ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TaoKacha AF8] ☆ My Sassy Boy|รักนะ...เจ้าตัวร้าย ☆

    ลำดับตอนที่ #10 : My Sassy boy ☆ 08

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 54


    My Sassy boy ☆ 08







    “หึงหรอครับตัวเล็ก?” 

    คชาช้อนใบหน้ายุ่งๆ จากถ้วยไอติมมองพี่ชายคนสนิทที่พูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น  ถ้าหึงแล้วจะทำไมล่ะ?  อยากจะตอบสวนกลับไปเหลือเกินแต่ไอ้อาการปากไม่ตรงกับใจมันก็แล่นเข้ามาก่อนเสียทุกครั้ง

    “ไม่ได้หึง...”  เบะปากพูดอย่างไม่ยี่หระอะไร  “ก็แค่ไม่ชอบ”  ต่อท้ายอีกนิด  ย่นจมูกอย่างหงุดหงิดเมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนั้น  ตาเรียวเสมองผ่านกระจกใสออกไปที่ข้างนอกร้านไอศกรีมแทน

    เต๋าหัวเราะร่าเมื่อเห็นอาการของร่างเล็ก... จะว่าไปนี่อาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้ที่คชามีท่าทีหึงหวงชัดเจนขนาดนี้  ก็เต๋าน่ะ... เคยไปเดินกับสาวๆ คนอื่นต่อหน้าต่อตาคชาแบบนี้ซะที่ไหนกัน

    “หัวเราะอะไร มีความสุขมากงั้นสิ?”  หันมาเห็นพี่ชายคนสนิททำท่าทางแบบนั้นจึงโวยวาย  มีความสุขนักใช่ไหมที่ได้ปั่นหัวเขาเล่นแบบนี้?

    “โถ่... ตัวเล็กอย่างอนสิ แจนเขาก็แค่เพื่อนร่วมงาน ไม่มีอะไรหรอกครับ”  เสียงทุ้มเอ่ยให้อีกฝ่ายเข้าใจ เห็นคนตัวเล็กเริ่มหายหน้างอจึงพูดต่อ  “แล้วที่พี่ยิ้ม ที่พี่หัวเราะ ก็เพราะตัวเล็กน่ารักไง”

    “ไม่ต้องมาแกล้งชมเลย เบื่อแล้ว”

    “ใครว่าพี่แกล้ง... ก็ตัวเล็กของพี่น่ารักจริงๆ นี่”  คนตัวโตแปลงร่างกลายเป็นลูกแมวตัวน้อยๆ ที่กำลังออดอ้อนเจ้านายหน้าหวานของตัวเองอยู่

    “ตัวเล็กของพี่อะไร... ใครเป็นของพี่?”  เสียงใสโวยกลับซะจนคนฟังไปไม่ถูก ก็เมื่อวันก่อนยังยอมให้เรียกอยู่เลยนี่



    “ชาเป็นของชา.. ไม่ใช่ของใครทั้งนั้น” 
    เชิ่ดหน้าพูดกับอีกคนต่ออย่างท้าทาย

     



     

    “พี่เต๋าต่างหากที่เป็นของชา!!!

    เป็นของชาคนเดียวด้วย
    ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามมาขโมยไปทั้งนั้น!

     

     


     

    - - - - - - - - - - - - - - -

     

     


     

    หลังจากมรสุมการสอบปลายภาควิชาที่เหลือผ่านพ้นไป  ขณะนี้ เหล่านักศึกษาสาขาวิชาโฆษณาปีสุดท้าย ก็เหลือเพียงไฟนอลโปรเจคชิ้นมหึมาอีกหนึ่งชิ้นเท่านั้น

    แน่นอนว่าตอนนี้คชาไม่ต้องไปเรียนแล้ว ชุดนักศึกษาที่แขวนเอาไว้ จะได้ใส่ไปมหาวิทยาลัยอีกทีก็เป็นตอนที่ไปพรีเซนต์โปรเจคนี่แหละ


    ส่วนตอนนี้... คชาเตรียมขนข้าวของย้ายสำมะโนครัวมาที่บ้านโปเต้เรียบร้อย แถมยังบอกแม่แล้วด้วยว่า อาจจะต้องนอนค้างคืนที่นั่นเป็นบางวัน แต่จะพยายามกลับไปนอนที่บ้านให้ได้ล่ะนะ

    เจ็ดวันที่เหลืออยู่ กับสิบชีวิตของสมาชิกในกลุ่ม  งานแอดแคมเปญจน์จะต้องเสร็จ!!!

     

    ทำอะไรอยู่?’ 

    นิ้วเล็กๆ กดพิมพ์ข้อความผ่าน WhatsApp ไปหาพี่ชายคนเดิมระหว่างพัก  ช่วงนี้ดูเหมือนว่าจะยุ่งกันทั้งคู่  เพราะคชาเองก็ต้องปั่นไฟนอลโปรเจค พี่เต๋าก็อยู่ในระหว่างคุยงานชิ้นใหม่หลังจากที่เพิ่งไป Pitch งานได้มา

     

    นั่งรอลูกค้าครับ :)’

    เห็นข้อความที่เด้งตอบขึ้นมาในอีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็ทำให้คชาวางใจไปได้อีกหน่อย  นั่งรอลูกค้าก็ยังดีกว่านั่งหล่อให้สาวๆ ในออฟฟิศ(โดยเฉพาะยัยแจนนั่น) มาทำตาเยิ้มใส่ล่ะนะ!

     

     



     

    หากแต่คชากลับคิดผิด... ก็เพราะเต๋าน่ะ กำลังรอลูกค้าอยู่กับคุณแจนเธอน่ะสิ!!!!!

    มารอเป็นเพื่อน... เพราะแม่ AE สาวคนดีเธอบอกว่า  ลูกค้าเป็นผู้ชาย แต่งตัวดี แต่ทำตัวชีกอดูไม่น่าไว้วางใจ  แล้วสุภาพบุรุษแมนอย่างเต๋ามีเหรอที่จะปล่อยให้หญิงสาวไปคนเดียว!

     

    “ขอบคุณมากเลยนะคะเต๋าที่มาเป็นเพื่อนแจน”  เธอเอ่ยพลางโปรยยิ้มหวานอีกเช่นเคย

    “ไม่เป็นไรครับ... ถือซะว่ามีเด็กฝึกงานมาให้คุณแจนสอนงานละกัน”  เสียงทุ้มเอ่ยตอบอย่างเป็นมิตร  มือเรียวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลา  “ช้าจังนะครับ”  เขาหมายถึงลูกค้าที่ยังไม่มาเสียทีทั้งๆ ที่เลยเวลานัดมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว


    “แหม... ลูกค้าก็งี้แหละค่ะ มาสายไม่ผิด  แต่คนเป็นเออีน่ะต้องมาก่อนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงค่ะ”  แจนพูดพลางหยิบแผนงานที่จะคุยกับลูกค้า  ยื่นส่งไปให้ชายหนุ่มดู
      เต๋าหยิบมาพลิกดูไปมา  อ่านคร่าวๆ ก็พอจะเข้าใจได้โดยง่าย

    “คุณแจนนี่เก่งจังนะครับ”

    “แหม... เต๋าก็พูดเกินไป”  เธอพูดถ่อมตัว  “แจนน่ะยังใหม่ คงต้องเรียนรู้อีกเยอะค่ะ”

     




     

     

    เต๋ายังคงนั่งรออยู่กับหญิงสาวอยู่อีกพักใหญ่  จนในเวลาอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา จึงได้รู้ความจริงว่า นัดกับลูกค้าในวันนี้ต้องมีอันยกเลิกไป เพราะลูกค้าคนเดิมเพิ่งจะโทรมาบอกว่าติดพันธุระอยู่ ปลีกตัวมาไม่ได้สักที  และขอเลื่อนนัดครั้งต่อไปเป็นอีกสองวันข้างหน้า


    “ขอโทษเต๋าด้วยนะคะ ให้มานั่งรอกับแจนเก้อเลย” 
    เธอพูดด้วยท่าทางเกรงใจ  หากแต่ข้างในรู้สึกดียิ่งกว่าดีเสียอีกที่ได้มานั่งอยู่กับหนุ่มรูปหล่อที่เธอหมายตาอยู่เป็นเวลาร่วมชั่วโมง
      เข้าทางเธอเป๊ะๆ


    “ไม่เป็นไรครับ”  เต๋าตอบพลางลุกขึ้นออกจากร้าน  เดินนำอีกฝ่ายออกไป  มองดูเวลาที่โทรศัพท์  ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานพอดี...

    เจ้าตัวเล็กจะทำงานไปถึงไหนแล้ว???

    นึกถึงอีกคนก็พลันยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา  อยากจะไปหาที่บ้านโปเต้แต่ก็กลัวจะไปรบกวน  แต่ตอนนี้เขาก็ว่างอยู่เสียด้วย จะเอายังไงดีนะ?



    หากแต่ไม่ทันได้คำตอบอะไร  น้ำเสียงหวานก็ดังขึ้นเสียก่อน


    “เต๋าคะ... เต๋าพอจะว่างรึเปล่าคะ?”

    “ครับ?”

    “คือรถแจนยังอยู่ที่บริษัทน่ะคะ... พอจะไปส่งแจนสักนิดได้ไหมคะ?”

    “อ๋อ.. เอาสิครับ” 


    เต๋าตอบรับ ลืมไปเสียสนิทเลยว่าขามาแจนก็นั่งรถเขามาด้วยกัน  มันคงจะน่าเกลียดแน่ๆ ถ้าปล่อยให้หญิงสาวที่มาด้วยกันแท้ๆ ต้องกลับไปคนเดียว  แถมตึกบริษัทก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่สักเท่าไหร่ ขับวนไปส่งสักนิดจะเป็นไรไป

     



    ร่างสูงเดินนำไปยังที่จอดรถ  ไม่ได้เหลียวมาเห็นหญิงสาวที่ซ่อนรอยยิ้มร้ายกาจไว้ภายใต้หน้ากากอันใสซื่อบริสุทธิ์ เมื่อทุกอย่างดูจะเข้าตามแผนของเธอไปหมด


    เพราะเธอเริ่มจับจุดได้เสียแล้ว ว่าข้อเสียของเต๋าเพียงข้อเดียวก็คือ เป็นสุภาพบุรุษเกินไป
    !

     

     


     

    - - - - - - - - - - - - - - -

     

     


     

    กว่าเต๋าจะมาถึงที่บ้านโปเต้ก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่า... เพราะไปส่งเพื่อนร่วมงานคนสวยเสร็จก็ไปทานข้าวเย็นกับเธอต่ออีกมื้อ  แต่คราวนี้ไม่ได้ไปกันแค่สองคนหรอก เพราะยังมีเพื่อนๆ ในบริษัทไปด้วยอีกสามคน   พอทานข้าวเสร็จก็ไปซื้อขนมนมเนยเอามาฝากเจ้าตัวเล็กกับผองเพื่อนที่กำลังทำโปรเจคกันนี่แหละ

     

    มือเรียวถือถุงที่เต็มไปด้วยขนมที่ซื้อมาฝาก  ก่อนจะกดกริ่งที่หน้าบ้าน ในไม่ช้าหนุ่มแว่นเจ้าของบ้านก็เดินออกมาเปิดประตูให้เขาเข้าไปอย่างง่ายดาย


    “ชา...”  เต๋าเอ่ยเรียกเด็กน้อยที่นั่งจ้องโน้ตบุคเครื่องสีดำของตัวเองที่มุมห้อง  คนตัวเล็กหันมาตามเสียงเรียกก็แสดงท่าทีแปลกใจ ทว่าก็ลุกเดินมาหาเขา  โดยมีสายตาของเพื่อนๆ อีกเก้าคู่ลอบมองอยู่


    “มาได้ไงเนี่ย?”  เสียงใสพยายามเอ่ยเบาๆ ราวกับจะไม่ให้คนอื่นได้ยิน... แต่แหม ห้องมันก็เล็กแค่นี้ คนอื่นก็พยายามเงี่ยหูฟังกันขนาดนี้  ยังไงก็ได้ยินอยู่ดี


    “ขับรถมาครับ”  คำตอบกวนๆ ชวนให้อีกคนทำหน้าเซ็งใส่ จนเต๋าต้องตอบแก้ตัวอีกที 
    “ก็เลิกงานแล้ว อยากมาหาเจ้าของไม่ได้หรอ?”  ทั้งยังคงคอนเซ็ปทำท่าทางออดอ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ อีกตามเคย

    “เจ้าของอะไร ใครเป็นเจ้าของ?”  คชาถามเสียงแข็ง ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจ



    “อ้าว... แล้วใครกันนะที่เคยบอกว่าพี่เต๋าเป็นของชา”  หนุ่มหล่อพูดยิ้มๆ แกล้งเอ่ยเน้นในตอนท้ายจงใจให้เพื่อนๆ ของคชาทั้งหมดได้ยิน



    “พี่มาหาเจ้าของไม่ได้หรอครับ?”
     คนตัวโตยังแสร้งทำหน้าซื่อตาแป๋วตามสเต็ปซะจนคนที่พูดด้วยกัดริมฝีปากล่างอย่างหมั่นไส้  หากแต่ก็แอบเขินอยู่ในทีเดียวกัน


    “ชาจะปล่อยให้ลูกแมวน้อยนอนหนาวอยู่ข้างถนนหรอ?”
      แค่น้ำเสียงออดอ้อนไม่พอ  มือขาวๆ ยังยื่นมาเกาะแกะไหล่คู่เล็กนั่นเอาไว้อีก




    “แมวน้อยอะไร เสือล่ะสิไม่ว่า”  คนตัวเล็กบ่นอุบอิบ  ก็ดูสิ ทำเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ น่าตีให้ตายเลย
    !


    “โถ่ชา... ถ้าพี่เป็นเสือก็คงผอมแห้งไม่มีแรงล่ะครับ... วันๆ มัวกินแต่ชา ไม่สนใจอย่างอื่นเลย”


    “พี่เต๋า
    ! 

    คชาหลุดส่งเสียงดังออกไปจนได้เมื่อได้ยินคำพูดที่ฟังดูสองแง่สองง่ามเหลือเกิน
    มัวแต่กินชา
    พูดออกมาได้ เดี๋ยวนี้ชักกะล่อนใหญ่แล้วนะ!


    “เสือกินชามันมีที่ไหนกันเล่า
    !


    “โอเคครับๆ ไม่กินชาก็ได้... งั้นกินคชาแทน... โอ๊ยยยยยย”

    พูดยังไม่ทันจบคนตัวเล็กก็ใช้นิ้วเล็กๆ หยิกแขนพี่ชายซะเต็มแรง ข้อหามาพูดจากะล่อนในที่สาธารณะ  หากแต่คนพี่ตัวแสบน่ะหรอ... แกล้งร้องสำออยเกินเหตุซะจนคนตัวเล็กต้องรีบยื่นมืออีกข้างไปปิดปากอีกคนไว้


    แต่คงจะไม่ทันซะแล้ว  ก็ตอนนี้เพื่อนทั้งห้องน่ะ หันมามองกันหมดเลย
    !!!!!


    คชาเลยรีบเอามือที่ปิดปากอีกฝ่ายออกแทบไม่ทัน

     

    “มดขึ้นแล้วๆ”  เสียงเอ่ยลอยมาจากต้นที่นั่งมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  คนแซวยิ้มในเชิงล้อก่อนจะพูดต่อเมื่อเห็นสีหน้าค้อนๆ จากเพื่อนตัวเล็ก

    “มดขึ้นขนมที่พี่เต๋าเอามาแล้วเนี่ย  ชามากินสิ.. เดี๋ยวคนอื่นก็แย่งกินหมดหรอก”

     



     



     

    กว่าคืนนั้นสารถีอย่างเต๋าจะได้ทำหน้าที่ขับรถพาคนตัวเล็กไปส่งที่บ้านก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้ว  ร่างเล็กพอได้ขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งก็ออกอาการเพลียเพราะความง่วงความเหนื่อยจากการทำงานตั้งแต่ตอนสายๆ  เอนตัวจมไปกับเบาะอีกเช่นเคย

    “เปิดเพลงให้ฟังหน่อยสิพี่เต๋า”  พูดสั่งเบาๆ อีกคนก็ทำหน้าที่ทันที  มือยาวเอื้อมไปกดปุ่มเปิดเพลงจากซีดีที่คาอยู่ในเครื่องเสียงประจำรถ  เพลงฝรั่งคลาสสิครุ่นคุณพ่อที่คชาไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ หากแต่ก็ฟังได้ไม่เบื่อ


    “เหนื่อยล่ะสิตัวเล็ก”


    “อือ”  คชาตอบเสียงอื้ออึงในลำคอ


    “เวลาทำงานจริงก็อย่างนี้แหละ... อดทนไว้ เดี๋ยวมันก็เสร็จ พอผ่านไปได้เราก็จะภูมิใจ”  เต๋าเอ่ยเสียงนุ่มให้กำลังใจพลางขยี้ผมอีกฝ่ายแรงๆ อย่างเอ็นดู  เจ้าของศีรษะจึงสะบัดหน้าหนี บ่นโวยวายเล็กน้อยตามประสา


    “ขยี้อยู่นั่นแหละ.. ผมชาร่วงหมดแล้วเนี่ย”  ว่าแล้วคนตัวเล็กก็พลันหยิบเส้นผมเส้นหนึ่งออกมาจากเบาะรถขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู


    “ดูซิเนี่ย...”  คนตัวเล็กทำเป็นโวยเสียงดัง  หากแต่มันกลับแผ่วลงจนเงียบไปในตอนหลัง
      เมื่อตาคู่เรียวพิจารณาดูแล้วพบว่ายังไงมันก็ไม่ใช่เส้นผมของตัวเองแน่ๆ


    ผมเส้นยาวประมาณฟุตแถมยังสีน้ำตาลทองแบบนี้...

    ขอเถอะ เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ยัยคนนั้นได้ไหม?


    “วันนี้แจนเขามานั่งรถพี่น่ะ พอดีต้องไปคุยงานกับลูกค้า”  เต๋าตอบไปตามตรงเมื่อสังเกตเห็นท่าทีสงสัยในตัวอีกคน  หารู้ไม่ว่ากำลังขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ


    คชารีบปล่อยผมเส้นนั้นลงกับพื้นรถยนต์  นั่งหน้ามุ่ย ย่นจมูกเมื่อคิดว่าที่นั่งที่เขากำลังนั่งอยู่ เคยมีใครอีกคนมานั่งแทนที่


    ก็รู้ว่านี่มันรถของพี่เต๋า... เขาคงไม่มีสิทธิ์ห้ามได้ว่าจะให้ใครหรือไม่ให้ใครมานั่ง
    แต่พอได้ยินแบบนี้แล้วมันไม่ชอบเลย... ไม่ชอบเลยจริงๆ


    “อย่าคิดมากสิครับตัวเล็ก... ดูซิ คิ้วผูกโบอีกแล้ว เปิดร้านขายโบเลยดีไหมน้อ...” 
    เต๋าเอ่ยด้วยน้ำเสียงขี้เล่น  อยากจะให้อีกคนยิ้มหรือโวยวายอะไรออกมาบ้าง  หากแต่คนตัวเล็กกลับยิ่งทำหน้าย่นกว่าเดิมแล้วหันมาพูดกับเขาเบาๆ




     

    “ชาบอกแล้วใช่ไหม? ว่าพี่เต๋าเป็นของชา”  เสียงเล็กเอ่ยเรียบซะจนคนที่ยิ้มทะเล้นพลอยนิ่งฟังไปด้วย


    “ครับ”  เต๋าตอบเต็มเสียง ประสานแววตาอย่างมั่นคง หวังจะให้อีกคนเชื่อใจ


    “ของชาคนเดียวด้วย ห้ามมีเจ้าของหลายคนนะ”
      คชาพูดต่อ น้ำเสียงออกจะเอาแต่ใจเล็กๆ  แต่จะทำไมล่ะ  ก็พี่เต๋าเป็นของคชานี่นา!


    “โอเคครับตัวเล็ก พี่เต๋าจะเป็นของคชาคนเดียว... พี่เต๋าสัญญา”


    คนตัวโตพูดจบก็ขยับตัวเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ประทับริมฝีปากลงกลางหน้าผากอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา  ก่อนจะค่อยๆ ถอนออกมา



    “ประทับตราเรียบร้อย... ผิดสัญญาเมื่อไหร่ มาตะบันหน้าพี่ได้เลยครับ”

     

     



    TBC


    ยังไม่เบื่อกันช่ายม้ายยยยยยย  กลัวคนอ่านเบื่ออ้ะ  ถ้ายังไม่เบื่อก็เม้นแสดงตัวกันหน่อยเน่อ
    มีคนขอทวิตเตอร์เราด้วย แอบเขินอ้ะ เอาเป็นว่าเมนชั่นมาหาได้ที่ @rainbobow นะจ๊ะ (มาลงแบบนี้ใครที่รู้จักเราก็รู้หมดแล้วสินะว่าเราแต่งฟิค เขินอ้ะ) แต่ไม่ต้องฟอโล่วก็ได้นะ ฮ่าๆ (กลัวตัวเองจะไปเวิ่นรกทามไลน์ซะเปล่าๆ)


    ขอบคุณทุกคนมากๆ จ้า <3   รักทุกคน จุ๊บๆ

    ป.ล. ยิ่งแต่ง พี่เต๋ายิ่งกะล่อนอะ >w<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×