คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 8 : ปาร์ตี้ 100% ยาวมากตอนนี้ ไรเตอร์อัฟเพลิน-,.-
-8-
ปาร์ตี้
เพราะว่าพรุ่งนี้เนื่องในโอกาสที่โรงเรียนคริมสันไฮสคูลของฉันจะจัดงานปาร์ตี๊สาเหตุเพราะอะไรนักเรียนทุกคนมิอาจทราบ แต่ฉันว่าอีตาลุงผอ.จอมเพี้ยนนั่นคงจะว่างจัดล่ะมั้งประมาณว่าไม่มีอะไรทำ-_-^เลยจัดงานปาร์ตี้บ้าบอคอแตกนี่ขึ้นมา- -“ และตอนนี้ฉันกำลังนั่งเซ็งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เปิดเฟซบุ๊คก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจ จะนั่งดูการ์ตูนก็กระไรอยู่ประมาณว่าฉันอายุ 17 แล้วน่ะนะ- -;
ตึ๊ง!
ขณะที่ฉันกำลังจะล็อคเอาท์ออกจากเฟสบุ๊คและกำลังจะปิดคอม เสียงที่บ่งบอกว่ามีคนทักแชทมาก็ดังขึ้น
ใครกัน ?
อ๋ออ ยัยแก้วนั่นเอง =_= ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นออน แล้วทำไมวันมันออนวะ - -? สงสัยจะมาแอบส่องเฟซผู้ชายแหง ๆ
KAWSAI say : น้ำแข็งงงงง!
NUMKANG say : ว่า
KAWSAI say: นี่แกทำไรอยู่ ว่างป่าว ?
NUMKANG say : ไม่ได้ทำไร แต่ไม่ว่างกำลังจะนอน= =
KAWSAI say: แสดงว่าว่าง งั้นรออยู่ที่บ้านนะเดี๋ยวฉันไปหา
ยัยแก้วบ้านี่แกได้อ่านข้อความที่ฉันตอบกกลับไปมั้ย ก็บอกว่าไม่ว่างไง คนจะนอนโว้ยยยย=[]=
NUMKANG say : จะมาทำไมมิทราบยะ-*-
KAWSAI say : ฉันคิดว่าแกยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยสำหรับงานวันพรุ่งนี้เลยใช้มั้ย-_-^และฉันก็คิดถูกแน่ๆ เพราะคนอย่างแกคงจะไม่สนอะไรพวกนี้หรอก เพราะแกมันสาววัยรุ่นสุดเห่ยที่ไม่สนใจอะไรที่ควรจะเป็นและพึงปฏิบัติเกี่ยวกับผู้หญิง เพราะฉะนั้น! ฉันก็เลยจะพาแกไปห้างเราจะไปซื้อชุดสวยๆและหน้ากากสุดเดิ๊ลสำหรับงานคืนวันพรุ่งนี้กัน! แต่งตัวรอได้เลย ไม่เกิน5นาทีฉันถึงบ้านแกแน่ บายจ่ะ^^
KAWSAI ออกจากระบบ...
การ๊าซซซซซ >[]< ยัยแก้วแกมีสิทธิอะไรมาว่าฉันเป็นสาววัยรุ่นสุดเห่ยยะ=O=;และไอ้ที่บอกว่าฉันไม่สนใจอะไรที่ควรจะเป็นและพึงปฏิบัติเกี่ยวกับผู้หญิงน่ะ มันอะไรกัน -*- ฉันเป็นกุลสตรีศรีสยามโดยแท้เลยนะ แล้วไหนจะมาพาฉันไปห้างอีก ไปทำม๊ายยย ฉันไม่อยากไปโว้ยยยเดี๋ยวแม่ก็เตะหัวขาดเลยหนิ- -*(ความเป็นกุลสตรีกระเด็นหายไปแถวแนวตะเข็บชายแดน-_-)
@ ห้าง M
แต่ถึงฉันจะโวยวายไม่ไปยังไง มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เพราะว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้าง M แล้ว เหอะ ๆ ให้ตายสิ! สุดท้ายก็ถูกยัยนี่ลากออกมาจนได้สิน่า-*- พอมาถึงห้างปุ๊บยัยแก้วใสก็พาฉันวิ่งเข้าร้านขายชุดแฟนซีทันที พอเข้าไปภายในร้านฉันก็ถึงกับตะลึงไปเลยทีเดียว เพราะว่าร้านนี้มันมีครบทุกอย่างเลยนะสิ-O-; ทั้งชุดเจ้าหญิงแห่งวอลท์ ดิสนีย์ มีเบลล์ สโนวไวท์ ซินดอเรล่า บลาๆๆ และนั่นแหละครบเลย ไปจนกระทั่งชุดผีต่างๆ ที่คนมักจะใส่กันงานฮัลลาวีน และชุดคอสเพลย์ต่างๆ เต็มไปหมดส่วนมากคอสเพลย์จะเป็นแนวการ์ตูนญี่ปุ่นซะมากว่า นั่น! ชุดโดเรมอน การ์ตูนเรื่องโปรดฉันเลย ซื้อชุดนี้ใส่ไปงานดีมั้ยนะ *O*/
“หยุดทำตาลุกวาวเลยยัยน้ำแข็ง-_- ฉันรู้ว่าแกคลั่งโดเรมอนมากแค่ไหน แต่แกจะซื้อชุดนี้ใส่ไปงานไม่ได้นะเว้ย แกอย่าลืมสิว่าธีมของงานนี้คือเทพนิยายซึ่งทุกคนต้องใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าไว้ และออกไปเต้นรำเป็นคู่ๆ เหมือนการ์ตูนเรื่องวินนี่เดอะพูห์น่ะ =O=”
ดูเหมือนยัยแก้วจะจริงจังกับงานนี้มากเลยนะ-_- แต่..เฮ้ย ๆๆ เดี๋ยวขอเบรกก่อน การ์ตูนเรื่องวินนี่เดอะพูห์ฉันว่าฉันเคยดูอยู่นะ มันมีฉากที่หมีพูธ์กับอียอใส่หน้ากากเต้นรำกันด้วยหรอ =_=?
“จะมายืนทำหน้างงทำไมยัยน้ำแข็ง ไปเลือกชุดแล๊ววว สวยๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะ กรี๊ดกร๊าด~มีชุดเซเลอร์มูนด้วยอ่ะแก๊ *0*/ แต่เสียดายมันผิดคอนเซ็ปต์”
ยัยแก้วใสทำท่าหดหู่ลงทันที และวางชุดเซเลอร์มูนการ์ตูนเรื่องโปรดของเจ้าหล่อนลงกับที่ ด้วยใบหน้าติดเสียดายนิด ๆ ฉันก็เสียดายชุดโดราเอมอนของฉันเหมือนกันนะ เช๊อะ! -3-
“ฉันว่านะ เราไปดูชุดเจ้าหญิงวอลท์ ดิสนีย์ กันดีกว่ามั้ย มันน่าจะตรงคอนเซ็ปต์ของงานมากที่สุด” ฉันเสนอ
“ก็ดีเหมือนกัน พี่คะขอดูแคตตาล็อกPrincessหน่อยค่ะ^O^” ยัยแก้วใสตะโกนเรียกพนักงานเสียงดังลั่นร้าน จนลูกค้าในร้านหันมามองกันเป็นทิวแถว ความอายไม่เคยมีเลยเพื่อนฉัน =_=
“มาแล้วค่า~ คุณน้อง ถ้าชุดไหนถูกใจบอกพี่ได้นะคะ เดี๋ยวพี่จะหยิบออกมาให้ลองค่ะ ^O^” พี่พนักงานผู้หญิงรูปร่างตุ๊ยนุ๊ยบอก พอบอกเสร็จเธอก็พาร่างอ้วนๆ ของเธอเดินหายไปไหนก็ไม่รู้
“นี่ ๆ น้ำแข็งแกว่าชุดเจ้าหญิงเบลล์เหมาะกับฉันมั้ยอ่ะ-O-” ยัยแก้วถามฉันที่ยังคงเปิดดูแคตตาล็อกไปเรื่อย ๆ
“แกชอบสีเหลืองหนิ ชุดของเบลล์ก็สีเหลืองพอดีไม่ใช่หรอ มันก็น่าจะเหมาะกับแกนะ ไปลองเอามาลองดูสิ” ฉันบอกยัยแก้วขณะที่สายตาก็ยังคองจดจ่ออยู่ที่แคตตาล็อกชุดเจ้าหญิง เฮ้อ~ สวย ๆ ทั้งนั้นเลยเลือกไม่ถูก -O-
“โอเค พี่คะ! ขอลองชุดนี้หน่อยค่ะ” ยัยแก้วใสหันไปพูดกับพี่พนักงานคนหนึ่ง และพี่พนักงานเขาก็หายประมาณ10วิ และกลับมาพร้อมกลับชุดเจ้าหญิงเบลล์ที่ยัยนี่สั่ง
“ว๊าว~ สวยดีแฮ๊ะ ฉันว่าฉันได้ชุดที่ถูกใจแล้วล่ะ”
“ไปใส่มาให้ดูหน่อยสิอยากเห็น”
“ได้ค่า~ แกก็รีบ ๆ เลือกนะน้ำแข็ง ฉันก็อยากเห็นแกใส่เหมือนกัน นานๆ จะได้เห็นผู้หญิงสุดเห่ยอย่างแกแต่งเป็นเจ้าหญิงกับเค้าบ้าง :P” ไม่ทันที่ฉันจะถอดรองเท้าคอนเวิร์ดปาใสหน้าเล็กๆ นั่น ยัยแก้วใสก็วิ่งปู๊ดเข้าห้องลองชุดไปแล้ว
ผู้หญิงสุดเห่ยหรอ คอยดูนะ ฉันจะเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในงาน เช๊อะ! -3-
และชุดที่ฉันเลือกก็คือ ชุดเจ้าหญิง ออรอร่า จากเรื่องเจ้าหญิงนิทรานั่นเอง
เพราะสีชมพูจากชุดเจ้าหญิงออรอร่าอาจจะเปลี่ยนฉันจากผู้หญิงสุดเห่ยเป็นเจ้าหญิงแสนสวยก็ได้ ฮุฮิ คราวนี้แหละแกจะมาเรียกฉันว่าผู้หญิงสุดเห่ยไร้ความเป็นกุลสตรีไม่ได้อีกแล้วยัยแก้วเอ๋ยยย
และแล้ววันงานก็มาถึง ฉันก้าวขาลงจากรถที่ยัยแก้วขับไปรับฉันถึงบ้าน(เรานัดกันไว้แล้วน่ะนะ) ฉันสวมใส่ชุดเจ้าหญิงออรอร่าสีชมพูแจ่มจรัส พร้อมกับทรงผมที่ดัดเป็นลอนๆตรงปลายและมีมงกุฎเล็กๆน่ารักอยู่บนหัว และหน้ากากสีเงินที่ปิดเฉพาะช่วงตาลงมาถึงจมูกมีขนนกสีขาวประดับอยู่นิดหน่อย ส่วนยัยแก้วก็มาพร้อมกับชุดเจ้าหญิงเบลล์สีเหลืองอ๋อย อยากจะบอกว่าหน้ากากของยัยนี่แซบมาก มีกากเพชรเต็มไปหมดและขนนกสีรุ้งที่ประดับตกแต่งอยู่รอบหน้ากาก นี่มันจะไปเต้นคาบาเร่เรอะ!=O=;;
“น้องแก้วใสวันนี้น่ารักจังเลยครับ เราจะไปกันได้หรือยังเอ่ย^^ ”
จู่ๆ ก็มีผู้ชายจากไหนก็ไม่รู้เดินเข้าหายัยแก้ว ผู้ชายคนนี้แต่งตัวเหมือนทหารองค์รักษ์ เขาใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าไว้จนมองไม่ออกเลยว่าเป็นใคร แต่ฉันคาดว่าน่าจะหน้าตาดีไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เดี๋ยว! มาหายัยแก้วเนี้ยนะ อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนี้เป็นคู่ควงของยัยแก้วในคืนนี้น่ะ =[]=
“ค่ะพี่เอส >_<” ยัยแก้วตอบพร้อมกับเอามือควงแขนและเดินเคียงคู่กันเข้างานไป นะ..นี่แกทิ้งฉันหรอยัยแก้ว อะ..ไอ้ เพื่อน @#%^$%# =O=^^^
“ดะ..เดี๋ยวยัย..-O-^^(พะงาบๆ )”
และ ณ ตอนนี้ฉันก็ยืนอยู่คนเดียว เพราะว่าเพื่อนฉันมันแรดไปกับผู้ชายแล้ว(เริ่มด่าทอ) มาถึงตอนนี้ฉันก็เพิ่งนึกออกว่ามีไอ้บ้าอยู่คนนึงเขาจะให้ฉันมาเป็นคู่ควงของเขานี่ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงา -*- อีสเตอร์นายเป็นชวนฉันให้มาเป็นคู่นายไม่ใช่เรอะ! นี่ฉันโดนหมอนั่นหลอกหรือนี่ อะไรกัน ถ้าจะเป็นแบบนี้นะ ฉันกลับบ้านดีกว่าน่าเบื่อ เพื่อนก็ทิ้งหนีตามผู้ชาย เช๊อะ! -3-(เริ่มพาล)
หมับ!
ขณะที่ฉันกำลังจะเดินออกจากงานไปนั้นก็มีมือหนึ่งคว้าต้นแขนของฉันไว้ พอฉันหันกลับไปมองก็พอว่าเขาเป็นผู้ชายที่แต่งชุดเป็นท่านเคาท์ แดร๊กคิวล่า เขาใส่หน้ากากสีดำปกปิดใบหน้าไว้จนฉันมองไม่ออกว่าเป็นใคร
ว่าแต่จะจับแขนฉันอีกนานมั้ยเนี่ย =_=;;
“เอ่อ..คุณ..”
“ทำไมเธอไม่รอมาพร้อมกับฉัน” ท่านเคาท์ แดร๊กคิวล่าพูดกับฉัน แถมเวลาเขาพูดยังเผยให้เห็นเขี้ยวเล็กๆ อีกด้วย
ว่าแต่...หมอนี่มันใครฟะ-O-??
“ใครอ่ะ=O=? ขอโทษนะช่วยปล่อยแขนฉันก่อนได้มั้ย” ด้วยความสงสัยฉันเลยถามออกไปและพยายามแกะมือเขาออกจากแขนของตัวเอง แต่ดูเขาดิยังไม่ปล่อยแขนฉันอีกอ่ะ
“อะไรกัน จำแฟนตัวเองไม่ได้หรือไง-*-” เขาพูดด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดพร้อมกับกระชากหน้ากากของตัวเองออกและมันก็เผยให้เห็นใบหน้าจริงๆ ของเขา ”ไอ้หน้ากากบ้านี่แม่-งน่ารำคาญชะมัด-_-^^”
“อีสเตอร์O_O”
“ก็ใช่อะดิ แล้วทีนี่จะตอบคำถามฉันได้ยัง”
“คำถามอะไร”
“ที่ฉันถามเธอว่า ทำไมเธอไม่รอมาพร้อมกับฉัน”
“แล้วฉันจะไปรู้กับนายมั้ยเล่า นายไปได้บอกว่าจะมารับฉันหนิ =_=”
“แล้วทำไมเธอไม่รอล่ะ-O-^”
ให้ตาย ไอ้บ้านี่มันงี่เง่าสุดๆ -*-^^
“นายนี่มัน..ว๊ายย!”
จู่ๆ อีตาอีสเตอร์ก็เปลี่ยนจากจับแขนเป็นจับมือ แล้วก็กระชากฉันเดินไปไหนก็ไม่รู้
เขาพาฉันเดินขึ้นมาบนอาคารที่ทั้งมืดแล้วก็วังเวง เพราะว่ามันไม่ค่อยมีคนไม่ใช่ไม่ค่อยมี แต่มันไม่มีเลยต่างหาก =[]=
“นี่นายจะพาฉันไปไหน”
“…”
“หูหนวกหรือไง ถามน่ะไม่ได้ยินหรอ-O-^”
“…”
“อีสเตอร์! ฉันถามว่านายจะพาฉันไปไหน”
“ฉันลืมของไว้ในห้อง”
“แล้วนายจะลากฉันมาทำซากอะไรห๊ะ!=O=^^”
“ก็อยากลากมาด้วย มีปัญหาอะไรมะ”
เขาตอบโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าฉัน และยังเดินจ่ำๆ ต่อไป จนมาถึงห้องเรียนที่เขาบอกว่าลืมของเอาไว้ ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าไอ้บ้านี้มันลืมอะไร เข้าเรียนก็ไม่เห็นเคยเข้า นี่ไม่ใช่ว่าฉันสนในอะไรไอ้บ้านี่หรอกนะคือแบบว่า พอไอ้พวกนี้ไม่อยู่พวกผู้หญิงในห้องก็เหงาหง่อยลงไปแค่นั้นเองมันเป็นที่สังเกตุน่ะ-_-;
“เข้ามาสิ ยืนอยู่ข้างนอกคนเดียวระวังผีหลอกนะ”
“ผะ..ผีเผลออะไรของนาย เพ้อเจ้อน่ะ-O-;;;”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่เมื่อกี๊ฉันเห็นเหมือนมีเงาอะไรเดินผ่านหลังเธอไปนะ เงาสีดะ..”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด! \>O</”
ไม่รอให้อีสเตอร์พูดจบฉันก็กรี๊ดลั้นและรีบวิ่งเข้าห้องไปอยากเร็วรี่แล้วกระโดดกอดคอเขาจากด้านหน้าเหมือนหมีน้อยโคอาล่า ความเป็นเจ้าหญิงกระเด็นหายไปหมด มงกงมงกุฎก็กระเด็นหายไปด้วย ส่วนอีสเอตร์ก็กอดฉันไว้และเอามือลูบหัวฉันเหมือนฉันเป็นลูกหมาน้อย
“มันไปยังอ่ะ>_<”
“มันยังไม่ไป ยังยืนอยู่หน้าห้องอยู่เลย”
“กรี๊ดดด ฉันกลัวววว อีสเตอร์นายไล่มันไปที ฝากบอกมันด้วยนะเดี๋ยวฉันทำบุญไปให้อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย>..<”
ฉันหลับตาพูดอย่างไม่ลืมหูลืมตาพรางซุกหน้าลงไปบนไหลกว้างของเขา และสองมือก็ยังกอดคอเขาไว้แน่น
“ฮ่าๆ พอได้แล้วยัยตัวเล็กลืมตาได้แล้ว มันไปตั้งนานแล้ว แต่ถ้าจะกอดไว้อย่างนี้ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ”
ฉันลืมตาขึ้นตามที่เขาบอก และทำใจกล้าหันไปมองข้างหลัง แล้วก็พบว่ามันไม่มีอะไร เฮ้อ ~ โล่งอก พอเห็นว่าปลอดภัยแล้วฉันจึงเลิกกอดเขาและลงมายืนด้วยตัวเอง (โปรดนึกภาพตอนกอดเหมือนลูกกระโดดกอดพ่อ-_-) แต่ไอ้คนที่ฉันกระโดดกอดไปเมื่อกี๊กลับไม่ยอมคลายอ้อมกอดออกจากเอวฉัน แถมยังดึงให้เข้าไปใกล้ตัวเขายิ่งกว่าเดิมออกต่างหาก
“พะ..พอได้แล้ว ฉันเลิกกลัวแล้วนายก็เลิกกอดฉันซะที”
“ได้ไง อุตสาห์แกล้งให้เธอวิ่งเข้ามากอดฉันไว้ตั้งนานเชียวนะJ”
ฮ๊ะ!! แกล้งหรอ ? อะ..ไอ้บ้านี่มันแกล้งฉันงั้นหรอ งั้นก็แสดงว่าไอ้เงาอะไรนั่นก้ไม่มีอะดิ-O-^^ นี่มันกะจะลวนลามฉันงั้นหรอ (ใครกันแน่ยะ-_-)
“ปล่อยเลย ”
“ไม่ปล่อย”
“ฉันบอกให้ปล่อยไง-*-”
“ไม่”
“อีสเตอร์ ฉันบอกให้ปล่อย!!! =[]=” ฉันเริ่มแหกปากแล้วดิ้นคลุกคลักอยู่ภายในอ้อมแขนของเขา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าไอ้ท่านเคาท์ แดร๊กคิวล่า มันจะปล่อยฉันเลยซักกะจิ๊ด! =_=
“ท่านเคาท์ แดร๊กคิวล่า อยากดื่มเลือดเจ้าหญิงจังเลยJ” อยู่ดีๆ อีสเตอร์ก็เปลี่ยนเรื่องพูดและยิ้มบางๆ เผยให้เห็นเขี้ยวปลอมที่เขาใส่ไว้ให้ดูเหมือนกับแดร๊กคิวล่าตัวจริง
“นะ..นายจะทำอะไร-O-;;”
“ดื่มเลือดเจ้าหญิงไงครับJ”
“กรี๊ดดดดด อย่านะ! >O<”
--ต่อ—
“นี่ ยัยบ๊อง”
“>_<;;”
“ลืมตาได้แล้ว ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอ-_-^”
“>,<”
“หรืออยากจะให้ฉันทำจริงๆ เอามั้ยล่ะ”
“อย่านะ ! >_<”
ฉันเอาฝ่ามือดันใบหน้าของอีสเตอร์ที่พยายามจะโน้มลงมาหวังจะทำอย่างที่เขาพูดจริงๆ ให้ตาย! ไอ้บ้านี่ แค่นี้มันก็ใกล้มากพออยู่แล้วนะ นายกำลังทำให้ฉันขนลุก และก้อนเนื้อในอกก็เต้นผิดจังหวะแปลกๆ อีกด้วยรู้ตัวหรือป่าว น่าอายชะมัด -///- ถ้าฉันไม่ก้มหน้าเอาไว้เขาต้องรู้แน่ๆ ว่าฉันหน้าขึ้นสีอยู่น่ะ ไม่เอาๆๆ น่าอายที่สุด!
“เป็นอะไรอีก ก้มหน้าทำไม”
“ปะ..ป่าวไม่มีอะไร ว่าแต่นายเถอะได้ของตัวเองยัง เราจะได้ไปซักที ฉันไม่ค่อยอยากจะอยู่บนนี้นานๆ หรอกนะ-O-;;” ฉันรีบพูดเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนในทันที เพราะถ้าไอ้บ้านี่มันรู้ว่าฉันหน้าแดงเขาต้องล้อฉันแน่ ๆ อ่ะ
“ได้ตั้งนานแล้ว”
“นายลืมอะไรไว้น่ะ ทำไมถึงต้องรีบขึ้นมาเอาตอนนี้ แถมยังต้องลากฉันมาด้วยอีก”
“ถ้าอยากรู้ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
“นายนี่มันปัญหาเยอะจริงเลยนะ ฉันก็ไม่ได้อยากรู้นักหรอก เรื่องของนายเถอะ”
ฉันพูดและเดินออกมาจากห้อง และลงไปข้างล่างให้เร็วที่สุด เพราะถ้าฉันอยู่กับหมอนี่นานกว่านี้ต้องเปลืองตัวโดยใช่เหตุแน่ๆ =_=
“ระวังนะ ทางเดินมันมืด ไม่แน่อาจจะมี...”
“นายจะพูดอะไร หยุดเดี๋ยวนี้=O=;;”
“ก็แค่จะเตือน เป็นห่วง ” เขาพูดพร้อมกับเผยยิ้มโชว์เขี้ยวเล็กๆ ให้เห็น
แต่..มันเป็นยิ้มที่กวนทีนมากเลยให้ตาย!-_-*
ฉันไม่สนใจคำพูดของไอ้บ้าโรคจิตนั่นแล้วรีบจ้ำอ้าวลงบันไดให้เร็วที่สุด ถึงในใจอาจจะมีหวั่นๆ กับสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อกี๊บางก็ตามทีเถอะ =_= ขอยอมรับตรงๆ เลยนะ ว่าฉันเป็นคนที่กลัวผีมากถึงมากที่สุด เพราะประสบการ์ณในวัยเด็กที่ฉันเหมือนกับว่าโดนสะกดจิตขณะที่นั่งดูรายการทีวีรายการหนึ่ง มันเกิดไม่ได้ง่ายๆ กับเด็กๆ ทั่วไป แต่มันกับเกิดขึ้นกับฉัน โครตซวยเลยขอบอกT^T และอาจจะเพราะเหตุนี้ด้วยก็ได้ ฉันก็เลยพลอยไม่ชอบที่มืดๆ ไปด้วย เพราะมันให้ความรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย มันจะให้ความรู้สึกเหมือนว่าจะมีสิ่งๆ นั้นโผล่มาตลอดเวลาอ่ะ มันน่ากลัวใช่มั้ย T^T และยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่มีใครรู้นอกจากคนในครอบครัวฉัน นั่นก็คือถ้าฉันกลัวหรือตกใจมากๆ จะสลบและหลับไม่ตื่นไป3วัน3คืน
ยิ่งคิดแล้วยิ่งต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เพราะบันไดทางลงมันมืดมาก ฉันเลยต้องล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดหน้าจอไว้ให้พอมีแสงให้เห็นทางอยู่บ้างระหว่างเดินลงไป อีสเตอร์นะอีสเตอร์ไม่รู้จะลากฉันขึ้นไปด้วยทำซากประหลักหักพังอะไร-*- ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่ได้เต็มใจเลยซักกะตี๊ดดด(แต่ก็เดินตามมา- -;) แล้วนี่เขายังไม่เดินตามลงมาอีก ฉันอุตสาห์โชว์เท่ห์เดินนำลงมาก่อนเลยนะ ไหงเขาถึงยังไม่ตามมาซักทีล่ะ =O=;;
พลิ้ววว ~ ~
เสียงสายลมที่แสนเย็นยะเยือกพัดผ่านท่อนแขนไปอย่างช้าๆ เหมือนจงใจจะให้คนที่ได้สัมผัสได้ลิ้มรสของความวังเวงในยามค่ำคืนแบบนี้
กรี๊ดดด หนาวเหลือเกิน วังเวงเหลือหลาย~ T_T
เกร้ง! ๆๆ
ขณะที่ฉันกำลังยืนหนาวอยู่ตรงราวบันไดชั้นสอง ก็ได้ยินเหมือนเสียงวัตถุอะไรบางอย่างตกลงมากระทบบันไดลงมาทีละขั้น มันทำให้ฉันสะดุ้งตัวโยนเลยทีเดียว
ไม่ไหวแล้วฉันไม่ไหวแล้ว>_< วิ่งอย่างเดียวค่ะพี่น้อง ฉันถกกระโปรงเจ้าหญิงที่โครตยาวขึ้นเหนือเข่า และถอดรองเท้าส้นสูงสีแดงแป๊ด(ยัยแก้วใสบังคับให้ฉันใส่มา)ขึ้นมาถือไว้และเตรียมตัวโกย แต่เหมือนโชคชะตาดลจิตพรหมลิขิตดลใจทำให้มีบางสิ่งบางอย่างมาขัดขวางฉันไว้ซะก่อน
หมับ!
“แฮ้! :P”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด !! >O<เดี๋ยวเค้าทำบุญไปให้อย่ามาหลอกมาหลอนกันจะได้มั้ย รออีกไม่ถึงสิบชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว เดี๋ยวน้ำแข็งคนนี้จะตื่นแต่เช้า ไปดักหลวงพ่อตั้งแต่หน้าวัด แล้วทำบุญตักบาตรไปให้อย่างเร็วรวดเลย อย่ามาหลอกมาหลอนเค้าเลยนะ เค้ากลัวแย้วววT[]T”
ฉันหลับตาปี๊และกรี๊ดร้องพร่ำเพ้อเป็นคำพูดร่ายยาวเป็นหางว่าวเหมือนคนเสียสติและยกมือขึ้นมาภาวนา ให้กับสิ่งที่ไม่สามารถระบุได้ มันอาจจะระบุได้แต่ฉันไม่ได้ลืมตามองเพราะหลับตาตลอด ก็มันไม่กล้ามองอ่ะ โอ๊ยย! จะเป็นลมแล้ว T^T
“ฮ่ะๆๆ ”
สะ..เสียงหัวเราะ! ขณะที่ฉันกำลังจะเป็นลมลมพับไปก็ได้ยินเหมือนเสียงหัวชอบใจขอบใครสักคนที่ฉันรู้สึกว่ามันคุ้นหูมากๆ
“หือ O_<”
ฉันลืมตาขึ้นมา(ข้างนึง)เพื่อมองสิ่งที่กำลังระเบิดหัวเราะอยู่ และสิ่งที่ฉันเห็นก็คือแด๊กคิวล่าตัวหนึ่งที่กำลังยืนกุมท้องและกำลังระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั้ง! =[]=
“ฮ่าๆๆๆ อย่างจี้อ่ะ ฮ่ะๆ หยุดไม่ได้ละ ฮ่ะๆ”
“o_O~ อีสเตอร์นาย! ”
ไอ้บ้านี่มัน..มัน..มันแกล้งฉันอีกแล้ว ! T_T เขาเห็นฉันเป็นอะไรนะถึงได้ชอบแกล้งนัก เป็นตัวตลกหรือไง
“ฟอร์มเยอะดีนัก เป็นไงล่ะ”
“อีสเตอร์ นาย..นาย..”
ฉันอยากจะอ้าปากด่าเขาให้เสียหลักที่มาแกล้งฉันแบบนี้ แต่ว่าคนที่เสียหลักอาจจะเป็นฉันเอง เพราะว่าตอนนี้โลกมันหมุนไปหมดหน้ามืดด้วย นี่พระอินทร์กำลังจะมารับฉันไปเฝ้าท่านถึง3วันแล้วใช่มั้ยเนี้ย =_=;;
“ทำเป็นเก่งจะเดินลงไปทางมืดๆ คนเดียว ดูสภาพเธอสิ ตลกเป็นบ้าผมเผ้ากระเซอะกระเซิงอย่างกะ... เฮ้! เป็นอะไร..”
สติของฉันเริ่มพร่าเลือนเต็มที ยืนไม่ตรง และเปลือกตากำลังจะปิดลง แต่ก่อนที่ฉันจะหลับยาวฉันขอพูดอะไรหน่อยเถอะ
“อะ...อีสเตอร์ นะ...นายอีกสามวันนายต้องชด..ชะ คร๊อก!”
“เฮ้ย! เธอเป็นอะไรน่ะ ยัยน้ำแข็งแห้ง เฮ้ ! แล้วอะไรอีกสามวัน ตื่นขึ้นมาคุยกันก่อนดิ๊=O=^^”
---ต่อ---
3 วันผ่านไป ~ ไวโครตๆ =[]=
และแล้วก็มาถึงวันที่ 3 วันที่ฉันต้องตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับยาวไปเหมือนไหลตาย =O= หึ...แต่ใครจะตื่นง่ายๆ กันล่ะ หลับต่ออีกสักหน่อยรอดูอะไรสนุกๆ ดีกว่าJ
ฉันลืมตาขึ้นมานิดหน่อยแล้วก็พบว่า ตอนนี้ฉันอยู่ที่ห้องของตัวเอง และที่สำคัญฉันเห็นไอ้คนที่เป็นตัวการทำให้ฉันหลับยาวนอนอยู่ที่โซฟาด้วย อย่าบอกนะว่าเขามาเฝ้าฉันทุกวันเลยน่ะ หึ! คงจะรู้สึกผิดขึ้นมาล่ะสิ ดี!ฉันจะทำให้นายรู้สึกผิดไปจนวันจนวันตายเลยอีสเตอร์! ในขณะที่หัวสมองของฉันกำลังคิดแผนชั่วร้ายอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาเสียก่อน แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่ของฉัน งั้นก็แสดงว่าเป็นของอีสเตอร์ ฉันแกล้งทำเป็นปรือตาขึ้นมาหน่อยๆ เพื่อจะดูปฏิกิริยาของคนที่นอนหลับอยู่ที่โซฟา สีหน้าของอีสเตอร์ตอนที่เห็นชื่อของคนที่โทรมาก็ดูจะอารมณ์เสียในทันทีแต่ไม่นานเขาก็เอานิ้วสไลด์แทบไอโฟนและเอาขึ้นมาแนบหูในที่สุด
“มีอะไร” อีสเตอร์กรอกเสียงใส่ไอโฟนอย่างหงุดหงิด
(“$&^%#%#%&(!@*((\\\^&”)
“อยู่ ถามทำไม? ยัยนั่นยังไม่ตื่น-_-”
(“*&&%*(+@#@%#$”)
“ไม่ต้อง! พวกแกจะมากันทำไม -*- ” ยิ่งคุยไปเรื่อยๆ คิ้วไอ้บ้านี่ยิ่งติดกันเรื่อยๆ เลยแหะ จะหงุดหงิดอะไรนักหนา แต่ดูจากรูปการณ์แล้ว คนที่เขากำลังคุยด้วยน่าจะเป็นหนึ่งในพวกเพื่อนๆ ของเขานั่นแหละมั้ง และก็อาจจะเป็นอีตาบิ๊กเบนก็เป็นได้...
(“^&*(%$#@!(_*%$%”)
“ก็บอกว่าไม่ต้องมาไง ฉันดูแลได้อยู่แล้ว เออ แล้วจะทำไมวะ-_-^^”
(“!@#$%^&**(^%$#”)
(“ห๊ะ! ถึงแล้ว ถ้าอยู่หน้าบ้านแล้วแกจะโทรมาทำซากหอยขมอะไร-*- เออ เดี๋ยวลงไปรับ”)
พอวางสายปุ๊บอีสเตอร์ก็ลุกพรวดจากโซฟาไปเลย ทางสะดวกแล้วเรา ฮิฮิ
เฮ้อ~ นอนมาสามวันติดนี่ปวดหลังชะมัดเลย=^= ขอลุกไปยืดเส้นยืดสายหน่อยเถอะ ฉันทำท่าบิดชี้เกียจไปมาสองสามทีและกำลังจะก้าวขาลงจากเตียง แต่ยังไม่ทันที่เท้าจะแตะพื้นก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังอยู่หน้าห้อง อย่าบอกนะว่าไอ้พวกนั้นมันมากันแล้วน่ะ-O-;
“ยังไม่ตื่นจริงๆ ด้วยแฮะ ไหนแกบอกว่าสามวันไงไอ้เตอร์ ไม่ใช่ว่ายัยนี่ไหลตายไปแล้วนะ-O-”
ถึงฉันจะแกล้งทำเป็นหลับอยู่แต่ก็พอจะรู้ว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นใคร- -* ของไอ้หัวแดงแรงฤทธิ์บิ๊กเบนนั่นเอง มาถึงก็ปากมอมเลยนะ -*- แล้วก็ไอ้คำว่าไหลตายนี่ รู้สึกเหมือนว่าฉันจะเคยได้ยินมาแล้วนะ แต่จำไม่ได้ว่าตอนไหน =_=;
“นั่นดิ ฉันว่านะแกรีบเปลี่ยนคู่หมั้นเหอะ สาวๆ ในสต๊อกฉันเพียบ เอาไปซักคนก็ได้-O-^”
“หุบปากไปไอ้ยุ ถ้ายังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อน”
“คร้าบ คร้าบ ~ ล้อเล่นแค่นี้ทำเป็นขึ้นไปได้นะ รู้หรอกน่าว่าคนนี้รักจริง”
ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ ฉันก็รู้สึกเหมือนว่าก้อนเนื้อในอกมันถึงได้เต้นผิดจังหวะแปลกๆ แล้วยังรู้สึกเหมือนกับใบหน้าเริ่มร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ กับคำพูดของอีตายุโรปเมื่อครู่ นี่ฉันเป็นอารายย /-///-\
แต่เอ๊ะ! นี่มันไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมาเพ้อเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มแบบนี้นะ=O=; มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเอะใจแปลกๆ กับคำพูดของยุโรปก่อนหน้านี้
‘คู่หมั้น’ อย่างนั้นหรอ...
“แล้วนี่ไอ้ไซโตะมันไม่มาด้วยหรอ”
“มันยังไม่กลับจากญี่ปุ่นเลย แต่ฉันว่ามันคงจะอยากกลับใจจะขาดแล้วล่ะ
ก็คราวนี้มันไม่ได้เอามิโสะไปด้วยหนิ แล้วยิ่งไปฝากไว้กลับไอ้ยุด้วยนะ”
“มิโสะอยู่กับฉันแล้วจะทำไมวะ รู้รึป่าวสาวๆ ที่มาห้องฉันต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าฉันทั้งหล่อแล้วก็เป็นคนรักสัตว์น่ะ ต้องขอบคุณไซโตะมันจริงๆ *0*”
“เออ ฉันว่ามิโสะคงประสาทตายว่ะ ก็วันๆ เห็นแต่คนเดินแก้ผ้าไปแก้ผ้ามาทั้งวันแบบนั้น ไม่ประสาทก็ตรอมใจตายแหละวะ-_-^”
“เลิกเถียงกันได้แล้วพวกแกน่ะ แล้วตกลงจะตอบได้ยังว่ามากันทำไม-_-;”
ดีมากเลยอีสเตอร์ที่ช่วยหยุดไอ้สองคนนี้ เพราะฉันก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญขึ้นมาหน่อยๆ แล้วล่ะ - -*
“ฉันก็แค่จะมาหาน้องชายยัยนี่เฉยๆ ตั้งแต่ออกจากโรงบาลฯ ก็ไม่ได้เจอกันเลยก็กะว่าจะมาทักทายซะหน่อย ว่าจะมายืมหนังสือการ์ตูน” ยุโรปตอบ แต่ฉันอยากจะรู้ว่าน้องชายฉันมันรู้จักสนิดสนมกับนายตั้งแต่เมื่อไหร่ - -?
“ส่วนฉันก็จะมาหาเพื่อน หายไปตั้งสามวันไม่โผล่หัวมาให้เห็นก็เลยคิดถึงน่ะJ” แล้วเสียงนี้ก็เป็นของไอ้บ้าหัวแดงบิ๊กเบน ขนาดฉันไม่ใช่อีสเตอร์ยังอยากจะขนลุกเลยนะ นี่ตกลงว่าไอ้หัวแดงมันเป็นใช่มั้ย -_-;
“ขนลุกว่ะ-_-; เจอแล้วก็กลับไปสิ” นั่นไง - - เดาผิดที่ไหน
“เออ กลับก็ได้วะไว้เดี๋ยวจะแวะมาใหม่ พร้อมกับของเยี่ยมคนไข้ น้ำแข็งคงจะไม่ตื่นง่ายๆ หรอก เชื่อดิ ถ้าแกไม่รีบทำอะไรซักอย่าง..” พอเสียงบิ๊กเบนเงียบไปก็ตามมาด้วยเสียงปิดประตู แสดงว่าบิ๊กเบนกลับไปแล้ว แถมก่อนไปยังพูดจาแปลกๆ อีก หรือว่า...คงจะไม่ใช่หรอกมั้ง ถ้าทางไม่ค่อยฉลาดอย่างหมอนั่นคงจะไม่รู้หรอก ว่าฉันกำลังแกล้งหลับน่ะ - -;
“เดี๋ยวฉันจะออกไปข้างนอก”
“…”
“ถ้าเมื่อย ก็ลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายได้นะ”
“…”
“ฉันไปแปปเดียวเท่านั้นแหละ เดี๋ยวมา”
“…”
ปัง!
เสียงประตูปิดแสดงให้รู้ว่าอีสเตอร์ออกไปจากห้องแล้ว
เขารู้...
เขารู้ว่าฉันแกล้งหลับแล้ว ระ..รู้ได้ยังไงน่ะ ฉันว่าฉันหลับเนียนมากเลยนะแต่ทำไมเขาถึงรู้อ่ะ =[]= แล้วแผนชั่วร้ายที่ฉันคิดไว้ล่ะ โฮฮฮฮ!!TOT พังไม่เป็นท่ากันเลยทีเดียว แต่ถึงยังไงถ้าไอ้บ้านั่นยังจับได้คาหนังคาเขาฉันก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด! ฉันต้องทำเนียนหลับต่อไปเรื่อยๆ เพื่อแผนการของฉัน...แต่ตอนนี้ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะปวดชิ้งฉ่องมากเลย =,.=
--ต่อ---
อีตาอีสเตอร์หายหัวไปนานมาก=O= แต่ก็ดี ฉันจะได้นั่งคิดแผนการอันชั่วร้ายของตัวเองต่อ เอาไงดีน้า...
ขณะที่ฉันกำลังนั่งครุ่นคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตูสองที และตามมาด้วยเสียงของคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
ก๊อก ๆ
“ฉันจะเข้าไปละนะ ”
“…”
“ฉันซื้อพายข้าวโพดมาด้วย สนใจจะกินด้วยกันมั้ย ? แม่เธอบอกว่าเธอชอบกินฉันก็เลยซื้อมา นี่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ด้วยสิ หอมฉุยไปเลย น่ากิ๊นน่ากิน~”
ถ้าสมมุติว่าฉันหลับอยู่จริงๆ ใครๆ เค้าต้องบอกว่าว่าอีตานี่เพี้ยนแน่ๆ เพราะพูดอยู่คนเดียว-_-^ แต่มันติดอยู่ตรงที่ว่าฉันแกล้งหลับน่ะสิ แต่เมื่อกี๊เขาบอกว่าไรนะ พายข้าวโพดหรอ ? กรี๊ด>_< ของโปรดฉันเลยอ่ะ
ฟุดฟิดๆ -,.-
อ๊า ~ กลิ่นพายข้าวโพดนี่มันช่างหอมรัญจวนใจซะจริงๆ อยากกินง่ะ=O=;
ฟุดฟิดๆ =,.=
พระเจ้า! ทำไมตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ามีพายข้าวโพดมาวางไว้จนปลายจมูกเลยอ่ะ หอม... หอมมาก อยากกินนนนนมากกกก=,,=
“อยากกินหรอ อ้าปากสิ...”
“อะ..อ้ามมม..-O- ง่ำๆ ”
ฉันเคี้ยวพายข้าวโพดอย่างอย่างเพลิดเพลินเริงใจเป็นยิ่งนัก หารู้ไม่ว่าแผนแผนที่วางไว้ได้แตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว
“อร่อยป่าว...กินอีกมั้ย?”
“อาหย่อย กินอีก อ้า~ –O- ” ฉันอ้าปากรอทันทีหลังจากที่เขาเอ่ยถาม
รู้สึกเหมือนตัวเองโดนสะกดจิตเลยแฮะ ไม่หรอกฉันว่าเหมือนฮิปโปในสวนสัตว์มากกว่า=O=;
“หึ...ป้อนด้วยมือมันก็ไม่สนุกสิ จริงมั้ย? ถ้าไม่รีบตื่นฉันจะด้วยปากล่ะ นับหนึ่งถึงสามนะ หนึ่ง..”
“…”
ยังคงนิ่ง...
“สอง..”
“...”
ไม่แม้แต่จะขยับ…แต่รู้สึกเหมือนเหงื่อเริ่มจะออก -_-;;
“สะ..”
“โอเค ตื่นแล้วๆ เอาหน้านายออกไปไกลๆ หน้าฉันหน่อยได้มั้ย มันอึดอัด-_-;”
ฉันบอกพร้อมกับเอาฝ่ามือดันหน้าเขาออกเบาๆ ไม่อยากจะพูดเลยว่า ไอ้บ้านี่หน้านุ่มมาก ...กรี๊ด! นี่ฉันโรคจิตหรอ=[]= แต่มันก็นุ่มจริงๆ นะ เหมือนตูดเด็กทารกเลยอ่ะ=,.= อืม..พอเถอะ-_-
พอเขาถอยออกไปแล้วฉันก็เอาแขนทั้งสองข้างยันตัวเองให้ลุกขั้นนั่งและเอาหลังพิงกับหัวเตียงเอาไว้ พร้อมกับเมินหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตาจากผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า อะไรกันอุตสาห์จะแกล้งซะหน่อย แต่ดันโดนแกล้งกลับแทนซะได้ เพราะพายข้าวโพดแท้ๆ เลยอ่ะ=^=^^(ไม่ใช่ว่าตะกละ ? : ไรเตอร์)
“ว่าไง ยัยตัวดีจะแกล้งคนอื่นแต่ตัวเองดันโดนแกล้งซะเอง ที่หลังถ้าจะเอาคืนคนอย่างฉันคิดให้มันลึกๆ หน่อยนะ ไม่งั้นก็ไม่ได้กินหรอก J”
“พูดอะไร ฉันไม่ได้จะกินนายซะหน่อย-O-; และอีกอย่างนายก็เป็นคนแกล้งให้ฉันสลบเองแล้วมันผิดหรือไงที่ฉันแกล้งนายกลับบ้างน่ะ นี่ ฉันถามนายจริงๆ เหอะ ทำไมนายถึงชอบแกล้งฉันนัก ฉันไปทำอะไรให้นายเจ็บช้ำน้ำใจหรือไง หรือว่าจะเรื่องตอนที่ฉันทำแกงหกราดเสื้อนายที่โรงอาหาร แต่ตอนนั้นฉันก็ขอโทษนายไปแล้วไง แล้วยังจะเอาอะไรอีก ฉันไม่ใช่ตัวตลกที่จะให้นายแกล้งได้ตลอดๆ หรอกนะ ฉัน.. ”
“เธอไม่ได้ยินที่ไอ้ยุมันพูดก่อนมันออกไปหรือไง”
อีสเตอร์พูดแทรกขึ้นมา ทั้งๆ ที่ฉันยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ แต่คำพูดนั้นมันก็ทำให้ฉันถึงกับทนไม่ได้ที่จะตอบกลับไป
“ฉันได้ยิน ได้ยินเรื่องที่พวกนายคุยกันทุกอย่างนั่นแหละ และก็ฉันคิดว่าที่ยุโรปพูดมันคงจะไม่...”
“แล้วเธออยากจะได้ยินจากปากฉันรึป่าว ว่าที่ไอ้ยุมันพูดน่ะจริงหรือไม่จริง...”
อีสเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังต่างจากก่อนๆ ที่เขามักจะพูดทีเล่นทีจริงจนฉันตามอารมณ์แทบจะไม่ทัน และแววตาที่เข้าจ้องมองมานั้นก็ไม่มีท่าทีที่บ่งบอกว่าพูด ’เล่น’ ด้วยเช่นกัน
“…”
ฉันถึงกับพูดไม่ออก เหมือนกับว่ากำลังรอคอยคำพูดของเขาที่กำลังจะพูดต่อจากนี้ มาจนถึงตอนนี้ฉันคงจะปฏิเสธได้ไม่ค่อยเต็มปากนัก ว่าฉันก็ไม่ได้เกลียดอะไรเขา แต่ฉันก็แค่ไม่ชอบตอนที่เขาแกล้งฉันเท่านั้นแหละ
“เรื่องคู่หมั้น..ใช่ ฉันนี่แหละคู่หมั้นของเธอและฉันก็รู้ตั้งแต่แรกแล้ว”
“แต่นายก็ไม่ยอมบอกฉัน เอาแต่แกล้งฉันต่างๆ นาๆ สนุกมากเลยใช่มั้ย นี่แม่ฉันก็คงจะรู้เรื่องนี้ด้วยสินะ”
“แม่เธอรู้เรื่องทั้งหมด”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมฉันถึงรู้สึกจุกไปหมด ทั้งๆ ที่มันก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับฉัน แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม เพราะอะไร...เพราะว่าฉันโดนหลอกหรอ แต่ฉันก็ไม่น่าที่จะมาจุกกับเรื่องแบบนี้นะ มันไม่มีเหตุผล หรือเป็นเพราะ...เขา ที่รู้เรื่องนี้ดีแต่ก็ไม่ยอมบอกฉัน นี่ฉันไปรู้สึกแคร์คนอย่างหมอนี่ได้ยังไงกัน
“หึ...ดี พวกเพื่อนๆ ของนายก็คงรู้ด้วยใช่มั้ย แต่ฉันหวังว่ายัยแก้วใสก็คงจะไม่..”
“เพื่อนเธอรู้”
“ฉันไม่อยากจะดราม่านะ แต่ขอเหตุผลที่ทุกคนรุมกันหลอกฉันหน่อยได้มั้ยอย่าน้อยซักข้อก็ดี” โอ้ย! ปวดหัว นี่ฉันพยายามสะกดกั้นอารมณ์สุดๆ แล้วนะ
“เธอดราม่าไปแล้วรู้ตัวมั้ย-_-^แต่ถ้าเธออยากจะรู้เหตุผล ง่ายๆ เลย...”
“…”
“ฉันชอบเธอ...”
“…”
“เหตุผลของฉันมีแค่นี้ เพราะงั้นอย่าโกรธเรื่องที่ฉันไม่ได้บอกเธอว่า ฉันเป็นคู่หมั้นของเธอเลยนะ”
สายตาของเขาที่มองมาในดวงตาของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกสับสนแปลกๆ ยังไงไม่รู้ ตอนนี้อีสเตอร์ดูเหมือนลูกหมาตัวน้อยๆ มากเลย และอีกไม่กี่วินาทีต่อมามันก็กำลังจะกลายเป็นหมาป่าผู้หิวกระหาย!
“โอเค ถ้าเธอยังไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย งั้นฉันคงต้องใช้ไม้เด็ดของฉันละนะJ” พูดจบเขาก็เผยรอยยิ้มเจ้าเลห์ที่มุมปากก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ
“อีสเตอร์! นี่นายจะทำอะไร อะ...ออกไปนะO_O;;” ฉันถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ และพยายามที่จะขยับตัวให้ออกห่างจากเขาให้มากที่สุด แล้วก็เพิ่งมานึกได้ว่าแผ่นหลังของฉันติดกับหัวเตียงแล้วอ่า TOT
“รวบหัวรวบห่างเลยเป็นไง จะได้แต่งเลยไม่ต้องมงต้องหมั้นมันแล้ว^^”
Talk พิเศษ!!! ห้ามพลาด!!
# : สัมภาษณ์พิเศษ ‘Butterfly Night !
สวัสดีค่า~ มาพบกันอีกครั้งในช่วงสุดท้ายของแต่ละตอนนะคะ สำหรับวันนี้เราจะมาถามหนุ่มๆ ผีเสื้อกลางคืนว่า ถ้าจะพาแฟนไปเดตหนุ่มๆ จะพาเธอไปเดตที่ไหนกันคะ ?
อีสเตอร์ : คงต้องตามใจยัยนั่นแหละ -_-
บิ๊กเบน : ส่วนผมจะพาเธอไปร้านไอศกรีมของผมครับ เพราะว่าเธอจะได้รู้ว่าไอศกรีมร้านของผมน่ะ อร่อยที่สุดในโลก ผมอยากให้เธอมีความสุขกับสิ่งที่ผมชอบ >w<
อีสเตอร์ : ไม่ใช่ว่าหลอกขายรึไง -_-^
บิ๊กเบน : นั่นมันผลพลอยได้เว้ย =O=
ยุโรป : ส่วนของผม มีอย่างเดียวเลย..ก็ต้องเป็นที่ห้องผมสิครับ คุณสนใจจะไปรึป่าวล่ะ J
ไซโตะ : เหมือนอีสเตอร์ -_-
เอาละค่ะในที่สุดเราก็ได้คำตอบครบหมดแล้วนะคะ จากหนุ่มๆ ทั้งสี่คน วันนี้ไม่ขอแพล่มอะไรมาก งั้น...ไว้พบกันใหม่ตอนหน้า สวัสดีคะ ^__^
อีสเตอร์ : จบง่ายไปมั้ย?–O-^
บิ๊กเบน : นั่นดิ =O=^
100%----
13/04/2556
100% แล้วเด้อออ แอบคิดมั้ยว่าตอนนี้มันยาวมากอ่ะ
สงสัยไรเตอร์จะอัฟเพลินไปหน่อย^_^; แหะๆ
เรามาคุยเรื่องนิยายกันบ้างดีกว่า
อีสเตอร์เข้าหมวด รุก! แล้วนะเออ(ที่ผ่านมาไม่ ?)
แล้วน้ำแข็งน้อยๆ จะทำยังไงละทีนี้
จะรับมือความน่ารักปน(หื่น)ของพระเอกของเราได้หรือไม่
รับรองว่าตอนหน้าอีสเตอร์จะน่ารักนาหยิกมากกว่านี้แน่นอน! J
สุดท้ายนี้ก่อนไป ก็อย่าลืมเม้นนะคะ อย่าอ่านแล้วก็ไป
ไรเตอร์เสียใจนะT_T
ยิ่งเม้นเยอะ ตอนต่อไปก็จะมายเยอะ+รรวดเร็วด้วยเช่นกัน
ไม่เม้นไม่อัฟ ชิ!! ( -3-)
อ่านเสร็จแล้วอย่าลืมไปโหวตว่าที่พระเอกคนต่อไปกันนะคะอยู่หน้าบทความค่ะ
ไปที่หน้าบทความ >>จิ้มๆ<<
:) Shalunla
ความคิดเห็น