ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #12 : Megumi Japanese animation film เมื่อเกาหลีเหนือลักพาตัวคนญี่ปุ่น

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 60



                    สมัยก่อนการ์ตูนไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนอ่านเพื่อความบันเทิงหรอกครับ สมัยก่อนการ์ตูนมีไว้บอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ หรือใช้ในเรื่องการเมือง การปลุกระดมคนให้หันมาเข้าอุดมการณ์ต่างๆ เช่นในสงครามโลกญี่ปุ่นก็ใช้สื่อนี้ในการปลุกระดมให้คนญี่ปุ่นหันมารักชาติ

                    ปัจจุบันการ์ตูนก็ยังให้ประโยชน์หลายๆ อย่างนอกเหนือจากความบันเทิง บางทีก็ออกเป็นสารคดีประเภทให้ความรู้ หรืออะไรสื่ออะไรก็ตามที่คนเขียนเขาอยากจะสื่อ

     


    เมกุมิ (
    Megumi Japanese animation film)

     

                   เมกุมิเป็นหนังการ์ตูนสั้นๆ เพียง 30 นาที แนวดราม่าชีวิต ที่สร้างจากเรื่องจริงของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวในขณะอายุ 13 ปี ระหว่างทางกลับบ้านเมื่อ 15 พฤศจิกายน 1977 เพื่อไปเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้สายลับในประเทศของท่านผู้นำจอมเผด็จการ “คิม จอง อิล”

                    เรื่องของเมกุมิ โยโกตะนั้นทำออกในหลายสื่อมากนะครับ ไม่ว่าจะเป็นหนัง, สารคดี และเป็นคดีที่เกิดขึ้นจนเป็นกรณีทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือ หากมีการจัดอันดับประเทศที่คนญี่ปุ่นเกลียดที่สุดในโลก เกาหลีเหนืออยู่อันดับต้นๆ เลยทีเดียว

                    ถามว่าการ์ตูนเรื่องมันสนุกไหม มันก็ไม่ได้ขายความเป็นโมโอะ  แม้ตัวเมกุมิในการ์ตูนจะน่ารักก็เถอะ แต่ดูๆ ไปก็ใจหาย มันขายความโหดร้าย ความเศร้าของพ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูก และอยากให้ทั่วโลกตระหนักเกี่ยวกับสิทธิมนษย์ชนในเกาหลีเหนือ แม้จะเป็นการ์ตูนสั้นๆ แต่มันนานเหมือนดูหนังเรื่องยาว 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว

                    พอดีช่วงนี้ผมชอบเกาหลีเหนือนะครับ หาข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือเกือบทุกอย่างเลย เลยไปเจอเรื่องนี้เข้า ส่วนการ์ตูนเรื่องนี้ใครเป็นคนทำผมก็ไม่รู้นะ คงจะเป็นพวกญาติๆ ของ “เมกุมิ” นี้แหละ ทำให้เนื้อเรื่องในการ์ตูนจะตรงกับเรื่องจริงครับ

                  

                    แล้วการ์ตูนเรื่องนี้หาดูจากไหน ง่ายๆ คือ เขาแจกฟรี โหลดฟรีครับที่

                    http://www.rachi.go.jp/jp/megumi/index.html#en

                    มีให้เลือกทั้ง ภาษาญี่ปุ่น, อังกฤษ, จีน, เกาหลี,อิตาลี แต่ไม่ยักมีไทยอ่ะ

                    สำหรับเนื้อเรื่อง ไม่ได้เล่าในมุมมองของเมกุมิหรอกครับ แต่เล่าจากมุมมองของพ่อแม่ของเธอ ว่าพวกเขาได้ประสบกับความทุกข์แค่ไหนเมื่อลูกสาวหายไป และพวกเขาต้องต่อสู้อย่างยากขนาดไหนที่ต้องขอให้เกาหลีเหนือโปรดส่งคืนลูกสาวเขามาสู้อ้อนอกของพ่อแม่แท้ๆ ของตน

                    แล้วเรื่องจริงกับการ์ตูนต่างกันไหม?

                    ความจริงเรื่องจริงก็เหมือนกับการ์ตูนแหละครับ เพียงแต่การ์ตูนไม่ได้ใส่รายละเอียดเท่านั้น

                   
                    
    เริ่มเรื่อง การ์ตูนก็เล่าจากมุมมองของพ่อแม่ของเธอเลย ตั้งแต่เกิด(1964) ว่าพวกเขาดีใจขนาดไหนตอนลูกสาวของเขาเกิด เธอเกิดมาน่ารัก เป็นความหวังของพ่อแม่ขนาดไหน พ่อถึงกับปลื้มถ่ายภาพตอนเธอเกิดหลายภาพทีเดียว

                    จุดเด่นของสารคดีการ์ตูนนี้จะมีการผสมกับภาพถ่ายจริงเป็นระยะ แทรกเอาไว้ เพื่อให้คนชมนั้นรู้สึกว่าเรื่องเมกุมินั้นสร้างจากเรื่องจริงไม่อิงการ์ตูนแต่อย่างใด

                    และเมื่อเธอโตเป็นสาวเมกุมิก็เป็นสาวน้อยที่น่ารัก ร่าเริงแจ่มใส มีเพื่อนฝูงมากมาย แม้สภาพทางบ้านค่อนข้างมีฐานะปานกลาง แต่พ่อแม่ก็รักเธอเสมือนหนึ่งไข่ในหิน 

                    (เรื่องจริงเพิ่มเติม: เมกุมิ โยโกตะ(Yokota Megumi) เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม1964 13 มีนาคม1994?)

                    

                    แต่แล้วใน ในวันธรรมดาวันหนึ่ง เมกุมิขอแม่ว่าจะกลับค่ำ เพราะโรงเรียนมีกิจกรรม และวันที่ออกจากบ้านไปโรงเรียนตามปกตินั้น ก็คือวันสุดท้ายที่เธอเห็นหน้าครอบครัว ...........

                    จากครอบครัวเมกุมิที่แสนจะอบอุ่นร่าเริงก็กลับกลายเป็นครอบครัวแห่งความทุกข์ระทม วันๆ มีแต่ความโศกเศร้า ลูกสาวทั้งคนหายไปไหนก็ไม่รู้ ตามหายังไงก็ไม่เจอ เหมือนกับว่าเธอหายไปจากโลกนี้แล้วไปอยู่มิติอื่นอย่างงั้นแหละ ผู้ชมก็ต้องเข้าใจนะครับ มันทำใจไม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้ ลูกของเราทั้งคน อุตส่าห์เลี้ยงดูตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย เพื่อหวังเป็นกำลังหลักในครอบครัว จู่ๆ ก็หายไป เป็นใครจะรับได้ละ แถมไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ศพก็ไม่มี มันก็ยิ่งมีความหวังความกังวลอีกว่าบางทีลูกของพวกเขาอาจไม่ได้ก็ได้ ลูกอาจอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ จะอยู่จะกินอย่างไร นอนหลับเพียงพอไหม หรือโดนคนอื่นรุมโทรมหรือเปล่า....โอ้ย......เครียด

                    หลายปีผ่าน สองสามีภรรยาก็มีความหวัง(นิดๆ) เมื่อมีการจับกุมผู้ก่อการร้ายชาวเกาหลีเหนือ ในเหตุการณ์ระเบิดเครื่องบินของเกาหลีเหนือ และจากการสอบปากคำผู้ก่อการร้ายคนนั้นก็ยอมรับว่า เมกุมิอยู่เกาหลีเหนือเองแหละ เธอถูกบังคับเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นให้พวกเขา!!

                    (เรื่องจริงเพิ่มเติม: เกาหลีเหนือเป็นประเทศหนึ่งในเอเชีย ปกครองโดย แบบคอมมิวนิสต์ที่มีความแตกต่างจากคอมมิวนิสต์แบบจีน คือจุดศูนย์กลางอยู่ที่ผู้นำสูงสุดคนเดียว และปกครองโดยรักษาอำนาจโดยไม่สนความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้นในเกาหลีเหนือจึงมีปรากฏการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนให้เห็นอยู่โดยตลอด  ไม่ว่าชาวเกาหลีเหนือหรือชาวต่างชาติด้วย

                    
                     ปัจจุบันมีเบาะแสหลักฐานว่าเกาหลีเหนือได้ลักพาตัวชาวต่างชาติมาประเทศของตนนั้นทั้งหมด 12 ประเทศทั่วโลก จำนวนกว่า
    600 คน แต่ที่มากสุด คือ คนเกาหลีใต้ รวมถึงไทย ญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็มีร มาเก๊า โรมาเนีย เลบานอน เป็นต้น ส่วนสาเหตุในการลักพาตัวชาวต่างชาติไปอยู่เกาหลีเหนือนี้ สันนิษฐานว่า เป็น นโยบายเมื่อปี 1976 โดยนายคิม จอง อิล ผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐบาลเกาหลีเหนือ(ช่วงเวลานั้นเกาหลีเหนือลงนามในสนธิสัญญาไม่รุกรานซึ่งกันและกัน ในการประชุมอาเซียน) สั่งให้คนของตนลักพาตัวชาวต่างชาติเพื่อส่งเสริมให้การผลิตสายลับด้วยการปลอมตัวสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพราะรัฐบาลเกาหลีเหนือจะใช้ข้อมูลของชาวต่างชาติในการก่อวินาศกรรมแทนคนของสายลับชาวเกาหลีเหนือ ทั้งนี้เพื่อปกป้องประเทศให้รอดพ้นจากการด่าประณามว่า เกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายหรือก่อวินาศกรรม ซึ่งเราก็พบว่า  การระเบิดเครื่องบินในเกาหลีใต้ก็พบพาสปอร์ตปลอมของชาวญี่ปุ่น  เป็นต้น

    นอกเหนือจากผลิตสายลับ เกาหลีเหนือยังมีสาเหตุในการลักพาตัวชาวต่างชาติเหมือนกัน เช่น  คือ เพื่อปิดปากคนที่เห็นการปฏิบัติการของสายลับเกาหลีเหนือ, เพื่อใช้เป็นครูสอนสำหรับการผลิตสายลับ, เพื่อผลิตหนังสือเดินทางปลอม, เพื่อให้สายลับใช้สถานภาพของผู้ที่ถูกลักพาตัวแอบอ้างประวัติในการปฏิบัติการ, เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีทักษะเฉพาะทางที่เกาหลีเหนือขาดและเพื่อให้เป็นคู่สมรสของชาวต่างชาติที่อยู่ในลักษณะพิเศษในเกาหลีเหนือ เป็นต้น

                   

                    พ่อแม่ของเมกุมิได้ยินข่าวนี้ก็เริ่มมีกำลังใจ แต่การจะให้ทางเกาหลีเหนือส่งคืนลูกสาวของตนนั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกิน อีกทั้งทางการเกาหลีเหนือก็ปฏิเสธว่าไม่มีคนชื่อเมกุมิอยู่ที่นั้นอีก ยิ่งทำให้ความยากเพิ่มยิ่งขึ้นจนเกือบกลายเป็นความสิ้นหวัง....

                    พ่อแม่ของเมกุมิก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้สังคมตระหนักและร่วมมือกับภัยแบบนี้ โดยการรณรงค์ตามท้องถนน จ้างอาสาสมัครแจกใบปลิวเกี่ยวเมกุมิ แต่คนที่รับก็ไม่สนใจ ปาลงถังขยะ หรือทิ้งบนพื้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย มันไม่ใช้เรื่องของเรา จะสนใจทำไมล่ะ.....

                    คิดๆ แล้วมันก็เหมือนไทยนี้แหละ บ้านเราก็มีกรณีลักพาตัวเหมือนกัน คดีกรณี อโนชา ปันจ้อย หญิงสาวลูกชาวนา ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกลักพาตั้งแต่  1978 ระหว่างที่ไปทำงานในร้านเสริมสวยยังเกาะมาเก๊า เมื่อครอบครัวที่อยู่เมืองไทยรู้ข่าวว่า ลูกสาวอันเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวหายตัวและพยายามเรียกร้องเกาหลีเหนือ มาตลอด นับจากวันนั้นกว่า 27 ปี และทางรัฐบาลไทยก็ไม่สนใจเรื่องนี้สักนิด ไม่ว่าจะอยู่ในยุคของใครเป็นนายก

    (เรื่องจริงเพิ่มเติม: ทางการญี่ปุ่นใช่ว่าจะอยู่เฉยกับเหตุการณ์แบบนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็เคยออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีเหนือคืนคนญี่ปุ่นที่ลักพาตัวไปกว่า 100 คนกลับคืนสู่ประเทศของตน ซึ่งผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือนายคิม จอง อิล ก็ออกมายอมรับเองว่า มีการลักพาตัวมาจริง แต่มีไม่ถึง 100 คน มีเพียง 11 คนเท่านั้น!! ซึ่งในจำนวนนี้ถูกส่งกลับประเทศเพียง 5 คน ส่วนอีก 8 คนที่เหลือ เขาอ้างว่า เสียชีวิตแล้วรวมถึงกรณีของเมกุมิด้วย

                    แต่...........การที่ชาวญี่ปุ่นถูกส่งกลับมาญี่ปุ่นนั้น เป็นไปได้ไหมว่าการลักพาตัวของเกาหลีเหนือจะเลียนแบบวิธีของเคจีบี โดยการจำลองเมืองและวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่น ซึ่งจำเป็นต้องใช้คนญี่ปุ่นจำนวนมาก หน่วยข่าวกรองเกาหลีเหนือจึงต้องใช้วิธีลักพาตัวคนญี่ปุ่นซึ่งมีข่าวปรากฏอยู่เสมอ สุดท้ายเกาหลีเหนือได้ยอมส่งชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวและยังมีชีวิตอยู่ส่วนหนึ่งกลับญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาถูกล้างสมองไปแล้วและกำลังทำงานเป็นสายลับที่มีภารกิจในญี่ปุ่น!!)

                   

                    กลับมาที่เมกุมิต่อ....ทางเกาหลีเหนือเมื่อรู้ข่าวพ่อแม่ของเมกุมิยังเรียกร้องให้ขอลูกสาวคืนอยู่จึงรู้สึกรำคาญ(อ้าว...เอ็งเป็นคนผิดนี้น่า) เลยรับสารภาพว่าเมกุมิโดนลักพาตัวไปเกาหลีเหนือจริง แต่เธอตายแล้วล่ะ พร้อมกลับส่งเถ้ากระดูกเธอมาเพื่อเป็นหลักฐาน แต่เมื่อตรวจสอบดีเอ็นอีกลับว่ากระดูกนี้ไม่ใช้ของเมกุมิ!!

                    (เรื่องจริงเพิ่มเติม: เกาหลีเหนือยอมรับว่ามีการลักพาตัวเมกุมิไปจริง แต่เธอได้ทำอัตวินิบาตกรรมตายไปแล้ว เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 1994 (ตอนแรกบอกว่า 1993 แต่มากลับคำตอนหลัง) ก็มีการส่งกลับมาบางส่วน แต่ผลจากการพิสูจน์หลักฐานดีเอ็นดีของเถ้ากระดูกที่ส่งกลับมา ปรากฏว่าไม่ใช่เธอ ทางครอบครัวจึงมีการเรียกร้องกับทางการขึ้นมาครั้ง)

                   

                    และฉากสุดท้ายก็คือวันแถลงการณ์ของพ่อแม่ของเมกุมิ ที่ประกาศว่าแม้จะเวลาจะนานแค่ใดก็ตาม พ่อแม่ก็จะรอการกลับมาของลูกสาวต่อไป.....

                    (เรื่องจริงเพิ่มเติม: ล่าสุดปี 2006 ผู้อพยพอดีตชาวเกาหลีใต้ นาย Kim Young Namได้อ้างว่าเขาเป็นสามีของเมกุมิจากการอนุญาตให้แต่งงานของทางการเกาหลีเหนือ และยืนยันว่าเธอฆ่าตัวตายไปแล้วจริงๆ เนื่องจากเครียดจากทางเรื่องจิตใจ)

                    หลังจากดูการ์ตูนเรื่องนี้จบ

                    การ์ตูนเรื่องนี้มีจุดประสงค์เพื่อหาแนวร่วมกดดันเกาหลีเหนือ ซึ่งการ์ตูนนี้เป็นสื่อที่เข้าใจง่าย สากล และเข้าถึงคนอื่นๆ ได้ แม้มันไม่อาจช่วยให้เกาหลีเหนือส่งมอบตัวคนที่ถูกลักพาตัวไปก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไร อย่างน้อยก็ให้คนอื่นทั่วโลกได้ตระหนักถึงภัยใกล้ๆ ตัวให้มากยิ่งขึ้น เรื่องนี้หากนานาชาติไม่ร่วมกันต่อต้านรัฐบาลเกาหลีเหนือ เขาก็จะมีการทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จงตระหนักถึงมันเหอะครับ

                    ประเด็นต่อมาคือการรักลูกสาวของครอบครัวหนึ่งๆ ไม่ว่าชาติประเทศไหนพ่อแม่ก็รักลูกของตนหมดแหละ ยิ่งเป็นลูกสาวเราก็ระมัดระวังให้มาก อย่าปล่อยลูกสาวออกจากบ้านคนเดียว อย่าให้ลูกสาวกลับบ้านดึกๆ เดี๋ยวภัยที่นอกเหนือจากเกาหลีเหนือจะมาหา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×