คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #124 : I am a Hero ผมขอเป็นฮีโร่ครับ!??
ถ้าหากคุณชอบซอมบี้ แต่ไม่ชอบการ์ตูนเรื่อง High School Of The Dead บางที I am a Hero อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
I am a Hero
I am a Hero
สยองขวัญ ระทึกขวัญ จิตวิทยา
I am a Hero ได้รับเสนอเข้ารางวัลการ์ตูนไทโซ(Nihon SF Taisho Award) โดยรางวัลดังกล่าวแตกต่างจากรางวัลการ์ตูนทั่วไป เพราะเป็นการเลือกการ์ตูนที่เน้นการ์ตูน(หรือนิยาย)แนว ไซไฟ แฟนตาซี และต้องไม่ใช้การ์ตูนเชียร์ขายและเนื้อหาและลายเส้นมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าปกติ(พูดง่ายๆ คือเน้นเครียด ดราม่า) และนั้นก็เป็นสาเหตุทำให้การ์ตูนดังกล่าวถูกเสนอเข้าชิงรางวัลไทโซใน 3 ปีที่ผ่านมาแม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่เคยได้รับรางวัลดังกล่าวก็ตาม(การ์ตูนดังๆ ที่ได้รับรางวัลก็เช่น Coil Denno, Evangelion Shinseiki)
I am a Hero เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับพระเอก คนหนึ่งชื่อซูซูกิ ฮิเดโอะอายุ 30 ปี ที่หน้าตาไม่หล่อเลยสักนิด หน้าประมาณปลาดุก ผสมกับ บอบู่(นักวิจารณ์และนักพากย์ฟุตบอล ชอบทีมแมนยู) ทำงานเป็นผู้ช่วยนักเขียนการ์ตูนมังงะและพยายามอยากจะเป็นนักเขียนการ์ตูนเต็มตัวหากแต่จนบัดนี้ก็ไม่มีสำนักพิมพ์ที่ไหนยอมรับผลงานของเขาสักที(คาดว่าคาแร็คเตอร์พระเอกดังกล่าวมาจากหน้าตาคนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้)
ซูซูกินั้นเป็นพระเอกที่หลายคนไม่ต้องเดาเลยว่านิสัยเป็นอย่างไร เริ่มจากนิสัยค่อนข้างอ่อนแอ ไม่ค่อยสู้คน อีกทั้งตัวตนของเขาแทบไม่มีใครอยากจดจำ ขนาดตอนเรียนประถมเขาไม่มีเพื่อนด้วยซ้ำ เขาอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ในห้องพักรกๆ ที่เต็มไปด้วยนิตยสาร การ์ตูน ถม เวลาเขาอยู่ตัวคนเดียวมักทำท่าติ๊งต๊อง หรือพูดบ่นกับตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งสาเหตุที่เป็นอย่างนี้เนื่องจากเขามีปัญหาทางจิตอย่างรุนแรง ที่เขามักเห็นสิ่งมีชีวิตไม่ใช่คนอยู่เนื่องๆ ไม่ว่าเขาจะโผล่ไปที่ไหนมันก็ตามติดไม่ลดล่ะ บางครั้งมันก็คุยกับเขา(ในรูปของผู้ชายตัวเล็กตาโต) หากแต่เขาไม่สนใจมันด้วยซ้ำยังพยายามที่จะเอาชนะพวกมันด้วยการใช้ชีวิตปกติ และเป็นเหตุทำให้เขาขี้ระแวงไปด้วย เขามักล็อกห้องอพาร์ตเมนต์ของเขาด้วยกุญแจหลายชั้น และมีปืนไรเฟิล (ของจริง) ที่ซ่อนอยู่ไว้เพื่อป้องกันภัย
แม้ว่าซูซูกิหน้าจะไม่หล่อ แต่ความจริงแล้วเขาก็มีแฟนเป็นสาวแว่น และเธอเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่เขาใจจิตใจเขาแท้จริง ซึ่งเวลาใดที่เขามีปัญหาเขามักแบกหน้าไปหาเธอเพื่อปรับทุกข์เสมอ(หรือบางครั้งสาวแว่นก็มาหาเขาถึงที่เลย)
สรุปคือโดยวันหนึ่งวันหนึ่งนั้นซูซูกิจะตื่นนอน ไปทำงาน กลับบ้านก็แวะหาแฟนสักหน่อย ก่อนกลับมาที่ห้องแล้วหลับเพื่อทำงานในวันต่อ ชีวิตมันช่างน่าเบื่อสิ้นดี
แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของซูซูกิก็เปลี่ยนไป เมื่อโลกอยู่ภาวะไข้หวัดมรณะระบาด ตอนแรกเขาไม่สนใจนัก โรคอะไรก็ช่างหัวมัน เขายังคงทำตัวเป็นปกติ เช่นทุกวัน จนกระทั้งระหว่างทางเขาเกิดไปเห็นรถชนคน ชนิดเรียกว่าคนโดนชนคอหักหมุนรอบ 180 องศา แต่ปรากฏว่าคนที่โดนชนกับลุกขึ้นอย่างหน้าตาเฉย(โดยคอหักกลับหลังอย่างน่าสยดสยอง)ก่อนที่จะเดินหายไปในความมืด สร้างความตกตะลึงแก่คนขับและไทยมุมอย่างซูซูกิ หากแต่ตอนแรกซูซูกิก็ไม่สนใจเพราะคิดว่าเป็นภาพหลอนประสาทประจำของเขา หากแต่วันถัดมาเมื่อเขาไปหาแฟนที่ห้องเขาก็ได้พบว่าแฟนของเขาได้เปลี่ยนไป เมื่อเธอคืบคลานมุ่งหมายเพื่อจู่โจมเขา ราวกับซอมบี้กระหายเลือดในภาพยนตร์สยองขวัญไม่มีผิด กว่าที่ซูซูกิจะสลัดหลุดได้ก็แทบลากเลือด จากนั้นเขาก็วิ่งหนีเขาในเมือง หากแต่สิ่งที่รอเขาอยู่นั้นกับเป็นฝูงซอมบี้กระหายเลือดที่จ้องจะกินเนื้อเขาอย่างบ้าคลั่ง และแล้วการผจญภัยเพื่อเอาชีวิตรอดของซูซูกิก็เริ่มต้นขึ้น
ถ้าผมเปรียบเทียบการ์ตูน High School Of The Dead หรือ “นมสู้ซอมบี้” แล้ว I am a Hero นั้นไม่ได้เน้นการเอาตัวรอดซอมบี้เหมือนการ์ตูนหรือภาพยนตร์ซอมบี้นิยมทำกัน หากแต่ไปเน้นชีวิตของซูซูกิเสียมากกว่า และการ์ตูนนี้ก็แปลกอีกอย่างเพราะกว่าจะถึงฉากซอมบี้ถล่มเมืองก็จนถึงเล่ม 2 อีกทั้งลายเส้นไม่โมเอะหรือน่ารักอะไรทั้งสิ้น(พระเอกก็ไม่น่ารัก) หากแต่สิ่งที่ทดแทนก็คือเนื้อหาที่สมจริงและเข้มข้นกว่ามากครับ เพราะ High School Of The Dead นั้นเน้นเซอร์วิสและความเวอร์มากกว่า
ในมังงะญี่ปุ่นนั้นพล็อตการระบาดซอมบี้จนโลกล่มสลายไม่ค่อยนิยมมาเล่นนัก พึ่งจะมี Highschool of the Dead(2006)เรื่องเดียวเท่านั้นที่หลายคนพอรู้จัก เพราะส่วนมากจะเน้นซอมบี้เป็นสัตว์ประหลาดที่เป็นตัวประกอบของการ์ตูนแนวแอ็คชั่น นักล่าซอมบี้แฟนตาซีมากกว่า เช่น Shikabane Hime(2005)
เออ ผมเกือบลืมเรื่องซอมบี้โหดโรคจิตจากการ์ตูนเรื่อง Cradle of Monsters ไปเสียได้ โดยการ์ตูนดังกล่าวนำเสนอกลุ่มผู้รอดชีวิตหนีซอมบี้ในพื้นที่แคบๆ บนเรือสำราญ ซึ่งพล็อตดังกล่าวภาพยนตร์ซอมบี้ทุนต่ำ(พวกเกรดบี-ซี) มักนำพล็อตนี้ไปทำเป็นส่วนใหญ่ โดยพื้นที่เกิดเหตุ มักเป็น เรือสำราญ ป่า โรงเรียน ในตึกร้าง ฯลฯ และเนื้อหาก็ไม่มีอะไรมากแค่นี้ซอมบี้และเน้นโหดเลือดสาดเข้าไว้เป็นพอ
กลับมาที่เรื่อง I am a Hero อืม... การ์ตูนเรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องที่เป็นการ์ตูนนอกสายตา ที่หลายคนแทบไม่รู้จักชื่อคนเขียนคนนี้มาก่อน ผมลองดูผลงานก่อนๆ ของผู้เขียนของการ์ตูนเรื่องนี้ พบว่า ผลงานเก่าๆ ของเขานั้นหลากหลายอารมณ์ หลายแนวจริงๆ มีทั้ง ตลก ดราม่า เศร้า สังคม แต่ทั้งหมดจะเน้นตัวละครเน้นแนวคิดโลกแห่งความฝันและโลกแห่งความจริงที่แยกไม่ออก ซึ่งหลักการดังกล่าวยังถูกนำมาใช้กับ I am a Hero อย่างครบถ้วน
หลายคนที่อ่าน I am a Hero ในตอนแรกนั้นอาจรู้สึกน่าเบื่อไปนิด(หลายคนปิดตั้งแต่แรกเห็นด้วยซ้ำ) เพราะตัวละครในเรื่องไม่มีความโมเอะ อีกทั้งช่วงแรกของการ์ตูนซอมบี้กระหายเลือดยังไม่ปรากฏตัว ซึ่งถือว่าแปลกมากเพราะส่วนใหญ่ในหนังซอมบี้มักปรากฏในตอนแรกแต่เนิ่นๆ หากแต่การ์ตูนเรื่องนี้กลับให้ซอมบี้ปรากฏตัวในช่วงประมาณ เล่ม 2 เนื่องจากช่วงแรกการ์ตูนต้องปูพื้นฐานเนื้อหาตัวละครอย่างซูซูกิให้แน่นเสียก่อน เพื่อให้คนอ่านมีความรู้สึกว่าเขามีตัวตนจริงๆ รู้นิสัยของพระเอกคนนี้อย่างครบถ้วน ว่าเขามีนิสัยเป็นอย่างไร ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร เป็นคนขี้แพ้อย่างไร เมื่อคนอ่านเข้าใจในตัวของเขาง่ายขึ้น ก็สามารถตอบคำถามได้ว่าทำไมภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียดนั้นเขาถึงได้กระทำอย่างนั้น และนั้นเองทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีความสมจริงที่สุดในการ์ตูนมังงะแนวซอมบี้
และเมื่อฉากซอมบี้บุกเมืองในเล่ม 2 ถึงมาช่วงนี้คุณก็สามารถปรับตัวลายเส้น หรือเนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ได้แล้ว ความมันก็บังเกิด เมื่อซอมบี้บุกเมือง (ซอมบี้การ์ตูนเรื่องนี้วิ่งโครตเร็ว เดาว่าคงเอาซอมบี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง 28 Days Later(2002) เนื่องจากมีซอมบี้มีตาสีแดงและสาเหตุเป็นซอมบี้เกิดจากเชื้อโรคเหมือนกัน ฉากโหดและตื่นเต้น และความสับสนวุ่นวายของชาวเมืองที่หนีซอมบี้มีเพียบ ไม่ว่าจะเป็น ฉากระเบิด ฉากรถชนกัน ฉากซอมบี้กินเนื้อคน ชาวเมืองที่วิ่งหนีเอาตัวรอดซอมบี้ ภาพซอมบี้กัดคอหอย ฉากความตายที่หลากหลาย ล้วนเต็มไปด้วยชั้นเชิงและความสมจริงโหดไม่แพ้การ์ตูนหรือภาพยนตร์ซอมบี้ชั้นดีแน่นอน
นอกจากนี้ความสนุกของเรื่องก็คือซอมบี้สัตว์ประหลาดตัวหลักของการ์ตูนเรื่องนี้แตกต่างจากซอมบี้ทั่วๆ ที่เอาแต่เดินท่าเดียว เพราะการ์ตูนเรื่องนี้มีซอมบี้หลายแบบ หลายขนาดให้ตื่นตาตื่นใจ และดูตลกขบขัน(ปนโหดและขยะแขยง) เช่น ซอมบี้เด็กหัวบิดเบี้ยวแต่ว่องไว ซอมบี้ยัยช้างน้ำที่อึดแต่เชื่อมช้า ซอมบี้เดินสี่ขา ฯลฯ และนอกจากนี้ยังรวมไปถึงคนที่กำลังกลายเป็นซอมบี้ที่จู่ๆ ก็เป็นอย่างไม่ปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้การ์ตูนตื่นเต้นขึ้นไปอีก
สิ่งที่แปลกของการ์ตูนเรื่องนี้นอกจากซอมบี้จะเป็นพวกติดเชื้อที่วิ่งเร็ว (และมีพฤติกรรมบางอย่างคล้ายกับตอนเป็นมนุษย์แล้ว) ตัวละครที่ชื่อ ซูซูกิ ซึ่งน่าแปลกมากสำหรับพล็อตการ์ตูนแนวซอมบี้ที่จับเอาคาแรคเตอร์ที่ดูแล้วเป็นตัวละครที่ตายได้ง่ายในภาพยนตร์ซอมบี้มาเป็นตัวหลัก(พระเอก)ของเรื่อง ทั้งที่บุคลิกของเขานั้นภาษาพล็อตซอมบี้เรียกว่า “พวกตายไว” พวกที่นิสัยขี้ขลาด อ่อนแอ ไม่หล่อ ตัดสินใจคนเดียวไม่เป็น ประเภทเหล่านั้นมักตกเป็นเหยื่อของซอมบี้เกือบทุกเรื่องและตายตั้งแต่ต้นเรื่อง ทั้งที่จริงแล้วพระเอกการ์ตูนแนวซอมบี้ส่วนใหญ่นั้นต้องเป็น ผู้ชายแกร่ง เท่ หล่อ หรือเก่งเป็นหลัก หากแต่คนเขียนการ์ตูนดันใช้คาแรคเตอร์อย่างซูซูกินี้มาดำเนินเรื่องราวแทน
I am a Hero หรือแปลเป็นชื่อไทยว่า “ฉันคือวีรบุรุษ” (ซูซูกิ แปลได้อีกอย่างคือฮีโร่) แต่หลายฉากที่ผ่านมาพระเอกซูซูกิดูแล้วไม่มีความเป็นฮีโร่อะไรเลย แม้เขาจะบ่นกับตัวเองว่าอยากเป็นฮีโร่ อยากโชว์ความแมน แต่พอเกิดสถานการณ์ที่อาจช่วยให้เขาเป็นฮีโร่ เขากลับไม่ทำเหมือนที่พูดเอาไว้เขาเอาแต่หนีซอมบี้ เห็นคนอื่นโดนซอมบี้ฆ่าไม่ยอมช่วย ยอมฟังคำสั่งอาจารย์นักเขียนการ์ตูนที่เขาทำงานอยู่ช่วยฆ่าซอมบี้ยัยช้างน้ำ(ปกติพระเอกมันต้องมาดผู้นำ แต่กลับโดนคนอื่นใช้ซะงั้น) แตกต่างจากพระเอกในการ์ตูนซอมบี้เรื่องอื่นๆ โดยสิ้นเชิง แต่กระนั้นหากเราคิดดีๆ ซูซูกิเขาก็เป็นคนธรรมดา กลัวตายเหมือนมนุษย์คนอื่นๆ ใครจะโชว์แมนเป็นฮีโร่แบบไร้เหตุผล หลายคนเห็นด้วยการกระทำกับซูซูกิเสียมากกว่า ประมาณว่า “ถ้าฉันเจอซอมบี้ ฉันก็จะหนีเหมือนมันนี้แหละ” “ถ้าแฟนตรูกลายเป็นซอมบี้ ฉันก็ฆ่าแฟนดีกว่าปล่อยให้เธอทรมาน” “ถ้าฉันเป็นซอมบี้ ฉันขอเป็นบ้าหรือหนีให้พ้นสุดขอบโลกดีกว่า” การกระทำของซูซูกิเหมือนคนตกอยู่ในสภาวะตระหนก แก้ปัญหาด้วยตนเองตนเอง และขาดที่พึ่งทางจิตใจ ซึ่งก็ถือว่าเขาเป็นพระเอกที่สมจริงอีกแบบ และแปลกได้ใจดี เพราะสถานการณ์แบบนั้นใครเจอก็อาจจะเป็นเหมือนกัน
ฉากที่ผมชอบที่สุดคือฉากที่ซูซูกิหนีซอมบี้จนพ้นแล้วขึ้นบนรถไฟ ที่ตอนนั้นคนบนรถไฟยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ซอมบี้กำลังบุกเมือง หลายคนไม่นึกเอะใจเลยว่าทำไมข้างนอกมันถึงโกลาหล และเมื่อมีคนเป็นซอมบี้และกัดคนบนรถไฟ คนบนรถนึกว่าถ่ายหนัง ส่วนซูซูกิตอนแรกผมก็นึกว่าเขาจะฉายแววความเป็นวีรบุรุษด้วยการเอาปืนช็อกกันจากเป้แล้วเตรียมยิง แต่ปรากฏว่าทั้งหมดเป็นจิตนาการของซูซูกิคิดไปเองเท่านั้น(การ์ตูนช่างเล่นมุกซะ....) เขาเอาแต่พูดกับตัวเอง ทำท่าติ๊งต๊อง ท่าทางลอกแลก ไม่เตือนผู้คนบนรถไฟเลยว่าอันตรายจะมาถึง พอซอมบี้ฟังกระจกรถบุกเข้ามากินคนในรถ เขาทำได้แต่เพียงก้มบนพื้นเพื่อหลบภัย และหนีตายเหมือนคนอื่น (ผมสะใจมากตอนซอมบี้กัดยัยปากมากบนรถไฟ โครตสะใจจริงๆ)
หลังจากที่เราดูนิสัยของซูซูกิ ทำให้เราได้คิดว่าการ์ตูนมังงะI am a Hero ไม่ได้เน้นฉากหื่น ฉากเซอร์วิส หากแต่สิ่งที่การ์ตูนต้องการนำเสนอนอกเหนือกลวิธีการเล่าเรื่องและเอามุกภาพยนต์ซอมบี้มาล้อเลียน(เช่นฉากพระเอกหนีสาวซอมบี้ชุดชั้นใน)ไม่เหมือนใครแล้ว การ์ตูนยังสอดแทรกกัดจิกประเด็นสังคมมากมายไม่ว่าจะเป็น ความเคารพต่อผู้อาวุโส ความเย็นชา เฉยชาในภัยอันตรายของคนญี่ปุ่น ไปจนถึงสภาพคนญี่ปุ่นในปัจจุบัน ฯลฯ เรียกได้ว่าการ์ตูนแนวซอมบี้นี้สนุกมากๆ และคนอ่านสามารถหัวเราะได้ทั้งที่บรรยากาศการ์ตูนอยู่ท่ามกลางความกดดันและความเครียด
ผมได้ดูการ์ตูน I am a Hero จนถึงบทที่ 32 เนื้อหากำลังสนุก(แน่นอนการ์ตูนยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ และยังแปลออกมาเรื่อย ๆ) พระเอกหลังจากหนีซอมบี้แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือการเผชิญหน้ากับอาการประสาทของตัวเอง ความเครียดได้กระนำมาหาเขาจนเขาแทบกลายเป็นบ้า และนางเอก(??)พึ่งปรากฏตัวออกมา เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายที่ไร้เพื่อนฝูงที่น่ารักใช้ได้ที่เดียว ปลายทางหน้าของซูซูกิจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตาต่อไป
ความคิดเห็น