คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : My Sassy boy ☆ 10
My Sassy boy ☆ 10
“พี่ต๋าววววววววววววววววว... พี่ต๋าวตอบหน่อยว่าอยากจูบชาไหม?”
คิ้วหนาขมวดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากปลายสาย... เขารู้ดีว่าเป็นเสียงใคร หากแต่กำลังประหลาดใจกับน้ำเสียงและคำพูดนั้น
คชากำลังเมา?... เมาแล้วยั่วเสียด้วย!
“อยากจูบกับชาม้ายยยยยยยย?????”
“ชาอยู่ไหน!? อยู่กับใคร? ดึกป่านนี้ทำไมไม่รีบกลับบ้าน?”
เสียงทุ้มรัวคำถามออกไปเป็นชุด คำพูดสั้นห้วนกว่าที่เคยแต่ก็เป็นเพราะความเป็นห่วงของคนถาม
“พูดอะไรยาวเฟื้อย ฟังไม่ทานนนนน... ชาถามพี่เต๋าว่าอยากจูบกับชาม้ายยยยยย”
เต๋าส่ายหน้าให้กับอาการเมาไม่ได้สติของคนตัวเล็ก แต่ถึงอย่างนั้นก็รีบตั้งสติแล้วตอบคำถามคนเมากลับไป
“อยากสิครับชา... รอจูบคชามาตั้งนานแล้ว” ตอบจากใจ ไม่ได้โกหกเลยแม้แต่คำเดียว
“ฮะๆๆ จริงหรอ”
“จริงสิครับ... ว่าแต่ชาอยู่ไหน พี่เต๋าจะได้ตามไปจูบเดี๋ยวนี้เลย”
“อยู่ไหน? น่านสิ... ชาอยู่หนายน้า...”
เสียงใสเอ่ยถามตัวเองไม่นาน โทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนมือให้กลายเป็นเสียงคนอื่นพูดขึ้นแทน
“พี่เต๋าครับ นี่ต้นนะ รีบมารับคชาด่วนเลยที่...”
เต๋ารีบบึ่งรถออกไปทันทีหลังจากได้ยินชื่อสถานที่ตามที่ต้นบอกในปลายสาย วันนี้เขาทำงานเลิกดึกอีกครั้ง กำลังจะกลับบ้านตอนเที่ยงคืนกว่าก็มีคนโทรเข้ามานี่ล่ะ
ทีแรกเขาตื่นเต้นดีใจแทบตายที่เห็นว่าชื่อคนโทรเข้ามาเป็นใคร แต่พอได้ยินเสียงไม่ได้สติจากปลายสาย หัวใจก็แทบตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ก็คชาเมาหนักขนาดนี้... มันน่ากลัวจริงๆ ว่าใครจะมาทำอะไร
ก็ได้แต่หวังว่าต้นจะดูแลคชาให้ดีตามที่บอกในสายระหว่างที่เขายังไปไม่ถึงล่ะนะ
รอก่อนนะตัวเล็ก
เจอกันเมื่อไหร่ได้จูบสมใจแน่!
เต๋ารีบพุ่งลงจากรถทันทีที่ไปถึงที่หมาย สถานบันเทิงในย่านทองหล่อเวลานี้กำลังคึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย ร่างสูงเดินฝ่าลูกค้าคนอื่นๆ เข้าไป ไม่ช้าก็พบกับคนตัวเล็กที่กำลังนั่งเกาะแกะเพื่อนซี้อย่างต้นอยู่ที่โซฟาตัวยาว
“โต้นอ้า... ม่ายห้ายเราจูบจริงอ๋อออออ” ศีรษะเล็กของคนพูดเอนซบเพื่อนผิวสี แขนก็พาดไหล่เพื่อนเอาไว้
“เออ...รอพี่เต๋าก่อน รอพี่เต๋ามาจูบ... โอเคนะ” ต้นพยายามถ่วงเวลา ก่อนที่จะหันมาเห็นว่าบุคคลที่สามที่กำลังเอ่ยถึงมายืนอยู่ตรงหน้านี่แล้ว
“นี่ไง... พี่เต๋ามาแล้ว...”
หนุ่มผิวสีรีบหันไปเอ่ยกับเพื่อนตัวเล็ก... หากแต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อริมฝีปากบางนั่นประทับจูบลงที่ปากของเขาพอดี
“เฮ่ยยยยยยย!” คนถูกขโมยจูบรีบผลักออกมาอย่างตกใจ
จูบตอนไหนไม่จูบ มาจูบต่อหน้าพี่เต๋า!
จะได้มีชีวิตรอดได้ไปเรียนต่อเมืองนอกไหมวะ!?
“คชา...กลับ!”
เสียงทุ้มพูดสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจความ ไม่รอให้คนตัวเล็กตอบรับหรือมีปฏิกิริยาใดๆ เต๋าก็รีบดึงร่างเล็กที่กำลังเกาะแกะเพื่อนซี้ออกมา แล้วพยุงพาออกไปยังรถยนต์ของตัวเองที่จอดไว้
กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งไปทั่วคันรถ ไฟดวงเล็กที่ส่องสว่างภายในเพิ่งทำให้ชายหนุ่มได้เห็นเดี๋ยวนี้เองว่าคชาในยามนี้ช่างดูล่อแหลมเพียงใด ทั้งกระดุมเสื้อนักศึกษาตัวบางที่ถูกแกะออกไปสองสามเม็ด อีกทั้งยังเปียกชื้นจากเหล้าที่หกรด ดวงตาปรือๆ กับใบหน้าหวานที่ขึ้นสีด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ และที่สำคัญคือริมฝีปากบางสีแดงสดกับคำพูดชวนล่อแหลมที่ออกมานั่นอีก
“พี่ต๋าวเองหรอออออ.... มาแล้วก็จูบชาสิ”
“คชา....” เสียงทุ้มเอ่ยชื่ออีกคนอยากให้อีกฝ่ายได้สติ... ไม่ปฏิเสธหรอกว่าตอนนี้เขาเองก็อยากจูบคนตัวเล็กนี่มากแค่ไหน อันที่จริงตั้งแต่เมื่อกี๊ที่เห็นคชาไปจูบกับต้นแบบนั้นแล้ว แต่ในความเป็นจริง... เต๋าเพียงแค่ไม่อยากทำอะไรในเวลาที่อีกคนไม่ได้สติแบบนี้
เปล่าเลย เขาไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษขนาดนั้นหรอก... เขาอยากจูบคชาแทบตาย หากแต่เต๋าตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าจูบแรกของเราสองคนจะต้องเป็นประสบการณ์แสนพิเศษที่คชาจะจดจำมันไปอีกนาน
ไม่ใช่แค่สัมผัสยามเมามาย.. ที่พอฟ้าสางก็ถูกลบเลือนไป
กว่าเต๋าจะขับพาหนะคู่ใจมาถึงคอนโดของตนเองก็เป็นเวลาตีหนึ่งเศษ ทีแรกเขาว่าจะพาคนตัวเล็กกลับไปนอนที่บ้านเหมือนเคย แต่พอชั่งใจดูก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายถูกคุณแม่ดุเอาข้อหาดื่มเหล้าจนเมาไม่ได้สติ... สุดท้ายคอนโดของเขาเองจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับค่ำคืนนี้
ร่างสูงอุ้มเด็กน้อยที่เมาจนหลับไปขึ้นมาบนห้อง วางอีกฝ่ายลงบนเตียงนอนกว้างก่อนจะเริ่มตั้งสติ... ดูจากสภาพแล้ว อย่างน้อยก็คงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หน่อยล่ะ เพราะยังไงถ้าปล่อยให้ใส่เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าหึ่งคงจะไม่ดีแน่ๆ
คิดได้ดังนั้น คนตัวโตจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นของตัวเอง พร้อมด้วยผ้าขนหนูสีขาวสะอาดออกมา
ขอโทษนะคชา... พี่ไม่ได้ตั้งใจจะฉวยโอกาส แต่สถานการณ์มันจำเป็น
- - - - - - - - - - - - - - -
เสียงน้ำไหลดังออกมาจากห้องน้ำพาลทำเอาคนที่นอนหลับตาพริ้มบนที่นอนแสนสบายขมวดคิ้วบางเบาๆ
ใครทำเสียงดังรบกวนแต่เช้า? แถมตัวเขายังรู้สึกปวดหัวซะจนหมอนนุ่มๆ ที่นอนหนุนอยู่ช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด
มือเล็กกุมศีรษะของตัวเองก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวขึ้นมา หากแต่ตาปรือๆ ที่เต็มไปด้วยขี้ตาก็ต้องเบิกกว้างทันที่ที่เห็นใครอีกคนยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
“พี่เต๋า!!!”
เสียงใสอุทานออกมาในความเงียบ กำลังจะบ่นต่อว่ามาอยู่ที่ห้องของเขาได้ยังไง ก็ต้องชะงักไปเมื่อรู้ตัวว่า... นี่มันไม่ใช่ห้องของเขา!
“เฮ่ย!!!”
แล้วเสื้อผ้าที่ใส่อยู่มันก็ไม่ใช่ของเขาเสียด้วย!
หมายความว่า???
นึกได้ดังนั้นคนตัวเล็กก็รีบดึงเอาผ้าห่มนวมสีขาวขึ้นมาคลุมปิดตัวเอาไว้จนถึงคอ ยิ่งเห็นอีกคนในสภาพเปลือยท่อนบนแบบนี้ ใบหน้าหวานก็ขึ้นสีเพราะสมองน้อยๆ เริ่มจินตนาการอะไรไปไกล
“ไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก” เสียงทุ้มเอ่ยเมื่อเห็นท่าทางอายๆ ของอีกคน “พี่ก็แค่เช็ดตัวกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้” หากแต่ความจริงจากปากพี่ชายไม่ทำให้อีกคนลดความอายลงได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เปลี่ยนเสื้อผ้าให้
เปลี่ยนเสื้อผ้าให้
เปลี่ยนเสื้อผ้าให้
คนตัวเล็กยกมือขึ้นขยี้ผมด้วยความอับอาย ทว่าเสียงดุๆ ที่เอ่ยขึ้นในเวลาต่อมาก็พลันเปลี่ยนให้คนฟังทำหน้ายุ่งแทนเสียจนได้
“เมื่อคืนเราเมามากเลยนะคชา... คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก รู้ไหมว่าตัวเองเมาแล้วทำอะไรลงไปบ้าง”
เต๋าเอ่ยพลางมองสะกดอีกฝ่ายนิ่งๆ ไม่รู้ว่าอีกคนจะกลัวไหม แต่ถ้าหากคชานึกกลัวแล้วไม่ทำแบบนั้นอีกมันก็ดีกับตัวคชาเองไม่ใช่หรอ
“โตแล้วนะชา... ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ทำอะไรคิดหน้าคิดหลังก่อนสิ คออ่อนก็อย่าดื่มจนเมาเละเทะขนาดนี้ สถานที่แบบนั้นมันอันตรายแค่ไหนชาก็น่าจะรู้”
เสียงทุ้มพูดต่อ ถึงแม้แววตาที่มองมาจะมองดูแล้วดุไม่ใช่น้อย หากแต่ในความเป็นจริงมันยังซ่อนความเป็นห่วงมากมายเอาไว้
“คราวนี้พี่จะไม่บอกแม่เรา... แต่ถ้าคราวหน้าพี่...”
“พี่เต๋ามีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนชา!?” เสียงเล็กเอ่ยสวนขึ้นมาทั้งๆ ที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ
“มีสิทธิ์อะไรไปฟ้องแม่ชา... ก็เพราะพี่เต๋านั่นแหละ ชาถึงดื่มจนเมาแบบนั้น!” ตาเริ่มแดงก่ำ มือกำหมัดแน่นราวกับจะระงับอารมณ์
ร่างสูงที่ยืนฟังอยู่ยิ่งเหมือนถูกเอาเหล็กแหลมนับร้อยทิ่มแทงตรงกลางตัว มันรู้สึกเจ็บปวดไปหมด... เจ็บที่คนที่รักและเป็นห่วงที่สุดต้องมาเสียใจเพราะตัวเอง
ใช่แล้ว...คชาพูดถูก ถูกทุกอย่างเลย
ถ้าจะบอกว่าใครสักคนผิด ก็ต้องโทษเขาเองที่ไม่ดูแลคชาให้ดี ปล่อยให้คชาไปทำแบบนั้น
“พี่เต๋านั่นแหละที่ทำให้ชาเป็นแบบนี้ ยังจะมาว่าชาอีก!” คนตัวเล็กพูดจบก็ปล่อยโฮออกมา น้ำสีใสไหลออกมาจากตาคู่เรียวจนเจ้าของต้องใช้หลังมือปาดมันออกไป
“พี่เต๋าใจร้าย... ฮึก... ใจร้ายที่สุดเลย”
ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ จากปากของเขา... มีแต่อ้อมกอดปลอบประโลมแสนอบอุ่นกับมือเรียวที่ช่วยซับน้ำตา... เต๋าลูบศีรษะของเด็กน้อยในอ้อมกอดเบาๆ พูดซ้ำๆ คำเดิมราวกับหุ่นยนต์ “พี่ขอโทษ... พี่ขอโทษนะชา... พี่ขอโทษ”
เป็นครั้งที่สองแล้วใช่ไหมที่คชาต้องมาร้องไห้เพราะเขา
ไอ้เต๋าบ้าเอ๊ย! แกมันโง่งี่เง่าที่สุดเลย!!!
เสียงสะอื้นไห้จากคนตัวเล็กหยุดลงไปในเวลาอีกไม่นาน ร่างสูงค่อยๆ ผละอ้อมกอดนั้นออก ใช้มือปาดคราบน้ำตาที่เกาะอยู่ที่ตาเรียว ริมฝีปากหนาเอ่ยคำเดิมอีกครั้ง
“พี่ขอโทษนะคชา... พี่ผิดไปแล้ว” ตาคมประสานมองอีกฝ่ายแน่นิ่ง “แต่พี่อยากให้ชารู้เอาไว้... ที่พี่ดุ ที่พี่ทำลงไป ก็เพราะว่ารักมาก เป็นห่วงมากด้วย”
เด็กน้อยค่อยๆ ช้อนตามองคนตรงหน้า... คำรักที่อยากได้ยินที่ถูกเอ่ยออกมาทำเอาหัวใจดวงน้อยๆ เต้นไม่เป็นจังหวะอีกจนได้ ยิ่งเห็นความเศร้าสร้อยในแววตาคู่นั้นยิ่งทำให้รู้สึกสงสารจับใจ
เพราะความจริง... เรื่องนี้คชาเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกัน
“ไม่ต้องขอโทษแล้ว...”
“แค่พี่เต๋ายังจะเป็นลูกแมวน้อยของคชาคนเดียวต่อไป... แค่นั้นก็พอ”
คนตัวเล็กพูดจบก็ใช้มือค่อยๆ ลูบคางอีกฝ่ายเบาๆ ทำเอาลูกแมวน้อยตัวเดิมยิ้มกว้าง
“โอเคครับเจ้านาย...” พูดจบแมวขาวตัวยักษ์ก็ขยับเข้าไปคลอเคลียร่างเล็กตรงหน้า ลำแขนแกร่งพาดบ่าอีกคน ศีรษะก็ซุกไซ้ซอกคออีกคนให้จักจี้เล่น
“แต่เจ้านายรู้ไหมครับ... เมื่อวานเจ้านายของผมทำอะไรไว้?”
เต๋าพูดพลางขยับเรือนกายเปลือยเปล่าออกมาเพื่อมองหน้าอีกฝ่ายให้ชัดๆ มือเรียวลูบไล้ใบหน้าอีกฝ่ายเบาๆ จากข้างใบหูไล่มาที่แก้มขาว จนมาถึงริมฝีปากสีสด ใบหน้าหล่อเหลาอมยิ้มขำเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยตรงหน้ากำลังนั่งตัวเกร็ง
“เจ้านายรู้ไหม... เมื่อคืนเจ้านายเมาแล้วพูดว่าอะไร?”
พยายามนึกเท่าไหร่แต่ก็นึกไม่ออก แต่เท่าที่ดูจากสภาพตอนนี้ ที่เขาพูดออกไปมันต้องเป็นประโยคที่อันตรายมากแน่ๆ ... คนตัวเล็กส่ายศีรษะรัวๆ ใบหน้าแดงขึ้นสีก่ำกว่าเดิมเมื่ออีกคนเริ่มขยับเข้ามาใกล้แค่คืบ...
“พี่ต๋าว จูบชาหน่อยซี่... ใครก็ไม่รู้พูดแบบนี้เป็นสิบๆ เที่ยว”
จากคืบเดียวเหลือสิบเซนต์
“เจ้านายอย่าพูดแบบนี้กับคนอื่นอีกนะครับ แมวน้อยไม่ชอบ”
สิบเซนต์เหลือแค่ห้าเซนต์
“ริมฝีปากของเจ้านาย... ให้แมวน้อยจูบได้คนเดียวพอนะครับ”
และเหลือศูนย์ในที่สุด...
ร่างสูงจรดริมฝีปากหนาลงบนกลีบปากอ่อนนุ่มสีแดงสด จากแผ่วเบาเมื่อเริ่มแรก กลายเป็นหนักแน่น และกลายเป็นความร้อนแรงเมื่อลิ้นยาวค่อยๆ แทรกผ่านเข้าไป ตาเรียวเล็กที่เบิกกว้างในทีแรกค่อยๆ หลับลงเพื่อรับสัมผัสแปลกใหม่ มือน้อยที่เกร็งอยู่ข้างลำตัวค่อยๆ ผ่อนคลายและกอดแผ่นหลังเปลือยเปล่าของอีกคนไว้ในที่สุด
คนตัวเล็กครางเสียงอื้ออึ้งในลำคอเมื่ออีกคนค่อยๆ ใช้ลิ้นร้อนเข้ามาหยอกล้อทักทาย กวาดต้อนเอาความหอมหวานจากภายใน
และไม่ทันตั้งตัว คชาก็ถูกผลักให้เอนลงนอนราบกับเตียงใหญ่ ร่างสูงที่คร่อมอยู่บนตัวอีกคนค่อยๆ ถอนจูบออกมา ตาคมมองร่างเล็กด้านล่างไม่ต่างจากลูกแกะที่กำลังจะโดนเสือขาวขย้ำ
มือเรียวค่อยๆ กุมประสานกับมือเล็กนั้นไว้ หากแต่ไม่ทันได้ทำอะไรต่อ เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ก็ดังขึ้นขัด คนตัวโตจึงจำใจผละออกมาอย่างเสียไม่ได้ ปล่อยให้อีกคนนอนหอบพลางเอามือกุมที่หน้าอกข้างซ้ายอยู่ตรงนั้น
เมื่อกี๊เกือบไปแล้วใช่ไหม???
ส่วนคนที่ผละออกมา รีบขาก้าวยาวๆ ไปคว้าโทรศัพท์เจ้ากรรมออกมาดู ก็ต้องเบิกตาโตด้วยความตกใจ
ตายห่า... เจ้านายตัวจริงโทรมา!
ลืมสนิทเลยว่าวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์!!!
TBC
เกือบแล้วไหมล่าาาาาาาา >w<
อีกกี่ตอนจะจบหว่า ใกล้วันเปิดเทอมเข้าไปทุกทีแต่รู้สึกฟิคยังไม่ค่อยไปไหนเลย
รู้สึกตอนนี้มันมึนๆ อึนๆ ยังไงไม่รู้อะ เหมือนเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ เดี๋ยวดราม่า เดี๋ยวหวาน
เอาเป็นว่าคิดเห็นยังไงก็คอมเม้นกันมาหน่อยนะ
(ตอนที่แล้วคนว่าพี่เต๋าเยอะละเกินนน..คนแต่งแอบรู้สึกผิดนิดๆ ฮ่าๆๆ)
ยังไงก็จะพยายามแต่งให้ดีกว่านี้นะจ๊ะ อิอิ
ขอบคุณทุกคนค่า จุ๊บบบบบบบ
คำถามประจำวัน ฟิคเรื่องนี้ควรมีกี่ตอนจบ?
ความคิดเห็น