอนแรกการปรากฏตัวของผีดูดเลือดถูกอกถูกใจ เพราะมันน่ากลัว โหดเหี้ยม ฆ่ายากชิบหาย และการต่อสู้กับผู้ดูดเลือดน่าจะประมาณว่าเน้นสมองสู้ เน้นสู้แบบถึงพริกถึงขิง ลอบฆ่า สมจริง และเพิ่มฉากโหดโรคจิตเข้ามาให้ตื่นเต้นน่าดูเข้าไปอีก เช่น เอามีดฟันหัวเบะ หัวเละ กินเนื้อคน จับผู้หญิงขึงพืด ฉากวับๆ แวมๆ เพียบ ฯลฯ

    และสิ่งที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้น่าติดตามก็คือการพัฒนาจิตใจของอากิระ ที่ตอนแรกเป็นเพียงคน สามัญชนธรรมดาทั่วไป และบางทีจะเป็นคนมีแต่ปัญหาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นครอบครัวที่คนในบ้านไม่ชอบขี้หน้า มองอากิระเป็นคนไม่เอาไหน ชอบนำความเดือดร้อนมาให้ สู้พี่ชายก็ไม่ได้ (ธุรกิจครอบครัวกำลังเจ๊งเลยพาลลูกว่าตัวอัปรีย์) ทำให้อากิระชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ มากกว่าอยู่กับครอบครัว และในอดีตก็รวมกลุ่มก่อเรื่องบ้าๆ ด้วยกัน หากแต่เวลามันผ่านไปเร็ว อากิระได้เรียนจบมัธยมปลาย และกำลังจะไปเรียนมหาลัยโตเกียว และเพื่อนในกลุ่มก็จะแยกไปคนละทิศละทาง ทำให้อากิระอดรู้สึกว้าแหว่ที่จะห่างเหินจากเพื่อน อีกทั้งปัญหาหัวใจของอากิระนับวันยิ่งเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเขาแอบหลงรักยูกิซึ่งแฟนของเคน เพื่อนรักของเขา ทำให้ตอนแรกอากิระนึกอิจฉาเคนที่เป็นแฟนกับยูกิ นับวันจิตใจอากิระยิ่งแย่ลง จนบางครั้งอาจเกิดเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดยิ่งตัวผู้หญิงมาเมื่อไหร่ก็ได้ 

      

    แต่แล้วความสนุกก็เริ่มถดถอยลงเรื่อย ตั้งแต่เล่มที่ 5 เป็นต้นไป เมื่อพี่ชายของอากิระสามารถตัดหัวมิยาบิได้ เรื่องราวก็น่าจะจบตั้งแต่ตอนนั้น แต่แล้วด้วยความบ้าหรือมุกอะไรก็ไม่ทราบคนเขียนได้ดันในการ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องต่อมา โดยไม่ให้มิยาบิตายเพราะมันเป็นอมตะ เอาหัวติดอก มีพลังอย่างเหลือเชื่อ แต่อ่านๆ ดูผมก็เริ่มขัดใจการ์ตูนเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น เพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมาการ์ตูนก็ออกทะเลไปเรื่อย ๆ และคนเขียนยังทำให้การ์ตูนเรื่องเสื่อมคุณค่าถอยลง เริ่มจากการ การเปลี่ยนแนวกระทันทัน ทั้งๆ ที่การ์ตูนเรื่องนี้ไม่ใช่ของจัมป์แท้ๆ แต่สามารถทำไปได้ไม่ว่าจะตอนแรกเป็นแนวระทึกขวัญลึกลับกลับกลายเป็นแอ็คชั่นเลือดสาดบ้าพลัง แต่ความสมจริงแทบไม่มี เพราะมีหลายฉากดูแล้วพระเอกมันโครตเวอร์ ฝึกวิชาไม่กี่เดือนเก่งอย่างพี่เทพ ฟันเอามันอย่างเดียว เช่น ใช้ดาบเดียวฟันต้นไม้หักสองท่อนได้ ทั้งๆ ที่ต้นไม้ดังกล่าวหนาใหญ่อย่างกับต้นสักผีบอกบ้านเรา อีกทั้งร่ายกายอึด ถึก กระดูกหักสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อย่าลืมว่าตอนแรกวัยรุ่นมีปัญหาคนหนึ่งเท่านั่น  และการเปลี่ยนแปลงกระทันเปลี่ยนบุคลิกของพระเอกนี้เองเป็นจุดที่ผมไม่ชอบสักเท่าไหร่ในเรื่องนี้ ทำให้พระเอกขาดความเป็นมนุษย์ธรรมดา อีกทั้งนิสัยบ้าเลือด ปากบอกว่ารักเพื่อนอยากปกป้องเพื่อน แต่ขอร้องเถอะ เห็นการกระทำของพระเอกแล้วผิดคำพูดชัดๆ เช่นทิ้งเพื่อนเพื่อไปฆ่าไอ้มิยาบิคนเดียวตามลำพัง(แบบกรูอยากโชว์เทพ) ทั้งๆ ที่เพื่อนก็เตือนว่าอย่าพึ่งไปกลับไปวางแผนก่อน แต่พระเอกไม่รับฟัง เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง  เพื่อนก็อ่อนใจ คนอ่านก็เหนื่อยใจแทน นิสัยแบบนี้พาเพื่อนไปตายมานักต่อนักแล้ว  

    สิ่งที่เสียดายต่อมาคือปมประเด็นเบาหวิวและประเด็นที่อุตส่าห์ปูไว้ตอนต้นๆ ก็หายเกลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องรักสามเศร้าระหว่างอากิระ ยูกิ และเคน ที่เล่มแรกอุตส่าห์ปูพื้นว่าจะมีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดช่วงหลัง ตอนแรกอากิระนึกอิจฉาเคนที่เป็นแฟนกับยูกิ ซึ่งเขาเองรักยูกิมากๆ ถึงขั้นจินตนาการเป็นตุเป็นต๊ะไปเลย แต่กลายเป็นว่าคนเขียนได้ทิ้งประเด็นนี้ไป แล้วเอาประเด็นใหม่เข้ามาแทนและประเด็นใหม่นี้ก็กลายเป็นประเด็นที่ไร้เหตุผลลองรับจนดูแล้วไร้สาระเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน เช่น เรื่องของอากิระกับยูกิที่ช่วงหลังๆ ยูกินั้นแอบรักอากิระ แล้วปูว่าทั้งสองเป็นกิ๊กมานานแล้วแต่ไม่บอกกับเคน(ทั้งๆ ที่ตอนแรกเรื่องแบบนี้ไม่กล่าวถึงเลยสักนิด เพราะอากิระหลงรักยูกิข้างเดียว)  และเคนเองก็เป็นเจ้าบ้าที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย (ที่จริงเคนคงรู้เรื่องนี้แล้วมั้ง ไม่เป็นไร3P ก็ได้) อีกทั้งการ์ตูนเหมือนปูว่าเคนจะแค้นอากิระในอนาคต ประมาณว่าเคนน่าจะกลายเป็นอสูรหรือเป็นผีดูดเลือดมาฆ่าอากิระ  แต่กลายเป็นว่าประเด็นนี้หายไปอีกและช่วงรวมเล่ม 29 เรื่องรักสามเศร้าก็จบลงไปอย่างดื้อๆ กลายเป็นว่าเคนแมนสุดๆ ชนิดเรียกว่าแมนยิ่งกว่าพระเอกด้วยซ้ำ (แต่คนอ่านเซ็งจิต เอาเถอะ อากิระดูแลยูกิให้ดีๆ ด้วยล่ะ) หรือจะเป็นตัวละครชื่อปงนั้นผมว่าเป็นตัวที่สามารถเอามาเล่นได้อย่างสนุกหรือเอามาเล่นมากกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าการ์ตูนทำให้ปงตายตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน่าเสียดาย และกลายเป็นว่าตัวละครอย่างคาโต้กลายเป็นตัวน่ารำคาญในกลุ่มถนัดตา(ในภาพยนตร์รู้สึกว่าปงเป็นผีดูดเลือด)

     นอกจากนี้คนเขียนใส่สิ่งที่ไม่ควรจะมีเข้าไปในการ์ตูนมากเกินไป(พูดง่ายๆ คือจับยัด)  จากการ์ตูนสมจริงกลายเป็นการ์ตูนตลกแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะมันไม่สมจริง และออกทะเลเรื่อยๆ เริ่มจากขนาดของเกาะมันมีขนาดไหนกันแน่ตอนแรกบอกว่าเป็นเกาะเล็กๆ บนทะเล ตอนนี้ได้กลายเป็นทวีปในบัดดล และเป็นทวีปที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทะเลทราย ป่าดงดิบดึกดำบรรพ์ ภูเขาไฟ ผิดกฎธรณีวิทยาอย่างชัดเจน (เชื่อเลยว่าตอนแรกคนเขียนไม่ได้วาดแผนที่เกาะด้วยซ้ำ ถ้าเขียนจริงๆ มันจะกลายเป็นทวีปมากกว่าเกาะ) นอกจากนี้ยังมีสถานที่ต่างๆ นาๆ ที่ไม่ควรมีในเกาะ แต่มันดันปรากฏขึ้นบนเกาะอีกหลายสถานที่ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล เหมือง ค่ายบางระจัน นี้ยังไม่รวมสิ่งชีวิตในเกาะมากมายไม่ว่าจะเป็น คนหรือผีดูดเลือดจำนวนมากมาย(ทั้งๆ ที่ตอนแรกบอกว่า เกาะแห่งนี้มีคนอาศัยไม่กี่คน แต่ตอนนี้เท่าที่เห็นตัวประกอบต่างๆ มันมีเกินแสนแล้วล่ะมั้ง) มีทั้งม้า งูยักษ์  นักรบพระ(ชนิดอ่านว่าถ้ามีกัมดั้มปรากฏกรูก็ไม่แปลกใจหรอกประมาณนี้)

      

    และสุดท้ายสิ่งที่หลายคนรับไม่ได้กับการ์ตูนเรื่องนี้คือการดำเนินเรื่อง การวางบทบาทการกระทำของตัวละครนั้นช่างไร้เหตุผลรองรับโดยสิ้นเชิง หากคนมาอ่านการ์ตูนเรื่องนี้เชื่อเลยว่าคุณจะขัดใจพฤติกรรมตัวละครหลายตัวในเรื่องไม่มากก็ไม่น้อย เช่น ในเล่ม 20 ตอนที่อากิระสู้กับอสูรชื่อ “คุณยายขายาว” โดยเพื่อช่วยที่อสูรคุณยายขายาวพาเข้าไปโรงพยาบาล อากิระต้องบุกไปช่วย ที่นั้นเขาได้พบชายคนหนึ่งชื่อ “ลุงทานากะ” ที่พึ่งหนีคุณยายขายาวมามาดๆ และช่วยอากิระในการช่วยเหลือเพื่อนจากคุณยายขายาว แต่ตอนหลังเมื่ออากิระกำลังจะฆ่าคุณยายขายาว ลุงทานากะก็เผยตนว่าเป็นผู้บงการอสูร พร้อมเล่าเรื่องดราม่าชวนหดหู่ โดยเผินๆ เหมือนประทับใจ แต่ว่ามาดูอีกที่มันช่างไร้สาระอย่างบอกไม่ถูกเพราะถ้าลุงทานากะเป็นพวกคุณยายขายาวจริง ลุงทานากะน่าจะขัดขวางพวกอากิระไม่ให้ฆ่าพวกคุณยายขายาวได้ แต่ในการ์ตูนดันไปช่วยพวกอากิระซะงั้น(แล้วตอนหลังกลับโวยวาย) สิ่งเหล่านี้เห็นได้ชัดเลยคนเขียนการ์ตูนไม่เขียนสคริป วางบท วางเนื้อเรื่องอะไรเลย อารมณ์ประมาณว่าเขียนอยู่ดีๆ เกิดเปลี่ยนใจ เปลี่ยนการดำเนินเรื่องกะทันหันดีกว่าประมาณนั้น นี้ถ้าเป็นนิยายในเว็บเด็กดีมีหวังโดนคนด่าชัวร์

                    การวางแผนเรียงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ นั้นสำคัญมากน่ะครับ โดยองค์ประกอบประกอบด้วย ตัวละคร  ฉากเหตุการณ์ เวลาสถานที่ ใจความสำคัญ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เนื้อหาของการ์ตูนสมเหตุสมผลมีความต่อเนื่องสัมพันธ์กัน ไม่ว่าเรื่องจะยุ่งยากซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างไร ก็สามารถสร้างอารมณ์ต่อผู้อ่าน และสามารถให้คนอ่านไปยังจุดหมายปลายทางของเรื่องได้โดยไม่มีสะดุด มันก็เหมือนกับคนเขียนเป็นคนขับรถ การ์ตูนก็คือรถที่นำคนอ่านหรือก็คือผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างสันติภาพปลอดภัย แต่กระนั้นถ้าจะเปรียบเทียบการดำเนินเรื่องของการ์ตูนเกาะกระหายเลือดนี้มันเหมือนนั่งรถสะดุดไปมาทุกทาง ทั้งรถไม่ดี ถนนขรุขะ อีกทั้งถึงยังต้องแวะข้างทางอีก แถมจุดหมายปลายทางนี้ก็ห่างออกไปเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด หรือภาษาบ้านเราก็คือ “ออกทะเล” นั้นเอง คือมันมีจุดจับผิดเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นใจความสำคัญแต่ล่ะเล่มที่แทบไม่มีอะไรมาก การกระทำของตัวละครก็ขัดแย้ง ความซับซ้อนของเรื่องฉากเหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลเลย แถมมีการเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นๆ เรื่อยๆ เช่น ตอนแรกไปฆ่าผีดูดเลือด แต่กลายเป็นว่าต้องฆ่ามิยาบิ จะฆ่ามิยาบิได้ต้องฝึกวิชา ฝึกเสร็จก็ต้องหาอะไรมาปราบ และต้องผ่านด่านสามด่าน ผ่านเสร็จต้องไปสู้กับองค์รักษ์ ก่อนจะถุงตัวมิยาบิ(บางทีมันอาจมีร่างสอง ร่างสามด้วยซ้ำไป) เรียกได้ว่ามองไม่เห็นฉากจบเลยว่ามันจะจบยังไง

    เคยมีคำกล่าวจากตำราพิชัยซุนวูบอกไว้ว่าจะทำสงครามไม่ควรใช้เวลายืดเยื้อเพราะจะทำให้เสียกำลังคนและทรัพยากร การ์ตูนก็เช่นกันไม่ควรจะเขียนยืดเยื้อเพราะจะทำให้ยากในการดำเนินเรื่องให้น่าติดตาม การหาจุดลงตัวก็ทำได้ยาก และเสียคุณค่าของการ์ตูนโดยใช่เหตุ  มีการ์๖ฯหลายต่อหลายเรื่องมักพบจุดจบแบบนี้มานักต่อนักแล้ว แต่กระนั้นเกาะกระหายเลือดกลับทำให้เรื่องมันยืดทั้งๆ ที่ถ้าดูใจความสำคัญไม่น่าจะยาวจนเกินเหตุเลยสักนิด

    สาเหตุอย่างหนึ่งที่การ์ตูนเกาะกระหายออกทะเลมากเรื่อยๆ ก็เนื่องจากได้รับความนิยมของคนอ่านที่ติดตามการ์ตูนเรื่องนี้จำนวนมากนั้นเอง และการตัดสินใจจากหลายฝ่ายๆ(ซึ่งไม่รู้ว่ารวมคนเขียนหรือเปล่า)? ที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ยืดและดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และยิ่งดำเนินเรื่องคุณค่าในตัวของการ์ตูนก็เสื่อมลงไปด้วย แต่อันนี้ก็โทษผู้อ่านไม่ได้ มันอยู่ที่คนที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูนเรื่องนี้มากกว่าที่จะสร้างสรรค์ผลงานของตนยังไงให้มันสามารถยืดยาวโดยที่ไม่เสียพล็อตหลักของการ์ตูนไป ไม่ใช่ว่าแต่งเอามัน ใส่อะไรโหดๆ (ยังดีที่ไม่ดองเหมือนการ์ตูนบางเรื่อง ไม่งั้นจะเซ็งมากกว่านี้)


               อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผมยังอ่านการ์ตูนเรื่องนี้อยู่ หากแต่ไม่ใช่เพราะว่าอยากรู้ตอนจบเป็นอย่างไร เพราะเนื้อหาก็คงเดาๆ ตอนจบได้ (นอกเสียจากคนเขียนอยากบ้าหักมุมก็ว่ากันไป) แต่สิ่งที่ทำให้ติดตามก็คืออ่านแล้วคลายเครียดดี(แต่บางคนเครียดหนักกว่าเดิม) คืออย่าเอาอะไรจริงจังในการ์ตูนเรื่องนี้ อ่านเอามัน อ่านแล้วฮ่ากับมุกบ้าๆ ของคนเขียน หรืออ่านจับผิดก็ไม่ว่ากัน แนะนำว่าลองไปอ่านรีวิวขิงมนุษย์การ์ตูนประจำเว็บพันทิ๊ปดู รายนั้นรีวิวได้อย่างฮ่า พร้อมจับผิดได้อย่างชนิดไม่มีใครเถียง อ่านแล้วคลายเครียดอย่างเบิกบานทั้งๆ ที่การ์ตูนไม่มีมุกตลกเลยสักนิด

    สิ่งหนึ่งสิ่งที่ชอบในการ์ตูนเรื่องนี้และมีผลอย่างมากที่ผมทำให้ดูจนถึงทุกวันนี้ต่อก็คือเหล่าอสูรกายหรือสัตว์ประหลาดในเรื่องออกแบบได้แนวๆ โดนกว่าการ์ตูนเรื่องอื่นมาก เวลาที่การ์ตูนเล่มใหม่ออกผมก็ลุ้นว่ามีอสูรไหนโผล่ ก็ขอบอกตอนนี้นะครับว่าตอนเด็กๆ นี้ผมมักออกแบบ(ทั้งปั้นทั้งวาด)สัตว์ประหลาดประจำ ทำให้ตอนเด็กผมชอบพวกอุลตร้าแมน เซ็นไต ไอ้มดแดง(ไม่ได้ชอบฮีโร่หรอกชอบสัตว์ประหลาดมากกว่า) พอโตหน่อยก็ชอบการ์ตูนแนวสัตว์ประหลาดที่ออกแบบแนวๆ ไปด้วย อย่างเรื่อง เบอร์เซิร์ก, เซ็นกิ (รองลงมาก็ โปเกมอน ดิจิมอน เออง...เน้นภาคแรกเป็นหลักน่ะครับ) เกมก็ไม่เว้นครับ โดยเกมที่สัตว์ประหลาดโครตแนวก็มี ดาวมรณะ(Dead Space)

    สำหรับอสูร(สัตว์ประหลาด) ในการ์ตูนเรื่องนี้จะออกแบบให้มีเค้าโครงที่ยังคงเหลือความเป็นมนุษย์อยู่ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างและนิสัย แต่กระนั้นด้วยก็ผสมกับความน่าเกลียดน่ากลัว ความพิสดารชนิดว่าหากมันอยู่ในโลกความจริงนี้เป็นไม่ใครอยากเผชิญหน้ามันหรอก โดยสัตว์ประหลาด(อสูร)ที่ปรากฏการ์ตูนเรื่องนี้ก็มีโดน ๆ หลายตัว เช่น ฮิเมะ(ปีศาจตะขาบหน้าคน)ที่ทำได้ช่างสะอิดสะเอียน แต่กระนั้นก็มียังมีรูปลักษณ์ของคนที่นิสัยเหมือนเจ้าหญิงที่หย่อหยิ่ง(ขนาดมิยาบิควบคุมแล้วยังนิสัยแบบนี้ไม่หาย)ผสมกับการเคลื่อนไหวของตะขาบก็ทำได้สมจริงเห็นแล้วก็น่ากลัวน่าขนลุกจริงๆ และตัวที่ผมชอบที่สุด(จนติดอันดับสัตว์ประหลาดในตัวใจของผม)ก็คือ “คุณยายขายาว” ที่ออกแบบครึ่งคนครึ่งแมงมุม ที่หากเป็นการ์ตูนทั่วๆ ไปจะออกแบบเป็นท่อนบนจะรูปลักษณ์ของผู้หญิงสาวสวยสุดๆ ทำให้ดูแล้วอยากให้เธอกินมากกว่าจะหนี หากแต่พอมาอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้แล้วท่อนบนกลับกลายเป็นคุณยายที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย แต่ฤทธิ์เดชน่ากลัวสยดสยอง และชอบที่สุดคือมันเป็นอสูรที่คนธรรมดา(ลุงทานากะ)บงการ และมีความสัมพันธ์เป็นแม่ลูกด้วย ประทับใจตรงนี้แหละ(ไม่นับพฤติกรรมขัดใจของลุงทานากะที่ไปช่วยอากิระน่ะครับ)

      
                  สำหรับข้อคิดการ์ตูนเรื่องนี้ สงสัยใช่เปล่าละ การ์ตูนเรื่องนี้มีข้อคิดด้วยเหรอ นึกว่าอ่านเอามัน ความจริงแล้วข้อคิดการ์ตูนต้องการนำเสนอนอกจากมิตรภาพ ความกล้าหาญที่เผชิญหน้ากับอันตราย ความรัก(เพื่อน ครอบครัว คนรัก)แล้ว ยังมีข้อคิดหนึ่งที่การ์ตูนได้สอดแทรกเอาไว้ตั้งแต่เล่มแรกๆ ก็คือ “ลัทธิเหยียดเชื้อชาติ”

     การเหยียดเชื้อชาติ (Racism) หมายถึง ลัทธิความเชื่อที่ว่าคนเรานั้นมีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นโดยธรรมชาติไม่ว่าลักษณะรูปร่างและหน้าตา และความเจริญทางเทคโนโลยี วัฒนธรรม ทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อให้เหนือกว่าคนเหล่านั้น นำไปสู่การเหยียดเชื้อชาติ เช่น คนผิวขาวหลังเกลียดคนผิวสี คนยุโรปรังเกียจคนแอฟริกา นาซีเกลียดยิว เมื่อความเหยียดเชื้อชาติถึงจุดสูงสุดสิ่งที่ตามมาก็คือ การล่าอาณานิคม สงครามและการฆาตกรรมหมู่ การเหยียดเชื้อชาตินั้นเกิดขึ้นทั่วโลก ขนาดประเทศไทยเรายังดูถูกประเทศเพื่อนบ้านว่าล้าหลัง แม้ปัจจุบันโลกของเราจะพยายามรณรงค์ไม่ให้มีการเหยียดเชื้อชาติแล้ว แต่กระนั้นตราบใดที่มนุษย์มีความแตกต่างชาติพันธ์ ฐานะ การศึกษา รูปร่างหน้าตา ไม่เท่ากัน การเหยียดเชื้อชาติก็ยังคงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน

                    ประเด็นเชื่อชาตินั้นถูกนำไปสอดแทรกในสื่อบันเทิงมานานแล้ว ไม่ใช่ของใหม่อะไรเลย เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการ์ตูนญี่ปุ่นก็นำเรื่องนี้ไปใช้มากมายหลายเรื่อง อย่างการ์ตูนพวกมนุษย์ต่างดาวที่บุกรุกดูถูกมนุษย์โลก หรือมนุษย์หุ่นยนต์ใช้แรงงานมนุษย์ราวกับทาส นอกจากนี้ในภาพยนตร์ดังๆ อย่าง District 9 ที่เป็นเรื่องระหว่างมนุษย์ต่างดาวกับมนุษย์  การ์ตูนเกาะกระหายเลือดก็เช่นกันที่นำประเด็นเหยียดเชื้อชาติมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ผีดูดเลือดเหยียดยามมนุษย์ว่าอ่อนด้อยกว่าตน อ่อนแอ โง่เขลา การปฏิบัติต่อพวกมนุษย์ราวกับสัตว์เลี้ยง เห็นเป็นเพียงอาหาร การปกครองเผด็จการ การสังหารหมู่ การทำสงครามต่อต้าน สิ่งเหล่านี้ล้วนมีอยู่ในลัทธิเหยียดสีผิวทั้งสิ้น ผลสุดท้ายก็สูญเสียไปทั้งสองฝ่าย แต่สิ่งที่เสียดายประเด็นเหยียดเชื้อชาติดังกล่าว การ์ตูนไม่ได้เน้นให้หลากหลายสักเท่าไหร่นัก เพราะเอาโหดเข้าว่า อีกทั้งช่วงหลังผีดิบฆ่าง่ายเกินไปทำให้คนอ่านมองเหล่าผีดูดเลือดเป็นแค่ตัวประกอบใช้แล้วทิ้งไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก (กลายเป็นพวกอสูรมีบทบาทแผน) แต่กระนั้นก็มีบางส่วนที่นำเสนออีกมุมหนึ่งมนุษย์ก็สามารถอยู่ร่วมกับผีดูดเลือดได้ เช่น มุมของลุงทานากะกับคุณยายขาวยาว หรือพี่ชายของอากิระกับแฟนและเหล่าผีดูดเลือดวัยชราที่ไม่อยากตกเป็นเครื่องมือของมิยาบิและไม่อยากจะทำร้ายมนุษย์ ซึ่งผมเชื่อหากการ์ตูนเรื่องนี้มีไม่กี่เล่มบางทีประเด็นนี้อาจนำมาใช้ให้ผู้อ่านได้ชวนคิดเกิดอารมณ์เศร้าๆ ระหว่างผีดูดเลือดกับมนุษย์ก็เป็นไปได้

                    สรุปคือ เป็นการ์ตูนอ่านเอามัน อย่าหวังอะไรกับมันมาก  อารมณ์เหมือนหนังสยองขวัญเกรด B เน้นโหด มัน ฮ่า แต่ไม่สมจริงเป็นหลัก สยองขวัญไม่ใช่ โหดก็ไม่เชิง แต่กระนั้นก็มีหลายภาพที่เสียวไส้เหมือนกัน เช่น เอามือควักหัวใจ กินเนื้อคน โดนตัดหัว เลือดพุ่งกระฉุด ฯลฯ บทบาทของตัวละครเหมือนจะดราม่าหากแต่ดูดีๆ แล้วก็หลายฉากก็ขัดแย้งต่อคนอ่านโดยสิ้นเชิง เอาเป็นว่า สิ่งที่ผม ชอบมีอย่างเดียวคือตัวอสูรออกแบบแหวกแนวดี ชอบตรงนี้แหละ

    + +
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×